ร่างกายไม่ใช่เรา จิตนี่ก็ไม่ใช่เราแล้วอะไรล่ะที่เป็นเรา

มีใครบ้างล่ะที่บำเพ็ญศีลบำเพ็ญธรรมแล้วยังไปโทษโน่นโทษนี่ไม่มีหรอก
เขามีแต่การพิจารณาเหตุพิจารณาผล
ที่มาที่ไปของการละเหตุต่างๆ ไม่ได้ ทำให้เกาะเกี่ยว
อยู่กับตัวตนตลอดเวลา
ต้นเหตุการ ก่อภพก่อชาติไม่เลิก อย่าพูดมากเกินไปเจ้าแมวปากมอม

 

กั๊กๆ ปุถุชนภาวนาเอาปัญญา ก็คว้าขันธ์5มาบัญญัติเป็นเหตุผล อมขี้ ตายเปล่าจากมรรคผล

กลับไปที่ กระทู้ฮู้แรก

คนที่เขาปฏิบัติภาวนา เวลาเขาทำการ นมสิการธรรมฐิตินำไปก่อนว่า กายไม่ใช่เรา
จิตไม่ใช่เรา แล้วเวลาเห็นกิเลสมันจรมา หากปฏิบัติธรรม จะเห็น หรือแจ้งสภาวะ
ธรรมว่า กิเลส อุปกิเลส คือ แขกที่จรมา ผ่านหน้าบ้าน

ธรรมสันติ !!! " กายไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา " เรียนแบบ จำคำ เอาศัพท์ไปกระเดียด
นอกจากจะไม่ คล้อยตามธรรมตามครรลองคลองธรรม ยังทะลึ่งไป คว้างั้น กิเลสนั่น
แหละทำให้เกิดตัวตน สันตี !!!!

 

ปากนักธรรมสันติ !!!

มันอ้างนะว่า สิ่งที่ ตนเองใช้หัวแม่โป คิด นั้นสุดยอด เป็น อริยสัจจ เลยนะเว้ยเฮ้ย
ไม่ใช่การแจ้งธรรม ธรรมดา

แต่ก็ดันใส่เกือกพูดหน้าตาเฉยว่า เกษตรนี้เป็นขั้นฝึกหัด เป็นการเห็น เรียนรู้
กระทืบนักธรรมหน้าดำได้ ด้วยความเป็น ธรรมขั้นฝึกหัดแต่แจ้งอริยสัจจ ซะงั้น

คนเขาเลยปรับให้ ให้กลับไปกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก

กายไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา อุปกิเลสจรมาเหมือนแขกผ่านหน้าบ้าน อย่าไปเชิญเข้ามา

และอย่า ฝุ้งซ่าน แล่นไปชะเง้อ อ้าวแล้วตัว ku band อยู่ไหน พระพุทธองค์บอกว่า
อย่าหา ให้กำหนดรู้ลงเป็น ทุกขสัจจ ไป เพื่ออุบายในการอบรมจิต เพื่อไปฟังธรรมที่
พ้นการแสดงจากสรรพสัตว์หน้าขน ทั้งหลาย จะได้ไม่ต้องเมื่อยมือปัดระเบิด ทำโรงวิชาสันติ !!!

 

น้องๆ หนูๆ ที่ต้องการ ทำความเข้าใจ ว่าทำไม ต้องทำอะไรเป็น อุบายการอบรม

ทำไม ไม่สอนสั่งให้ซ้ายหัน ขวาหัน อรหันต์ ไปตรงๆ ตามๆกันไป

เพราะ "สักกายทิฏฐิ" ธรรมนี้เป็นชื่อของ "สังโยชน์" เป็น นายพลของกองทัพกิเลส
ที่มักส่งไส้ศึกเข้ามาในจิต ให้นักภาวนา ภาวนาด้วยการ " ไคว่คว้าหาตัวตนแท้ "

ตราบใดที่ไปตรึก หรือมี ทิฏฐิ ในจิตว่าจะหา " ตัวตนแท้ " ย่อมเพลี้ยงพล้ำกลศึก
ของ นายพล สักกายทิฏฐิ ตั้งแต่ เริ่มกลัดกระดุมเม็ดแรก เม็ดต่อไป จะมีแต่การปั่น

ปั่นดวง ปั่นดาว ปั่นข้าวมันไก่ ส้มตำ ปัั่นวิชา สารพัดจะปั่น ปั้นขึ้นมาเพื่อเสริม ภพ ชาติ

แทนที่จะภาวนาเพื่อ เข้าไปเห็นหนทาง นำออกจากภพ ชาติ เป็นกิจญาณ สัจจญาณ กตญาณ


การรบกับ สังโยชน์ จะไปตั้ง ธง แล้ว รบตรงๆ ไม่ได้ จะต้องออกอุบาย ตีซ้าย ตีขวา
แต่ผลนั้นให้แลตรงกลาง ให้ดีๆ

กายไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา อุปกิเลสเป็นเพียงสิ่งที่จรมา ไม่ต้องไปใส่ไฟกิเลสว่า มันทำให้เกิดเรา
เพื่อจะได้ ทำอาการปฏิเสธ โกรธ เกลียด การเห็นกิเลส ..... ธรรมะนั้น เวลาลงมือปฏิบัติ
จะต้องอยู่อย่างสันติกับ ธรรมขาว และ ธรรมดำ ....ถึงจะเข้าใจว่า สายกลาง ธรรมส่วนพ้น
ปัจจัยเข้าไปปรุงแต่งนั้น มีรสอย่างไร ยกเห็นได้ไหม ยากหรือเพียง ไม่กำหนดรู้ ไม่ปฏิบัติ

 

ประโยคแรกนี่ถูกใจ เลย"ปากนักธรรมเพื่อสันติ"
ธรรมะในศาสนาพุทธนี่ไม่ได้ซ่อนเล่ห์เพทุบายสลับซับซ้อน
เกินกว่าสัตว์ผู้มีสติสามัญจะฝึกฝนอบรมไม่ได้ ถ้าไม่ถูก
กีดกันด้วยบุพกรรมจนเกินแก้

ผู้ถ่ายทอดที่จิตพิเรนทร์เท่านั้น ที่พูดธรรมะให้ซับซ้อน
จนอยากแก่การเข้าใจเข้าถึง
คำสอนจากพระอริยะบุคคลที่ลำดับการสอนฟังแล้วบรรเทิงมีอยู่เยอะแยะถมถืด....
ใครหนาจะมาเสียท่าเสียเวลากับธรรมสามหาว

 

ถ้ารู้เหตุ จะรู้ว่า ทำไมจึง ทำแบบนั้น ... ซึ่งไม่ได้เรียกว่า ถ่ายทอด

มีที่มาที่ไปอยู่ (หลายที่ทีเดียว)

แต่กำลัง แพร่พันธะ ขยายของใหม่ ผ่านการสับรวนของเก่าให้เละเทะ

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

พอได้ จังแหวะ ก็ เสียม เลยเนาะ

จะแยกอะไรดี หิน หรือ ดิน

 

เจ้าแมวปากมอม ถ่ายทอดธรรมใช้ถ้อยคำอุตริพิเรนทร์
มานานได้ แต่เม็ดถั่วแดง มาวันนี้ได้เม็ดถั่วเขียว 1 เม็ด
มันชี้ให้เห็นอะไรหลายอย่าง แต่ยุคกาขาว ย่อมมีคน
ยกย่องศรัทธาอยู่ปะร๋อม ปะแร๋ม
แต่กล้วยไข่รำคาญคนขี้โม้ สำรากธรรมแนวนี้มานาน
คิดว่าถ้ากรมศาสนาใช้แนวทางนี้เผยแผ่
ไม่ช้าไม่นานคงโดนฝ่ายตรงข้ามเผด็จศึก
รออีกไม่ช้าเม็ดถั่วเขียวก็จะกลับเป็นเม็ดถั่วแดงดังเดิม

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้ ดีใจ หละซี่ ที่เห็นบุคคล องค์กรอิสระ NGO กล่าวถึง "จุด" ที่เป็นไปตามอำนาจ

ธรรมะแบบ "นะจ๊ะ" ของ ku จะต้อง โตเท่าฟองไข่ไก่ บินไปบินมา
และ เปนทายาทมาจาก หัวหน้าแต่งตั้งโรงวิชาปัดระเบิด

โพสอีกกระทู้ ได้จังหวะ แหมใส่เลย " ความสงบที่มีอยู่แล้วในตน "

แล้ว ศรัทธา เอาไปทิ้งไว้ไหนหละฮับ ถ้าไม่มีศรัทธา ไม่ส่งไป มันจะ
มีได้หรือฮับ ความสงบ สันติ ที่เป็นที่ระงับ อันแท้ ไม่แปรผัน


ฮิวววววววส์


ไม่เชื่อ ลองถามในใจดูจิฮับ คุง บาซูซู เยชูชู ใครคือ ศาสดาของท่าน !?

หาความสงบในตนเจอ ให้ ซัดกล้วยไข่สักป๊าปปป เลย

 

<font size=2>
ป่าดงดิบ ละแวกนี้ เรียกอาการแบบนี้ว่า จิตวิปลาส
เป็นความบกพร่องทางระบบประสาทโดยตรง ... ต้องอาศัย ยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน ไประงับอาการ

วิปัลลาสสูตร
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญาวิปลาส จิตวิปลาส ทิฐิวิปลาส ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ สัญญาวิปลาส จิตวิปลาส ทิฐิวิปลาส ในสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง ๑
ในสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข ๑
ในสิ่งที่ไม่ใช่ตนว่า เป็นตน ๑
ในสิ่งที่ไม่งามว่างาม ๑
สัญญาวิปลาส จิตวิปลาส ทิฐิวิปลาส ๔ ประการนี้แล

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญาไม่วิปลาส จิตไม่วิปลาส ทิฐิไม่ วิปลาส ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ สัญญาไม่วิปลาส จิตไม่ วิปลาส ทิฐิไม่วิปลาส ในสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าไม่เที่ยง ๑
ในสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าเป็นทุกข์ ๑
ในสิ่งที่ไม่ใช่ตนว่าไม่ใช่ตน ๑
ในสิ่งที่ไม่งามว่าไม่งาม ๑
สัญญาไม่วิปลาส จิตไม่วิปลาส ทิฐิไม่วิปลาส ๔ ประการนี้แล ฯ

เหล่าสัตว์ผู้ถูกมิจฉาทิฐิกำจัด มีจิตฟุ้งซ่าน มีความสำคัญผิด มีความสำคัญในสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง สำคัญในสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข สำคัญในสิ่งที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน และสำคัญในสิ่งที่ ไม่งามว่างาม สัตว์คือชนเหล่านั้น ชื่อว่าประกอบแล้วในเครื่อง ประกอบของมาร ไม่เป็นผู้เกษมจากโยคะ มีปรกติไปสู่ชาติ และมรณะ ย่อมไปสู่สงสาร ก็ในกาลใด พุทธะทั้งหลาย ผู้กระทำแสงสว่าง บังเกิดขึ้นในโลก พุทธะเหล่านั้น ย่อมประกาศธรรมนี้เป็นเครื่องให้สัตว์ถึงความสงบทุกข์ ชน เหล่านั้น ผู้มีปัญญา ฟังธรรมของพุทธะเหล่านั้น แล้ว ได้จิตของตน ได้เห็นสิ่งไม่เที่ยงโดยความเป็นของไม่ เที่ยง ได้เห็นทุกข์โดยความเป็นทุกข์ ได้เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตน ว่าไม่ใช่ตน ได้เห็นสิ่งที่ไม่งามโดยความเป็นของไม่งาม สมาทานสัมมาทิฐิ จึงล่วงทุกข์ทั้งปวงได้ ฯ "

</font>

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้ คนมีธรรม ชวนชักให้ติดชนัก ตอกลิ่ม เมื่อสบโอกาส

แน่ใจนะว่า กำลังหยิบยื่นสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ กิ้วๆ แอปเปิ้ล หรือ งู ฮับ

 

เป็นการสาธกธรรมแบบผู้มีจิตปกติ ที่แมวปากมอม
น่าเอาไปเปรียบเทียบดูว่าอย่างไหน คนฟังจะชอบ
แล้วอ่านซ้ำอยากฟอลโล่อีกต้างหาก

 

กั๊กๆ โพสตอนแรก ไม่มี พุทธวัจนะ มากำกับ

แต่ขอโทษ เอามา กำกับภายหลัง แต่ มันก็ไม่ได้ ช่วยอะไรในสิ่งที่ตนกล่าว เว้นไว้แต่หลอกคน องค์กรอิสระ(NGO!!) ให้ ทุ่มสุดตัว กด " bรัฟ-ฟอลโล่ " !!!

น้องๆ หนูๆ ดู พระศาสดานอกศาสนาคนนี้นะฮับ(เน้นนะว่า คนนี้) เขา อ้างเรื่อง วิปปลาส
แล้วก็บอกว่า ต้องทานยาของหมอ

ซึ่ง หากจะกล่าวเรื่อว วิปลาส ในมุมของพระพุทธศาสนา มีหรือฮับ จะ
เห็นไปว่า ต้องแก้วิปลาสนั้นด้วยยาของหมอ

นี่แปลว่าอะไร

แปลว่า คนที่โพสเรื่อง วิปลาส ไม่มีภูมิธรรมเข้าใจ วิปลาสในพระสูตรเลย
จึงยังเห็นไปว่า วิปลาสต้องแก้ด้วยาของหมอ

ตรงกันข้าม หากเข้าใจ วิปลาส ไม่ได้หยิบจับศัพท์ธรรม มาทำให้กร่อน
ความหมายกลายเป็น วิปลาส ภาษาไทย ....หากมีความเข้าใจ วิปลาส
ในมุมของสัทธรรม ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปกินยาหมอ

 

น้องๆ หนู อย่า งง บรรยากาศ นะฮับ


คนทำตัวเป็นศาสดานอกศาสนา สมอ้างเป็นศาสดานอกศาสนา โดยคิดไปเอง
ว่าตนเป็น เป็น " ตะวันใหม่ " ที่กำลังขึ้น

อันนี้ พระพุทธองค์ไม่ให้ กล่าวธรรม สอนสั่งธรรม ด้วยอยู่แล้ว สิ่งที่ควรทำ
คือ ถามบ่อยๆว่า จะรับ ไตรสรณะคมน์ไหม ซึ่ง ถามไปกี่ครั้ง เขาก็ด่ากลับ
มาตลอดอย่างที่เห็น แทนที่จะบอกมาง่ายๆ ไม่ยากว่า ขอรับ ไตรสรณะคมน์
ยกย่อง พระพุทธองค์เป็น บรมศาสดา ที่เป็นเพียงผู้เดียว ที่มีวาจาสุจริต กล่าว
แต่คำจริง

ทีนี้

อีกคนเนี่ยะ อีกคนนี้ เขาอ้างว่า " เขารู้อริยสัจจ4 แล้ว " อ่านดูในกระทู้นี้ก็ได้
ซึ่งรู้แล้ว เห็นแล้ว แต่ก็บอกเพื่อนอย่างจริงใจว่า ยังเป็นธรรมอนุบาล ขั้นเริ่มต้น

พอเราย้อนแย้งว่า " ขั้นเริ่มต้นอะไร รู้อริยสัจจ " ....เท่านั้นแหละ ก็มาหาว่า
เราไป ย้อนแย้งเขาด้วยความไม่สมควร


อนึ่ง พึงทราบว่า " สันติ !!!" อ่านว่า สันติ แปลว่า " สงบ ไม่เบียดเบียนกัน "
วางใจร่มๆ แล้ว อ่านดีๆ กันนะฮับ

 

Jsus คงเกรงว่ารับไตรสรณาคมไปแล้ว ต้องมาตอแหล
แบบคนชวนนี่คงไม่ไหว เลยไม่รับ เพาาะในบัตร ปชช.ก็ระบุศาสนาเป็นพุทธตามกฎหมายอยู่แล้วจะมารับทำแมวรัยอีก!!!

 

น้องๆ หนูๆ ดูเป็น พยานด้วย นะจั๊บ

เนี่ยะ ผมย้อนแย้งไปหลายหนมว์าก ว่า ให้เอา นัยยะปฏิบัติ มาเสวนากัน

อย่าเอา แต่ภาษา บัญญัติ ตรรกศาตร์ ปรัชญา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ มาคุย

มันจะเสวนาไม่รู้เรื่อง แล้วมาโทษ คู่สนทนา ไม่ได้


น้องๆ หนูๆ ที่เน้นนัยปฏิบัติ ทราบชัด ทั้งรู้ ทั้งเห็น ใช่ไหมครับว่า ทำไม
ต้องมีไตรสรณะคนม์ ระลึกถึง คุณ บรรยายพระบริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณฯลฯ
ของ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ เนืองๆ ในจิต ไม่มีเว้นวรรค

 

สาธุชน
กล้วยไข่เองก็ประพฤติธรรมอยู่โดยสุจริตอยู่แล้ว
ถึงจะมีบกพร่องบ้างก็โดยสุจริต
จะให้เอาวาทะจากเมนูโน่น นี่ นั่นมาโชว์ซ้ำซากทำไม
ทั้งหมดจากทุกเมนู....หากโชว์ได้ไลค์มากมาย

แต่หากคุณภาพของสติไม่สามารถเท่าทันความฟุ้งของจิตได้....จิตยังซัดส่ายไม่อยู่ในความควบคุม ไม่เคยสลด
ไม่เคยสังเวชอะไร มีแต่ถูกอายาตนะลากจูงไปโน่นไปนั่น
จะเกิดประโยชน์อะไรกับตนกับคนใกล้ชิด
ดังนั้น เมื่อจิตมีธรรมสนทนาเรื่องอะไรก็เข้าใจได้หมด
เป็นบูรณาการได้หมด ซึ่งเป็นการใช้ธรรมอย่างบูรณาการเพื่อจรรโลงสังคม และสังคมก็จะจรรโลงศาสนาเป็น
การต่างตอบแทนตามวิถีพุทธที่พึงปรารถนานะจ๊ะ

 

สาธุชน....
เพียงแค่ชื่อไอดี ใครพอใจชอบใจ
จะกำหนดขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว
ทำไมต้องไปทึกทักเป็นจริงเป็นจังแบ่งแยก
โน่นนี่
ควรให้ความสำคัญกับเนื้อหานะจ๊ะ
รูปแบบเพราๆ ลงบ้างก็จะได้สาระมากขึ้นนะจ๊ะ
ปล.คนพูดนะจ๊ะ ก็มาทึกทักว่าสังกัดจานบิน
ฟังแล้วก็ขำขำมานาน....ปล่อยให้เพ้อไปนะจ๊ะ

 

มันไม่ง่ายครับพี่เอก ส่วนที่ร้อยรัดใจ นี่ผูกแน่น ยากจะคลายเกลียว
สบายดีนะครับ

 

"กายไม่ใช่เรา จิตก็ไม่ใช่เรา"
โลกียชนที่สดับบ่อยครั้ง
ย่อมเข้าใจได้ไม่ยากนัก
โดยอรรถกถาที่ขยายความนั้นเอง
กระนั้นก็ได้เเค่เพียงเข้าใจ
แต่ยังไม่อาจถึงใจได้ตราบใดที่ยังไม่ได้เห็นแจ้งด้วยปัญญาญาณ
ในระดับพิจารณาแยกธาุตุแยกขันธ์

แม้การเข้าใจแบบไม่ถึงใจของโลกียชน
อย่างน้อยก็เป็นการลดมิจฉาทิฏฐิลดความประมาทในธรรมได้ไม่น้อย

ส่วนหน้าที่ในการดำรงพระอริยสัจจ์ทั้งมวล
ก็เป็นกิจโดยตรงของอริยชนหรือนักบวชสายปฏิบัติ
จะพึงทำหน้าที่สืบสานสัจธรรมของศาสนาไว้สืบไป

โลกียชนที่เข้าใจแต่ไม่ได้ทุ่มเทในการปฏิบัติพื่อสืบสานสัจธรรม
จะด้วยต้องเต้นไปตามโลกเพื่อหาอยู่หากิน หรือจะด้วย
มีกำลังสติปัญญาวาสนาไม่เพียงพอ
หรือคิดว่าควรวางหน้าที่นี้ให้แก่นักบวชเหมาะสมกว่า
ก็มีช่องทางเสริมสร้างศรัทธาของตน
ที่มีต่อพระอริยสัจจ์ได้ด้วยการให้การ
ทำนุบำรุงอุปถัมภ์ค้ำจุนนักบวชในศาสนา
ให้มีกำลังกาย กำลังใจในการประพฤติปฏิบัติ
เพื่อพิสูจน์เพื่อสืบสานพระศาสนาแทน
นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิต่อพระสัทธรรม เป็นบุญกุศลที่ล้ำเลิศเช่นกันใช่ไม่ใช่...