ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีคำถามเข้ามาน่าสนใจมาก ผมเชื่อว่าจะเป็นความรู้สำหรับหลายๆท่านเลย แต่ขอเอาไว้ตอบพรุ่งนี้เช้านะจะได้ถามท่านให้ก่อน วันนี้ก็อย่าลืมสวดมนต์ทำกรรมฐานก่อนนอนกันด้วยนะครับพี่ๆทุกคน
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์กันยามเช้า

    ก็พอดีมีคนถามมาน่าสนใจ เลยเอามาพิมพ์ตอบให้วันนี้ เป็นเรื่องปลีกย่อยในการใช้วัตถุมงคลนี่แหละ เป็นคำถามว่าทำไมเดี๋ยวนี้มีผีมีพรายออกมากันมากหลายๆสำนัก แล้วทำไมถึงใช้แล้วไม่ค่อยขึ้น

    ก็พิมพ์ยากนะไม่รู้จะเกริ่นนำยังไงดี555+ คำถามแบบนี้ คือว่าพ่ออาจารย์ท่านว่าสังเกตุกันมั๊ย เมื่อก่อน ในกรุงของเราจะมีเรื่องราวของภูติผีเยอะมาก แทบทุกตรอกซอกซอยแม้แต่ตอนกลางวันก็พบเจอได้ แต่กลับกันสมัยนี้มันเปลี่ยนไป ในกรุงนี้พอความเจริญเข้ามา ต้องใช้คำว่าทุกที่ดีกว่า เมื่อความเจริญเข้ามา เมื่อมีเสียงอึกทึกทำลายความเงียบสงบ เมื่อมีแสงสว่างแม้ในยามค่ำคืนเข้ามาทำลายความมืด ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ภูติผีเหล่านั้นจึงถอยออกไปอยู่ตามชนบท ตามสถานที่เงียบงันที่ยังหาความเจริญมิได้

    เพราะมันเป็นยุคของความเจริญ เป็นยุคของแสงสว่าง คนจึงนิยมบูชาสิ่งที่สูงขึ้นมาเป็นระดับ เช่นพระรัตนตรัย และเทวะเทพธิดาทั้งหลาย ภูติผีจึงถดถอยลงไป แต่ในขณะเดียวกัน ใจที่มืดบอกเพราะติดยึดในอวิชชาก็ทำให้คนสร้างเครื่องรางที่เกี่ยวกับศพและชิ้นส่วนมนุษย์ขึ้นมามาก ของพวกนี้เมื่อเกิดขึ้นมาอาจจะเห็นผลในช่วงเวลาหนึ่ง สถานที่หนึ่ง แต่พอเราเอาไปเจอกับแสงสว่าง เจอกับความวุ่นวาย เจอกับโลกภายนอก มันก็จะเงียบหายไปอีก มันเป็นกฏของโลก เป็นกฏของสถานที่เช่นนั้น วิถีชีวิตภพของเค้าไม่เหมือนกับเรา

    อย่าไปถามถึงว่าทำไมใช้ไม่ได้เลย ก็วิญญาณส่วนมากเค้ายังถอยหนีเมื่อมีความเจริญเข้ามาทดแทน มันสวนทางกันและตรงกันข้าม หากใช้เป็นรูปเคารพเทวดาที่มีลำดับศักดิ์สูงขึ้น มันเป็นยุคของเค้า เช่นนี้ก็จะเห็นผลได้ง่าย เพราะเทวราชนั้นมีธาตุแสงเป็นกำลังขับพื้นฐานในตัวของท่านเองอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยความมืดความเงียบหรือบรรยากาศใดๆมาเพิ่มฤทธิ์ให้แก่ตัวเอง

    เรื่องของพรายของผี มันจะค่อยๆเลือนหายไป ตกต่ำไปตามยุค แล้วมันก็จะกลับมา ที่เห็นออกมากันมาก ไม่ใช่เพราะมันดีมันใช้ได้ มันเป็นเพียงความมืดบอดในใจคนสร้างที่หากินกับศพเท่านั้น เอาเค้ามาเลี้ยงให้คุณจริง แต่ในเวลาและสถานที่มันไม่เอื้อต่อการคงอยู่ของเค้าก็เสียเปล่า ซ้ำยังจะกัดกินให้โทษกับคนที่เอาไปเสียอีก เรื่องพรายเรื่องผีนี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปเล่นกันเลย ท่านว่าเอาสายพระพุทธคุณ สายเทพ สายบารมีเข้าไว้ดีกว่า

    ผีที่ออกกันมามากมันไม่ใช่ผีที่มีตัวตนในธรรมชาติหรอก แต่มันเป็นผีในใจคนสร้าง ถึงจะเอาซากเอาศพมาเป็นชิ้นๆก็ตาม เธอต้องรู้ไว้ว่าทุกการกระทำมันมีผลในตัวของมันเอง ไม่มีสิ่งใดที่เราทำไปแล้วสูญค่าทั้งสิ้น ดำริตรินึกให้ดี อย่าให้สัญญาภพปัจจุบันอันเป็นสิ่งสำคัญไปผูกศรัทธากับของแบบนี้ สำคัญนักคือภพปัจจุบัน มันจะนำตัวเองลงไปอบายภมิ จะใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ตาม ความเสี่ยงมันสูงมาก

    ท่านว่าท่านบอกท่านเตือนได้เพียงเท่านี้พูดมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะต่อไปเบื้องหน้านั้นความตกต่ำในจิตวิญญาณมนุษย์จะมีเข้มข้นขึ้น คนจะหันมานับถือผีนับถือปีศาจและสิ่งที่ต่ำลง พระศาสนาก็จะเรียวลงตามวัฏจักร ไม่ใช่เพราะว่าเค้ามีกำลังมาก แต่ใจเรานี่แหละที่ไปเป็นฐานทำให้เค้ามีกำลัง ตัวกิเลส ความโลภโกรธหลงทั้งหลายในตัวเอง จะเสริมกำลังให้สิ่งเหล่านี้เป็นฐานพลังงานขับเคลื่อนออกมา ในขณะที่ตรงข้ามกัน ทานศีลภาวนาก็จะเสริมกำลังของเทพเจ้าและพระพุทธคุณให้ขับเคลื่อนออกมา

    สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ที่ใจคนใช้ ฐานกำลังของอวิชชาก็คืออวิชชา หากยังมีโลภโกรธหลง ลุแก่โทสะจริตมันเป็นฐานกำลังให้ผีให้พราย แต่ถ้าเจริญสมาธินั่งภาวนา นี่แล้วแผ่เมตตาให้เค้ามันทำให้เค้าได้บุญอยู่บ้าง เมื่อเค้าไปจุติในภพใหม่ก็อาจจะตอบแทนคุณเรา นี่หลักของอาจารย์ทั้งหลายที่ทำผีมา ก็เหมือนจะแจกผีออกไปให้เราเอาบุญมารักษาเค้านั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2015
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตอบคำถาม

    ก็มีคนถามมาว่าพวกพรายที่มีเอาไปให้พ่ออาจารย์ท่านบังสุกุลได้มั๊ย คือต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าบังสุกุลพราย น่าจะหมายถึงความสบายใจของคนที่เลี้ยงแล้วต้องการเลิกเล่น อยากให้เขาไปเกิด ถ้าพูดในแง่ควมสบายใจแล้วทำไปเถอะครับ

    ตรงข้ามถ้าถามว่าไปเกิดมั๊ย มันมีหลายกรณี พอจะแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้ คือประเด็นแรกต้องดูด้วยว่าเป็นพรายแบบไหน ถ้าเกิดเป็นพรายที่เอากระดูกหลายๆร่างมารวมกันแล้วล้างสวดส่งวิญญาณ ก่อนนำมาเสกปลุกธาตุขันธ์ให้มีลักษณะเหมือนพยนต์ใช้ธาตุก็คือกระดูกทั้งหลายเป็นตัวตั้งพลังงาน ซึ่งจะทำให้เครื่องมงคลนั้นมีพลังสูง ก็เป็นกรณีหนึ่ง กรณีแบบนี้เราอาจจะเรียกว่าพราย แต่ความจริงเค้าก็คือพยนต์ที่คอยช่วยเหลือเรา จะบังสุกุลให้ไปเกิดได้มั๊ย ท่านว่าถ้าจิตที่ปรุงแต่งตั้งรูปนามกำหนดหน้าที่มาเพียงเฉยๆเช่นนี้ ย่อมจะไปได้ง่าย ขอเพียงเค้าได้ทำตามพันธะสัญญาที่ผู้ผูกขึ้นตั้งใจไว้สำเร็จก็ไม่มีห่วงอะไรแล้ว

    อันนี้เป็นกรณีแรก แต่กรณีที่สองนี้ยาก มันคือการเอาศพคน แล้วพลีเจ้าของร่างมาแบบนั้น เช่น นายกอ นายขอ ไม่ได้นำมาชำระหรือตั้งธาตุขึ้นใหม่ แต่ใช้จิตเดิมคือตัวรูปเดิมสัญญาเดิมเลย นำมาผูกให้เค้าออกไปทำงาน ซึ่งจะด้วยเหตุผลว่าให้พรายสร้างบารมีหรืออะไรก็แล้วแต่ เอาที่สบายใจจะคิดเลย ในกรณีนี้ ท่านว่ามันเป็นจิตเดิมย่อมมีฤทธิ์มากมีกรรมเก่า มีสัญญาเก่า ไม่ใช่ของที่จะพูดกันให้ใครสบายใจว่าบังสุกุลพอก็จะไปเกิดได้ ท่านว่าถ้าเล่นซากศพ ต้องตายโหงตายแปลกๆจะเฮี้ยน มันเฮี้ยนจริงนั่นแหละ เพราะเค้ามีพันธะมีกรรมของเค้าอยู่ ไปเอาร่างเอาจิตเค้ามา ไม่ต้องมองไกล คิดถึงตัวเอง พิจารณาตัวเองดู ว่าถ้าเราตายมีคนเอาศพเราเรียกวิญญาณเราไปใช้จะเป็นอย่างไร เราจะพอใจกับแค่การบังสุกุลแล้วไปเกิดมั๊ย ในเมื่อทุกสรรพชีวิตก็ดำเนินไปตามกฏของโลกของกรรม แต่มีคนมาแทรกกรรมขัดกรรม ผู้ที่เอาซากเอาจิตนั้นไปก็ย่อมไปผูกเวรเชื่อมกรรมกับเค้าด้วย เช่นนี้บังสุกุลเขาก็ไม่ไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2015
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้วันปิยมหาราช เชิญชวนไปสักการะพระบรมรูปทรงม้ากันนะครับ ใครจะไปก็ไปเลยไว้เจอกัน อาจจะเจอแล้วทักกันด้วยนะ :cool:
     
  5. ยอดกตัญญู

    ยอดกตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +329
    สาธุ จะไปไหว้พระบรมรูปทรงม้าครับ
     
  6. weerachai_12@ho

    weerachai_12@ho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,022
    รอติดตามอยู่แม้ไม่ได้พิมพ์ข้อความอย่าตัดสิทธิกันนะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    สวดมนต์แล้วแผ่เมตตานะครับ วันนี้อุทิศถวายให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แล้วมาคอยติดตามกันพรุ่งนี้
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อคืนฝันดีจริงๆ ฝันเห็นปลา แต่เป็นพญาปลาทั้ง 7 แปลกดี ทีแรกฝันเห็นตนเดียว เค้ามาในคราบมนุษย์ พาเราย้อนกลับไปในอดีตเจออะไรมากมายทั้งในวันที่มนุษย์มีความสุข จนถึงวันที่โลกเกิดภัยพิบัติ เหลือแต่ซากปรักหักพังสิ่งมีชีวิตล้มตาย เหตุการณ์นับร้อยๆเรื่องมันโถมเข้ามาใส่ประสาทการรับรู้ของเรา รับไม่ไหวจริงๆ ก่อนที่เค้าจะพาเราลากเราลงน้ำสีเขียวอ่อนคล้ายมรกตกลายร่างเป็นปลาตัวใหญ่หน้าคล้ายๆพญานาค พอลงไปได้ซักพักร่างกายเค้าก็เปลี่ยนเป็นคนลักษณะแปลกๆ เขาพาเราไปพบกับคณะทั้ง 7 ของเค้า

    ก็แปลกดี ในคราบมนุษย์ที่อยู่ใต้ห้วงน้ำ ร่างกายแต่ละคนสีเขียวๆบ้างดำๆบ้าง ที่สำคัญคือคณะปลาผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 มีเขาบนหัวกันทุกตน ไม่ได้น่ากลัวเลยทุกตนยิ้มแย้มดูเป็นมิตรดีมาก เค้าเห็นเราสนใจ เราเองก็ดูจากการพูดแล้วเค้าภูมิใจในเขาของตัวเองมาก เค้าบอกว่าเขานี้เกิดขึ้นจากการบำเพ็ญตบะมาเป็นระยะเวลาที่เนิ่นนาน เค้าบอกมานะว่าตบะอะไรบำเพ็ญขึ้นตรงกับใครแต่เราจำไม่ได้ (เพิ่มเติม เหมือนจะทำตบะโดยระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระองค์ใดนี่แหละผมจำชื่อไม่ได้ ไม่ใช่เทพเจ้า เหมือนกับว่าเค้าเองก็มีศรัทธากับพระรัตนตรัย อยากจะพ้นจากชาติเดรัจฉานเหมือนกัน)สังเกตุบนหัวปลาในร่างมนุษย์ทุกตนก็มีกันหมดทุกตน เขามีลักษณะต่างๆกัน มี 1 เขาบ้าง 2 เขาบ้าง 3 เขาบ้าง คงจะเป็นระดับตบะของพญาปลาแต่ละตน

    เป็นครั้งแรกที่ฝันแล้วรู้สึกว่ามีเรื่องอะไรเข้ามาในหัวเยอะเกินไปจนเราจำได้ไม่หมด ตื่นมาก็เลยสงสัยลองหาข้อมูลดูว่าคณะปลาผู้ยิ่งใหญ่นั้นมีกันกี่ตน ก็ปรากฏว่ามีกัน 7 ตนจริงๆ เออก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะคณะปลาทั้ง 7 นี้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เคยทรงตรัสถึงไว้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 8 อย่างอันเกิดในมหาสมุทรและเป็นความอัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดในมหาสมุทด้วย คงจะอุบัติมาในห้วงเวลาหนึ่ง พระองค์ตรัสว่าเป็นความอัศจรรย์ที่แม้พวกอสูรพบเห็นก็ยังชื่นชม อยู่ในหมวดของสัตว์ใหญ่ที่น่าจะมีขนาดใหญ่กว่าพญานาคและเทพคนธรรพ์ เขาว่าฝันเห็นปลาอานนท์จะหมดทุกข์หมดโศกสิ้นเคราะห์เจอแต่เรื่องดีๆ เอาเป็นว่าความฝันช่างมันเอาแค่เป็นฝันดีก็พอ ในที่นี้พี่ท่านไหนมีเคาะห์มีทุกข์มีโศก ก็ขอให้สิ่งเหล่านั้นสลายหายสิ้นไปเจอแต่ความสุขด้วยกัน

    ก็ได้ความรู้ใหม่เหมือนเค้าพาเราลงไปดูว่าการบำเพ็ญตบะในพิภพของเค้า ซึ่งมันดูไม่สว่างดูมองเห็นชัดได้ทั่วแต่ออกสลัวๆทำให้เค้าได้ร่างเหมือนมนุษย์แล้วก็ดูตบะแต่ละตนได้จากเขาที่ยาวออกมาจากศรีษะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2015
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล(ตะกรุดเงินรุ่นแรก)

    สำหรับตะกรุดที่ให้ร่วมทำบุญบูชากันในวาระนี้ เป็นตะกรุดเนื้อเงินรุ่นแรกของพ่ออาจารย์ หรือจะเรียกอีกชื่อว่ารุ่นเสก 3 ปี ก็ได้ เพราะมีขั้นตอนรายละเอียดการสร้างที่ลึกซึ้งอย่างมาก ท่านว่าเอาไว้ออกในช่วงที่คนเค้าลำบากนะ ไม่ขัดสน ไม่ทุกข์ยาก อย่าเพิ่งให้ใครเอาไปใช้

    ตะกรุดนี้ชื่อว่าปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเล่าว่าในมวลหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย และเหล่าพระมหาโพธิสัตว์ ตลอดจนเทวราชที่มีลำดับศักดิ์ใหญ่ๆนั้น จะมีจักรเพชรอันเกิดขึ้นแต่บุญและโพธิสมภาร เป็นอาวุธประจำกาย เช่นพระศิวะก็มี พระนารายณ์ก็มี พระพรหมก็มี พระอินทร์ก็มี แม้แต่ในสภาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ล้วนแต่มีจักรเพชรอันเกิดแต่พุทธบารมีของแต่ละพระองค์

    ขึ้นชื่อว่าจักรเพชรนั้นด้วยจักรนั้นจะหมุนไปไม่ขาดช่วงขาดตอนเหมือนการดำเนินวนเวียนของวัฏสงสาร หมุนถ่ายสับเปลี่ยนคงอยู่ดับไปเช่นนั้น เป็นวงล้อแห่งพระเวทย์และพระธรรม เป็นสัญลักษณ์ทางกายภาพของการตัดขาดหมดสิ้น ซ้ำยังเป็นยอดศาสตราวุธที่สูงส่ง มวลสรรพชีวิตเกรงกลัวด้วยอานุภาพการทำลายล้างนั้นสามารถตัดทุกสิ่งได้ หากจะกล่าวแล้ว จักรเพชรที่เปี่ยมด้วยอานุภาพสูงสุดก็คือจักรเพชรของสมเด็จองค์ปฐมนั่นเอง

    จักรเพชร คือบารมีอันสำเร็จออกมาเป็นรูปทางกายภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละพระองค์เหนือกว่าพระขรรค์หรือศาสตราวุธใดๆ จะมีกำลังเพียงไหนก็ขึ้นอยู่ที่บารมีของผู้นั้นตกผลึกออกมา

    พ่ออาจารย์ท่านเคยได้รับนิมิตรจากสมเด็จท่าน ให้นำวิชาพุทธจักรเพชรของพระองค์ท่านมาทำเครื่องรางเอาไว้ ต่อไปจะสูงค่าหาได้ยากยิ่ง ด้วยว่าจะค้ำจุนสรรพชีวิตทั้งมวลและพาเค้าดำเนินเป็นสายตรงเข้าไปหาความสำเร็จสูงสุด

    ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์บอกว่าลึกล้ำพิศดารนัก เพราะในส่วนของวิชาคือดวงความสำเร็จดวงสัมฤทธิ์ผลในทุกเรื่อง ทุกสรรพสิ่ง ที่มนุษย์จะคิดจะพึงปรารถนา เป็นฐานดวงยันต์หนุนด้วยพุทธจักรเพชรองค์ปฐมแบบส่งต่อกันไร้จุดบกพร่อง ดุจดั่งว่าจักรเพชรของสมเด็จพระยอดแก้วดวงธรรมนั้นจะหมุนทำลายความขัดข้องและปัญหาทุกสรรพสิ่ง ตัดขาด ทำลาย ซึ่งจัญไรและอุปาทวมงคลทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งวิปัสนาญาณของสมเด็จองค์ปฐมอันจะริดรอนผลกรรมขยายขอบข่ายกรรมดีของสรรพสัตว์ ซ้ำยังเป็นสัญลักษณ์ที่หมุนวนไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำลายกรรมหนักชนเข้าด้วยกำลังแห่งวิปัสนาญาณ ทำให้ชีวิตสรรพสัตว์นั้นหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปไม่มีหยุด ที่ว่าเลวลงก็จะดีขึ้น เจอแต่เรื่องดีๆยิ่งๆขึ้นไป ตัดสิ้นทุกสิ่ง สะบั้นให้เป็นธุลีแม้แต่กิเลสและอวิชชาทั้งหลายก็ไม่อาจทานอำนาจของพุทธจักรเพชรองค์ปฐมนี้ได้ ตัดแล้วก็หมุนวนไปหาความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แล้วได้อีก

    เหนือทุกสรรพสิ่งพ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แปลก สมเด็จชินะเจ้าผู้บรมครูท่านคงรู้กาลในอนาคตเบื้องหน้าจึงเมตตาถึงปานนี้ ด้วยวิชาที่ประทานนั้นเป็นพุทธจักเพชรอันทรงอำนาจสูงสุด แวดล้อมรักษาดวงความสำเร็จเอาไว้ ปฐมพุทธจักรเพชรนี้อยู่กับผู้ใดคิดการณ์จะกระทำสิ่งใดก็สำเร็จดั่งความคิด ท่านว่าเวลาจะใช้ให้อาราธนาให้ดี ระลึกถึงสมเด็จองค์ปฐมและจักรเพชรนี้เป็นที่สุด ตั้งจิตเพ่งความปรารถนาเข้าไปในตะกรุด เมื่อส่งความปรารถนาไปก็ได้ชื่อว่าสัมฤทธิ์แล้ว สำเร็จแล้วแก้เคล็ดของความตกต่ำย่ำแย่ในทุกๆสิ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากนัก วิชานี้ต้องลงในเวลาอันมีฐานของดวงมหาอุจจ์ ท่านว่าเบื้องบนกำชับมานักหนาใช้ฤกษ์อื่นไม่ได้ เพราะว่าฐานมหาอุจจ์นี้จะวิ่งยิงตรงไปเสริมพื้นดวงของผู้ครอบครองให้สูงส่ง หนุนขึ้นไป ยิ่งหน้าที่การงานจะยิ่งได้ผลดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตเค้าที่ว่าแย่จะหักเหเปลี่ยนแปลง พลิกตัวมาเจอสิ่งดีๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือเปลี่ยนดุจคนละคน คนเราลองดวงชนเสียเจอแต่อะไรแย่ๆท่านว่าวิชานี้มันแก้ที่ฐานดวงกันเลย เสริมมหาอุจจ์เข้าชีวิต ใช้ปฐมพุทธจักรตัดขาดความยากจน ความสิ้นเนื้อสิ้นตัวทั้งหลาย สิ่งเลวร้ายทั้งปวงต่อไปจะไม่มาย่ำยี หนุนด้วยอำนาจแห่งสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (องค์ปฐม) เป็นที่เคารพเกรงใจแก่สรรพชีวิตทั้งหลาย มหาจักรหมุนไปวิ่งเข้าหาความสำเร็จ

    ท่านว่าวิชานี้แปลกและตรงมาก คือปกติความสำเร็จนั้นมันคือเป้าหมายที่รอคนอยู่เบื้องหน้า มนุษย์ปรารถนาความสำเร็จในทุกกิจที่กระทำ มันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราต้องวิ่งไปหามัน มันเหนื่อยยากตรงนี้ วิชานี้เป็นการขับเคลื่อนหนุนส่งด้วยปฐมพุทธจักรเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่วงชีวิตวงจรแห่งความสำเร็จ ต่อไปทุกกิจที่กระทำไม่ต้องกลัวว่าจะล่าช้า ทำอะไรจะเลวจะแย่ไม่สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลเพราะการกระทำและความสำเร็จนั้นจะเคลื่อนต่อกัน วิ่งเข้ามาชนกัน ไม่หยดุรอเราอยู่นิ่ง ว่องไวดั่งจักรผัน

    เมื่อลงตะกรุดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาที่สำคัญในฝ่ายของพระโพธิญาณ เพราะอักขระที่แวดล้อมกงจักรนั้น ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหนึ่งพระองค์ มีกี่ตัวก็ยากเพียงนั้น ท่านว่าวิชานี้ยากเอาเรื่อง ต้องใช้ญาณใช้กำลังใจในการลงสูงมาก

    เสร็จแล้วหัวใจสำคัญของตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาลนี้ ก็คือตะกรุดหัวใจสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 อันเป็นตะกรุดทองแดงนั่นเอง ตะกรุดทองแดงนี้ท่านว่าเสมือนตัวรับและส่งต่อพลังงานกัน เมื่อเลี่ยมบูชาให้นำบรรจุไว้ใส่ไว้ภายในตะกรุดเงิน ดุจดั่งว่ามีพลังงานหมุนวนส่งต่อกันเป็นช่วงๆไม่ขาดตอน ดุจดั่งจักเพรชที่ผันอยู่ตลอดเวลาไม่มีช่องว่างเว้น ชีวิตเราก็จะหมุนวนดำเนินไปสู่หนทางที่ดีขึ้น สูงขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ท่านว่าเจอแต่สิ่งดีงามซ้ำๆซากๆไม่เลวลง ท่านว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใด อธิษฐานเสร็จแล้วให้ยกตะกรุดนี้มาเขย่า พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จท่านสั่งกำชับมาให้ทำแบบนี้ ดุจดั่งเสียงกริ่งที่จะส่งความปรารถนาของเราดังไปกระทบพระโสตขององค์ปฐมท่าน และยังมีความหมายสำคัญซ่อนอยู่นั่นคือการเขย่านั้นเป็นการเคลื่อนไหว เมื่อเคลื่อนไหวแล้วก็คือสิ่งมีชีวิต มหาจักเพชรนั้นเป็นอาวุธทางกายภาพก็จริงแต่ก็มีจิตรู้เป็นเจตสิกที่จะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี จะดูดเข้ามาหรือทำลายให้ย่อยยับไป เป็นคติที่จะบอกเป็นความนัยย์ว่าตะกรุดนี้มีชีวิต ไม่ใช่ของเล่น

    เมื่อจะเสกตลอดระยะเวลาสามปีนั้น พ่ออาจารย์ว่ามันยาก เพราะต้องเชิญที่ละขั้นเริ่มจากเทวดาก่อน ให้เทพผู้มีมเหศรศักดิ์ทั้งหลายนำเอาจักแก้วจักรเพชรของแต่ละพระองค์นั้นมาเปล่งอานุภาพลงในตะกรุดนี้ ทำเป็นกลบทไป ไล่ไปทีละชั้นจากเทพ โพธิสัตว์ พรหม มหาพรหม มหาพรหมโพธิสัตว์ พระปัจเจกพุทธเจ้า แหละสภาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จะมีมหากรุณามาสงเคราะห์อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ก่อนที่จะอาราธนาสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณให้ลงมากระทำวิชา ประทานจักรเพชรของพระองค์ให้แยกออกและสิงสถิตย์ไว้ด้วยพุทธานุภาพ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าความปรารถนา แรงอธิษฐาน สิ่งที่มนุษย์ต้องการนั้นมีร้อยแปดพันประการ หากถามว่าตะกรุดนี้ดีอย่างไร ท่านว่าก็ดีสุดแต่ใจเจ้าแล้วกัน นึกเอาปรารถนาเอาในสิ่งที่อยู่ในครรลองคลองธรรมก็จะสัมฤทธิ์ผล

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าไร้สาระไปเลยเพราะเป็นกายสิทธิ์มีชีวิต) ถ้าจะภาวนาเสริมกำลังใจก็ให้ภาวนาว่า ปฐมังพุทโธ ภาวนาไปเรื่อยๆให้ใจนิ่ง ให้กำลังใจสูงก่อนจะขอสิ่งอื่นใด ถ้าใจนิ่งหรือมีกำลังใจอยู่แล้ว ตะกรุดนี้ไม่ต้องภาวนาสิ่งใดเลย ใช้ได้ทันที


    * ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ออกร่วมทำบุญ ใครจะบูชาท่านว่าถ้าเค้ารู้เนื้อรู้ตัวว่าชีวิตมันไม่เดิน มันไม่ไป อยากทำอะไรสำเร็จสัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลก็จะมาเอาเอง วิชานี้ให้คุณมาก ทำยากทำได้น้อย พ่ออาจารย์ทำไว้ได้เพียง 9 ดอกเท่านั้น ให้ PM สั่งจองไว้ รายได้ท่านให้จบหัวเพราะจะนำไปบริจาคร่วมหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมประดิษฐานตามวัดในชนบทต่อไปเป็นกุศลหนุนส่งผู้ศรัทธาอีกทอดหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newchin9.jpg
      newchin9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      76
    • t_119625118.jpg
      t_119625118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.5 KB
      เปิดดู:
      550
    • SAM_4855.JPG
      SAM_4855.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      152
    • SAM_4859.JPG
      SAM_4859.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      123
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2024
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตัวนี้เวลาเลี่ยม ใส่หลอดไม่ต้องรองโฟมนะครับ แนะนำ เพราะเวลาใส่ตะกรุดทองแดงเขย่าตะกรุดทองแดงซึ่งอยู่ภายในตะกรุดเงินนั้นจะได้มีเสียงกังวานมากขึ้น ถ้ารองโฟมเสียงมันจะตันๆทึบๆไม่สดใส
     
  11. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,724
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    ขอเล่าประสบการณ์ตะกรุดปัญญามโหสถโพธิสัตว์ แรก ๆ ใช้ มีอาการ สมองมึน ตื้อ รบกวนถามคุณกรให้ฝากถามพ่ออาจารย์ เขาว่าเป็นกรรมเก่า แต่ตะกรุดนี้ก็อารธนาใช้เกือบทุกวัน ยิ่งใช้ยิ่งเห็นผล ความจำดีขึ้นมากเหมือนที่ว่ายิ่งใช้ยิ่งคม แนะนำให้ใครมีลูกหลานให้ใช้นะคะ ราคาก็ไม่แพงมากด้วย
     
  12. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    ตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล(ตะกรุดเงินรุ่นแรก)
    จอง 1 ดอก
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีเรื่องเล่า ฟังมั๊ย

    ฟังเถอะนะอยากเล่า555+ วันนี้ผมส่งของมาหลายที่ มีนัดส่งที่แมค ก็ไปส่ง ห้อยปู่ขรัวแสงไปปกติ นั่นๆ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องขรัวแสงนะ ไม่เกี่ยวแค่อยากจะบอก555+ เป็นเรื่องของเฟรนฟรายน่ะ

    ไปส่งองค์ปรพรหมอาตมัน(พอดีไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ก็เหมือนกันนะชุดเดียวกัน เลยขอยืมรูปพี่ท่านหนึ่งที่ถ่ายลงไว้แล้วกัน) ทีนี้เค้าไม่ได้มารับคนเดียว แต่มากัน 2 คน ดูจากการแต่งตัวของอีกคนที่มาด้วยไม่ใช่คนที่ร่วมทำบุญบูชานะ ดูตาเปล่าก็รู้ว่าไม่คนเล่นพระก็คนมีอาคม เพราะทั้งสักทั้งห้อยอะไรเยอะแยะ

    เราก็เอาของส่งให้เค้า เค้าก็แนะนำให้รู้จักอาจารย์ของเค้า เออดีมีแนะนำด้วย เราก็เลยได้โอกาศเดินไปสั่งเมนูเฟรนฟรายที่แมคมานั่งเคี้ยวเล่น เค้าก้ถามๆเราก็ตอบๆเคี้ยวๆไป สุดท้ายเค้าพูดกับอาจารย์ของเขาว่า ลองดูพุทธคุณให้หน่อยพร้อมกับส่งองค์พรหมที่เพิ่งรับไปเมื่อตะกี้ให้

    เราก็อยู่ตรงหน้านี่ เลยพูดเนิบๆว่าอย่าเลย เชื่อสิ้ เค้าไม่ฟังผมเว้ยเชื่อมั๊ย อาจารย์เค้ายกพรหมขึ้นไหว้แล้วก็กำหลับตา คือออกตัวก่อนนะว่าเราก็จับเป็นไอ้พลังงานเนี่ย แล้วที่กำเอามาส่งคุณผมก็รู้มาตลอดทางว่าไม่ใช่ของเล่น เลยย้ำอีกทีว่า ไม่เชื่อหรอ เชื่อหน่อยสิ้

    สรุปไม่ฟังผม จับเลย ผมเห็นอาจารย์เค้าตัวสั่นๆ หน้าแดงๆดูมีเลือดฟาดเหมือนอบไอน้ำมา แดงขึ้นๆ แต่คือร้านแมคนะ แคร์สายตาคนมั่งสิ ผมยิ่งขี้อายอยู่ สุดท้ายเค้าอ้วกออกมาพรวดแล้วก็หน้าทิ่มลงไปกับโต๊ะจมอ้วกตัวเอง

    คือเดชะบุญ มันเกือบโดนผมไง แล้วเฟรนฟรายผมก็เละอ้วกท่านหมดเลย ไม่ได้กินต่ออ่ะนะ โต๊ะแมคมันไม่กว้างน่าจะเข้าใจ ทีนี้พอเค้าลุกไปล้างหน้าล้างเสื้อ เค้าก็กลับมานั่งคุย พนักงานมาทำความสะอาดให้เราย้ายโต๊ะใช่มั๊ย เค้าบอกว่านี่พรหมอะไรผมขอได้รึเปล่า ไม่เคยเจอพรหมแบบนี้เลย ผมเข้าไม่ถึง เห็นเป็นแสงสีทองพุ่งขึ้นฟ้าแล้วผมก็น๊อคเลย ผมดูมาหมดทั้งพรหมปู่สี ปู่ดู่ พ่อชำนาญ ทั้งเก่าทั้งใหม่ไม่มีแบบนี้ เรามาคิดดูว่าคงน๊อคจริงขนาดน่าทิ่มอ้วกตัวเอง ใครจะลงทุนปานนั้น เราเลยบอกว่าไปคุยกันเองนะถ้าอยากได้เพราะที่นี่มีคนจองไว้หมดแล้วไม่เหลือยอดเลย ไว้รอท่านที่ยังไม่โอนถ้ามีใครจะเอาค่อยแจ้งผมอาจจะสวมสิทธิ์ให้

    ก็เอามาเล่ากัน เห็นมั๊ย ไม่เกี่ยวกับปู่ขรัวแสงที่ผมห้อยเลย เกี่ยวกับเฟรนฟรายผมล้วนๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0014.JPG
      DSCF0014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      9.3 KB
      เปิดดู:
      67
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2015
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พรหมรุ่นนี้ใช้ดีจริงๆนะ เป็นอีกอย่างที่แม้แต่ตัวท่านเองยังห้อยคอ เชื่อสิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0014.JPG
      DSCF0014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      9.3 KB
      เปิดดู:
      53
  15. PALA 5

    PALA 5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +822
    ผมได้โอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทยแล้ววันที่ 27 ตุลาคม 2558 สถานที่ K11700 เวลา 17.00 น. หมายเลขบัญชี 9322118721 จำนวนเงิน 2,500 บาท หมายเลขบัญชี 9322099174 จำนวนเงิน 100 บาท สำหรับการบูชาตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผลไพศาล(ตะกรุดเงินรุ่นแรก) พ่ออาจารย์พล 1 ดอก กรุณาจัดส่งที่อยู่แจ้งทาง PM

    ขอบคุณครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อคืนก็วันดีนะ กลับจากไปวิ่งมาเลยสวดมนต์บูชาพระสมเด็จครูธรรมเนื้อตะกั่วปากถุงเงินผสมแร่พลวงศักดิ์สิทธิ์ สวดชินบัญชร 108 จบ ปกติสวดไวและชำนาญตกนาทีนึงก็จบ พอมาชักประคำ 108 จบ เหนื่อยเอาเรื่องเลย หลับเป็นตายทันที สงสัยจะเพราะออกกำลังกายมา แต่พลังที่แสดงออกมาแรงมากจริงๆ มาบูชาคุณหลวงปู่สมเด็จโตกันนะครับ วันนี้จะนำไปเลี่ยมห้อยองค์จริงๆนี่สวยมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_48601.jpg
      SAM_48601.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      57
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2015
  17. sritrang2010

    sritrang2010 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +74
    พระสมเด็จครูธรรมเนื้อตะกั่วออกให้บูชาหรือยังครับ ขอทราบค่าบูชาด้วย
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เหตุและผล

    อรุณสวัสดิ์ครับ เช้าวันนี้ก็มาต่อกันด้วยคำสอนในเรื่องเวรกรรมต่อ

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ทุกสิ่งนั้นเป็นนาฏลีลาที่ดำเนินอยู่บนหลักของเหตุผล กรรมทุกสิ่งมีที่มา ไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะเกิดขึ้นได้เอง ดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ทั้งนี้เธอต้องเข้าใจว่าเหตุนี้คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร บอกกล่าวกันง่ายๆเลย อดีตคือเหตุ และปัจจุบันคือผล ในขณะเดียวกันปัจจุบันที่กำลังทำกันอยุ่นี้ก็เป็นเหตุอันจะแสดงผลในอนาคตต่อไป

    เมื่อพูดเช่นนี้ เธอทั้งหลายก็มักจะให้ความสนใจอดีตกัน เพราะผลที่แสดงในปัจจุบันนั้นถ้าเราไม่รู้สาเหตุมันก็ไม่ใคร่จะสบายใจ ถึงตรงนี้ พอกล่าวถึงกรรม มันจะต้องมีวาระที่สองตามมาเสมอนั่นคือการเกิด เมื่อมีกรรม จึงมีเกิดแก่เจ็บตาย พ่อแม่ครูอาจารย์จึงมักสอนว่าทุกคนนั้นมีกรรมเป็นเครื่องกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

    การจะกล่าวและจำแนกผลของกรรมนั้นจะต้องสัมพันธุ์กับอดีต จึงเป็นหน้าที่ของสมเด็จพระบรมศาสดาเท่านั้น จุดนี้เราจะไม่ยุ่งเกี่ยว แต่จะสอนจะบอกพวกเธอทั้งหลายว่า เมื่อมีการเกิดนั้น จิตมันจะไปถือกำเนิด วนเวียนอยู่ในภพทั้ง 6 เป็นเช่นนี้แหละเสมอๆ ภพมนุษย์ก็เป็นหนึ่งในหกภพนั้น เพราะเช่นนั้นจึงกล่าวได้ว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยากลำบากก็เพราะเปอร์เซ็นต์มันน้อยเมื่อเทียบกับการจะได้ไปเกิดตามกรรมในภพอื่นๆ

    เคยเล่าไปแล้วว่ามีอะไรบ้าง ยังจำกันได้หรือไม่
    - ภพแรกเลยก็สุคติภูมิ นี่นะก็พวกพรหมพวกเทวดาทิพย์กายทั้งหลายจะอยู่กัน
    - ภพที่สองก็คืออสุรกายภูมิ ที่สู้กันแย่งดาวดึงส์กับพระอินทร์นั่นแหละ จำพวกนี้มีความเป็นทิพย์ส่วนหนึ่งนะต้องทำความเข้าใจไว้ คือมีทิพยสภาวะเช่นเดียวกับเทวดา เรียกว่าทำบุญมาดีบารมีก็มาก เข้าทำนองว่าบุญมีแต่วาสนาไม่ส่ง ที่เรากล่าวเช่นนี้เพราะเหล่าอสุรกายนั้นใจเขายังติดอยู่ในความโลภ โกรธ หลง ลุแก่อำนาจราคะจริต ลุแก่โทสะจริต ลุแก่โมหะจริต แม้จะอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ย่อมทำให้รูปกายเปลี่ยนแปลงไปจากทิพย์กายเป็นอสุรกาย ซึ่งทิพยสภาวะนั้นไม่ได้เปลี่ยนตามไปด้วย ภพนี้นี่อลังการไม่ต่างจากสวรรค์เลยนะ มีการแบ่งเขตการปกครองกันเป็นชั้นเป็นเมืองต่างๆ เหมือนดั่งสวรรค์มีเป็นชั้นๆอย่างไรก็อย่างนั้น มีทั้งระดับเจ้าอสูร จอมอสูร ไล่ไปจนอสูรธรรมดา เหมือนเทพเลยที่มีทั้งเทวราช เทพบดี จนถึงเทพปกติ และข้ารับใช้ในวิมาน อสุรกายพิภพนี้ก็ระบบเดียวกัน
    * คนที่เน้นกระทำบุญเข้าญาณแต่ไม่พัฒนาการกระทำและจิตใจตนเองก็จะได้มาถึงซึ่งความเป็นมิตรสหายในอสุรกายพิภพนี่แหละ
    - ภพที่สามก็คือมนุษย์ คือพวกเรา สำคัญมากนะเพราะเป็นจิตที่จะไปต่อ จะไปอยู่ภพไหนมันขึ้นอยู่กับวาระปัจจุบันตรงนี้ มนุษย์นี้เป็นสภาวะอย่างกลางๆ อย่างเดรัจฉานนี่เค้าสติปัญญาไม่เท่าเรา ซึ่งมนุษย์นั้นเกิดมาต่างสถานะกัน เพราะผลของอดีตเป็นเครื่องกำหนด แต่ไม่ว่าสถานะไหน ก็ล้วนแต่สร้างบารมี บำเพ็ญบารมีขัดเกลาจิตใจตนได้เท่าเทียมกัน พวกเธอต้องรู้ไว้นะว่าทางเดียวที่จะยิงออกจากการเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้งหก ก็มีแต่สิ่งที่ภาษาปากเราเรียกว่านิพพานนั่นแหละ ถ้าสร้างบารมีสะสมไปเรื่อยๆก็ขึ้นไปสุคติภูมิเป็นเทพเป็นพรหมตามระดับบารมี ระดับญาณ และการทดสอบขัดเกลาตนเอง แต่ถ้าสร้างบารมีแล้วเจือด้วยราคะ โทสะ โมหะ ก็ยังดีหน่อยเพราะยังถึงซึ่งทิพยสภาวะกึ่งหนึ่งลงไปอยู่ในอสุรกายภูมิ แต่ถ้าไม่ทำความดีบารมีไม่เดิน ก็เหลือสามภพรอเธออยู่ นรกภูมิ เปรตวิสัยภูมิ เดรัจฉานภูมิ ล้วนแต่ไม่รื่นรมณ์ทั้งนั้น ถ้าเทียบกับอสุรกายภูมิยังต่างกันฟ้ากับก้นเหว
    - ภพที่สี่ก็คือภพของเดรัจฉาน ภพนี้มันคาบเกี่ยวกับภพมนุษย์นะ ไปง่ายที่สุดเลย ระวังกันไว้ เดรัจฉานก็คือสัตว์ต่างๆทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก แมลงทั้งหลายแตกระแหงแบ่งย่อยลงไปมากมาย แม้แต่เชื้อโรคเชื้อราสิ่งเล็กนั่นก็เป็นหนึ่งชีวิตนะ รักษากำลังใจของตนให้ดี
    - ภพที่ห้าก็คือนรกภูมิ เป็นสถานที่เอาไว้ทรมานสัตว์ทั้งหลายตามพระกำหนดกฏลงโทษในชั้นต่างๆ นรกนี่ก็แบ่งย่อยลงไปอีกนะตามความประพฤติความผิดบาปทั้งหลาย เพื่อจะทรมานให้รู้สำนึกและจำประทับใส่จิตวิญญาณเอาไว้ ว่ามันทรมานทรกรรมเพียงไหนจะได้ไม่ไปทำอีก
    - ภพที่หกคือโลกของเปรตนั่นแหละ เป็นอีกภูมิหนึ่งที่ต้องทรมานทั้งจากคมจักร ไฟนรก ความหิว ความทุกข์ทรมาน อย่าไปเห็นเลย รู้แค่ว่าน่าสังเวชเหลือใจนักก็พอ

    เห็นมั๊ยว่าที่พออยู่ได้ก็มีแต่ทิพย์กาย อสุรกายและภพมนุษย์เท่านั้น อีกสามภพอย่าได้ไปเหยียบเลย ที่แสดงให้เห็นนี้ เพื่อให้รู้จักภพใหญ่ๆทั้งหกที่จริงมันยังมีย่อยอยู่อีก เอาล่ะ การจะไปภพไหนนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอในวันนี้เท่านั้นแล้ว จะล่วงอบายภูมิได้อย่างไร พูดง่ายเหมือนเล่านิทานก็แค่ทำความดี ซึ่งมันก็ง่ายจริงๆนั่นแหละ แค่ไม่ฟังเรื่องชั่ว ไม่มองสิ่งชั่ว ไม่พูดให้ชั่ว จะได้ไม่เก็บมาคิดชั่ว ทำชั่ว ไม่ไปอยู่ในสังคมหนึ่งในขณะเวลาหนึ่งที่ง่ายต่อการทำชั่ว อยู่ในสถานที่อันถึงพร้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี เหตุปัจจัยในการทำชั่วมันก็ไม่มีแล้ว

    ทุกวันนี้เพราะพวกเธอรับข่าวสารมาก คิดเรื่องของคนอื่นเยอะ ใจมันจึงเปิด ไปมองเรื่องชั่ว ฟังสิ่งชั่ว ปากพูดเรื่องชั่ว เห็นมั๊ย ฟัง มอง วิจารณ์ มันก็เลยพลอยไปคิดชั่วเพราะไปรับรู้มันบ่อยๆนั่นประไร เมื่อคิดแล้วหักห้ามใจไม่ได้ก็เลยกระทำมันเสีย กอปรกับอยู่ในสถานที่อันไม่เหมาะสม เช่นสถานที่เอาไว้เล่นการพนัน สถานที่เอาไว้เสพกามทั้งหลาย สถานที่เอาไว้ยิงนกตกปลาคร่าสัตว์ตัดชีวิต เมื่ออยู่ในสถานที่อันไม่เหมาะสม ก็ย่อมมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ตามสังคมที่หล่อหลอมนั้น

    มันง่ายนะการทำความดี สร้างบารมีกันเถอะ งดสิ่งชั่วทั้งหลาย ใจเรานี้รู้หมดว่าอย่างใดดีอย่างใดชั่ว เพราะยังมีความเป็นคนอยู่ มีสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่ อย่าให้สำนึกนั้นหมดไปเพราะการขัดเกลาในสิ่งที่มันวิปริตไม่สมควรอีกเลย จงเชื่อในเจตจำนงค์ของใจตนเอง ยิ่งเราขัดเกลาตัวเรามากเท่าไหร่ จิตสำนึกก็ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่านั้น

    ฉันพูดเพื่อแสดงภาพขององค์รวมให้เธอเห็นเป็นฉากๆเช่นนี้ เพราะประสงค์ของพ่อแม่ครูอาจารย์เพียงอย่างเดียวคืออยากเห็นคนทำดี ได้ดี
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    บทคำสอนที่ทยอยลงให้ ท่านว่าอ่านผ่านๆไปจะไม่มีประโยชน์อะไร อ่านแล้วให้ใคร่ครวญคิดตาม แล้วอย่าเพิ่งเชื่อ ลองเอาไปใช้ไปทำดูให้รู้เองเห็นเองจึงค่อยเชื่อ
     
  20. cosmic ray

    cosmic ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2014
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +774
    แจ้งการโอนค่าบูชาวัตถุมงคลที่ได้จองเอาไว้ รายละเอียดตาม pm
     

แชร์หน้านี้

Loading...