ป่วยเรื้อรังไม่หาย จะแก้กรรมอย่างไรดีครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย two indy, 14 กรกฎาคม 2015.

  1. two indy

    two indy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    ผมป่วยเป็นโรคหูรูดอุจจาระเสื่อมครับ กลั้นอุจจาระได้

    แต่มันจะมีเป็นน้ำๆไหลออกมาตลอดวันทำให้มีกลิ่น

    อยู่ห้องแอร์กับใครไม่ได้นั่งรถเดินทางไปกลับใครก็ไม่ได้ครับ

    เค้าได้กลิ่นลำบากมาก พอมีวิธีทางแก้กรรมมั้ยครับ

    ขอบคุณมากครับ:'(

    ไปหาหมอส่องกล้อง ตรวจลำใส้หมดแล้วไม่เจออะไรครับ มะเร็งก็ไม่เป็น ตรวจเลือดก็ปกติ

    หมอบอกแค่ให้ขมิบแค่นั้นเองครับ แต่มันไม่หายครับเป็นมา 2 ปีแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2015
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เห็นใจกับสิ่งที่เกิดครับ

    ลองเปลี่ยนหมอดูสักครั้ง หรือ๒ครั้ง บางทีความเพียรใหม่นี้จะช่วยแก้กรรมให้ท่านได้โดยเร็ว และโดยตรง..

    ส่วนวิธีแก้กรรมที่ท่านควรทำควบคู่กันไปกับการพบแพทย์และออกกำลังกายคือการรักษาศีล ๕ ให้มั่นคง เพราะเหตุเสียหายที่ท่านทำมานั้น ย่อมมาจากการล่วงศีล๕เป็นหลัก และพึงทราบว่า นี้เป็นเพียงเศษกรรมเล็กน้อยที่ยังเหลืออยู่ เท่านั้น เพราะผลโดยตรงคือไปนรกและอบายภูมิ..

    ไม่มีพิธีกรรมขลังอะไรช่วยใครให้พ้นกรรมได้ หากตนยังล่วงศีลและอกุศลกรรมบทอยู่ อนึ่ง พึงเข้าใจว่า สังขารทั้งหลายเกิดด้วยอำนาจเหตุปัจจัยที่สมควรมากมายประชุมพร้อม ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาหรือควบคุมของใครๆเลย..

    การเจริญศีลและกุศลกรรมบถ เป็นวิธีสร้างเหตุปัจจัยที่ดีเพื่อผลที่ดีต่อไป เหตุปัจจัยทั้งหลายย่อมไม่คงที่ เเต่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ หากกุศลของท่านมีกำลังมากกว่าอกุศลกรรมในอดีต ย่อมสามารถเบียดเเทรกให้ความทุกข์จากผลบาปตกไปได้ ดังนั้น การเร่งเพียรเจริญกุศลจึงเป็นการแก้กรรมโดยตรง และหากผลยังไม่ปรากฏก็ไม่พึงละทิ้งท้อแท้เสีย เพราะเรื่องกรรมและการส่งผลนั้น ยกเว้นเสียแต่พระสัพพัญญุตญานของพระพุทธเจ้าแล้ว บุคคลอื่นนอกนั้นไม่อาจทราบได้..ได้แต่เพียงประมาณ ตามหลักธรรมหรือสุ่มเดาตามตรรกะวิบัติของตน จึงพึงสังวรใคร่ครวญให้ดี เมื่อได้รับข้อมูล..

    ความขวนขวายพร้อมที่จะทำสิ่งไม่มีเหตุผล ย่อมมีในใจของผู้ทุกข์เสมอ กระทั่งให้ไปแก้ผ้าเดินรอบอะไรสักอย่างก็เอา โดยไม่คิดหาเหตุผลว่า ทำ"เหตุ"อย่างนั้นแล้ว"ผล"ที่แท้คืออะไร เป็นต้น

    ท่านจขกท.ลองอ่าน้อมูลตาม linkข้าวล่าง เผื่อได้ประโยชน์ในการแก้ไขนะครับ..

    http://www.manager.co.th/qol/viewnews.aspx?NewsID=9550000083136
     
  3. Pattarakorn2010

    Pattarakorn2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2014
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +1,727
    กรรมเก่าตัวนี้ แรงมากครับ....บรรเทาได้ด้วยการหมั่นสร้างวัด หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทำแล้วก็บอกอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เป็นแบบนี้ครับ..ต้องทำเยอะหน่อย และต้องอธิฐานทุกครั้งครับ
     
  4. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    อาการที่คุณเป็นถือว่าทรมานมากครับ เพราะผมเห็นเด็กที่เป็นมีปัญหาคล้ายๆกับคุณ แต่เขาจะรุนแรงกว่าก็คือเขาไม่สามารถกลั้นอุจจาระได้เลย ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยตลอดเวลา ประมาณว่าเขาไม่มีรูทวาร แล้วต้องถ่ายออกทางอื่น เห็นแบบนั้นก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นโรคกรรมเก่า

    ไม่ทราบว่าการใช้ไฟฟ้าช๊อต(แบบอ่อนๆ)จะพอช่วยได้มั้ยครับ ผมว่าคุณน่าจะลองไปสอบถามแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ดูนะ เพราะดูแล้วถ้าไม่ทำอะไรอาการของคุณจะยิ่งแย่หนักลงไปเรื่อยๆ การใช้ไฟฟ้าจะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดกลับมาทำงานได้ดี
     
  5. ฟูจิ0007

    ฟูจิ0007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +829
    ลองไปโพธถามอ.tjsดูคะ ขอให้เจอหนทางแก้ไข้ได้ด้วยนะคะ จะได้หายพ้นทุกข์คะ
     
  6. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โรคเวรโรคกรรมมันค่อนข้างสลับซับซ้อนมากเลยนะครับ

    ลองถวายธูปหอม ดอกไม้หอมบูชาพระ(พระพุทธรูป พระธรรม พระองฆ์)ทุกๆๆวันดูนะครับ(ย้ำๆๆ ทุกๆๆวัน มีธูปหอมถวายธูป มีดอกไม้ก็ถวายดอกไม้ หรือเทียนหอมก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ครับ)
    ถ้ามีโอกาสก็ซื้อน้ำยาขัดห้องน้ำไปถวายวัดนะครับ
    หรือถ้าไปตามโบสถ์หรือศาลาวัด เห็นจิ้กจกมันถ่ายของเสียทิ้งไว้ก็ทำความสะอาดบริเวณนั้นนะครับ
    อาจจะแปลกนิส++ นะครับ แต่อาจพอช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ทนเอาหน่อยสักระยะนะครับ อาจดีขึ้นครับ

    ปล.ลองฝึกขมิบกล้ามเนื้ออย่างที่หมอบอกด้วยนะครับ แต่เพิ่มเป็นเซตนะครับ แรกๆทำสัก 3 เซตๆล่ะ 10 ครั้ง ตอนขมิบมันจะหัวปวดหน่อยนะครับ แต่ทนเอาหน่อย พอเริ่มชิน ก็ค่อยๆๆๆเพิ่มจำนวนจาก 10++++++
     
  7. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ลืมบอกอีกอย่าง
    ที่บอกมีน้ำไหล ออกมานั้น
    เบื้องต้น ถ้ามันไหลก็เช็คบ่อยๆๆๆ เอานะครับ อาจช่วยให้กลิ่นไม่แรงมากครับ

    ขอให้หายไวๆๆๆนะครับ
     
  8. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    เจริญเมตตาหนะครับช้วยได้ เจ็บป่วยที่ตรงไหนก็เพ่งไปที่ตรงนั้นหละครับ
    แต่ก่อนอื่นคงต้องหาสุขให้เจอก่อน ว่าสุขคืออะไร มาจากไหน
    ไม่งั้นจะกลาย เป็นแผ่ความทุก ความกังวล เรื่องขี้ โชคดีครับ
     
  9. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ขอขมาพระรัตนตรัยแล้วไปหาทำบุญสร้างห้องน้ำวัดทุกปี
     
  10. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    สําหรับผมนะ ไม่ว่าเราจะเป็นโรคอะไร หรือไม่ได้เป็นอะไรเลย วิธีที่สุดสําหรับคนทุกคนคือ เราควรสวดมนต์ นั่งสมาธิ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรกับเทวดาที่ปกป้องคุ้มครองตัวเราทุกวัน ที่ดีที่สุดก็แผ่เมตตาไปให้กับทุกคน ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลย เอาเป็นว่าผมอยากชวนให้คุณ two indy หันมารักษาศีล 5 สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วอุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรของเราในทุก ๆ วันแบบที่บอกครับ ถ้าสนใจก็เริ่มลงมือทําได้เลยนะครับ ผมขออุทิิศบุญทั้งหมดที่ผมมีให้กับเจ้ากรรมนายเวรของคุณ two indy และก็อนุโมทนาบุญให้คุณ two indy ด้วยแล้วกันครับ ยังไงก็ขอให้หายไว ๆ นะครับ ขอเป็นกําลังใจให้ครับ
     
  11. jiab_pink

    jiab_pink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +471
    ไปล้างห้องน้ำวัด สวดมนต์แผ่เมตตาค่ะ
     
  12. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    ทำตามที่หมอบอก แล้วเลิกให้ใครใช้ประตูหลัง เดี๋ยวก็หายเอง ระหว่างที่ยังไม่หายก็ใช้ผ้าอนามัยของผู้หญิงรองก้นซับน้ำไปก่อน เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ กลิ่นจะได้ไม่มี
     
  13. two indy

    two indy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    พูดเหมือนหมอเลยท่าน ถามผมว่า มีแฟนเป็นผู้ชายป่าว - -

    ผมมีแฟนเป็น ญ ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยเหลือครับ ^ ^
     
  14. ไม้ขีด

    ไม้ขีด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,421
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ลองแผ่เมตตาเจาะจงให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดโรคนี้เฉพาะหรือ ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคยล่วงเกินครับ
     
  15. ศิริสมบูรณ

    ศิริสมบูรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,537
    รักษาให้เอาใหมจ่ะ
     
  16. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปล่อยปลาที่กำลังจะโดนฆ่า ร่วมบุญไถ่ชีวิต วัว ควาย แล้วอุทิศให้เจ้ากรรม ทุกเดือนดูนะครับ
     
  17. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    ป่วยเรื้อรังเหมือนกัน แต่คนละโรค ไม่รู้จะทำยังไง
     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เวลาป่วย ต้องไปหา หาหมอ กินยา ครับ รักษากันไป เว้นแต่ว่า ไปหาแล้วรักษาไม่หาย

    ก็คงเป็นโรคๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกรรม ก็ต้องให้กุศลกรรม บุญ ทาน ศีล ภาวนา ช่วยรักษา กันไปครับ
     
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ตอนที่อยู่วัดท่าซุงอาตมาสะสมน้ำมนต์ ตอนแรกเก็บเอาไว้ในกุฏิตัวเองแล้วมดขึ้น เวลามดหิวน้ำ เขาก็จะลงไปกิน กินไปกินมาก็ตายลอยเป็นแพ จึงบอกโยมเอี่ยม (คุณยายเอี่ยมศรี อ่อนคำ) ให้เตรียมโอ่งเอาไว้ในตึกขาว พอหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง ก็ตักน้ำมนต์ไปใส่ไว้ เพราะฉะนั้น..น้ำมนต์ที่พุทธาภิเษกมากครั้งที่สุด ต้องอยู่ในโอ่งชั้นล่างของตึกขาว แต่ว่าพออาตมาออกจากวัดท่าซุงได้ไม่เท่าไร ก็มีการรื้อตึกขาวเพื่อสร้างใหม่ เลยไม่แน่ใจว่าโอ่งน้ำมนต์หายไปด้วยหรือไม่ ?

    นึกถึงที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไปวัดบางนมโค เข้าไปกราบในกุฏิหลวงปู่ปาน เจอขวดน้ำมันที่ท่านเรียกว่าน้ำมันสังคโลก จริง ๆ แล้วก็คือน้ำมันชาตรี

    ท่านบอกว่าเจอน้ำมันเหลือติดอยู่ก้นขวดหน่อยหนึ่งดีใจแทบตาย ไปขอกับเจ้าอาวาส (พระครูวิหารกิจจานุยุต) เจ้าอาวาสบอกว่า"นิมนต์เลยครับ ไม่มีใครเขาเอาหรอก" หลวงพ่อท่านก็เลยเอามาเติมไว้ พวกเรารุ่นแรก ๆ จะได้น้ำมันตรงนั้น แต่เป็นน้ำมันมะพร้าว แล้วหลวงพ่อท่านก็หวง ถ้าเอาไปลิตรหนึ่ง ก็ต้องเอาน้ำมันมะพร้าวมาคืนท่านลิตรหนึ่ง แลกกัน..ถึงเวลาหลวงพ่อท่านก็เติมไปเรื่อย

    ที่หลวงพ่อท่านเรียกน้ำมันสังคโลก เพราะไม่กล้าบอกว่าเป็นน้ำมันชาตรี เนื่องจากรุ่นศิษย์รุ่นเก่า ๆ ของหลวงพ่อท่านมักจะเฮี้ยน ถ้าขืนบอกว่าเป็นน้ำมันชาตรี มีหวังไม่ถอยหลังให้ใคร (สู้อย่างเดียว)

    แม้กระทั่งตอนที่ท่านทำน้ำมันชาตรีแล้ว ท่านก็ยังเน้นคุณสมบัติในการรักษาโรค ท่านไม่เน้นคุณสมบัติที่ให้ไปลุยกับชาวบ้าน เพราะฉะนั้น..ถ้าใครมีน้ำมันสังคโลกของหลวงปู่ปาน ขอให้รู้ว่านั่นคือน้ำมันชาตรีที่หลวงปู่ปานปลุกเสก

    น้ำมันชาตรีต้องรอพระท่านอนุญาตอย่างเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นทำไม่ได้ เพราะอานุภาพครอบจักรวาลมาก เดี๋ยวคนจะฝืนกฏของกรรมกันเยอะ


    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
    ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒

     
  20. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : ..................................

    ตอบ : น้ำมันสังคโรคก็คือน้ำมันชาตรีที่ หลวงปู่ปาน ท่านทำ ท่านเอามาให้พวกเราใช้ก่อนน้ำมันชาตรีหลายปี ท่านไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำมันชาตรี คือว่าหลวงพ่อท่านกลับไป วัดบางนมโค กลับ ไปเยี่ยมวัดเก่านั่นล่ะ แล้วท่านก็ขึ้นกุฏิเก่าของท่าน ท่านบอกว่าอะไรต่อมิอะไรมันปล่อยรกรุงรังหมด ข้าวของอะไรที่เคยเป็นของหลวงปู่ ที่หลวงพ่อท่านรักษาเอาไว้ดี มันก็ปล่อยกระทั่งฝุ่นจับหยากไย่ขึ้นเละเทะไปหมด

    ท่านบอกว่าอะไรก็ไม่ว่าหรอก ไปเจอขวดน้ำมันชาตรีหลงอยู่มันแห้งเกือบจะติดก้นขวดท่านบอกว่าเห็นเข้าก็ ดีใจแทบตาย ก็ไปถามเขาบอกว่าขอได้มั้ย ? เขาบอกว่าเอาไปเหอะขวดเก่าๆ น้ำมันชาตรีนี่มีอานุภาพพิเศษก็คือเติมเท่าไหร่ก็ตามอานุภาพยังเหมือนเดิม แต่ท่านไม่ได้บอกเราเพราะว่าอนุภาพของน้ำมันชาตรีถ้าเราสังเกตหลวงพ่อท่านจะเน้นเรื่องรักษาโรค

    คำว่าสังคโรคมันแปลว่ารวมทุกโรค คราว นี้น้ำมันชาตรีนี่ท่านจะเน้นทางรักษาโรค เพราะว่าถ้าไม่เน้นคนมันเอาไปใช้นี่ดีไม่ดีเละ เพราะว่าเห็นคาๆ ตามาว่าคนโดน ๑๑ ชนิดที่กระสุนแบนแต็ดแต๋ติดเอวเลย เขาบอกไม่รู้สึกอะไร รู้สึกเหมือนกับตัวเเมงบินมาชน มันได้ขนาดนั้น แล้วลองคิดดูว่าถ้าเกิดคนมันเฮี้ยนขึ้นมามันไม่ตีกันกระจายทั้งบ้านทั้ง เมืองหรือ ใครๆ รักจะเป็นนักมวยก็เอา

    หลวงพ่อท่านบอกว่าท่านขโมยน้ำมันชาตรีหลวงปู่มาครึ่งขวดยานัตถุ์ขโมยเลย พอหลวงปู่กลับมาถามว่าใครขโมยน้ำมันวะ ? บอกว่าผมเองครับ บอกแล้วมึงขโมยทำไมวะ ? ผมคิดค่าเฝ้ากุฏิครับ (หัวเราะ) ไม่ได้ขโมยค่าเฝ้ากุฏิ เออมีมึงคนเดียวล่ะที่กล้าพูดอย่างนี้ แล้วเสร็จแล้วท่านก็บอกว่าให้ เจ้าอั๋น ลูกศิษย์ที่จะขึ้นชกมวย เจ้าอั๋นเวลาขึ้นชกมวยใช้ชื่อนิตย์ ท่านก็เอาก้านไม้ขีดก้านธูปอะไรนั่นล่ะ จิ้มแล้วเจิมหัวให้มันไป ไปชกชนะน็อคเขามายกสาม ถามมันบอกตอนชกรู้สึกยังไง มันบอกว่าเวลาคู่ต่อสู้เตะมาต่อยมาโดนน่ะโดนจังๆ แต่รู้สึกว่ามันเบาเหมือนไม่มีน้ำหนัก

    โบราณท่านถึงได้เรียกน้ำมันชาตรีว่า ลูกเบา โดน อะไรมันเบาไปหมด ไม่เบาได้ยังไงล่ะ ฟูลเมตัลเเจ๊คเก๊ตนะ หัวตันน่ะความเร็ว ๙๕๐ ฟูตต่อวินาที นี่แรงปะทะของมันนี่นักมวยปล้ำตีลังกาแล้วโยมผู้หญิงผอมๆ แห้งๆ โดนเข้าไปเต็มเอวแบนเเต๋ติดอยู่อย่างกับประเภทเอาดินเหนียวไปแปะเลยล่ะ นั่นล่ะเขาบอกมันรู้สึกเหมือนยังกะแมงมันบินมาชน เราก็ขอดูแผลมันแดงๆ หน่อยเดียวเอง เหมือนยังกับเราเอาอะไรไปขว้างแรงๆ ใส่หน่อยแค่นั้นน่ะ หนังมันเป็นสีแดงๆ

    ถาม : อันนี้นี่คือทาไว้ก่อนหรือว่า ?

    ตอบ : เขาบอกว่าเขากินวันละช้อน (หัวเราะ) หรืออาจจะเอาอย่าง พี่อาจินต์ ก็ ได้ พี่อาจินต์เขากินวันละแก้ว พักเดียวอ้วนปี๋เลย ใครเห็นรูปเก่าๆ หลวงพี่อาจินต์ แหม....หนุ่มน้อยเอวบาง เล่นน้ำมันชาตรีวันละเเก้วพักเดียวล่ะ ตันตึ๊กเลย

    ถาม : แล้วเวลาเติมนี่ต้องใช้น้ำมันอะไร ?

    ตอบ : จริงๆ แล้วใช้ น้ำมันมะพร้าว ก็ได้ น้ำมันพืชก็ได้อะไรก็ได้ แต่ว่านิยม น้ำมันงา เพราะกลิ่นมันหอม ใช้ น้ำมันชาตรีเติมลงไปในน้ำมันใหม่อย่าเอาของใหม่เททับของเก่า ถ้าของใหม่เททับของเก่าของเก่าจะเสื่อมไปด้วย ให้เอาของเก่าเทใส่ของใหม่ ไม่ต้องว่าคาถงคาถาอะไรทั้งนั้นล่ะเทลงไปเฉยๆ ด้วยความเคารพก็พอ

    ถาม : หลวงพ่อค่ะทำไมน้ำมันงาแพงจังค่ะ ?

    ตอบ : ก็มันอาจจะเป็นเพราะคนใช้น้อย เขาผลิตน้อยมันก็ต้องขายแพงหน่อยไม่งั้นมันไม่คุ้มต้นทุนเขาน่ะ

    ถาม : แล้วจะใช้....?

    ตอบ : จะกินจะทาอะไรก็ได้ แต่ว่าถ้ารักษาโรคลองเอาแตะเนื้อดูก่อน ถ้าหากว่าร้อนรักษาโรคไม่หาย แต่ถ้าหากว่าปกติหรือหากว่าเย็นโรคอะไรก็รักษาได้

    ถาม : เฉพาะคนเหรอค่ะหลวงพ่อ ?

    ตอบ : ถ้ารักษาสัตว์นี่เราไม่รู้จะลองยังไง มันบอกว่าเย็นได้มั้ยล่ะ ถ้ามันบอกได้ก็เอา น้ำมันชาตรีเป็นวิชาการที่ทำยากที่สุดตามสายของหลวงพ่อ ต้องรอพระท่านอนุญาตเท่านั้นถึงจะทำได้ ไม่งั้นต่อให้คุณได้อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ อะไรก็ไม่ได้ทั้งสิ้น หลวงพ่อท่านบอกว่าในชีวิตท่านเห็นแค่ ๒ องค์ที่ทำได้คือ หลวงปู่ปาน กับ อาจารย์โภคา ลืมถามท่านไปว่าอาจารย์โภคาอยู่วัดไหนหรือว่าเป็นฆราวาสที่ไหน

    สมัยที่เคยได้ยินคำว่าน้ำมันชาตรีครั้งแรกก็ได้ยินจาก ครูเขตร นั้นล่ะ เพราะท่านสอนวิธีตั้งธาตุ ปลุกธาตุ เรียกธาตุเข้าตัวอะไรเสร็จ สอนวิชาเสร็จท่านบอกว่าเสียดายวิชาการปลุกน้ำมันชาตรีท่านทำไม่สำเร็จ ท่านบอกว่าถ้าทำสำเร็จนี่เราจะสร้างแชมป์เปี้ยนโลกกี่คนก็ได้ แล้วเสร็จแล้วพอพระท่านอนุญาตให้ทำหลวงพ่อก็สั่งโรงงานเลย ผลิตมา ๓๐๐ ปี๊บ เข้าพิธีรวดเดียว ๓๐๐ ปี๊บ เพราะฉะนั้นออริจินอลอย่างน้อยก็มี ๓๐๐ ปี๊บ แต่ว่าจริงแล้วมันเติมเท่าไหร่ก็ได้ แล้วท่านก็บอกว่าในชีวิตของข้า หลวงปู่ปานท่านทำได้ ๒ ครั้ง ตัวข้าเองอาจจะทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะว่าต้องรอพระท่านอนุญาต ปรากฏว่าท่านทำได้ครั้งเดียวจริงๆ ไม่ทันจะทำใหม่ก็มรณภาพซะเสียก่อน

    น้ำมันชาตรีไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร ชาตรีมันก็เหนือกว่าอื่นใด ขืนไปบอกมันว่าชาตรีใช้ได้ขนาดนั้นรับรองมันตีเขากระจายหมดไม่ต้องกลัวใคร หลวงพ่อท่านถึงได้เน้นไปทางรักษาโรค รู้แล้วอย่าเอ็ดไป (หัวเราะ) ไม่งั้นเดียวมันไม่หามามั่ง ต่างคนต่างต่อยครบๆ ยกเหนื่อยลิ้นห้อยมันไม่มีใครแพ้ใครชนะ

    ถาม : ของทุกอย่างมันมั่นใจกับตัวของผู้ใช้ด้วยหรือเปล่า ?

    ตอบ : อันนั้นมีส่วน เรื่องของน้ำมันชาตรีนี่มันประเภทที่เรียกว่านอกเหตุเหนือผลคือถ้าคุณใช้อานุภาพก็มี

    ถาม : แล้ววัตถุมงคลด้วยรึเปล่าค่ะ ?

    ตอบ : วัตถุมงคลนี่สำคัญอยู่ที่กำลังใจ ถ้ากำลังใจเปิดรับมากเท่าไหร่มีผลมากเท่านั้น แต่ว่าน้ำมันชาตรีนี่ ประเภทที่เรียกว่าคำว่าชาตรีนี่คงตั้งใจสงเคราะห์โดยตรงละมั้ง หลวงพ่อท่านบอกว่าก่อนหน้านี้ ท่านเสกของเสกอะไรก็มีชาตรีเหมือนกันแต่ซุกๆ อยู่ข้างใน นี่คราวนี้ว่าตั้งแต่ยุคนั้นมานี่ชาตรีนำหน้า เตรียมไว้ให้ตีกับชาวบ้าน

    ถาม : เรื่องที่ว่าเปิดรับนี่หมายความว่า...?

    ตอบ : คือ จิตใจของเราเคารพ มีการอาราธนาเป็นปกติ เป็นสมัยของเรานี่ไม่ต้องเสียเวลาเสกน่ะ ถึงเวลาก็กรอกเติมไปเรื่อย ตอนนี้ที่ วัดท่าขนุน นี่ ท่านเอ ทำแจกเลย



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนเมษายน ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
    http://palungjit.org/threads/น้ำมันสังคโรคหรือน้ำมันชาตรี.206182/?langid=34
     

แชร์หน้านี้

Loading...