โครงการ: พระที่กำลังถูกลืม 1 : หลวงพ่อหมื่นอุดม วัดตูม จ.พระนครศรีอยุธยา

นั่งดู นอนดูรูปหล่อเงินของท่านทุกวัน อิอิ

 

ว่างๆ ลองเครื่อง สแกน
เอามาให้หายคิดถึง

 

โอกาสดีๆเจอกันเดียวเอาไปฝาก .........อีกสักเหรียญแต่ไม่มีโค๊ตนะพี่ไปหาตอก

เอาเอง...........

 

รูปนี้ยิงไม่ออกนะครับ
ลองมาแล้ว
โดนดุมาแล้ว

 

กราบหลวงพ่อครับ

รูปหล่อเนื้อเงินรุ่นแรกของหลวงพ่อครับ
สร้างถวายโดย เล็ก วงศ์สว่าง

รูปหล่อรุ่นนี้มีเด็กวัยรุ่นขับมอเตอร์ไซน์ประสานงากับสิบล้อมาแล้วนะครับ
รถฯต้องชั่งกิโลขายแต่เด็กวัยรุ่นแค่ดามกระดูกที่หน้าเท่านั้น
ทั้งๆที่ทุกคนบอกว่าไม่น่ารอด

 

กราบหลวงพ่อหมื่นอุดมครับ
การแจกพระหลายๆครั้ง ถ้าสังเกตุจะเห็นว่า ท่านจะพิจารณาว่าแต่ละคน ควรได้พระพิมพ์อะไร อาม๋าผมไปทีไหนแก่จะไม่ได้พระเพราะแก่ใส่หลวงปู่ศุขติดตัวไป ท่านจะไม่ให้บอกว่าที่มีอยู่ดีพอแล้ว เป็นอันอดได้ทั้ง3ครั้ง ผมรู้เรื่องนี้ เวลาผมไปจะไม่ใส่พระไป(เพราะกลัวอดได้พระ ตอนนั้นใส่พระหลายองค์)ผมจะได้พระเนื้อดินสังกะจายทุกครั้ง โดยสังเกตุว่าท่านจะมองแล้วค่อยไปหยิบมาให้ครับ ยังเสียดายพระบูชาองค์ใหญ่ไม่ได้บูชา ไปอีกทีหมดแล้ว เสียดายจริงๆ ส่วนแม่ผมนั่งหลังสุดท่านกลับกวักมือเรียกแล้วให้พระพิมพ์สมเด็จโตที่เรือจ้างอยู่ข้างล่างให้ หลังสุดที่ไปกราบท่านเอารถคันเก่าไปให้ท่านเจิมเป็นบุญจริงๆ ตอนนี้เปลี่ยนคันใหม่ แกะรูปที่ท่านให้ไว้กลับดอกมะลิที่ท่านโปรยหน้ารถมาบูชาครับ

 

กราบหลวงพ่อหมื่นฯครับ

ท่านใดที่อยากได้พระของหลวงพ่อเชิญวัดโคกทองในราคาเหมือนเมื่อตอนวัดโคกทองออกให้บูชา ขอเชิญมาที่วัดตูมครับ มีเยอะมากครับ

 

ผมเจอแบบไม่มีโค๊ตตอกที่ด้านหน้าเหรียญ ไม่กล้าเก็บครับกลัวเสริมรุ่นสอง,สาม,สี่

 

กราบหลวงพ่อหมื่นอุดมครับ

 

ศิษย์รุ่นท้ายๆ

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนครับว่ากว่าจะพบเว็บนี้ต้องใช้ความบังเอิญโดยแท้ เรื่องประวัติของหลวงพ่อบางช่วงบางตอนที่จะเล่าให้ทุกท่านได้ทราบ
-ปี2537 เกิดน้ำท่วมที่วัด พวกกระผมนำโดย ร้อยเอก กิตตินันท์ ดวงอุไร ยศขณะนั้น ได้นำถังน้ำมันและไม้กระดานไปทำสะพานให้พระเดินออกจากวัดไปบิณทบาตรเมื่อทำสะพานเสร็จหลวงพ่อให้พวกผมนั่งสมาธิประมาณ 15 นาที เมื่อลืมตาขื้นมาคำแรกท่านพูดขึ้นว่า น้ำปีนี้มากกว่าปี 84 นิดหนึ่งทำให้บางคนในคณะนั่งอมยิ้มแต่ตัวผมผู้เขียนยังไม่รู้ความหมาย จนถึงวันหวยออกจึงถึงบางอ้อ เลขที่ออก 85 จึงเป็นปฐมบทของคณะลูกศิษย์ ม.พัน 4 รอ.กลุ่มนี้ นำโดย พี่อ้วนปากน้ำ ผู้กองเป็ด ผู้กองเทพ ผู้กองแอด หมวดเสริฐ(จ่า) หมวดมนตรี(จ่า) ผู้กองโก้(หมู่)ผู้เขียน เป็นใหญ่เป็นโตหมดทุกคนครับลูกศิษย์หลวงพ่อ
-หลังจากปีน้ำท่วมปีแรกภารกิจของกระผมก็เรื่มขึ้นคือภายใน 1 สัปดาห์เจ้านายผม ผู้กองเป็ดจะต้องนำของไปถวายหลวงพ่อ2-3ครั้งเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า5ปีจากนั้นเจ้านายผมได้ย้ายไปรับตำแหน่งที่ จ.สระบุรี ตัวของกระผมก็ยังไปกราบท่านอยู่เป็นประจำเดือนละไม่ต่ำกว่า2ครั้งจนถึงท่านมรณะภาพ
-ครั้งหนึ่งผมเกิดความไม่สบายใจในเรื่องเจ้านายไปชอบผู้หญิงที่ไม่เหมาะกับท่านเราเป็นลูกน้องก็ต้องเตือนแต่กลับทำให้นายไม่พอใจโกรธและไม่พูดกับผมเป็นเดือนทำให้ผมไม่สบายใจเป็นอย่างมากจึงไปหาหลวงพ่อโดยพูดกับท่านว่า หลวงพ่อครับผมมีเรื่องไม่สบายใจและเป็นกังวลมากครับยังไม่ทันได้พูดต่อท่านก็ตอบกลับมาว่า มันเป็นเรื่องของเขา แล้วก็พยักหน้าพร้อมกลับอมยิ้มนิดๆ(เป็นลักษณของท่าน)ท่านเชื่อไหมครับว่าทุกอย่างที่เป็นกังวลหายไปหมดในทันที
-เรื่องเล่าจากปากของหลวงพ่อ ขอผ่านขบวนสมเด็จพระบรม วันหนึ่งหลวงพ่อไปทำธุระขากลับเกิดไปติดขบวนเสด็จเข้าจีงให้คนขับรถไปบอกนายตำรวจที่แต่งชุดสูตรยืนอยู่ตรงแยกเข้าฐานทัพอากาศดอนเมืองว่าให้วิทยุไปบอกว่าหลวงพ่อวัดตูมจะกลับไปทำวัดเย็นเดี๋ยวไม่ทันแล้วก็มีคำสั่งมาทางวิทยุกลับมาว่า ให้จัดรถนำขบวนไปส่งจนพ้นการจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วใครละเป็นคนสั่งถ้าไม่ใช่ตัวสมเด็จท่านสั่งเอง
-คงสงสัยกันแล้วซิ จริงๆแล้วหลวงพ่อของพวกเราท่านมีฐานันดรเป็นหม่อมเจ้าเพราะว่าตอนท่านเกิดนั้นสมเด็จย่าของในหลวงท่านทรงโปรดรับไว้เป็นบุตรบุญธรรมแล้วให้ชื่อว่า หมื่นอุดม ชาติการุณ จนกระทั่งมาบวชเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อโอภาษี หลวงพ่อโอภาษีท่านเคยพูดว่าเณร อนาคตข้างหน้าคงจะมีใครเก่งเท่าเณรนั้นยากมาก เป็นที่น่าเสียดายหลวงพ่อดันไม่ชอบการอวดอ้างเอาชื่อเสียง กระผมเคยเรียนถามท่านว่าหลวงพ่อครับถ้าเป็นพิธีหลวงเอาพระผู้ใหญ่ในประเทศมาร่วมพิธี หลวงพ่อจะนั่งอันดับที่เท่าไหร่ ท่านตอบว่าองค์ที่ 4 เราคงพอนึกออกแล้วนะครับว่าหลวงพ่อของเราไม่ธรรมดา ตอนท่านบวชเป็นพระแรกๆได้กระทำหน้าที่อันใหญ่หลวงคือ เป็นพระพี่เลี้ยงของในหลวงของพวกเราเชียวนะครับ ได้รับกิจนิมนต์เข้าพระบรมมหาราชวังเป็นประจำ เช่นการนั่งควบคุมการเข้าสมาธิของในหลวงในยามที่พระองค์ท่านต้องการเข้าสมาธิ บางครั้งก็อยู่ปรนิบัติสมเด็จพระสังฆราชซึ่งถือเป็นอาจารย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อ
-ลองของ ครั้งหนึ่งหลังจากหลวงพ่อไปอินเดียแล้วกลับมาเมืองไทยได้ไม่นานมีพระสงฆ์จากศรีลังกาตามมาหาที่วัด เมื่อมาถึงที่วัดไม่พูดพล่ามทำเพลงจัดแจงนั่งท่าทำสมาธิโดยหันหน้าเข้าหากุฎิหลวงพ่อใช้เวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ แต่พอหลวงพ่อเปิดประตูออกมาพระรูปนั้นถึงกับต้องก้มกราบขอขมาหลวงพ่อแล้วพูดว่า ผมสู้ท่านได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องนี้จากการสอบถามพระรูปนั้นคือ รองสมเด็จพระสังฆราชของประเทศสรีลังกา ท่านได้ไปเห็นหลวงพ่อของเราเขียนตำราดูฤกษ์ดูยามจะใช่ตำราพรหมชาติหรือไม่ผมไม่แน่ใจ ว่าเป็นตำราเดียวกันกับของศรีลังกา ซึ่งจะหาคนมีความรู้เรื่องนี้ยากมาก แต่สุดท้ายคือการพิสูจน์ว่าใครจะแข็งกว่ากัน
-ปล.คงทิ้งไว้เท่านี้ก่อนแล้วจะกลับมาเล่าใหม่ ถ้าสงสัยติดต่อกลับเบอร์ 0890748797 ร.อ.พรเทพ

 

สาธุ กราบหลวงพ่อครับ