ระดับการพัฒนาชีวิตมนุษย์ 3 ขั้น

เราแบ่งขั้นการพัฒนาของสังคมมนุษย์ได้ ตามระดับการพัฒนาชีวิตของคนเป็น ๓ ขั้น คือ


๑. ระดับปุถุชนดิบ ที่มนุษย์ทำการตามความชอบใจ หรือไม่ชอบใจของตน ใช้กำลังกายกำลังแขน (กายพละ, พาหุพละ) เป็นอำนาจ ทำร้าย ทำลาย แย่งชิง ข่มขี่ ข่มเหง ครอบงำกัน

ในระดับนี้ มนุษย์ไม่มีความเสมอภาค แต่มีสภาพข่มขี่ครอบงำกัน

๒. ระดับนิติธรรม ที่มนุษย์มีปัญญาและใช้ปัญญาบนฐานของคุณธรรมอันเกิดจากการที่ได้พัฒนาจิตใจ ขึ้นมาบ้างแล้ว บัญญัติจัดตั้งวางกฎเกณฑ์กติกาเป็นระเบียบระบบแบบแผน โดยตกลงที่จะอยู่ร่วมกันตามบัญญัตินั้น ไม่ถืออำนาจด้วยกายพละ หรือพาหุพละที่เคยใช้ทำการตามความชอบใจหรือไม่ชอบใจของตน เป็นอันอยู่กันด้วยนิติธรรม หรือเอานิติธรรมเป็นอำนาจ นับถือกฎหมายเป็นผู้ปกครอง หรือให้รัฐอยู่ใต้กฎหมาย เป็นนิติรัฐ หรืออะไรทำนองนั้น สุดแต่สมมติ คือ ตกลงกันแล้วก็บัญญัติไป

ในระดับนี้ มนุษย์ได้รับความเสมอภาคตามบัญญัติโดยนิติธรรม แต่ยังค่อนไปในทางที่จะเป็นความเสมอ แบบเพ่งจ้องแย่งชิงความเท่ากัน


๓. ระดับอริยธรรม ที่ว่าเมื่อมนุษย์ผู้มีปัญญาบัญญัติจัดตั้งวางระบบให้สังคมอยู่กันด้วย นิติธรรม มีนิติธรรมเป็นอำนาจขึ้นมาได้ เหล่ามนุษย์ก็พัฒนาตนขึ้นมา ให้ตัวเองมีชีวิตจิตปัญญาที่สอดสมกลมกลืนเข้ากับนิติธรรมที่บัญญัติจัดตั้ง นั้นได้ โดยสามารถและพร้อมที่จะเป็นอยู่ทำการตามบัญญัติทั้งหลายเหมือนมีนิติธรรมอยู่ในตัวเอง ให้บัญญัติเป็นเพียงข้อที่ตกลงหมายรู้ร่วมกันว่าจะอยู่จะทำอะไรกันอย่างไร สมตามความหมายที่แท้จริงของมัน มิใช่เป็นเครื่องกำหนดกดบังคับจำใจฝืนทำ

ในระดับนี้ มนุษย์มีความเสมอภาคโดยธรรม เต็มความหมายของจิตปัญญาที่ได้พัฒนาแล้ว เป็นความเสมอแบบสมาน หรือเสมอแท้จริง

แน่นอนว่า เราย่อมหวังให้สังคมมนุษย์พัฒนาขึ้นมาถึงระดับที่ ๓ อันนับได้ว่า เป็นสังคมที่ดีอย่างมั่นใจ เป็นที่ซึ่งมวลมนุษย์มีความเสมอและอยู่กันอย่างสมาน ที่เรียกว่า เป็นเสมอแบบสมาน หรือเสมอ - สมาน รวมและร่วมกันได้จริงในความสามัคคี

 

พุกล่ายลี พุกล่ายลี...ลื่อ.พุกล่ายลี อั้วเห็งล่วยหมกเลย...อะคริๆ

 

ฮั่นแน่............. สุเทพ มาเชียว

ต่อม ระเบิด

 

เพียงเท่านั้น สหายทั้งสองก็พอเห็นสภาพสังคมรวมๆแล้ว เชิญท่านทั้งสอง มองออกไปในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน ณ ขณะนี้สิ ดูสิว่าคนอยู่ระดับไหน ใน ๓ ระดับนั้น

 

ขอบคุง ขอบคุง อั้วม่ายล่ายพุก ท่านเจ้าคุณประยุทธ์ท่านพูดท่านว่าไว้ ผงอาวมาบกโต่ (kiss)

 

เชยครับ

ธรรมะของพระพุทธองค์ ไม่ใช่ ปรัชญาการปกครอง
ไม่ใช่เครื่องมือ เอาไปรองรับ โลกแห่งกิเลส เราจะ
ไม่เอา สัทธรรม ไปทำให้เป็นของต่ำ


โลก จะได้ประโยชน์จากธรรมหรือไม่ เราจะไม่เข้าไปกะเกณฑ์
แบบ คนที่จมความคิด อย่างคนไม่รู้โลกตามความเป็นจริงแบบนั้น

โลกตามความเป็นจริง ในแง่ของธรรมแล้ว เป็น อนัตตา เข้าไป
กะเกณฑ์ไม่ได้

ผู้ทีฉลาดในการกำหนดรู้ทุกขที่ถูกวิธีเท่านั้น คือ ทราบชัดความเป็น
ปัจจัตตังของทุกข ถึงจะ รับสัทธรรมสู่หัวใจได้

เมื่อบุคคลใด รองรับสัทธรรมได้ ชนิดที่เป็น นาบุญ โลกธาตุ(ไม่ใช่แค่โลกกลมๆ
แต่จะสะเทือนไปทั้งจักรวาล ทั่วถึงพุทธเกษตร ) จะได้รับประโยชน์โดยไม่ต้อง
ร้องขอ

 

โอ้ไปไกล ถึงพุทธเกษตรเลย คิกๆๆ แต่ช่างเถอะ อยากไปไหนก็ไป ไปที่ชอบๆ

แต่ขอถามสัทธรรมหน่อยอะไรน่า

 

....ผมยิ่งไม่เข้าใจ คุณ เข้าไปอีก ....เจตนา ของ กท นี้คืออะไร

 

ก็คือกระทู้สนทนาไง คิกๆๆ

 

เอกวีร์หายไปไหน

 

นิวรณ์ บุคคลทั่วไป 3 คน เอกวีร์ บุญยง และ paetrix อะไรกันนักก้นหนานิ อิๆๆ

 

....ผมไม่เข้าใจของคุณยิ่ง .... กท นี้เจตนาคืออะไร เข้าไปอีก

 

ยิ่งสังเกตดูไปๆ ความไร้สาระยิ่งปรากฏชัดขึ้นๆ

 

.........อันที่จริง ผมไม่เข้าใจว่า...คุรคิดว่า บทความที่คุณ เอามานี้ มีดีที่ตรงใหน จนคุณประทับใจจนเอามา โพสต์....ถ้า ถ้า...ในโลก นี้มี คนที่เรียกว่า อริยธรรม ปนอยู่กับคน ที่เรียกว่าอะไรดี ที่เหลือนะ.....ในความเห็นของผมนะครับ...การปกครองให้เกิดความสงบเรียบร้อย กับ อริยะบุคคล มันคนละเรื่อง...ยกตัวอย่างมันมีประเทศบางประเทศทางยุโรป เช่น เดนมาร์ค ที่ปกครองแบบรัฐสหกรณ์ มีอะไรก็ แชรื กัน ใครรวย ใครได้รายได้มาก ยิ่งโดนภาษี เยอะ...เดนมาร์ค (หรือล่าสุด เยอรมันบอกว่าประเทสเขาหมดปัญหาเรื่องคนจน คือไม่มีคนจน)....บอกได้เลย ว่า สองประเทสที่ว่ามานะมี คน ถ่อย แน่นอน แต่เขาปกครองกันได้เพราะ เขาร่วมมือกันสร้างระบบการปกครองเท่านั้นเอง ครับ ไม่ใช่ จะกลายเป็นคนมีอริยะ อะไรหนักหนา

 

อริยะ ตามความเข้าใจของคุณ ยังไงครับ

 

.................มันเป็นเรื่องปัจเจกแน่นอนครับ อริยะ ไม่จำเป็นต้องรวมหมู่

 

ถามความหมาย

 

รอคำตอบอยู่นะครับ สัทธรรม หมายถึงอะไรที่พูดนั่นน่า

 

ผมเริ่มมึนใครสลับไอดีใคร
ชื่อคนนี้ แต่คนนั้นพิมพ์ มึนเลย ระลึกไม่ตรง
สติสตางค์หาย ท่าทางต้องไปจูนเครื่องใหม่

 

ถามความหมาย เพื่ออะไรละครับ....คุณคิดว่า ในช่วงชีวืต คุณ ประสพการณ์ชีวิตของคุณ..หรอเอากว้างกว่านั้นก็ได้เอา ในช่วงประวัติศาสตร์ตั้งแต่เริ่มสังคมมนุษยมาเลย....มีใครบ้าง มีสังคมใหนบ้าง มีคนใกล้ชิดคุรคนใหนบ้าง หรอ ประสพการณส่วนตัวของคุณ ที่ พบกับ คำว่า "อริยะ" ที่ว่า.....แต่ ถ้า คุณนึกไม่ออก ไม่เคยเจอ หรือเจอแล้วผ่านไปแล้ว(อนิจจัง) หรือน้อยจนไม่สังเกตุเห็น....คุณว่าคุณต้องรอ...รอ รอ เพื่อเจอกับสิ่งที่ว่า นี้เหรอ?...มัน...สุดท้ายก็ ว่างเปล๊า.... ไป มั้ยครับ