ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

จะพูดสั้นๆ ง่ายๆ ว่า

ถ้าโลกและจักรวาลธาตุคือ ธาตุรู้ของมัน(วัฏกะสงสาร)

ร่างกายเรา มีกายใจที่เกิดมามีธาตุรู้ผสมอยู่ อยากหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร ก็วางคืนธาตุรู้ในกายใจนั้น วางคืนแก่โลกและจักรวาล ซะ แล้ว กายใจเราก็จะหมดอายุขัยตามธรรมชาติไปเอง แค่นี้ (นิยาม)อิอิ

ส่วนวิธีการ ง่ายๆ คือ ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ตามธรรมชาติ แค่เนี๊ยะ

 

พรุ่งนี้ วันอาทิตย์ จะเขียนเรื่อง กสิณไฟ(ไฟนรกโลกันต์)

วันนี้ ไปก่อนนะจ๊ะ

คนที่ทำกสิณนี้ได้ ต้องผ่านหลุมดำไปได้ก่อน

เสือไกล้ออกจากถ้ำแล้ว รอหน่อยนะ
ชาวอโยธยา

พอสิงห์ออกจากถ้ำ จะเป็นหนังบู๊ผสมดราม่า
เตรียมทิชชู่รอเลยนะ

 

นางในฝัน

 

ชอบจ้ะ ชอบ ตามอ่านอยู่ ครบเกือบทุกรสเลย เลิฟสตอรี่ ดราม่า แอคชั่น ไซ-ไฟ แอดเวนเจอร์ ฮอร์โรร์ ยังขาดแต่ตลกขบขันแค่นั้นเอง แสงมี สีมี ส่วน เสียง(นึกเอา) ได้อรรถรส เชิญจ้ะๆ ฝันต่อๆนะ เค้าไม่มีปัญญาจะฝันขนาดนี้เลยจ้ะ แค่ฝันอะไรนิดๆหน่อยก็เล่าไม่ค่อยถูกอีกตะหาก เรียบเรียงลำดับความก็แย่ น้องเล่าได้ขนาดนี้ เยี่ยมมากๆจ้ะ
เพียงแต่เสียดายจัง เวลาใครฝึกอะไรๆที่เริ่ดๆได้ มันยังมีข้อขัดข้องตรงที่ ร่างกายกับจิตมักไม่สอดคล้องสมดุลย์ซะนี่ พอจิตทะลุทลวงไปได้ ร่างกายอันซับซ้อนแต่อ่อนแอของคนกลับรวนซะอีก ในอนัตจักวาลนี้ มีพลังอะไรต่อมิอะไรมากมายเกินความคาดหมายของผู้ที่ยังไปไม่ถึงเช่นตัวพี่นี้ เสียจริงๆ อาศัยแต่แอบอ่านประสบการณ์ของดวงจิตเก่าแก่(รึปล่าว)ที่ได้เคยฝึกบำเพ็ญมา และเล่าสู่กันฟังนี้แล ก็ตื่นตาตื่นใจ ตามประสาเบบี๊ๆ....แท้งส์หลายๆจ้ะ(kiss)

 

เมื่อคืนฝันไปว่า มีชายชุดดำตามล่า ขึ้นเขา บุกน้ำ ลุยไฟ

โหวเล่าไปแค่นี้ ตามกันมาตรึมเลย จะมาชวนไปเป็นหัวหน้าอสูร

บ้าเหรอ เลยบอกว่าให้ไปหาท่านพี่นพการแทน เลยยอมกลับ

๕๕๕

ตลกวันละนิดจิตแจ่มใส

ว่าแต่ นพการหายไปไหน ไปช่วยคน หรือว่า..

 

ความฝันคั่นเวลา เมื่อไม่นานนี้

ฝันว่าไปที่โล่งกว้าง คล้ายทะเลทราย มีลมพัดหวีดหวิว
ฝุ่นทรายนั้นเป็นสีส้มอมแดง

มองไปเห็นทางขึ้นไปที่เนิน

มีสิ่งก่อสร้างอลังการ เหมือนวังหินยักษ์ เสาสูงตระหง่าน

เลยวิ่งเข้าไปดูไกล้ๆ วังนั้นเป็นหินสีชมพู แต่พอเดินเข้าไปด้านใน

พบคนงานมากมาย เหมือนกำลังก่อสร้างอยู่

ทุกคนก้มหน้าไม่ยอมสบตาเรา

วังนั้นสวยงามมาก มีช่องลม ที่สะท้อนลวดลายลงมาที่พื้น

เลยเดินออกมาหน้าวัง

เจอน้ำพุสีชมพูขนาดยักษ์ ฐานน้ำพุเป็นแท่นหิน

แล้วน้ำก็แห้งไป เราเดินไปถามคนที่กำลังทำงานแถวนั้น

ที่นี่ที่ไหน เค้าสร้างไว้ทำอะไร ตอนเสร็จแล้วขอมาเยี่ยมอีกได้มั้ยคะ

ผู้ชายคนนั้นที่ทำงานอยู่หันมา ตัวเขียวอ่อน ตาเป็นสีเทา

เฮ้ย อสูร ทุกตนที่ทำงานเป็นอสูร

วังนี้รอนายหญิงกลับมา เมื่อท่านกลับมา มันจะสวยงามอีกครั้ง

แล้วในจิตเราก็เห็นภาพวังนั้นสมบูรณ์

น้ำตก เสียงนกร้อง อุทยานสวรรค์ นกยูง แสงสีรุ้งที่ตกกระทบทางเดิน

ท้องฟ้าอันงดงาม

แล้วเราก็ตื่น

 

หลังจากนั้น หลายคืน ก็ฝันไป เป็นผญ อินเดีย
ใส่ชุดสีชมพู เป็นชุดที่งดงามมาก
ประดับด้วยเครื่องทองเพชร
ผมดำยาว กลิ่นกายนางหอมกว่าน้ำหอมใดๆ

กริยาการเดิน ของนางมันงดงามชดช้อยมาก
ดวงตาของนาน ราวกับเพชร
มันหวาน แวววาว ระยิบระยับ
นางฟ้าที่เคยเห็นก็ไม่เทียบได้
งดงามเย้ายวน อ่อนหวาน
ยิ่งมอง ยิ่งหลง
เราไปที่วังนั้นอีกหลายครั้ง

แต่ตอนที่ไป วังสมบูรณ์แล้ว
เมื่อมองใกล้ หินนั้นเป็นสีชมพูอมส้ม
มีนกยูง สีสวยงามมาก ดูเชื่อง
เราชอบพูดคุยกับนกยูง
และยังมีนกฮูกสีขาว แต่ไหงบินมากลางวัน
นัยน์ตาของนก ดูเฉลียวฉลาด สดใส
นกยูงพูดได้ บางตนก็ขนสีขาว
มีประกายสีรุ้ง บางตนก็มีรัศมีนวลๆ สีขาวเปล่งออกมา
แดดอ่อนๆ สีรุ้ง ทอแสงลงมา ตกกระทบกับน้ำพุกลางสวน

สวนนั้นสวยงามเกินบรรยาย ประกอบด้วยไม้ดอก สีชมพู สีส้ม คล้ายกล้วยไม้ แต่พุ่มดอกใหญ่สวยมาก

ผญในฝันที่เราฝันถึง งดงามมาก ความงามของนางเหมือนจันทราบนฟากฟ้า

 

@btme จับเส้นพลังงานแล้วเป็นเช่นไรบ้าง ???

ไม่มีคนคุยด้วย
:'''(

 

คืนนี้พบกันเพลาสามทุ่ม เพลานี้มากินหมูกะทะเพิ่มพลัง 555

วันนี้กายในเพลียมาก หลับทั้งวัน


ตื่นมายังเห็นแสงไฟเป็นสีรุ้ง งานเข้า ตาอักเสบ

 

เมื่อเกิดหลุมดำขึ้น ในฐานกลางกาย
สิงห์รู้สึกราวกลับพลังงานทั้งหมดจะถูกดูด เข้าไปในหลุมนั้น

ปฏิกริยาของประจุพลังงานเริ่มไม่คงที่
(ถ้าเป็นแบบนี้ ครูบาอาจารย์ไม่นำพา
อาจเกิดธาตุไฟแตก เลือกกำเดากระฉูด
เป็นอย่างต่ำ ธาตุภายในแตก
ถ้าไม่บ้า ก็โลกหัวใจถามหา)

สิงห์รู้สึกราวกลับบอลพลังงานที่เชื่อมกายหยาบสิงห์
และกายของจิต เส้นเชื่อมจะขาดสะบั้นลง
(เป็นวิธีที่จิตปกป้องตนเอง เราเรียกว่า จิตมันดีดกลับ
ถ้าจิตขาดสะบั้นตอนนี้ มีโอกาสบ้า
หรือคนโบราณว่า ไม่เต็มนั่นเอง)

แต่พลันได้ยินเสียงขรัวอินทร์กล่าว
จงนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง
เป็นฐาน เป็นประธานจิต
จงนึกถึงพระพุทธองค์ ที่ดวงตาที่สาม
จากนั้นกำหนดจิตกลับมาที่ศูนย์กลางกาย
ใช้ดอกบัวมารองรับ
ให้หมุนจักระจากทางขวาอย่างช้าๆ

 

เมื่อดอกบัวที่ศูนย์กลางกาย เริ่มหมุน
หลุมดำจะหมุนอย่างช้าๆ เช่นกัน ในด้านที่สวนกัน สลับกัน
เกิดดุลยภาพในจิต

สู่ความสมดุลย์

รูปพุทธองค์ ตั้งไว้ที่จุดอุณาโลม

พลังงานดอกบัว
ไม่ได้อยู่แค่ที่ศูนย์กลางกาย
ยังอยู่ที่กระหม่อมอีกด้วย

ศูนย์กลางกาย อุณาโลม กระหม่อม
เกิดเป็นสามเหลี่ยมที่วิ่งวนเชื่อมต่อ
พลังงานแห่งเมตตาเป็นฐาน
ที่ทำให้เกิดวัฏจักรอันทรงพลังนี้
หรือจะเรียกปริซึมแห่งจิต
หนักแน่น แทงไม่ทะลุ
ส่งพลังงานอย่างไรมาก็ไม่แตก
มีแต่การสะท้อนกลับ
จึงเกิดพลังที่เรียกว่า

พลังจักรพรรดิ์

โดยมีธาตุลมเป็นฐานการเดินพลังงาน
ใช้ลมปราณถักทอให้แน่น
แล้วใช้กสิณทั้ง 10 มาทำให้เกิดฤทธิ์
ก้าวข้ามมิติพลัง
เกิดหลุมดำ
สร้างความสมดุลย์
สู่สามเหลี่ยมแห่งจิต

แล้วเดินพลังจากก้นกบ
มาใช้ห่อหุ้มสามเหลี่ยม
เกิดชั้นพลังงานซ้อนทับ
ป้องกันการโจมตีจิตได้ทุกรูปแบบ

สิงห์ในตอนนั้น ยังไม่เคยทำอนันตริยกรรมมาก่อน
จึงสามารถตั้งพระพุทธเป็นประธานได้ง่ายและสะดวก
และยังไม่เคยผิดศีลข้อปานาติบาท
จึงทำให้ไม่ติดขัดในทุกประการ

 

เมื่อผ่านพ้น ภาวะสมดุลย์นี้ไปได้ จิตจะประทับอารมณ์นี้
ไม่ว่าตายไปกี่ภพกี่ชาติ
ถ้าไม่พลาดทำบาปอนันตริยกรรม
ก็มีสิทธิ์สำเร็จได้อีกครั้ง
ถ้าผ่านการนั่งสมาธิได้
จนถึงฌาน 4
ครูบาอาจารย์ในสายของเรา
เทพ เทวา จะบันดาลนิมิต
คอยสะกิดสอน ให้ได้พลังนี้
เพื่อเป็นบุญฤทธิ์ ตัดกิเลสอาสวะ พุ่งตรงสู่นิพพาน
ชนะมารทั้งปวง

 

ขนลุก ทำไม ถึงกระหม่อมเลย

ป.ล.นพการ เค้างอนแล้ว ไม่มาช่วยกันเลย
มันกลั่นกรองออกมายากนะเนี่ย

 

ผู้สำเร็จพลังจักรพรรดิ์
หากเรากำหนดจิต ที่จุดอุณาโลมส่องเข้าไป
จะมองเห็นผู้นั้น มีพระพุทธเจ้า คุ้มครอง

เปรียบเหมือน มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
แต่ก็ไม่พ้นกฏแห่งกรรม
หากมารหรืออสูรจะชักนำให้ตกต่ำ
ก็จะทำได้ยาก
เปรียบเหมือนเป็นเชื้อสายเทพเทวา
เป็นผู้ดำรงศาสนาของพุทธองค์

มารและอสูรนั้นย่อมเกรงใจ
บางคนก็สามารถทำให้อสูรและมารสยบอยู่ใต้
อำนาจแห่งจิตได้

เมื่อฟื้นพลังได้ใหม่
สู่สภาวะสมดุลย์ได้ในภพมนุษย์
จะมีอำนาจฤทธิ์เหลือคณา
ท่องไปได้ทั้งสามภพ
ไม่ว่าอสูร มาร จะหลีกเร้น ซ่อนอยู่ที่ใด
ก็ไม่อาจพ้นอำนาจพลังแห่งจักรพรรดิ์ไปได้
ต้องยอมสยบ ศิโรราบ

พลังนี้มีอำนาจยิ่งกว่าอาวุธใด
ในจักรวาล
บรรยายไม่หมด
มนตรา เวทย์ คาถา
ก็ไม่อาจยับยั้งได้

สมคำว่าจักรพรรดิ์แห่งสามโลก

และอานาจแห่งบุญยังพอกพูนทวีค่า
สามารถแผ่อำนาจเมตตาไปได้ทั้งอนันตจักรวาล

เทวดา ที่คุ้มครองพระศรีอริยเมตไตร บนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้
มีพลังเช่นนี้แล

 

เงียบกันทั้งกระทู้ เฮ้อ

ฝันเค้าพิศดารมาก

 

ยังคงเว่อร์ได้อีก อิอิ........อะไรจะปานนั้น

 

อ่านแล้วชักอยากได้พลังแบบนี้มั่งจัง
จะได้ไว้สั่งการ อสูร หรือมาร ได้ ท่าจะเท่ไม่ใช่น้อย

 

ผู้สำเร็จพลังจักรพรรดิ์ ขออนุญาติเอ่ยนาม

คือหลวงพ่อสด เป็นเหตุว่าทำไมพระเครื่องท่านถึงไม่มีใครทำได้เหมือน

ทั้งบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์

วิชาธรรมกายเป็นพื้นฐานของพลังนี้

ในตอนเด็กๆ เคยฝันเห็นท่าน
ไม่รู้จัก แบบไม่มาทางศาสนา
ไปหารูปตอนนั้น ถึงรู้จักท่าน
แบบเด็กผญ ก็เล่นแต่ตุ๊กตาไป

ป.ล.วัดธรรมกายไม่วิจารณ์ แต่ไม่ใช่แนวทางของจารุในปัจจุบันนี้

 

ของชิ้นนี้ ไม่ใช่รุ่นแรก แต่มีค่าทางจิตใจกับจารุมาก

มีผู้ใหญ่ ท่านหนึ่งให้มา ฟรี
ท่านบอกเอาไปใส่กรอบทองนะ
ไปที่ร้าน เจ้าของร้านทองบอก พระดี
เก็บไว้ให้ดีนะ

ก็เลยไปค้นในอากู๋
ก็เลยเก็บไว้อย่างดี

ไว้ให้ลูกชาย
ไม่มีสมบัติจะให้
นอกจากพระในใจ

ตามชื่อ พระของขวัญ

 

อีกองค์ที่ใส่ประจำ
คือพระแก้วมรกต ทรงเครื่องจักรพรรดิ์
ได้มา ฟรี

เวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิมักจะเห็นพระองค์นี้ประจำ
แต่องค์ใหญ่ เหมือนรูปใหญ่นี้