เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ประกาศค่ะ


เดือนนี้มีวันดีๆ 2 ประการอะนะคะ

1. วันขึ้นปีใหม่(จีน)
2. วันวาเลนไทน์ love Love


ดังนี้กะทิจึงมีเบอร์โทรศัพท์ มาทำบุญกองทุนหมอสุวิ เหมือนคราวก่อนอะนะคะ

โดยคราวก่อน เบอร์ที่นำมาทำบุญ จะเน้นเฉพาะผู้ชายไปแล้วชิมิคะ คราวนี้กลับกันค่ะ เบอร์จะเน้นไปที่ผู้หญิงนะคะ (แต่ถ้าเป็นผู้ชายเนี่ยก็ไม่ใช่จะไม่ได้ซะทีเดียว แต่ว่านิสัยพื้นดวงของท่านจะต้องออกไปในทางสวยเลือกได้ หรือกรณียกเว้นที่เป้นคนไข้ของหมอสุวิ ที่ผ่านการสแกนจากหมอแล้วว่า มีผลต่อการรักษาอาการป่วยบางอย่าง) จำนวน 2 เบอร์ ดังนี้ค่ะ

เบอร์แรก 0949632251

เบอร์ที่สอง 0949632261



ผู้ใดสนใจ สามารถแจ้งไว้ได้หลังไมค์ค่ะ

 

เมื่อวันเสาร์ ได้ไปทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ ที่วัดสวนแก้ว
มียอดเงินจากบัญชีกองทุนไถ่ชีวิตสัตว์ ๒๐,๐๐๐.-
และมีผู้ร่วมบริจากที่หน้างาน อีก ๕,๕๐๐.- ร่วมไถ่ชีวิตสัตว์และซื้อต้นไม้ถวายหลวงพ่อ พระพยอม
ยอดเงินที่เห็นในมือหมอสุวิ จึงรวมเป็น ๒๕,๕๐๐.-
ว่าจะหาซองใส่ให้เรียบร้อย หลวงพ่อท่านว่า ไม่ต้องพิธีรีตรองมาก ให้ถวายใส่ลงในขันเลย
แล้วก็ถวายผ้าไตร
พร้องเครื่องบริวารต่างๆ
แล้วตรวจน้ำเลย

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน ชื่อนั่นสำคัญฉะนี้ (จบ(สักทีนะคะ))



สรุป(ไหม) ที่กะทิจะพูดก็คือ การเจ็บป่วยของเราในกฎแห่งกรรมนั่น เท่าที่ทราบมา จะต้องรอระยะเวลาของการเกิด หรือก็คือ ยกตัวอย่างนะคะ

เช่น หากคุณเคยทำใครตกบันไดไว้ในอดีตชาติ ในช่วงอายุเท่าใด ก็จะต้องรอให้คุณมีอายุเท่านั้น หรือใกล้เคียง ในช่วงเวลานั้นๆ ก่อน แล้วถึงคุณจะเจ็บป่วย และการเจ็บป่วยของคุณนั้นอาจกินระยะเวลานานปี เพราะอย่างที่กะทิยกตัวอย่างการตกบันได กว่าที่คนผู้นั้นในอดีตชาติจะหายเจ็บป่วย อาจต้องทุรนทุรายจากการตกเลือด แล้วยังต้องเดินขากระเผลกเป็นเวลานานปี กว่าจะกลับมาเดินได้เป็นปกติ หรืออาจเดินขากระเผลกบิดเบี้ยวผิดรูปไปตลดอชีวิตของเขา ซึ่งเราในชาติปัจจุบันไม่ได้รู้เลย

ดังนี้การทำบุญให้และการกล่าวขอขมาและขออโหสิกรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น หลายคนอาจสงสัยไปอีกว่า “ฉันก็ทำบุญให้และกล่าวขอขมา และขออโหสิกรรมกับนายเวรของตนไปแล้ว ไม่เห็นอาการใดๆ จะดีขึ้นบ้างเลย”

คุณอย่าลืมนะคะ ว่าเขาต้องทรมารจากการเจ็บป่วยนั้นอยู่เป็นแรมปี และอาจถึงขั้นเดินขากระเผลกไปตลอดชีวิตของเขา การที่คุณทำบุญให้เขาและกล่าวขอขมาและอโหสิกรรมเพียงครั้งเดียว มันจะมีค่าเทียบเท่ากับสิ่งที่เขาอาจได้รับผลทั้งชีวิตเขาได้อย่างไร

ดังนี้จึงต้องอาศัยความต่อเนื่องและความบ่อยของคุณในการทำบุญให้กับนายเวรของคุณด้วย เป็นสิ่งสำคัญค่ะ

สรุปอีกทีว่า ชื่อและนามสกุลของคุณจึงสำคัญฉะนี้นะคะ ดังนี้หากใครคิดจะเปลี่ยนชื่อ-สกุล ก็ขอให้คุณตระหนักทบทวนให้ดี ว่าชื่อนี้คุณได้แต่ใดมา และหรือหากเปลี่ยนไปแล้ว คุณจะทำอย่างไรกับกรรมใหม่ที่คุณจะสร้าง และจะทำอย่างไรกับกรรมเก่าที่บางทีนายเวรอาจตามหาคุณไม่เจอ และหรือตามาเจอในภายหลังจนได้



ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิกับองค์สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา มีสมาธิ วิริยะในการฝึกสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา และบุญฤทธิ์ ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงวิญญาณ และขอบุญนี้จงเป็นกุศลผลบุญคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงที่คิดและทำสิ่งใดที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าพ้นภัยจากสิ่งเหล่านี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

ขอถามคุณกะทิ นะคะ การเปลี่ยนชื่อ นามสกุลนี้ ต้องเป็นการตั้งใจเปลี่ยนใช่ไหมคะ ถ้าเปลี่ยนเพราะกฏหมายกำหนด เช่น กฏหมายเก่าหญิงแต่งงานแล้วจะใช้นามสกุลสามี กรณีนี้ไม่ได้ตั้งใจหนีเจ้ากรรมแต่ทำเพราะกฏหมายกำหนด

 

แม่นค่ะ การเปลี่ยนสกุลตามแฟน ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนเพราะเราตั้งใจ แต่ในหลายๆ ครั้ง เป็นไปตามกรรมลิขิตที่เขียนไว้ก่อนอยู่แล้วค่ะ ว่าคุณคนนี้จะต้องแต่งงานกับคุณคนนี้ เพื่อใช้กรรมร่วมกันบางอย่าง เป็นสิ่งที่ลิขิตไว้

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งบางกรณีของนักบวช แม่ชี (ที่บวชบำเพ็ญบารมี และฆาระวาส(เขียนผิดต้องขออภัยนะคะ) ที่ตั้งจิตอธิษฐานบุญขอรักษาพรหมจรรย์ การมีกรรมลิขิตให้มีคู่ (มองเห็นกงเกวียนกรรมเกวียน ล้อแห่งกรรมที่หมุนไปไม่สิ้นสุด) ก็สามารถกำหนดจิต (ตัดใจ) เพื่อละได้เหมือนกัน


อย่างกะทิเธอเนี่ย เป็นมาตั้งแต่เด็ก คือ ตั้งแต่จำความได้ คุณเธอก็ตั้งหน้าตั้งตาอธิษฐานจิต ขอเป็นพรหมจรรย์ ยิ่งสมัยยังหน่อมแน้ม มีคนมาจีบของแปลก(เพราะกะทิเธอเป็นผู้หญิงแปลกจริงๆ แต่งตัวไม่เป็น) ก็ยังมีคนมาจีบ มาสนใจ เธอก็ชอบอะนะคะ เป็นไปตามธรรมชาติที่มีคนมาสนใจ เอาใจเรา


แต่ทว่า กะทิเธอมองให้ไกลๆ มองรอบด้าน เธอจึงขอตัดสัญญากรรม(ฉับๆ) ไม่ขอต่อสัญญากรรมใดๆ ในการมีกรรมคู่ชีวิต อย่างนี้หนะค่ะ ทำได้เหมือนกันนะคะ แต่ต้องใจเด็ดหน่อยนะคะ เพราะธรรมชาติมนุษย์มักอาลัยค่ะ


สำหรับคนที่แต่งงาน เปลี่ยนนามสกุล แน่นอนค่ะ ว่าย่อมมีผลกระทบกับตนเองอย่างแน่นอน ชีวิตย่อมเปลี่ยนไปด้วย มีหน้าที่ต้องรับผิด รับชอบ มากขึ้น ต้องอดทนขึ้น หรือ เริ่มไม่อดทนเลย บางคนก็มีน้องเล็กๆ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น ตัวเลขของชื่อ-สกุล จะมีผลแบบใหม่ในตัวของมัน


ในสมัยก่อน การแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย มีการเปลี่ยนเลขที่ในบัตร ปชช. ด้วยนะ จึงเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนชีวิตถึงสองเด่งเลยค่ะ (อันนี้รู้มาจากแม่ของเพื่อน ที่เอาบัตรปชช. มาให้กะทิเธอดูนะคะ) นิสัยบางอย่าง ก่อนแต่งและหลังแต่ง จึงเปลี่ยนไปด้วย แต่สมัยนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนเลขบัตร ปชช. แล้วล่ะมั้งอะนะคะท่านผู้อ่าน ใช่ไหมคะ

 

ขอบคุณค่ะ ท่าจะมีส่วนจริงค่ะ

 

นิทานคั่นเวลา


ต้นไม้แก่ ขอฝนจากเมฆก้อนน้อย


เมฆก้อนน้อยตอบเพียงว่า "น้ำฝนมีอยู่น้อย กลัวว่ามันคงจะไม่พอ...ให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ"







วันต่อมา...


เมฆก้อนน้อยก็ยังคง บอกเช่นเดิม มันน้อยไป จึงไม่พร้อมที่จะให้...!!!


เมฆก้อนน้อยจึงเดินทาง และพยายามสะสมฝน เพื่อที่จะให้มันมากพอ...!!!


พอที่จะทำให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ



เมื่อมีปริมาณมากพอ เมฆน้อยจึงกลับมา...



แต่สิ่งที่พบข้างหน้า มีเพียงซากต้นไม้แก่


ที่ตายแล้ว...!!!





เมฆน้อยได้แต่ร้องไห้ แล้วถามว่า...ทำไม ?



ความพยายามของฉัน มันไม่มีค่าเลยเหรอ...!?!







ชายหนุ่มที่นั่งใต้ต้นไม้ จึงได้แหงนหน้า........แล้วบอกเมฆน้อยไปว่า...


"การที่เราจะให้อะไร แก่ใครสักคนที่เรารัก...มันไม่ต้องรอให้มากพอ หรือรอความพร้อมอะไรหรอก"


"การให้เท่าที่มี.....ก็ทำให้คนรับ ชื่นหัวใจได้..... (heart)"



" ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แต่มันก็มีเวลาเป็นเงื่อนไข !!! "


" อย่าไปรอให้รวย !!! ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก อย่าไปรอให้พร้อม !!! ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก"


"เพราะคนที่เรารัก........... อาจไม่มีเวลามากพอที่รอเรา !!! "



แล้วก่อนที่ต้นไม้แก่จะจากไป เขาฝากบอกเธอไว้ว่า ..



"ถ้าเห็นเธอผ่านมา ให้บอกเธอว่า..เขารักเธอ "



เมฆน้อยได้แต่หลั่งน้ำตา ออกมาเป็นเม็ดฝนอย่างไม่ขาดสาย..ให้กับต้นไม้



ที่ไม่มีวันแตกใบให้ได้เห็น อีกต่อไป..ตลอดกาล !!!



บทความนี้ เตือนสติได้ดีมาก...ในแง่ของสิ่งที่เรามักจะมองข้าม ซึ่งเขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน เขาเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนบทความนี้ขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2001(ในวันที่ตึกเวิรด์เทรดถล่ม)หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย..!!!



ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ !!!


ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น แต่ความอดกลั้นน้อยลง...!!!



เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ ครอบครัวเรากลับเล็กลง...!!!



เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง...!!!



เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น...!!!



เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า..............แค่การข้ามถนนไปทักทาย
เพื่อนบ้านกลับยากเย็น...!!!



เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจ กลับไม่อาจสัมผัสถึง...!!!



เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง...!!!



เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพแย่ลง...!!!





ทุกวันนี้ ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น


ดังนั้นจากนี้ไปขอให้พวกเรา...


อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่า เพื่อใช้โอกาสพิเศษ...!!!



เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่



คือโอกาสที่พิเศษสุดแล้ว...!!!



จงแสวงหา...การหยั่งรู้ !!!



จงนั่งตรงระเบียงบ้าน เพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความอยาก




จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่รักให้มากขึ้น




กินอาหารให้อร่อย.......



ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป



ชีวิตคือ โซ่ห่วงของนาที แห่งความสุข ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด...!!!




เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย



น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้



เอาคำพูดที่ว่า "สักวันหนึ่ง……" ออกไปเสียจากพจนานุกรม



บอกคนที่เรารักทุกคนว่า เรารักพวกเขาเหล่านั้น แค่ไหน !



อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตาม..... ที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น



ทุกวัน..ทุกชั่วโมง..ทุกนาที มีความหมาย...เราไม่อาจรู้เลยว่าเมื่อไร? มันจะสิ้นสุดลง !



อ้างอิง : เพื่อนส่งมาให้อ่านหนะค่ะ

 

เป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดเตือนใจ ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อให้เพื่อนๆอ่านนะคะ

 

นิทานที่จะนำเสนอต่อไป กะทิเธอกะไว้ว่า จะเล่าต่อด้วย นิทาน ตอน ท่านกรรมลิขิต อะนะคะ (หมอสุวิอย่าเพิ่งเข้ามาเสริมนะคะ ขอข้าเจ้านำมาเสนอก่อน แล้วท่านค่อยสนอง เอ้ยยย ค่อยเข้ามาเขียนเสริมภายหลังก้ยังทันค่ะ)


แต่ทว่า ตุ่ง ตุง ตุง ตุ้ง กะทิเธอเปลี่ยนจายแย้ว อยากจะนำเสนอ อะไรๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวเลข ที่เพิ่งจะคิดนิทานออก ให้นำมาเล่ากล่าวถึงให้จบภายในมัวนเดียวไปก่อน (แต่ว่าจะจบไหม? หากว่าเกิดนึกยิบย่อย หยุมหยิม หยุบหยับ ขึ้นมาได้อีก)


ว่าแล้ว เรามาเข้านิทานกันดีกว่าค่ะ



นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน บ้านเลขที่ปรับชีวิต



นิสัยของกะทิเธออย่างที่ผู้อ่านคงพอจะทราบอย่างหนึ่งคือ เธอเป็นคนช่างสังเกต ผู้ใช้บริการที่กะทิเธอเคยช่วยจัดหาเบอร์โทรศัพท์ให้ใหม่ โดยปรกติเธอจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ เหมือนๆ กันกับที่หมอสุวิส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์นั่นเองค่ะ


และเพราะว่าเราส่งของให้ผู้มารับบริการผ่านทางไปรษณีย์นี่เอง ทำให้กะทิเธอจะต้องผ่านหูผ่านตากับบ้านเลขที่ของผู้ที่ต้องการให้จัดส่งด้วย แต่อย่ามาถามย้อนหลังนะคะ ว่ากะทิเธอรู้จักบ้านช่อง รวมถึงเบอร์โทรต่างๆ และรวมไปถึงเลขบัตร ปขช. ของผู้ที่มาขอใช้บริการด้วย เพราะกะทิเธอจำอะไรไม่ได้หลังจากนั้นเลยสักอย่าง เพราะกะทิเธอเป็นปลาทอง มีความจำสั้นค่ะ แต่ระลึกรู้ยาว


นั่นหมายความว่า เธอจะจำชื่อและใบหน้าของคนอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้นาน เอ๋อๆ ในบางที บางครั้งออกแนวหลงๆ ตอนเด็กๆ ที่ก็หลงทิศบ่อยๆ เอาเป็นว่ามาเป็นพฤติกรรมประหลาด เด็กอปรกติ อะไรก็ช่างมันเถอะ เราไปเข้านิทานของเราต่อนะคะ


และอีกสองประการหนึ่งคือ ...

1. ในแต่ละวันกะทิเธอเองก็มีงานที่ต้องทำ และการจำอะไรต่างๆ ที่มีผู้เข้ามาปรึกษา มันเยะแยะเต็มหัวไปหมด ดังนั้นการทำจิตให้ว่าง จึงเป็นความกระหายที่สำคัญต่อเธอยิ่ง

เหตุผล เพราะ นี่คือสิ่งเดียว ที่จะทำให้จิตยังคงสภาวะของการเข้าถึงพลังงานในการชาร์จแบตเตอรี่ อธิบายง่ายๆ ก็คือ เป็นพลัง เช่น เมื่อกะทิเธอถูกถามจากหมอสุวิ ว่า “กะทิดูซิว่า...คนไข้...คนนี้เป็นยังไง?” (หรือที่กะทิเธอเรียกว่า "งานเข้า") จึงจะพอมีกำลังสมาธิจิต มีแบตเตอรรี่ ควักจากแบตสำรองตรงนี้มาใช้ได้

ใช่แล้วค่ะ เหตุนี้พลังของความว่าง ความสงบ จึงมีความสำคัญ ที่เปรียบเหมือนพลังอันมหาศาลของช่องว่างจากจักรวาล ที่กะทิเธอโหยหา (เพราะต้องเรียกพลังจากการฝึกตรงนี้นำเอามาใช้) เพราะเธอไม่ได้ทำสมาธิปิดตาเพียงอย่างเดียว ในแต่ละวันเธอเน้นไปที่การทำสมาธิเปิดตาเป็นหลัก ในทุกๆ ครั้งที่กะทิเธอ Focus กำหนดจิต นึกคำนึงถึงสมาธิลืมตา

ดังนี้เรื่องต่างๆ ที่วิ่งเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องการจดจำชื่อคน ใบหน้า ที่อยู่ เบอร์โทร เบอร์บ้าน เบอร์รถ เลขบัตร ฯลฯ ของใครอย่างใด (ถ้าไม่ใช่งานประจำที่ต้องทำส่งหัวหน้างาน หรือผู้ร่วมงาน) จึงเป็นเรื่องที่กะทิเธอ เพียงแค่ตาดู แล้วทุกอย่างก็จบตรงนั้น(เป็นพวกปลาทองหนะคะ อิอิ)


2. เหตุที่เธอไม่จดจำเหล่านี้อีกประการหนึ่งคือ เพราะการที่กะทิเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยปรับชีวิตใครด้วยการแนะนำการเปลี่ยนเบอร์ต่างๆ เหล่านี้ มีผลทำให้เธอมักได้รับกรรมบางอย่างไม่มากก็น้อยจากผู้มาขอใช้บริการ (และก็มักเดือดร้อนหมอสุวิให้ต้องช่วยกะทิเธอ)

ทั้งนี้เพราะในแต่ละเบอร์นั่น ต่างก็มี "นายเวร" ของเบอร์นั้นๆ อยู่ ซึ่ง สามารถให้คุณ และ ให้โทษ กับผู้ที่เป็นเจ้าของเบอร์เหล่านั่น ดังนี้กะทิจึง ไม่อยาก จดจำ เบอร์ของใคร เลขบัตร ของใคร ไว้ในสมองนั่นเอง





ตั้งแต่กะทิเธอเริ่มทำนายทายทักผู้คน ผ่านตัวเลข เธอได้พัฒนาจากการดูเบอร์โทรศัพท์ มาเป็นการดูเลขบัตร ดูทะเบียนรถ ดูบ้านเลขที่ ดูชื่อ-สกุล ฯลฯ ดังกล่าวข้างต้น


การได้ผ่านตากับบ้านเลขที่ในการจัดส่งเบอร์ที่ผู้ใช้บริการรอรับอยู่ ในหลายๆ ครั้ง กะทิเธออดใจไม่ได้ที่จะแนะนำให้ปรับเบอร์บ้านเลขที่ด้วย


แต่ก็นั่นแหละ เนื่องจากว่ามันเป็นผลมาจากการพัฒนาทักษะของกะทิ ทำให้ในขั้นต้น เธอจะดูและแนะการปรับให้ฟรี ไม่มีค่าบริการ ถือว่าเป็นบริการแถมแก่ลูกค้าของเธอ


แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งนี้ได้ไปปรับเปลี่ยนชีวิตของคนทั้งบ้านให้ดีขึ้นอย่างไร ก็เท่ากับตัวกะทิเธอเอง จะได้รับผลที่คนในบ้านควรได้รับมาตกไว้ที่เธอไม่มากก็น้อยด้วย


/ยังมีต่อค่ะ



ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิกับองค์สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา มีสมาธิ วิริยะในการฝึกสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา และบุญฤทธิ์ ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงวิญญาณ และขอบุญนี้จงเป็นกุศลผลบุญคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงที่คิดและทำสิ่งใดที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าพ้นภัยจากสิ่งเหล่านี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน บ้านเลขที่ปรับชีวิต (ต่อ)


คุณเล็ก เป็นหนึ่งในผู้สนใจบริการแนะนำการปรับเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์จากกะทิเธอคนหนึ่ง ซึ่งกะทิได้เห็นบ้านเลขที่ของเธอ แล้วก็อดไม่ได้ (ไม่ไหวจะทน) ที่จะแนะนำการเปลี่ยนเบอร์บ้านเลขที่ด้วย


ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนนะคะ ว่าบ้านเลขที่แต่ละบ้านย่อมมีทั้งจุดเสริม จุดที่ให้ผลดี และไม่ดีแตกต่างกันไป โดยเฉพาะกับเจ้าบ้าน(ผู้ที่ถือชื่อทะเบียนเป็นเจ้าของบ้าน) และยังมีผลยังลูกบ้านตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งแต่ในเรื่องของการงานอาชีพ ไปจนถึงสุขภาพ


ซึ่งในช่วงที่กะทิเธอได้ส่งเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ตกลงกับคุณเล็กไว้ รวมถึงได้แนะนำเรื่องการปรับบ้านเลขที่ เพราะกะทิเธอเห็นว่าจะช่วยในเรื่องการหมุนเวียนสภาพคล่องได้มากกว่าเบอร์บ้านที่มีอยู่เดิม แต่คุณเล็กเธอยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ในระหว่างนั้น แฟนของเธอก็เกิดป่วยหนักถึงขนาดต้องเข้าไปพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู


ในระหว่างนั้นคุณเล็กและกะทิเธอก็ยังคงคุยกันและติดต่อกันตลอด รวมไปถึงคุณเล็กก็ได้ติดต่อกับคุณหมอสุวิด้วย ซึ่งเท่ากับว่าคุณเล็กเธอติดต่อคนสองคนในเวลาเดียวกัน

คุณหมอได้ส่งพลังช่วยแฟนคุณเล็ก (ซึ่งภายหลังกะทิเธอก็ได้เรียนรู้วิธีคล้ายๆ กันนี้กับหมอสุวิมาเหมือนกันนะคะ และได้ลองใช้รักษาทางไกลกับคุณน้าของเธอเอง) แฟนเธอป่วยอยู่หลายอาทิตย์ อาการจึงถึงได้กลับมาดีขึ้น


คุณเล็กหายเงียบไป และก็กลับมาเขียนเล่าเรื่องที่หากเธอจะทำการปรับเบอร์เลขที่บ้าน จำต้องทำอย่างไรบ้าง มีพิธีการใด อย่างไร? ทั้งนี้เธอยังได้บอกอีกว่า ได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาหมอสุวิด้วยแล้ว หมอเห็นว่าโอเค แต่ให้ปรับวิธีการเล็กน้อย ฯลฯ ฯลฯ อะนะคะ


พอกะทิได้ทราบว่า เรื่องการปรับเบอร์เลขที่บ้านได้ไปถึงหูหมอสุวิแล้ว (เพราะเรื่องนี้ในคราวนั้น หรือก่อนหน้านี้ กะทิเธอไม่เคยได้พูดถึง และนำมาปรึกษาหมอสุวิมาก่อนเลย) พอหมอได้ทราบก็เลยเหมือนจะชมเปราะว่ากะทิเธอก้าวหน้าแฮะ (แต่จริงๆ เธอเคยแนะนำให้ผู้อื่นที่เคยเป็นผู้ขอใช้บริการเธอมาก่อนหน้านี้แล้วบ้างบางคน)


หมอก็บอกว่า คำแนะนำที่กะทิเธอให้คุณเล็กไปนั้น นอกจากจะทำให้มีผลต่อคุณเล็กโดยตรงแล้ว ยังมีผลต่อลูกบ้านของคุณเล็ก ซึ่งมีสมาชิกอยู่ด้วยกันหลายคน โดยเฉพาะกับแฟนของเธอที่ป่วยอยู่ ทั้งนี้ความจริงแฟนของเธอจะป่วยหนักมาก แต่พอกะทิเธอแนะนำให้ปรับเลขที่บ้าน อาการที่ว่าหนักของแฟนคุณเล็ก จะทุเลาลงกว่าที่ควรจะเป็น (หมายความว่าจริงๆ แล้ว แฟนจะป่วยหนัก แต่การปรับบ้านเลขที่ตามคำแนะนำของกะทิเธอ ช่วยปรับให้สุขภาพของแฟนเธอดีขึ้น อย่างน้อยก็ดีกว่าที่เขาควรจะเป็น)


และหมอยังกล่าวต่อไปอีกด้วยว่า นอกจากนี้ การปรับบ้านเลขที่นั้น ยังมีผลต่อลูกบ้านคนอื่นๆ ด้วย การปรับเบอร์บ้าน ย่อมส่งผลกระทบต่อคนเหล่านั้น แต่ตัวเลขที่กะทิและนำไป กลับไม่ส่งผลร้ายต่อคนในบ้านคนอื่นๆ เลย นี่คือเหตุที่ทำให้หมอสุวิเธอแปลกใจ ว่ากะทิเธอทำไมล้ำจังบุ้ย ชมไม่ขาดปาก ทำเอากะทิ งง อยู่มิใช้น้อย



/ ยังมีต่อค่ะ




ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิกับองค์สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา มีสมาธิ วิริยะในการฝึกสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา และบุญฤทธิ์ ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงวิญญาณ และขอบุญนี้จงเป็นกุศลผลบุญคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงที่คิดและทำสิ่งใดที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าพ้นภัยจากสิ่งเหล่านี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

ร่วมทำบุญกองทุนไถ่ชีวิตสัตว์+กองทุนยา ครับ .. .

อนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมกองบุญทุกท่านด้วยครับ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน บ้านเลขที่ปรับชีวิต (ต่อ)


สาเหตุที่กะทิเธอ งง ว่าเหตุใดหมอถึงออกรสในการชมกะทิได้ขนาด เพราะอย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า กะทิเธอเคยแนะนำผู้ใช้บริการกับกะทิเธอ(บางรายที่เห็นว่าไม่ไหวจริงๆ อดไม่ได้ที่จะแนะนำช่วยเหลือ) เธอจึงได้เอ่ยปากให้ปรับเลขที่บ้าน และอีกประการหนึ่งคือ แต่เดิมเธอมักดูแต่เรื่องของเบอร์โทรศัพท์ และ เลขบัตรฯ ดังนั้นเรื่องการดูเลขที่บ้านจึงเป็นเสมือนของหวานปิดท้ายอาหารคาว ที่นานๆ จะกิน เอ้ย... จะคำนวณกันสักครั้ง


เหตุเพราะว่ามันมีความซับซ้อนมากกว่าเยอะ พอๆ กันกับการคำนวณชื่อ-สกุลนั้นเอง และเพราะว่ามันซับซ้อน และยุ่งยากกว่า เธอก็เลยไม่ค่อยอยากจะยุ่ง นานน้านนนนน จึงได้จับ ได้ปัดฝุ่นงัดขึ้นมาใช้ เช่นในกรณีของคุณเล็กนี้ จึงมักไม่ค่อยออกตัวเล่าให้ผู้ใดฟัง รวมไปถึงหมอสุวิด้วย


และที่ได้นำมาเล่าไว้นี้เพราะช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเล็ก และเลยเธอได้อนุญาตกะทิให้นำเรื่องต่างๆ มาเล่าให้ผู้อ่านฟังได้หนะคะ.... ♪ ♫ ♪...ก็เลยเล่าสู่กันฟัง...♪♪ ♫



... ล่าสุดคุณเล็กได้เขียนมาเล่าเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอให้กะทิเธอฟัง หลักจากที่มีการทำพิธีปรับเลขที่บ้านไปแล้วว่า...


หลังจากที่ได้ทำพิธีการปรับเปลี่ยนเลขบ้าน โดยเธอได้ทำพิธีขออนุญาตเจ้าที่ ปรับเลขที่บ้านตามที่กะทิเธอแนะนำไปผ่านมาสัก 2 เดือนแล้ว


ในวันหนึ่งเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม เธอกำลังดูละครรอบดึกอยู่ อยู่ๆ ไฟในบ้านก็กระพริบๆๆๆ แล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นที่หน้าบ้าน ปรากฏว่าสายเมนการไฟฟ้าที่จั๊มเข้าบ้านไฟลุกค่ะ และตามมาด้วยการระเบิด น่ากลัวมาก คุณเล็กเธอนึกว่าไฟคงจะไหม้บ้านแน่นอน


แต่ทว่า >>> แทนที่ไฟฟ้าจะวิ่งเข้าบ้าน มันกลับวิ่งออกไปข้างนอก วิ่งตามสายไฟออกไป ระเบิดจนสายไฟตกลงมาหน้าบ้านของเพื่อนบ้านตลอดทั้งซอย เธออธิบายว่า เหมือนในหนังแอคชั่นเลยค่ะ สักครู่การไฟฟ้าจึงเข้ามาตัดไฟ


คุณเล็กเธอนึกถึงเจ้าที่ทันที ยกมือท่วมหัวขอบคุณเจ้าที่ ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าบอกว่า

"แปลก ทำไมไฟวิ่งออกข้างนอก พวกเขาไม่เคยเจอ"


ถ้าไฟวิ่งเข้าบ้านซึ่งมีสามีที่เดินไม่ได้ ดิฉันคงแย่เลยค่ะ คุณเล็กเธอกล่าว


และยังเล่าอีกว่า ถัดมาอีกเดือนเลยทำบุญบ้านอุทิศให้ท่านเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองบ้านค่ะเพื่อขอบคุณท่าน



/ยังมีต่อ




ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิกับองค์สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา มีสมาธิ วิริยะในการฝึกสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา และบุญฤทธิ์ ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงวิญญาณ และขอบุญนี้จงเป็นกุศลผลบุญคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงที่คิดและทำสิ่งใดที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าพ้นภัยจากสิ่งเหล่านี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน บ้านเลขที่ปรับชีวิต (จบ)


และคุณเล็กเธอยังเล่าให้กะทิฟังอีกเรื่องว่า ...


ในวันที่เธอทำบุญบ้าน คุณเล็กได้จุดธูปจะไปไหว้ท่านพระภูมิและยายกับตาเจ้าที่ คุณเล็กเธอนับธูป 9 ดอก ไว้ 2 ชุด พอนับเสร็จก็กลับมานับใหม่เหลือ 8 กับ 9 คุณเล็กเธอจึงหยิบธูปเพิ่มอีก 1 ดอก


พอจุดเสร็จก็คิด “อ้าวทำไมเกินไป 1 ดอก” จริงๆ ค่ะ เป็นอย่างนี้ 2-3 เที่ยว


คุณเล็กคิดว่าสงสัยตัวเองคงจะเบลอ แต่นึกอีกที ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีปัญหานี้เกิดขึ้นเลย คุณเล็กเธอนึกว่าเจ้าที่ใบ้หวยแน่เลย แต่เสียดายที่คุณเล็กเธอไม่ใช่นักเล่นหวย เลยตีตัวเลขไม่เป็น ไม่ถูกค่ะ เรื่องขำๆ ค่ะ คุณเล็กกล่าวในตอนท้าย


และกะทิก็ขอเสริมว่า กะทิไม่ส่งเสริมให้ผู้อ่านกระทู้ของกะทิไปซื้อหวยเช่นกันค่ะ จริงๆ ก็ไม่ได้ถึงกับห้ามนะคะ นานทีปีหนก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้จิตเราเป็นนาย ควบคุมจิต อย่าได้เป็นทาสการพนัน ให้จิตเป็นทาสการพนัน ก็นับว่าโอเคนะคะ พอสนุกๆ หอมปากหอมคอ นานๆ ที อย่านานๆ ถี่ ก็แล้วกันค่ะ







ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิกับองค์สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา มีสมาธิ วิริยะในการฝึกสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา และบุญฤทธิ์ ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนา พระอริยะเจ้าและพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงวิญญาณ และขอบุญนี้จงเป็นกุศลผลบุญคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวงที่คิดและทำสิ่งใดที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าพ้นภัยจากสิ่งเหล่านี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ

 

เมื่อวานนี้ วันตรุษจีน หาเรื่องทำบุญดีกว่า
พลิกดู บัญชีบุญ ไถ่ชีวิตสัตว์ มียอดเงินปรากฏ หมื่นเศษๆ เลยเบิกออกมา ๑๐,๐๐๐.- ถ้วน
ฃวน ผบทบ. ไปทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์กัน

และที่บัญชี กองทุนยาและบูชาครู ก็ยังพอมีเงินเหลือ จึงแวะวัด ละหาร บางบัวทอง ทำบุญ สร้างโบสถ์วิหาร ปลอยปลา ทำบุญซื้อโรงศพ ค่าน้ำค่าไฟ ให้ทานผู้ดูแล และคนยากไร้ ฯลฯ
และไปวัด บางบัวทอง ไถ่ชีวิต โค ได้ตัวหนึ่ง พร้อมถวายปัจจัยให้พระ และให้ทานคนดูแล ช่วยงานพระ ฯลฯ
ดังรูป
อนุโมทนาบุญกันเลยนะ
ท่านเจ้าของเงิน ที่ช่วยกัยบริจากคนละเล็กละน้อย ก็อนุโมทนาบุญได้อีกรอบนะ ได้สองเด้งเลย(ได้บุญตอนโอนเงินเข้าบัญชีกองบุญ เป็นเด้งแรกแล้ว)

 

เพิ่งเปิดโลก มาพบกระทู้นี่ค่ะ ขออนุโมนาบุญกับคุณหมอ suwi

หวังว่าท่านจะเมตตารักษาหนูบ้าง เผื่ออนาคตหนูเจอศึกหนัก

ป.ล.สงสัยว่าเทพบิดรที่อยู่อาศัยในปราสาทเพชร กลางสวรรค์ชั้น 4

คือเทพที่เป็น landlord ใช่มั้ยคะ

และใช่เทพที่ชอบแสดงธรรมที่ชั้น 4 แต่มี ชั้น5 ชั้น 6 มาฟังใช่มั้ยคะ

ป.ล.2 อยากฟังเรื่องเทพราหูเพิ่มค่ะ คุณหมอ ยังได้พบอีกหรือไม่คะ

ป.ล.3 ขนหัวและตัวลุก เกิดลมซู่ซ่า และเสียงหัวเราะก้องในหู

 

วิมาณลอยฟ้า

ว่าจะเล่าเรื่องของมหาเทวี ผู้เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร สักหน่อย
นางผู้นี้มาตามหาความรัก และนางก็ไม่เข้าใจว่า ความรักเยียงไร เป็นความรักที่นางต้องการกันแน่
การตามหาความรักของนาง กระจายไปทั่วสามภพ
การตามหาความรักของนาง กระตุ้นกิเลสแห่งสามโลกธาตุ และจักรวาล ไห้สะท้านสะเทือน หวั่นไหว ปานจะแตกทำลาย

นางผู้นี้เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร นางเป็นผู้ถือดาป และหนังสือพยากรณ์ ปรากฏตนกลางเกษียรสมุทรแห่งนั้น

 

หนังสือกับดาบนี่ ใช่ของวิเศษสุดขอบฟ้ามั้ยคะ ชักมึนหัวมากค่ะ

 

ใช่จ้า เป็นของวิเศษสุดขอบฟ้า
ของวิเศษชุดนี้ มีถึงสามสิ่่ง
ของวิเศษชิ้นที่สาม นี่สิถึงจะเป็นสิ่งที่สุดยอด เป็นที่ปรารถนาของเหล่า มหาเทพ มาร และอสูรทุกหมู่เหล่า ทุกตระกูล

เป็นสิ่งที่ทำให้โลกและจักวาลเกิดความโกลาหล
และก็เป็นสิ่งเดียวที่นำ มหาเทพ ๒ ท่าน หนึ่งมารและหนึ่งอสูร ก้าวเข้าสู่ความเป็นอริยะ เหนืออริยะทั้งปวง

 

พอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยคะ ว่าชิ้นที่สามคืออะไร
อยากฟังมากค่ะ

อนุโมทนาบุญ

 

ในการกวนเกษียรสมุทรครั้งนั้น ได้เกิดของวิเศษเกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่แบ่งปันกันได้ ก็แบ่งๆกันไป ได้สมใจนึกบางลำภู ไปทุกท่าน

มีของวิเศษ สาม-สี่ อย่างที่ปรากฏ ทุกคนล้วนปรารถนาเป็นเจ้าของ เป็นสิ่งไม่อาจแบ่งปัน
ของวิเศษเหล่านั้นมี ดาป จักรแก้ว และมหาเทวีผู้โอบอุ้ม หนังสือพยากรณ์ ไว้ในอ้อมอก

เมื่อกวนเกษียรสมุทร จนงวดได้ที่ ของวิเศษต่างๆก็ค่อยๆปรากฏขึ้นทีจะชิ้น
จนสามชิ้นสุดท้าย(ไม่รู้สุดท้ายจริงหรือไม่) หนึ่งดาป หนึ่งจักร และหนึ่งมหาเทวีผู้เลอโฉม แม้เทพธิดานางฟ้าใดที่ว่างาม ก็อัปแสงสิ้น
นางปรากฏกายพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งในอ้อมอก

ของวิเศษทุกชิ้นต่างพูดได้ ต่างได้แสดงอำนาจแห่งตน
ดาปว่า ผู้ได้ครองดาปจะเป็นผู้ปกครองจักรวาล
จักร ว่า ผู้ได้ครองจักร จะเป็นผู้มีอำนาจบารมีสูงส่ง เป็นที่ยำเกรงของทุกผู้คน ในทุกจักรวาล
หนังสือก็ว่า ข้าเป็นผู้รอบรู้ในทุกสรรพสิ่ง ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผู้ได้ครอบครองหนังสือ จะเป็นผู้เลิศในปัฐพี รอบรู้ในทุกสิ่ง

ส่วนมหาเทวีก็ว่า ข้ามาตามหาความรัก ดาป จักร์ และหนังสือพยากรณ์ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของใจข้า
ใครให้ความรักที่ข้าปรารถนาได้ ข้าจะเป็นสมบัติของท่านผู้นั้น และจะได้รับ ดาป จักร และหนังสือ เป็นของตอบแทน

มัน พะยะคะ
ครานี้ทั้งอสูร ทั้งมาร ทั้งมหาเทพ ที่วางตนไว้สูงส่ง ตูไม่ละโมบโลภมาก
ต่างก็มองตากัน แล้วการแย่งชิงก็ค่อยๆดำเนินไป จากการถกเถียง ผลักอก ชกต่อย ฯลฯ
จนกล่าวได้ว่าสุดโกลาหล ใครมีเกี้ยมซุบอะไรก็งัดประเคนใส่กันอย่าสนุกสนาน สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ว ปานจักรวาลจะแตกดับถล่มทะลาย

งานนี้ดูแล้วจบไม่ลงนะ คงตายกันเป็นเบือ