ติดตามสถานะการณ์

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 ม.ค.58 นักรบฮูติ คืนความสุขประชาชนเยเมน ยึดอำนาจ เด็กสร้างมะกันแล้ว
รัฐบาล เยเมน ที่พรมแดนติดซาอุฯ เป็นมิตรประเทศที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา สั่งซ้ายหันขวาหัน ได้ตามชอบใจ ต่อมากลุ่มติดอาวุธฮูติ ที่เป็น ชนพื้นเมือง ทางเหนือของประเทศ ( คาดว่าอิหร่านให้การสนับสนุน ) ต้องการแบ่งแยกประเทศออกไปจากเยเมน จึงบุกยึดครองเมืองหลวง กรุงซานาห์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทำให้เยเมน ตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง ยิงกันเละ มานานหลายเดือน
ตอนนี้ กลุ่มนักรบชีอะห์ฮูติ ในกรุงซานาห์ เมืองหลวงของเยเมน ระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่ทำเนียบรัฐบาล สู้รบระดมยิงกับทหารรัฐบาล ต่อมาพวกเข้ายึดทีวีได้ และแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จ ในการบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดี และโจมตีบ้านพักของประธานาธิบดี อับดราบูร์ มันซูร์ ฮาดิ ของเยเมน หลังการยิงปะทะกัน
ส่งผลให้ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN) ที่เป็นร่างทรงชาติตะวันตก ดิิ้นๆๆ รีบ ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตี และ ขอให้กลุ่มนักรบฮูติ มีความเคารพผู้นำประเทศ แต่นายอับเดล มาเลค อัล-ฮูติ ผู้นำกลุ่มฯ ระบุว่า " ไม่สนใจเพราะ ประธานาธิบดี มีพฤติกรรมทุจริต"
---------------------------->
เอาซิ ยึดทำเนียบ กับบ้านพักประธานาธิบดี เด็กสร้างอเมริกา และซาอุฯ แล้ว โอบาบาจะว่าไง ? กลุ่มนักรบฯ เขายึดอำนาจและไม่ให้เกียรติเด็กสร้างตัวเองแล้วเอาไงดี ?? โอบามาเงียบๆ ไปนะ..
ช่วงนี้เป็นไงบ้าง ประเทศสงบหรือยังจากการปะทะกัน ละเมิดสิทธิมนุษยชน คนผิวสี แล้วแทรกแซงสื่อ ตอนนี้สบายดีหรือยัง ?? อิหร่านเขารุกคืบยึดอำนาจเด็กสร้างตนเองแล้วนะ...มีอะไรจะให้ช่วยก็บอก (^_^)
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 ม.ค.58 อิสราเอลเคลื่อนกองทัพ เตรียมรับศึกการโจมตี
เมื่อสถานการณ์สงครามงวดเข้ามา กองทัพอิสราเอล สั่งกองทัพเคลื่อนพลรถถัง พร้อมทหารจำนวนมาก เข้าตรึงกำลัง ตามแนวชายแดน และพื้นเสี่ยงตามยุทธศาสตร์แล้ว เพราะอิสลาเอล จัดเป็นประเทศแรกๆ ที่ต้องโดนปูนหมายหัว เนื่องจากมีข้อพิพาทกับชาวมุสลิมตลอดมา
แม้แต่เหตุการณ์ก่อการร้ายที่สำนักพิมพ์ล้อเลียนศาสนามุสลิม ชาร์ลี ฮิบโด ที่ฝรั่งเศส รายงานทางลับก็มีหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย มอสสาส ของอิสราเอล เกี่ยวพันชักใยอยู่ด้วย
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 ม.ค.58 สุนัขสงคราม นักรบคู่กายชายชาติทหาร
ทหารรัสเซีย ใช้สุนัขสงครามที่ฝึกฝนแล้ว เตรียมความพร้อมในการดมกลิ่น กวาดกับดักระเบิด ร่วมกับหน่วยเก็บกู้ระเบิด เพราะในยามสงคราม จะมีการวางกับดักระเบิดทหาร และยานยนต์เคลื่อนพลลำเลียง และรถหุ้มเกราะ ทำให้เกิดความเสียหายขณะเคลื่อนพลได้
เนื่องด้วยอากาศหนาวเย็น หิมะตกหนัก ทหารรัสเซีย จะมีชุดหมีขาวใส่พรางตัว และให้ความอบอุ่นกับร่างกาย หากมีการเริ่มต้นสงครามเร็ว โลกตะวันตก และตะวันออก ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน อาจได้เห็นสุนัขสงครามพวกนี้ ได้ทำหน้าที่ดั่งชายชาติทหารอย่างองอาจ
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 ม.ค.58 ยกที่หนึ่ง ทหารยูเครน พ่ายแพ้ หนีตายแล้วจำนวนมาก
การรบกันที่สมรภูมิเมืองโดเน็ทซ์ค ในยูเครน ปรากฎว่าทหารยูเครน พ่ายแพ้ต่อกลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย อย่างราบคาบ เจอเข้าไปทั้งปืนใหญ่ จรวด 40 ลำกล้อง ปืนใหญ่จากรถถัง และบรรดาอาวุธสารพัด และมีจำนวนมาก " ถูกซุ่มยิง" ด้วยปืนไรเฟิ้ล จาก Sniper ที่นำเข้าซานตาครอสนำมาอภินันทนาการ ทหารยูเครนโดยเฉพาะ
จนมีการล้มตาย บาดเจ็บ เป็นใบไม้ร่วง บางศพเอาออกมาจากพื้นที่ปะทะไม่ได้ ผู้ที่บาดเจ็บก็ถูกทิ้งไว้ บางส่วนถูกจับเป็นเชลย เละตุ้มเปะ ส่วนการรบในจุดอื่นๆ อีกราว 31 จุด กองทัพยูเครน ก็เจอสารพัดอาวุธร้ายแรง ประเคนใส่ จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เพราะห่างชั้นกันอย่างมากกับอีกฝ่ายหนึ่ง
ทหารยูเครน ระส่ำระสายไปหมด พวกที่หนีออกมาได้น้อยนิดเสียขวัญมาก ต้องขึ้นรถถังมุ่งออกจากเมือง แบบไม่กล้าหันกลับไปมองเบื้องหลัง สีหน้า แววตาทหารแต่ละคน เหมือนคนหมดหวังแล้วทุกสิ่งในชีวิต บทเรียนยูเครนเลือกข้างครั้งนี้ ช่างแสนแพงยิ่งนัก !! อีกไม่กี่วันทหารระดับสูงของอเมริกา จะเดินทางมาล๋อบบี้ผู้นำยูเครน ให้ช่วยทหารไปตายเยอะ ถ้าคนยูเครนไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ก็แล้วแต่จะคิด ว่าจะตัดไฟแต่ต้นลมอย่างไร !!

@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 ม.ค.58 ตายละวา รัสเซียจัดส่งของชำร่วยชิ้นยักษ์ให้อิหร่านเพียบ
จากที่รัสเซีย ส่ง รมต.กลาโหม ไปลงนามกับอิหร่านนั้น หลายคนอาจส่งสัยว่ารัสเซียมีของชำร่วยอะไรไปฝากอิหร่าน จะบอกให้คนไทยที่อยู่ใน EU รู้และระวังว่า มันคือ ขีปนาวุธ S-300 ต่อสู้อากาศยาน ที่ทันสมัยไฮเทคมากๆ มูลค่าถึงราว 330,000 ล้านบาท โดยรัสเซีย จะบริการขนส่งใส่เรือ ไปติดตั้งให้อิหร่านถึงที่
เพื่อเอาไว้ประเคนใส่ไม่ยัั้งกับอาวุธที่จะโจมตีอิหร่าน งานนี้มีเฮ เพราะอิหร่าน จะกลายเป็นชาติที่ทรงอานุภาพทางการรบในพริบตา และอาวุธใดๆ ที่จะยิงใส่อิหร่าน จะทำอะไรเขาแทบไม่ได้ แต่อิหร่านจะประเคนกลับด้วยขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์แทน
เคยมีผู้บอกว่า มีจารึกเมื่อ 1,400 ปี มาแล้วว่า " ชาวมุสลิมนั้นเพียงรอสัญญาณทหารของพระเจ้าเดินแถวโบกธงสีดำ นำทัพจากแคว้น "คอราซาน " และ "บุรุษที่โลกรอคอย" ไม่รู้ว่าปัจจุบัน คือ ที่ใด ? และใคร ? ประเทศในชาติตะวันตกไหน ที่เคยรังแกอิหร่าน กดขี่เขา ข่มขู่เขา และเคยทำให้อิหร่านโกรธบ้าง..ยกมือ..บ้ายบาย !!
ประเทศใด กลัวประชาชนจะอด รีบติดต่อซื้อข้าว และอาหาร จากเมืองไทย ไปตุนไว้ด่วน ขอบอกว่าข้าวไทย อร่อยมากที่สุดในโลก อย่าช้านะเพราะพี่หมีเพิ่งส่งคนมาออร์เดอร์ อาหาร ผลไม้ ต่างๆ
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ม.ค.58 เผยทฤษฎีใหม่กาแลคซี่เป็น หนอนยักษ์ที่คดเคีี้ยวมีอุโมงค์เปิด
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ผู้เขียวชาญจากสถาบัน (SISSA ) ได้นำเสนอทฤษฎีว่า กาแล็คซี่ ที่เรามองไปบนฟ้าเห็นเป็นทางช้างเผือก และมีเป็นล้านกาแลคซี่นั้น มีลักษณะเป็นทางยาวคล้ายขบวนรถไฟ หรือหนอนขนาดยักษ์ที่คดเคีี้ยว หากมนุษย์มีวิทยาการยานอวกาศที่ทันสมัยและความเร็วมากพอ

ก็สามารถคำนวนเวลาแล้วเดินทางผ่านอุโมงค์เวลา ไปยังอีกกาแล็คซี่หนึ่ง หรือไปยังจุดเวลาที่ต้องการได้ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ แบบชาวบ้านก็คือ เขาเสนอหลักการว่าโลกของเราเหมือนอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าไต้ดิน MRT หากเราเดินทางไปที่สถานีรถไฟไต้ดินแล้ว เราก็สามารถจะเลือกจุดหมายปลายทางไปต้นทาง ปลายทาง ได้ว่าจะโผล่จากใต้ดินสถานีไหน สถานนี้หมอชิต หรือจะขึ้นที่สถานีลาดพร้าว ทำนองนั้น

เพราะแต่แกแลคซี่ ก็คืออุโมงค์เวลานั่นเอง สิ่งมีชีวิตทุกแกแลคซี่ ที่ห่างกันหลายพัน หลายหมื่น หลายแสนปีแสง ก็ สามารถไปมาหาสู่กัน ท่องอวกาศเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น เพราะระยะทางนั้นเป็นสิ่งสมมุติ แต่เจ้าอุโมงค์เวลานี้ ใช้เพียงกำหนดเวลาอย่างเดียว โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะทางว่าจะไกลแค่ไหน

เรื่องนี้ใหม่หรือไม่?..คำตอบคือ พระพุทธองค์ได้คิด และจารึกเป็นรายละเอียดคำสอนมาละเอียดยิบ ถึงวิธีการ และมีสาวกใกล้ชิดในสมัยนั้น ทดลองวิธีนั้นเดินทางมาแล้วกว่า 2557 ปีก่อน และนักวิทยาชาวยิว คือ อัลเบริต์ ไอสไตน์ ก็คิดและแสดงทฤษฏีใกล้เคียงกันนี้มาราวร้อยปีแล้วเช่นกัน

แต่มีคนหัวหมอนำทฤษฎีเขามาคิดดัดแปลงทำเป็นระเบิดนิวเคลียร์ซะยังงั้น และก็ยังไม่มีใครสามารถขบคิดถึงวิธีการกำหนดเวลา ไปยังอุโมงค์เวลาที่แน่นอนได้ เพราะไม่รู้พิกัดที่แน่นอนของมันในแกแลคซี่ของเรา...อนาคตเราอาจต้องลาพักร้อน เพื่อซื้อตั๋วขึ้นยานอวกาศ ที่ดอนเมือง แล้วนั่งไปอุโมงค์เวลา
และไปเที่ยวกาแล็คซี่อื่น หรือย้อนเวลาไปหาตัวเราเองสมัยเด็กๆ แอบดูและก่อนกลับก็เอาของโลกในเวลาปัจจุบันไปฝากทิ้งไว้ เป็นที่ระลึก จากตำราไอน์สไตน์ E=mc2 อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่เราอย่าปรามาสคนโบราณ
เพราะสมัยพระพุทธองค์ ไม่มีศัพท์คำว่าแกแลคซี่ สมัยนั้นพระองค์จึงใช้คำว่า "ภพ" และ "สวรรค์ นรก" แทน และศาสนาอื่นๆ ก็ใช้คำที่แตกต่างกันไป ตามที่ศาสดาได้จารึกเข้าไว้เมื่อเกือบสองพันปีก่อน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ม.ค.58 หมีขาว ส่งกองทัพไปลงนามกับอาบังอีกแล้ว ของโซวีเนียเพียบ
เมื่อวันก่อนรัฐมนตรีกลาโหม และกองทัพรัสเซีย ไปมอบของชำร่วยระบบต่อสู้ป้องกันอากาศยาน S-300 ให้กับอิหร่านมูลค่ามหาศาล รัสเซียยังเดินหน้า ลงนามทางทหารกับอินเดียต่อ โดยเงื่อนไขคล้ายเดิม แต่ของโซวีเนีย ชิ้นใหญ่ขึ้น ทั้งระเบิดนิวเคลียร์ และเทคโนโลยีอวกาศ (เขาอาจปกปิดทางสื่อทั่วไป)
อินเดีย มีประชากรมากกว่า 1,000 ล้านคน เป็นรองเฉพาะจีนเท่านั้น จำนวนทหารเขาจึงมากสุดคนานับ เขามีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาก มีดาวเทียมเองหลายดวง ส่งยานอวกาศไปดาวอังคาร มีขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากพอๆ กับจีน หากกองทัพอินเดีย มีแสนยานุภาพทางทหารใกล้เคียงชาติตะวัน เขาคืออาบังที่น่ากลัวมาก
เขาสามารถบล็อคเรือขนน้ำมันทุกลำที่จะออกจากอ่าวเปอร์เชียร์ ผ่านมาทางอันดามัน ผ่านช่องแคบมะลาได้ ถ้าเขาปิดน่านฟ้าพร้อมกับ รัสเซีย และ จีน ใครผ่านยิงร่วง จะสามารถเป็นกำแพงกั้นคนตัดขาดโลกตะวันออก กับตะวันตกออกจากกันทันที
อินเดีย ยังเจ็บแค้นอังกฤษไม่หาย ที่ส่งทหารมายึดเขาเป็นอาณานิคม และส่งคนมาปกครองอินเดียแบบกดขี่นานมาก อังกฤษยิงคนอินเดียตายจำนวนมาด เป็นใบไม้ร่วงจนปืนหมดกระสุนสมัยวีระบุรษของเขา มหาตมะ คานที และยังหั่นแบ่งดินแดนอินเดีย ออกไปเป็นประเทศเล็ก ประเทศน้อย เช่น ปากีสถาน บังคลาเทศ ฯลฯ
จนเกิดข้อพิพาททางดินแดน และเชื้อชาติ มาจนถึงทุกวันนี้ ความเจ็บแค้นนี้ อาบังรอชำระแค้นมานานกว่าชั่วอายุคน แต่หาคนนำมีกล้าพอ ไปลุยตียุโรปไม่ได้ หมีขาวปูติน กำลังสานฝันคนอินเดียทั้ง 1,000 ล้านให้เป็นจริง แค้นนี้รอวันต้องชำระ ชาวอินเดียส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู เขามีเทพเคารพมากมาย ตั้งแต่พระอินทร์ พระศิวะ และอีกหลายองค์ แต่อังกฤษทำให้ศักดิ์ศรีชาวอินเดียลดลง ดูแคลนความเชื่อศาสนาของเขา...ดูหมิ่นเทพที่เขาเคารพ..แค้นนี้รอวันชำระ
โจทย์ที่อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้าอาณานิคมเก่า สร้างรอยแค้นไว้ทั้งมุสลิม อินเดีย มีรอบตัวไปหมด แค่มีอาวุธเท่าเทียมใกล้เคียง พอสู้ได้บ้าง และมีรัสเซีย ไปปลุกอารมณ์ร่วมสักนิด ไฟแค้นก็พร้อมจุดติดพรึบทันที และคนอินเดีย พร้อมเข้าสู่สนามรบ แบบเต็มใจ
ถ้ารบกันจนเหนื่อย อินเดียมาซื้อข้าว มันสำปะหลังไทย และถั่ว ไปเยอะๆ นะ ต้องตุนไว้ เอาไปทำแป้งโรตี ห่อไปกินในรถถังตอนบุกยุโรป และ ที่เมืองไทยมีขายประดับยนต์ดีๆ มีคุณภาพเพียบ สั่งเอาไปตีเสกิิท รอบรถถัง ติดโรบาร์ ท้ายรถถัง ติดฟลิมกรองแสง รถหุ้มเกราะ และมีบริการโหลดเตี้ย รถลำเลียงพลด้วย
ติดเครื่องชั้นดี ในรถขนขีปนาวุธก็เยี่ยม ทหารอินเดีย ยิงจรวดไป เปิดเครื่องเสียงดอลลบี้เสตอริโอไป รบแบบนี้นานๆ ทหารก็ไม่เครียด
แถมเมืองไทยมีสายไหมที่ อร๊อย อร่อย อาบังสั่งไปเยอะๆ เลย กินสายไหมกับโรตีไป ยิงจรวด 40 ลำกล้องไป แล้วก็จูงมือกัน วิ่งขึ้นๆ ลงๆ เขา แล้วกราดยิงปืนอ้าก้ารัสเซีย พร้อมร้องเพลงอินเดียไปตลอดการรบ ส่ายสะดือดุ๊กดิ๊ก...บรรยากาศมันใช่เลย !!
อินเดียสู้ๆ อินเดียสู้ตาย อินเดียไว้ลาย อินเดียสู้ๆ...ฮู่เร่ ๆ ฮ่า ฮู่ร่าๆ เฮๆ ....วี๊ด บึม ๆๆๆๆๆ..ฮา !!
@ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ม.ค.58 มันคือตัวอะไรงูก็ไม่ใช่ ฉลามก็ไม่เชิง
ชาวประมงออสเตรเลีย พบสัตว์น้ำชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายงู ปากเหมือนฉลาม นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจแล้ว พบว่าสปีชีส์เจ้านี้ บรรพบุรุษของมันอายุเก่าแก่ถึง 80 ล้านปี...โอ้วว
ญาติของมันมีอายุเก่าแก่กว่าไดโนเสาร์เสียอีก ถ้าโดนมันกัด คงสร้างบาดแผลเหวอะหวะได้ไม่น้อยเลย
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

นักประมงออสซี่อึ้ง! ตกได้ 'ฉลามดึกดำบรรพ์' ยุคก่อนประวัติศาสตร์
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ม.ค. 2558 03:59



ชาวประมงออสเตรเลียต้องตะลึง เมื่อพวกเขาตกได้ปลาประหลาดหน้าตาน่ากลัว รูปร่างคล้ายปลาไหลความยาวกว่า 2 เมตร พร้อมฟันคมกริบกว่า 300 ซี่ โดยพบว่ามันเป็นฉลามที่อยู่มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มนักประมงชาวออสเตรเลีย ตกฉลามดึกดำบรรพ์ตัวนี้ได้ที่นอกชายฝั่งเมืองท่า เลค เอนทรานซ์ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามันคือ 'ฉลามครุย' (frilled shark) ซึ่งถูกเรียกว่าซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต เนื่องจากเชื่อว่ามันไม่มีวิวัฒนาการทางรูปร่างเลยตั้งแต่เกิดขึ้นบนโลก เมื่อราว 80 ล้านปีก่อนในยุคครีเทเชียส
ปลาตัวนี้ถูกจับได้ในทะเลที่ความลึกราว 700 เมตร ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกตินัก เพราะฉลามครุยมักอยู่ได้ในทะเลลึก 1,500 เมตร โดยนายไซมอน โบก จากสมาคมนักประมงลากอวนตะวันออกเฉียงใต้ (เซตฟา: SETFA) ระบุว่า นักประมงไม่รู้เลยว่าพวกเขาตกได้ตัวอะไรขึ้นมา "มันมีฟัน 25 แถว รวมกว่า 300 ซี่ มันน่ากลัวมาก ผมไม่คิดว่าคุณจะอยากโชว์มันให้เด็กเล็กๆ ดูก่อนที่พวกเขาจะเข้านอนนะ" นายโบกกล่าว
ทั้งนี้ ในอดีตเคยมีรายงานการพบฉลามชนิดนี้มาก่อน โดยเมื่อเดือนมกราคม 2007 ชาวประมงญี่ปุ่นจับปลาชนิดนี้ได้จนกลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก โดยจับได้ในเขตน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งใกล้สวนน้ำอะวาชิมา ในเมืองชิซุโอะกะทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ซึ่งเชื่อว่าปลาตัวนี้ลอยขึ้นมาเพราะร่างกายอ่อนแอเนื่องจากความร้อนที่ขึ้นสูงของอุณหภูมิของน้ำ จากนั้นมันมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็ตายไป
นักประมงออสซี่อึ้ง! ตกได้ 'ฉลามดึกดำบรรพ์' ยุคก่อนประวัติศาสตร์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ยังไง? เรือรบรัสเซียเทียบท่ากรุงฮาวานา ก่อนมะกันคุยฟื้นสัมพันธ์คิวบา
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ม.ค. 2558 05:54



เรือรบ วิคเตอร์ เลดอนอฟ ซีซีบี-175 ของรัสเซีย จอดเทียบท่าที่กรุงฮาวานาของคิวบาเมื่อ 20 ม.ค. 2015 (ภาพ: AFP PHOTO)

เรือรบของหน่วยข่าวกรองรัสเซียเดินทางมาจอดเทียบที่ท่าเรือของกรุงฮาวานาโดยไม่ทราบเจตนา เมื่อวันอังคาร เพียง 1 วันก่อนที่สหรัฐฯและคิวบาจะเริ่มการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อทำความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้เป็นปกติ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เรือรบ 'วิคเตอร์ เลดอนอฟ ซีซีบี-175' ของรัสเซีย เดินทางมาจอดเทียบท่าที่เขต โอลด์ ฮาวานา อย่างไม่ทราบเจตนา ซึ่งตามปกติแล้วท่าเรือนี้เป็นสถานที่ที่เรือท่องเที่ยวมักเดินทางมาเทียบท่า ขณะที่รัฐบาลคิวบาก็ไม่ได้ประกาศเรื่องการมาเยือนของเรือลำนี้อย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ยืนยันว่า การที่เรือของหน่วยข่าวกรองรัสเซียมาจอดเทียบท่าที่ฮาวานา ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด "มันไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ" เจ้าหน้าที่นายนี้ระบุ

ทั้งนี้ เรือข่าวกรอง ระดับชั้น วิชเนีย (Vishnya) ซึ่งบรรทุกลูกเรือได้ราว 200 คน ถูกนำไปใช้งานในทะเลดำตั้งแต่ปี 1988 ก่อนที่ 7 ปีต่อมาจะถูกส่งไปอยู่กองเรือรบหน่วยเหนือ เรือลำนี้เคยเข้ามาเทียบท่าที่กรุงฮาวานามาก่อนเมื่อเดือนก.พ.และม.ค. 2014 และเทียบท่าเป็นเวลา 2-3 วัน

ยังไง? เรือรบรัสเซียเทียบท่ากรุงฮาวานา ก่อนมะกันคุยฟื้นสัมพันธ์คิวบา - ข่าวไทยรัฐออนไลน

 

ยานอวกาศหาย ไปโผล่อีกโลกหนึ่ง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 ม.ค. 2558 12:01



ปริศนาใหญ่ในยุคของการเดินทางในอวกาศยุคปัจจุบันของการสูญหายของยานอวกาศหุ่นยนต์ “บีเกิล 2” ขององค์การอวกาศสหภาพยุโรป นานเป็นเวลาตั้ง 11 ปี เพิ่งจะถูกเปิดเผยขึ้นอย่างไม่คาดฝันว่า มันเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง จอดนิ่งอยู่บนดาวอังคารมาตั้งแต่นั้นนั่นเอง

องค์การอวกาศสหรัฐฯได้แจ้งให้ทราบว่า ได้พบยานอวกาศจอดอยู่บนดาวอังคาร เชื่อว่ายังอยู่ในสภาพเรียบร้อยดี ในภาพถ่ายของยานอวกาศตรวจการณ์จากวงโคจรดาวอังคารของตน และดูเหมือนว่ายานลงคลาดเคลื่อนห่างเป้าหมาย 5 กม.เท่านั้น

“บีเกิล 2” เป็นยานอวกาศของสหภาพอวกาศยุโรปมีอังกฤษเป็นตัวตั้งตัวตี ส่งเดินทางไปลงบนดาวอังคารด้วยร่มชูชีพและถุงลมตามกำหนดในวันคริสต์มาส พ.ศ.2546 แต่ปรากฏว่าหายเงียบไป ขาดการติดต่อทางวิทยุเงียบสนิท นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่ามันคงเสียหาย เนื่องจากลงกระแทกพื้นดาวเคราะห์สีแดงดวงนั้นอย่างแรง

อย่างไรก็ตาม จากภาพขององค์การอวกาศสหรัฐฯ ส่อว่าความเชื่อเช่นนั้นอาจจะผิด เพราะยานบีเกิลถูกออกแบบให้ติดแผงรับแดด ให้บานออกเมื่อลงจอดเหมือนกับกลีบดอกไม้ แต่ถ้าดูในภาพจะรู้สึกว่ามันกางออกไม่ได้เต็มที่ ศาสตราจารย์มาร์ค ซิม มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ผู้เป็นแม่กองโครงการ กล่าวว่า “หากมันบานออกไม่เต็ม ก็ไม่อาจติดต่อกันได้”.

ยานอวกาศหาย ไปโผล่อีกโลกหนึ่ง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Hot Issue : เป็นเรื่อง! นายกฯมาเลย์ “นาจิบ ราซัค” ประกาศลดใช้จ่ายภาครัฐ 4.9 หมื่นล้าน หลังราคาน้ำมันดิ่งเหว คาดปีนี้ ศก.เสือเหลืองโต “ต่ำกว่าเป้า”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2558 05:10 น.



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย ประกาศปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2015 นี้ หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เป็นแห่งรายได้กว่าร้อยละ 30 ของรัฐบาลมาเลเซียประสบภาวะตกต่ำดิ่งเหวต่อเนื่อง แต่นาจิบยังยืนกราน มาเลเซียจะไม่เผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหม่

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวระหว่างการพบกับผู้แทนนักลงทุนต่างประเทศในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในคืนวันอังคาร (20 ม.ค.) โดยระบุว่ารัฐบาลมาเลเซียมีความจำเป็นต้องตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐลงราว 2 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นวงเงินงบประมาณราว 5,500 ล้านริงกิต (ราว 49,560 ล้านบาท) ในปีนี้ จากยอดรวมงบประมาณ 273,900 ล้านริงกิต (ราว 2.46 ล้านล้านบาท) ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ผู้นำมาเลเซียยืนยันว่า การตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโครงการด้านการลงทุนของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะต่างๆ แต่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียในปีนี้ ที่คาดว่าจะมีการเติบโตลดลงเหลือเพียง 4.5-5.5 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียในปี 2015 จะเติบโตเกินกว่า 5.6 เปอร์เซ็นต์

ท่าทีล่าสุดของผู้นำรัฐบาลเสือเหลืองมีขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อแผนงบประมาณของมาเลเซียที่ถูกกำหนดขึ้น บนพื้นฐานของระดับราคาน้ำมันที่ “100 ดอลลาร์”

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมน้ำมันถือเป็นที่มาของรายได้ราว 1 ใน 3 ของรัฐบาลมาเลเซียในแต่ละปี และหลายฝ่ายกังวลว่าการหดหายของรายได้จากน้ำมันจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจแดนเสือเหลือง โดยเฉพาะท่ามกลางภาวะที่รัฐบาลมาเลเซียมีสัดส่วน “หนี้สินภาครัฐ” พุ่งสูงถึง “55 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี” ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนหนี้ภาครัฐที่ “สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008200

 

น้ำมันขึ้นแรงหลังอิรักเชื่อหมดช่วงขาลง หุ้นมะกันบวก-ทองคำทรงตัว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2558 05:20 น.



เอเอฟพี - น้ำมันวันพุธ (21 ม.ค.) ขยับขึ้นแรง หลังอิรักคาดหมายว่าราคาใกล้ฟื้นตัวหลังดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยและทองคำตัว นักลงทุนจับตาการประชุมถ้อยแถลงจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญางวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งหมดอายุในวันอังคาร (20 ม.ค.) ลดลง 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.39 ดอลลาร์ต่อบร์เรล ใกล้ๆระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009

อเดล อับดุล มาห์ดี รัฐมนตรีน้ำมันของอิรัก คาดหมายในวันพุธ (21 ม.ค.) ว่าราคาน้ำมันโลกไม่น่าจะลดต่ำไปมากกว่านี้ หลังจากดิ่งลงมาเกือบๆ ร้อยละ 60 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน

“เราประเมินว่าราคาได้มาถึงจุดต่ำสุดเรียบร้อยแล้ว คงยากที่จะตกต่ำมากไปกว่านี้ แถมเรายังไม่พบเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้ราคาน้ำมันร่วงหนักต่อเนื่องไปอีก ปัจจัยต่างๆ กำลังจะทำให้ราคาน้ำมันกลับสู่ขาขึ้น” อับดุล มาห์ดี กล่าวในการแถลงข่าวที่คูเวต ขณะที่อิรัก คือชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของโอเปกรองจากซาอุดีอาระเบีย

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพุธ (21 ม.ค.) ปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ด้วยนักลงทุนทบทวนรายงานข่าวต่างๆ เกี่ยวกับการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) ท่ามกลางความคาดหวังว่าอีบีซีจะลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข่าวดีดังกล่าวถูกจำกัดโดยหุ้นไอบีเอ็มและไมโครซอฟต์

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.05 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,554.28 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.57 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,032.12 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 12.58 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,667.42 จุด

นักลงทุนคาดหวังมาตรการเชิงรุกมากขึ้นจากเหล่าธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะจากอีซีบีท่ามกลางความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืดและเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแอของยูโรโซน ขณะที่แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่าบอร์ดบริหารของอีซีบีจะเสนอเข้าซื้อพันธบัตร 50,000 ล้านยูโรต่อเดือนเริ่มตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นไป เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 600,000 ล้านยูโร ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอีซีบีจะใช้วงเงินราว 5 แสนล้านยูโร หรือสูงกว่าในการซื้อพันธบัตร

หุ้นเหล่าบริษัทพลังงานในเอสแอนด์พี 500 คือกลุ่มที่มีผลงานดีที่สุดของวัน หลังราคาน้ำมันกลับมาทะยานขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความคึกคักของตลาดถูกเหนี่ยวรั้งโดยการขยับลงของหุ้นไอบีเอ็ม ที่ปิดลบถึงร้อยละ 3.1 หลังเผยแพร่รายงานมีรายได้น้อยกว่าที่คาด

ด้านราคาทองคำในวันพุธ (21 ม.ค.) ขยับลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน นักลงทุนจับตาผลประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 0.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,293.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008201

 

ยูเครนวอน “ไอเอ็มเอฟ” ปล่อยกู้รอบใหม่ หลัง ศก.ทรุดหนัก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2558 09:12 น.



ประธานาธิบดี เปโตร โปโรโชนโก แห่งยูเครน นำชิ้นส่วนจากรถบัสที่ถูกจรวดโจมตีในภาคตะวันออกของยูเครนมาแสดง ระหว่างการปาฐกถา ณ ที่ประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วานนี้(21)

เอเอฟพี - รัฐบาลยูเครนร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และเตรียมเจรจาผ่อนผันหนี้กับผู้ถือพันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญทั้งภัยสงครามและวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง

คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ และประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน ได้หารือนอกรอบระหว่างการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยโปโรเชนโกได้ขอผูกสัมพันธ์กับสถาบันปล่อยกู้ระดับโลกแห่งนี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม

การพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากที่ โปโรเชนโก แถลงต่อที่ประชุมผู้นำระดับสูงและนักธุรกิจชั้นนำที่เมืองดาวอสว่า รัสเซียได้ส่งทหารถึง 9,000 นายเข้าไปสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก

“ประธานาธิบดีโปโรเชนโกแจ้งให้ดิฉันทราบวันนี้ว่า รัฐบาลยูเครนต้องการให้ ไอเอ็มเอฟ พิจารณาโครงการช่วยเหลือแบบต่อเนื่องหลายปี เพื่อมาทดแทนแพกเกจช่วยเหลือเดิม” ถ้อยแถลงของลาการ์ดระบุ

“เราจะนำคำร้องของยูเครนเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดบริหารไอเอ็มเอฟ”

ปีที่แล้วไอเอ็มเอฟได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยจ่ายแก่กรุงเคียฟในระยะเวลา 2 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจช่วยเหลือมูลค่ารวม 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มีธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์), สหภาพยุโรป และองค์กรอื่นๆ ร่วมด้วย

สถาบันแห่งนี้เตือนว่า ยูเครนอาจต้องการความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วนอีก 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลโปโรเชนโก ระบุว่า ความช่วยเหลือระลอกใหม่จาก ไอเอ็มเอฟ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของยูเครนซึ่งหดตัวถึง 7.5% ในปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะทรุดลงอีก 5% ในปีนี้

ความพยายามของเคียฟในการพยุงค่าเงินฮริฟเนีย ตลอดจนค่าใช้จ่ายในปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออก ทำให้เงินทุนสำรองของยูเครนลดลงกว่าครึ่งในปี 2014 เหลือไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

นาตาลี จาเรสโก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยูเครน ให้สัมภาษณ์ว่า แพ็กเกจช่วยเหลือรอบใหม่จากไอเอ็มเอฟ “จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และทำให้มั่นใจได้ว่ายูเครนจะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินต่อไปได้”

องค์กรเจ้าหนี้ซึ่งประกอบด้วยไอเอ็มเอฟ, สหภาพยุโรป, ธนาคารโลก และญี่ปุ่น คาดหวังให้ยูเครนตัดทอนสวัสดิการสาธารณะและขึ้นราคาเชื้อเพลิงเพื่อสร้างสมดุลทางการคลัง และหวังว่าแพ็กเกจช่วยเหลือนี้จะเป็นแรงจูงใจให้ยูเครนยอมยกเลิกโครงการอุดหนุนด้านต่างๆ

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008234

 

ทูตมะกันจวกแผนสันติภาพ “ปูติน” แท้จริงหวังฮุบดินแดน “ยูเครน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2558 10:34 น.


---
@ซาแมนธา เพาเวอร์ เอกอัครราชทูตผู้แทนสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ
---
รอยเตอร์ - ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติกล่าวโจมตีแผนสันติภาพในยูเครนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเสนอ ชี้เป็น “พิมพ์เขียว” ที่จะเปิดทางให้มอสโกส่งทหารเข้ายึดดินแดนภาคตะวันออกของยูเครนในที่สุด

ซาแมนธา เพาเวอร์ เอกอัครราชทูตผู้แทนสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวานนี้ (21) ว่า “แผนนี้จะทำให้การยึดครองดินแดนของกลุ่มกบฏตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ตลอดจนกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียที่ถูกส่งเข้าไปในเขตแดนของยูเครน กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย”

“ขอให้พวกเราช่วยกันเปิดโปงแผนสันติภาพของปูติน และเรียกมันให้ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นว่า แผนยึดครองดินแดน”

ผู้นำรัสเซียได้เสนอแนวทางต่อประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนเพื่อยุติเหตุนองเลือดที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว และได้คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 4,800 คน ทว่ามอสโกแถลงล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (18) ว่า ยูเครนไม่ยอมรับข้อเสนอนี้

โฆษกปูตินชี้ว่า รัสเซียได้เสนอแผนหยุดยิงทั้งโดยกองกำลังฝ่ายรัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกเฉียงใต้ และให้ทั้งสองฝ่ายถอนอาวุธหนักออกไปจากพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ทูตสหรัฐฯ มองว่า วิธีดังกล่าวเป็นแผนของรัสเซีย “ที่จะปลดเปลื้องพันธสัญญาที่เคยให้ไว้ที่กรุงมินสก์ (เมืองหลวงเบลารุส) ว่าจะถอนกำลังทหารของตนออก และคืนอำนาจควบคุมพรมแดนนานาชาติกลับสู่ยูเครน”

“นี่เป็นอีกครั้งที่ประธานาธิบดีปูตินแสร้งยื่นไมตรีด้วยมือหนึ่ง แต่อีกมือกลับถือขีปนาวุธและรถถัง” เพาเวอร์กล่าว

ด้าน วิทาลี เชอร์คิน เอกอัครราชทูตผู้แทนรัสเซียประจำยูเอ็น ก็ได้กล่าวโทษยูเครนว่าเป็นต้นเหตุของความรุนแรงระลอกใหม่ และยืนยันว่ามอสโก “พร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงที่กรุงมินสก์อย่างไม่มีบิดพลิ้ว”

ไรมอนดา เมอร์โมไคเต ทูตลิทัวเนียประจำยูเอ็น กล่าวว่า “เจตนาของรัสเซียที่จะแก้ไขข้อตกลงที่กรุงมินสก์ เพื่อให้การครอบครองดินแดนของพวกกบฏเป็นเรื่องชอบธรรม บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า เครมลินสนับสนุนอาชญากรเหล่านั้นอย่างเต็มใจ”

ข้อตกลงที่กรุงมินสก์กำหนดให้มีการถอนนักรบต่างชาติและอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากยูเครน ทว่าสัญญาหยุดยิงก็แทบจะไร้ผลในเชิงปฏิบัติมาตั้งแต่ต้น และยังคงมีพลเรือนเสียชีวิตไปอีกหลายร้อยคนในเหตุปะทะซึ่งรัฐบาลยูเครนอ้างว่า มีทหารรัสเซียเข้าร่วมด้วย

ด้านเอกอัครราชทูตอังกฤษ มาร์ก ลีออล แกรนต์ ก็ได้ผสมโรงโจมตีมอสโกอีกแรง โดยกล่าวว่ารัสเซีย “มักปฏิเสธ และให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ” พร้อมเตือนมอสโกให้ยุติการส่งอาวุธเข้าไปช่วยกบฏยูเครนโดยใช้ขบวนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นฉากหน้า

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008266

 

In Pics : ทีมกู้ภัยอิเหนาพบ “ 5 ศพผู้โดยสารติดเข็มขัดนิรภัยคาที่นั่ง” ใกล้กับลำตัวเตรื่องแอร์เอเชีย QZ8501 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2558 13:46 น.



เอเอฟพี - วันนี้ (22 ม.ค.) ทีมประดาน้ำอินโดนีเซียพบร่างผู้โดยสารจำนวน 5 รายที่ลำตัวยังคาดเข็มขัดนิรภัยกับที่นั่งผู้โดยสารอยู่ไม่ห่างส่วนกลางของลำตัวเครื่องบินแอร์เอเชีย QZ8501 ที่ตกลงไปในทะเลชวาในเดือนที่ผ่านมาพร้อมกับคนบนเครื่อง 162 คน

เอเอฟพีรายงานล่าสุดว่า จำนวนร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่กู้ขึ้นมาได้จากทะเลชวาอยู่ที่ 58 คน จากทั้งหมด 162 คนที่โดยสารเที่ยวบินแอร์เอเชีย QZ8501 ซึ่งตกในวันที่ 28 ธันวาคม 2014 เพราะสภาพอากาศเลวร้ายจากเส้นทางสุราบายา อินโดนีเซีย มุ่งหน้าไปสิงคโปร์

“ทีมประดาน้ำของเราพบ 5 ร่างถูกฝังอยู่ใต้โคลน ใกล้กับบริเวณลำตัวเครื่องเที่ยวQZ8501 ซึ่งพบว่าร่างผู้โดยสารเหล่านี้ยังคงคาดเข็มขัดนิรภัยกับเก้าอี้ผู้โดยสาร” เอส บี สุปริยาดี ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซียแถลง และกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อว่าผู้ดดยสารทั้งหมดที่พบล่าสุดนี้หลุดออกมาจากบริเวณลำตัวของเครื่อง ซึ่งซากลำตัวเครื่องบินถูกพบห่างไปราว 50-100 เมตร”

ทั้งนี้ ร่างผู้โดยสารจำนวน 3 ร่างได้ถูกกู้ขึ้นและนำไปยังเรือรบบันดาอาเจะห์ (Banda Aceh) ในขณะที่อีก 2 ร่างที่เหลือยังอยู่ในระหว่างความพยายามกู้ขึ้นมา สุปริยาดีแถลงเพิ่มเติม

ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซียแถลงเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ทีมกู้ภัยอินโดนีเซียยังต้องไปยังจุดที่ลำตัวเครื่องตก ซึ่งเชื่อกันว่าทางทีมกู้ภัยจะพบร่างผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนมากติดอยู่ ในขณะที่ความสามารถจะมองเห็นในใต้น้ำนั้นมีจำกัดแค่ในระยะทาง 2 เมตรเท่านั้น

“แต่นี่เป็นที่อากาศแจ่มใส ดังนั้นเราจึงตั้งความหวังว่าเหล่าทีมประดาน้ำอาจจะสามารถเข้าถึงจุดที่ซากเครื่องบินตกภายในวันนี้ (22)” สุปริยาดีแถลง

ทั้งนี้ ลำตัวส่วนกลางของเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ถูกพบที่พื้นทะเลโดยเรือกองทัพในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากค้นหาในบริเวณเขตน้ำตื้นของน่านน้ำอินโดนีเซีย แต่เป็นเพราะคลื่นที่แรง และท้องทะเลที่ปั่นป่วนเป็นอุปสรรคที่ทำให้เหล่านักประดาน้ำไม่สามารถเข้าถึงบริเวณนั้นได้

ก่อนหน้านี้ อิกนาซิอุส โจแนน รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซีย เผยในวันอังคาร(20ม.ค.) โดยอ้างอิงจากเรดาร์ว่า “ในช่วงนาทีท้ายๆ เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปด้วยความเร็วที่สูงกว่าปกติ และเครื่องบินเร่งความเร็วเหนือขีดจำกัดที่เครื่องบินจะสามารถทำได้อย่างกะทันหัน จากนั้นมันก็สูญเสียการทรงตัว” โจแนน บอกระหว่างรับฟังการสอบสวนเบื้องต้น ข้อมูลเรดาร์เผยให้เห็นว่า ณ ช่วงหนึ่งเครื่องบินแอร์บัสเอ320-200 ไต่ระดับความสูงขึ้นไป 1,800 เมตร (6,000 ฟุต) ราว 1 นาทีก่อนดิ่งลงสู่ทะเล ในขณะที่มีเครื่องบินลำอื่นๆ หลายลำบินอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว “ผมคิดว่าแม้แต่เครื่องบินรบเองก็เถอะ คงไม่พบเห็นบ่อยครั้งนักที่สามารถไต่ระดับความสูง 6,000 ฟุตต่อนาที” เขากล่าว “สำหรับเครื่องบินพาณิชย์ บางทีการไต่ระดับความสูงแค่ราว 1,000 ถึง 2,000 ฟุต ก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดธรรมดาแล้ว เพราะมันคงไม่ได้ตั้งใจไต่ระดับด้วยความเร็วขนาดนั้น”

ความเห็นของเขามีออกมา หลังจากคณะสืบสวนอินโดนีเซียบอกว่ากำลังพุ่งประเด็นไปที่ความเป็นไปได้ที่ต้นตอของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือไม่เครื่องบินก็อาจมีปัญหา หลังได้วิเคราะห์ข้อมูลกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินเบื้องต้นแล้ว

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008376

 

โอเปกฉะเดือดบริษัทน้ำมันใหญ่บนเวทีดาวอส



เลขาธิการใหญ่โอเปกยืนยันกลางเวทีการประชุมที่เมืองดาวอส ไม่มีทางลดปริมาณการผลิตน้ำมัน เมินคำเตือนของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ว่าท่าทีดังกล่าวอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันภายใน 2 ทศวรรษข้างหน้า

วันพฤหัสบดี 22 มกราคม 2558 เวลา 12:03 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่านายอับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก ( โอเปก ) กล่าวต่อที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก "เวิลด์ อีคอนอมิก ฟอรั่ม" ( ดับเบิลยูอีเอฟ ) ที่เมืองดาวอส เมื่อวันพุธ ยืนยันเรื่องการรักษาเพดานผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มสมาชิกและการไม่แทรกแซงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอาจกลายเป็นช่องทางสร้างโอกาสในการค้าให้กับประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ใช่สมาชิกโอเปก

บาดรีกล่าวด้วยว่า ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกประสบกับภาวะตกต่ำเช่นนี้ ตลอดประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการน้ำมันดิบโลก ตนพบกับสถานการณ์ลักษณะนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง ก่อนราคาจะฟื้นตัวกลับมาเองตามกลไกตลาด พร้อมกับย้ำท่าทีของโอเปกไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งสหรัฐ รัสเซียและอิหร่าน

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้บริหารบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก รวมถึงบีพี โตตาล และโคโนโคฟิลลิปส์ ยังคงยืนยันไปในทางเดียวกันว่า นโยบายของโอเปกในช่วงหลัง มีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกต่ำลงตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2557 เหลือเพียงบาร์เรลละราว 50 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,650 บาท ) หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทาง โลกมีแนวโน้มประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบภายในปี 2573 และผู้ประกอบการต้องทุ่มเงินมากขึ้นเพื่อผลิตน้ำมันให้ได้มากกว่าเดิม ขณะที่ในปัจจุบันหลายบริษัทปรับลดงบประมาณของตัวเองลงราวร้อยละ 10 เนื่องจากปริมาณน้ำมันกำลังล้นตลาด

โอเปกฉะเดือดบริษัทน้ำมันใหญ่บนเวทีดาวอส | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

หัวหน้าม็อบเมืองเบียร์ลาออกหลังโดนสับเลียนแบบฮิตเลอร์



หัวหน้ากลุ่มการเมืองต่อต้านผู้อพยพในเยอรมนีลาออกจากตำแหน่ง หลังมีภาพการตัดผมและแต่งหนวดให้คล้าย "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ปรากฏบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในประเทศ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากรัฐบาลเบอร์ลิน

วันพฤหัสบดี 22 มกราคม 2558 เวลา 09:54 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่านายลุท์ซ บัคมันน์ ประกาศผ่ายเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันพุธ ขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าแนวร่วมขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมือง "เพกิดา" ที่มีแนวคิดต่อต้านผู้อพยพจากตะวันออกกลาง หลังหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่แทบทุกฉบับในประเทศ นำโดย "บิลด์" ตีพิมพ์ภาพของบัคมันน์ วัย 41 ปี ตัดผมและตัดแต่งทรงหนวดให้คล้ายกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซี อีกทั้งยังบรรยายด้วยว่า บัคมันน์กล่าวเรียกกลุ่มผู้อพยพด้วยถอยคำ "หยาบคาย" อย่างมาก

ทั้งนี้ บัคมันน์ขอโทษทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากคำพูดของตัวเองซึ่งเคยได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว หรือ 1 เดือนก่อนการประท้วงใหญ่ครั้งแรก แต่ปฏิเสธกล่าวถึงประเด็นการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ให้ดูละม้ายคล้ายฮิตเลอร์

ขณะที่นายซิกมาร์ กาเบรียล รองนายกรัฐมนตรนีเยอรมนี แถลงแสดงความไม่พอใจต่อภาพที่ออกมาอย่างรุนแรง ว่าแม้เป็นเพียงเรื่องตลก ตามที่บัคมันน์ให้สัมภาษณ์กับบิลด์ แต่รัฐบาลและประชาชนอีกจำนวนมากไม่รู้สึกตลกตามไปด้วย ซึ่งกาเบรียลใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ประชาชนถอยห่างจากการเคลื่อนไหวร่วมกับเพกิดาด้วย

หัวหน้าม็อบเมืองเบียร์ลาออกหลังโดนสับเลียนแบบฮิตเลอร์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เทคโนโลยีก้าวหน้าเพิ่มโอกาสรอดแก่เด็กผสมเทียม



นักวิทยาศาสตร์เผย เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ก้าวหน้า ช่วยให้เด็กที่เกิดจากการผสมเทียมมีโอกาสรอดมากขึ้น

วันพฤหัสบดี 22 มกราคม 2558 เวลา 04:37 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า วารสารทางการแพทย์ 'ฮิวแมน รีโพรดักชัน' เผยผลการศึกษาการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (เออาร์ที) ใน 4 ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน จากการศึกษาของนางอันนา-คารินา แอริส เฮนนิงเซน แห่งมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันพุธ ระบุว่า เทคโนโลยีและแนวทางที่ได้รับการพัฒนา ช่วยให้เด็กที่เกิดจากการผสมเทียมมีโอกาสรอดชีวิตและมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น

จากการสำรวจข้อมูลใน 4 ประเทศ ระหว่างปี 2531 - 2550 มีเด็กกว่า 92,000 คน เกิดจากการใช้เออาร์ทีในรูปแบบต่างๆ ในจำนวนนี้ กว่า 62,000 คน เกิดแบบเดี่ยว และอีกกว่า 29,000 คน เกิดแบบแฝด นักวิทยาศาสตร์ศึกษาโดยเปรียบเทียบสุขภาพในอายุช่วงปีแรกตั้งแต่แรกเกิด ของทารกในกลุ่มเออาร์ทีและทารกที่เกิดจากวิธีธรรมชาติ พบว่าความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดของกลุ่มเออาร์ทีลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเด็กเออาร์ทีที่เกิดเดี่่ยวและมีน้ำหนักตัวน้อยหรือน้อยมา ซึ่งหมายถึงต่ำกว่า 2,500 กรัม และ 1,500 กรับ ตามลำดับ ก็มีสัดส่วนที่ลดลงเช่นกัน

นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กกลุ่มเออาร์ทีทั้งเดี่ยวและแฝด มีอัตราการเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิดและเสียชีวิตในช่วงอายุขวบปีแรกลดลง และเมื่อเปรียบเทียบเฉพาะเด็กแฝด อัตราการเสียชีวิตในขวบปีแรกของกลุ่มเออาร์ที มีน้อยกว่าเด็กแฝดธรรมชาติ ในช่วงระหว่างปี 2531 - 2535 อัตราการคลอดก่อนกำหนดของเด็กเกิดเดี่ยวในกลุ่มเออาร์ทีอยู่ที่ร้อยละ 13 ส่วน กลุ่มตั้งครรภ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ร้อยละ 5 โดยข้อมูลของปี 2550 ระบุว่า อัตราส่วนของเออาร์ทีลดลงเหลือร้อยละ 8 ขณะที่กลุ่มตั้งครรภ์ตามธรรมชาติยังคงที่ที่ร้อยละ 5

ฮันนิงเซน กล่าวว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทางบวกที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นการผสมเทียมที่มีคุณภาพมากขึ้นก่อนนำไข่ใส่กลับเข้าไปที่มดลูกของมารดา รวมถึงฮอร์โมนที่ใช้กระตุ้นการตกไข่ ก็ได้รับการพัฒนาให้มีกลไกการทำงานที่อ่อนโยนและเป็นมิตรต่อร่างกายมากขึ้น นอกจากนี้ แนวทางและนโยบายในการปฏิบัติก็มีส่วนสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการปรับแนวคิดให้สนับสนุนการฝังตัวอ่อนเพียงหนึ่งเดียวในแต่ละครั้ง เพราะถึงแม้การฝังตัวอ่อนหลายตัว จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ แต่ก็เสี่ยงต่อการกลายเป็นแฝด ซึ่งอาจส่งผลถึงน้ำหนักตัวแรกเกิดและปัญหาแทรกซ้อนทางสุขภาพของเด็กได้ โดยระหว่างปี 2532 - 2545 สัดส่วนเด็กแฝดเออาร์ทีใน 4 ประเทศนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 23 ก่อนจะค่อยๆ ลดลง มาอยู่ที่ร้อยละ 11.6 ในปี 2550.

ขอบคุณภาพจาก Fertility Clinic IVF Cochin | Endoscopic Centre Kerala-Vijaya

เทคโนโลยีก้าวหน้าเพิ่มโอกาสรอดแก่เด็กผสมเทียม | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

สองฝ่ายยูเครนตกลงถอนกำลังห่างแนวกันชน



รัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฏตกลงถอนกำลังทหารและอาวุธหนักออกจากเส้นหยุดยิงทางตะวันออก พร้อมทั้งเร่งดำเนินการเจรจากับองค์กรกลางโดยเร็วที่สุด

วันพฤหัสบดี 22 มกราคม 2558 เวลา 09:49 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่านายแฟรงค์-วอลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี แถลงเมื่อวันพุธ หลังเสร็จสิ้นการหารือร่วมกับคณะผู้แทนจากรัฐบาลรัสเซีย ฝรั่งเศสและยูเครน ว่าทั้งสี่ฝ่ายเห็นพ้องเรื่องการให้กองทัพยูเครนและกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกถอนกำลังและสรรพาวุธหนักออกมาเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร จากแนวพื้นที่กันชน ที่สองฝ่ายลงนามร่วมกันในข้อตกลงที่กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังบรรลุฉันทามติเรื่องการหารือระหว่างรัสเซีย ยูเครน และองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ( โอเอสซีอี ) ต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการปูทางสู่การเจรจาเพื่อสันติภาพในระยะยาว โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถานต่อไป ซึ่งชไตน์ไมเอออร์กล่าวด้วยว่า ข้อตกลงเหล่านี้คือการทดสอบ "ความอดทน" ของทั้งยูเครนและรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันกระทรวงกลาโหมของยูเครนรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏบริเวณจุดตรวจหมายเลข 31 และทหารกำลังปฏิบัติการการะชับพื้นที่ ขณะที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก "เวิลด์ อีคอนอมิก ฟอรั่ม" ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่ารัสเซียส่งทหารกลับเข้ามาในยูเครนอีกราว 9,000 นาย พร้อมกับหารือกับนางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) เรื่องการขอเพิ่มวงเงินช่วยเหลืออีก 2 เท่าเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 495,000 ล้านบาท ) แต่ต้องรอการพิจารณาจากบอร์ดบริหารของไอเอ็มเอฟก่อน

สองฝ่ายยูเครนตกลงถอนกำลังห่างแนวกันชน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์