ใครที่ว่าแน่ อย่าแพ้หนังจีน

วันนี้ว่างๆ ชิวๆ เลยนำคำกลอนที่น่าสนใจมาฝาก ได้มาจากหนังจีนเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า

สิ่งที่ต้องเผชิญ ดำเนินตามกรรม
เป็นอยู่ไม่เห็น เป็นไปดั่งใจ
รู้ตนรู้ใจ รู้ใจเห็นพระ
พระก็คือใจ ใจก็คือพระ
หมั่นระลึกในใจ ไหว้พระสวดมนต์
ดลจิตเห็นผล ลดละเลิกกิเลส
จิตย่อมเป็นพระ ขจัดมารในใจ พระสถิตยั่งยืน​

ขอเชิญท่านผู้ทรงภูมิธรรมทั้งหลายโปรดชี้แนะโดยการตีความกลอนบทนี้ให้ด้วยเถิด...

 

ทุกชีวิตดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกาย กลับไม่เจอ ทุกข์ที่เกิดซ้ำ
เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอ ก็เป็นสุข

ชิวๆ

 

ธรรมะนี้ ง่ายแท้ๆ

ทำมะ ยากแท้ๆ

( ลอกมาจากหลังรถ ที่แซงซ้าย แล้วปาดไปขวาสุด )

( ทำมะ คือ ทำ เป็น มะ , มะ ที่เป็นแสลงของวัยรุ่น ก็คือ ฤทธิ์เดช )

 

แต่ที่แน่ๆ หนังจีนต้อง "แกฆ่าพ่อข้า ข้าจะฆ่าพ่อเจ้า ถ้าแกไม่ฆ่าพ่อข้า ข้าคงไม่ฆ่าพ่อเจ้า" เหอๆๆ บ้าไปแล้ว...

 

แล้วเคยอ่าน วรรณกรรมยุคปฏิวัติวัฒนธรรมไหม

แก่ฆ่าพ่อข้า แต่พ่อฆ่าเป็นพ่อเลี้ยง ส่วนคนที่ข้าฆ่า คือพ่อกูเอง

หลังจากนั้น วัยรุ่นจีน ก็ฆ่าพ่อแท้ๆ ฆ่าพ่อเลี้ยง มีสมุดแดงเป็นพ่อ

พอปฏิวัติสำเร็จ จะกลับไปกราบพ่อ ก็จำไม่ได้ละ
ตัวเองถ่มน้ำลายรดหน้าพ่อจนจำไม่ได้

 

ไบเบิล คอมมิวนิส .....

พลังหนุ่มสาว โอ้วววว....สหายกองทัพแดง

 

ยังไม่มีท่านใดช่วยตีความชัดๆ เลย สงสัยคงจะง่ายเกินไป

เราก็นึกว่ากลอนน่าสนใจ มีทั้งอวิชชา ปฏิจจสมุปบาท และ สติปัฏฐาน

ไว้คราวหน้า จะหาที่ยากกว่านี้ ให้สมกับภูมิรู้ของท่านทั้งหลาย...

 

กลอนมันสำหรับ แปดเทพอสูรมังกรฟ้าไม่ใช่เหรอ ต้องไปตีความทำไมหละ

 

ดีจังเลยค่ะ บางคนดูหนังจีนเพราะบ้าพลังค่ะ แต่ว่า ถ้าหนังสอดแทรกธรรมะ บทความดี ๆ ที่มีสาระ ก็ดีเยี่ยมเลยนะคะ

 

จริงแล้วก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมชอบเป็นพิเศษ เลยอยากแชร์

ในเรื่อง ผู้ที่กล่าวกลอนบทนี้ คือ พระภิกษุลึกลับท่านหนึ่ง วรยุทธ์สูงที่สุดในเรื่อง แถมปัญญาก็ระดับเชียวแหล่ะ ท่านกล่าวสอน ศิษย์ใหม่สองคน พร้อมกับ พระรูปอื่นๆ ฟังดูขลังดีครับ

แบบว่า เมื่อก่อน บ้าหนังจีนหน่ะ ไม่มีอะไร เหอๆๆๆๆๆ

 

ภิกษุลึกลับนั้น บังเอิญ มันมาจากเรื่องสมมติที่แต่งขึ้นนะสิ ปัญญาระดับก็ถูกแต่งขึ้น เพราะฉะนั้นปัญญาสูงแค่ไหนก็ไม่เกินไอ้คนแต่ง เพราะคนแต่งมันสร้างตัวละครขึ้นมานี่
ดังนั้นกลอนนั้นก็ไม่มี นัยยะอะไร นอกจากเขียนให้มันดูเท่ห์

 

อ่ะครับ ไม่มีใครรับมุก ผมรับมุกให้ก็ได้ อิอิ

สิ่งที่ต้องเผชิญ ดำเนินตามกรรม
[สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม]​

เป็นอยู่ไม่เห็น เป็นไปดั่งใจ
[(ไม่วรรคจะอ่านง่ายกว่านะ)
ที่เป็นอยู่ไม่เห็นเป็นไปดั่งใจ
(ก็เพราะกรรมน่ะแหละ)]​

รู้ตนรู้ใจ รู้ใจเห็นพระ
[มีสติ รู้ผิด(ไม่ทำ) รู้ถูก(จึงทำ) เหมือนมีพระพุทธมาสอนอยู่ในใจ ]​

พระก็คือใจ ใจก็คือพระ
[พุทธานุสติ]​

หมั่นระลึกในใจ ไหว้พระสวดมนต์
ดลจิตเห็นผล ลดละเลิกกิเลส
[สวดมนต์บ่อยๆ บทสวดจะดลใจให้ให้กิเลสลดลง]​

จิตย่อมเป็นพระ ขจัดมารในใจ พระสถิตยั่งยืน
[พุทธานุสติ ขจัดมารในใจเราได้จ้า]​

ตีความง่ายจัง ฮี้วววว เอิ๊กๆ ^ ^

 

อ้าว มีมุขให้ถอดหรอกหรือ ไม่ทันอ่านคิดว่า ประชันคำขวัญ

สิ่งที่ต้องเผชิญ ดำเนินตามกรรม
[สัตว์มีกรรมเป็นชนก มีกรรมเป็นทางเดิน และมีกรรมเป็นที่ไป - สรรพสิ่งอยู่ใต้กฏแห่งกรรม ]​

เป็นอยู่ไม่เห็น เป็นไปดั่งใจ
[สภาวะธรรมที่เป็นจริงทุกคนไม่เห็น เห็นแต่ที่ใจอยากเป็น - มี อวิชชา เป็นเครื่องบังตา]​

รู้ตนรู้ใจ รู้ใจเห็นพระ
[มีสติตามรู้แค่ที่กาย ก็จะรู้ถึงจิต เมื่อเห็นจิตก็เห็นสภาวะธรรมที่เป็นจริง - วิธีเห็นก็มีแค่นี้]​

พระก็คือใจ ใจก็คือพระ
[เข้าถึงสภาวะธรรมก็คือรู้จิต การเข้าใจก็ซึ่งรสธรรมนั้น - ไม่ใช่ไปรู้อะไร ]​

หมั่นระลึกในใจ ไหว้พระสวดมนต์
ดลจิตเห็นผล ลดละเลิกกิเลส
[ก็แค่สวดมนต์ไปแล้วระลึกใจที่ไหลไปคิด จิตคิดที่ไหลไปเป็นกรรม ก็จะเห็นเหตุและหนทางดับกิเลส - ปฏิบัติง่ายๆ]​

จิตย่อมเป็นพระ ขจัดมารในใจ พระสถิตยั่งยืน
[ทำบ่อยๆซื่อๆจิตก็จะถึงสภาวะธรรม ขจัดมารในใจก็มีนิพพานเป็นสภาวะธรรมสุดท้ายไม่เป็นอื่นอีก - แค่นี้ก็เข้าถึงแล้ว ]​

เอาเข้าแนวคำสอนของพระครูที่เราไปกราบมาเสียหน่อย

 

เรียนถาม ท่านเล่าซือ ไม่ใช่สิ ท่านเล่าปัง

ประโยคที่ว่า ทำซื่อๆ นี้ ช่วยขยายความหน่อย คือว่าให้ทำแบบทำไปเรื่อยๆ ไม่หวังผล คือว่า ให้ทำไปเช่นนั้นเอง ใช่หรือไม่ ประโยคนี้คุ้นๆ แฮะ เคยได้ยินจาก หลวงพ่อรูปหนึ่ง ท่านกล่าวประโยคนี้เช่นกัน

 

เช่นนั้นแหละ

เอาอีกคำไหม จะได้มั่นใจ

"รู้ลูกเดียว"

 

ท่านเล่าปังตีความได้ถูกใจวัยโจ๋มากครับ

คุณกบยิ้มก็ตีความได้ดีครับ

ขอบคุณทั้งสองท่านที่รับมุกครับ...

 

การผ่านเข้า

ผ่านออก

คือทางหลุด

 

ผมไม่แน่ครับ
พี่มันแย่พี่แพ้เด็กสิบสี่
+ฮ่าๆ

 

^
^
^
20 ฝ่า ๆ ได้ไม๊พี่ 14 มันติดคุก