เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 30 มิถุนายน 2010.

  1. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    คุณอธิษฐาน มาช่วย เล่า เรื่อง ก็ ดี นะ
    ทำให้ มีมุมมอง มีเรื่อง ราว ในแง่ต่าง ออกไป ให้ เราได้ฟังกัน

    ..................................

    มาช่วย กัน ทำแบบทดสอบ กันหน่อย (ผม ออกแบบสอบถามเอง )

    1. หากท่าน พบเห็น คนร้าย ชิงทรัพย์ กระชากสร้อย ชาวบ้าน แล้ว วิ่งหนีมา ผ่านตัวท่านไป ท่านควรจะทำอย่างไร
    ตอบ.........

    2. หากคนร้ายวิ่งผ่านท่านไป แล้ว หลบ แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์ (ท่านก็ เห็นอีกแหละ )
    มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถาม ท่าน ท่านจะตอบอย่างไร
    ตอบ...............................

    3. เป็นเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นจริง
    นาง ก. เป็นแม่ลูกอ่อน ที่ต้องดูแลลูกๆ เล็ก อีก สองคน มีฐานะยากจน สามี ก็ หายหน้าไป ไม่รุ้ว่าไปอยู่ไหน
    วันหนึ่ง เดินเก็บของเก่า เศษของเก่า ไปขายหาเลี้ยงชีพ อุ้มลูกคนเล็ก มาด้วย
    จนถึง ริมคลองหลอด ( หลังกระทรวง ) เห็น ต้นขนุน มีลูก กำลังสุกงอม อยู่ จึง เก็บมากิน ประทังชีวิต

    (เป็นต้นขนุน ที่ ปลูกอยู่ ริมทางเท้า กับคลองหลอด ไม่รู้ว่าใครปลูก ผม ก็ เห็นมาตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ แต่เป็นของหลวง แหละ)

    ในขณะนั้น จ่าสิบเอก ข. พบเห็นเหตุการ พอดี
    จึง เข้าจับกุม นาง ก. ในข้อหาลักทรัพย์ นำตัวไป นำเนินคดี
    ซุมภาพ ไปดู ที่ โรงพัก หน่อย
    นางก. ถูกจับ ขัง รอการส่งตัว ขึ้นศาล นั่ง ให้ลูกน้อย กินนม อยู่

    เด็กไม่มีความผิด ก็ ไม่ต้อง ถูกขัง หรอก แต่ เด็กน้อย ยังกินนมแม่อยู่ จะเอาไว้ ขังนอก ก็ไม่ได้
    จำเป็นต้อง เอาไปไว้กับแม่

    เห็นแล้ว คง สังเวร หดหู่ใจ

    หลังจากนั้น นาง ก. ถูกศาลตัดสิน ว่ามี ความผิด ในฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก .... เดือน


    เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว

    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ........................................................................
    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ 3.2.1 นาง ก. ..................................................
    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ..................................................
    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน ..............................................
    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. ..................................................


    .......................................


    ลอง ช่วยกัน ตอบคำถาม เหล่านี้ ดู

    คำตอบของท่าน จะ เป็นกระจก เงา สะท้อน ความมีคุณธรรม ความดี ความเป็นชาวโลก ศิวิไลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2014
  2. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538


    1. หากท่าน พบเห็น คนร้าย ชิงทรัพย์ กระชากสร้อย ชาวบ้าน แล้ว วิ่งหนีมา ผ่านตัวท่านไป ท่านควรจะทำอย่างไร
    ตอบ.........ไม่กระโดดตะครุบก็เพี้ยนแล้ว ! (เราเป็นผู้หญิงยังไงก็เเรงน้อยกว่า สิ่งที่ทำได้ ก็มีเท่านั้น ถ้ามีโอกาสก็ดึงสร้อยกลับ แต่ถ้าดึงเเล้วสร้อยจะมีลักษณะยังไง ค่อยว่ากันอีกที )

    2. หากคนร้ายวิ่งผ่านท่านไป แล้ว หลบ แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์ (ท่านก็ เห็นอีกแหละ )
    มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถาม ท่าน ท่านจะตอบอย่างไร
    ตอบ..... หลบ แอบอยู่หลังป้ายรถเมล์

    3. เป็นเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นจริง
    นาง ก. เป็นแม่ลูกอ่อน ที่ต้องดูแลลูกๆ เล็ก อีก สองคน มีฐานะยากจน สามี ก็ หายหน้าไป ไม่รุ้ว่าไปอยู่ไหน
    วันหนึ่ง เดินเก็บของเก่า เศษของเก่า ไปขายหาเลี้ยงชีพ อุ้มลูกคนเล็ก มาด้วย
    จนถึง ริมคลองหลอด ( หลังกระทรวง ) เห็น ต้นขนุน มีลูก กำลังสุกงอม อยู่ จึง เก็บมากิน ประทังชีวิต
    ในขณะนั้น จ่าสิบเอก ข. พบเห็นเหตุการ พอดี
    จึง เข้าจับกุม นาง ก. ในข้อหาลักทรัพย์ นำตัวไป นำเนินคดี
    ซุมภาพ ไปดู ที่ โรงพัก หน่อย
    นางก. ถูกจับ ขัง รอการส่งตัว ขึ้นศาล นั่ง ให้ลูกน้อย กินนม อยู่

    เด็กไม่มีความผิด ก็ ไม่ต้อง ถูกขัง หรอก แต่ เด็กน้อย ยังกินนมแม่อยู่ จะเอาไว้ ขังนอก ก็ไม่ได้
    จำเป็นต้อง เอาไปไว้กับแม่

    เห็นแล้ว คง สังเวร หดหู่ใจ

    หลังจากนั้น นาง ก. ถูกศาลตัดสิน ว่ามี ความผิด ในฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก .... เดือน


    เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว

    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ... ทุกคนต่างผิดและถูก ในแต่ละบุคคล
    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ ....................
    3.2.1 นาง ก. ผิดที่เอาของเขามาโดยไม่บอกกล่าวเจ้าของ
    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ถูก ทำตามเพราะหน้าที่ ผิด เพราะจ่าสิบเอก ข. ไม่นำเรื่องไปพูดคุยกับทางเจ้าของผลไม้นั่นเสียก่อน
    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน ถูก เพราะทำตามหน้าที่ของกฎหมาย
    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. ไม่ผิดและไม่ถูก

    ปล.การที่นำเด็กเข้าห้องขัง คงจะไม่ถูกต้อง เพราะ เด็กพวกนี้ถ้าไม่มีญาติดูแลจริงๆ จะต้องนำเข้าศูนย์เด็กกำพร้า ซึ่งเป็นผลดีที่สุดสำหรับเด็ก รอจนผู้เป็นแม่พ้นผิด และมารับลูกได้ในที่สุด !

    ส่วนการประทังชีวิต ! การที่เราอดอยาก ไม่ใช่ว่าเราจะต้องลักของเขาไป
    ไม่ว่าจะกรณีใดๆ เราควรบอกกล่าว ขอของสิ่งนั้นกับเจ้าของโดยตรงเพื่อเป็นผลดีแก่ทั้ง 2 ฝ่าย

    .......................................
     
  3. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    มาช่วย กัน ทำแบบทดสอบ กันหน่อย (ผม ออกแบบสอบถามเอง )

    1. หากท่าน พบเห็น คนร้าย ชิงทรัพย์ กระชากสร้อย ชาวบ้าน แล้ว วิ่งหนีมา ผ่านตัวท่านไป ท่านควรจะทำอย่างไร
    ตอบ.........

    ** ตื่นเต้น...ดูเหตุการณ์...อาจเข้าขวางแบบเนียนๆ ...กลัวโดนลูกหลงเหมือนกันนะ...แต่คิดกลับกันถ้าเป็นของญาติพี่น้อง...กระโดดเข้าใส่เลย(ถ้าไม่มีมีดหรือปืนนะ)..ดู 2 มาตรฐานเนาะ 555

    2. หากคนร้ายวิ่งผ่านท่านไป แล้ว หลบ แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์ (ท่านก็ เห็นอีกแหละ )
    มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถาม ท่าน ท่านจะตอบอย่างไร
    ตอบ...............................

    ** คิดว่าบอกตำรวจนะ สงสารเจ้าของทรัพย์...ถ้าเป็นเราคงเสียใจเหมือนกัน

    3. เป็นเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นจริง
    นาง ก. เป็นแม่ลูกอ่อน ที่ต้องดูแลลูกๆ เล็ก อีก สองคน มีฐานะยากจน สามี ก็ หายหน้าไป ไม่รุ้ว่าไปอยู่ไหน
    วันหนึ่ง เดินเก็บของเก่า เศษของเก่า ไปขายหาเลี้ยงชีพ อุ้มลูกคนเล็ก มาด้วย
    จนถึง ริมคลองหลอด ( หลังกระทรวง ) เห็น ต้นขนุน มีลูก กำลังสุกงอม อยู่ จึง เก็บมากิน ประทังชีวิต

    (เป็นต้นขนุน ที่ ปลูกอยู่ ริมทางเท้า กับคลองหลอด ไม่รู้ว่าใครปลูก ผม ก็ เห็นมาตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ แต่เป็นของหลวง แหละ)

    ในขณะนั้น จ่าสิบเอก ข. พบเห็นเหตุการ พอดี
    จึง เข้าจับกุม นาง ก. ในข้อหาลักทรัพย์ นำตัวไป นำเนินคดี
    ซุมภาพ ไปดู ที่ โรงพัก หน่อย
    นางก. ถูกจับ ขัง รอการส่งตัว ขึ้นศาล นั่ง ให้ลูกน้อย กินนม อยู่

    เด็กไม่มีความผิด ก็ ไม่ต้อง ถูกขัง หรอก แต่ เด็กน้อย ยังกินนมแม่อยู่ จะเอาไว้ ขังนอก ก็ไม่ได้
    จำเป็นต้อง เอาไปไว้กับแม่

    เห็นแล้ว คง สังเวร หดหู่ใจ

    หลังจากนั้น นาง ก. ถูกศาลตัดสิน ว่ามี ความผิด ในฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก .... เดือน


    เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว

    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ........................................................................
    ** บอกว่าไม่รู้ใครปลูก(อาจ งอกเอง)แล้วเป็นของหลวง...ก็ถือว่ามีเจ้าของอยู่
    แล้วนก/หนูที่หยิบกินอย่างสบายใจเฉิบ...ต้องจับมันเข้าคุกมั๊ย....สงสัยน่ะ

    แล้วเศษอิฐ/กรวด/ทรายข้างถนนที่เหลือจากการก่อสร้างถนน มีเด็กเก็บอิฐไปเล่นหมากเก็บที่บ้าน(ก็มันเป็นของหลวงนะ)ต้องจับเด็กเข้าคุกมั๊ย...สงสัยน่ะ


    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ 3.2.1 นาง ก. ..................................................
    ** ถ้าผิดก็ผิดที่ขนุนไม่ใช่ของนาง ก.(ไม่ว่าด้วยการซื้อหามา/ปลูกกินเองในที่ของตน)

    ** มองอีกทางก็ไม่น่ามีปัญหา ถึงเป็นของหลวง แค่เรามีเมตตาต่อกันเห็นเขาลำบากกว่า ปล่อยให้หล่นทิ้งเสียหาย/นกหนูกินหมด...ให้คนได้กิน..จะไม่ได้บุญกว่ากันรึ

    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ..................................................
    ** ก็ทำถูกในแง่รักษาผลประโยชน์ของหลวง...แต่แค่ขนุนลูกหนึ่ง ทำมองไม่เห็นบ้างไม่ได้เหรอ(ทีทำงานหลวงใช้น้ำใช้กระดาษใช้ไฟฟรียังทำได้เลย..อุ๊บบบ)

    ** แล้วถามหน่อยถ้าเป็นลูกของจ่าสิบเอกเอง ที่หิวขนุนลูกนั้นจะเก็บให้ลูกกินป่ะ แล้ว ๆ จะบอกตำรวจจับตัวเองป่าวเอ่ยยยยย...สงสัยนะ...สงสัย...ประเทศไทย

    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน .................................................
    ** แล้วการตัดสินคดีความเขาไม่ใช้หลักมนุษยธรรมเลยเหรอ...งง...สงสัยจริงนะ...สงสัย(รึลักทรัพย์ยอมความไม่ได้...ความผิดสำเร็จแล้วว่างั้น...ถ้างั้นเอาขนุนใช้คืน 2 ลูกนะ(แถม)

    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. ...................................................
    ** ข้อนี้เด็กไม่ผิดแต่...แม่อยู่ไหนลูกอยู่นั่นก็ถูกแล้ว..ยังไม่หย่านม...รึไม่ถูกหว่า...งงล่ะ..อีกอย่างเธอตัวคนเดียวนี่...แต่มันดูน่าสงสารจัง

    ** เรื่องนี้ถ้ามองในแง่คนจนทำอะไรก็ผิด...ก็มีเยอะอยู่นะ...น่าเห็นใจมาก
    ** คนรวยขับรถชนคนตาย...รอลงอาญาก็มีนะ(ไม่ได้ว่าใครน๊าาา..555)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กันยายน 2014
  4. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    กะทิจ๋า...รออ่านพลังออร่าของมนุษย์อยู่น๊าาา
     
  5. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    มี ผู้ ช่วย ตอบแบบสอบถาม มา 3 ท่านแล้ว

    ขอบคุณครับ

    เรื่องที่ ถามไว้ รอท่านอื่นๆ สักหน่อย แล้ว ผม จะมาเฉลย อีกที
    ( คือตอบอย่างไง ก็ได้ตามใจท่าน ท่านคิดอย่างไร ก็ ตอบไปอย่างนั้น ก็พอ เพราะที่ถาม ก็ เพียง อยากจะทราบ ความคิดเห็น จาก หลายๆ คน มีความคิดมุมมอง เหมือนกันหรือต่างกัน เพียงไร )

    ขอบคุณครับ

    ..........................................

    คุณอธิษฐาน อยุ่ที่ไหน มีญาติ มารอฟัง เรื่อง พลังออร่า อยู่ นะ ครับ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014
  6. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    [​IMG]


    [​IMG]


    ก่อนจะ เข้าถึงเรื่อง ออร่า (แสงแห่งพลังชีวิต) ควรรู้จัก กับจักระ สักหน่อย
    จักระ หลัก ทั้ง 7 จักระ
    คือจุดรับพลัง สำคัญ 7 จุดในร่างกาย มนุษย์ หรือ แม้นกระทั่ง สัตว์ ก็ตาม ต่างก็มี จักระ เหล่านี้ เหมือนกันทั้งสิ้น

    ความหมาย ก็ คือ จักระเหล่านี้ มี อยู่แล้ว ในตัวท่าน ไม่ว่าท่านจะ รู้ หรือ ไม่ ก็ตาม เป็นไปเองตามธรรมชาติ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014
  7. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,774
    ตอบ

    มาช่วย กัน ทำแบบทดสอบ กันหน่อย (ผม ออกแบบสอบถามเอง )

    1. หากท่าน พบเห็น คนร้าย ชิงทรัพย์ กระชากสร้อย ชาวบ้าน แล้ว วิ่งหนีมา ผ่านตัวท่านไป ท่านควรจะทำอย่างไร
    ตอบ.........

    ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ช่วยจับเลย ตอนนี้ต้องวางอุเบกขาแล้ว ไม่อยากก่อกรรมใหม่อีก

    2. หากคนร้ายวิ่งผ่านท่านไป แล้ว หลบ แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์ (ท่านก็ เห็นอีกแหละ )
    มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถาม ท่าน ท่านจะตอบอย่างไร
    ตอบ...............................

    ไม่.คำเดียว..แปลว่าไม่อยากสร้างกรรม

    3. เป็นเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นจริง
    นาง ก. เป็นแม่ลูกอ่อน ที่ต้องดูแลลูกๆ เล็ก อีก สองคน มีฐานะยากจน สามี ก็ หายหน้าไป ไม่รุ้ว่าไปอยู่ไหน
    วันหนึ่ง เดินเก็บของเก่า เศษของเก่า ไปขายหาเลี้ยงชีพ อุ้มลูกคนเล็ก มาด้วย
    จนถึง ริมคลองหลอด ( หลังกระทรวง ) เห็น ต้นขนุน มีลูก กำลังสุกงอม อยู่ จึง เก็บมากิน ประทังชีวิต

    (เป็นต้นขนุน ที่ ปลูกอยู่ ริมทางเท้า กับคลองหลอด ไม่รู้ว่าใครปลูก ผม ก็ เห็นมาตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ แต่เป็นของหลวง แหละ)

    ในขณะนั้น จ่าสิบเอก ข. พบเห็นเหตุการ พอดี
    จึง เข้าจับกุม นาง ก. ในข้อหาลักทรัพย์ นำตัวไป นำเนินคดี
    ซุมภาพ ไปดู ที่ โรงพัก หน่อย
    นางก. ถูกจับ ขัง รอการส่งตัว ขึ้นศาล นั่ง ให้ลูกน้อย กินนม อยู่

    เด็กไม่มีความผิด ก็ ไม่ต้อง ถูกขัง หรอก แต่ เด็กน้อย ยังกินนมแม่อยู่ จะเอาไว้ ขังนอก ก็ไม่ได้
    จำเป็นต้อง เอาไปไว้กับแม่

    เห็นแล้ว คง สังเวร หดหู่ใจ

    หลังจากนั้น นาง ก. ถูกศาลตัดสิน ว่ามี ความผิด ในฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก .... เดือน


    เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว

    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ........................................................................
    ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิด ถ้ารู้ก็ผิด จ่าก็ควรจะสอบถามก่อนถ้าผิดก็แค่ตักเตือนก่อน ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาทตาย ควรมีความเห็นใจกันบ้าง ไม่ใช่ว่าต้องทำตามกฎหมายทุกอย่าง ต้องรู้จักช่วยเหลือกันบ้าง เป็นผมคงจะให้เงินช่วยเหลือเขาหน่อย
    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ 3.2.1 นาง ก. ..................................................
    ผิดเต่เพราะความหิว ต้องเอาตัวและลูกให้รอด ถ้าขอจ่าก่อนอาจจะได้นะ...

    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ..................................................

    ไม่มีความเห็นใจและ ไม่มีความเมตตาต่อคนเลย...555 ได้ก่อกรรมขึ้นแล้ว

    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน ..............................................

    ตัดสินไปตามกฎหมาย แต่ว่าจะหนักไปหน่อย กรรมก็ได้เกิดขึ้าแล้วเหมือนกัน

    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. ..................................................

    เลยได้รับเคราะไปด้วย กรรมก็ได้เกิดขึ้นกับทุกๆฝ่ายอีกนั่นและ

    :boo:.......................................
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ลอง ช่วยกัน ตอบคำถาม เหล่านี้ ดู

    คำตอบของท่าน จะ เป็นกระจก เงา สะท้อน ความมีคุณธรรม ความดี ความเป็นชาวโลก ศิวิไลฯ[/QUOTE]
     
  8. ดื้อตาใส

    ดื้อตาใส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +177
    ..............................................................................
     
  9. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649


    ข้อ1 ร้องบอกดัง คนร้าย จับด้วย
    ข้อ2 บอกตามที่เห็น
    ข้อ3
    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ....น่าสงสาร แต่ควรต้องขออนุญาตกับต้นไม้ด้วย เธอเป็นเจ้าของผลไม้ ตำรวจอาจมองผ่านเลยไปไม่จับก้ได้
    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ 3.2.1 นาง ก. อาจด้วยความไม่มี แต่ต้องขอก่อนด้วยวาจา
    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ปฎิบัติหน้า่ที่ตรงมาก ของหลวง แต่ขาดเมตตา
    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน ตามรูปคดี น่าจะทำเป็นลหุโทษ
    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. กรรมตกถึง
     
  10. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    ขอบคุณครับ ที่มาช่วยกัน ตอบคำถาม

    จริงๆแล้ว คำถามนี้ ใครๆ ก็ ตอบได้ เพียงแต่ ผม อยากจะเห็นความรู้สึก ทางจิตใจ ของแต่ละท่าน ที่มาแสดงความคิดเห็น

    เรื่องความผิด ความถูก เราก็ ตอบ ก้นได้ ทุกคน ว่า สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด อย่างตรงไปตรงมา

    แต่ ในความเป็นจริง ชีวิตจริงๆ มันยังมี ความเห็นอกเห็นใจ มี กฏหมาย มี หน้าที่ มีความจำเป็น มาเป็นตัวบังคับ
    ผลทำให้ การตัดสินใจ อาจจะเบี่ยงเบน ไปจาก คุณธรรมประจำใจ ไปบ้าง แหละ

    ...............................

    ในฐานะ ผมเองเป็นคนตั้งคำถาม จะมานั่งอ่าน คำตอบของท่าน แต่เพียงฝ่ายเดียว ก็ ดูเหมือนจะ เอาเปรียบกินแรงเพื่อนฟรีๆ...........55
    งั้น ผม ขอ ตอบ คำถาม ด้วยคน

    ตอบแบบ ตัวเรา ในชีวิตจริงๆ ................คิดอย่างไร ทำอย่างไร



    1. หากท่าน พบเห็น คนร้าย ชิงทรัพย์ กระชากสร้อย ชาวบ้าน แล้ว วิ่งหนีมา ผ่านตัวท่านไป ท่านควรจะทำอย่างไร
    ตอบ.........น่าจะทำอะไร สักอย่าง เพื่อ หยุดคนร้าย ( ที่ไม่ได้ตอบว่า ทำอะไร ก็เพราะ คงต้องทำไปตาม สถานะการ)


    2. หากคนร้ายวิ่งผ่านท่านไป แล้ว หลบ แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์ (ท่านก็ เห็นอีกแหละ )
    มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถาม ท่าน ท่านจะตอบอย่างไร
    ตอบ.....ก็ ตอบไป ตรงๆ ว่า คนร้าย แอบอยู่ หลังป้ายรถเมล์

    3. เป็นเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นจริง
    นาง ก. เป็นแม่ลูกอ่อน ที่ต้องดูแลลูกๆ เล็ก อีก สองคน มีฐานะยากจน สามี ก็ หายหน้าไป ไม่รุ้ว่าไปอยู่ไหน
    วันหนึ่ง เดินเก็บของเก่า เศษของเก่า ไปขายหาเลี้ยงชีพ อุ้มลูกคนเล็ก มาด้วย
    จนถึง ริมคลองหลอด ( หลังกระทรวง ) เห็น ต้นขนุน มีลูก กำลังสุกงอม อยู่ จึง เก็บมากิน ประทังชีวิต

    (เป็นต้นขนุน ที่ ปลูกอยู่ ริมทางเท้า กับคลองหลอด ไม่รู้ว่าใครปลูก ผม ก็ เห็นมาตั้งแต่สมัยผมยังเด็กๆ แต่เป็นของหลวง แหละ)

    ในขณะนั้น จ่าสิบเอก ข. พบเห็นเหตุการ พอดี
    จึง เข้าจับกุม นาง ก. ในข้อหาลักทรัพย์ นำตัวไป นำเนินคดี
    ซุมภาพ ไปดู ที่ โรงพัก หน่อย
    นางก. ถูกจับ ขัง รอการส่งตัว ขึ้นศาล นั่ง ให้ลูกน้อย กินนม อยู่

    เด็กไม่มีความผิด ก็ ไม่ต้อง ถูกขัง หรอก แต่ เด็กน้อย ยังกินนมแม่อยู่ จะเอาไว้ ขังนอก ก็ไม่ได้
    จำเป็นต้อง เอาไปไว้กับแม่

    เห็นแล้ว คง สังเวร หดหู่ใจ

    หลังจากนั้น นาง ก. ถูกศาลตัดสิน ว่ามี ความผิด ในฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก .... เดือน


    เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว

    3.1 ท่าน มีความเห็น เกี่ยวกับ เรื่องนี้ อย่างไร
    ตอบ...เรื่องนี้ เหมือนละครชีวิต ในทีวี แต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นแล้ว ความยากจน ความหิวโหย ความจำเป็น มันบังคับ แค่ ลูกขนุน ที่ขึ้นอยู่ข้างถนน (ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่ทางกฏหมายเป็นของหลวง ใครจะไป รู้ ....หว่า)
    ท้องมันหิว ลุก ก็ร้อง เห็นขนุน ขึ้นอยู่ริมถนนข้างทาง ก็ เก็บมากิน มันก็น่าเป็นเรื่องธรรดา ไม่น่าแปลกใจ
    แต่ ที่ตำรวจมาพบ แล้ว จับกุม ไป ดำเนินคดี ตรงนี้ สิ น่าคิด
    จ่า ข. แก คิดอย่างไง หรือ ขณะนั้น ภาพที่ จ่า เห็น แล้ว ทำให้แก เข้าใจไป ว่า เป็นอะไร ...
    จึง ได้ ตัดสินใจ เข้า จับกุม ไป เช่นนั้น

    ส่วน เมื่อ นาง ก. ถูกจับกุม แล้ว ส่งตัวขึ้นศาล ดำเนินคดี ก็ เป็นไป ตามขั้นตอน ของกฏหมาย ตามปกติ
    ส่วน คำตัดสินของ ศาล พอเข้าใจได้ ว่า ท่าน พิพากษา ไป ตาม สำนวน ส่งขึ้นมา เป็นความผิด ที่เห็นชัดเจน ถูกจับกุม ขณะกระทำความผิด อย่างนี้ ดิ้นไม่หลุด มีความผิดตามกฏหมายจริงๆ
    ศาล ท่านก็ สั่งลงโทษ จำคุก สองเดือน (ถ้าเป็นกรณีอื่น คนร้าย ลักโขมย ของชาวบ้าน ก็ คงเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ กรณีนี้ เรามี ความ สงสาร แก่ นางก. จึงรู้สึกว่า โดนลงโทษ หนักไป )

    เท่าที่ผมจำได้ ผู้พิพากษา ท่านนี้ ก็ ได้รับคำวิพากษ์วิจาร จากเพื่อนพ้อง นักกฏหมาย ในขณะนั้นอยู่ เหมือนกัน

    ..........................................

    3.2 ตัวละคร แต่ละ ตัว มี ความถูกผิด อย่างไร
    ตอบ 3.2.1 นาง ก. ทำผิดกฏหมายจริง... แต่ หากมองในด้านคุณธรรม ถือว่าผิดเล็กน้อยเท่านั้น
    3.2.2 จ่าสิบเอก ข. ทำตามหน้าที่ โดยเคร่งคัด แต่ไม่ทราบว่า ในขณะนั้น จ่า ท่านคิดอะไร หรือเห็นอะไร จึง ทำไปเช่นนั้น (อันที่จริง ไม่เห็น ซะ ก็ ได้ แค่ ขนุนข้างถนน ทิ้งไว้ มันก็ ล่วงหล่น เน่า ไป อยู่แล้ว หลวงท่านก็ไม่เคย มาเก็บเอาไปทำประโยชน์ อะไร หลี่ตา ข้างหนึ่ง คิดว่า ปล่อยให้เป็น อาหาร นกกา ไป ซะ ก็ หมดเรื่อง)
    3.2.3 ผู้พิพากษา ที่ตัดสิน ท่านต้องทำตามหน้าที่ ของท่าน เช่นนั้น เราไม่เห็นสำนวน ที่ส่งขึ้นมา ว่า เค้าเขียนว่าอย่างไง แล้ว ก็ ทำไม ไม่มีใคร ในที่นั้น แนะนำให้ ร้องขอ ต่อศาล เพื่อบรรเทาโทษ เพียง ชี้แจงต่อศาล ว่า ทำไม นาง ต้อง เก็บขนุน ไป กิน ด้วยความยากจน อดยาก ลูกร้อง เพราะหิวข้าว ฯ หาก แสดงให้ ศาลเห็น เช่นนี้ ท่าน คง เห็นใจ และ คงมี คนใจดี ให้ ค่ารถ กลับบ้าน บ้างแหละ)

    3.2.4 ลูกน้อยของนาง ก. เป็นกรรม เก่า ของ เค้า ที่ต้องตกระกำ ลำบาก ตั้งแต่ ยังเล็ก ต้อง เข้าห้องขัง โดยไม่รู้ตัว ตรงนี้ น่า สนใจ นะ ใครตา ดีๆ ลอง ส่อง แล้ว ซูม ให้หน่อย เถอะ....

    .........................................

    พอหอม ปากหอมคอ กัน นะครับ
    สำหรับ กฏหมาย กับ คุณธรรม ในใจ มนุษย์
     
  11. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    [​IMG]
     
  12. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ตักบาตรเพ็ญพุธ หลวงปู่อุปคุต 8 ตุลาคม 2557

    ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เทศนาโปรดนาคชื่อ อปลาละโปรดช่างปั้นหม้อ หญิงจัณฑาล และนางโคบาลแล้วเสด็จสู่เมืองมถุรา ณ ที่นั้น ได้มีพุทธดำรัสกับพระอานนท์ว่า…

    “ดูก่อนอานนท์ ณ นครมถุรานี้ อีกร้อยปีแต่ตถาคตนิพพานแล้ว จะมีคนขายน้ำหอมชื่อ คุปตะ เขาจะมีลูกชื่อ อุปคุต ซึ่งจะได้เป็นอนุพุทธ ท่านผู้นี้จะทำงานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไปเทศนาของท่านผู้นี้จะช่วยให้ภิกษุเป็นอันมาก เอาชนะกิเลสมารได้ จนเข้าถึงอรหันตผล พระอรหันต์จะมีมาก จนมีปริมาณเต็มถ้ำ ซึ่งยาว ๑๘ ศอก กว้าง ๑๒ ศอก แต่ละรูปจะถือไม้ศาลากายาว ๔ นิ้ว


    อานนท์ นอกไปจากนี้แล้ว พระอุปคุตรูปนี้ จะเป็น ‘เอตทัคคะ’ ในบรรดาธรรมถึกทั้งหลายของเรา”


    “พระอุปคุต” จึงเป็นพระอรหันต์องค์สำคัญหลังสมัยพุทธกาล ท่านบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ เป็น ‘พระธรรมกถึก’ คือ ผู้กล่าวสอนธรรม คือ ผู้แสดงธรรมหรือนักเทศน์ การเทศนาแสดงธรรมของท่าน แม้ในวันเดียวกันก็ทำให้พระภิกษุจำนวน ๑๘,๐๐๐ รูป ได้บรรลุสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพเช่นเดียวกัน


    ตามตำราและคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ผู้สำเร็จธรรม กล่าวว่า พระอุปคุต ท่านมีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย เนรมิตเรือนแก้วขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) เข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุตติสุขอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่

    ท่านจะออกจากสมาบัติ ขึ้นมาบิณฑบาตในโลกมนุษย์ เฉพาะในวันเพ็ญพุธ (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ) แล้วจะลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วในท้องทะเลหลวงเช่นเดิม


    ดังนั้น เมื่อวันเพ็ญพุธมาถึง ชาวบ้านจึงมักตื่นกลางดึก เพื่อเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุต จนเกิดประเพณี ‘ตักบาตรเที่ยงคืน’ โดยมีคติความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้ว จะได้อานิสงส์มากล้น เกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในชีวิตอย่างประมาณมิได้

    ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันพุธที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ค่ะ


    วิธีการตักบาตรเพ็ญพุธ มี 2 วิธี

    1. สมาธิไปกราบท่านในคืนวันเพ็ญพุธ ประมาณเที่ยงคืน สำหรับผู้ที่มีสมาธินิ่งได้ ให้กำหนดจิตไปกราบท่าน ที่สะดือทะเล และใส่บาตรท่านผ่านจิต

    อนึ่งคืนนี้ ไปเฝ้าท่านได้ แต่อย่าเพิ่งรบกวนท่าน หากท่านไม่ได้อยู่ในช่วงพักผ่อนนะคะ (แต่สามารถไปนั่งสมาธิกับท่านได้ค่ะ) รอให้ถึงวันพุธที่ 8 นี้ก่อนทีเดียวนะคะ ยกเว้นว่าท่านจะเรียกให้เข้าไปหาค่ะ

    2. หากเป็นทางรูปธรรม มูลนิธิธรรมดี ร่วมกับกลุ่มเพ็ญพุธประจวบคีรีขันธ์ และเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เชิญชวนชาวพุทธมามกะ ชวนร่วมทริป “ประจวบคีรีขันธ์ ตักบาตรเพ็ญพุธ บูชาหลวงปู่อุปคุต” ใส่บาตรพระ ๘๗ รูป วันที่ ๗-๙ ตุลาคม ศกนี้ (๓ วัน ๒ คืน) ณ มณฑลพิธีที่ประดิษฐานองค์หลวงปู่พระอุปคุตอรหันตเจ้า สวนสาธารณะ เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมกันตักบาตรถวายหลวงปู่อุปคุต และอัญเชิญบารมีองค์หลวงปู่อุปคุต ให้ปกปักผืนแผ่นดินไทย แผ่นดินธรรม เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
    ให้ดำรงคงถ้วนถึง ๕,๐๐๐ ปี

    โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐๒ ๖๑๐ ๒๓๘๘, ๐๒ ๖๑๐ ๒๓๙๘ ค่ะ


    กะทิเธอมีบุญได้กราบท่าน 2 ครั้ง ครั้งแรกไม่ได้เตรียมตัวเลย เพราะไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้า ซึ่งในครั้งแรกนั้นคุณหมอสุวิไม่ได้ทราบด้วย ว่าท่านหลวงพ่อจะออกจากสมาบัติ ในวันที่กะทิบังเอิญไปกราบท่าน ด้วยเพราะกะทิเธอได้ทราบข่าวจาก มูลนิธิธรรมดี ของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย พอกะทิเธอนำมาเล่าให้คุณหมอสุวิฟัง หมอเธอก็โยเยว่าทำไมฉันไม่รู้


    ดังนั้นในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่สอง ที่ท่านจะออกจากสมาบัติ จึงขอเชิญชวนท่านผู้อ่านร่วมเข้าเฝ้าท่านหลวงพ่อโดยพร้อมเพรียงกันค่ะ ทั้งนี้เมื่อคืนนี้กะทิเธอลองไปเฝ้าท่านดูก่อนล่วงหน้าแล้ว บัังเอิญอีกเช่นกันที่เป็นช่วงที่ท่านพักจากการทำสมาธิหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ท่านกล่าวกับกะทิเธอ เหมือนจะประมาณว่า ท่านรอกะทิอยู่ (ทั้งนี้อาจเพราะตั้งแต่ได้เคยกราบท่านครั้งแรก กะทิเธอก็ได้อุทิศถวายบุญบูชาหลวงพ่อท่านผ่านจิตหลังจากทำบุญ สวดมนต์ภวาอยู่เนื่องๆ ก็เป็นได้มั้งคะ ท่านก็เลยอาจอยากสนทนาสั่งสอนหนะค่ะ ไม่แน่ใจ)


    ท่านได้เทศนาสั่งสอนถึงสิ่งที่กะทิมี แต่ติดอยู่กับความสนุกซุกซน ท่านแนะว่าสิ่งที่กำลังทำประโยชน์ให้ผู้อื่นนั้นดีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของเหตุและผล ขอให้ เธอ (ท่านเรียกกะทิว่าเธอนะคะ) ให้การคิดเป็นเหตุ และ ผล นี้ ให้กว้างไกล ในหลายๆ มิติมากขึ้น ผ่านพระเสมา โดยคุยกับพระเสมาถึงเหตุและผลต่างๆ ก็จะได้รับความรู้ในหลากหลายมิติขึ้นเอง ประมาณนี้หนะค่ะ


    เดี๋ยวกะทิเธอจะลองไปเฝ้าท่านอีก นะคะ โดยเฉพาะวันพุธที่จะถึงนี้ค่ะ




    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ, นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ, นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ กราบขอขมาแด่พระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนา, ขอพระพุทธองค์โปรดทรงยกโทษทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ ขออภิวาทพระธรรม, ขอพระธรรมโปรดยกโทษ ทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ.วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ ขออภิวาทพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์โปรดยกโทษทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. หากการให้ความรู้ที่ข้าพเจ้าเขียนแล้วนี้ มีประโยชน์ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแด่ผู้อ่านท่านใด ขอให้เป็นบุญแก่ข้าพเจ้าในการกล่าวขอขมาแด่พระรัตนตรัยในพระพุทธศาสนานี้ จงมีส่งผลเป็นพลังขอขมาจากข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อทุกภพชาติเทอญฯ กรรมอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำผิดพลาดไป ด้วยกาย วาจา ใจ ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ก่อเป็นความผิดบาปติดตัวข้าพเจ้า ด้วยอำนาจแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงอนิสงฆ์แห่งการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยผ่านชีวประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี รวมถึงด้วยอำนาจที่ข้าพเจ้าได้บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และผู้ปฏิบัติธรรมอันถึงแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ บริบูรณ์นี้ และด้วยอำนาจแห่งการกล่าวขอขมากรรม ที่สมบูรณ์ของข้าพเจ้านี้แล้ว ขอความผิดบาปทั้งปวงที่ติดตัวข้าพเจ้า จงสลายสิ้นเทอญฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2014
  13. leia17

    leia17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,368
    คืนวันที่ 7 ต.ค. ที่วัดตึก นนทบุรี มีงานตักบาตรพระอุปคุต
    กับหล่อพระประจำวัดเกิด 9 องค์ค่ะ เผื่อใครอยู่ใกล้ๆ
    อยากจะไปร่วมงานค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ท่านพระมหางามพล แจ้งข่าวให้ร่วมทำบุญค่ะ

    ท่านเป็นพระที่นำเงินถวายเพื่อใช้ในการส่วนตัวของพระที่ ฆราวาส ถวาย นำไปเป็นทุนการศึกษาเด็กๆ ที่เรียนดี ซึ่งกะทิเคยเล่าให้ฟังไปแล้วบ้างนะคะ สองสามวันก่อน ท่านก็เขียนมาบอกว่า


    "เจริญพร สะดวกร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะด้วยกันไหมหนอ ทั้งนี้จะนำไปแจกให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญวันที่ ๑๒ ต.ค.นี้ เปิดโรงทาน แจกทุนการศึกษาเด็กๆ ๓๙ ทุนและรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ป่วยเอสด์ที่วัดพระบาทน้ำพุ"



    [​IMG]



    ท่านว่ามาอย่างนี้นะคะ กะทิเธอก็เลยบอกว่าจะนำข่าวมาช่วยประชาสัมพันธ์ ใครที่สนใจพิมพ์หนังสือสวดมนต์ แต่ไม่ทันในช่วงที่ผ่านมา จะได้ร่วมบุญกับท่านหนะค่ะ



    [​IMG]




    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ, นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ, นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ กราบขอขมาแด่พระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนา, ขอพระพุทธองค์โปรดทรงยกโทษทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ ขออภิวาทพระธรรม, ขอพระธรรมโปรดยกโทษ ทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ.วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ ขออภิวาทพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์โปรดยกโทษทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. หากการให้ความรู้ที่ข้าพเจ้าเขียนแล้วนี้ มีประโยชน์ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแด่ผู้อ่านท่านใด ขอให้เป็นบุญแก่ข้าพเจ้าในการกล่าวขอขมาแด่พระรัตนตรัยในพระพุทธศาสนานี้ จงมีส่งผลเป็นพลังขอขมาจากข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อทุกภพชาติเทอญฯ กรรมอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำผิดพลาดไป ด้วยกาย วาจา ใจ ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ก่อเป็นความผิดบาปติดตัวข้าพเจ้า ด้วยอำนาจแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงอนิสงฆ์แห่งการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยผ่านชีวประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี รวมถึงด้วยอำนาจที่ข้าพเจ้าได้บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และผู้ปฏิบัติธรรมอันถึงแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ บริบูรณ์นี้ และด้วยอำนาจแห่งการกล่าวขอขมากรรม ที่สมบูรณ์ของข้าพเจ้านี้แล้ว ขอความผิดบาปทั้งปวงที่ติดตัวข้าพเจ้า จงสลายสิ้นเทอญฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  15. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    นิทาน พลังอธิษฐานของกะทิ ตอน พลังออร่ามนุษย์


    จากประสบการณ์ในการมองเห็นแสงออร่าของคน มันเริ่มมาจากตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อย่างที่เคยได้เล่าไปแล้ว ว่าเป็นช่วงที่กะทิเธอฝึกหนักในการอยู่กับสมาธิเปิดตา จำได้ว่าวันแรกที่เห็นออร่ามนุษย์นั้น เป็นช่วงที่ตัวเองไปรับน้องมหาวิทยาลัยนอกสถานที่ค่ะ กะทิเธอเรียนมหาวิทยาลัย ตจว. นะคะ อยู่ในภูมิภาคใกล้ชายทะเลค่ะ โดยทั้งนี้พวกเราได้ทำเรื่องแจ้งขอเช่ารถ 2 ประตู 20 หน้าต่าง ของมหาวิทยาลัยไปรับน้องแถวๆ ชายหาด แต่จำไม่ได้แล้วว่า ชายหาดอะไรนะคะ


    ทั้งนี้เพราะว่า น้องๆ ที่เข้าใหม่ในคณะ บางคนมาจากทางเหนือค่ะ ไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน จะให้เสียทีที่น้องเขาสอบติดเข้ามาเรียนในภูมิภาคที่มีชายทะเลได้อย่างไร พี่ๆ อย่างพวกเรา ก็เลยพาไปรับน้องนอกสถานที่ดังกล่าวนะคะ


    ในระหว่างการรับน้อง ทุกอย่างเป็นปรกติดีค่ะ จนกระทั่งขากลับ ขอบอกว่ากะทิเธอจะง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา หากว่างเมื่อไหร่เธอจะสามารถหลับได้ตลอด ดังนั้นพอขึ้นรถหาที่นั่งแถวหลังสุด (แย่งน้องๆ ปี 2-3) ได้ที่นั่งปั๊บ เธอก็เตรียมเข้าสู่ภวังค์ทันที และในช่วงก่อนที่จะหลับตานั้น เธอมองไปที่น้องแหม่มค่ะ น้องแหม่มเป็นน้องปี 3 ไม่ได้ที่นั่ง และเธอเต็มใจยืน


    กะทิก็มองเห็นเธอยืนเกาะอยู่ข้างๆ เบาะที่รุ่นน้องนั่งอยู่ตรงหน้า พอรถออกกะทิเธอก็หลับตา แต่ยังจำภาพติดตาที่น้องแหม่มกำลังยืนอยู่ตรงหน้าได้ และพอกะทิเธอหลับตานั่นเอง กะทิก็เห็นแสงสีออร่าของน้องแหม่มกระจายอยู่รอบตัวเธอ หลากหลายสีมากเลย ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นสีแดง ชมพู และน้ำเงิน ปลายของแสงที่พุ่งออกไปด้านนอกรอบตัวเธอนั่น เป็นแสงสีขาวใสแซมอยู่ เปรียบเหมือนปลายกลีบของดอกเบจมาศ แต่เป็นสีใสนะคะ ปลายกลีบนั้นจะแหลมเล็กและกลับดอกจะซ้อนกันเรียงกันถี่ๆ ค่ะ


    กะทิก็งง และตกใจมากค่ะ คิดว่าตาของเราเป็นอะไรไปเนี่ย??? ในใจคิดว่าเราบ้า และตาของเราคงผิดปกติ ถ้าหลับไปเลยได้ คงจะไม่เห็นภาพนี้อีก ดังนั้นกะทิเธอจึงข่มตาตัวเองให้หลับลึกลงไปทั้งอย่างนั้นอะนะคะ


    พอกลับมาถึงที่มหาวิทยาลัยในหลายวันต่อมา อาการที่ว่านี้ก็ยังเป็นอีก คือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง จำไม่ได้แล้วว่าเพราะว่าปวดตาและต้องการพักสายตารึยังไง จำไม่ได้แน่ชัด แต่ว่าก่อนหลับตา เธอมองเห็นน้องๆ มหาวิทยาลัยสองคน กำลังอยู่กลางสนามหน้าลานหอพักหนะคะ และพอเธอหลับตาลง เธอก็เห็นแสงออร่าของน้องติดค้างอยู่ในตา กะทิเธอก็ตกใจ และลืมตาขึ้นมา เธอยังเห็นน้องๆ อยู่ที่เดิมตรงนั้น เธอก็กระพริบตาถี่ๆ เธอก็เห็นเหมือนเดิม คือ ภาพน้องๆ สลับกับออร่าของน้องๆ สองคนนั้นเอง


    อารมณ์ตอนนั้นขอบอกเลยค่ะว่า กะทิสรุปว่าตัวเองไม่ปรกติและเป็นบ้า ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและจะปรึกษาใคร ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่กะทิเริ่มเพลาๆ ที่จะฝึกสมาธิหลับตา และไม่ได้ไปที่ศูนย์ฝึกกับเพื่อนๆ บ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย เพราะว่าเพื่อนในแก็งค์แทบทั้งหมดเรียนจบ 3 ปีครึ่ง มีแต่ยัยกะทิในกลุ่มกับเพื่อนอีกคนนั่นแหละที่จบ 4 ปี แต่คนๆ นี้กะทิเธอก็ไม่ค่อยสนิทด้วย และเพิ่งจะเข้ากลุ่มไปศูนย์ในช่วงหลังๆ อะนะคะ เลยไม่ค่อยสนิทกัน และกะทิเลยหาเรื่องไม่ไปศูนย์ มันรู้สึกโดดเดี่ยวยังไม่ไม่รู้ อีกทั้งนิสัยของกะทิที่ในเวลานั้น พูดจากับคนอื่นเขาไม่เป็นค่ะ เวลาอยู่กับคนอื่น ไม่รู้จะหาเรื่องชวนคุย ชวนพูดเรื่องอะไร เวลาไปศูนย์เหลือเราโดดเดี่ยวเหงาหงอย เลยเลิกไปซะงั้น รวมถึงการฝึกสมาธิต่างๆ ด้วย เลิกหมดค่ะ และสิ่งนี้ก็หายไปด้วย ไม่มีอาการที่กะทิเธอคิดว่าบ้าเกิดขึ้นอีก


    เวลาผ่านไปหลายปี กะทิเธอได้อ่านพบเว็บไซต์พลังจิต และได้อ่านข้อความของอาจารย์สามตา หรืออาจารย์อาชวิน ซึ่งในขณะนั้นบังเอิญว่าบู๊ทที่อาจารย์ไปเช่าสมัยโน้น อยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงานของกะทิเธอค่ะ กะทิก็เลยหาโอกาสแวะไปพบอาจารย์ และอาจารย์ได้มองและเห็นว่า เรามีตาในนะคะ อาจารย์ทักว่า เป็นหน่อตาหนะค่ะ แล้วเธอก็ให้กะทิดูออร่าของเธอ


    นี่จะเรียกว่าเป็นครั้งแรกก็ได้นะคะ ที่อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกกับกะทิว่า ฉันอนุญาตให้เธอดูออร่าของฉัน เพราะหลังจากนี้จะมีอีกหลายครั้งที่อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกว่า อนุญาตให้ดูออร่าของเขาคนนี้บ้าง อนุญาตให้ดูอดีตชาติของเขาบ้าง โดยที่กะทิไม่ได้ร้องขอ หรืออยากจะดูเลยนะคะ มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ที่เกิดขึ้นกับกะทิค่ะ


    สีของออร่าของอาจารย์สามตาที่ในสมัยโน้นกะทิได้เห็นมีลักษณ์และสีดังนี้ค่ะ (จำได้แม่นเลย เพราะมีสีที่เห็นไม่กี่สี)


    /ยังมีต่อ




    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ในพระพุทธศาสนา และแด่พระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  16. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2014
  17. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    สงสัยตรงที่ไฮไลท์น่ะ เราหลอกอสูรได้จริงๆ เหรอ หมายถึงเขาเชื่อที่เราเขียนบอกหรือพูด แต่ไม่รู้ความจริงในใจ...อืมมม ถ้างั้นที่เขาเขียนที่รถสีดำว่า "รถคันนี้สีแดง" ตามสีมงคลที่เขาเชื่อก็ใช้ได้จริงเหรอ ....แค่สงสัยน่ะจ้า :cool:
     
  18. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    นิทาน พลังอธิษฐานของกะทิ ตอน พลังออร่ามนุษย์ (ตอนต่อ)



    ต้องขอบอกเลยว่า ตอนที่อยู่ดีๆ อาจารย์สามตาอนุญาตให้กะทิเธอดูออร่าของเธอนั้น กะทิไม่ได้มีความมั่นใจในการมองเลย เนื่องจากอยู่ดีๆ เธอก็บอกว่า กะทิเธอหนะมีหน่อตาใน และการที่กะทิเคยเห็นออร่าคนอื่น ก็ล้วนแต่เป็นความไม่ตั้งใจ จนทำให้กะทิคิดไปเองว่า เธอเป็นบ้า และเลิกไปอย่างสิ้นเชิงเกือบๆ สิบปีเลยค่ะ (เช่นนี้แล้วใครจะไปมีความมั่นใจอะนะคะ)


    แต่อาจารย์สามตาไม่ได้มองกะทิเธอแบบนั้น เพราะความเมตตาของท่านรึอย่างไรไม่ทราบได้ ท่านก็บอกให้เราดู ในความรู้สึกของกะทิเธอตอนนั้น รู้สึกว่าท่านก็เหมือนจะเบ่งพลังให้ดูค่ะ คือ ไม่ได้เบ่งเพราะอยากอวดนะคะ แต่เบ่งเพื่อเราที่มีพลังอ่อน ไม่ได้เก่งอะไร อาจมองออร่าของท่านไม่เห็น หรือในอีกประการหนึ่งท่านอาจอธิษฐานปิดเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น ท่านก็เลยเปิดพลังให้ดูหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ในตอนนั้นกะทิทั้งตกใจ และเกรงใจท่านมาก คือตกใจที่อยู่ดีๆ ท่านก็เรียกให้เราดูออร่าของท่านระดับอาจารย์ ทั้งๆที่เราไม่ได้ฝึกเลย(ละทิ้งการฝึกพลังจิตทุกด้านมานาน และไม่ได้เคยคิดว่าตัวเองมีพลังจิต)


    กะทิขออนุญาตอาจารย์สามตานะคะ(ตอนนี้ท่านอยู่สุขคติแล้วโน่น)...ออร่าที่อาจารย์สามตาอนุญาตให้กะทิมองเห็น ออร่าภายในของท่านจะเป็นสีขาวขุ่นดวงใหญ่ ส่วนภายนอกจะเป็นสีทองขุ่น เหมือนสีกำไรทองหนะค่ะ และรอบนอกของสีทองอีกทีจะเป็นแสงสีขาวสว่างค่ะ เรียกว่าเป็นออร่าวงกลมต่างจากที่เคยเห็นของน้องแหม่มหนะค่ะ ไม่มีปลายแหลมนะคะ อันนี้กะทิเธอก็ไม่แน่ใจ เพราะอย่างที่บอกว่าล้างลามานานมากในรอบเกือบสิบปี แต่ก็บอกอาจารย์ไปว่า เป็นสีทองค่ะ อาจารย์ก็ตอบกลับมาว่า “ใช่แล้ว”



    อาจารย์สามตายังสอนเรื่องการควบคุมในการใช้ตาดูหรือสัมผัสสิ่งต่างๆ ว่า ถ้าไม่อยากจะดูไม่อยากเห็นก็ให้คิดว่า ปิดจิ-ปิดวิ (ย่อมาจากปิดจิต ปิดชีวิต แต่ถ้าอยากจะเห็น อยากสัมผัส ก็ให้กำหนดจิตว่า เปิดจิ เปิดวิ หรือก็คือ เปิดจิต เปิดชีวิตนั่นเอง)


    แต่ทว่ากะทิก็เหมือนนักเรียนคนอื่นๆ ที่ครูสอนอะนะคะ มักฟังหูซ้าย ทะลุหูขวา 55555 ช่วงแรกๆ ก็ยังจำได้ นำเอาไปใช้ดีอยู่ หลังๆ มานี่ลืมค่ะ ไม่ได้นำมาใช้เลย ถ้าไม่เขียนถึงท่าน ณ ตรงนี้ ก็คงไม่ได้ระลึกนึกถึงความหลัง และนึกออก 5555 อีกที


    หลังจากวันนั้นกะทิเธอก็ยังไม่ได้มีความมั่นใจในการดูออร่าของมนุษย์นะคะ (รวมถึงตอนนี้ด้วย) หากไม่ได้มีความจำเป็นจริงๆ ที่จะถูกเรียกให้กะทิเธอได้รับอนุญาตให้ดูใคร (เจ้าของอนุญาต หรือหมอสุวิขอให้ช่วยดู หรือผู้ที่มีพลังจิตเองอนุญาตให้ดูของเจ้าตัว เป็นอาทิ) ก็จะไม่ดูใครสุ่มสี่สุ่มห้าโดยที่ไม่มีคนที่มีพลังจิตด้วยกันช่วยกันรีเช็ค/ดับเบิ้ลเช็คค่ะ)



    ออร่าอธิบายเป็นความเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า คือแสงกายทิพย์หรือรัศมีจิต มันสามารถใช้บอกถึงสภาวะทางจิตและทางกายภาพของแต่ละคน มันบอกไปได้ถึงนิสัยใจคอของคนๆ นั้น ว่าคนๆนั้นเป็นอย่างไร มีนิสัยอย่างไร อธิบายอย่างง่ายๆ คือสีของความคิดและอารมณ์ของคนๆ นั้น ดังนี้ถ้าคนๆ นั้นมีจิตใจดี สีของออร่าก็จะเป็นสีแบบหนึ่ง ถ้าเป็นคนที่มีสมาธิสูง ก็จะปรากฏเป็นสีอีกสีหนึ่ง ถ้าเป็นคนที่มีจิตใจดี สมาธิสูง ก็มีสีสองสี ถ้ามีหลากหลาย ก็จะปรากฏสีออกมาเป็นชั้นสี ซี่งปัจจุบันสามารถถ่ายภาได้ด้วยกล้องเกอร์เลี่ยน แต่ถ้าเป็นผู้มีมีตาอื่นนอกจากตาปรกติ ก็จะสามารถเห็นได้ค่ะ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watkaokrailas.com/index.php?mo=3&art=41914360 ) กะทิจะเล่าเฉพาะที่กะทิเคยประสบพบเจอมาเท่านั้นนะคะ จึงไม่ขออธิบายอะไรต่างๆ ที่ผู้อ่านหาอ่านได้เองจากแหล่งอื่นค่ะ กะทิจะเล่าอีก 2-3 ตัวอย่างที่เธอเคยได้เห็นนะคะ



    /ยังมีต่อ




    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ในพระพุทธศาสนา และแด่พระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2014
  19. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    เขียนไว้เตือนกะทิเธอโดยเฉพาะ



    [​IMG]


    "..ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน
    ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน
    ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู
    ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่
    แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น.."

    ( ธรรมะคำสอน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต )
     
  20. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    มีปัญหาทางธรรม อยากขอคำปรึกษาหน่อยครับ เนื่องจากยายของผมได้เข้าๆ ออกๆโรงพยาบาล เป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ซึ่งก็ได้พยาบาลแกเต็มที่ตลอด ก่อนหน้านี้แกก็พูดไม่ได้มาหลายปีแล้ว ตอนนี้หมอบอกว่าอาจมีไตวาย ต้องฟอกไตฉุกเฉิน ปกติต้องเจาะคอ แต่คอก็เจาะไปแล้ว ต้องเจาะขาแทน แม่ผมคิดว่าจะไม่ฟอกไตแล้ว คิดว่าจะเป็นการทรมานแกป่าวๆ น้ำก็ท่วมปอด ร่างกายแกมันพังหมดแล้ว ยังไงก็อยู่ได้ไม่นาน ช่วงนี้แม่ทำบุญอะไรก็อุทิศให้แกหมด พรุ่งนี้แม่ผมก็จะไปตักบาตรให้แกด้วย ที่ผมกลัวคือ ถ้าหยุดรักษาแกไป จะเป็น ครุกกรรม : มาตุฆาต ไหมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...