มหาวิบัติใหญ่ ของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในไม่เกิน 90 วันนี้แล้ว

ในระบอบประชาธิปไตยสิทธิของประชาชน
หลังจากหย่อนบัตรลงคะแนนให้ผู้แทนไปแล้ว
สิทธิก็ยังเหลือสำหรับการตรวจสอบ การใช้อำนาจ
ที่มอบให้ผู้แทนไปใช้แทนว่าใช้ไปในทางที่ถูกต้อง
หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวการบัญญัติกฎหมาย
ต่างๆ ที่จะออกมาบังคับใช้กับประชาชน

แต่พรรคการเมืองและนักการเมืองบ้านเรามันรวบไปหมดเลย
ดังนั้น สิทธิการตรวจสอบต่างๆก็ไม่เหลือสักอย่า แถมบางทีจะไปขอตรวจสอบ
หรือขอความเป็นธรรมเรื่องถูกรุกที่ดินที่มีนักการเมืองเป็นกรณี
เอ้า งานงอกเลย ทีนี่ดีไม่ดี

กลายเป็นผู้องหาล้วงลับทางราชการอีก อาจมีคดีความได้อีก
อย่างนี้เป็นต้น
นี่ครับระบอบประชาธิปไตย แหกตาประชาชน

 

ชื่อกระทู้นี้เรียกแขกดีแต่เนื้อหาที่นำเสนอกันไม่ระทึกตื่นเต้น
เท่าชื่อกระทู้ เพียงแต่เป็นเรื่องจริงใกล้ตัวและเกิดขึ้นมาแล้ว
สาธารณะได้รู้ได้เห็น หลายท่านได้สัมผัสเหตุการณ์จริงด้วย
ตัวเอง บางท่านรับทราบข่าวสารจากสื่อต่างๆ

จึงทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ผู้ที่นำข่าวสารการเมืองมา
เผยแพร่นี้ ใครเข้าใจได้ถูกตรง ใครเข้าใจผิดหรืิเสแสร้ง
บิดเบือน ให้สังคมเกิดความงุนงงสงสัย คลางแคลงใจ
ในเรื่องราวของการยึดอำนาจจากแก๊งค์ขี้โกงครั้งนี้

ประชาชนคนดีไม่ได้เสียศักดิ์ความเป็นมนุษย์ หรือเสียสิทธิ
ในการดำเนินชีวิตแบบสุจริตเลยเเม้แต่นิดเดียว ตามเสียงตะ
โกนโวยวายจากลูกสมุนของพวกแก๊งค์ฉ้อโกงชาวนา

ตรงข้ามความปลอดโปร่งโล่งอก แผ่กระจายไปทั่วหัวระแหง
และมีบรรยากาศแห่งการสำนึกในกองทัพที่ได้ปฏิบัติหน้าที่
บรรเทาภัยให้กับประชาชนในชาติได้เหมาะสม กับเวลา
ด้วยการปฏิบัติการอย่างละมุนละม่อม ที่อาจเรียกได้ว่า
การปฏิวัติแบบพอเพียง คือประหยัด รวดเร็ว ละมุนละม่อม
ไม่ต้องใช้รถถังวิ่งโชว์ โอ้....กองทัพไทย 2557!!

 

ชม.นีโอ ว่าเองนะครับ แผ่นดินไทยพ้นใกล้พ้นจากคำว่า
"แผ่นดินอธรรม"และกำลังจะคืบเข้าสู่"แผ่นดินทอง"
อีกครั้ง ภายใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าแผ่นไทย
อีกนิดเดียวครับ อย่าไปกังวลกับภัยธรรมชาติที่จะทำ
ให้เกิดความเสียหายย่อยยับ เชื่อมั่นในผลบุญกุศล
ที่ได้สั่งสมเอาไว้ ถึงคราวตาย ตายคาบุญไปเลย
ไม่ต้องวิตกกังวลเกินเหตุ ครับ

 

วันไหน ปีไหน ที่ประเทศไทยมีผู้แทนประชาชน
สส.และมีเหล่ามวลข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่สนองพระราช
ปณิธานที่ทรงตรัสไว้ว่า"เราจะปกครองแผ่นโดยธรรม"
วันนั้นประเทศไทยก็กลายเป็นทั้ง"แผ่นดินธรรม และแผ่นดินทอง"
แล้วใครบ้างล่ะ ไม่อยากให้มีวันนั้น!!

 

เป็นที่น่าสังเกตว่ากระทู้ใดมีคำว่าพิบัติ วิบัติ หายะนะ
จะมีคนไทยสนใจ มากกว่ากระทู้ที่ไม่มีคำจำพวกนี้
นีโอ ก็สนใจกระทู้ที่มีคำเหล่านี้มาแต่เริ่มเข้ามาในบอร์ดนี้ เช่นเดียวกัน

อีกที่หนึ่งที่มักเข้าไปอ่านดูคือ หลุมดำ ไปดูอยู่พักหนึ่ง
ได้เจอข้อคิดของท่านใดท่านหนึ่ง
จึงเกิด สะกิดใจ ท่านว่าไม่ควรไปคลุกคลี
ที่หลุมดำ บ่อยนักเพราะเป็นสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีมงคล
ไม่ค่อยมีเครดิต และมีพลังงานต่ำ ตอนนี้เลยไม่ไปอีกเลยเพราะรู้สึกว่ามัน
มีอาการเช่นนั้นจริงๆ

 

จึงเกิดคำถามต่อขึ้นมาในใจว่าแล้วคำว่า วิบัตื พิบัติ หายนะ
มันมีพลังงานต่ำหรือสูง น่าสัมผัส หรือคลุกคลีหรือไม่?หรือหนีไปให้ห่างๆ
แต่ถ้าเสพติดไปแล้ว ไม่ดูไม่ได้ ก็ต้องพยายามฝืนกันไป
ไปหาห้องพระธรรมกันดีก่า
เข้าห้องธรรมบ่อยๆ เพื่อศึกษาให้เข้าใจว่าพระบรมศาสดาผู้เป็นที่เคารพ
ของเหล่ามนุษย์ และเหล่าเทพทั้งหลาย ท่านตรัสสอนอะไรไว้บ้าง ที่จะเป็นเครื่องบรรเทา
ทุกข์ ทั้งทางกายและทางใจสัก 3 ถึง 6 เดือน หลังจากนั้นค่อยมาฝึกการเจริญสติ
หรือเรียกว่าการภาวนา เพื่อให้จิตของเราได้มีโอกาสสัมผัสกับสิ่งที่เป็นสิ่งล้ำต่า
เหนือกว่าอัญมณีทั้งปวงนอกกายทั้งปวง ที่ว่าทั้งสุข และสันตินั้นเป็นเช่นไร
คนที่กล้าตายก่อนตาย มักไม่ค่อยตายง่ายๆ

กว่า 10 ปีที่นีโอ พยายามศึกษาเรื่องการเจริญสติ แต่ไม่ก้าวหน้าเพราะไปสนใจการเมืองเน่าๆ
มากเกินไปเหมือนเสพติด วันนี้ปลอดโปร่งโล่งใจแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็ปลอดโปร่ง
โล่งใจ ได้เวลาต่อสู้กิเลสและความเศร้าหมอง เพื่อฟอกขาวตัวเองด้วยการศึกษาเรื่องราว
จากพระธรรมที่จะทำให้เราถอยห่างจากทุกข์ได้แล้วครับ

ในเวบนี้แหละสุดยอดของเวบพระพุทธศาสนาแต่เปลี่ยนไปห้องพระธรรม
ศึกษาพระธรรม ก่อนไปฝึกเจริญสติ
การข้ามขั้น ความรู้ในคำสั่งสอนยังไม่มี ศรัทธาย่อมไม่แนบแน่น เดี๋ยวก็เบื่อหนีห่าง
ไปหาภัยพิบัติอีกครับ

 

ด้านล่างมีภาพ link ไปยังเว็บหมิ่นฯ พวกขบวนการไทยในสแกนดิเนเวีย
http://thaiscandemo.blogspot.com/
เจ้าของกระทู้ตรวจสอบ ความเหมาะสม ของลิ้งด้วยนะครับ

 

ช่วงแรกๆ อาจไม่มีแรงหนีจากคำว่า มหาวิบัติ ซุปเปอร์พิบัติ มหาพินาศ ถล่มทลาย ไม่ไหว
เพราะแรงดึงดูดมันสูง ไม่เป็นไร นีโอจะยกสาระพระพุทธศาสนาใส่พานมาเสริฟให้ที่นี่เลย
เอาแบบเนื้อๆ ที่มีคุณค่าระดับสายตานักปราชญ์โลกมองพระพุทธศาสดากันเลยทีเดียว
ทำได้ไม่ยากเกินกำลังครับ ดูดูกันไปครับ

 

ขบวนการบ่อนทำลาย และสร้างความแตกแยกมาจากต่างประเทศ
เป็นเรื่องน่ารำคาญมาก เขาพูดจาปลุกปั่นไม่มีน้ำหนัก เหตุผลน้อย
ยุให้คนไทยรวมตัวกันไปแย่งชิงอำนาจจากทหารคืนมาให้พรรคเพื่อไทย
ทำไปไหวหรือแกนนำสำคัญในไทย มันยอมให้จับไม่หนี เพราะมันเบื่อ
สู้ให้นายมาตั้งหลายปี นายก็ไม่มาซักที

ก็เบื่อหน่าย โกหกพวกที่มานั่งฟังจนเบื่อแล้วเบื่ออีก
โกหกจนลืมว่าโกหกอะไรไปบ้าง มุกก็จะหมดแล้ว ให้ทหารจับไปขัง
กินข้าวฟรีดีก่า
ซักพักก็ได้ออกมาใช้เงินค่าโกหก สบายสบาย(สบายเทียมๆ)
ต้องตืดคุกความผิดอาญาอีกหลายคดี

 

คสช.ตามบล๊อกเวบปลุกปั่นกันทั้งวันทั้งคืน
พร้อมกับประสานกับตำรวจสากลผ่านทาง
กระทรวงการประเทศตามล่าคนขยันปลุกปั่น
อย่างกระชั้นชิด ตามคำนิยามโลกวันนี้มันแคบ
นิดเดียว เอาอยู่ทุกราย

 

เอาล่ะ แม้ความเห็นทางการเมืองของเธอยังไม่เข้าท่า เพราะมันไม่เป็นธรรมมาภิบาลเนื่องจากเพราะเธอรับข้อมูลไม่รอบด้าน จาากการปิดกั้นตัวเอง
แต่ความเห็นด้านอื่นๆ ที่ดีๆก็ยังมีอยู่ และที่สำคัญศักดิ์ศรี
ความเป็นคนไทยของเธอก็ยังอยู่บริบูรณ์แต่ระวังอย่าให้ฝ่ายการเมืองจะแอบมาฉกไป

ไม่รู้ตัวอีก

 

กฎหมายเป็นเรื่องสมมติที่ผู้เเทนราษฎรเขียนขึ้นมาใช้ควบคุมราษฏร
เมื่อกฎหมายไม่เวิร์ค ก็จะมีคนมาฉีกหรือแก้ไขหรือเขียนขึ้นมาใหม่
จะโดยบุคคลหรือคณะบุคคล และมีพิธีกรรมขั้นตอนอย่างไรก็ตาม
เมื่อมีการประกาศใช้ใหม่ๆก็ดูดีพอนานไปก็เสื่อมเหมือนเดิม

นี่คือสัจจธรรมของเรื่องสมมุติ

 

โง่กว่านี้ยังมีอีกเยอะ

 

555 ตลก ลุงไม่ใช่ผมลุงจะรู้ได้ไงว่าผมเสพข่าวยังไง
ข่าว ถ้ามันจะต้องเป็นข่าวจริง มันต้องพิสูจน์ได้ ที่ลุงพูดมานี่ข่าวลือก็เยอะ
ทำอะไรขวางเขา แล้วมาบอกว่าเป็นความผิดของเขา *.*
พวกสมุนก็เชื่อเหมือนโดนมนต์สะกด


มันไม่คาหนังคาเขา มันจะไปคาใจ
แล้วมันไม่คาใจลุง แต่มันจะไปคาใจฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่ลุง เพราะลุงเกลียดทักษิณเป็นทุนเดิม ลุงเลยเชื่อสนิทใจมันก็มีอยู่แค่นี้
ผมยังไม่ได้พูดเชียร์ทักษิณเลยสักคำ


ส่วนฝ่ายกระโน้น ก็เกลียด ฝั่งทหาร ฝั่งเหลือง ฝั่ง ปชป ใครพูดอะไรลือไปหาหลักฐานอะไรพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน ก็เชื่อตามนั้นอีกเหมือนกัน
ก็ทะเลาะกันไม่เลิก เขาไม่เอาสิ่งที่ผมพูดไปใช้หรอก เพราะเขาทำสิ่งที่ผมกำลังพูดอยู่ตลอดเวลา ผมแค่เห็นยังไงผมก็พูดแบบนั้น ลุงดูไม่ออกจริง ๆ เหรอ

มันก็มีอยู่เท่านี้
ไม่พูดด้วยมากกว่านี้หรอก เดี๋ยวจะเป็นการเผยไต๋ฝ่ายการเมือง
กลับไปอ่านที่ผมพูดมาทั้งหมด แล้วคิด วิเคราะห์ แยกแยะใหม่เถอะลุง

 

คนไทยที่หลงผืดเคยเข้าป่ายุค14ตุลา
ทางการให้มอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
ทุกวันนี้อายุเข้าไป 60 กว่าบ้าง70กว่าบ้าง
ก็ยังมีความอึด อัด ขัดใจต้องการคาหนังคาเขาเหมือน
เธอนี่แหละ มันล้างไม่ออก ดูลุงสุรชัย แซ่ด่านเป็นต้น

ทุกวันนี่เดินเข้าเดินออกเรือนจำเป็นว่าเล่น
เพราะการพยายามที่จะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินของแกนั่นแหล่ะ

 

ก็เพราะผมรู้ว่ามันมีโอกาสจะเป็นแบบนั้นอีกไงล่ะ
และจะเป็นไปเรื่อย ๆ

แล้วใครเป็นคนทำให้คาใจ มันก็ทุกฝ่ายนั่นแหละ ทำให้คนคาใจได้เท่า ๆ กัน
ฝ่ายเสียเปรียบ ก็คาใจแบบเสียเปรียบ
ฝ่ายได้เปรียบ ก็คาใจแบบได้เปรียบ
ฝ่ายตัวเองผิดก็ช่วยปกป้อง เพราะเดี๋ยวกูไม่มีมีพวกไปเล่นงานฝั่งกระโน้น
ฝ่ายตัวเองถูกก็ช่วยกันเชียร์ เพราะเดี๋ยวกูไม่มีพวกไปช่วยเล่นงานฝั่งกระนั้น
มันก็เป็นเสียแบบนี้

ปัญหามันเกิด เพราะผิดไม่ว่าตามผิด ถูกไม่ว่าตามถูก ความยุติธรรมมันหายไปจากสังคมไทย
ความยุติธรรมทางกฏหมาย เศรษฐกิจ สังคม มันลดลง
สภาพนี้มันเป็นอยู่อย่างนี้มานานแล้ว ก่อนผมเกิดเสียอีก

ไม่ใช่ว่าใครเฉยต่อสถานการณ์ได้เหมือนลุงได้ทุกคน
ตอนนี้ที่สำคัญคือการหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่ ปิดทางออก ให้ต้อง ทนอยู่ในสภาพจำใจ
ทนอยู่เฉย ๆ ไม่เท่าไหร่หรอก มันจะมีพวกเยาะเย้ยกันไปมา
ขี้ไม่ออกท้องผูกก็โทษแม้ว
โทรทัศน์พังก็โทษ หลือง ปชป ทหาร
ซ้ำเติมสถานการณ์เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มีอคติเหมือนกัน

ไม่นานสังคมก็กลับมาเป็นอย่างเดิมใหม่ ทะเลาะกันไปมาอยู่ดี
ช่วยกันหาทางออกที่ยั่งยืนดีกว่ามั้ง บ่องตง เด็กเกรียน ๆ อย่างผม มองไปทางไหนก็เห็นแต่ปัญหาที่ยั่งยืน
ธรรมชาติของคน มันย่อมมีความคิดแตกต่างกัน ลุงโตแล้ว ผ่านชีวิตมาเยอะแล้ว น่าจะเข้าใจอะไรได้ดี

 

ฝากด้วยนะคะ เห็นข่าวอะไรหรือใครที่แปลกๆแจ้งได้เลยค่ะ

ช่องทางการแจ้ง เบาะแส เรื่อง เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ให้ คสช.
1. ศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช.ทภ.1 โทร 02-280-6847
2. แจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ คสช. และ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช. (Call Center) โทร. 094-128-6273-9 และ 094-234-9312-4
3. E-mail (คสช.) : ncpo.2014@gmail.com
4. แจ้งเบาะแส, ข้อมูล ข่าวสาร ด้านความมั่นคง .คสช โทร 02-297-7947 , E-mail : rtadoi@gmail.com

 

พฤหัสบดีจร กำลังจะย้ายจากราศีมิถุน เข้าราศีกรกฎแล้วประมาณ 21.30น.วันนี้

ขอคาราวะโหรที่แนะนำสิ่งดีๆ เรียบง่ายประหยัดให้ประชาชนอย่างโหรคนนี้ที่ก้อบมาจากเว้ปผู้จัดการ....นี่คือของจริง..และขอขอบพระคุณ..แต่บางคนที่ติดพิธีกรรมอาจไม่เชื่อ

เอาเป็นว่า....ถ้าใครอยากทำบุญการบริจาคเงินให้โรงพยาบาล แค่หยอดตู้ที่รับบริจาคโดยไม่หวังผลตอบแทนก็กุศลแรงที่สุดแล้ว.....ไม่จำเป็นต้องไปทำพิธีอะไรให้เฟอะฟะ

............... เนื่องด้วยดาวพฤหัสย้าย...กับอ.ณัฐ นรรัตน์ ...........................

วันนี้มีคนพูดกันถึงคำว่า"ดาวพฤหัสย้าย" หลายท่านก็อาจทราบมาบ้างเเล้วว่าเป็นเช่นไร บางท่านก็ยังไม่ทราบว่าคืออะไร เอาเป็นว่าจะขอสรุปคร่าวๆฟังง่ายๆว่าดังนี้ ดาวพฤหัสในมุมของโหราศาสตร์นั้นคือดาวที่ส่งผลเเห่งความเจริญรุ่งเรืองให้กับดวงชะตาไม่ว่าจะเป็นดวงพระชะตาเมืองหรือดวงชะตาของคนเรา

ในกรณีที่อยู่ในตำเเหน่งที่ดีของเจ้าชะตา ตำราบางเล่มบอกเป็นดาวเเห่งเทพเทวาที่จะนำพาความสุข ความเจริญความรุ่งเรืองมาให้เเละในวันนี้วันที่ 17 มิถุนายนดาวดวงนี้ก็ได้โคจรย้ายราศีจากราศีเมถุนมาเป็นกรกฎโดยกินระยะเวลาประมาณ 1 ปีในการอยู่ในตำเเหน่งราศีนี้ โดยถือว่าเมื่อใดที่ดาวพฤหัสโคจรมายังราศีกรกฎก็จะมีพลังงานที่สูงที่สุดกว่าทุกๆราศีที่เขาเคยโคจรไป

ฉะนั้นจึงเป็นมูลเหตุให้พยากรณ์ได้ว่าจากนี้ต่อไปบ้านเมืองจะมีความเจริญ รุ่งเรืองสมบูรณ์มากขึ้นกว่า10ปีที่ผ่านมา การค้าขายจากนี้จะเริ่มฟื้นตัวมีลู่ทางทำมาหากินได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งดาวพฤหัสถือเป็นตัวเเทนของวงการศาลยุติธรรม วงการการศึกษา การเเพทย์เเละความงาม วงการศาสนารวมถึงตัวเเทนของคนดี คนมีศีลมีธรรมรวมทั้งสายอาชีพที่เกี่ยวกันกับอาหารการกิน

นั่นบ่งบอกได้อีกว่าคนดีจะรุ่งเรืองคนไม่ดีจะตกต่ำ คนมีธรรมจะเงยหน้าคนต่ำช้าจะมุดหัว เราคงไม่คาดหวังถึงขนาดวันนี้พรุ่งนี้บ้านเมืองจะเเจ่มใสพลิกฟื้นจากหลังมือเป็นหน้ามือเพราะทุกสิ่งอย่างย่อมดำเนินรอยตามธรรมชาติคือค่อยๆปรับเปลี่ยนจากกลางคืนเคลื่อนมาเป็นกลางวัน เเต่ถือว่ายังมีหวังกับความเปลี่ยนเเปลงใดๆที่จะเกิดขึ้นในท้ายที่สุด คนหลายคนอาจกำลังเกิดจุดเปลี่ยนทางเเยกของชีวิต

บางคนกำลังต้องตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งในครั้งใหญ่ของชีวิต ถ้าตำเเหน่งมุมดาวพฤหัสให้คุณ ก็จะเลือกเส้นทางที่จะนำความเจริญมาสู่ชีวิตตนเองเเละคนรอบข้าง กลับกันถ้าการโคจรของดาวเข้าตำเเหน่งร้ายในดวงของใครก็ถึงวาระที่ต้องทนทุกข์ยากลำบากอย่างน้อยไปอีก 1ปี เเต่กระนั้นก็ไม่อยากให้วิตกกังวลว่าดวงของเราจะดีหรือจะร้ายเพราะใน 1 ปีนั้นมี 365 วัน คนดวงดีก็มิใช่จะดีไปทุก 365วัน คนดวงเเย่ก็ไม่ได้ต้องเเย่ไปทุกวัน

ขอให้ใช้เเนวทางมูลฐานของดาวพฤหัวซึ่งหมายถึงดาวเเห่งคุณธรรม มาเป็นเครื่องนำกายเเละใจ คือต้องมีความซื่อสัตย์ในหน้าที่ที่ตนกระทำทั้งหน้าที่ของพ่อ หน้าที่ของเเม่ หน้าที่ของลูก ของหัวหน้า ของลูกน้อง ของสามี ภรรยาหรือเเม้กระทั้งหน้าที่พลเมืองของผืนแผ่นดินไทย ผู้ใดกระทำหน้าที่ที่ถูกต้องก็จะได้รับผลอันดีงามคูณสองเท่าสามเท่า

ผู้ใดกระทำความดีจะได้รับการยกย่อง ผู้ใดสร้างคุณประโยชน์ให้เเก่ครอบครัวเเก่บริษัทเเก่สังคมหรือเเก่บ้านเมืองก็จะได้รับการสนับสนุน เคล็ดของการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับดาวพฤหัสที่โยกย้ายมานั้นไม่ยากครับ ง่ายมาก

คือจากนี้เพียงเราหมั่นคิดเเละทำสิ่งใดเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม เพื่อความถูกต้อง เราก็จะได้รับผลอันดีงาม ได้รับโชคอันพึงสมควร ได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลไปจนถึงได้รับสิ่งที่ตนพึงต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหลักชาวพุทธถือว่าการกราบไหว้บูชาสิ่งอันใดจะเหนือกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นไม่มี

ดังนั้นการปฏิบัติตนนับจากนี้ขอเพียงเรามีศีลมีธรรมเพิ่มขึ้น เข้าวัดฟังธรรมเพิ่มขึ้น ช่วยเหลือเกื้อกูลคนรอบตัวเพิ่มขึ้น คิดดีพูดดีทำดีเพิ่มขึ้น ความสำเร็จทุกสิ่งก็จะปรากฎเกิดกับชีวิต
ของเราได้ง่ายเเละใกล้เป้าที่หมายปองได้เร็วยิ่งขึ้นเเล้วครับ ...... (อ.ณัฐ นรรัตน์ 17 มิ.ย. 57)

 

ต้องว่าลุงแก่เลี้ยว ไม่ใช่โตเเล้ว
ความคิดเห็นของเธอไม่ว่าเรื่องอะไร ฟังดูดุดันเถื่อนๆ
ไม่เป็นสัมมาเลย รวมถึงการกล่าวธรรมของเธอก็เช่นกัน
ฟังดุดันเด็ดขาด ฟาดอีโต้ ขาดความไพเราะและกล่าว
อ้างถึงบรมศาสดาฯเหมือนคนที่คุ้นเคยกันสนิทกัน


เห็นทีจะไม่ใช่เป็นการส่งเสริมค้ำจุนให้พระศาสนาให้รุ่งเรือง
สถาพร
เพราะธรรมที่กล่าวิย่างดุดันมันน่ากลัวมากกว่าน่าเลื่อมใส


กล่าวบ่อยๆเข้าก็อาจจะเป็นภัยกับพระศาสนาซะมากกว่า
เพราะความเห็นที่ออกจากจิตที่ขาดสัมมา จะเป็นความเห็น
สัมมาเห็นจะยากลำบากเต็มกลืน


มีโอกาสจะยกการกล่าวธรรมของนักปราชญ์ต่างๆรอบโลก
ที่มีมุมมองในองค์พระศาสดาฯและพระพุทธศาสนาของพระองค์
อย่างไพเราะเพราะน่าเลื่อมใสศรัทธาในพระอัจฉริยภาพ
ที่สติปัญญาอย่างเราไม่อาจจะกล่าวยกย่องพระองค์?

 

ผมกำลังคิดว่าผมพูดเรื่องธรรมดาของคน
ธรรมดาของการเมือง ไม่ได้เทศน์
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องธรรมะ
ตู่ผมแล้วนะลุง

รู้นะ ลุงแค่พยายามโยงไปโยงมาให้ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกะลุงเฉย ๆ เอาพระองค์ท่านมาตู่ผมทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้คิดไปทางนั้น แต่ลุงคิดแทนผมคิดแทนพระองค์ท่านซะนี่ลุงจะบาปเสียเองนะครับ

อีกอยาง ผมไม่ได้ลบหลู่ธรรมของพระองค์ท่าน

สรรพสิ่งย่อม คงอยู่ ในสถานะเดิมของมันไม่ได้โดยตลอด

แต่ อะไรที่มันเป็นปัจจัยให้จะต้องทำให้ผลมันเป็นอย่างนี้ มันก็จะต้องเป็นอย่างนี้
ถ้าเรารู้ว่ามีปัจจัยใดเป็นเหตุให้เกิดผลอะไร เราก็อาจอนุมานได้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเรารู้ว่ามีปัจจัยอะไรที่จะทำให้สิ่งนี้ดับได้ เราก็ดับสิ่งนี้ด้วยปัจจัยนั้น
สิ่งที่พูดในกระทู้นี้มันก็แค่นั้น
สำหรับผม
ธรรมะยิ่งอธิบายให้เข้าใจง่ายเท่าไหร่ยิ่งดี

หัดฟังหลวงพ่อเกษมวัดสามแยกบ้างก็ดีนะลุง
ท่านพูดไม่ถุกใจลุงแน่ ๆ ฟันธง แต่ท่านพูดถูกธรรม ถูกกว่าผมเยอะด้วย