ใครสงสัยเรื่องบุญกับการแผ่เมตตา ลองอ่านเรื่องนี้ดู

ปกติผมก็ใส่บาตร สวดมนต์แผ่เมตตา เป็นประจำอยู่แล้ว แต่มีอยู่วันนึงเกิดสงสัยว่าที่เราแผ่เมตตาไปให้มันจะถึงเขาหรือเปล่า เขาจะได้รับมั้ยนึกสงสัยอยู่ทั้งวัน จนตกกลางคืน
ฝันเห็นคนมาขอส่วนบุญ คนแรกผมถามเค้าว่าตายเพราะอะไร เค้าบอกถูกยิง ตอนมีชีวิต
เค้าไปช่วยพ่อหาเสียงพ่อจะลงสมัคร ส.ส. ผมเลยถามไปว่าถ้าแผ่เมตตาให้จะรับได้มั้ย
เค้าเลยบอกลองดูก็ได้ เลยเอ๋ยปากแผ่เมตตาไปให้เขา พอเค้าบอกสาธุ เหมือนหน้าตาเค้าจะอิ่มบุญมาก ต่อมาก็มีชายอีกคนนึงมาขอบ้าง เค้าบอกเลยขอเป็นบุญกรรมฐานเลยนะ ผมเลยบอกว่าไม่เคยทำกรรมฐานจริงจังสักที เค้าเลยบอกงั้นบุญอะไรก็ได้ที่คิดว่าหนักจริงๆ ลองนึกดู พอดีนึกได้ว่าเคยทำบุญสร้างพระทองคำ เลยบอกไปแบบบ้านๆว่า
ขอผลบุญที่ข้าพเจ้าสร้างพระทองคำ จงมีแด่ท่านผู้นี้ จากนั้นเค้าก็ลอยขึ้นเลย แล้วชายคนแรกก็บอกกับผมว่าการแผ่ส่วนบุญ จะพูดยังไง ถ้าตั้งใจก็ได้รับหมด พอผมตื่นขึ้นมา
เลยมีกำลังใจและเลิกสงสัยว่าเค้าจะรับบุญที่เราอุทิศมั้ย ต่อมาเวลาทำบุญเสร็จ ก็แผ่เมตตาภาษาบ้านๆเลย ไม่ร่ายยาวตามตำราแล้ว

 

สำหรับภพภูมิล่างๆ หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้ว่า

"บุญใดที่ฉันบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผลบุญทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์ ความสุขแก่ฉันเพียงใด ขอเธอจงโมทนาผลบุญนั้นและรับผลเช่นเดียวกับฉันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

ต้องกล่าวสั้นๆเพราะเค้าไม่มีเวลามาก ปรากฏตัวได้ไม่นาน

 

ข้าพเจ้าก็ใช้วิชาหลวงพ่อฤาษีลิงดำเช่้นกัน เวลาเดินทางไปต่างจังหวัด ก็จะแวะทำบุญ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าอาหาร สร้างวิหารทาน ไปตามรายทาง พอเห็นสมควรแล้ว ก็ตั้งจิตอธิษฐาน นะโม ๓ จบ แล้วกล่าวว่า

" พุทธัง อาราธนา นัง ธรรมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง ข้าพเจ้าขออาราธนา บารมี พระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในจักวาล อนันตจักวาล สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟัา ตลอดจนครูบาอาจารย์ ของข้าพเจ้าทั้งหลายสิบทอดต่อกันมาจนถึง หลวงพ่อทวด วัีดช้างให้ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ

ขอจงได้โปรดประทานพรอันประเสริฐให้กับ พระพรมเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ เจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่ได้เสียชีวิตไแล้วตรงทางเลี้ยว ทางโค้ง ทางแยก ทางตรง ทางขึ้นลงสะพาน ขอจงได้ล่วงรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้ัรับประโยชน์ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะถึงได้รับเทอญ แล้วว่าพระคาถาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กำกับลงไปอีกครั้งว่า

อิทธิ ฤทธิ พุทธ นิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด

 

บุญจะเกิดเมื่อสละแล้ว เมื่อของหลุดมือ จะมีแสงสีขาวสว่างจ้าที่มือนั้น อยู่ประมาณ 3 วินาที ระหว่าง 3 วินาทีนั้น จะยกบุญให้ใครก็นึกในใจเอา เช่น "บุญนี้ให้เจ้ากรรมนายเวรที่มาถึงตัว"
นี่เป็นบุญที่เกิดจากการทำทาน ยังมีวิธีเบิกบุญอีก ไม่อยากอธิบายมาก ผู้มีเจโตหรือผู้ใดสัมผัสกับความเป็นทิพย์ได้ ย่อมเห็นแสงสีขาวจากบนฟ้าพุ่งตรงมายังวิญญาณที่เราอธิฐานให้
บทอธิฐานตามนนี้นะครับ
-ขออำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้ บุญของข้าพเจ้า โปรดส่งถึง (ระบุชื่อดวงวิญญาณ) ด้วยเถิด
หากใคร ส่งให้เจ้ากรรมนายเวร กรุณาบอกว่า เจ้ากรรมนายเวรที่มาถึงตัวของข้าพเจ้า
หากไม่ว่าตามนั้น เจ้ากรรมนายเวรที่รอคิวนับล้านดวงวิญญาณจะได้รับไป
ลองคิดดูสิว่า เงิน 1 ล้านบาท ให้คนเพียงคนเดียว มันมีค่ามากแค่ไหน
ถ้าเทียบกับ เงิน 1 ล้านบาท ให้คน 1 ล้านคน เท่ากับว่าได้คนละ 1 บาท มันมีค่าน้อยไปไหม ไม่พอสำหรับใช้หนี้เจ้ากรรมหรอก
ยังไงผู้ที่มีญาณหยั่งรู้สภาวะความเป็นทิพย์หรือผู้ไดสำเร็จเจโตหรือไม่ก็ผู้ที่มีมโนมยิทธิ ช่วยตรวจสอบข้อความของผมด้วย ว่าผมเห็นต้องตรงตามนี้หรือไม่

 

ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี​

 

ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี

ตัวอย่างนะครับ วัดนาแหลมเหนือ เกิดไฟไหม้ ข้าพเจ้าได้สร้างพระไปถวาย เพื่อร่วมบูรณะพระอุโบสถ และพระประธานที่วัดแห่งนี้
จำนวน ๑,๐๐๐ องค์ ​

 

ไปทำบุญที่วัด
ตั้งจิตอธิษฐาน นะโม ๓ จบ แล้วกล่าวว่า
" พุทธัง อาราธนา นัง ธรรมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง ข้าพเจ้าขออาราธนา บารมี พระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในจักวาล อนันตจักวาล สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟัา ตลอดจนครูบาอาจารย์ ของข้าพเจ้าทั้งหลายสิบทอดต่อกันมาจนถึง หลวงพ่อทวด วัีดช้างให้ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ

ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมรับ ร่วมถวาย ร่วมได้รับประโยชน์ความสุข ในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ถวายพระจำนวน ๑,๐๐๐ องค์ ให้กับวัดบ้านนาแหลมเหนือ. ขออานิสงส์ผลบุญในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศเจาะจงให้กับ พระพรหมเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ เจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่สถิตอยู่ ณ วัดบ้านนาแหลมเหนือ. แห่งนี้ และดวงวิญญาณของอดีตเจ้าอาวาสทุก ๆ พระองค์ ดวงวิญญาณของผู้ที่ได้ร่วมสร้างวัดบ้านนาแหลมเหนือ. แห่งนี้ขึ้นมา และดวงวิญญาณของผู้ที่เคยได้มาทำบุญ ณ วัดบ้านนาแหลมเหนือ. แห่งนี้

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดวงวิญญาณ ทั้งหลาย จงได้ล่วงรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้ัรับประโยชน์ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับเทอญ แล้วว่าพระคาถาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กำกับลงไปอีกครั้งว่า

อิทธิ ฤทธิ พุทธ นิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด

 

ขอเสริมจากทุกท่านที่กล่าวมาคับ...
การแผ่บุญแผ่เมตตานั้นทำได้ทุกทีทุกเวลาที่ นึกขึ้นได้ๆ เมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้น ทำบ่อยๆจะดี ช่วยให้จิตใจสงบและเกิดสิ่งดีๆตามมา นอกจากนั้นเมื่อเจอสิ่งดีๆที่คนอื่นทำให้น้อมจิตอนุโมทนาต่อสิ่งนั้นด้วยจะเกิดเป็นพลังบุญกุศลอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม...

 

ความปรารถนาให้บุคคลทั้งหลายพ้นจากทุกข์ นั่นคือเมตตา แค่เพียงรู้สึก ไม่ทันคิด ก็มีพลังแล้ว แต่ผู้อื่นจะได้หรือไม่ ก็อยู่ที่เขาจะยินดีกับความดีของเราหรือไม่ มากหรือน้อยแตกต่างกันไป

 

ขอบคุณค่ะ กำลังสงสัยเลย (คงต้องเพิ่มการทำทาน บุญให้มากขึ้น. บุญถึงมีน้ำหนักมั้งค่ะ ปัจจุบันรู้สึกบุญน้อย เลยเกิดความไม่มั่นใจว่า แผ่แล้ว พวกเขาจะได้หรือเปล่า อนุโมทนาและขอขอบคุณค่ะ

 

ถามเพื่อความแน่ใจอีกนิดนะคะ คือถ้าเราจะกล่าวคำแผ่เมตตา จำเป็นต้องนึกถึงบุญที่เคยทำไว้ไหมคะ (ถ้าแผ่ตอนขณะทำบุญ คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าตอนนั้นเราไม่ได้ทำบุญอะไร จำเป็นต้องนึกถึงบุญที่เราเคยทำไหม) ปกติจะกล่าวแค่สัพเพสัพตา...หรือไม่ก็ข้าขอตั่งจิต...ไม่เคยถึงนึกกองบุญค่ะ แต่ตั่งใจแผ่นะคะ (แล้วสมมุติว่านึกถึงได้ก็ดี เรานึกกองเดิมซ้ำๆกันได้ไหมคะ .เช่นเคยบริจาคเงินสร้างพระ นึกให้กองเดิม ซ้ำๆได้ไหม)

 

ได้ ยิ่งดีทำให้เกิดปิติแล้วมีกำลังมาก เพราะเรากำลังอิ่มเอิบในบุญนั้นๆ

 

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยนะครับอาจยาวหน่อยแต่คิดว่ามีประโยชน์มากๆ
ครับเพราะส่วนตัวได้พิสูจน์มาแล้วพอสมควรไม่ว่าจะประเด็นไหนครับ
เรื่องการอุทิศส่วนกุศลที่กล่าวๆมาโดยรวมถือว่าอยู่ในแนวทางที่ดีครับ..
แต่ในประเด็นเรื่องการอุทิศส่วนกุศลนี้หลักๆเราจะแยกเป็น ๒ ประเด็น.
ประเด็นที่ ๑ เป็นการอุทิศส่วนกุศลเพื่อสร้างบารมีในส่วนการขยายวงสมาธิ
ให้กับตัวเอง *วงสมาธิคือระยะของบุญที่สามารถแผ่ไปได้ถึง*เป็นการอุทิศ
เพื่อสร้างเมตตาในใจให้ตนเองในแบบที่โน้มให้กิเลสในใจของตนค่อยๆคลาย
ได้ดีมากครับ.จากกุศโลบายที่เริ่่มต้นกล่าวถึงระดับสูงๆและเพื่อสร้างบุญบารมี
ในส่วนนามธรรมให้กับตัวเองร่วมด้วย..เป็นการอุทิศในแบบวงกว้าง.
.ท้ายสุดก็จะได้ในส่วนของปัญญาทางธรรมที่จะได้รับกับมาในรูปแบบ
ต่างๆในแนวทางการปฏิบัติของตนเองที่จะสามารถแก้ไขปัญหา
ได้ด้วยตัวเองอย่างพิศดาร..ตลอดจนความเข้าใจในส่วนนามธรรมต่างๆได้..
โดยมากทั่วๆไปทางสาย.หลวงพ่อมีชื่อทางสายความสามารถพิเศษ.และทางสาย
หลวงตามีชื่อที่มาทางบุญฤิทธิ์ท่านจะเน้นทางด้านนี้..ซึ่งเป็นเหตุให้มีความสามารถ
พิเศษต่างๆเกิดขึ้นได้เองหรือเกิดขึ้นได้ง่ายตามวาระและบารมีที่ตนได้สร้างครับ...
ซึ่งหลักการสังเกตุง่ายๆก็คือ.การกล่าวถึงส่วนนามธรรมที่ค่อนข้างมากและครอบคลุม
และกล่าวถึงการดึงบุญบารมีที่ตนได้สร้างมาร่วมด้วยนั้นหละครับ.
.คิดว่าถ้าลองสังเกตุดูดีๆจะเข้าใจในประเด็นนี้ได้เองครับ..
ตัวอย่างให้ดูจากที่คุณ Chang_oncb นำมาลงถ้าสังเกตุดีๆจะพอเข้าใจได้..

ประเด็นที่ ๒ คือ การอุทิศส่วนกุศลแบบเฉพาะเจาะจงครับ..และเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้อง
กับที่คุณPattarakorn นำมาถามไถ่.นี่เป็นส่วนที่เน้นเพื่อสร้างบารมีทางธรรมเช่นกัน.
แต่เป็นการสร้างเพื่อเน้นสะสมกำลังบุญของตนเองในส่วนนี้ก่อน
.ร่วมกับกำลังสมาธิของตนเองร่วมด้วย...
ซึ่งมีความจำเป็นมากครับและก็เป็นประเด็นที่เกือบทุกคำตอบ
ในกระทู้นี้กล่าวถึง..และก็จะขาดไม่ได้ทั้ง ๒ ประเด็นด้วยครับ
ซึ่งจะส่งเสริมและมีความสัมพันธ์กันในตัวเอง..
.อย่างกรณีที่ Pattarakorn เล่ามาถ้าเห็นในระดับ
ต่อไปก็คือ.พอลอยขึ้นแล้วจะแตกสลายเป็นประกายเม็ดเล็กๆแล้วก็หายไปเลยครับ..
ซึ่งต่อไปคุณจะสามารถเห็นได้แม้กระทั่งลืมตาก็ได้ครับ.เพราะว่าบางคนยังมองว่า
การเห็นในนิมิตรก็ยังไม่พ้นการปรุงแต่งจากสัญญา.ประเด็นนี้ไว้พิสูจน์ดูนะครับ.
หรือแม้กระทั่งว่าอุทิศแล้วทำให้กิริยาบางอย่างทางกายหายเป็นปกติก็ได้ครับไว้
เปรียบเทียบดู..เช่นขนลุก ทั้งตัว ขนลุกแล้วมีอะไรหมุนรอบขา รอบมือ รอบแขน
ศรีษะตึงๆ หนักไหล่ซ้าย ไหล่ขวา หายง่วง ฯลฯ (พวกนี้เกี่ยวกับพลังงานทั้งนั้น
ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังครับ)
และต่อไปนี้เราไปที่ไหนก็ตามก็จะได้อุทิศเรื่อยๆแต่อาจมาไม่มาก.
และต่อไปถ้าไปไหนก็ตาม
จะรู้จะเห็นก่อนล่วงหน้าประมาณ ๒ วันว่าภพภูมิท่านใดรอเราอยู่ด้วยครับ.
ซึ่งต่อไปในอนาคตจะมาเป็นกลุ่มครับ..นอกจากอุทิศแล้วจะหายไปเลยแล้วยังจะมีบาง
ตนยังพลอยดีใจกับเราด้วยอาจเค้ามากอดหรือยกกายทิพย์เราไปแห่ด้วยครับประมาณว่า
เหมือนเราเป็นศิลปินที่กระโดดลงจากเวทีนั่นหละครับในระดับพื้นโลกนะครับ.
..และถ้าต่อไปทำเรื่อยๆอีกบารมีพวกนั้นอาจจะสูงขึ้นส่วนเราจะสะสมมากขึ้น
.และพวกที่เราเคยอุทิศให้ไม่ว่าจะน้องหมาน้องแมวที่เสียชีวิตตามท้อง
ถนนหรือเราผ่านไปที่ใดแล้วเราอุทิศ
ก็ตามวันหนึ่งเค้าจะมารวมกันและก็พาเราไปเหาะเล่นในระความ
สูงเทียบเท่ากับชั้นจาตุมหาราชเลยครับ.เรียกง่ายๆว่าระดับก้อนเมฆเลยครับ.ประเด็นนี้
เอาไว้ลองดูได้นะครับ.ว่าสิ่งที่พูดให้ฟังจะจริงหรือเปล่าครับ.ส่วนประเด็นเรื่องพันธมิตร
ทางภพภูมิจะยังไม่พูด ณ เวลานี้นะครับ..
แต่สิ่งที่จะแนะนำต่อยอดได้ คือ..การขยายวงสมาธิและการรวมบารมีพระฯกับบารมีตนเอง
ครับหากจะไปถึงขั้นบุญฤิทธิ์และสร้างพันธ์มิตรที่ดีระดับสูงทางภพภูมิให้กับตนเองต่อไปใน
อนาคตได้.ซึ่งจะสร้างเมตตาให้กับตนเองได้
ซึ่งเป็นเมตตาที่ออกมาจากการชำระสะสางกิเลสในใจตนเอง
ให้น้อยลงเป็นเมตตาที่ไม่มีการเลือก แบ่งแยก เป็นเมตตาที่ไม่มีประมาณได้..ซึ่งหากทำอย่างที่แนะนำ
.จะทำให้ตัวคุณเองมีพันธมิตรที่ดีที่จะคอยเป็นเครื่อง
ป้องกันตนเองได้จากพลังงานภายนอกต่างๆที่ไม่ดี.ตลอดจนช่วยส่งเสริมในเรื่องของความ
สามารถพิเศษบางอย่างที่จะทำให้คุณทำได้ง่ายกว่าทั่วๆไป.ตลอดจนช่วยโน้มน้าวจิต
ของเราให้มีเมตตาธรรมอยู่ตลอดเวลา มีความเสียสละต่อส่วนรวม
ทำอะไรก็ตามจะเป็นประโยชน์ในทางธรรม
.และโน้มน้าวหาแนวทางการปฏิบัติให้เราได้เดิน
ต่อไปเรื่อยๆไม่เกิดการชงักในแนวการการปฏิบัติของตนเอง
ซึ่งจะทำให้จิตใจเราคลายกิเลสได้น้อยลงเรื่อยๆได้ง่ายขึ้น
จากกำลังสมาธิส่วนหนึ่ง.ปัญญาทางธรรมที่ได้จากตรงนี้ส่วนหนึ่ง
และการโน้มน้าวให้เจอบุคคลที่จะมาแนะนำแนวทางการปฏิบัติที่
ตนเองติดขัดหรือต่อยอดการปฏิบัติของตนเองได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ
ขอเอาไว้เล่าหลักการในกระทู้ต่อไปนะครับ... ..

 

วิธีการและเทคนิคคอลเทอมนะครับ..
ก่อนอื่นตั้งจิตให้สงบก่อนนะครับ.เรื่องเมตตา ท่านเปรียบไว้ดั่งความรัก
คือเรารักทุกดวงจิต ทุกชีวิต เท่าเทียมกับเรารักตัวเราเองครับ
ไม่มีมากน้อยกว่ากัน ทุกดวงจิตต้องการสุขเหมือนกัน
ไม่ต้องการทุกข์เช่นกัน เมื่อรู้สึกว่าจิตสงบแล้ว ให้เราตั้งใจมั่น นึกภาพตามไปด้วยได้ยิ่งดีครับ

กล่าวหรือคิดว่า
''ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
พระธรรม พระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย ลูกขอบารมีท่านทั้งหลาย
จงมารวมตัวกันในปัจจุบัน ณ เบื้องหน้าลูกด้วยเถิด
และขออธิษฐานบารมี บุญใดที่ลูกได้กระทำมาดีแล้วตั้งแต่ชาติต้น
จนถึงปัจจุบันนี้ ขอบุญบารมีเหล่านั้นจงรวมตัวกัน
เป็นหนึ่งเดียวกับบารมีธรรมแห่งท่านทั้งหลายเหล่านั้น''
(อย่าลืมนึกภาพตามไปด้วยนะครับ เช่น นึกถึงพระรัตนตรัย
แล้วบุญบารมีก็ให้นึกเป็นแสงสว่าง ๆจากท่านพุ่งมารวมกันเป็น
แก้วมณีใสกลมอยู่เบื้องหน้า สว่างไสวมาก ๆ )
''และขอบุญบารมีทั้งหมดนี้ จงแผ่ไปให้ไพศาล
ทั้งอนันตจักรวาล ทั่วสากลพิภพ ถึงทุกดวงจิตทั่วทุกภพภูมิ ทั้ง พรหมโลก
เทวโลก มนุษยโลก และอบายภูมิทั้งหมดทั้งสิ้น ของท่านทั้งหลาย
จงเป็นผู้พ้นจากทุกข์ พ้นจากภัย พ้นจากกรรมอันเลว
พ้นจากภพจากภูมิอันนำมาซึ่งความทุกข์ ขอจงมีแต่ความสุข
ความเจริญ พบพระพุทธศาสนา พบพระพุทธเจ้า พบครูบาอาจารย์
ที่จะแนะนำสั่งสอนให้เข้าถึงธรรมอันเป็นอนุตรธรรม เพื่อมุ่งสู่มรรคผล
นิพพานโดยเร็ววันปัจจุบันกาลเทอญ ผลบุญใดที่เราทำแล้ว มีแล้ว
ขออานิสงค์ผลบุญนี้จงเกิดแก่ทุกท่านเช่นกันเทอญ''

อย่างนี้เป็นแบบกล่าวรวม ๆ ครับ หากจะมีการเจาะจงให้ใครก็ เพิ่มชื่อลงไปครับ
หรือจะปรับเปลี่ยนตามสายการปฏิบัติของตนก็ได้ครับ.
ทำแรกๆจะไม่เห็นอะไรและจะรู้สึกเหนื่อยบ้างเพราะว่า
กำลังสมาธิเราจะยังไม่พอถือว่าปกติและความเป็นทิพย์ทางตาอาจจะ
ยังน้อย..พอทำต่อไปเรื่อยๆเราจะเริ่ม
สังเกตุได้ว่า แม้เริ่มตาสมาธิจะเข้าขณิกสมาธิได้จากการเห็นวงกลมเล็กๆสีต่างๆ
แว๊ปๆแล้วหายไป.ถ้าเข้าอุปจารสมาธิวงกลมแบบเดิมจะคงอยู่ได้นานขึ้น.
พอขึ้นระดับฌานสมาธิเราจะคงตัวจะตัดสิ่งรบกวนภายนอกได้ทั้งหมด
จิตจะตั้งมั่น ภาพที่เห็นจะหายไปซึ่งถือว่าใช้ได้.
.และจะมีความรู้สึกว่ามีวงกลมอยู่ตรงกลางหน้าฝาก
และตอนรวมบารมีขอตัวเองวงกลมจะขยายขึ้นอย่างสังเกตุได้ชัด
.และต่อไปวงจะชัดเจนขึ้นคือตาดีขึ้น.และเราจะไม่เหนื่อยคือสมาธิสะสมดีขึ้น..
เพราะการแผ่เมตตา จะไปไกลแค่ไหน อยู่ที่กำล้งใจเราเป็นสำคัญ
และเน้นให้ทั่ว ๆ ครับ
หลวงพี่มีชื่อท่านหนึ่งการแผ่เมตตา
..ท่านเคยเปรียบว่า เหมือนเขาอยู่กลางแดดร้อน ๆ
เราเอาร่มไปกันแดดให้เขาครับ ต่างจากอุทิศส่วนกุศล เพราะอันนี้เขาหิว
เราเอาร่มไปกลาง เขาไม่หายหิวต้องเจาะจงให้ คือเอาอาหารไปให้
เขาถึงจะหายหิว และอุทิศส่วนกุศล หากไม่เคยเกี่ยวข้อง
แล้วเราไม่เจาะจง เขารับไม่ได้ครับ รับได้เฉพาะที่เราเจาะจงลงไป

ข้อแนะนำเพิ่มเติมครับ การอุทิศส่วนกุศลแบบนี้ต้องทำให้กำลังสมาธิทรงตัวก่อนนะครับ.
.ไม่งั้นจะเหนื่อยมาก.และถ้าให้ดีต้องให้ถึงกำลังของฌาน ๑ ขึ้นไป.
คือสังเกตุว่าเราไม่สนใจเสียงภายนอกใดๆเลยทั้งสิ้น
ในขณะที่กำลังจะทำการอุทิศฯ.ลิ้นกับปากไม่ควรขยับเป็น
เทคนิคดึงจิตให้มีความเปฺ็นทิพย์ชั่วคราว
ถ้ามีการชงักในคำพูดให้เริ่มต้นใหม่ เพราะฉนั้นควรซ้อมพูดในใจไว้ให้คล่อง
ให้สังเกตุดูว่าเห็น วงกลมเล็กขนาดเท่าหัวไม้ขีดหรือหัวเข็ม สีขาว สีน้ำเงิน
หรือสีเขียว สีสัม ที่ดูใสๆเล็กๆบ้างไหม นอกจาก แสงสว่าง
หรือขนาดของวงกลมที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่รวบบารมีของตนกับบารมีพระ อาจจะทำให้ท่านได้พบกับเพื่อนๆที่เป็นมิตรในทางภพภูมิ
เพิ่มมากยิ่งขี้นเผลอๆได้เพื่อนที่มาจากสถานที่อันไกลโพ้นก็ได้ใครจะไปรู้
ตลอดจนได้รับความเมตตาจากภพภูมิไม่ว่าจะไปทางไหนตลอดครูบาร์
อาจารย์ที่จะมาสอนธรรมให้แก่ท่านตามสัญญาที่ท่านเคยมีร่วมกันมาหากว่า
วาระการปฏิบัติของเรามาถึงนะเวลานั้นๆ

ส่วนการเฉพาะเจาะจงก็ให้พูดคำว่า
''แปรสภาพบุญเป็นอะไรก็แล้วแต่ตามแต่ที่ท่านที่.''.เราต้องการสื่่อถึง..''
exe. ท่านเจ้าของกลิ่น ท่านที่ข้าพเจ้าเห็นแว๊ปๆ ท่านที่เห็นหน้าท่านโน้น
ท่านนี้.ท่านที่ทำให้ขนลุกตรงโน้นตรงนี้ ก็ว่าไป ฯลฯ..''

ด้วยการตกแต่งคำพูดเข้าไปช่วงท้ายๆด้วยนะคับ..
ใช้ได้ผลครอบคลุมดี โดยเฉพาะระดับสัมพะเวสี
ที่กำลังจิตเค้าไม่มากพอ.เป็นเหตุให้ยังปรากฏให้เรา
เห็นอยู่ หรือมีการเข้าถึงตัวเราได้ ทำให้เราเข้าใจผิด
คิดว่าเค้ามากลั่นแกล้ง..หรือภูมิเทียบเท่าเทวดา ตลอด
จนกำลังจิตสูงกว่านี้ก็ได้หมด..แม้ว่าเค้ามีแล้วยังเปลี่ยน
ภูมิไม่ได้ แต่สิ่งที่เราได้คือความเมตตาจากนามธรรม
และสร้างเมตตาในจิตเราได้จากกิเลสที่มันจะน้อยๆ
ลงไปเรื่อยๆตามเหตุและปัจจัยตลอดจนแนวทางการปฏิบัติ
ของเราได้เองครับ...

แรกๆก็หลับตาก่อนครับ.หัดสังเกตุกิริยาที่เกิด
หากว่าใครชอบทางสัมผัสหรือเน้นทางด้านความสามารถทางจิต
ก็ให้ลืมตาทำได้เลย..อีกอย่างการลืมตาแล้วก็ทำก็สามารถ
ให้เราอยู่ในร่วมกับสภาพสังคมได้ดีอย่างแยบยลด้วยครับ..
ที่เล่าๆมาให้ฟังลองพิจารณาดูครับ.ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ตามเหตุและปัจจัยและแนวทางการปฏิบัติของตนเองครับ
ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง ขอบคุณครับ..

 

ขอบคุณค่ะ ขอนำไปใช้มั่ง
ปกติชอบร่ายยาว นึกตามตำรา พิธีรีตองมอง
ทำให้ใจภาวะปิติในบุญ หายไปก่อนจะแผ่บุญให้เค้าจบซะอีก
ไม่รู้ว่าได้มั่งรึเปล่า

 

ขอบคุณ จขกท ที่มาเล่าให้มั่นใจในสิ่งที่ทำ
ตอนแผ่บุญกุศลส่วนมากจะไม่รู้ไม่เห็นว่า
ใครได้รับอะไรไปมั่งแต่ก็มั่นใจเพราะอาศัย
บารมีพระ และแม่พระธรณี ของเราคีย์เวิร์ด
ประมาณนี้
-ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ขอบุญกุศลที่
ได้ทำมาตั้งแต่ปฐมชาติ จนถึงปัจจุบัน และใน
อนาคตที่จะเกิดขึ้นขอให้สำเร็จแก่..(ว่าไป)..

-ขอบุญกุศลของลูกแปลงเป็นอาหารทิพย์ น้ำ
ทิพย์ เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย เครื่องบันเทิงเริงใจ
ยานพาหนะอันเป็นทิพย์ ขอฝากแม่พระธรณีไว้
ให้สำเร็จแก่ดวงจิตที่ยังตกทุกข์ได้ยากรอบบริเวณ
10 กิโลเมตรนี้ (เคยขอให้ไปไกลกว่านี้แล้วไม่รอด
เหนื่อยเกิน)

เรื่องฝากบุญกับแม่พระธรณีมีคนเคยพูดให้ได้ยิน
2 ครั้ง ไหนๆแล้วก็เลยลองทำดู ไม่เสียหายอะไร
สำหรับเราการแผ่บุญเป็นภาคบังคับที่จะต้องทำ
ไม่งั้นโทสะจะเกิดง่าย

 

... จะลองเอาไปปรับให้เข้ากับของเก่าที่ใช้อยู่ขอบคุณคะ พี่นบ และ เจ้าของกระทู้คะ

 

ขออนุโมทามิ สาธุครับ

 

ขอแชร์นะครับ ผมเองก็อุทิศบุญบ่อยๆ คืนหนึ่งหลังจากนั่งสมาธิเสร็จก็นอนฝันเห็น หญิงแต่งกายโบราณเข้ามาแต่สภาพไม่ค่อยดีเท่าไรร่างกายเสื้อผ้าเปรอะไปด้วยโคลน ผมถามว่ามาทำไม เธอบอกว่าผมกับพรรคพวก(อดีตชาติ) เคยฆ่าเธอและมกโคลนทิ้งไว้ในหนองน้ำ ผมถามว่ามาหาผมได้ยังไง เธอตอบว่า "ก็เจ้าเป็นคนบอกเอง" (ผมอุทิศบุญให้เขา เขาเองก็เลยรู้แหล่งที่มาของบุญว่ามาจากไหน) เธอบอกว่า "เราไม่เอาโทษแล้ว" แถมยังทำท่าจะโผล่เข้ามากอดผมด้วย ผมต้องผง่ะหนีเพราะสภาพเธอไม่ค่อยดีเท่าไร สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเลยต้องอุทิศบุญสำทับให้อีกรอบและไปทำสังฑทานให้ จนปานนี้ไม่มาให้เห็นอีกเลย :boo:

 

ขออนุโมทนา สาธุ กับความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ อ่านแล้วจะได้นำไปปรับใช้เวลาอุทิศบุญและแผ่เมตตาในการสร้างบุญทุกครั้งค่ะ ขอบคุณค่ะ