ประกาศสำนักพระราชวัง:สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯสิ้นพระชนม์

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

------------​

</TD></TR></TBODY></TABLE>


เตรียมเคลื่อนย้ายพระศพ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ" บ่าย 3 วันนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 มกราคม 2551 11:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักพระราชวังจัดเตรียมพื้นที่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เผยจะมีการเคลื่อนพระศพออกจากโรงพยาบาลศิริราชช่วงบ่ายวันนี้ในเวลาประมาณ 15.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พระบรมมหาราชวังในขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังได้จัดเตรียมพื้นที่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง สำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพตามพระเกียรติสูงสุดตามพระราชประเพณี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ภายหลังมีการเคลื่อนพระศพจากโรงพยาบาลศิริราช มายังพระบรมมหาราชวังในช่วงบ่ายวันนี้ในเวลาประมาณ 15.00 น.แล้ว ในเวลาประมาณ 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินมาในการสรงน้ำพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ก่อนจะประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการสวดพระอภิธรรมพระศพต่อไป

สำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมถวายน้ำสรงพระศพ ที่ศาลาดุสิดาลัย ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้เปิดให้เดินทางเข้ามาตั้งแต่เวลา 13.00 น. ไปจนถึงเวลา 16.00 น. โดยให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี พร้อมทั้งแต่งกายไว้ทุกข์สีดำ

ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยขอให้เข้าทางประตูมณีนพรัตน์ และประตูสวัสดิโสภาเท่านั้น


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระองค์ยังคงสถิตในใจประชาชนชาวไทยชั่วกาลนาน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.สานพระปณิธาน “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” ให้ทุกสถานพยาบาลจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 มกราคม 2551 11:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผย “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อกระทรวงนานัปการ ลั่นเดินหน้าสืบสานพระปณิธานอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้สถานพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทรงมีพระกรุณาธิคุณ และพระเมตตาคุณ แก่กระทรวงสาธารณสุขมากมายนานัปการ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ล้วนอยู่ในความทรงจำของบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน

ดังนั้น เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านทางกระทรวงสาธารณสุขจะรวบรวมพระราชกรณียกิจ โครงการในพระดำริทั้งปวงจัดทำหนังสือพระราชกรณียกิจ และเดินหน้าสืบสานพระปณิธานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อาทิ มูลนิธิ พอ.สว.ออกหน่วยแพทย์ให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โครงการมูลนิธิขาเทียม มูลนิธิโรคไต มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม พร้อมทั้งให้สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติอีกด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปชช.แต่งชุดดำแน่นศิริราช อาสาฯพอ.สว.ประกาศแต่งดำไม่มีกำหนด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 มกราคม 2551 10:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ประชาชนพร้อมใจกันแต่งขุดดำเพื่อรอรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราชอย่างเนืองแน่น ขณะที่อาสาสมัครพอ.สว.รายหนึ่งเผยร้องไห้ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด พร้อมประกาศจะแต่งชุดดำเพื่อถวายความอาลัยอย่างไม่มีกำหนด

นางเกตุชยา กิมตงเห อาชีพรับจ้างเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลศิริราช ในฐานะอาสาสมัคร พอ.สว. อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) จ.ชลบุรีและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า การที่มีอาชีพรับจ้างเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาลศิริราชทำให้ได้มีโอกาสได้ติดตามพระอาการของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นับตั้งแต่เข้ารับถวายการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเคยมีโอกาสสได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในฐานะอาสาสมัคร พอ.สว.หลายครั้ง รวมทั้งเคยมีโอกาสติดตามพระองค์ท่านเสด็จฯเยี่ยมอาสาสมัครพอ.สว.ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งก็ได้เห็นพระราชจริยวัตรอันงดงามขณะทรงงาน ทรงมีพระราชอัธยาศัยดี ไม่เคยถือพระองค์ อาสาสมัครนอนแบบไหน พระองค์ท่านก็บรรทมแบบนั้น โดยเคยเห็นพระองค์ท่านประทับบรรทมในเต้นท์ และเสวยพระกายาหารแบบเดียวกับที่คณะแพทย์ พอ.สว.กินกัน

"ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ดิฉันตัดสินใจเป็นอาสาสมัครถึง 3 หน่วยงานด้วยกัน เมื่อคืนนี้(2 ม.ค.) ได้ทราบข่าวจากคณะแพทย์ตอนตี 3 ถึงการสิ้นพระชนม์ ซึ่งไม่อยากเชื่อและไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ไม่อยากให้พระผู้ทรงคุณแก่แผ่นดินไปจากไปจากคนไทย"

"ดิฉันร้องไห้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเป็นอาสาสมัครพอ.สว.ต่อไปจนกว่าจะทำไม่ได้ และจะแต่งชุดดำเพื่อไว้ทุกข์ให้พระองค์ท่านอย่างไม่มีกำหนด"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 09.50 น. คณะนิสิตแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 248 คนได้เดินทางมาถวายสักการะพระฉาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ที่บริเวณศาลาศิริราช 100 ปี

ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และมีประชาชนพร้อมใจกันแต่งชุดดำเป็นจำนวนมากเพื่อรอรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ที่บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติและบริเวณใกล้เคียงอย่างเนืองแน่นในทุกๆ ที่ ส่วนที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกก็มีประชาชนผู้ใจบุญนำธูปเทียนมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ต้องการถวายสักการพระราชานุสาวรีย์ด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระองค์จะทรงสถิตย์อยู่ในดวงใจของเหล่าข้าพระพุทธเจ้า
เหล่าประสกนิกรชาวไทยชั่วนิรันดร์

 

คนดีจากไปก็เป็นทุกข์ของคนดี ให้โหยหา อาลัย

อนุโมทนาครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>จัดทำเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ </TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>
โครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้รับพระราชทานพระอนุญาตให้ดำเนินการรวบรวมพระประวัติ พระกรณียกิจ พระเกียรติคุณ ฯลฯ สำหรับทำเป็นเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากลัยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ www.hrh84yrs.org เพื่อประโยชน์ในการค้นคว้า ศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปและกำหนดทูลเกล้าฯ เนื่องในโอกาสวันขึ้นพระพุทธศักราชใหม่ 2551

ฯพณฯ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาโครงการเฉลิมพระเกียรติ84 พรรษา ฯ พร้อมด้วย จิระ ศิริสัมพันธ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ ในฐานะคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการจัดทำเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติ และนายกมลสิทธิ์ วรากุลไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาฯ ร่วมแถลงข่าวเปิดเว็ปไซต์เฉลิมพระเกียรติ www.hrh84yrs.org

ฯพณฯ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ กล่าวว่า ในมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา คณะนิสิต-นักศึกษาจากสถานศึกษา องค์กรต่างๆ ที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณ และเยาวชนที่เคยได้รับพระราชทานพระกรุณาธิคุณ ได้พร้อมใจกันขอพระราชทานพระอนุญาตจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นอกจากนี้ คณะเยาวชนยังได้ร่วมกับองค์กรต่างๆ จัดกิจกรรมสาธารณะกุศล เช่น การจัดกิจกรรม "จากชีวิตสู่ชีวิตบริจาคโลหิตถวายพระราชกุศล" เป็นต้น

นายจิระ ศิริสัมพันธ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ กล่าวเสริมว่า การจัดทำเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ นั้น โครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาส่งผลงานการออกแบบเว็บไซต์ เข้าประกวดเป็นทีม มีผู้ทรงคุณวุฒจากมหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ เป็นคณะกรรมการตัดสิน ปรากฎว่ามีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ระดับต่างๆ ส่งผลงานเข้าประกวด ทั้งสิ้น 36 ทีม จาก 26 จังหวัด รวม 86 ราย และคณะกรรมการได้มีการพิจารณาผลงานในพระบรมราชูปถัมภ์ จากนั้นได้นำต้นแบบเว็บไซต์ที่มีผลงานยอดเยี่ยมมาปรับปรุงโดยได้เชิญนักศึกษาที่จัดทำมาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย

นายกมลสิทธิ์ วรากุลไพบูลย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ตั้งแต่พุทธศักราช 2545 คณะเยาวชน ได้รับพระราชทานโอกาสจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ จ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ให้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ คณะเยาวชนก็ได้ประจักษ์แจ้งว่าทรงมีพระหฤทัยใส่ในกิจกรรมต่างๆ ที่คณะเยาวชนดำเนินการ พร้อมทั้งยังทรงตักเตือนและพระราชทานแนวพระราชดำริในการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง ในบางครั้งที่จัดกิจกรรมบ่อยเกินไป จนทรงเป็นห่วงว่าจะกระทบการเรียนและไม่บรรลุตามวัตถุปะสงค์ของกิจกรรม โดยพระองค์ได้พระราชทานพระโอวาทเตือนสติ

นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระกรุณาให้คณะเยาวชนเขียนจดหมายกราบทูลถึงผลการทำงาน การศึกษาและการปฎิบัติหน้าที่ทูลเกล้าฯ ถวายได้โดยไม่ทรงถือพระองค์ ดังเช่นเมื่อครั้งที่คณะเยาวชนกราบทูลเรื่องการจัดกิจกรรมสาธารณะกุศลเรื่องส่วนตัว พร้อมทั้งได้ทูลเกล้าฯ ถวายขนม เมื่อความทราบฝ่าพระบาททรงมีรับสั่ง "ขอบใจที่ได้รายงานเรื่องการจัดกิจกรรมสาธารณะกุศลและเรื่องส่วนตัว พร้อมทั้งส่งขนมมาถวาย" ด้วยพระโอวาท พระเมตตา ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน คณะเยาวชนได้นำมาปรับปรุง และพัฒนาการบริหารงานตลอดมา

นายณัฐธีร์ เรขะพรประสิทธิ์ นักศึกษาผู้ที่ชนะเลิศการประกวดทำเว็บไซต์ กล่าวว่า องค์ประกอบในเว็บไซต์เน้นแสดงความเป็นพระองค์ เช่น การเลือกใช้โทนสีของเว็บไซต์ การสรรหาพระฉายาลักษณ์ ซึ่งเป็นผลให้ได้มีโอกาสมาเรียนรู้พระจริยวัตร พระกรณียกิจอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ในการจัดทำเว็บไซต์ใช้หนังสืออ้างอิงประกอบกว่า 50 เล่ม

เนื้อหาของเว็บไซต์แบ่งเป็น 8 ส่วนหลัก คือ ส่วนพระประวัติ ตั้งแต่การประสูติ การดำรงพระอสริยศักดิ์ การศึกษา การทรงงาน ส่วนความสนพระทัยด้านต่างๆ เช่น ด้านการอ่าน-เขียน ด้านการกีฬา ด้านการถ่ายภาพ ด้านการศึกษาด้านการศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และมรดกโลก ส่วนพระกรณียกิจ ทั้งการปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ และพระราชกรณียกิจ ในพระองค์ด้านต่างๆ เช่น การศึกษา การแพทย์ และการสาธารณะสุข การพระพุทธศาสนา เป็นต้น รวมถึงการประมวลพระดำรัสและพระโอวาท

ส่วนพระอัฉริยภาพด้านพระนิพนธ์ ส่วนพระเกียรติคุณ เช่นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ทรงได้รับพระราชทาน การทรงกรม ส่วนของโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรมหลวงนราธิวาชราชนครินทร์ ส่วนบทความเฉลิมพระเกียรติ ส่วนหน้าถวายพระพร และส่วนข่าวประชาสัมพันธ์</TD></TR><TR><TD height=10>

​

</TD></TR><TR><TD align=right>วันที่ 24/12/2007</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"พระนิพนธ์" ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 มกราคม 2551 09:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>องค์การยูเนสโกมอบเหรียญวิกเตอร์ อูโก (Victor Hugo) ในฐานะที่ทรงปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์ฝรั่งเศส</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ตลอดระยะเวลากว่า 84 พรรษาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นอกจากพระองค์จะทรงประกอบพระกรณียกิจอันน้อยใหญ่นานัปการ ในการขจัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพสกนิกรชาวไทย เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และยังรับหน้าที่สานต่อพระราชปณิธานของสมเด็จย่าอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยแล้ว

พระกรณียกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งของพระองค์ ที่ถือได้ว่าสร้างคุณูปการแด่อนุชนรุ่นหลังให้ได้ศึกษาหาความรู้ และเพื่อนำไปใช้อ้างอิงในภายภาคหน้าต่อไปได้ ก็คือ "พระนิพนธ์" ในสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ที่ได้ทรงนิพนธ์ในวาระต่างๆ

พระอัจฉริยภาพด้านอักษรศาสตร์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศส ไม่เพียงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของประชาชนชาวไทยเท่านั้น แต่เป็นที่รับทราบของชาวต่างประเทศด้วย จนเมื่อปี พ.ศ. 2535 องค์การยูเนสโกมอบเหรียญวิกเตอร์ อูโก (Victor Hugo) ในฐานะที่ทรงปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์ฝรั่งเศส ทรงได้รับเหรียญเป็นลำดับที่ 4 ซึ่ง 3 ดับแรกเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งสิ้น

ส่วนผลงานที่พระองค์ได้ทรงนิพนธ์ไว้นั้น ล้วนนิพนธ์ขึ้นมาในโอกาสต่างๆกันไป อาทิ พระนิพนธ์เกี่ยวกับพระราชวงศ์ เท่าที่ได้รวบรวมไว้ ขณะนี้มีทั้งหมด 11 เรื่อง ดังนี้


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระนิพนธ์เกี่ยวกับราชวงศ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พระนามราชโอรส ธิดา และพระราชนัดดา , แม่เล่าให้ฟัง , พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 , เวลาเป็นของมีค่า Busy Fingers , เจ้านายเล็กๆ

 

แม้ ธ ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว
ธ ก็แพร้วสถิตย์ในใจไทยทั่วหล้า
ธ ยังคงเป็นมิ่งขวัญไทยประชา
ราษฎร์ขอกราบบูชาตลอดกาล ฯ

 

พรรคการเมืองงดทำกิจกรรม 1 วัน <HR align=left width="95%" color=#768696 SIZE=1>
โดย Post Digital 2 มกราคม 2551 11:02 น.

พรรคการเมืองงดดำเนินกิจกรรมทางการเมือง 1 วัน เพื่อร่วมไว้อาลัย "สมเด็จพระพี่นางฯ"สิ้นพระชนม์



ความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เดินทางเข้าพรรค ตั้งแต่ 07.45 น. โดยปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวด้านการเมือง โดย บอกว่าเกรงว่าจะไม่เหมาะสม


นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์มีคำสั่งให้ นางผุสดี ตามไท ผอ.พรรค ส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปยังสมาชิกพรรค ว่า วันนี้ ให้นัดรวมตัวกัน ในเวลา 12.30 น. เพื่อ ที่จะเดินทางไปถวายน้ำสรงพระศพพร้อมกัน ทั้งนี้ยังมีคำสั่งให้สมาชิกพรรคงดให้สัมภาษณ์ ตลอดทั้งวันด้วย

ด้าน พรรคเพื่อแผ่นดิน นายวชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ โฆษกพรรคฯ เปิดเผยว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคฯ ได้สั่งให้ยกเลิกการประชุมและการแถลงข่าวทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อแผ่นดิน จะเปิดแถลงคำถวายอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ ที่ทำการพรรค ในวันนี้ เวลา 14.00 น. และในช่วงเย็น หัวหน้าพรรค พร้อมสมาชิกจะเดินทางเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ด้วย ส่วนการประชุมครั้งต่อไปจะมีการกำหนดอีกครั้งหนึ่ง

ร้อยโทกุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า พรรคตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมทางการเมืองในวันนี้ จากเดิมที่กำหนดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หลังจากทรงสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 02.54 น.ที่ผ่านมา

ส่วนในช่วงบ่าย น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน จะนำสมาชิกพรรคเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ขณะที่ นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้พรรคชาติไทยจะงดดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการถวายบังคมต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยงดการประชุมกรรมการบริหารพรรคที่มีเป็นประจำทุกวันพุธ ส่วนการประชุมและแถลงจุดยืนทางการเมืองระหว่างพรรคชาติไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดินที่กำหนดในเวลา 19.00 น. ที่บ้านนายวัฒนา อัศวเหม ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะเลื่อนไปด้วยหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่านายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ซึ่งได้รับมอบหมายจากกรรมการบริหารพรรคให้เป็นผู้ประสานงานความร่วมมือทางการเมือง จะให้ความชัดเจนภายหลังจากเดินทางจากบ้านพักที่ จ.อ่างทอง มาถึงกรุงเทพฯ ในวันนี้

 

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>90สถานทูตไทยในต่างประเทศลดธงชาติครึ่งเสาร่วมลงนามไว้อาลัย </TD></TR><TR><TD vAlign=top>
2 มกราคม 2551 11:50 น.
</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง 90 แห่ง จะลดธงชาติครึ่งเสาพร้อมวางสมุดไว้อาลัยการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ


(2ม.ค.) นายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งเรื่องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ ไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศในประเทศไทย ไว้อาลัยและร่วมพิธีพระศพ

ส่วนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง 90 แห่ง จะลดธงชาติครึ่งเสา พร้อมวางสมุดไว้อาลัย เพื่อให้ผู้นำของรัฐบาลต่างประเทศชาวต่างชาติและชาวไทยในต่างประเทศ ลงนามไว้อาลัยด้วย
ด้านนางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะที่ได้ถวายงานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งเสด็จเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์วัดไทยในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ทรงมีเมตตา ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองกับทุกคน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก

-->

สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง 90 แห่ง จะลดธงชาติครึ่งเสาพร้อมวางสมุดไว้อาลัยการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

(2ม.ค.) นายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งเรื่องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ ไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศในประเทศไทย
ไว้อาลัยและร่วมพิธีพระศพ ส่วนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั้ง 90 แห่ง จะลดธงชาติครึ่งเสา พร้อมวางสมุดไว้อาลัย เพื่อให้ผู้นำของรัฐบาลต่างประเทศชาวต่างชาติและชาวไทยในต่างประเทศ ลงนามไว้อาลัยด้วย

ด้านนางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะที่ได้ถวายงานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งเสด็จเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์วัดไทยในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ทรงมีเมตตา ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองกับทุกคน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก
<TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
คมชัดลึก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เจดีย์ศรีพุทธคยา...พระเมตตาแห่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 ธันวาคม 2550 18:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีเต็ม ที่พสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศต่างเฝ้ารอให้เจดีย์ศรีพุทธคยา ที่วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จ.นครสวรรค์ แล้วเสร็จสมบูรณ์ เพื่อรองรับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อย่างวันวิสาขบูชา ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา

แต่สิ่งที่พิเศษสุดเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับการสร้างเจดีย์องค์นี้คือ การได้รับพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงรับเป็นองค์ประธานในการจัดสร้าง เพื่อถวายแด่พระอนุชาองค์เล็กผู้เป็นมหาราชในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ ยังได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมสมทบการก่อสร้างในครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกันสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังทรงรับวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์เป็นวัดในพระองค์ ซึ่งถือว่าเป็นเพียงวัดแรกและวัดเดียวเท่านั้น

ขณะนี้ เจดีย์ศรีพุทธคยาได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และได้มีการจัดงานสมโภชขึ้นอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยการนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สุมนา อภินรเศรษฐ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปประกอบพิธีสมโภชเจดีย์ศรีพุทธคยา ณ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

สำหรับเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯ จำลองแบบมาจาก เจดีย์ศรีพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ทุกประการเพียงแค่ย่อสัดส่วนลงมาให้เหมาะสมกับพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้น เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 2548 ขณะนี้เหลือเพียงการตกแต่งและปรับทัศนียภาพโดยรอบของเจดีย์เท่านั้น

ราชตี สิงหศิวานนท์ รองประธานโครงการจัดสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า การก่อสร้างเจดีย์ในครั้งนี้ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นเวลานานแต่เหตุผลที่ยังไม่เสร็จนั้นเพราะติดขัดในเรื่องของงบประมาณ ที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ การตกแต่งภายในตัวเจดีย์ จนกระทั่ง ได้มีการจัดกิจกรรม ทำตาลปัตร(พัดรอง) เพื่อหารายได้สมทบทุนในการตกแต่งเจดีย์

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=235 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=235> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อเป็นดังนี้ สุมนา อภินรเศรษฐ์ ประธานกรรมการ จึงได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงรับเป็นเจ้าภาพสร้างตาลปัตร (พัดรอง) เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 1 เล่ม ซึ่งพระองค์ก็ทรงรับตามที่กราบทูลเชิญ และยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการทำบุญพื้นที่สร้างเจดีย์ด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=323 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=323> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จากนั้นประธานกรรมการโครงการจัดสร้างเจดีย์ฯ จึงได้เข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลถวายรายงานเกี่ยวกับการสร้างเจดีย์ว่า ยังขาดทุนทรัพย์อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้กราบทูลเชิญพระองค์ เป็นองค์ประธานโครงการสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยาฯ และด้วยพระเมตตาคุณพระองค์ทรงยินดีรับตามคำที่กราบทูลเชิญ

นอกจากนี้ ราชตียังได้นำความของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ มาถ่ายทอดให้ฟังว่า

“พระองค์ท่านจะมีรับสั่งถามอยู่ตลอดเวลาว่าต้องการเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ในการตกแต่งเจดีย์ฉันจะเป็นคนออกให้เอง”

แต่ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ทางคณะกรรมการไม่ต้องการให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อหารายได้มาสมทบทุนในการก่อสร้างโดยมีประชาชนจากทั่วสารทิศต่างได้ทำบุญมหากุศลในครั้งนี้ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเฉลิมพระเกียรติพ่อแห่งแผ่นดิน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=235 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=235> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เจดีย์แห่งนี้จึงนับเป็นพระเมตตาคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ผู้ทรงเป็นพระภคินี ที่ทรงสร้างขึ้นมาเพื่อถวายแด่พระอนุชาผู้เป็นมหาราชในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตชด.ยกย่องพระพี่นางฯไม่เคยย่อท้อแม้ทรงงานในท้องถิ่นทุรกันดาร</TD></TR><TR><TD vAlign=top>
2 มกราคม 2551 12:53 น.

</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top>ผกก.กก.ตชด.33 ยกย่องสมเด็จพระพี่นางฯ ไม่เคยย่อท้อแม้ทรงงานในท้องถิ่นทุรกันดาร เตรียมนำข้าราชการกว่า 70 นาย ร่วมพิธีสรงน้ำพระศพบ่ายวันนี้ ชาวสุราษฎร์ธานีสวมชุดขาวดำไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางฯ โรงเรียนและสถานศึกษาร่วมจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจ ขณะที่ผู้ว่าฯเชิญชวนข้าราชการลงนามไว้อาลัย

(2ม.ค.) พ.ต.อ.เนรมิตร ดุสิตากร ผู้กำกับการกองกำกับการตำรวจตระเวรชายแดนที่ 33 เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ม.ค.) เวลา 15.00 น. ทางตชด. 33 ได้จัดกำลังพลจำนวน 70 นาย เข้าร่วมในพิธีถวายน้ำสรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ซึ่งทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ เวลา 02.54 น. วันที่ 2 ม.ค. 2550 ร่วมกับทางจังหวัดเชียงใหม่ภายในโถงกลางของศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังได้เรียกประชุมหน่วยงานที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เคยทรงงาน เช่น ลูกเสือชาวบ้าน และครูใหญ่โรงเรียนตระเวนชายแดน เพื่อร่วมไว้อาลัยและร่วมถวายความเคารพพระศพอีกด้วย

สำหรับในช่วงของการไว้อาลัย 15 วัน เจ้าหน้าที่ในกองกำกับการจะได้ร่วมไว้อาลัย และจัดกิจกรรมเทิดพระ เกียรติเพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่จะยังคงสถิตเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป แต่ในส่วนของพิธีไว้อาลัยนั้นต้องรอ ดูกำหนดการอีกครั้ง

พ.ต.อ.เนรมิตร กล่าวต่อว่า รู้สึกโคกเศร้ากับการสิ้นพระชนของสมเด็จพระพี่นางฯเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพระองค์ทรงปฏิบัติภาระกิจเพื่อพี่น้อง ประชาชนมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี (พอ.สว.) จ.เชียงใหม่ โดยทางตชด.33 ก็ได้ ทำการอารักขาสมเด็จพระพี่นางฯ เมื่อเสด็จพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้พระองค์ทรงปฏิบัติภาระได้อย่างเต็มแม้ในท้องถิ่นทุรกันดาร

"พระองค์ท่านทรงได้ปฏิบัติภาระกิจเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และลำบาก โดยมากต้องเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์แต่พระองค์ก็ไม่เคยย่อท้อ กลับยิ่งสร้างประโยชน์ให้คนยากจนด้วยการเสด็จเยี่ยมและทรงงาน รวมถึงการพระราชทานของให้กับประชาชน สร้างความประกับใจให้กับประชาชนและ คณะที่ติดตามอารักขาพระองค์เป็นอย่างมาก" ผกก.กก.ตชด.33 กล่าว

ชาวสุราษฎร์ธานี สวมชุดขาวดำไว้อาลัย

ภายหลังจากที่ประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบข่าวสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ ข้าราชการและประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่สวมชุดขาวดำมาทำงานเป็นการไว้อาลัย ขณะที่ประชาชนทั่วไปเริ่มไปหาซื้อเสื้อสีขาวดำเตรียมใส่ไว้อาลัยเป็นเวลา 15 วัน

ขณะที่ทางสถานที่ราชการหลายแห่งโดยเฉพาะโรงเรียนและสถาบันการศึกษา อาทิ โรงเรียนพัชรกิตติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เริ่มจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในวโรกาสที่เสด็จมาเยือน จ.สุราษฎร์ธานี

ส่วนทางจังหวัดนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งด่วนให้หัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัดและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่งเครื่องแบบสีขาวลงนามไว้อาลัยที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชั้น 5 ในเวลา 15.00 น.

พ่อค้าแม่ค้าตลาดวังหลังแห่วางขายเสื้อดำ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก รพ.ศิริราช ว่า ร้านขายเสื้อผ้าบริเวณรอบๆ รพ.ศิริราช โดยเฉพาะตลาดวังหลังได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้นำเสื้อสีดำ ทั้งเสื้อยืดและเสื้อเชิ๊ตออกมาวางแผงขายโดยจะเห็นได้ชัดว่าประชาชนต่างทยอยเลือกเสื้อ โดยเน้นที่จะซื้อเสื้อสีดำเพียงเท่านั้น ทำให้เสื้อขายดีจนทางพ่อค้าแม่ค้าต้องไปรับสินค้ามาเพิ่ม

โดยนางคำนึง พุ่งอำพร อายุ 43 ปี แม่ค้าขายเสื้อเชิ๊ตภายในตลาดวังหลัง เปิดเผยว่า ตนได้เปิดร้านตั้งแต่ช่วงเช้า โดยจะขายเสื้อเชิ๊ตหลากสีตามปกติ แต่วันนี้ตั้งแต่ช่วง 07.00 น.ที่ผ่านมาขณะที่ตนเปิดร้านก็มีคนเข้ามาถามหาเสื้อเชิ๊ตสีดำเป็นจำนวนมาก โดยตนจะขายเสื้อเชิ๊ตผู้หญิงแขนสั้น 170 บาท และเสื้อเชิ๊ตแขน 3 ส่วนราคา 180 บาท และเสื้อเชิ๊ตแขนยาวราคา 190 บาท ของผู้ชายจะขายเสื้อเชิ๊ตแขนสั้น ราคา 180 บาท และแขนยาวจะขายราคา 200 บาท ตั้งแต่เช้ามาตนขายเสื้อได้กว่า 100 ตัวแล้ว เชื่อว่าน่าจะไม่พอ คงจะต้องไปรับมาเพิ่ม สำหรับราคาเสื้อเชิ๊ต ตนไม่ขายโก่งราคาโดยจะขายราคาตามปกติทุกวัน และจะมีการนำป้ายมาติดไว้อย่างชัดเจน และราคาก็ยังขอต่อลดราคาได้อีก

ขณะที่นางแดง อายุ 30 ปี แม่ค้าขายเสื้อยืดสีดำ เปิดเผยว่า ปกติจะขายเสื้อสีสัน และเสื้อโปโล แต่วันนี้เปลี่ยนมาขายสีดำเพราะทราบว่าช่วงเช้าว่าพระพี่นางได้สิ้นพระชนม์ และรู้ว่าประชาชนคนไทยที่เคารพรักน่าจะหาเสื้อเพื่อใส่ไว้ทุกข์แด่พระองค์ ตนจึงเก็บเสื้อสีอื่น แล้วขายเฉพาะสีดำ โดยจะราคาตัวละ 200 บาท และวันนี้มีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อ โดยเฉพาะ ปชช.ที่มาเฝ้าดูอาการ และมาถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ ทั้งนี้จะขายเฉพาะเสื้อสีดำแบบนี้ไปอีกหลายวัน
ทางด้าน น.ส.ชนัญชิดา งามดี อายุ 25 ปี พนักงานเวชระเบียน รพ.ศิริราช เปิดเผยว่า วันนี้ทาง รพ.ศิริราช ได้มีประกาศให้พนักงานทุกคนที่ทำงานใน รพ.สวมเสื้อสีดำมาทำงานเพื่อร่วมไว้ทุกข์ โดยในวันนี้ตนและเพื่อนอีกหลายคนยังไม่ทราบว่ามีคำสั่งออกมา เนื่องจากพระองค์เพิ่งสิ้นพระชนม์เมื่อก่อนเช้า ในวันนี้จึงได้มาหาซื้อกัน อย่างไรก็ตามทราบว่าบรรดาญาติคนไข้รวมถึงคนที่มาติดต่อธุระใน รพ.ก็ต่างทยอยกันมาซื้อเสื้อสีดำเพื่อจะมาเปลี่ยนก่อนเข้าไปใน รพ.ทั้งนี้ตนก็จะใส่เสื้อสีดำไว้ทุกข์ไปเรื่อยๆ และคงจะหาซื้อเสื้อสีดำมาเพิ่มอีก ส่วนนายเรืองวุฒิ บุญมี อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวก็ได้พาแม่มาจาก จ.นครปฐม โดยแม่ได้สวมเสื้อสีดำมาแล้ว แต่ตนยังสวมเสื้อสีเหลืองอยู่ จึงรู้สึกว่าแปลกออกไป และอยากจะร่วมไว้ทุกข์ด้วยจึงได้มาเดินหาซื้อเสื้อเพื่อเปลี่ยน แต่เนื่องจากตนเป็นคนตัวใหญ่ และเสื้อสีดำขาด XL ก็เหลือเป็นตัวสุดท้ายของร้านที่ตนซื้อ ซึ่งก็โชคดี อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ก็จะหาซื้อเสื้อมาเพิ่ม เพราะจะใส่ไปอีกหลายวันเช่นกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระบรมฯ ทรงเป็นองค์อำนวยการฯ เคลื่อนย้ายพระศพ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ" บ่าย 3 วันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 มกราคม 2551 11:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำนักพระราชวังจัดเตรียมพื้นที่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เผยจะมีการเคลื่อนพระศพออกจากโรงพยาบาลศิริราช ช่วงบ่ายวันนี้ในเวลาประมาณ 15.00 น. โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นองค์อำนวยการดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พระบรมมหาราชวังในขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังได้จัดเตรียมพื้นที่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง สำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพตามพระเกียรติสูงสุดตามพระราชประเพณี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ภายหลังมีการเคลื่อนพระศพจากโรงพยาบาลศิริราชมายังพระบรมมหาราชวังในช่วงบ่ายวันนี้ในเวลาประมาณ 15.00 น.แล้ว ในเวลาประมาณ 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินมาในการสรงน้ำพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ก่อนจะประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการสวดพระอภิธรรมพระศพต่อไป

สำหรับเส้นทางเคลื่อนพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาประมาณ 15.00 น.โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นองค์อำนวยการดำเนินการในการเคลื่อนพระศพไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง โดยใช้เส้นทางจากโรงพยาบาลศิริราช ขึ้นสะพานอรุณอมรินทร์ ลงสะพานอรุณอมรินทร์ เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลานต่อเนื่องถนนมหาราช สู่ประตูเทวาภิรมย์ พระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ ตลอดการเคลื่อนย้ายพระศพจะปิดการจราจรชั่วคราว สำหรับประชาชนที่จะเฝ้ารับเสด็จฯ และร่วมถวายความอาลัยระหว่างที่ขบวนเคลื่อนผ่านนั้น ขอให้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ และร่วมถวายความอาลัยอย่างสงบ

สำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมถวายน้ำสรงพระศพ ที่ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังเปิดให้เดินทางเข้ามาตั้งแต่เวลา 13.00 น. ไปจนถึงเวลา 16.00 น. โดยให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี พร้อมทั้งแต่งกายไว้ทุกข์สีดำ

ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยขอให้เข้าทางประตูมณีนพรัตน์ และประตูสวัสดิโสภาเท่านั้น

ล่าสุดสำนักพระราชวังได้ออกหมายกำหนดการพระราชพิธีสรงน้ำพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันนี้ (2 ม.ค.) ดังนี้ เวลาประมาณ 14.20 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ ออกจากวังศุโขทัย และจะเสด็จฯ ถึงโรงพยาบาลศิริราช ในเวลาประมาณ 14.30 น.

เวลา 15.00 น. จะมีการเริ่มเคลื่อนย้ายพระศพ จากนั้น 15.15 น. จะเคลื่อนย้ายพระศพถึงพระที่นั่งพิมานรัตยา เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ทางประตูเทวาภิรมย์ โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมรับเสด็จพระศพด้วย

หลังจากนั้น เวลา 15.45 น. จะมีการอัญเชิญพระศพเข้าสู่พระที่นั่งเพื่อเตรียมพิธีสรงน้ำพระศพต่อไป

เวลา 16.00 น. พระบรมวงศ์จะเสด็จฯ เข้าสู่พระที่นั่งพิมานรัตยา และเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมมหาราชวัง จะเสด็จฯ ถึงพระบรมมหาราชวัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

• <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สวด"อารือวะห์"ร่วมอาลัยพระพี่นางฯ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>
  2 มกราคม 2551 13:20 น.
  </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ชาวมุสลิมจ.นราธิวาส สวดบท"อารือวะห์"ร่วมไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางฯ หวังแผ่กุศลส่งดวงพระวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ เล็งหารือคณะกรรมการจัดพิธีอาลัยทดแทนพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ </p> นายอับดุล รอซัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ทันทีที่ทราบว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์นั้น ตนได้ประสานไปยังคณะกรรมการอิสลามทุกคนให้ร่วมกันสวดบท "อารือวะห์" เพื่อขอพรและแผ่กุศลให้ดวงพระวิญญาณของพระสมเด็จพระพี่นางฯ ไปสู่สรวงสรรค์แล้ว
  "ชาวนราธิวาสทุกคนต่างรู้สึกเสียใจกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางฯ อย่างมาก และรู้สึกว่าเรากำลังขาดร่มโพธิ์ร่มไทรอันเป็นที่รักยิ่งและขาดที่พึ่งไปอีกหนึ่งพระองค์ เพราะตลอดเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่พระองค์ท่านได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อชาว จ.นราธิวาส อย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะโครงการแพทย์อาสาหรือแพทย์กระเป๋าเขียวที่ได้ลงพื้นที่ดูแลผู้ป่วยและคนชรา อย่างไรก็ตามหลังจากพระองค์ท่านสิ้นพระชมน์แล้วอยากให้ราษฎรในทุกคนได้อยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีดังที่พระองค์เคยร้องขอไว้ อีกทั้งให้ทุกคนได้ช่วยกันทำคุณประโยชน์ให้กับผืนแผ่นดินตามประสงค์ของพระองค์ที่เคยปฏิบัติมาเป็นแบบอย่างด้วย" นายอับดุล รอซัค กล่าว
  ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า หลังจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดร่วมสวด "อารือวะห์" เพื่อส่งดวงวิญญาณของสมเด็จพระพี่นางฯ สู่สรวงสวรรค์แล้ว ใน 1-2 วันนี้ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะร่วมกับจังหวัดเพื่อกำหนดการทำพิธีไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชมน์ของพระพี่นางฯ ในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงความจงรักภักดีและร่วมไว้อาลัยเพื่อทดแทนพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อชาว จ.นราธิวาส ด้วย
  พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม อดีต รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 และ ประธานมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ กล่าวว่า จะเร่งหารือแลบะร่วมประชุมกับคณะกรรมการของมูลนิธิและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาข้อสรุปว่าในส่วนของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้จะร่วมไว้อาลัยและร่วมแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ท่านที่เคยพระราชทานโครงการต่างๆ ที่ก่อเให้เเกิดประโยชน์กับชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ในพิธีกรรมใด และคาดว่าใน 1-2 วันนี้ทุกอย่างจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
  "ผมเห็นว่าพระองค์ท่านได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายๆ อย่างที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับปปวงชนชาวไทยอย่างมาก โดยเฉพาะการสานต่อโครงการแพทย์อาสาจากสมเด็จย่าฯ จนส่งผลให้ชาวมุสลิมที่อยู่ห่างไกล อาทิเช่น อ.ศรีสาคร และ อ.สุคิริน ของ จ.นราธิวาส มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านความเจ็บไข้ได้ป่วยที่ดีขึ้น ขั้นต้นเราจึงต้องร่วมกันสวดบทแผ่กุศลให้ดวงวิญญาณของพระองค์ท่านได้อยู่ในที่ที่สงบและไปสู่สรวงสวรรค์โดยเร็ว" พล.ต.ต.จำรูญ กล่าว
  
  
  -->
  
  ชาวมุสลิมจ.นราธิวาส สวดบท"อารือวะห์"ร่วมไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางฯ หวังแผ่กุศลส่งดวงพระวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ เล็งหารือคณะกรรมการจัดพิธีอาลัยทดแทนพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่
  
  นายอับดุล รอซัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ทันทีที่ทราบว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์นั้น ตนได้ประสานไปยังคณะกรรมการอิสลามทุกคนให้ร่วมกันสวดบท "อารือวะห์" เพื่อขอพรและแผ่กุศลให้ดวงพระวิญญาณของพระสมเด็จพระพี่นางฯ ไปสู่สรวงสรรค์แล้ว
  
  "ชาวนราธิวาสทุกคนต่างรู้สึกเสียใจกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางฯ อย่างมาก และรู้สึกว่าเรากำลังขาดร่มโพธิ์ร่มไทรอันเป็นที่รักยิ่งและขาดที่พึ่งไปอีกหนึ่งพระองค์ เพราะตลอดเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่พระองค์ท่านได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อชาว จ.นราธิวาส อย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะโครงการแพทย์อาสาหรือแพทย์กระเป๋าเขียวที่ได้ลงพื้นที่ดูแลผู้ป่วยและคนชรา อย่างไรก็ตามหลังจากพระองค์ท่านสิ้นพระชมน์แล้วอยากให้ราษฎรในทุกคนได้อยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีดังที่พระองค์เคยร้องขอไว้ อีกทั้งให้ทุกคนได้ช่วยกันทำคุณประโยชน์ให้กับผืนแผ่นดินตามประสงค์ของพระองค์ที่เคยปฏิบัติมาเป็นแบบอย่างด้วย" นายอับดุล รอซัค กล่าว
  
  ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า หลังจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดร่วมสวด "อารือวะห์" เพื่อส่งดวงวิญญาณของสมเด็จพระพี่นางฯ สู่สรวงสวรรค์แล้ว ใน 1-2 วันนี้ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะร่วมกับจังหวัดเพื่อกำหนดการทำพิธีไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชมน์ของพระพี่นางฯ ในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงความจงรักภักดีและร่วมไว้อาลัยเพื่อทดแทนพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อชาว จ.นราธิวาส ด้วย พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม อดีต รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 และ ประธานมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ กล่าวว่า จะเร่งหารือแลบะร่วมประชุมกับคณะกรรมการของมูลนิธิและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาข้อสรุปว่าในส่วนของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้จะร่วมไว้อาลัยและร่วมแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ท่านที่เคยพระราชทานโครงการต่างๆ ที่ก่อเให้เเกิดประโยชน์กับชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ในพิธีกรรมใด และคาดว่าใน 1-2 วันนี้ทุกอย่างจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น "ผมเห็นว่าพระองค์ท่านได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายๆ อย่างที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับปปวงชนชาวไทยอย่างมาก โดยเฉพาะการสานต่อโครงการแพทย์อาสาจากสมเด็จย่าฯ จนส่งผลให้ชาวมุสลิมที่อยู่ห่างไกล อาทิเช่น อ.ศรีสาคร และ อ.สุคิริน ของ จ.นราธิวาส มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านความเจ็บไข้ได้ป่วยที่ดีขึ้น ขั้นต้นเราจึงต้องร่วมกันสวดบทแผ่กุศลให้ดวงวิญญาณของพระองค์ท่านได้อยู่ในที่ที่สงบและไปสู่สรวงสวรรค์โดยเร็ว" พล.ต.ต.จำรูญ กล่าว
  <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>
  
  </TD></TR></TBODY></TABLE>คมชัดลึก

 

คุณงามความดี ท่านได้ทรงทำมาพร้อมดีแล้ว...
ท่านทรงเหนื่อยมาพอแล้ว....
ดวงพระวิญญาณของท่านคงได้เสด็จไปอยู่กับสมเด็จพระบรมราชชนนี พระมารดาแล้ว....

พระคุณท่านและความดีที่ท่านได้ทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนชีพ..ข้าพระองค์ขอน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำไปเป็นแบบอย่าง และจะจดจำตลอดไป..พร้อมทั้งคนไทยทุกคน...

 

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD><TABLE class=white cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#aaaaaa border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=topic></TD></TR><TR><TD>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช กลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากรอเฝ้ารอรับเสด็จสด็จ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ศน.นิมนต์พระสงฆ์84รูปสดับปกรณ์-สวดพระอภิธรรม

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>2 มกราคม 2551 14:44 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- สำนักพระราชวังมอบกรมการศาสนานิมนต์พระสงฆ์ 84 รูปสดับปกรณ์ -นิมนต์พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พร้อมจัดดนตรีประโคมในพระราชพิธีศพสมเด็จพระพี่นางเธอฯ พิมพ์หนังสือ 2 แสนแจกประชาชนที่สักการะพระศพที่ศาลาสหทัยสมาคม


เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ.ได้รับหนังสือจากกองพระราชพิธี สำนักพระราชวังมอบหมายให้กรมการศาสนา(ศน.) ดำเนินการนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 84 รูป สดับปกรณ์ นิมนต์พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้า วันละ 8 รูป ฉันเพล วันละ 8 รูป กำหนด 100 วัน รวมทั้งดำเนินการจัดตู้พระธรรมไปตั้งที่หน้าพระสวดพระอภิธรรม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ส่วนกรมศิลปากรได้มอบหมายให้จัดเตรียมดนตรีประโคม สำหรับใช้ในพระราชพิธีศพด้วย นอกจากนี้วธ.ยังได้จัดพิมพ์หนังสือ เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ จำนวน 200,000 เล่ม เพื่อนำไปแจกให้แก่ประชาชนที่สักการะพระศพ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง และที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้หากจำนวนหนังสือไม่เพียงพอทางวธ.ได้เตรียมจัดพิมพ์เพิ่มอีก 300,000 เล่ม สำหรับการจัดพิธีไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และให้ข้าราชการแต่งกายด้วยชุดขาว ถวายสักการะไว้อาลัย พร้อมทั้งกล่าวถวายสดุดี จากนั้นจึงให้ประชาชนลงนามถวายสักการะไว้อาลัย ซึ่งทางจังหวัดต่างๆสามารถศึกษารายละเอียดการจัดพิธีไว้อาลัยได้ที่ www.m-culture.co.th อย่างไรก็ตาม ทาง วธ. ยังได้มอบหมายให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ดำเนินการเหตุบันทึกเหตุการณ์งานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ตั้งแต่เคลื่อนย้ายพระศพจากโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้นไป


-->

สำนักพระราชวังมอบกรมการศาสนานิมนต์พระสงฆ์ 84 รูปสดับปกรณ์ -นิมนต์พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พร้อมจัดดนตรีประโคมในพระราชพิธีศพสมเด็จพระพี่นางเธอฯ พิมพ์หนังสือ 2 แสนแจกประชาชนที่สักการะพระศพที่ศาลาสหทัยสมาคม

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ.ได้รับหนังสือจากกองพระราชพิธี สำนักพระราชวังมอบหมายให้กรมการศาสนา(ศน.) ดำเนินการนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 84 รูป สดับปกรณ์ นิมนต์พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้า วันละ 8 รูป ฉันเพล วันละ 8 รูป กำหนด 100 วัน รวมทั้งดำเนินการจัดตู้พระธรรมไปตั้งที่หน้าพระสวดพระอภิธรรม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ส่วนกรมศิลปากรได้มอบหมายให้จัดเตรียมดนตรีประโคม สำหรับใช้ในพระราชพิธีศพด้วย

นอกจากนี้วธ.ยังได้จัดพิมพ์หนังสือ เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ จำนวน 200,000 เล่ม เพื่อนำไปแจกให้แก่ประชาชนที่สักการะพระศพ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง และที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้หากจำนวนหนังสือไม่เพียงพอทางวธ.ได้เตรียมจัดพิมพ์เพิ่มอีก 300,000 เล่ม
สำหรับการจัดพิธีไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการประดิษฐานพระฉายา
ลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และให้ข้าราชการแต่งกายด้วยชุดขาว ถวายสักการะไว้อาลัย พร้อมทั้งกล่าวถวายสดุดี จากนั้นจึงให้ประชาชนลงนามถวายสักการะไว้อาลัย ซึ่งทางจังหวัดต่างๆสามารถศึกษารายละเอียดการจัดพิธีไว้อาลัยได้ที่ www.m-culture.co.th อย่างไรก็ตาม ทาง วธ. ยังได้มอบหมายให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ดำเนินการเหตุบันทึกเหตุการณ์งานพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ตั้งแต่เคลื่อนย้ายพระศพจากโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้นไป
<TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

...ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นข้ารับใช้ในวังสระปทุม..รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูกกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์..พระผู้มีพระเมตตาเปี่ยมล้นต่อวงการการศึกษาไทย...ขอร่วมไว้อาลัยครับ...

 

ขอให้พระองค์ขึ้นสวรรค์และเจอความสุขปีติในชีวิตหลังความตายค่ะ ^^

 

แม้ว่าพระองค์ท่านจะไปสบาย แต่ก็ไม่วายห่วงใยชาวไทย

พระองค์ท่าน เดินเตร่ สบายพระทัย ที่พระนิพพาน นานหลายวัน
แต่ก็ยังอุตส่ารอ

รอให้ ชาวไทยทุกคน ฉลองปีใหม่กันให้สนุกสนานอย่างเต็มที่

เมื่อทุกคนฉลองปีใหม่กันเต็มที่แล้ว

พระองค์จึงหมดกังวล
ทุกอย่าง

พระองค์คงไม่อยากให้การสิ้นพระชนของพระองค์เอง ทำให้ปีใหม่ปีนี้ต้องเศร้าและเหงาหงอย

น่าคิดนะ

ผู้ที่เกิดมาเป็นพึงพระพี่นางเธอของพระราชาผู้ทรงธรรม

ห่วงแม้กระทั่งความสุขเล็กๆน้อยๆของคนอื่น

 

ขอบุญบารมีของพระองค์อุบัติขึ้น
ขอให้พระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรคาลัย
บุญบารมีของพระองค์มากมายยิ่งนัก

ขอให้เราชาวไทย ร่วมกัน รำลึกถึงคุณความดีของพระองค์
เพื่อเราจะได้ อนุโมทนาบุญกุศล ทำให้ท่านได้บารมีเพิ่มมากขึ้น

สาธุ อนุโมทนามิ