อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอพักเหมือนกันครับ พรุ่งนี้พบกันนะครับ ราตรีสวัสดิ์ ทุกๆท่าน
     
  2. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]

    หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม วัดป่าด่านศรีสำราญ จ.หนองคาย
    พระอริยะทรงอภิญญา สายพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น หลวงปู่บวชเป็นผ้าขาว ฝึกภาวนากับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ
    ขณะที่หลวงตาจำพรรษาที่บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร (ประมาณ พ.ศ.2495)
    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทาของท่านที่หลวงตามหาบัวกล่าวถึง
    หลวงตามหาบัวได้เป็นธุระเตรียมจัดบริขารในการบวชให้ โดยหลวงตากล่าวว่า
    "...หลวงพ่อตันนะ องค์หนึ่งนะ อันนี้ก็ เราบวชให้เลยนะ
    เป็นตาปะขาว แกภาวนาดี แกเล่าภาวนาให้ฟัง เข้าท่านี่ว่ะ
    เราเลยให้ไปบวชมุกดาหาร เราไม่ไปแหละ
    แต่ให้โยมพาไป ให้พระพาไป บริขารเราเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว
    ให้ไปบวชแล้วมาอยู่กับเรา หลวงพ่อตันนี้องค์หนึ่ง..."

    ท่านเป็นพระบวชเมื่ออายุมาก แต่ท่านตั้งใจปฏิบัติจริงจัง เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติ
    บวชแล้วก็ได้มาอบรมธรรมเป็นศิษย์หลวงตา ภายหลังจึงได้มาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    จนกระทั่งหลวงตามั่นใจในคุณธรรมหลวงปู่คำตัน แล้วจึงมอบหมายให้หลวงปู่คำตันไปดูแลและฝึกอบรมพระกรรมฐาน
    ณ วัดป่าดานศรีสำราญ จ.หนองคาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    มรณภาพแล้ว อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุสวยงามมาก หนึ่งในเพชรน้ำหนึ่งที่องค์หลวงตามหาบัวกล่าวไว้

    [​IMG]

    “ เหรียญรุ่นแรก ขออนุญาตจัดสร้างโดย คุณหมอ(ทันตแพทย์) เกรียงไกร และ คณะฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยปั๊มจากกองกษาปณ์ จัด

    สร้างด้วยเนื้อต่างๆ ดังนี้. - เนื้อทองคำ 2 เหรียญ (ผู้สร้างได้นำไปบรรจุยังเจดีย์หมดแล้ว) - เหรียญเนื้อเงิน 399 เหรียญ - เหรียญเนื้อทอง

    แดง 9999 เหรียญ ทุกเหรียญมีการตอกโค๊ตด้านหลังเหรียญทุกเหรียญ เหรียญรุ่นแรก ของ หลวงปู่คำตัน ก่อเกิดอภินิหารสำหรับผู้ที่

    ห้อยคอบูชามากมาย โดยเฉพาะเรื่อง คงกระพัน ชาตรี เลื่องชื่อ ลือชา สุดๆ ครับ.

    ปล.ขอบคุณข้อมูลจากคุณหลง บ้านไผ่

    [​IMG]
     
  3. sellcat

    sellcat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +6,706
    เห็นคนในนี้มีกันคนละหลายองค์ เลยเริ่มตามเก็บมั้ง
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,529
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,529
    Currently Active Users Viewing This Thread: 7 (4 members and 3 guests) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    Wannachai001, jaya, kraisorn_pithsanulok, ddd445


    สวัสดียามดึกครับคุณปู คุณโญ พี่ตี๊ใหญ่ น้องเอ๋ และทุกๆท่าน


    ขอให้คุณแม่คุณปูหายป่วย แข็งแรงเดินได้เป็นปรกติโดยเร็ววันนะครับ
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,529
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093

    tee_tores, kraisorn_pithsanulok

    สวัสดีครับพี่วรรณ น้องเอ๋ ยังไม่นอนอีกเหรอเนี๊ยะ :cool::cool:
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093

    กราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    เห็นพี่วรรณเลยเพิ่งนึกได้ว่า ตะกี้ฝันไปว่า ได้บูชา เขี้ยวเสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ขนาดยาวคล้ายๆ เขี้ยวหมี ไม่ได้แกะอะไร เจ้าของบอกว่า รับกับมือหลวงพ่อฤาษีท่านๆ บอกว่า หลวงพ่อปานให้ท่านมาอีกที ไม่รู้ทำไมถึงฝันแบบนี้ งงมาก แกแบ่งให้เช่าติดตัว 150 บาท อีกองค์
    พระอะไรไม่ได้จริงๆ 240 รวมราคาผมต้องจ่ายแกไป 390 บาท ให้แบ๊งค์ห้าร้อยแกไป และแกก็กำชับว่า ถ้าจะคืนเอามาคืนแก ห้ามให้ใคร จำได้แค่นี้จริงๆครับ

    ขอบอกว่าเป็นความฝันที่แปลกมาก เพราะปกติผมไม่ค่อยฝันถึงเกี่ยวกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเลย
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093

    เหรียญสวยมากครับพี่โญ
    :cool::cool:
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093

    สวัสดีครับคุณเหน่ง

    ช่วงหลังไม่ค่อยได้ติดตาม เลยไม่ทราบว่าเป็นพระอะไร รุ่นใหนครับ แต่เนื้อหาสวยดีครับ ขอเป็นความรู้หน่อยครับ
    :cool::cool:
     
  11. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    อรุณสวัสครับพี่ๆทุกๆท่าน^^
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา
    ขอน้อมกราบนมัสการ ลป.ครับ
    เหรียญสวย เห็นแล้วลักษณะการนั่งคล้าย ลป.แหวนครับ
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093
    สวัสดี สมาชิกอัลบั้มพระทุกๆท่านด้วยครับผม

    เช้านี้ที่เชียงใหม่ ขอนำเหรียญหลวงพ่อบุญตา วัดคลองเกตุ โคกสำโรง ลพบุรี ที่ให้พ่อใว้มาให้ชมครับผม


    [​IMG] [​IMG]

    พระครูสิริธัชสมาจารย์ (หลวงปู่บุญตา วิสุทธสีโล) วัดคลองเกตุ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
    มีนามเดิมว่า บุญตา นามสกุล พาซื่อ โยมบิดาชื่อ นายอุด โยมมารดาชื่อ นางทุม พาซื่อ
    เกิดที่บ้านโนนสะคาม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2449
    ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 ท่าน คือ
    1. นายอ้วน พาซื่อ
    2. นายรุณ พาซื่อ
    3. นางลา พาซื่อ
    4. หลวงปู่บุญตา วิสุทธสีโล
    เมื่ออายุได้ 3 ขวบ บิดาย้ายถิ่นฐานไปอยู่บ้านพระเสาร์ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร

    ชีวิตในวัยเยาว์อายุ 12 ปี ได้ศึกษาภาษาไทย ณ วัดพระเสาร์ จนถึงชั้น ป. 3 จึงออกมาช่วยบิดามารดาทำนา
    จนกระทั่งอายุ 16 ปี บิดามารดาพาย้ายถิ่นฐานไปอยู่บ้านจาน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
    และได้ย้ายไปอยู่บ้านหนองมะนาว ต.ขอนแก่น อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
    จนอายุได้ 23 ปี มารดาก็เสียชีวิต ท่านจึงได้บวชหน้าไฟเพื่อทดแทนคุณมารดา

    ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2472 ที่วัดหนองม้า ต.หนองฮะ อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์
    โดยมีพระอธิการกลัด เจ้าอาวาสวัดสะเม็ด เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์กา วัดสะเม็ด เป็นพระกรรมวาจา
    พระอธิการเผือ วัดบ้านเครือ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ท่านได้รับฉายาว่า "วิสุทธสีโล" แปลว่า "ผู้มีศีลอันบริสุทธิ์"
    เมื่อบวชแล้วได้จำพรรษาอยู่กับพระอาจารย์กลัด พระอุปัชฌาย์ในวัดสะเม็ด
    ได้เริ่มเรียนการปฏิบัติกัมมัฏฐานอย่างจริงจังกับผู้เป็นอุปัชฌาย์
    พร้อมกับเรียนพระปริยัติธรรมควบคู่ไปด้วยและก็สอบได้นักธรรมชั้นตรีในพรรษาแรก

    เมื่อจิตใจพึงพอใจอยู่กับความสงบประกอบกับหลวงปู่ท่านได้สมาธิแล้ว
    ก็ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายที่จะต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อมแห่งผู้คน
    จึงขออนุญาตพระอาจารย์กลัดแสวงหาครูบาอาจารย์สอนวิชา
    โดยไปจำพรรษาที่วัดกลาง จังหวัดบุรีรัมย์
    เพราะทราบว่ามีครูบาอาจารย์ดีในวัดหลายองค์
    ท่านจึงได้ศึกษาวิชาต่างๆ หลายแขนงทั้งทางด้านปฏิบัติธรรม ด้านคาถาอาคม
    ไสยศาสตร์ แต่เนื่องจากวิชาอาคมต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นภาษาขอมท่านจึงคิดที่หาที่เรียนภาษาขอม
    จึงเดินทางไปยังวัดเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
    เรียนภาษาบาลีและอักขระขอม ใช้เวลาเรียนอยู่ 4 ปีเต็มจนแตกฉานในภาษาบาลีและอักขระขอม

    จบแล้วจึงไปจำพรรษาที่วัดพระเสาร์เป็นเวลา 3 พรรษา
    และท่านก็ปรารถนาจะกราบนมัสการพระธาตุพนม ซึ่งไม่เคยไปมาก่อน
    ท่านจึงออกเดินทางธุดงค์ไปยังวัดพระธาตุพนม ค่ำไหนก็ปักกลดที่นั่น
    ทำการสำรวจจิตใจด้วยตนเอง ทบทวนด้วยเรื่องของสังขารอยู่ในป่าทึบ
    จนกระทั่งถึงวัดพระธาตุพนม และอยู่ที่วัดพระธาตุพนม 7 วัน

    จากนั้นออกธุดงค์ต่อไปทางจังหวัดเชียงใหม่ไปพักอยู่วัดอุโมงค์
    เป็นวัดที่พระชาวศรีลังกามาสอนธรรมะ
    ท่านอยู่ที่นั่น 15 วัน ก็ธุดงค์ต่อไปทั่วภาคเหนือและภาคอิสาน
    ปี พ.ศ. 2474 หลวงปู่เดินธุดงค์อยู่เชียงใหม่
    ท่านทราบว่าเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) แสดงธรรมอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง
    ท่านดีใจมากที่จะได้พบพระสุปฏิปันโน
    และท่านก็ได้รับความเมตตาชี้แนะแนวทางธรรม
    หลังจากนั้นท่านจึงธุดงค์ไปวัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
    ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเสาร์ กันตสีโล
    ซึ่งหลวงพ่อเสาร์ ท่านเชี่ยวชาญเรื่องปัฏฐวีกสิณ เตโชกสิณ อาโปกสิณ และวาโยกสิณ
    หลวงพ่อเสาร์ท่านได้เมตตาสอนปัฏฐวีกสิณให้
    โดยนำดินมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่าหม้อใหญ่และขนาดขันน้ำ โดยมองให้เห็นอยู่อย่างนั้น
    แล้วลืมตามาเพ่งใหม่คือ การเพ่งดินเป็นอารมณ์ และในการฝึกนั้นจะมีพระมหาปิ่น ปญฺญาธโร
    และพระอาจารย์สิงห์ ขันตคยาโม เป็นผู้เข้มงวดในการฝึก
    จนกระทั่งหลวงปู่บุญตา เข้าถึงปฐวีกสิณอย่างรวดเร็วกว่าศิษย์ท่านอื่นๆ

    จากนั้นท่านจึงกราบลาหลวงพ่อเสาร์ และพระมหาปิ่น ธุดงค์มาทางจังหวัดลพบุรี
    และมาพักอยู่วัดพรหมมาสตร์ มาอยู่กับหลวงพ่อพุทธวรญาณ ได้ศึกษาธรรมะอยู่ 1 พรรษา
    จากนั้นจึงเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ ไปอยู่วัดมหาธาตุ
    พร้อมกับปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานกับพระเทพสิทธิมุนี ภาวนายุบหนอ พองหนอ
    เพ่งสติให้เป็นมหาสติปัฏฐาน ปฏิบัติได้ 2 เดือนเศษก็มีความชำนาญและช่ำชองอย่างรวดเร็ว

    ออกจากวัดมหาธาตุ ย้อนกลับไปยังจังหวัดนครสวรรค์
    ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม พุทธสโร แห่งวัดหนองโพ ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อเดิมหลายอย่าง
    เช่น การสร้างมีดหมอเทพศาสตราตามตำรับเดิมแท้ ฯลฯ
    และท่านได้ไปเรียนวิชากับหลวงพ่อทองวัดเขากบ ซึ่งท่านมีชื่อเสียงในการเล่นแร่แปรธาตุ

    จากนั้นได้เข้าศึกษาพระธรรมที่วัดศรีษะเมือง หรือวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีชื่อเสียงทางปริยัติธรรม
    หลวงปู่บุญตาจึงได้ศึกษาจนสำเร็จนักธรรมชั้นโทและนักธรรมชั้นเอก
    ท่านอยู่ที่ในนครสวรรค์ 4 พรรษา จากนั้นก็กลับมาลพบุรี มาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองบัว ต.คลองเกตุ
    อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ในปี 2483
    ท่านอยู่ที่วัดหนองบัว 3 พรรษา จากนั้นจึงกลับไปเยี่ยมภูมิลำเนาเกิด โดยไปจำพรรษาที่วัดพระเสาร์
    เป็นเวลา 3 พรรษา จากนั้นก็กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวอีกครั้งหนึ่ง
    ในการอยู่วัดหนองบัวท่านก็ได้โน้มน้าวจิตใจของญาติโยมเข้าวัดปฏิบัติธรรม
    ควบคู่ไปกลับการสอนปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร
    รวมทั้งเป็นที่พึ่งของญาติโยมในภาวะเจ็บไข้ท่านก็ใช้พลังอำนาจทางจิตทำการรักษา
    รวมทั้งผู้ที่ถูกคุณไสยมนต์ดำ หลวงปู่สยบมาแล้วทั้งนั้น
    ชื่อเสียงด้านการสอนธรรมะและปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ ทำให้ผู้ใหญ่ระดับสูงในอำเภอโคกสำโรง
    อาราธนานิมนต์ไปยังอารามแห่งใหม่
    ท่านอยู่วัดหนองบัวครั้งหลัง 3 พรรษา ปี 2492 ก็ได้รับคำสั่งให้ไปปกครองวัดสิงห์คูยาง
    ซึ่งอยู่ใจกลางชุมชนตลาดอำเภอโคกสำโรง ท่านพัฒนาวัดสิงห์คูยาง จนก้าวหน้า
    และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระครูสังฆรักษ์บุญตา พระฐานานุกรมของพระกิตติญาณมุนี
    (พระพุทธวรญาณ) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รวมระยะเวลาปกครองวัดสิงห์คูยาง 23 พรรษา

    ขณะที่ท่านพำนักอยู่วัดสิงห์คูยางนั้นท่านเดินทางสู่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
    เพื่อขอรับการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวทางของพระธรรมธีราชมุนี (โชดกญาณสิทธิ ป.ธ.9)
    ในรุ่นที่ 3 และได้รับการยกย่องจากพระเดชพระคุณ พระพิมลปัญญาว่า เป็นพระวิปัสสนาจารย์ชั้นเยี่ยม
    เพราะเข้าสมาธิได้เป็นที่ 1 สามารถทำให้ร่างกายไม่ไหวติงนานนับ ถึง 1 วัน 1 คืน
    ถึงขั้นมีผู้ทดสอบยกร่างของท่านจากที่เดิมไปที่แห่งใหม่ โดยที่ท่านั่งของท่านยังคงเดิมไม่ไหวติง
    เพราะหลวงปู่ท่านเข้าถึงสภาวะจิตขั้นสูงแล้ว


    วัดคลองเกตุ ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง ถึงยุคเสื่อมโทรมร้างเจ้าอาวาส
    ชาวบ้านตำบลคลองเกตุได้พร้อมใจกันไปขอร้องท่านผู้ใหญ่ในอำเภอ
    ขออาราธนานิมนต์ไปปกครองวัดคลองเกตุไปเป็นหลักของชาวบ้านคลองเกตุ
    เพราะความศรัทธาที่มีต่อท่านตั้งแต่ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัว ซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกัน

    คณะสงฆ์ผู้ใหญ่ได้สอบถามหลวงปู่ หลวงปู่ก็ตอบตกลงเพราะว่าวัดสิงห์คูยางเจริญแล้ว
    และอยู่กลางอำเภอ และเห็นว่าวัดคลองเกตุเงียบสงบ
    เหมาะแก่การเจริญภาวนา ปฏิบัติธรรม ท่านจึงตอบตกลงทันที

    วันที่ 25 มกราคม 2514 ขบวนชาวบ้านคลองเกตุ ได้จัดขบวนไปรับหลวงปู่ถึงวัดสิงห์คูยาง
    เพื่อไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองเกตุ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    หลวงปู่ท่านก็ได้ไปบริหารจัดการและพัฒนาจนเจริญก้าวหน้าจนเป็นวัดคลองเกตุในปัจจุบัน


    หลวงปู่บุญตาท่านมีความช่ำชองในการเพ่งกสิณไฟเป็นพิเศษ
    ถึงขนาดที่กำหนดจิตเสกพระให้แก่ผู้ศรัทธาเพียงชั่วอึดใจ
    พระที่ท่านเสกให้ถึงกับร้อนจัดขึ้นทันที
    และที่น่าอัศจรรย์คือมีผู้ห้อยพระของท่านถูกฟ้าผ่า แต่รอดตายได้อย่างปาฏิหารย์
    วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น ประสบการณ์เพียบ....เรื่องแคล้วคลาด ปลอดภัย โชคลาภ
    มีพูดคุยปากต่อปากของลูกศิษย์ของท่านไม่ขาดปากตลอดจนถึงปัจจุบันนี้
    และวัตถุมงคลของท่านไม่มีวางให้เห็นตามแผงพระทั่วไป เพราะลูกศิษย์เห็นจะเก็บไว้หมด
    นานๆ ทีจึงจะเห็นวัตถุมงคลของท่านออกมาให้เห็นตามตลาดพระบ้าง
     
  14. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้าอ.โญ คุณเอ็ม คุณวัน คุณเอ๋ คุณเหน่ง คุณกานต์ ตุณเอ๊ะ คุณปู คุณกูล คุณอ้วน คุณโอ๊ต คุณรุ่ง คุณบอย คุณวุฒิ และทุกท่าน
    วันอาทิตย์ขอให้จิตแจ่มใส พักผ่อนให้สบายกาย สบายใจกันนะครับ
     
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    กลับสกลนครครับ
    ลต.บุญหนา เจ้านายมอบให้ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. sellcat

    sellcat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +6,706
    ประวัติหลวงพ่อเจิม วัดหอยราก

    พ่อท่านเจิม อชิโต หรือ พระครูพิศาลวรเวทย์ อดีตพระเกจิอาจารย์ขลังแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2451 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 8 ค่ำ เดือน 7 ปี วอก เป็นบุตรของนายภู่ นางคล้าย แก้วช่วย ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคงคาสวัสดิ์ (วัดใต้) โดยมี หลวงพ่อนุ่ม เกสโร พระครูประภาสภูมิสถิตย์ เป็นพระอุปัชฌาย์บวชแล้วก็ประจำพรรษาที่วัดคงคาสวัสดิ์ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และพระเทวอาคมกับหลวงพ่อนุ่มผู้เป็นอุปัชฌาย์ จารย์จนมีความเชี่ยวชาญในสรรพเวทวิทยาคมอย่างลึกซึ้ง พ่อท่านเจิม อชิโต ได้มารั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ.2479 และได้ละสังขารลงเมื่อ ปี พ.ศ.2527 รวมสิริอายุ 76 ปี 57 พรรษา
    ครั้งเมื่อพ่อท่านเจิม อชิโต สมัยท่านยังไม่ละสังขารอยู่นั้น ท่านได้สร้างพระเนื้อผงดินเผา พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี พ.ศ. 2499 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา พ่อท่านเจิมได้เสาะแสวงหาและรวบรวมมวลสารที่เป็นมหามงคล โดยใช้ระยะเวลาอยู่นานร่วม 7-8 ปี เมื่อได้มวลสารที่ต้องการแล้ว พ่อท่านเจิมได้ทำพิธีกดพิมพ์พระพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ปิดตา เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2499 ซึ่งมวลสารที่พ่อท่านเจิมได้ใช้ในการสร้างล้วนมีพุทธคุณ และคุณวิเศษมากมายในตัวซึ่งเป็นมวลสารที่หายากยิ่ง พ่อท่านเจิมอยากให้วัตถุมงคลที่สร้างออกมาให้มีพุทธคุณ จึงต้องทำให้ตรงตามตำราโบราณทุกอย่าง ทุกขั้นตอนอย่างประณีต โดยเฉพาะมวลสารที่เป็นดินพรายสมุทร (ท้องทะเล) ต้องใช้ถึง 108 ปั้น โดยต้องดำน้ำลงไป และเถ้าคนที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ 7 ป่าช้า เอามาบดเป็นผงให้ได้ 108 จอกชา และยังมีมวลสารที่สำคัญอีกร่วม 700 ชนิด พ่อท่านเจิมได้นำพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และ พิมพ์ปิดตา เข้าปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถ วัดศรีสมบูรณ์อีก เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระคาถาพระมหาหมื่น 10,000 จบ พ่อท่านเจิมใช้ระยะเวลาการปลุกเสกนานถึง 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2499-2501 พระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ของพ่อท่านเจิม จึงเป็นวัตถุมงคลที่มีความเข้มขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในพุทธคุณสูง

    บทความต่อไปนี้เป็นบทความจาก พระสมุห์เจิม แก้วช่วย เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์ (หอยราก) อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

    “สวัสดีท่านที่เคารพและนับถือทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าจัดทำรูปหลวงพ่อ อะชิโตขึ้นครั้งนี้ ทำตามแบบโบราณ ที่ท่านเขียนไว้ในคำภีร์ใบลาน พัสดุที่เอามาประสมเกินกว่า 700 สิ่ง แต่ละสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ข้าพเจ้าเที่ยวหาของต่าง ๆ นั้น 2 ปีซ้อน ทำแต่ผงนั้นราว 4 เดือน และทำแต่รูปหลวงพ่อ อะชิโต ก็ราว 3 ปี และโดยเฉพาะปลุกเสกอยู่นั้นย่างเข้า 5 ปี คือเริ่มปลุกเสกในฤกษ์ของวันเสาร์ เดือน 5 ปี มะเส็ง กระทั่งถึงวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา พ.ศ.2512 เป็นอันสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ ขึ้น 8 ค่ำเดือนเดียวกัน เป็นปฐมฤกษ์ของการแจกจ่ายให้เช่า อันเป็นมหามงคลฤกษ์ของอมฤคฆโชค แปลว่า เป็นโชคอันไม่ตาย ข้าพเจ้าขอเตือนว่า ทุก ๆ ท่านที่มีรูปหลวงพ่อ อะชิโต ไว้นั้น อย่าสักแต่ว่าเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น มันไม่เกิดเป็นมงคลและผลประโยชน์อะไรเลย เหมือนอย่างไก่ไปพบพลอย พลอยก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับไก่เลย ฉะนั้น ขอท่านอย่าได้ประมาท อุตส่าห์กราบไหว้บูชาอยู่เสมอ เป็นรูปที่ทำขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น พอถึงวันอังคาร หรือวันเสาร์ ควรจัดของถวายข้าวพระ มีน้ำสิ่งหนึ่ง ข้าวสิ่งหนึ่ง คาวสิ่งหนึ่ง หวานสิ่งหนึ่ง อย่างน้อยให้ได้เดือนละหนึ่งครั้ง เวลาจะหลับนอนหรือไปไหน ให้ยกเอารูปหลวงพ่อ อะชิโต ขึ้นตั้งเหนือหัวขอท่านช่วยคุ้มครองป้องกันรักษาเถิด พระพุทธเจ้าทรงตรัสภาษิตไว้ว่า อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ แปลว่า ท่านทั้งหลายจงยังไม่ประมาทให้ถึงพร้อม พระพุทธภาษิตขึ้นนี้ท่างจะยึดถือไว้ให้มั่น นี้เป็นหลักของหลวงพ่อ อะชิโต ที่จะต้องปฏิบัติคือ อย่าได้ประมาทเลย และขอให้ท่านทุกท่านที่มีหลวงพ่อ อะชิโต ไว้กับตัวและครอบครัวของท่าน จงสัมฤทธิ์ผลดลบันดาลให้สำเร็จทุกประการเทอญ” ปัจจุบันพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา เป็นที่เสาะแสวงหาในวงการพระเครื่องพระ ศิษยานุศิษย์สายพ่อท่านเจิม และบุคคลทั่วไป
    วิธีการบูชาพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์ และพระผงพรายสมุทร อชิโต พิมพ์ปิดตา ปี 2499 ของพ่อท่านเจิม อชิโตนั้น มีดังนี้

    นะโม 3 จบ
    กล่าวต่อ ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุตอะทูวิ กะโลโตคะ สุโนปันสัม ณะระจะชา วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093

    สวัสดีครับ น้องกานต์ พี่ตี๋ คุณเหน่ง


    อ๋อ หลวงพ่อเจิม นี่เอง คุ้นๆ ขอบคุณมากๆครับสำหรับข้อมุล เผื่อเจอที่ใหนจะได้เก็บบ้างครับ
    :cool::cool:
     
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณคุณเอ็ม ที่ได้นำพระดีและข้อมูลต่างๆมาให้ได้ชมได้อ่าน เพิ่มความรู้
    น้อมกราบนมัสการ ลป.บุญตาครับ
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,058
    ค่าพลัง:
    +53,093
    สวัสดีครับพี่เอ๊ะ

    หลวงปู่บุญตา เป็นเหรียญแรกๆ ที่เจอโดยไม่รู้ว่าได้มาอย่างไร ตอนชอบพระก็เลยค้นประวัติท่านพออ่านแล้วก็ศรัทธาท่านเช่นกันครับ
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448



    [​IMG]



    ;aa44 สวัสดีครับพี่ปู และสมาชิกอัลบั้มพระทุก ๆ ท่าน...

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...