ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับพี่ modpong และพี่ น้องทุกท่าน
ติดตามครับ ทำผมให้มองห็นพระวัดบ้านกร่าง แต่สำคัญสุดพระวัดสนามไชย แห่งสุพรรณ ไม่พบพระสักองค์ มีแต่เถ่าถ่าน และกระดูกนักรบโบราณ ทำให้ผมคิดพอสมควร วัดสนามไชยสุพรรณ..แหล่งผู้กล้า..วีระชน..มองแล้วหดหู่เหมือนกันครับ..พระแพงพระดีวัดบ้านกร่าง..แต่ศพผู้กล้าเกลื่อนวัดสนามไชยไม่มีใครกล่าวถึง..ติดตามครับ
ฮักแพง

 

.........................................
...คนที่ชอบประวัติศาสตร์..จะรู้ว่า..ถ้าไปสุพรรณ..ก็ต้องหาโอกาศไป..วัดสนามไชย..ถึงแม้เจดีย์..จะเหลืออยู่นิดเดียว..แต่ก็บอกให้รู้ว่า..วัดนี้เดิมต้องยิ่งใหญ่..เพราะความเก่าแก่(เก่ากว่า..วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ)..ถึงยุคทวาราวดี..เหนือสิ่งอื่นใด..แค่ฐาน..ก็ไม่ธรรมดาแล้ว..เสียดาย..ถ้าไม่พัง..คงเป็นเจดีย์ที่สวยที่สุดของสุพรรณเลย..ผมว่านะ

 

.............
...หวัดดี..Orkarรุ่น๑...และ..น้องฮักแพง..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม..
..............................
..ต่อจากตอนที่แล้ว....
..........................
..............................................
........"พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ".....
......คำที่น่าสนใจ..ที่มีอยู่ในชื่อ..เริ่มตั้งแต่...
......"...วิชิตมาร..."...ปราบมาร..ส่วนนึง..แน่นอน..เพราะ..เป็นชื่อปางของ...พระพุทธรูป...
........ปางปราบท้าวมหาชมพู......แต่ความนัย..มีแค่นั้นรึเปล่า..ต้องมาดูต่อไป....
....."...ศรีสรรเพชร.."..คำนี้..สำคัญมาก..บอกที่มาหลายอย่าง...มาดูว่า..เราพบคำนี้ที่ไหนบ้าง...
...พระที่นั่งศรีสรรเพชญ์มหาปราสาท...
....คือ..พระที่นั่งที่..สร้างขึ้นโดย..สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ..พ่อของ..สมเด็จฯรามาธิบดีที่ ๒
...วัดพระศรีสรรเพชญ์...
เริ่มสร้าง..โดยการแบ่งเขตส่วนพระราชฐานเพื่อสร้างเป็นวัด..โดย..สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ..
...แล้ว..สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ มาสร้างพระเจดีย์..บรรจุสถูป..ของพ่อ..๑ องค์..และ..พี่ชาย ๑ องค์
...พระศรีสรรเพชญ์ดาญาณ..
...คือชื่อ..พระพุทธรูปยืนทองคำ..ที่ใหญ่ที่สุดของไทย..สร้างโดย..สมเด็จพระรามาธบดีที่ ๒...
คราวเสียกรุงครั้งที่ ๒ โดนพม่าเผา..ละลายเอาทองไปหมด..เหลือแต่..แกนหุ่น..ปัจจุบันถูกบรรจุ
อยู่ในเจดีย์ที่วัดพระเชตุพน...
............ดังนั้น..เอาแค่ชื่อนี้..เกี่ยวพันกับ..คนอยู่ ๒ คน..พ่อ.กับ..ลูก..โดยเริ่มมีคำนี้..ตั้งแต่..พ่อก่อน...
.....คำต่อไป..บรมไตรโลกนาถ...
..คำนี้..มันผูก..กับคำว่า..ศรีสรรเพชญ์..ดังนั้น...คงไม่ได้หมายความถึง..พระพุทธเจ้า..แน่...
.......แต่..หมายถึง......สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ.........นั่นเอง......
........ดังนั้น..น่าจะถึงบางอ้อ..แล้วนะครับ.........
...พระพุทธรูป..ทรงเครื่อง..อย่างกษัตริย์.....
.....สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล..และ..เป็นเสมือนองค์แทนของ..พระราชบิดา...
......สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ...นั่นเอง.....................
.............................................................
..แล้วโครง..หน้าแบบนี้..มาจากไหนละ...ไม่สอดคล้องยุคสมัยเลย.....
................ตอบได้ง่ายมากครับ........ทั้งพ่อทั้งลูก..ชีวิตจริงๆ..ไม่ได้ผูกพันกับ..อยุธยา..เท่าไหร่...
...พ่อ...ไปและใช้ชีวิตอยู่ครองเมืองพิษณุโลก..อยู่นานมาก..เหมือนเป็นบ้านเลยก็ว่าได้...
...อาณาเขตปกครอง..ก็ครอบคลุม..สุโขทัย..กำแพงเพชร..แหล่งวัฒนธรรม...หลงรัก.และ..ซึม
ซาบ..ศิลปวัฒนธรรม..ในละแวกนั้น..อย่างดี..และ..เป้นผู้นำ..ศิลปต่างๆจากสุโขทัย..มาสู่
อยุธยาอย่างเต็มตัว....ทรงบูรณะศาสนสถานต่างๆ..อย่างที่วัดใหญ่(วัดพระพุทธชินราช)..
รวมถึง..สร้างวัดจุฬามณี(..พระกรุวัดจุฬามณี)..และ..ทรงบวชที่นั่น............
....ลูก..ใช้ชีวิต..เล็กจนโต..อยู่ที่พิษณุโลก..เห็น..ซึมซับ..ศิลปวัฒนธรรมแถบนั้น..มากว่า..
อยุธยาซะอีก........
....นี่ก็เช่นกัน..ก็คงถึง..บางอ้อ..แล้วเช่นกัน..ว่าเค้าหน้า..หลวงพ่อพระประธานมาจากไหน..
.....ก็..พระพุทธรูปสุโขทัย..นั่นเอง...สังเกต..ลักษณะตาที่หรุบต่ำมาก..นั่นก็เป็นเอกลัษณ์..ของ
พระพุทธรูปสุโขทัย..อยู่แล้ว...รูปหน้าที่เรียว..ไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบอยุธยาตอนต้นทั่วไป..
...ทุกอย่าง..ก็..มีที่มาจาก..พระพุทธรูปสุโขทัย..และ..ศิลปสุโขทัย..เป็นต้นตอทั้งสิ้น......
....................................................
...ดังนั้น..ผมจะจบเรื่องที่มา..ว่าสร้างสมัยไหน..ใครสร้าง..แค่นี้..เพราะได้ไขข้อสงสัยทั้งหมด
ไปแล้ว.........
...................................................
.....ในพิธีเบิกเนตร..และ..ปลุกเสก..หลวงพ่อพรประธานนั้น..สิ่งนึง..ที่เราไม่ทราบคือ..นอกเหนือ
จากนั้น....
..........เพราะที่ผมบอกไป..ว่าพระองค์ท่าน..สร้างให้เป็นเสมือน..ของตัวแทนพ่อ..ด้วย..จึงไม่แน่ใจ
ว่า..ได้อัญเชิญ..ดวงพระวิญญาณ..ของพ่อ..ให้มาสถิต...ณ พระประธาน..หรือไม่...
.....ถ้าศึกษาเรื่องพระบรมไตรโลกนาถกับพุทธศาสนา..แล้ว..จะเห็นได้ว่า..พระองค์ท่าน..ผูกพัน
และ..เข้าถึง..และทนุบำรุงศาสนา..ยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ใด..ของอยุธยา..และพระองค์ก็ศึกษาพระ
ธรรม..มาตลอด...
.......ปกติดวงพระวิญญาณ..ของ..พระมหากษัตริย์โดยทั่วไป..ก็ย่อมมีความพิเศษเหนือคนสามัญทั่วไป
อยู่แล้ว..เพราะเป็นของผู้มีบุญญธิการ..เป็นดวงวิญญาณชั้นสูง..ที่มีพลังสูงอยู่แล้ว..และเมื่อเป็น...
กษัตริย์ที่ปฏิบัติธรรมเป็นนิจ..ก็ย่อมต้องเสริม..พลัง..และ..ยกระดับชั้นของดวงพระวิญญาณสูงขึ้นไป
กว่า..กษัตริย์ทั่วไปอีก....ดังนั้น..แน่นอน..พลังนั้นย่อมสูงตามไปด้วย...

..........................

.........ให้สังเกตโครงหน้า...ลักษณะ..เปลือกตาที่กว้างมาก..ตาหรุบต่ำมาก...
............ของหลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร...ก็มีเค้าที่..คล้ายคลึง..และ..
ออกแนวเดียวกัน...กับหลวงพ่อพระประธาน....

...............ต่อตอนหน้า....................

 

สวัสดีครับพี่ modpong

ยังติดตามอ่านอยู่ตลอดนะครับ ยิ่งมาเฉียดๆ ประวัติอยุธยานี่ยิ่งชอบกับจริตของผมเลย ผมอ่านไทยรบพม่าของกรมพระยาดำรงฯ และอีกหลายๆ เล่มของนักประพันธ์ นักประวัติศาสตร์ท่านอื่น อ่านแล้วสนุกเหมือนอ่านนิยาย เวลาจินตนาการแล้วเหมือนนั่งดูหนัง สนุกดี

ส่วนวัดหน้าพระเมรุ ไปบ่อยอยู่ อย่างน้อยก็ปีละ 2-3 ครั้ง แม้จะเคยดูและศึกษามาระดับหนึ่ง แต่พอมาอ่านบทความของพี่ คงจะทำให้การไปกราบพระคราวหน้ามีความหมายและความสนุกมากขึ้นครับ

ขอบคุณครับสำหรับทุกสิ่งที่พี่ทำให้กับคนในครอบครัว "ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน"

 

..................................
..ขอบคุณน้องมากที่ชมมา..ถูกต้อง..ประวัติศาสตร์..เป็นเรื่องสนุก..ยิ่งประวัติศาสตร์ไทยยิ่งสนุก..และ..สนุกที่สุดคือประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา....ซึ่งจริงๆแล้ว..มั่วมาก..คลุมเครือ..
นี่แหละ..ตัวการสำคัญทำให้สนุก...
....กว่าครึ่ง..ไม่มีความมั่นใจ..เป็นข้อสันนิษฐาน..จากการรวบรวมข้อมูล..หลายๆด้าน...เอา....
...อย่างที่พี่บอกไป..เอาเล่มโน้น..มาชนเล่มนี้..
..หาเอาที่คล้ายๆกัน...แล้วมาเขียนประวัติศาสตร์กรุงศรีฯ...แล้วจะมาบังคับให้เชื่อตามนั้น...
ตอนเราเด็ก..ไม่รู้เรื่องก็จำไป..พอโตก็เริ่มสงสัย..เอ้..ทำไมมันเป็นยังงั้นวะ...พออายุเลย ๕๐ เริ่มค้นคว้าใหม่เพราะประสพการณ์ชีวิตเราสูงขึ้น..อาศัยหลักการรูปแบบการวิเคราะห์..ของตัวเอง..คราวนี้..เราก็เขียนประวัติศาสตร์กรุงศรีฯ
..ของเราเองมั่ง.....
....จะไปเอาอาร้าย...แค่..พระเจ้าอู่ทองจริงๆ..มาจากไหน..เป็นใคร..ลูกใคร..ก็ยังไม่มีข้อยืนยัน...นี่จุดเริ่มเลยนะ...............
.......อาณาจักรอยุธยา..ยังไม่เริ่มเลย...หลวงโต..วัดพนัญเชิง..โผล่มาได้ยังไง..ก่อนสร้างกรุง..ยี่สิบกว่าปี...คนสร้างไม่ใช่ชาวบ้านแน่..
ใครจะมีปัญญา..ความสามารถ..กำลังเงิน..ที่จะทำขนาดนั้น..ถ้าไม่ใช่..กษัตริย์ที่มีอาณาจักรที่มั่นคงแล้ว..ใกล้แถวนั้นมีใคร..เขมร..ไม่ใช่แน่..
..อาณาจักรสุวรรณภูมิ..เหรอ...แล้วทำไมไม่ไปสร้างที่บ้านตัวเอง..มาสร้างที่นี่ทำไม......
.....................
...ไทยรบพม่า...ของกรมฯดำรงฯ..ลองไปถามนักประวัติศาสตร์พม่าดูซิ..มันก็หัวเราะ..บอกจริงแค่ครึ่งเดียว...ก็ของใครของมัน..เราก็ทราบอยู่..แต่หลายๆเรื่องก็ดูไม่เข้าท่า..ท่านก็คงแต่งเข้าข้างตัวเองด้วย...
......................
...ยิ่งของพระเจ้าปราสาททอง..ก็เล่าไปแล้ว..
....คนชนะคือเจ้า...คนแพ้คือโจร...
..THE WINNER TAKE IT ALL...
......................
...พระชัยราชา..ก็ไม่ต่างจาก..พระเจ้าปราสาททองเท่าไหร่.....
.......................
..ขุนวรวงศาธิราชกับ..ท้าวศรีสุดาจันทร์..เลวขนาดนั้นจริงรึเปล่า..หรือ..เหตุการณ์บังคับ..
...หรือ..โดนใส่ร้าย..โดยผู้ชนะ..
..............
...หรือ..พระเจ้าอู่ทองเดิม..อยู่กับ..ขุนหลวงของสุวรรณภูมิ..เจ้าทางสุพรรณ..เขาลงทุนออกทุนให้..มาสร้างเมืองอยุธยา..แล้วมาหักหลัง..งาบซะเอง..แล้วตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่แทน..อาศัยกำลังเดิม..ของทางสุพรรณ.....
................
..มีอีกเยอะ...เถียงกันอีกเป็นร้อยๆปี..ก็ไม่มีทางจบ...

 

............
...แล้วประวัติศาสตร์..หลังกรุงแตก..จนถึงยุค ร.๑..เชื่อได้แค่ไหน..
........ร.๑ ดีดลูกคิดรางแก้วอยู่แม่กลอง...ไม่ยอมเหนื่อยฟรี..ส่งน้องชายไปแทน..
...รอจนมั่นใจ..ว่าก๊กนี้..ชนะแน่..ถึงจะร่วมมือด้วย....
.......น้องชาย..ผลงานก็ดีตลอด..ยศสูงกว่าพี่ชาย..ไปๆมาๆยศเป็นรอง
.............น้องชายที่อยู่เคียงข้างพี่ชายมาตลอด..ลูกน้องก็ชาญศึกกว่า..
...........อยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกับพี่..อยู่ดีๆ..มีสาเหตุ..ที่ไม่สมเหตุสมผล..
.............โดนใส่ร้ายว่า..เป็นกบฏ................
................ลูกหลาน..ก็โดนหาว่า..เป็นกบฏอีก..ทั้งที่ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว..
..........ใครจะไปโง่ทำ...โดนแบบเดียว..กับ..ลูกหลานพระเจ้าตาก..
.............ใครเขียนประวัติศาสตร์..............
....THE WINNER TAKE IT ALL..........
........ชนะเป็นเจ้า...แพ้เป็นโจร......

 

....เรามาดู..ประวัติศาสตร์จีนมั่ง.....
...."ไคเภ็ก"..ยุคเริ่มต้น..ราชวงศ์จีน..นุ่งห่มหนังสัตว์..และ..เหาะได้
.............................
...พอมาถึง..สามก๊ก..ก็มีคนแปลกๆ..เข้ามาร่วม..
.......รูปร่างสูงใหญ่ สูงราวห้าศอก หูยานถึงบ่า มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังหยก ปากแดงดังชาด ตาชำเลืองเห็นถึงใบหู.........
.......มีร่างกายกำยำ สูง 6 ศอก หนวดยาว 1 ศอก หน้าแดงก่ำ มีอาวุธคือง้าวมังกรเขียวหนัก 82 ชั่ง

...คนแรก..ใครก็รู้ว่าเป็นเล่าปี..ต่อให้มันหล่อยังไง
(ถ้ามาขอลูกสาวผม..ยังไงผมก็ไม่ยกให้มันแน่..เพราะผมจะคาดเดาว่า..
หลานตัวเอง..จะมีสภาพแบบไหน..ไม่ออก)
...ลองวาดรูปตาม..ลักษณะจริงๆ..มันคือ แอลเลี่ยน..มนุษย์ต่างดาวชัดๆ...
.........แล้วไอ่ที่ว่า.." ...ตาชำเลืองถึงใบหู.."..นี่มันมี ๓ นัย นะครับ...
...คือนอกจากไอ้นี่..หูจะยาว..พอๆกับ..ลา..แล้ว..ใบหูยังกว้างมาก..และ..โค้งไป
ข้างหน้า..จนเวลาชำเลืองตา..แล้วเห็น..หู..ตัวเองได้...
........หรือ........
....ตาไอ้เล่าปี่..นี่..มันต้องโปน..หรือ..ถลนออกมานอกเบ้า..อย่างน้อยก็..มากว่า ๑ นิ้ว.....หรือ...
....ตามัน..ไม่อยู่..ตรงหน้าเหมือนคนอื่น..แต่ไปอยู่ข้างๆคล้ายๆ..ม้า...ซึ่ง..สอดคลอง
กับ.."..คิ้วจรดใบหู.."..นั่นเอง...
........................
....คนที่สองแน่นอน..คือ..กวนอู..สูง ๖ ศอก...ผมตีเอาอย่างกดราคาเต็มที่..
๑ ศอก..กดราคาให้เป็น ๔๐ เซนติเมตร.....
.....แสดงว่า..สูง ๒ เมตร ๔๐ เซนติเมตร..ก็ยังไม่แปลก..ก็สุูงกว่า..เหยาหมิง..หน่อยนึง...แต่ปัญหา..คือ..พาหนะของแก....
.........ม้าเซกเทาว์..ม้าเหงื่อโลหิต..ซึ่งนักประวัติสาสตร์จีน..ยืนยันแล้วว่า..
คือ..ม้าสายพันธุ์ที่มองโกลใช้..ซึ่งมีความสูง..พอๆกับ..ม้าแกลบ..บ้านเรา..
....ขนาดนักรบมองโกลเตี้ยๆ..เวลาขี่..เท้ายังห่างจากพื้น..ไม่เกิน ๑ ศอก..
....แล้ว..ท่านกวนอู..ขี่ม้าเตี้ยแบบนี้..ได้ยังไง..หรือ..เวลาขี่..ต้องพับขาด้วย
...แต่มันจะคล่องแคล่วยังไง..เพราะคนนะ..ตัวโตกว่า..ม้าอีก...
...หรือ..เวลาสู้เอา..ขาลงเหยีบพื้น..แล้วเอาขา..คล่อมตัวม้า..หรือ..หนีบเอวม้าไว้..
..เพราะเวลากวัดแกว่ง..ง้าวมังกรเขียว ๘ ศอก ๘๒ ชั่งแล้ว..ม้าเผลอตกใจ..
เตลิดออกจากใต้หว่างขา..แล้ว..อาจโดนลูกหลงของง้าวตัวเองได้..
...พอตัดหัวศัตรูเสร็จ..แล้วก็พับขาขึ้น..แบบเดิม..แล้วปล่อยม้าวิ่ง...
...............................
...สรุป..แม่-ตอแหล..ยิ่งกว่า..พี่ไทยอีก..

 

ได้ความรู้มากเลยครับอา สนุก อ่านเพลินเลยครับ

 

แต่สามก๊กอ่านหนุกดีนะครับคุณอา แต่ก็โม้ดังว่าจริงๆ อิอิ

 

สวัสดีครับ พี่ Modpong และพี่น้องทุกท่านครับ
ติดตามอ่านกระทู้ย้อนหลัง สลับกัน ครับมองภาพสามก๊กน้ำหนักตัว และอาวุธ เสื้อเกราะหนักเท่าไหร่ ความคล่องตัวในการรบ น่าคิดครับพี่ ติดตามครับ
ฮักแพง

 

............
...หวัดดี..น้องThong..หลานเขม..หลานสวนพลู..และ..น้องฮักแพง..
รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม....
.....................
...ต่อจากตอนที่แล้ว...
......................
.........................................................
.....หลายคนทราบ..หลายคนไม่ทราบ....ว่า...มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์..ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ..กัน..มาก
กว่าวัดทั่วๆไป...นอกจากหลวงพ่อพระประธาน...
...ยังมี
......พระคันทราราฐ..หินเขียว..ยุคทราวราวดี..อายุมากกว่า พันปี..มีคนกราบไหว้ขอพระกันมากมาย
..อยู่ในวิหารแยก..ออกไป...
.....หลวงพ่อขาว...พระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยอยุธยา..เป็นพระพุทธรูปที่หุ้มด้วยเงิน..ขาวจั้ว..
สมชื่อ...นี่ก็อยู่ใน..วิหารด้านหลัง..แยกส่วนตัวเช้นกัน..เช่นเดียวกัน..ว่าคงศักดิ์สิทธิ์แน่...
เพราะ..มีชาวบ้านไปกราบไหว้กันเยอะ....
.....ยังมี..เศียรหลวงพ่อหินทราย..ที่ถูกตัดมาจากไหน..ไม่ทราบ..ท่านคงเฮี้ยน..คนที่รับต่อไป..
หรือ..อาจจะไอ้คนที่ตัดเอง..ก็ไม่รู้...เอาไปแล้ว..คงเจอดี..ยังไม่ทันส่งขายออกนอก..
(..รูปแบบที่ตัดแบบนี้..แค่เศียรแบบนี้..เกือบทั้งหมด..ส่งออกเมืองนอก..ไม่ยุโรป..ก็...
อเมริกา...เรียกว่า..ตัดตามใบสั่ง..)..ต้องรีบเอามาทิ้งไว้ที่วัด..แต่ไหง..เป็นวัดนี้ก็ไม่ทราบ..
..หรือ..เพราะอยู่ใกล้ก็ไม่รู้..คนที่อ่านประวัติเรื่องนี้มา..อย่าไปเชื่อเลยครับ..ว่าไอ้คนที่เอา
มาไว้..ไม่มีเอี่ยว....
...ที่นี่..ไม่มีพระพุทธรูปศิล
.....ดันเอาไปวางไว้โคนเจดีย์รายทรงลังกา..ที่ผมเคยเอารูปไปลงในตอนก่อนหน้านี้..มาแล้ว...
...ก็คงนานแล้ว..ไม่ทราบว่า..เดิมต้นโพธิ์ขึ้นอยู่แล้วรึเปล่า..แต่รากมันยังไม่เยอะขนาดนี้...
...หรือ..ยังไม่ขึ้น..หรือ..รากมันยังลงมาไม่ถึง..(..ต้นโพธิ์นี่..มันไม่ได้งอกจากดิน..นะครับ..
มัน..งอกที่องค์เจดีย์..แล้วรากมันค่อยๆวิ่งลงมาหาดิน)..พอนานไป..รากมาถึง..ก็เลยหุ้มซะหนา
................อย่างงี้ละผมฟันธงเลยได้ว่า..ท่านเองศักดิสิทธิ์พอควร..เพราะ..ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริง..
ท่านคงไม่โดนตัดเศียร..แต่..เริ่มตั้งแต่..แผลงฤทธิ์..จนคนเก็บไว้..จะเอาไปขายต่อ..ขายไม่ได้
ต้องเอามาไว้วัด...แถมวางอยู่โคนเจดีย์....วางโล้นๆอยู่อย่างนั้นเอง....
...แล้วขอโทษ..วัดหน้าพระเมรุ..เป็นวัดนักท่องเทียว..ไม่มีรั้วกัน..เป็นเรื่องเป็นราว..เรียกง่ายๆ
เป็นวัดเปิด..ไม่ใช่แบบวัดเทพศิริน..ที่มีประตูใส่กุญแจ..กลางคืนเข้าไม่ได้....
....ใครๆก็ทราบว่า..อยุธยา..ขโมย..ขโจร..ชุมยิ่งกว่ายุง..มาเป็นร้อยปีแล้ว...มาวางแบบนี้ไม่
เหลือหรอกครับ..ยิ่งเป็นของยอดนิยมฝรั่งด้วย(เศียรพระพุทธรูปโบราณ)..ขายง่ายจะตาย..
..........คิดดู..ไม่มีไอ้หน้าไหน..ไปขโมยต่อได้..ท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น...จนรากโพธิ์..
มาหุ้มรอบ..ยังกะจัดงานศิลปะ...
....เพียงแต่ความศักสิทธิ์ท่าน..แค่ท่านไม่อยากไปอยู่ที่อื่นรึเปล่า..เอาตัวท่านรอดเอง..
ชาวบ้านมาขอไอ้โน่นไอ้นี่..แล้วสัมฤทธิ์ผลมากน้อยแค่ไหน..แต่เท่าที่เห็น..ก็มีคนไปไหว้กัน
แต่..ไม่มากเท่ากับ...หลวงพ่อขาว...และ..หลวงพ่อหินเขียว...
(กรณีนี้..มีอีกที่คล้ายกันที่วัดมหาธาตุ)
...นอกนั้น..ก็ยังมีพระพุทธรูปเก่าๆ..ที่มาอยู่ที่นี่ในภายหลังเพิ่มเติมอีก.....................
......................................
.......แต่ที่..ผมเอ่ยมาทั้งหมดนี่..มาทีหลังทั้งสิ้น..มาเริ่มตั้งแต่..สมัยรัชกาลที่๓..ที่ไปเอา..หลวง
พ่อหินเขียวมาไว้ที่นี่....ดังนั้นทุกองค์ที่เล่ามานี่..ไม่ได้อยู่ใน..เหตการณ์สำคัญ..ทั้งสองครั้ง..
.......คือ..พระเจ้าอลองพญา..ที่แส่เอง..ตั้งปืนใหญ่ที่ไหนไม่ตั้ง..มาตั้งในเขตวัด..แล้วก็เรียบร้อย
โรงเรียนสยาม..
...อีกอันคือ..เหตุการณ์ยาวเป็น หลายสิบปี...คือ..ตั้งแต่..กรุงแตก..พม่าเผาเมือง..แล้วต่อด้วย
..แขก..จีน..ไทย..ปล้น..ขุด..เผา..หลังกรุงแตก..จนถึง..ต้นรัตนโกสินทร์.....

...............

...หลวงพ่อหินเขียว..นั่งห้อยบาท..ในวิหารน้อย...
(..ขอบคุณภาพจาก cavallicasaesort.com)

..................

(ขอบคุณภาพจาก suvanai.files.wordpress.com)

........................

.....มาลบ..รูปเดิมผมทำไม..เปลี่ยนรูปก็ได้..นี่เป็นของศักดิ์สิทธิ์..ที่ชาวบ้านกราบไหว้กัน
..เขาปล่อยให้อยู่อย่างนี้..มีปัญหาอะไรก็บอก..ผมไม่ได้ลบหลู่อะไร..ผมเขียนเรื่อง..
วัดหน้าพระเมรุ..ผมก็เอาของศักดิ์สิทธิ์ที่นี่..ให้ผู้อ่านดู..ถ้ามาลบ..รูปนี้อีก..ผมจะเลิกเขียน
เลย..ถือว่า..ที่นี่ไม่ให้เกียรติผม...
(ขอบคุณภาพจาก holidaythai.COM)

.....................ต่อตอนหน้า.............................

 

เรื่องสามก้กนี่ ผมสงสัยมาตั้งแต่อ่านครั้งแรกแล้วครับ
ว่าตัวละครหลัก ทุกตัวนี่ ใช่มนุษย์ รึปล่าว ?
เพราะบุคลิกที่บรรยายมานี่ ห่างใกล และไม่สมส่วน
กับทางกายภาพเอามากๆเลยครับ ^^

ปล. เพิ่งเคยมีโอกาสชมรูป หลวงพ่อหินเขียว
ท่านสง่างามมากเลยครับ หวังว่าคงจะได้มีโอกาส
ได้ไปกราบองค์จริงท่านซักครั้ง ครับ

 

.....มาลบ..รูปเดิมผมทำไม..เปลี่ยนรูปก็ได้..นี่เป็นของศักดิ์สิทธิ์..ที่ชาวบ้านกราบไหว้กัน
..เขาปล่อยให้อยู่อย่างนี้..มีปัญหาอะไรก็บอก..ผมไม่ได้ลบหลู่อะไร..ผมเขียนเรื่อง..
วัดหน้าพระเมรุ..ผมก็เอาของศักดิ์สิทธิ์ที่นี่..ให้ผู้อ่านดู..ถ้ามาลบ..รูปนี้อีก..ผมจะเลิกเขียน
เลย..ถือว่า..ที่นี่ไม่ให้เกียรติผม...
(ขอบคุณภาพจาก holidaythai.COM)

 

ใครไปยุ่งหรือไปลบรูปหรือบทความของพี่modpong นี่
ถ้าเป็นเหตุขัดขัองทางเทคนิคก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นฝีมือของใครโดยเจตนาต้องขอตำหนิอย่างแรง ว่าเป็นการใช้วิจารณญาณอย่างชุ่ยมาก และต้องฟ้องไปถึงเว็บมาสเตอร์ด้วยว่าช่วตักเตือนหน่อย

 

ผมเป็นสมาชิกธรรมดา ไม่ใชพรีเมี่ยม ไม่ใช่บริจาคพิเศษ ไม่ค่อยได้โพสต์ ไม่มีกระทู้เป็นของตัวเอง แต่เพื่อยืนยันความเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ"พลังจิต" โปรดดูปีที่เป็นสมาชิก ก็คงจะพอมีสิทธิ์ในความเก๋าในบอร์ดที่เห็นความเป็นมาเป็นไปต่างๆในเว็บนี้ ที่จะขอวิจารณ์การลบรูปของพี่ modpong ในครั้งนี้

 

.........
.......................
...ไอ้เรื่องนี้..ไม่ใช่ขัดข้องทางเทคนิคแน่นอน..ขอยืนยัน....
..เพราะ..เข้ามาดู..หลังPOST..ไปแล้ว..หลายครั้ง..ก็ OK..แต่
พอจะปิดเครื่อง..เข้ามาดู..เมื่อคืน..อ้าวหายเฉยเลย...
.........................................
..หวัดดี..Orkarรุ่น๑...และ..น้องTHong..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม
.................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว......
...............................
...............................................................
..แต่ก่อนอื่น..ผมขออธิบายหลายคนที่ไม่เข้าใจว่า..หรือ..เข้าใจ..ช่วงเวลาผิด...
..เราเห็นที่..อยุธยา..นั้น..พระพุทธรูปหินทราย..ที่มีอายุไปถึงยุคอู่ทอง..และ..อยุธยาตอนต้น..
..ตลอดจนพระพุทธรูปปูนปั้น..ที่อยู่ติดกับเจดีย์..โบสถ์..ทั้งที่อยุธยา..สุโขทัย..ต่างๆ
...ถูกหั่นเศียร..หรือ..สกัดออกไปนั้น...มันเริ่มเกิดจริงๆ..เมื่อเริ่มมีฝรั่ง..เข้ามาวุ่นวาย..
ตั้งแต่..ปลาย ร.๔ จน..อัตราการทำลาย..มากมายขึ้น..ในสมัย รัชกาลที่๕ ..และ..สูงมาก..ใน
สมัยรัชกาลที่ ๖...ที่มาคือ..ความต้องการของ..ฝรั่งทั้งสิ้น...เมื่อเราได้เริ่มติดต่อต่างประเทศ
..ก็เริ่มมีตั้งแต่..ผู้หวังร้ายในคราบนักวิชาการ..พวกนี้ส่วนหนึ่งก็แอบทำด้วยตัวเอง..อีกส่วน
รับการติดต่อจากนายหน้า..ฝรั่งด้วยกัน...เพื่อเสาะหาวัตถุโบราณ..ที่ฝรั่งนิชมชมชอบ..เอาไว้
อวดโชว์..ทั้งที่เป็น..เอกชน..และ..พิพิธภัณฑ์..หอศิลป..ที่เป็นของรัฐ..ทั้งในยุโรป..และ..
อเมริกา..มันไม่สนว่า..จะหามาได้ทางไหน..ก็ขอให้มาได้ประดับ..ก็แล้วกันเป็นพอ..
ใบสั่งเหล่านี้..ก็ติดต่อผ่านนายหน้า..ซึ่งไปติดต่อตามนายหน้าในแต่ละภูมิภาคในเอเซีย
ทั้งหลายอีกที..ความหายนะ..เริ่มมาเยือนแหลมทอง..เมื่อฝรั่งเศษ..ได้ญวน..เขมร..บางส่วน
และ..ลาวบางส่วน..ซึ่ง..ก็เรียบร้อยกันถ้วนหน้า...
.......ขณะที่เมื่อ..ปลายรัชกาลที่ ๔ เราเริ่มจ้างฝรั่ง..มารับราชการ..พวกนี้ก็ไปทั่ว..ไม่ไปปล่าว
สำรวจข้อมูลไปด้วย...นายหน้าพวกนี้..เห็นช่องทางก็ติดต่อหาข้อมูลเรื่องโบราณสถาน..
โบราณวัตถุ..ว่าเป็นแบบไหน..มีอะไรบ้าง....ยิ่งบริเวณที่รกร้างมากๆ..อย่างอยุธยา...สุโขทัย
....ยังไม่มีใครเคยเข้าไป..หรือ..อิสานใต้..ที่มีปราสาทขอม..เยอะๆ....พวกนี้ก็รวบรวมข้อมูล
ไว้ก่อน..เมื่อเริ่มมีพ่อค้าฝรั่งเข้ามาปักหลักตั้งรกราก..มากขึ้น..และเป็นข้าราชการมากขึ้น
...มันก็ติดต่อ..แบ่งเปอร์เซนต์กัน..ฝรั่งที่อยู่ทางนี้..ก็เริ่มติดต่อ..กับพวกที่อยู่ในท้องถิ่น...
ทั้งข้าราชการ..ผู้มีอิทธิพล..ให้หาของให้ตามใบสั่ง..ตั้งแต่นั้น..ก็เริ่มขบวนการ..คนไทย..
แถวนั้น..เขามาเสนอเงินให้..ช่วยตัด..ช่วยขน..มันก็ไม่สนหรอกเอาเงินไว้..ก่อน...เวลาขน
ของผ่านทาง..ผ่านด่านก็แค่ติดสินบนนิดหน่อย..ก็ง่ายแล้ว..ทางอีสานใต้..ก็ขน..ออกข้าม
แดนไปทาง..เขมร...ทางภาคกลาง..ก็ขนมาลงเรือกลไฟได้เลย..ติดสินบนข้าราชการไทย
แค่นี้ก็จบ...ถ้าทางสุโขทัยขี้เกียจขนไกล..ก็ออกไปทางด่านที่ตากเข้าพม่า..ซึ่งตอนนั้น..
เป็นของอังกฤษแล้ว....ยิ่งตอนปลายร.๔ ต่อ ร.๕ นั้น..เราไม่ได้มาสนใจเรื่องประวัติศาสตร์
อะไร..เห็นๆ..มันก็เท่านั้น..และก็เป็นช่องทางหาเงิน..ใครก็ชอบ....
.....พอมาถึงยุครัชกาลที่ ๕ เริ่มปรับประเทศเป็นสากล..คราวนี้..ฝรั่งเต็มเมืองเลย..ไปมันทั่ว
...เริ่มทำถนน..ตัดทางรถไฟ...พร้อมๆกับที่..กรมพระยาดำรงเริ่มจ้างฝรั่งนักวิชาการ..ซึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วก็เป็น..ไอ้เห้ฝรั่งเศษ..มาสำรวจโบราณสถานต่างๆ..ไอ้พวกนี้มันทำมาหา
กิน..แบบนี้แฝงอยู่แล้ว..อยุธยา..อย่างงี้..โคราช..บุรีรัมย์..ศรีสระเกษ..สุรินทร์..ปราจีน..
..สุโขทัย..กำแพงเพชร..เหมือนยกพานถวาย..ให้พวกมันเลย.....ความสูญเสียยิ่งทวีมากขึ้น
..พอมายุครัชกาลที่๖..โอ้โหคราวนี้..แม่-จ้างตัดจ้างขน..กันสนุกสนาน..กรมพระยาดำรง
ท่านบุกเบิกการ..สำรวจทางประวัติสาสตร์..และ..บูรณะ..มากขึ้น..ก็ยิ่งไปกันใหญ่.....
.....ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่า....นั้น.งเพื่อให้เห็นว่า..ที่เราเห็นพระพุทธรูป..ไม่มีเศียร..ไม่มี
พระกร..นั้น..มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น..ภายหลังทั้งสิ้น..เพราะ..คนในภูมิภาคนี้..สมัยก่อน..
ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร..เราเอาแต่..ทอง..เครื่องประดับ..เพชรนิลจินดา..พระเครื่องยังไม่
มีใครเอาด้วยซ้ำ....
.........................................................................................
........ดังนั้น..มาถึงสมัย..รัชกาลที่๓..ก็ขอบอกได้เลย..ว่า..พระพุทธรูปที่อยู่ตามวัด..ยิ่งถ้า
ไม่ได้ปิดทอง..ไม่ว่า..จะเป็น สัมฤทธิ์..ปูน..หรือ..หินทราย..ก็มีสภาพเดิมทั้งนั้น..เว้นแต่
จะเสียหาย..เพราะ..ถูกเผา..หรือ..รื้อ..เนื่องจากขวางทางเข้าไปหาสมบัติ....
......เรื่องทีมา..ของหลวงพ่อหินเขียว..ที่ว่าขุดพบ..ในสมัยรัชกาลที่๓..ที่วัดมหาธาตุนั้น
น่าแปลกว่า..ปกติ..ขนาดพระพุทธรูปสวยๆอยู่ที่ไกลๆ..ก็โดนขนเข้า..ไปพระนครทั้งนั้น
..ไปดูที่..ระเบียงโบสถ์วัดเบญจฯ...วัดโพธิ์...และ..หลวงพ่ออีกไม่รู้ตั้งกี่องค์..ที่เป็นพระ
ประธาน..อยู่ตามโบสถ์ต่างๆ..ของวัดต่างๆในพระนคร-ธนบุรีนั้น..ส่วนใหญ่..ขนมาจากที่อื่น
ทั้งนั้น..จากเมืองเหนือ..จากอยุธยา..เต็มไปหมด..(รวมทั้งหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรด้วย)
.......แต่นี่..ยิ่งพิเศษ..กว่าองค์ไหนๆ..เป็นหินเขียว..สมบูรณ์..สวย..สง่างาม...ใหญ่...ก็แค่เอา
ใส่เรือ..ล่องลงไปแป๊บเดียว..ก็ถึงพระนครแล้ว...ไปประดิษฐาน..ที่วัดหลวงที่ไหน..ก็คงมี
แต่คนชื่นชม..มากราบไหว้...แต่ไหงไม่เอาไป..กลับเอามาไว้ที่นี่..นี่เรียกว่าผิดธรรมดา..
..อย่างยิ่ง.........

.........................

.........................


......ดูกันชัดๆ..อีกทีว่า..ท่านสวยงามขนาดไหน...นี่..หินแกะ..นะครับ..ไม่ใช่..ใช้แบบหล่อ...ดูความละเอียดของลวดลาย..แล้วกัน...

.............................ต่อตอนหน้า..............................

 

มารอรับความรู้ต่อครับ

 

ต้องขอบอกว่าแกะสลักได้สวยมากๆครับคุณอา...และดูขลังมากๆครับ วันนี้ผมได้พาครอบครัวไปไหว้ท่านมาด้วย หากได้ไปอยุธยาทุกครั้งผมต้องไปไหว้วัดหน้าพระเมรุเสมอครับ ขอบพระคุณ คุณอามากๆครับสำหรับความรู้ดีๆที่มอบให้ทุกวันครับ

 

คนที่ลบรูปของพี่ modpong ควรให้เหตุผลด้วยว่าลบเพราะเหตุผลใด ผมไม่เห็นว่าพี่เขาจะทำผิดอะไรตรงไหน .กระทูนี้ถือเป็นกระทู้ที่มีคุณค่าให้ความรู้กับสมาชิก โดยไม่หวังผลตอบแทน. ตัวคนที่ลบรูปนั้นเคยให้ความรู้ที่มีประโยชน์กับสมาชิกบ้างหรือไม่.

 

จำได้ว่าพี่modpong เคยบอกว่าแผงรัศมีหลังพระเศียรของหลวงพ่อศิลาเขียวมีการบูรณะ(ซ่อมแซม)มาก่อน