ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............................................
    ..ดีมากหลานรัก..ไหว้..ต้องไหว้ให้ครบนะ..สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้..เยอะมาก..เหมือนมีพลังดูด..ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปรวมตัวกันอยู่ที่นี่..แล้วอะไรคือพลังนั้น..รอต่อไปเรื่อยๆ...
     
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...............
    ..หวัดดี..โอ้ตตี้..หลานสวนพลู..และ..เฉียวฟงหลานรัก
    ..รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม
    ...................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    .....................
    ..........................................................
    .....พวกเราคงทราบว่า..ทำไม..อาคารแถวที่ลุ่มภาคกลางตอนใต้..เช่น..อยุธยา..นนทบุรี..และไล่ลงไป
    ..ทำไม..เราปลูกสร้างอาคาร..ต้องตอกเข็ม..ทำไมแถบ..แพร่..สุโขทัย..ไม่ต้องตอกเข็ม..ก็อย่างที่ผม
    บอกไปตอนที่แล้ว..คือ..ความสามารถในการรับน้ำหนัก..ของดิน..ต่างกัน..ดินแถบนี้ทรุดตัวง่าย
    และเร็วกว่า..แถบโน้น..เมื่อเริ่มทรุดตัว..แนวน้ำหนักเดิม..ไม่ได้อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางฐาน...
    มันจะทำลักษณะการทรุดมันไม่ทรุดลงไปตรงๆ..มันจะเอียงไปด้วย..พอยิ่งเอียง..ส่วนโครงสร้าง
    ที่มีปัญหา..ที่ผมบอกไปคราวที่แล้ว..คือ..ก้านฉัตร..ที่มีลักษณะ"กิ่ว"..ก็ยิ่งมีปัญหาใหญ่..เพราะ
    แนวสูนย์กลางน้ำหนักจากส่วนบนที่ลงมา..ที่ไม่ลงมาตรงๆอยู่แล้ว..ยิ่งหนีห่างจากเดิมเข้าไปใหญ่
    ..จนทำให้เกิดการ...รั้ง..ขึ้นในส่วนของก้านฉัตร(คือ..นอกจะจะมีแรงกดแล้ว..มันก็จะเริ่มมีแรงดึง
    ส่วนทิศทางกับ..แรงกดขึ้นด้วย..แรงดึง..ก็นึกถึง..แรงที่จะให้วัตถุนั้น..แยกตัวออกจากกัน..หรือ..
    ถ้ามันติดกับ..วัตถุอื่น..บางครั้งเราก็เรียกว่า..แรงถอน)
    ....เมื่อแนวน้ำหนัก..ตกออกไปแนวโครงสร้างตัวของมัน
    ..........แต่..ก้านฉัตร..มันไม่เหมือน..คันธนู..ที่เวลาเราจะเอาสายไปคล้องที่ปลายคันธนู..เราต้องโก่ง
    คันลงมา..แต่คันธนู..มันเหนียวมันรับแรงดึงที่เกิดจากรั้งสายเอียงๆได้..แม้แนวน้ำหนัก..จะออกไป
    นอกแนวโครงสร้างของมัน(..แนวน้ำหนักคือ..ทิศทางที่เรารั้งเชือกสายธนู)...ผลคือ..คันธนูก็จะโค้ง
    ...แต่ก้านฉัตร..มันเป็นแค่..อิฐก่อ..มันรับได้แต่..น้ำหนักที่กดทับได้อย่างเดียว..รับแรงดึงได้น้อย..
    ..มันโค้ง..ไม่ได้..
    .........ผลก็คือ...การแตกร้าว..ที่..ส่วนต่อ..ของ..ก้านฉัตร..กับ..บัวฝาละมี(ด้านบน)...หรือ..บางที..
    อาจจะเป็น..ก้านฉัตร..กับ..บัลลังก์(ด้านล่าง)..แล้วแต่อันไหน..จะเริ่มก่อน..พอเริ่มแล้ว..รอยร้าว
    มันจะค่อยๆลาม..ลึกขึ้นเรื่อย..ตามเวลาที่ผ่านไป..แถมด้วย..พายุ..ที่ทำให้เกิดแรงลมมาเสริม...
    ผลก็คือ..พอถึงจุดนึง..มันก็จะหักโค่นลงมา...
    ........เราจะเห็นได้ว่า..เจดีย์..ทรงลังกาขนาดใหญ่..ที่เหลืออยู่ในอยุธยา...ส่วนบน..ก็จะหักเกือบทั้ง
    หมด..ไอ้ที่จะเหลือ..ก็มีเป็นส่วนน้อย
    มันก็จะเป้นขนาดเล็ก..อย่างเช่นที่..วัดหน้าพระเมรุ..นี่..เพราะ..ของที่เล็กกว่า
    เตี้ยกว่า..ความคลาดเคลื่อนมันก็น้อยกว่าไปด้วย..เจดีย์ได้ศูนย์มากกว่า..แถมทรุดน้อยกว่า...
    ......เรื่องนี้..มันต้องเกิดมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว..ผมคิดว่า..แต่ก่อน..เจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่น่าจะ
    มีมากกว่านี้อีก..สร้างไปแค่..สามสิบ..สี่สิบปี..อาการออกมา..คือ..หักที่ตำแหน่งก้านฉัตร..กันทั้ง
    สิ้น..ซ่อมแล้วก็เป็นอีก..บางวัดก็คงรื้อไปเลย..
    ...วิธีแก้อย่างแรก..และ..ก็พอได้ผล..และยังเหลือมาบ้างในปัจจุบัน..
    ..คือ..ทำสว่นก้านฉัตรให้..หนามากกว่ารูปแบบเดิม..ทำให้..แข็งแรงขึ้น..และ
    รับการเอียงได้มากขึ้น.เพราะแนวน้ำหนักด้านบนแม้เอียงแล้ว..ก็ยังไม่ออกไปนอก
    ตัวก้านฉัตร..แรงดึงหรือการรั้ง..จึงเกิดขึ้นน้อยมาก..ยอดก็จะไม่หัก...
    ........ช่างสมัยโน้น..ก็คง..มาร่วมวงปรึกษา..หารือกัน..หรือไม่แน่..อาจมีใครเห็นปัญหาแล้ว..หา
    ทางแก้เอง..ได้สำเร็จ..เวลาผ่านไป..ก็โอเค..ช่างคนอื่นมาวิเคราะห์แล้ว..ว่า..อ๋อ..มันช่วยได้..
    เพราะอย่างนี้เอง..ก็เลยทำตามกันต่อๆมา..และ..เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป....
    ....อันนี้..นะเกิดเพราะ..เขาพยายามยึดรูปแบบหลัก..ของเดิมไว้..เพราะคงเห็นว่ารูปแบบเดิม
    มันสวยดี...เพราะจริงๆถ้าเปลี่ยนรูแแบบไปเลย..ก็คงไม่มีปัญหา..อะไร....
    .........มันเลยเกิด..เจดีย์ที่มองปุ๊บ..แล้วดูว่า..แตกต่างไป..แต่จริงๆนั้น..ก็ยังใช้เค้าโครงจาก
    ทรงลังกาของสุโขทัย..อยู่ดี...นั่นเกิดเพราะ..โครงสร้างที่มาเสริมขึ้น..เพื่อการนี้..
    ....โดยเฉพาะ......

    ...............[​IMG]

    ....นี่คือ..เจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัย..ที่วัดธรรมิกราช..วัดนี้สร้างสมัยอยุธยาตอนต้นเช่นกัน...
    ...จะเห็นว่า..ยอดเจดีย์..ขาดช่วง..ก้านฉัตร..กับ..บัลลังก์..แล้วคงลงมาฟาด..องค์ระฆังส่วนบน..ชำรุดไปบางส่วนด้วย....
    (ขอบคุณภาพจาก trekkingthai.com)

    ...............[​IMG]

    ........เจดีย์วัดจักวรรดิ์(วัดเจ้ามอญ..นอกเกาะเมือง)..อันนี้..แสดงให้เห็นถึง..
    วิธีแก้ไขปัญหาแบบแรก..คือ..เพิ่มความหนา..ของก้านฉัตร..ให้มันใหญ่กว่า..
    สัดส่วนรูปแบบเดิม...ปรากฏว่า..ไปหักที่..ปลียอด..แทน...
    (ขอบภาพจาก...สก.ชวนเที่ยว )

    ............ Y8313557-61.jpg

    ....ตัวอย่างความเสียหายที่เกิด..อย่างที่ผมอธิบายไว้..อย่างชัดเจน..ที่วัดมเหยงค์..
    อันนี้..เป็นส่วนของเจดีย์รุ่นแรกของวัด..ที่ใช้สัดส่วนตามรูปแบบของสุโขทัย..จะเห็นว่า
    ส่วนของ..ก้านฉัตร..จะเล็กมาก..เล็กกว่า..กว่า..ปล้องไฉน..ที่สูงขึ้นไปสี่-ห้าชั้นอีก...
    ..การหัก..ก็จะเป็นที่ส่วนต่อของ..ก้านฉัตร..กับ..บัลลังก์..คล้ายกับ..ที่วัดธรรมิกราช..
    ..แต่โชคดี..กรมศิลปเขาปล่อยไว้ให้ดู..(ที่นี่มี..เจดีย์หลายยุคนะครับ..แต่ที่เห็นส่วนที่พัง
    นี้คือรุ่นแรก..)..อยากรู้ว่าใหญ่ขนาดไหน..ก็ดูที่ภาพล่างก็แล้วกัน..

    .............................. images?q=tbn:ANd9GcQJk5I9f0VoRfpQBpEya328cIdAkk_5PjokU1koHpMvQpqITZ3qOQ.jpg

    ..ขอบคุณภาพบน..จาก pantip.com..และภาพล่างจาก..mis-krirk3108blogspot.com


    ......................................ต่อตอนหน้า.............................




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2014
  3. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ผมว่าปลียอด นี่รักษายากครับ น่าจะเพราะ ยุคก่อน ไม่ได้มีการใช้แกนกลาง เพียงแต่ก่ออิฐกันขึ้นมา หากจะทำแกน ก็คงยากครับคุณอา
     
  4. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ได้ความรู้มากครับอา

    ขอบคุณครับ
     
  5. เดินตามพระ

    เดินตามพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +1,595
    สวัสดีครับคุณอา modpong..และสมาชิกทุกท่าน.มาติดตามอ่านต่อครับ..
    เพิ่งจะทราบเรื่องรายละเอียดในส่วนของเจดีย์..ชื่อขององค์ประกอบเจดีย์แต่ละส่วนก็เพิ่งเคยได้รู้.ขอบคุณทุกข้อมูลด้วยครับคุณอา..
     
  6. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ใช่ครับ เป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ และถ่ายทอด แบบไม่คิดมูลค่าอะไรเลย หาคนที่มีจิตเมตตาแบบพี่ modpong ได้ยากครับในเว็บพลังจิต ไม่ต้องไปหา
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................................
    ...ดีมากหลานอา..พูดเรื่องนี้ขึ้นมา...ความจริงแล้ว..เขาก็มีการทำกัน..เหมือนกันสมัยก่อน..เพราะเคย..มีการพบ..แกนเหล็กปลียอดที่หล่นลงมา..ด้วย..การทำจริงๆไม่ยากหรอก..ก็แค่เสียบแกนเหล็ก..ลงไปใน..ปล้องไฉนส่วนบนที่เว้นรูตรงกลางไว้..แล้วก็กรอกปูนหุ้ม..แล้วจากนั้น..ก็ทำปลียอดโดย..ตัดอิฐให้สั้นลง..แล้วก็ก่อรอบๆ..ถ้าเป็นเจดีย์ขนาดไม่ใหญ่..เขาก็ก่อปูนเฉยๆ..เทลงในแบบ.....
    ...แต่ปัญหาคือ...ถ้าหยาดน้ำค้าง..กระเทาะออก..หรือ..ปูนส่วนบน..กระเทาะออก..หรือร้าว.ซึ่งแค่ไม่กี่สิบปี..หรือ..ไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำร้าว..คราวนี้..เป็นเรื่องเลย..เพราะ..เมื่อฝนตก..น้ำเข้าถึงเหล็ก..หรือ..เหล็กถูกเปิดออก..ก็เรียบร้อย..กลายเป็นการ"ล่อฟ้าผ่า"..เพราะสมัยก่อนไม่ได้มีการคิดค้น..เรื่องสายล่อฟ้าไว้..
    ..ขนาดพวกที่ไม่มีเหล็กเสียบ..ฟ้ายังชอบผ่า..
    เจอเหล็กเสียบโผล่..ก็ยิ่งชอบใหญ่...ดังนั้นเจดีย์ขนาดใหญ่..และ..สูง..ปลียอดมีขนาดใหญ่..สมัยโน้น..เขาจึงไม่เสียบเหล็กกัน...เพราะกลัวยอดพังก่อนกำหนด...
    ..........เพิ่มเติมให้.........
    ....จำเรื่อง..การทำ"ดาบฟ้าฟื้น" ของขุนแผนได้มั้ย...ซึ่งแต่งในสมัย ร.๒..ตอนนั้น..บ้านเรา
    ยังไม่รู้จัก...การทำ"สายล่อฟ้า"เพราะ..มันเป็นเทคโนโลยีฝรั่ง...
    ...๑ ในเหล็กที่ทำนั้น..นอกจาก.."เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม"..รวมถึง..เหล็กอาถรรพณ์
    ..อย่างอื่น...ก็มี.."เหล็กยอดเจดีย์"..อยู่ด้วย...นั่นก็คือ..เหล็กแกน..ของ..ปลียอด..นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2014
  8. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ครับคุณอา..อีกองค์ที่ผมจะพลาดไม่ได้เลยต้องไปกราบ องค์หลวงพ่อศิลา พันปี ส่วนตัวผมชอบไปกราบองค์นี้นะครับดูขลังมากครับ
     
  9. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    บ้านที่ลพบุรี เทพื้น พ่อผมใช้ ไม้ไผ่ มาสานแทนเหล็กครับคุณอา แต่ถ้าทำแกน ไม่รู้ว่าจะใช้ไม้ไผ่แทนได้มั้ย เพราะว่ามันแนวตั้ง ตอนนี้ พื้นยังไม่มีการร้าวเหมือนบ้านอื่นเลยครับ ไม้ไผ่ แน่นจริงๆ แต่ผมว่ามันคงเหมาะกับปูนยุคนี้สำหรับไม้ไผ่ ถ้าปูนยุคก่อนคงไม่ได้แน่ๆ
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........
    ..ตั้งแต่สมัยอาเรียน..วิศวะ..เราก็เคยทำ..พื้นคอนครีตเสริมไม้ไผ่กัน...
    ..แล้ว..ก็ทดสอบการโก่ง..และ..การรับแรง..ทางวิศวกรรมมาแล้ว..สามารถนำมาใช้ได้ดี..แต่..ผู้นำมาใช้ต้องรู้จักเตรียมการก่อน..เพราะส่วนใหญ่แล้ว..ไม้ไผ่..มันจะมี..ไข่มอดติดอยู่ด้วย...ไข่มอด..มันมีเกราะหุ้ม..ลำพังเอาไปแช่น้ำอย่างเดียว..
    มันยังขจัดปัญหา..ไม่ได้..แต่ที่จะขจัดได้ดีคือ..เอามา..ย่างไฟ..ทำขาตั้ง..เอา..เอาไม้ไผ่ที่ผ่าเตรียมได้ขนาดแล้ว..มาวาง..แล้วก่อกองไฟ..อยู่ข้างล่าง..แล้วก็ค่อยๆย่าง..พลิกไปมา..อย่าให้ถึงกับ..ใหม้..เรียกว่า..ให้เนื้อไม้ร้อนระอุ..ทั่วถึง..จะทำให้ไข่มอดฝ่อได้..แล้วการเทต้องให้แน่ใจว่า..คอนครีตต้องหุ้มไม้ไผ่..หนาไม่น้อยกว่า ๑ นิ้ว..ไม่งั้น..ถ้าบางจุดที่คอนครีต..มีรูพรุนต่อไปถึงไม่ไผ่..ปลวกก็จะมาล่อ..ต่อ..
     
  11. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ขอบพระคุณครับคุณอา เชื่อว่า หลายๆคนได้ความรู้กันเยอะเลยครับ
     
  12. ฮักแพง

    ฮักแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +1,523
    สวัสดีครับพี่ modpong และพี่น้องทุกท่าน
    นอกจากความรู้เรื่องพระและประวัติศาสตร์ ได้ความรู้เรื่องไม้ไผ่ มอด ปลวก ขอบพระคุณครับ สำหรับพระสิวลีเขาอ้อ ขอบพระคุณครับพี่ ติดตามครับ
    ฮักแพง
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................
    ...หวัดดี..หลานสวนพลู..หลานเขม..หลานเดิน..กำธรน้องรัก..เฉียวฟงหลานรัก
    ..และ..น้องฮักแพง..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม...
    .......................................................
    ...เอ้อ..ผมลืมไป..วิธีแก้ไขปัญหานี้..นอกเหนือ..จาก..ทำก้านฉัตรให้มันอ้วนแล้ว....
    ..เรายังพบอีกหลายเจดีย์..ที่..แทนที่จะทำให้..ก้านฉัตร..ก็เปลี่ยนมาลดขนาดของ..
    ..บัวฝาละมี(อยู่ติดกับ..ก้านฉัตร..ข้างบน)..แล้ว..ก็ไล่..ลดขนาด..ปล้องไฉน..ตลอกจน
    ปลียอด..หยาดน้ำค้าง..ตามกันไป..ซึ่งผมเห็นแล้ว..ผมว่า..แบบที่แล้วมันก็ตู้ๆ..ดูไม่สวย
    ..ไอ้อันหลังนี่หนักกว่า..มันเหมือน..กะปิ..ที่เขาพูนไว้สูงๆ(คล้ายๆกะลา..มะพร้าวคว่ำ..
    แต่ออกแนว..สูงกว่า...เด็กรุ่นใหม่..ที่ไม่เคยเห็นอย่าว่ากัน..ไปถามพ่อ..ถามแม่เอา..)..แล้ว
    เอา..เทียนไปปัก..ที่ส่วนยอด...ผมไม่แปลกใจ..ว่า..ทำไมมีไม่เยอะ...เพราะช่างหรือเจ้าอาวาส
    ..แม้กระทั่ง.งผู้สร้างวัดในยุคนั้น..ก็คงรับไม่ได้เช่นกัน......
    .....หลักการ..ก็แนวเดียวกัน..เพราะ..ถ้าลดขนาดด้านบน..โอกาศที่แนวน้ำหนักจากด้านบน
    จะออกนอกแนวก้านฉัตร..ก็จะน้อยลงด้วย..แถมน้ำหนักด้านบน.งก็จะลดลงได้อีกทางหนึ่ง
    ..แต่ข้อเสีย..นอกจากไม่สวยคือ..มันชลูดเกินไป..ทำให้เจดีย์แบบนี้..ที่เหลืออยู่..ก็เหลือแค่
    ..ปล้องไฉน..ส่วน.งปลียอด..และ..หยาดน้ำค้างก็เรียบร้อยหมด..........
    .................................................................
    .......กลับมาเรื่องโครงสร้างเสริม..เรื่องการแก้ไขกันแบบ..ที่ว่า..ผมว่าน่าจะใช้กันมานานพอสมควรเลย..จนเข้ามาสมัยอยุธยาตอนกลาง..ช่วงต้นๆ...
    ......คนไทย..ช่างไทย..นะมันสมองหัวคิดเป็นเลิศอยู่แล้วเรื่องดัดแปลง..จากประสพการณ์ด้าน
    ช่างของผม..เป็น ๔๐ ปีนี่..คิดว่า..ไม่เป็นรองใครในโลกเลย...โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา
    ให้ลุล่วงนี่....
    .....ผมว่า..คนเป็นช่างในยุคนั้น..ก็คงดูๆแล้ว..แก้เปลี่ยน..แปลงสัดส่วนเจดีย์..โดยเฉพาะ
    ส่วนบน..นี่..มันทำให้สัดส่วนทางศิลป์..ไม่ลงตัว..(ส่วน..ขนาดองค์ระฆัง..และ..บัวต่างๆ
    ที่เป็นส่วนฐานใต้ลงมา..นั้นมีการดัดแปลง..ให้ผอมขึ้น..ก็มีขึ้นแล้ว..)...
    ....ช่างสุโขทัย..ออกสัดส่วนนี้มา..ลงตัวสวยงาม..รับกันดี...
    .....ผมว่า..คนที่ริเริ่มคิด..คงอยากจะพยายาม..คงสัดส่วนของ..บัวฝาละมี..ปล้องไฉน..ปลียอด
    ไว้ก่อน...ช่างเขาก็ต้องศึกษาพฤติกรรมอยู่แล้ว..ว่า..การที่มันหักโค่น..เพราะ..แนวน้ำหนัก
    เมื่อทรุดเอียง..มันหนีออกนอก..ส่วนที่เป็นก้านฉัตร..เพราะ..ก้านฉัตร..มันเล็ก...
    ....ทั้งๆที่..น้ำหนักส่วนนึง..ก็ยังถ่ายลง..ที่ก้านฉัตรอยู่...ถ้าแค่..เอาอะไร..ไม่ต้องใหญ่มาก
    มาค้ำที่ปลายขอบ..ของ..บัวฝาละมี(ด้านบน..ติดกับ..ก้านฉัตร)..ก็น่าจะพอ..ไม่จำเป็น..ต้อง
    ทำให้ตัวก้านฉัตร..มันใหญ่หนาขึ้นมา..เกือบเท่ากับ..บัวฝาละมี..
    ....ทำให้มันเป็น..เสาค้ำ..ด้านล่างติดกับ..บัลลังก์..ด้านบน..ติดกับ..บัวฝาละมี..พอด้านบนเอียง
    ..น้ำหนัก..ที่หนีออกนอกแนว..ก้านฉัตร..ก็จะถูกถ่าย..จาก..บัวฝาละมี..ลงสู่..บัลลังก์ได้โดย
    ตรง..ไม่ต้องผ่าน..ก้านฉัตร..บัลลังก์นั้น..กว้างใหญ่กว่า..บัวฝาละมีอีก...
    .....โดยเสาเล็กๆนี้..ก็วางเรียง..กระจายไป..โดยให้มี..ระห่างเท่าๆกัน..ที่ใกล้ขอบ..บัวฝาละมี
    ไล่..ไปตาม..เส้นรอบวง..ของมัน..(..ดูรูปตอนที่แล้ว..ที่เห็น..ยอดเจดีย์ที่ตกลงมา..ที่วัดมเหยงค์
    ..เห็น..ก้านฉัตร..ชัดเจน..และที่ต่อกับมัน..คือ..บัวฝาละมี..ซึ่ง..ใหญ่กว่า..ก้านฉัตร..เป็นเท่าตัว
    ..............และ..ไอ้เสาค้ำนี่..มันก็แก้ปัญหา..ทางศิลป์..ได้ดี..เพราะ..เนื่องจาก..เมื่อไปแล้ว..มัน
    ยังดูโปร่ง..เพราะ..ระยะห่างระหว่างเสา..พอควร..เราสามารถ..เห็น..ก้านฉัตร..ที่อยู่ส่วนในได้
    ..แล้ว..ความรู้สึกใหม่..แปลกออกไป..และ..กลายเป็นรูปแบบ..เจดีย์แบบใหม่..ที่เป็นเอกลักษณ์
    ของอยุธยาไปเลย.....
    ............ไอ้เสาที่ว่านี่คือ..............."เสาหาน"...............
    ......และทราบหรือไม่ว่า....."เสาหาน"..ทีใหญ่ที่สุด..ของประเทศไทย..อยู่ที่ไหน...ก็อยู่ที่บ้าน
    ของ..กำธรน้องรัก..ของผมนี่เอง....
    ....ครับ..เสาหานที่ใหญ่ที่สุดในโลก..และ..ของไทย..คือ..เสาหานที่องค์..พระปฐมเจดีย์.....

    ............ Y8313557-56.jpg

    ...นี่ไงครับ..หนึ่งในเจดีย์..ในวัดมเหยงคณ์...แก้ไขด้วยการลดขนาด..บัวฝาละมี..ปล้องไฉน
    ..และ..ปลียอด...รูปร่างมันเลยออกมา..ตลก....
    (ขอบคุณภาพจาก..PANTIP.COM)

    ..............[​IMG]

    ...เจดีย์สมัยอยุธยาตอนกลาง...ที่..วัดดุสิตาราม..อยุธยา...สังเกต.."เสาหาน"..ยุคต้นๆ..จะเล็ก..และ..ห่าง....เพราะเขา..พยายาม..ทำให้มันโปร่ง..เท่าที่ทำได้
    ..จากรูป..น่าจะมี..แค่ ๖ อันเอง......
    (ขอบคุณภาพจาก สก.ชวนเที่ยว)

    ..................... Y8313557-61.jpg

    ....เอาภาพเดิมที่วัดมเหยงคณ์..มาให้ดูอีกที..แต่..คราวนี้ดูที่เจดีย์ซ้ายมือ...
    ...จะเห็น..เสาหาน..ที่..ยึดติดกับ..บัวฝาละมี..กับ..บัลลังก์.....

    ..................................ต่อตอนหน้า....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2014
  14. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    กะปิกองภูเขา ยังมีขายอยู่ตามต่างจังหวัดครับคุณอา มีหลายสีสันด้วยกัน พร้อมกับภูเขาพริกแกง ตลาดลพบุรียังมีให้เห็นอยู่ครับ แต่ กทม. ผมไม่ค่อยจะเห็นแล้ว อิอิ
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................................................
    ...ไอ้ที่อาเขียนไปยังงั้น..ก็เพราะ..เห็นจากพวกใกล้ๆตัว..อายุไม่เกิน ๓๐ อยู่ในกทม.และ ปริมณฑล..ชีวิตแบบสบาย..พ่อแม่..เลี้ยงดี..กินอาหารตามห้าง..มนุษย์เงินเดือน..เข้าแต่..ซุปเปอร์มาเก็ต..กับ..เซ่เว่น..ถึงแม้ตอนเด็กๆ..ไปช่วยแม่ซื้อของจ่ายตลาด..ก็ไปจ่ายตลาดที่..ซุปเปอร์มาเก็ต..โตขึ้นมา..ทำงานลูกเดียว..กินอาหาร..ก็ตามห้างอีก...เด็กรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้..เวลาคุยกับ..มันไม่รู้จักอะไรเลย..พูดถึงอะไร..มันก็ไม่รู้จัก..ไม่เคยเห็น..ไปเที่ยวต่างจังหวัด..ไปรถทัวร์..แล้วก็ตรงดิ่งไปที่ท่องเที่ยวเลย..แล้วมันจะไปเห็นอะไร..ยิ่งพวกที่เวลาดูทีวี..ดูแต่..รายการเพลง..กับ..หนัง..ข่าว(บ้าง)...
    .....................
    ..เลยกลายเป็นว่า..ทำให้อาเลย..ไม่ค่อยอยากคุยกับเด็ก..เบื่ออธิบาย...พอมันสงสัย..อาก็บอก..ไปเปิดหาดูในเน็ตเอา..แล้วกัน
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............
    .......ให้ข้อสังเกตหน่อย..ลองกลับไปดูรูป..เจดีย์สมัยอยุธยาตอนต้น
    ทั้งหลาย..ที่..ผมpostมาก่อนหน้านี้ให้หมด..สังเกตที่ฐานบัวต่างๆใต้องค์
    ระฆัง..ลงมา...จะเห็นว่า..แนวระดับของเส้นแบ่ง..ต่างๆที่ขนานกับ..
    ...ไม่มีอันไหน..ตรงเลย..เป็นคลื่นขึ้นๆลงๆ..แต่มันก็ไม่แตกร้าวอะไร...
    .........นี่คือ..ข้อดีมากๆของ..การก่ออิฐแบบไม่สอปูน..ใช้ยางไม้เป็นตัวเชื่อม...
    ........เพราะอะไรหรือครับ..มันมีELASTIC..หรือ..มันมีความยืดหยุ่น...
    ....ไม่แข็งตัวแบบใช้ปูนก่อ...จึงทำให้มัน..ไม่แตกร้าว...ดูเจดีย์สมัยต้นรัตนโกสินทร์..หรือ..อยุธยาตอนปลายซิ...ส่วนใหญ่..พังแตกร้าวหมด..เพราะพอเริ่มทรุดหน่อย..มันก็ไม่ทรุดตาม..แข็งโป้ก..ผลสู้แรงไม่ไหว..ก็ร้าว..และ..พัง..ในที่สุด...
     
  17. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ตามเรื่อย ๆ ตามอัตภาพครับอ้ายมด
    ใกล้ปิดเทอมยิ่งงานหลายครับ
    ฮ้อนหลายครับผม รักษาสุขภาพนำเด้อครับอ้าย
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................
    ....หวัดดี..หลานสวนพลู..และ..พลศิริน้องรัก..รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม
    ..........................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ......................
    ...........................................................................................
    .....ในรูปตอนที่แล้ว...เสาหาน..ของเจดีย์วัดมเหยงค์นั้น..ถ้าสังเกตซักหน่อย..จะเห็นว่า...
    ..ไม่ใด้..สร้างมาพร้อมกับ..ตัวเจดีย์..มีร่องรอยอยู่..แถมสีปูนก็แตกต่าง.....
    .....ก็คาดว่า..เมื่อเห็นกันว่า..ไอ้เสาหานนี่..ทำงานได้ดี..ก็จึง..เอาไปเสริมเข้าไป..ซึ่งก็ทำได้
    ไม่ยาก..เพราะมีที่..พออยู่แล้ว..ยิ่งเจดีย์ที่ทรงแบบเดิมคือ..ก้านฉัตรไม่ใหญ่..ก็แค่..ก่ออิฐเป็น
    เสา..แต่ละต้น..เชื่อมติด..บัลลังก์..กับ..บัวฝาละมี..แค่นี้..ก็..เสร็จแล้ว...
    ....แต่มีกลุ่มเจดีย์ที่..สำคัญของอยุธยา..ที่..มีการขยายก้านฉัตร..เพื่อเพิ่มความแข็งแรงอยู่แล้ว
    ..ซึ่งรูปแบบเดิม..ตั้งแต่ต้น..ไม่น่าจะมี..เสาหาน..อีกอย่างการมีเสาหานในยุคนั้น..คาดว่า..น่า
    จะยังไม่เกิด...นั่นคือกลุ่มเจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ที่ทุกคนรู้จักดี...ที่เริ่มสร้างในสมัยพระรามาธิบดี
    ที่ ๒ ยุคเดียวกับ..วัดหน้าพระเมรุ..ถ้าเข้าไปจริงๆ..ที่ก้านฉัตรนั้น..อย่างใหญ่เลย..เพราะเจดีย์นี้
    มีขนาดใหญ่..ถ้ามองตามแบบช่างนั้น..เห็นได้ชัดว่า..การขยายก้านฉัตรนั้น..ก็เพียงพอแล้ว..
    ยิ่งมอง..ระยะ..จากริมก้านฉัตร..ถึง..ขอบของบัวฝาละมี..กับ..ระยะจากขอบก้านฉ้ตรถึงริม
    ขอบ..ของบัลลังก์..ก็ชัดเจน..ไม่ได้เผื่อที่ไว้...พอใส่..เสาหานเข้าไปทีหลัง..จากรูปจะเห็นได้ชัด
    เลย..ว่า..เสาหานนั้น..เกือบชิดกับ..ก้านฉัตรเลย...
    .....แต่เนื่องจาก..ความสำคัญของหมู่เจดีย์นี้..เป็นของกษัตริย์..และ..มีฝังอัฐิของกษัตริย์..
    ..และวัดนี้..ก็สำคัญแบบเดียวกับ..วัดพระแก้ว..คือ..จริงๆ..อยู่ในเขตพระราชวัง..และไม่มี
    พระจำพรรษาอยู่...........
    ...จึง..มีการซ่อมแซม..ปรับปรุง..มาตลอด..ก็เลย..เมื่อ..เสาหานได้รับความนิยม..ในภายหลัง
    ..เมื่อมีการ..ซ่อมแซม..ปรับปรุง..ในยุคต่อๆมา..ก็จึง..มีการเพิ่ม..เสาหาน..เข้าไปเพื่อ..เสริมความ
    แข็งแรง..และ..สวยงามขึ้น...เพราะถ้าดูสภาพเจดีย์สามองค์นี้เมื่อก่อนการบูรณะใหญ่..เมื่อช่วง
    ๒๕ พุทธศตวรรษ..แล้ว..ผมดูจาก..สภาพเดิมแล้ว..พระเจดีย์ที่อายุประมาณ ๕๐๐ ปี..ไม่น่าจะดู
    สภาพดีได้อย่างนั้น...
    ...................................................................
    ....ผมยกเรื่อง..ศิลปอยุธยาตอนต้น..ที่..แตกต่างจาก..สมัยกลางของพระเจ้า..ปราสาททอง..นี่ความ
    จริง..มีอีกเยอะ..เช่น.เรื่อง..เสมา..และ..อย่างอื่นอีก..แต่เอาแค่นี้พอก่อน..เพราะเพียงให้เห็นว่า
    ....การที่มีคนอ้างว่า..วัดหน้าพระเมรุ..สร้างสมัยพระเจ้าปราสาททอง..นี่ชุ่ยมาก....เพราะความที่
    เพียงแค่..เหตุผลเพียงแค่..พระพุทธรูปทรงเครื่องที่วัดไชยวัฒนาราม..ลักษณะ..เหมือน..หลวงพ่อ
    พระประธาน วัดหน้าพระเมรุเท่านั้นเอง....ยกย่องพระเจ้าปราสาททองเว่อร์ไปหน่อย...
    .........ท่านแม้จะทำคุณให้ประเทศเยอะ..แต่ส่วนจริงๆก็คือเพื่อความยิ่งใหญ่ของท่าน..และ..ราช
    วงศ์ของท่านต่อมาเป็นหลัก...คนอ่านประวัติศาสตร์ให้ถึงแก่น..ไม่ผิวเผิน..จะรู้ว่า..ที่ผมพูดนั้น
    ไม่ผิดความจริง..การก้าวขึ้นมา..ของจุดนี้ของท่าน....
    ....ดังนั้น..อย่าแปลกใจครับว่า....ทำไม..วัดไชยวัฒนาราม..มีผังวัด..ที่ไม่เหมือนใคร..แล้วท่านก็
    แค่บอกว่า..สร้างให้แม่ท่าน..ไม่หรอกครับ..ท่านสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ความยิ่งใหญ่ของตัวเอง
    ..เพราะท่าน..ก็..เอาผังรูปแบบ..มาจากนครวัด...คือ..ผังจักรวาล...เจดีย์ประธาน..คือ..เขาไกรลาศ
    ก็เปรียบเหมือนตัวท่าน..เจดีย์..รอบๆ..ก็เปรียบเหมือน..อาณาจักรทั้งหลาย..รอบๆที่ตอนนั้น..
    ที่ยอมสยบให้ท่าน.......พระพุทธรูปทรงเครื่อง..ที่..อยู่ตามมุข..ของเจดีย์รอบๆนั้น..ก็เปรียบได้กับ
    ..กษัตริย์..เจ้าแคว้นทุกคน..ที่ต้อง..มาห้อมล้อม..ขึ้นอยู่ในพระราชอำนาจของท่าน......
    ......ศิลปในสมัยของท่าน..ท่านก็เอายุคเก่าปนยุคใหม่..เอาของเขมร..มาแจมด้วย..พยายามสร้างสรร
    ขึ้นเป็นรูปแบบของตัวเอง.....แต่ก็ทำให้..วัดไชยวัฒนาราม..กลายเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ..ของอยุธยา
    ได้...........
    ...............เรื่องที่..หลายคนข้องใจว่า..หลวงพ่อพระประธาน..ทำไม..หน้าตาไม่เหมือน..พระในยุค
    รุ่นราวคราวเดียวกัน..และแถมทำให้คนเข้าใจผิดว่า..เป็นยุคของพระเจ้าปราสาททองนั้น
    ..มันมีที่มา..เป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ..ผมวิเคราะห์จากความน่าจะเป็น..และ..หลักฐานวัตถุ..ต่างๆ
    ..เรื่องราวที่มาที่เกี่ยวข้องแล้ว..ก็ไม่แปลกใจ..หรอกครับ....
    ............................
    ..ผมเชื่อว่า..บางท่านยังข้องใจ..อยู่บ้างที่ผมอ้างเรื่อง..สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ เป็นผู้สร้างวัด
    หน้าพระเมรุ..โดยอาศัยหลักฐานประกอบความน่าจะเป็น...
    ..แต่ในประวัติศาสตร์..ทำไม..ไม่ได้มีระบุ....
    .....ก็เพราะประวัติศาสตร์..บ้านเรามันไม่สมบูรณ์..เพราะมันถูกเผาไปหมด..เราต้องใช้...
    พงศาวดาร..หรือ..ประวัติ..กี่เล่ม..กี่อันมาประกอบกัน..คนเขียนเป็น..ชาวบ้านก็มี(คำให้การชาว
    เก่า)..หรือไม่ก็..ข้าราชการธรรมดาชั้นล่าง(พันจันทุมาศ)...ฝรั่งก็มี(..วันวลิต..กับ..บาทหลวง)..
    ..เรียกว่า..มั่วไปหมด..กะเว้า..กะแหว่ง....มีเรื่องอีกหลายเรื่อง..ที่เราไม่รู้...ถ้ามันมีประวัติพงศาวดาร
    ตัวจริงที่ครบถ้วนสมบูรณ์..เหมือนชาติอื่นเขา...ผมก็คงไม่ต้องมานั่งสันนิษฐานให้เมื่อย...
    ....................................
    .........มันต้องเริ่มมาจาก..ทำไม..ถึงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ สร้างหลวงพ่อให้เป็นปางทรงเครื่อง
    หรือที่เรียกว่า..ปางปราบท้าวมหาชมพู..ก่อน....
    .........มันมีนัยอยู่ในตัวของมันเองครับ...............

    ................. 800px-Wat_Phra_Si_Sanphet.jpg

    ...ลองดูภาพชัดๆ..จะเห็นได้เลยว่า..ก้านฉัตรนั้นถูกขยายออกมามากอยู่แล้ว....
    ถ้าเป็นจริง..ก็ไม่ต้อง..มีเสาหานก็ได้..เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่..แถมเสาหานที่มี
    ก็แนบติดกับ..ก้านฉัตรเลย..ผมจึงสันนิษฐานว่า..เสาหานนี่..มาสร้างเสริมเอาภายหลัง
    (ขอบคุณ ภาพจาก วิกิพีเดีย)


    O11064706-0.jpg

    .............ภาพนี้..เจ้าของภาพบอกว่าถ่ายเมื่อปี ๒๔๙๘ (หลังผมเกิด ๑ปี)..ก่อนที่เขาจะทำการบูรณะใหญ่..เสร็จในปี ๒๕๐๐
    ..จะเห็นได้ชัดเจนว่า..ตัวสภาพเจดีย์..ก็เรียกว่ายังอยู่ดี..ทั้งๆที่อายุประมาณเกือบ ๕๐๐ ปี...ถ้าไม่มีการบูรณะมาตลอด..คงไม่อยู่ในสภาพนี้แน่..ซึ่งช่วยทำให้เห็นว่า
    ..เป็นไปได้ที่..มีการสร้างเสาหานเพิ่มเติมภายหลัง....
    (ดูเจดีย์องค์ใกล้..เห็น..เสาหาน..อยู่แค่ ๑ ต้น....แถมองค์ไกล..ไม่เห็น..เสาหาน..ด้วยซ้ำ)
    (ขอบคุณ ภาพจาก คุณเจียวด้าย PANTIP.COM)

    .................ต่อตอนหน้า.........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2014
  19. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    รอติดตามครับผม
    เรื่องพระเจ้าประสาททองนี่
    ถ้าศึกษากัน แบบ ลงลึกในรายละเอียด
    ก็จะพบความจริง เบื้องหลังการก้าวขึ้นมาของท่าน
    ล้วนเป็นไป เพื่อตัวท่าน และราชวงศ์ของท่าน
    เป็นหลัก ตามที่คุณอาว่ามาจริงๆครับผม
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............................................
    ..สมแล้วที่..เป็นขาเก่า..ขาแก่..กัน...อาเองไม่อยากลงรายละเอียดหรอก..มันนอกเรื่อง..เดี๋ยวจะไปกันใหญ่..ใครอยากรู้..ต้องเจาะเลย..ห้ามทำแบบครึ่งๆกลางๆ..เพราะจะสับสน....
    .....ไม่งั้น..จะมีนักประวัติศาสตร์..ตั้งฉายาว่า..
    ..."โจโฉเมืองไทย"..เรอะ..แล้วเรื่องในประวัติศาสตร์แบบธรรมดาๆนะ..ใครเขียน..ก็ลูกหลานท่าน..ลูกน้องท่านทั้งนั้น...ต้องเอาข้อมูลอื่นๆจากหลายทางมาประกอบ..ถึงพอจะเข้าใจว่า..อะไรเป็นอะไร...เอาแค่..ข้ออ้างว่า...
    ...ตัวท่านเป็น..ลูกนอกสาระบบ..ของ..พระเอกาทศรถ..นะ..ก็ไม่มีหลักฐานอะไร..ยืนยันได้..คงเป็นข้ออ้าง..เพื่อการใหญ่..ข้างหน้า..มากกว่า..
    ... ๑. เหี้ยม
    ๒. โหด
    ๓. เจ้าเล่ห์ เพทุบาย ยอกย้อน
    ๔. หักหลัง
    ....เรียกว่า..ครบถ้วนกระบวนความ..ตามแบบฉบับ..โจโฉ..
    ...แต่อาว่า..โจโฉ..ยังดีกว่า..ที่ไม่ได้ปิดบังที่มาเรื่องชาติกำเนิด..ชัดเจน...
    ....ของท่านนี่...จริงๆ..เป็นลูกใคร..ก็ไม่ทราบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...