ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. ฮักแพง

    ฮักแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +1,523
    ติดตามครับพี่ สร้อยสังวาลย์ ปัจจุบันเหมือนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ผมชอบโบราณคดีประวัติศาสตร์ เสียดายแต่ผมเป็นคนต่างจังหวัด ถ้าเรียนศิลปกรได้ก็ดี แค่นี้ผมพอครับ เมื่อเด็กพกหนังสติ๊กเหมือนพี่เลย คิดเรื่องพกหนังสติกมีสุขครับ
    ขอบพระคุณครับ
    ฮักแพง
     
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...............
    ..หวัดดี..ฮักแพง..หลานApril..หลานสวนพลู..Orkarรุ่น๑..และ..เฉียวฟงหลานรัก
    ..รวมถึงทุกคนในครอบครัวผม...
    ..................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ..................
    ......................................................
    ....๕. หนักหนากว่า...พระประธาน..ก็คือ..โบสถ์...
    ..เนื่องจาก..องค์ประประธาน..ใหญ่โต..และ..ที่สำคัญ..สูงมาก..เลยทำให้..พระอุโบสถ..ที่วัด
    หน้าพระเมรุฯนี้..จึง..เป็น..พระอุโบสถที่..ใหญ่ที่สุดในอยุธยา..สูงที่สุด..ของอยุธยา..
    ....คนกรุงเทพ..ที่ไม่เคยไป..วัดหน้าพระเมรุฯ..แต่เคยไปวัดสุทัศน์..แล้วตะลึงกับ..ความใหญ่โต
    ของ..โบสถ์วัดสุทัศน์..แล้ว..ยังเป็นรอง..ที่นี่ครับ...เรียกว่า..ใหญ่ที่สุดในประเทศ..เลยมั้ง...
    ...พระประธานในโบสถ์..ก็น่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศ..ก็เลยพลอยทำให้โบสถ์..ใหญ่ยักษ์ไปด้วย
    ..ใครเคนไปนั่งในโบสถ์..แล้วแหงนขึ้นไปดูความสวยงามของ..ลวดลายบนฝ้า..ละก็..คอตั้งบ่า
    เลย..สูงมาก....แต่..สวยงามจริงๆ..แต่อย่าเผลอดูนาน..ท่าจะคอเคล็ดได้....
    ....แล้วผม..ถามว่า..ถ้าไม่สร้างโดย..กษัตริย์...ใครจะทำแบบนี้ได้..........
    ....๖. เป็นโบสถ์...ที่..ออกแบบไว้..สำหรับ..กษัตริย์..โดยเฉพาะ....ถ้าท่านย้อนกลับ..ไปดูภาพ
    ด้านหน้าโบสถ์...จะเห็นประตูเข้าโบสถ์..๓ ประตู...โดยมี..ประตูเล็กด้านข้าง..สองประตู...
    สำหรับ..คนทั่วไปและ..ข้าราชบริพาร..แต่..ประตูกลางด้านหน้า..นั้นใหญ่กว่า
    ..ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็น..ประตู..สำหรับมหากษัตริย์(พระรามาธิบดีที่๒)เดินทางเข้าไป
    ..พร้อมข้าราชบริพารขุนนาง..ซึ่งจำเป็นจะต้องเผื่อที่ไว้ให้กว้าง..เพราะพระองค์ระหว่าง
    พระราชดำเนิน..ก็ต้องมีหมาดเล็กซ้ายขวาประกบอยู่แล้ว..(..พระองค์คงต้องมาไหว้..
    หลวงพ่อพระประธานบ่อยแน่..เพราะอะไร..ผมสันนิษฐานไว้..จะบอกในภายหลัง..)
    ..ตามข้อมูล..บอกไว้ว่า..มีการปรับปรุงประตูนี้..ในภายหลัง..กลายเป็นช่องสีหบัญชรแทน
    ไม่ได้ใช้..เพื่อเป็นทางเดินเข้าไป..จึงมีการวางพระพุทธรูปยืน..มา
    ประดิษฐานไว้แทน...คนทั่วไปที่เข้าไปไหว้พระ..ก็เข้ากัน..แต่ประตูเล็กด้านข้าง....
    ....อย่างงี้..ถ้าไม่ใช่กษัตริย์สร้าง..แล้วใครจะสร้าง...
    ...................................
    ...ความจริง..ยังมีสิ่งบ่งบอกอีก..เล็กๆน้อยๆ..แต่เอาแค่นี้..ชัดๆ....
    นี่คือ..เหตุผลของผม..ผมจึงเขียนตอนต้น..ไว้ว่า..รับผิดชอบและดำเนินการก่อสร้าง..โดย..
    ..องค์อินทร....(ผู้สร้างจริงคือ..สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒..เจ้าของดำริห์..และ..เจ้าของเงิน
    ที่..เอามาก่อสร้าง.....โดยมอบให้..องค์อินทร..ดำเนินการ..)
    .....ไม่ใช่....
    ...สร้างโดย..องค์อินทร...
    ....................................
    ..ส่วนชื่อ..ของพระประธานนั้น..ยาวมาก...
    ...พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ.....
    ...ซึ่งต่อไป.งผมขอเรียกว่า.."หลวงพ่อพระประธาน"..พอ..สั้นๆ....
    (..ซึ่งจะต้องเรื่องเกี่ยวกับท่านอีมากมาย..ภายหลัง...)
    .......................................
    ...ไอ้ที่ผมงงมาก..และ..ไม่เข้าใจ..ว่า..วิกิพิเดีย..มันยังไม่แก้ไข..ข้อมูล..สักที...
    ..ที่บอกว่า...วัดและพระประธาน...สร้างสมัย..พระเจ้าปราสาททอง....ก่อนหน้าโน้น..เป็นปี
    ผมก็เคยบอกอย่างงี้มาแล้ว....เพราะ..ศิลป..ของ..โบสถ์..นั้น..มันแจ่มชัดมาก..นักประวัติศาสตร์
    ก็ยอมรับกัน...ว่าเป็น..ศิลปกรรมในอยุธยาตอนต้นช่วงปลาย..ห่างยุคจากพระเจ้าปราสาททอง..
    มากกว่า ๑๐๐ ปี...ที่เป็นยุคกลางช่วงกลาง....มันเอาใครไม่ทราบ..มาเขียนข้อมูล..ให้คนสับสน
    ..เด็กๆ..เปิดหาข้อมูล..ส่วนใหญ่..ก็จะเปิดใน..วิกิพิเดียก่อน..ห่วยแตกจริงๆ....
    .....เรื่องนี้..เพื่อให้เข้าใจ..สำหรับตัวโบสถ์..ผมจะอธิบายอีกที..ส่วนหลวงพ่อพระประทาน..
    บอกไปแล้ว..ว่าที่นี่แหละ..คือต้นแบบที่..พระเจ้าปราสาททอง..เอาไปทำ..ที่วัดไชยวัฒนาราม

    .........[​IMG]

    ....ดูภาพ..แล้วนึกถึงความอลังการ..สำหรับคนที่ไม่เคยไป..สำหรับคนที่เคยไปแล้ว
    ..ก็รำลึกถึง..ความหลังไป....
    (..ขอบคุณภาพจาก tour2siam.com..)

    ..........................ต่อตอนหน้า...........................
     
  3. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    สวัสดีครับคุณอา สำหรับที่ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี เราสามารถแก้ไขได้ครับ แต่ว่าถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก ระบบก็จะแสดง IP ของผู้แก้ไขอย่างเปิดเผย แต่ถ้าเราเป็นสมาชิก IP ของเราก็จะถูกปกปิดไว้ครับ

    น่าจะเป็นเรื่องดีอย่างที่คุณอาว่า ถ้าหากเราได้ทำการชำระใน wikipedia ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องครับ
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............................................
    ...ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่..คนอื่นไป..อาไม่สน..คนรุ่นหลัง..ควรจะดำเนินการ..เผื่อให้คนรุ่นอนาคต..
    ...ไอ้เรื่อง..จ่ายเงินวิกิพิเดีย..นี่ไม่เห็นด้วยอย่างแรง..เมื่อตัวเอง..พยายามผลักดัน..ให้เป็นมาตรฐาน..คนอ่านเยอะแยะ..ใครๆก็มาหาข้อมูล..ยิ่ง..นักศึกษา..นักเรียน..ทั่วโลก..ตั้งเท่าไหร่..ไอ้พวกครูอาจารย์..ก็ให้ทำรายงาน..ค้นโน่น..ค้นนี่ตลอด..ไอ้เด็กพวกนี้..จะเอาเงินที่ไหน..ไม่ต้องดูไทย..ประเทศที่ยากจน..มีมากกว่าเราเยอะ..เขาก็อยากได้..ความรู้..แต่เขาไม่มีเงิน..ดูในอาฟริกาซิ...ปีนึง..อาจต้องเข้าไป..มากกว่าพันครั้ง...เราเวลาจะพิจารณาอะไรที่เป็น..สากล..ต้องดูภาครวมด้วย...
    .........ก็อัด..โฆษณาเข้าไปซิ..เอาที่..เรท..มันเด็กดูได้..ขี้คร้าน..คนอยากมาโฆษณาจะตาย...
    เอามัน..ทั้ง..บน..ล่าง..ซ้าย..ขวา..แต่อย่าให้มันเป็น..ภาพเคลื่อนไหว..เพราะ..มันจะทำลายสมาธิ...เว็บอื่นที่คล้ายๆกัน..เขาก็ทำ..ไม่มีทางเจ๊งอยู่แล้ว..แค่นี้ วิกิ..มันก็เป็นระดับท็อปอยู่แล้ว
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............
    ...หวัดดี..หมูดำ(หรือ..หมู่ดำ..ก็ช่างเถอะ)..และทุกคนในครอบครัวผม........
    ................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ...............
    .....................................................................
    ......จริงๆแล้ว..ศิลปอยุธยายุคต้น..นี่..แยกจากยุคกลางและปลาย..ได้ง่าย..และ..ชัดเจน...
    ....โดยเฉพาะ...ส่วนที่เป็นโครงสร้าง..เช่น..ตัวโบสถ์..หรือ..วิหาร....หรือ..แม้แต่เจดีย์..
    ...ส่วนของ..โครงสร้างที่ว่า..นี้..ได้รับอิทธิพล..มาจาก..สุโขทัย..อีกที..
    ..ช่องแสงและลม...
    ..........สำหรับ..โบสถ์วัดหน้าพระเมรุฯ..นี้..ไม่มีหน้าต่าง..นะครับ....นี่คือสิ่งที่บอกได้ชัดเจน
    ว่า..ไม่ใช่ยุคของพระเจ้าปราสาททอง....
    ........เราจะได้รับ..ลม..และ..แสง...มาจากช่องแคบๆ..ที่เรียงตัวติดๆกัน..เกิดจากการเว้นช่อง
    ไว้ตอนก่ออิฐผนัง...(ดูรูป)
    ..........นี่คือ..รูปแบบ..โครงสร้าง..พวกวิหาร..หรือ..โบสถ์..ของอยุธยายุคต้น....มีหลายแห่ง
    ในอยุธยา..และ..นอกจังหวัดออกไป..อย่างที่..วิหารพระศรีอารย์ วัดไลย์ ท่าวุ้ง ลพบุรี
    ......ต้นแบบอย่าง..ก็สามารถไปดูได้ที่..วิหารวัดนางพญา..ที่ศรีสัชชนาลัย..สุโขทัย...
    (ไม่ใช่พิษณุโลกนะครับ...ที่นั่นไม่เหลืออะไรแล้ว)..
    ......................................................
    ...เสา.....
    ไม่ว่า..จะเป็น..เสาพาไล(เสารับชายคาปีกนก)...หรือ..เสาใดๆ...จะทำเป็นทรง
    แปดเหลี่ยม..ทั้งสิ้น....ทั้งที่วัดหน้าพระเมรุฯ..และ..อีกหลายวัดในอยุธยา...ที่อยู่ใน..
    อยุธยายุคต้น..ก็..จะใช้..เสาหน้าตัดเป็น..แปดเหลี่ยมด้านเท่า......
    .....................................................
    ...การก่ออิฐ...
    .เราเรียกว่า.."ก่ออิฐแบบไม่สอปูน"..คือ..เวลาไปดูซากอาคาร..ไม่ว่า..โบสถ์
    หรือ..เจดีย์...คุณจะสังเกตได้เลยว่า...อิฐที่เรียงกันนั้น..มันแนบสนิทกันไปเลย...และ
    ไม่มี..ส่วนของปูนเป็นตัวเชื่อม..แม้แต่น้อย..(..เจดีย์ราย ๓ องค์..ที่วัดนี้..จะเห็นได้อย่าง
    ชัดเจน)....เพราะอะไร..หรือครับ.....
    ............เพราะ..เขาใช้.."ยางไม้"....เป็นสารที่ใช้ยึดอิฐ..เข้าไว้ด้วยกันแทน..ปูน.....
    ...ยางไม้...ก็มีทั้ง...ยางจาก..ต้นโพธิ์..ต้นไทร..(...นักเลงจับนกเขา..จะรู้จักดี...เพราะเขาจะ
    ใช้..ยางโพธิ์..ทางไว้ที่ปลายไม้..ที่ยึดติดกับ..ลำไม้ไผ่ยาวๆ...ตอนกลางคืน..ก็เอาไฟไปส่อง
    หานกเขา..ที่มันอยู่บนคาคบ..แล้วหลับอยู่..พอมันเจอแสงไฟ..มันจะงง..และ..ตาฝ้า....
    นิ่งอยู่กับที่..ถ้าคนส่องไม่เป็น..ทำไฟวูบวาบ..มันจะหายงง..แล้วตกใจบินหนีไปเลย...
    ต้องฉายให้นิ่ง..แล้วอีกคนก็ค่อยๆ..เอาปลายไม้ที่ติดยางโพธิ์ไว้..ไปแปะ..ที่ข้างลำตัวมัน..
    แค่นี้..ก็เรียบร้อย..เหนียวหนึบ..แล้วค่อยดีงปลายไม้..และตัวนกลงมา...จะเอายางออกจาก
    ขนนกไม่ได้หรอกครับ..ต้องตัดขนตรงนั้น..ออกไปเลย...เหนียวบัดซบ)..รวมถึง...ต้นยางนา
    (ที่เขาเอาใช้..ทำชันยาเรือด้วย)..เขาจะทาบนผิวอิฐ..แทนปูน..แล้วก็ก่อไปเรื่อยๆ....
    ........อยุธยาตอนกลางช่วงปลาย..จนถึง..ตอนปลาย..ต่อมาถึง..ต้นรัตนโกสินทร์...ก็จะเปลี่ยน
    มาใช้..เป็นการ.."ก่ออิฐแบบสอปูน"..แทน..ปูนนี่ก็คือ..ปูนที่ได้มาจากเผาเปลือกหอย..โดยมี
    ตัวช่วยประสาน..เป็น..น้ำข้าวเหนียว..น้ำอ้อย..ผสมกับ..ทราย..อีกที....
    ....เวลามองจะเห็นได้ชัด..เพราะอิฐจะไม่แนบติดกัน..แต่จะมีช่องห่างที่..จะเห็นเนื้อปูนแทรกอยู่..
    ...วิธีดู..ว่า..เก่าแค่ไหน..ก็มีหลักคือ..ถ้ารุ่นโบราณ..จะสอปูน..บาง..และมารุ่นหลังๆอย่างต้น
    รัตนโกสินทร์..จะหนา...
    ...........................

    .................. 351387141588967.jpg

    ....นี่คือหมู่เจดีย์ราย ๓ องค์ ที่วัดหน้าพระเมรุ..เป็นเจดีย์ทรงลังกา(แต่มีการดัดแปลงเล็กน้อย..ตรงบัลลังก์คือ..มีการย่อมุม..แบบพระปรางค์ใส่ลงไปด้วย)..ที่ให้สังเกตจริงๆ
    คือ..การเรียงอิฐ..อิฐจะแนบชิดกัน..เพราะเชื่อมติดกัน..ด้วยยางไม้...
    (ขอบคุณภาพจาก 3pidok.com)

    .................... 586121e81.jpg

    ....ทั้งจากภาพเสาที่อยู่..ภายในโบสถ์(ตอนที่แล้ว)..และ..ภาพนี้..เสาด้านหน้า..จะเป็น..แปดเหลี่ยม
    ด้านเท่า...และ..มีขนาดใหญ่(ขอบคุณภาพจาก oknation.net)

    ...................[​IMG]

    .....นี่ครับ..คือ..ช่องแสง..และ..ช่องลม..ที่ใช้แทนหน้าต่าง..ของโบสถ์วัดหน้าพระเมรุฯ(ขอบคุณภาพจาก bbznet.pukpik.com)


    ................ต่อตอนหน้า....................
     
  6. split

    split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    ติดตามตอนต่อไปครับ
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................
    ...ดูภาพเจดีย์ราย ๓ องค์ ของวัดหน้าพระเมรุ..แล้วแปลกใจอะไรมั้ย...
    ..ไม่ใช่เรื่องต้นโพธิ์มาหุ้มนะครับ...ผมว่า...คงมีน้อยคน..ต้องเป็นคนที่ศึกษา
    ประวัติศาสตร์อยุธยาแท้จริง..ถึงจะสังเกตได้...
    .......เจดีย์สมัยอยุธยาในอยุธยา..มี..เจดีย์ไหน..ที่ไม่ถูกเจาะขุดทำลาย
    หาสมบัติมั่ง....ตอบได้เลย...ก็มีแค่ ๓ องค์นี้เท่านั้นแหละครับ..ที่ท่านเห็นนี่..
    ...ของเดิมๆ..ตั้งแต่ ๕๐๐ ปีที่แล้วเลย....มีแต่ผิวกร่อน..ทรุดบ้าง..ปลียอดหักไป..
    ...ที่เหลือ..ของเดิมๆ...เพราะนี่เป็นของที่มีมาตั้งแต่สมัย..ยุคเดียวกับ..สร้างวัด..
    โดยดูได้..จากศิลปของเจดีย์...
    ......แต่เจดีย์ที่มาสร้างทีหลังหลายร้อยปี..ที่เป็นเจดีย์ย่อมุม..ที่เห็นอยู่ในภาพ..ที่ผมลงไว้เมื่อ ๒ ตอนก่อนหน้านี้..ให้ดู..ด้านหลังโบสถ์นะ..เหลือแค่..ครึ่งองค์..
    .......เจดีย์ทั้งสามนี้..รอดพ้น..น้ำมือ..ไทย..จีนแขก..ตอนกรุงแตกมาได้ยังไง....
    .....รอดพ้นน้ำมือ..คนขุดหาสมบัติ..หาพระ..ตั้งแต่สมัย ร.๕..ถึง..ร.๙ มาได้ยังไง
    ........นี่แหละครับ..น่าสนใจ..ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ....
     
  8. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    เป็นเรื่องมหัศจรรย์.มาก.ๆ ครับถ้าไปไหว้พระครั้งต่อไปต้องลองไปดูเจดีย์ทั้ง.3 องค์นี้บ้างครับ. ขอบคุณมากครับพี่
     
  9. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ได้ความรู้ดีๆในการสังเกตุการก่อสร้างครับ ขขอบพระคุณคุณอาครับ
     
  10. ฮักแพง

    ฮักแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +1,523
    สวัสดีครับ พี่ modpong และพี่ น้อง ทุกท่าน
    ติดตามอ่านครับ ได้รับความรู้ที่เป็นวิทยาทาน ผมถือว่าเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ การถ่ายทอดจากยุคก่อนสู่ยุคหลัง ผมขอบพระคุณด้วยความรู้สึกที่ดีงามครับ ช่วงนี้ผมวนอ่านกระทู้ย้อนหลังวนอยู่กับสำนักเขาอ้อ เห็นท่านผู้ใหญ่เล่ากันว่าตำราวัดพุทไธสวรรค์ ตกทอดถึงสำนักเขาอ้อ เสียดายผมเหลือเพียงพระสิวลีเขาอ้อปี 11 พระขุนแผน อ.ชุม ผมไม่ได้เก็บไว้ เว้นแต่จตุครามของเขาอ้อ ที่ผมรักษาไว้แต่เป็นยุคหลัง แนบภาพพระสิวลีเขาอ้อ ครับ
    ขอบพระคุณครับ
    ฮักแพง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ขอบคุณครับอา ได้ความรู้เชิงศิลป์ด้วย นอกจากประวัติศาสตร์

    รอติดตามตอนต่อไปครับอา
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........................................
    ..ข้อดีอย่างนึง..ของสำนักนี้คือ..TAGTEAM..ไม่มีมาเดี่ยว..โดยเฉพาะ..ยุคอาจารย์นำ..ยังมีชีวิตอยู่...คุณจะห้อยพระ..ของหลวงพ่ออะไร..ก็ได้ที่เป็นศิษย์เขาอ้อ...พระของคุณพุทธคุณเยี่ยมยอดทั้งนั้น..ยิ่งตั้งแต่ปี ๑๐-๑๘...นี่..โอ้โห
    แต่ละองค์..ไม่ต้องเซด...เรียกว่า ..หาไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้..ต่อไปจนถึง..อนาคต..แล้วข้อดี..
    ของสำนักนี้..เมื่อปลุกเสกหมู่..มีแต่ยิ่งแรง..เสริมพลังกัน..เพราะมาจากสำนักเดียวกัน..สูตรเดียวกัน
    (..เหมือนกับ..ปลุกเสกเดี่ยว..ซ้ำๆกัน..หลายครั้ง..ตามจำนวน..อาจารย์ที่มาปลุกเสก..
    ที่บอกอย่างนั้นได้..เพราะ..อาจารย์ศิษย์สำนักเขาอ้อแต่ละองค์ในยุคนั้น..เรียกว่า..ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน..เท่าไหร่..เก่งโคตร)
    ...ปลุกเสกหมู่..หรือ..พุทธาภิเษก..ที่แต่ละอาจารย์มาจากแต่ละสำนัก...ไม่ได้เสริมกัน..แต่มาหลากหลายแนว....
    ....ขนาดตอนปี ๑๑ ท่านอาจารย์คล้อย วัดถ้ำเขาเงิน..อยู่ชุมพร..อภิมหาอาจารย์ของสำนักทุกองค์..ก็ยังมาช่วยกัน...ปลุกเสก..หลวงพ่อแดง พุทโธ..ให้
    (เหรียญกรมหลวงชุมพร อันดับ๑ ของปักษ์ใต้ ก็ งานนี้แหละ...)
    .....ดังนั้น..ปี ๑๐-๑๘ ถ้าผู้สร้างเป็นศิษย์เขาอ้อ..ต่อให้เป็นฆาราวาส..ก็เก็บไว้ห้อย..ได้เลย..
    ...........ฟันธง.............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........
    ...หวัดดี..หลานApril..กำธรน้องรัก..หลานสวนพลู..ฮักแพง..และ..หลานเขม
    ..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม...
    ...................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ..................
    .........................................................
    ...เจดีย์...
    .....อันนี้..ชัดเจนมาก..เพราะ..เจดีย์..มีขนาดใหญ่..สูงและ..อยู่ในที่แจ้ง....
    รูปทรง..ยุคสมัย..บ่งบอกชัดเจน...
    ...เจดีย์..(..พูดถึง..เจดีย์..อย่าไปสับสนกับ..พระปรางค์..คนละประเภทกัน..)..ในศิลปอยุธยา
    ตอนต้นนั้น..ได้รับอิทธิพล..มาจากสุโขทัย..อย่างมาก..ดังนั้น..ส่วนใหญ่แล้ว..ในอยุธยา..
    ..เจดีย์ในยุคนั้น..ก็จะเป็นทรงลังกา..
    .....ในวัดหน้าพระเมรุ..จะมีเจดีย์เรียงรายอยู่..เป็นแถว ๓ องค์..ซึ่งนักประวัติศาสตร์
    ก็เชื่อกันว่า..มีมาในสมัยเริ่มต้น..แต่อาจไม่พร้อมกับ..วัด..เพราะน่าจะเป็นเจดีย์..บรรจุ
    อัฐิเชื้อพระวงศ์สำคัญ..ซะ..มากกว่า....ทั้ง ๓ องค์นี่..เป็นเจีย์ทรงลังกา..ครับ...
    ...เจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัย..หรือ..อยุธยาตอนต้น..เป็นยังไง..ก็ดูรูปเอาแล้วกัน
    ...ดูแยกแบบแว๊บเดียว..ดูที่เดียวพอ..ก็คือ..ส่วนที่เป็น.."ก้านฉัตร"..จะเปลือย...
    คือ..มีแต่ก้านฉัตรอย่างเดียว....
    .....แต่พอมาเริ่มเข้าต้นอยุธยาตอนกลาง..ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ...
    ...ศิลปของเจดีย์อยุธยาจะเปลี่ยนแปลง..เห็นได้ชัดขึ้น....
    ...แต่จากศึกษา..และ..การที่ผมเองเป็น..วิศวกรโยธา..มาร่วม๔๐ปี...ผมจึงพอวิเคราะห์
    ที่มา..ของการเปลี่ยนแปลงใน..ส่วนนึงซึ่งสำคัญต่อโครงสร้างเจดีย์มากนั้น..ออกมาได้
    ......ก็คงต้อง..อรรถาธิบายที่มาที่ไป..แบบง่ายๆ..แต่ค่อนข้างยาว..พอสมควร..เพราะไม่มี
    ใครวิเคราะห์ไว้ก่อน..
    ......นั่นคือ..ส่วนของ..."ก้านฉัตร"...นั่นเอง.............
    .................การที่..บางที..ก็อบปี้..รูบแบบ..อะไรมาสักอย่าง..แล้วลืมไปว่า...สภาวะพื้นที่ที่เกี่ยว
    ข้อง..ของสิ่งนั้นๆเดิมที่เขาทำไว้..มันเหมาะกับแบบนั้น..เมื่อสภาวะพื้นที่ของเรา ..มันไม่
    เหมือนเขา...มันก็อาจไม่เหมาะสมได้..จนต้องมีการดัดแปลงใหม่..หรือ..เพิ่มเติมอะไรขึ้น..
    ให้มันเหมาะสม....
    ...........ดูอย่างคนไทยแถบ..พระนคร-ธนบุรี..และ..จังหวัดใกล้เคียง...ยุคกว่า..๖๐-๗๐ ปีที่ผ่านมา
    ..เริ่มเห็นดี..เห็นงาม..กับรูปแบบ..ของบ้านฝรั่ง..ที่มี ๒ ชั้น..จากเดิม..ที่ทำบ้านไม้ชั้นเดียว
    ใต้ถุนสูง..บรรพบุรุษเรา..ไม่เคยกังวลต่อ..หน้าน้ำหลาก..เพราะเขาคิดรูปแบบที่เหมาะสม..
    สำหรับ..ผืนแผ่นดินที่ลุ่มภาคกลางตอนใต้ไว้..อย่างลงตัวแล้ว...แต่คนสมัยเริ่มพัฒนาสมองเริ่ม
    บื้อ..คิดแต่เพียงว่า..ขี้เกียจขึ้นกระได..พื้นที่น้อย..แต่มีห้องไว้ใช้งานได้เยอะ.....รูปแบบของฝรั่ง
    นี่แหละ..เหมาะสม......ทั้งๆที่ฝรั่งมันคิดไว้..เพื่อความเหมาะสม..ของพื้นที่ๆมันอยู่
    .......แล้วปัจจุบัน..ซึ้งในรสพระธรรมรึยัง..ท่านทั้งหลาย..ที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล.....
    ....................................
    ..........ฉันใด..ฉันนั้น....รูปแบบเจดีย์ทรงลังกานั้น..คนลังกา..เขาก็คิดไว้เหมาะสมกับ..พื้นที่เขา..
    ...ลังกา..เป็นเกาะ..พื้นที่ลุ่มมีอยู่น้อย...ที่เหลือ..ก็เป็นดินที่มีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี.....ใต้
    ฐานดิน..ก็เป็นชั้นหิน..ดั่งเช่นเกาะ..ทั่วๆไป...
    ...บังเอิญ..กรุงสุโขทัย..เมื่อเจริญติดต่อมีความสัมพันธ์ในทางศาสนา..และชมชอบ..ในศิลปเขา
    ..ก็เลย..ขอก็อปมา..ทำที่นี่มั่ง..และใช้รูปแบบนี้อยู่เป็นร้อยปี..ก็ไม่มีปัญหาอันใด..นั่นเพราะ...
    ..พื้นที่แถบสุโขทัย..ส่วนที่เป็นที่ลุ่มแม่น้ำยมนั้น..ไม่กว้างขวาง..กอปรกับ..ดินตะกอนด้านบน
    ไม่หนา..ลงมาไม่มากมีชั้นทรายเกิดจาก..การกัดกร่อนเขาโดยน้ำฝนชะล้างตกลงมา.....เมื่อสร้าง
    เจดีย์นั้น..ฐานรากเจดีย์..ก็จะลงไปถึง..ชั้นทราย..แถมชั้นทรายมีความหนาและมีชั้นหินสลับอยู่..
    ....ทำให้..ใต้ฐานราก..มีความมั่นคง...
    .............เจดีย์ทรงลังกานั้น..มีส่วนโครงสร้างทางวิศวกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหาย..มากที่สุด
    .........คือ..."ก้านฉัตร"....ด้วยรูปแบบ..ที่มัน..คอดตัวแบบกระทันหัน...คือ...
    ...เมื่อจาก..ส่วนยอดสุด..ของเจดีย์..มันจะค่อยๆบานมาเรื่อย..(และด้วยความบาน..มันก็น้ำหนัก
    ต่อความยาวมากขึ้นเรื่อยๆ)..ตั้งแต่..
    .....หยาดน้ำค้าง....ลงมา..
    ....ปลียอด......ลงมา..
    ....ปล้องไฉน..ลงมา..
    ....บัวฝาละมี..ลงมา..
    ....พอมาถึง..ก้านฉัตร..ความกว้าง(หรือเส้นผ่าสูนย์กลาง)ของมัน..กลับ..หดลง..เล็กแบบกระทันหัน
    ...(แล้วก็..กลับไปใหญ่..แบบกระทันหันอีก...ช่วงที่..ต่อกับ...บัลลังก์..)
    .....ถ้าการก่อสร้างสมบูรณ์...เจดีย์ได้ดิ่ง...น้ำหนักส่วนบนทั้งหมดก่อนถึง..ก้านฉัตร..ก็จะผ่านลง
    ก้านฉัตร..ต่อลงไปส่วนล่าง..ไม่มีปัญหา..อะไร..แต่ถ้าการก่อสร้างไม่สมบูรณ์..เรียกว่า..ไม่ได้..ดิ่ง
    อย่างสมบูรณ์..ไม่ว่า..เฉพาะส่วนจากก้านฉัตรขึ้นไปที่เอียงไม่ได้ดิ่ง..หรือ..ทั้งหมดถึงฐาน..นั้นเอียง
    ไปเล็กน้อย..อะไรจะเกิดขึ้น.............

    ............ Stupa_Ceylonese_Sukhothai.png

    ....นี่คือชื่อเรียกส่วนต่างๆของ..เจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัย..ที่..อยุธยาตอนต้นนำ
    รูปแบบมาใช้
    ๑.ฐานเขียง
    ๒.ฐานปัทม์
    ๓.บัวถลา
    ๔.บัวปากระฆัง
    ๕.องค์ระฆัง
    ๖.บัลลังก์
    ๗.ก้านฉัตร
    ๘.บัวฝาละมี
    ๙.ปล้องไฉน
    ๑๐.ปลียอด
    ๑๑.หยาดน้ำค้าง
    ..ภาพครึ่งด้านซ้าย..นั้น..เขาแสดงให้เห็นว่า..ถ้าเราตัดผ่ากลางเจดีย์..แล้วจะเป็นยังไง
    ...ก็คือ..จะมีช่องว่าง..เฉพาะที่..องค์ระฆังเท่านั้น..นอกนั้นก่ออิฐตัน.......
    (ขอบคุณภาพจาก วิกิพีเดีย )

    ........................ต่อตอนหน้า...........



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014
  14. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    สวัสดีครับพี่ สูตรการผสมปูนนี่เป็นสูตรคล้ายกับการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังเลยนะครับ อ่านบทความพี่แล้วอยากไปดูปูนเก่าที่วัดมากๆ ขอบคุณสำหรับการนำเสนอครับ
     
  15. โอ๊ตดี้

    โอ๊ตดี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    315
    ค่าพลัง:
    +1,797
    สวัสดีครับคุณลุง modpong ไล่ตามอ่าน ... ได้ความรู้ และประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆครับ ...​ขอบคุณครับ ...
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........................................
    ...หวัดดี..และ..ยินดีต้อนรับครับ.....
    ..คงไม่หรอกครับ..แค่ส่วนน้อย...เพราะ..ปูนก่ออิฐ..สมัยก่อน..ต้องใส่ทรายไปด้วย..คล้ายยุคนี้..
    ..แต่ส่วนประสานคือ..ปูนเปลือกหอย..น้ำข้าวเหนียว..น้ำอ้อยเคี่ยว..นี่..มันหนีไม่ค่อยพ้น..เพราะมันช่วยให้เกิดการยึดเกาะของ..วัสดุ..และ..ทำให้ตัวมันเอง..แข็ง..อย่างเปลือกกล้วยใน..ส่วนผสมวัดระฆัง..นั่นก็เป็นตัวประสาน..เพราะ..ส่วนที่เป็นยางกล้วย..ที่อยู่ในนั้น..
     
  17. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    หลวงพ่อพิเชฐ เคยคุยให้ฟังว่า(ท่านเคยเรียนกับ อ.ชุม และ หลวงพ่อศรีเงิน) ท่านบอกว่า สายเขาอ้อ ดีทุกด้าน แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ทำตามขั้นตามฤกษ์เขา และเวลาเสก จะเสกแบบทีมเวิร์ค แบ่งๆ กันรับผิดชอบ องค์ไหนรับผิดชอบอะไร จะตกลงกันก่อนเริ่มพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อศรีเงิน รับเสกเรื่องคงกระพัน อีกองค์ แคล้วคลาด อีกองค์ มหาลาภ อีกองค์ เมตตา อะไรประมาณนี้ครับ และมีพิธีนึงที่ลพบุรี นิมนต์สายเขาอ้อมา หลวงพ่อท่านก็ไปด้วย ของที่ไหนผมจำไม่ได้ เขาบอกว่า ถ้าเสกเสร็จจะยิง เพื่อลองเลย หลวงพ่อสายเขาอ้อ ก็คงจะเกรงไม่เหนียว ก็อัดคงกระพันกันอย่างเดียว สรุปว่า พิธีนั้น มีแค่มหาอุตม์อย่างเดียวครับ พอเสร็จพิธี ก็ลองกันจริงๆ ไม่ออกครับ หลวงพ่อเล่าให้ฟังครับ จำพิธีและวัดไม่ได้ ขออภัยครับ
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................................
    ..เอ้อ..ขอบใจ..ที่ช่วยเพิ่มเติมให้..อาก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า..หลวงพ่อพิเชษฐ์นี่..ก็ไปเรียนวิชาสายเขาอ้อมาเหมือนกัน.....
     
  19. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ตอน อ.ชุม ยังอยู่ หลวงพ่อเล่าว่า ก่อนจะเป็นศิษย์ ต้องไปทดสอบก่อน ด้วยการ กำประทัด มีสายชนวน ยาวๆหน่อย ประมาณ เมตรสองเมตร จุดชนวน แล้วให้ว่าคาถาจะให้มาบทนึง ให้ท่องแล้วเพ่งจนสายชนวนดับ ไม่ถึงประทัด หรือถ้าถึงประทัดก็ต้องไม่ระเบิด ก็ประมาณนี้ครับคุณอา ท่านบอกว่า มีผู้หญิงไปฝากตัว และก็สามารถทำได้ด้วย หลวงพ่อท่านก็ทำได้ ตอนนั้นยังเป็นฆารวาสอยู่ ท่านบอกด้วยความกลัว บวกกับความเชื่อมั่น ชนวนก็ดับลงได้ แล้วล่าสุดท่านก็บอกว่า หลังๆมา เห็นคนเอาไม้ครู ของ อ.ชุม ออกมาขายกันเยอะ เห็นแล้วเสียดาย ท่านบอกว่านั่นคือของดี แต่คนที่เอาไป ใช้กันไม่เป็น แม้ถึงผมได้มา ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ไอ้ต้นชีตายปลายชี้เป็น
     
  20. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา..ปกติเวลาที่ผมไปไหว้พระที่อยุธยา วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดที่จะต้องไปไหว้ประจำพร้อมถวายห่มผ้าจีวรกับองค์หลวงพ่อครับ...รออ่านบทความตอนต่อไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...