อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    สวัสดีครับพีตี๋

    มารับพรในวันเสาร์
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    จำผิดครับ คริๆ สุโขทัย กะ พิโลก มันใกล้ๆ กัน
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    โอเคครับ ขอให้งานราบรื่นนะครับ


    ผมคงไม่ได้ออกนอกพื้นที่ ต้องเคลียร์งานก่อนไปเชียงใหม่นะครับ
     
  4. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระจ.นครพนม
    ลป.จันทร์ วัดศรีเทพ พระนาคปรก ประมาณปี2500 ลป.สาม อกิญจโน สุรินทร์ ท่านมอบให้ครับ


    [​IMG]
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    น้องเอ๋ อยู่พิโลกถึงวันใหน แล้วไปลำปางเมื่อไหร่ครับ
     
  6. kraisorn_pithsanulok

    kraisorn_pithsanulok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +3,133
    บ่ายสี่โมงก็เริ่มเบาแล้วล่ะครับ แต่ผมไม่เเน่ใจว่ามีการสวดมนต์ตอนเย็นทุกวันเริ่มตั้งแต่กี่โมง โดยมีพระสงฆ์ที่วัดแล้วก็ยังมีประชาชนทั่วไปร่วมสวดหลายอยู่ หากพี่ตี๋ไปช่วงเย็นๆน่าได้ร่วมสวดมนต์นะครับ

    ส่วนกรุแตก อิอิ เห็นข่าวท้องถิ่นข่าวลงเต็มเลย อิอิ แต่คงยังไม่มีการเอาออกมาบูชาตอนนี้มั้งครับ อิอิ ผมลองโทรไปถามอาจารย์ที่สอนผม ลองถามว่ารู้ข่าวหรือยัง ท่านยังไม่รู้ข่าวเลย เชื่อว่าตอนนี้คนคงจะไปดูกันเยอะแน่ๆๆ ครับ

    ผมกลับพร้อมพี่สาวเห็นบอกน่าจะวันที่12เย็นๆๆ กลับบ้านคงไม่ได้ไปไหนเพราะคงจะช่วยเตรียมงาน เพราะอาทำบุญขึ้นบ้านใหม่น่ะครับ กลับพิดโลกก็คงจะวันที่ 16 น่ะครับพี่เอ็ม ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    กราบหลวงปู่สาม


    พระสวยมากครับพี่ตี๋
     
  8. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    จริงๆแล้ว พระนางพญาที่อยากแนะนำก็คือ พระนางพญาหลังยันต์ดวง ของลพ.ถนอม วัดนางพญา ผสมเนื้อเก่า และพิธีดี ลองค้นหาดูในกูเกิลนะครับ
    คุณเอ็มช่วยค้นหาเอามาช่วยเสริมให้ด้วยนะครับ
     
  9. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณครับคุณเอ๋มากๆครับ
    พระนางพญาหลังยันต์ดวง พิมพ์เล็ก

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG]
     
  11. oatlovetong

    oatlovetong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +17,292
    สวัสดีครับพี่ตี๋ น้องเอ๋ ^^
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    พระนางพญา ปี 2514 หลังยันต์ดวง พระอาจารย์ถนอม เขมจาโร สุดยอดวัตถุมงคล จากวัดนางพญา
    จัดสร้างโดย วัดนางพญา ในสมัยพระอาจารย์ถนอม เขมจาโร และ พระครูบวรชินรัตน์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514
    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อหาจตุปัจจัยในการ สร้างอุโบสถวัดนางพญา ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรมแห่งสงฆ์ ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์
    พิธีมหาพุทธาภิเษก มหาจักรพรรดิ์ตราธิราช เมื่อ วันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2514
    สถานที่ประกอบพิธี ณ วิหารวัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก
    ประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณณสิริ) ซึ่งต่อมาเป็น สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    ประธานฝ่ายฆราวาส พลโท สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาพที่ 3 สมัยนั้น
    ประธานจุดเทียนชัย สมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณณสิริ)
    ประธานดับเทียนชัย หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    เจ้าพิธี พระอาจารย์ ไสว สุมโน
    เจ้าพิธีฝ่ายพราหมณ์ พระครูวามเทพมุนี
    เกจิคณาจารย์ร่วมปลุกเษก
    1.สมเด็จ พระวันรัต (ปุ่น ปุณณสิริ)
    2.พระอุปชาฌ์ ประมุข วัดจงโก จ.ลพบุรี
    3.พระครูพรหมจักรสังเวช (ครูบาพรหมา ธมฺจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน
    4. พระครูวิรุนห์ธรรมโกวิท วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
    5. พระครูภาวนาภิรัตน์ วัดน้ำบ่อหลวง จ.เชียงใหม่
    6. หลวงพ่อเกษมเขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
    7.หลวงพ่อบุญมี จ.เชียงใหม่
    8. พระครูธรรมสาร จ.ขอนแก่น
    9. พระคัมภีรญาณเถระ จ.ขอนแก่น
    10. หลวงพ่อสิงห์ จ.มหาสารคาม
    11. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    12. อาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    13. หลวงพ่อบุญมา วัดคีรีสารวัน
    14. หลวงพ่อสด จ.ชัยนาท
    15. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์
    16. พระเกตุจันทสุวรรณโณ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
    17. หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.ลพบุรี
    18. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณ์บุรี
    19. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    20. หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข้วง จ.ลำปาง
    22. พระครูประศาสน์ธรรมคุณ จ.พิษณุโลก
    23. หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น
    24. พระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ จ.เชียงใหม่
    25. หลวงพ่อสว่าง จ.กำแพงเพชร
    26. หลวงพ่อแกร จ.นครสวรรค์
    27. หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    28. หลวงพ่อขอม จ.สุพรรณบุรี

    พระ ครูสุจิตธรรมวิมล เจ้าอาวาสวัดนางพญารูปปัจจุบัน เล่าว่า พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นต้องเรียกว่า เป็นอภิมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในยุคนั้น ทั้งนี้มีสุดยอดเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศร่วมอธิษฐานจิต ปลุกเษกในพิธีด้วย อาทิเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ผาง, หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงพ่อเกษม เขมโก, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่อขอม, ครูบาพรหมา เป็นต้น
    มีการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทางสถานีวิทยุไปทั่วประเทศตลอดวัน ตลอดคืนในวัน เสาร์ที่ 30 มกราคม 2514
    เริ่มตั้งแต่เวลา 06.05 น. ประกอบพิธีบวงสรวงครูบาอาจารย์ และอดีตเจ้าอาวาส ตามด้วมพิธีถวายเครื่องสักการะบูชาพระพุทธชินราช พิธีถวายสักการะบูชาบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีสักการะบูชาพระรัตนตรัย พิธีบวงสรวงเทพยดา และพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์
    เวลา 16.00 น. สมเด็จพระวันรัต ประธานฝ่ายสงฆ์ทรงอธิษฐานจิต จุด เทียนชัย คณาจารย์จากทั่วประเทศนั่งปรกรอบมณฑลพิธีเจริญจิตภาวนา ปลุกเสกตลอดเวลา
    เวลา 19.30 น. จุดเทียนชัยมหาพุทธาภิเษก
    เวลา 02.00 น. เริ่มต้นสวดคาถาพระจักรพรรดิ์ตราธิราช พระคณาจารย์นั่งปลกเจริญจิตภาวนาปลุกเสกตลอดรุ่ง
    เวลา 06.05 น. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้อธิษฐานจิตดับเทียนชัย

    ในครั้งนั้นวัดนางพญาได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายรายการ ที่สำคัญคือ พระ นางพญาเนื้อดินเผา ตามประวัติการสร้างเป็นพระนางพญาที่ถอด พิมพ์และผสมผงเก่าจากนางพญากรุ พระนางพญาที่สร้างครั้งนี้ มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่เข่าโค้ง และ พิมพ์เล็กสังฆาฏิ และได้อัญเชิญพระฤกษ์ พระราชทานประดิษฐานหลังพระนางพญารุ่นนี้ทุก องค์ (มีหลงบางองค์ไม่มียันต์ดวง) ปั้นกดด้วยมือ และใช้ใบเลื่อยตัดออกทีละองค์ๆ สันนิษฐานว่า สร้างจำนวน 84,000 องค์ ในขณะนั้นให้บูชา องค์ละ 5 บาท 10 บาท ในการทำบุญสร้างอุโบสถ แต่ปัจจุบันนี้ การเช่าหาอยู่ที่หลักร้อยแก่ๆ ถึง หลักพัน ดูตามสภาพพระว่าสวยหรือไม่ ยันต์ดวงติดเต็มหรือไม่เต็ม ชัดหรือไม่ชัด

    นั่นคือปฐมแห่งพระนางพญารุ่นนี้ ที่คนรุ่นก่อน ได้ทำไว้คนรุ่นหลังได้เก็บบูชากัน แต่ยังไม่หมดแค่นั้นครับ ยังมีเหตุการณ์ที่ทำให้พระนางพญา ปี 2514 ที่ค่อนข้างหายากในยุคปัจจุบัน ได้มีมาให้พวกเราได้ชมกันอยู่
    จำไม่ได้ว่าปีไหนกันแน่ ระหว่าง ปี 2546 หรือ 2547 ที่ผ่านมา มีการแตกกรุพระนางพญา ปี 2514 หลังยันต์ดวง ที่อายุร่วมเกือบ 40 ปี นี้ขึ้น
    วัดนางพญา ในช่วงนี้ค่อนข้างทรุดโทรมไปบางส่วน เช่น กุฏิเสนาสนะสงฆ์บางหลังเป็นกุฏิไม้เก่า แทบจะทรุดพังแล้ว, พื้นที่โดยทั่วของวัดอยู่ในพื้นที่ต่ำกว่า ถนน และอาณาบริเวณโดยรอบ เวลาฝนตกหนัก น้ำมักท่วมขัง, วิหารคด รอบอุโบสถ ก็ต้องบูรณะ พระครูสุจิตธรรมวิมล (อาจารย์ชุบ) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ก็ได้ตกลงใจจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนางพญาใหม่ แต่ทำให้ท่านเองต้องครุ่นคิดหาปัจจัยในการดำเนินการอยู่ตลอดเวลา
    และในคืนหนึ่ง ท่านได้นิมิตฝันว่า มีดาวตกขนาดใหญ่ 1 ดวง ตกใส่ห้องเก็บของ ที่ติดกับกุฏิเจ้าอาวาส ซึ่งอดีตคือกุฏิของพระอาจารย์ถนอม เขมจาโร ผู้ที่มาเริ่มบูรณะวัดนางพญา เมื่อ 30 กว่าปีก่อนนั่นเอง
    รุ่งเช้าหลังคาห้องเก็บ ของยุบลงมาจริงๆ และพบว่าโครงไม้หลังคาถูกปลวกกัดกินเนื้อไม้จนผุพัง ขณะเก็บรื้อสิ่งของ พบจอมปลวกขนาดใหญ่อยู่ที่มุมห้องมีรอย ตกและเห็นเนื้อไม้อยู่ด้านใน จึงกระเทาะดินปลวกออก ก็พบลังไม้สักเก่าๆ ใบหนึ่งสภาพค่อนข้างเรียบร้อย เปิดดูพบดินปลวกอัดแน่นเต็มลังเมื่อเพ่งพิจารณาดูอย่างละเอียดจึงพบว่าดิน ปลวกมีรูปร ่างที่พิสดาร คือ เป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆอยู่เต็มไปหมดเมื่อแกะออกมาดูถถึงกับตลึง เมื่อพบว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ดินปลวกคือ พระ นางพญา 2514 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อ 30 กว่าปี ก่อนการพบพระนางพญาในครั้งนี้นับว่าประจวบเหมาะพอดีกับการที่จะเปิดตัว " โครงการบูรณะวัดนางพญา " ราวกับปาฎิหารย์แบบ "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ" หรือว่าอดีตเจ้าอาวาสผู้สร้างพระนางพญาชุดนี้ ซึ่งเป็นผู้บูรณะวัดนางพญาเมื่อ 30 ปีก่อน อนุโมทนาต่อการที่ทราบว่าวัดนางพญาจะได้มีการบูณะเพิ่งเติมต่อจากที่ท่านได้ บูรณะไว้ แล้ว จึงมอบพระนางพญาชุดนี้มาให้เป็นทุนเริ่มต้นโครงการฯ และที่แปลกประหลาด อีกประการหนึ่งก็คือ ปลวกไม่กัดกินเนื้อพระเลยแม้แต่องค์เดียวทั้งๆ ที่ เนื้อดินนั้นเป็นอาหารของปลวกคล้ายๆ กับจะเข้ามาอยู่เพื่อปกป้องรักษาพระจึงอยู่ในสภาพที่สวยและสมบูรณ์มาก พระที่พบครั้งนั้นคาดว่า จำนวนน่าจะร่วมหมื่นองค์ หรือมากกว่า
    พระนางพญา ที่พิธียิ่งใหญ่ เกจิอาจารย์ทั่วสารทิศ มาปลุกเสก ที่พิมพ์ไว้ 22 รูป นั้นเป็นแค่จำนวนหนึ่งครับ อีกอย่างพระนางพญารุ่นนี้มีผงเก่า ของพระนางพญา กรุวัดนางพญา แตกหักบ้าง มาบดผสมเป็นมวลด้วย พุทธคุณด้านเมตตา มหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภมั่งมี ต้องนางพญารุ่นนี้ พิธียิ่งใหญ่และถูกต้อง เกจิอาจารย์เข้มขลัง มวลสารสุดยอด ใช้แทนนางพญา กรุเก่าที่ปัจจุบันหาแสนจะหายากได้เลย


    [​IMG] [​IMG]
     
  13. kraisorn_pithsanulok

    kraisorn_pithsanulok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +3,133
    สวัสดีครับพี่โอ๊ด :cool::cool::cool:
     
  14. kraisorn_pithsanulok

    kraisorn_pithsanulok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +3,133
    ขอบคุณครับพี่ตี๋ น่าพระสวยๆมาให้ชื่นชม
    ข้อมูลจากที่ได้อ่านจากพี่เอ็ม เกจิอาจารย์ร่วมปลุกเยอะจริงๆนะครับ สุดยอดเลย :cool::cool::cool::cool:
     
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณ คุณเอ็ม ที่ช่วยเสริม พระอริยะเจ้าทั้งนั้นครับ
     
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดีคุณโอ๊ต เป็นกำลังใจให้สู้ๆครับ
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]

    พระครูสถิตญาณคุณ (พิทักษ์ ฐิตญาโณ)

    นามเดิมชื่อ จ.ส.ต. พิทักษ์ นามสกุล ดุษดี
    วันเดือนปีเกิด วันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม ตรีศก
    ตรงกับวันที่ ๑๐ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๔

    เกร็ดประวัติ

    พระครูสถิตญาณคุณ (พิทักษ์ ฐิตญาโณ) นามเดิมของท่านคือ ฉะโอด (มารดาของท่านเป็นผู้ตั้ง) ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น จ.ส.ต พิทักษ์ แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าท่านชื่อ โอด เท่านั้น หลวงพ่อโอด เกิดปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ณ บ้านเตาเหล็ก ต.พนม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นชุมชนที่ห่างไกลความเจริญอย่างยิ่ง

    เรื่องราวของท่านนั้นมีเรื่องอัศจรรย์ตั้งแต่เกิด ว่ากันว่าวันที่ท่านกำเนิด ท่านได้ตายไปแล้ว เหตุด้วยว่าท่านได้ออกมาจากครรมารดา แต่ก็ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว ทำให้คนที่บ้านและคนทำคลอดต่างเข้าใจว่าได้เสียชีวิต จึงได้นำมาครอบไว้ในสุ่มไก่นานรวมครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เมื่อปู่ของท่านทราบเรื่องจึงเดินทางมาที่บ้านแล้วนำท่านออกมาแล้วทำการรักษาจนกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้จำความได้ว่าหลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ปู่ได้ใช้ว่านแล้วทำการบริกรรมอาคม แล้วเป่าไปที่กระหม่อมหลังจากนั้นกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง

    เมื่อครั้งเยาว์วัย หลวงพ่อโอด ได้มีโอกาสเล่าเรียนถึงเพียงชั้นประถมปีที่ ๔ ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับในสมัยนั้น หลังจากจบการศึกษาท่านก็ได้ช่วยงานทางบ้านจนอายุเข้าเกณฑ์ทหาร แทนที่ท่านจะเข้าตรวจรับการเกณฑ์ทหารโดยทั่วไป ก็ไม่ได้ทำอย่างผู้อื่นท่านได้สมัครเข้ารับราชการโดยได้อยู่ในสังกัด ทหารเสนารักษ์ หรือหน่วยแพทย์และจากการที่ท่านได้เป็นทหารเสนารักษ์นี่เองทำให้ท่านรู้จักยาแผนปัจจุบันและใช้รักษาร่วมกับยาแผนโบราณในเวลาต่อมา หลังจากรับราชการทหารราวสองปี เมื่อหมดวาระท่านก็ได้ไปสอบบรรจุเป็นตำรวจในสมัยนั้นตามที่ท่านได้วางแผนการดำเนินชีวิตตั้งแต่ต้นและตลอดเวลาที่ท่านเป็นทหารก็ดีเป็นตำรวจก็ดีท่านได้ศึกษาเรื่องพระเวท โหราศาสตร์และการแพทย์มาโดยตลอดไม่เคยขาด (โดยเริ่มมาตั้งแต่เด็กและเมื่ออายุได้ ๑๙ ปีได้เรียนวิชาโหราศาสตร์จากโหรเพิ่ม นิ่มสว่าง บ้านบางช้างอย่างเต็มตัว)
    ชีวิตของท่านเริ่มเปลี่ยนไปและก้าวสู่ความเจริญก้าวหน้าในทุกด้านมากขึ้น เมื่อท่านได้รับราชการตำรวจ ตลอดเวลาท่านได้เป็นตำรวจท่านปฎิบัติงานด้วยความซื่อตรง ไม่เคยรับอามิจสินจ้างจากผู้ใดและอาจดูแปลกไปสำหรับตำรวจที่ปฎิบัติงานในระดับเดียวกัน บางครั้งมีเหตุต้องไปจับชาวบ้าน ท่านยังส่งคนไปเตือนพวกชาวบ้านด้วยซ้ำไป ด้วยไม่อยากให้ชาวบ้านเดือดร้อน และด้วยความที่เป็นคนตรงเช่นนี้นี่เองเป็นเหตุให้มีการพลิกผันและเปลี่ยนชีวิตท่าน เมื่อครั้งหนึ่งท่านได้ไปจับเอาของเถื่อนของผู้มีอธิพล ทำให้ท่านต้องโดนสั่งย้ายภายใน ๒๔ ชั่วโมง จากกิ่งอำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี ไปอ่างทองเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นการที่ท่านได้ย้ายมาที่อ่างทองก็ทำให้ท่านได้มีโอกาสพบ เกจิอาจารย์อีกหลายท่านและเป็นที่มาของหลวงพ่อโอด
    จ.ส.ต พิทักษ์ ดุษดี

    เมื่อท่านได้ย้ายมาเป็นตำรวจที่จังหวัดอ่างทองนั้นท่านก็ได้สร้างเนื้อสร้างตัวจนกระทั่งสามารถซื้อที่ดินและปลูกบ้านด้วยไม้สักทั้งหลังได้ ขณะเดียวกันท่านได้เปิดบ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลรักษาผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมภาต ชื่ออาศรมพิทักษ์โอสถ รักษาผู้คนหายจากโรคเป็นจำนวนมากถึงขนาดที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า หมอตำรวจเลยทีเดียว ข้าพเจ้าได้พบบันทึกการรักษาของหลวงพ่อซึ่งบันทึกไว้อย่างละเอียดมาก ไม่ว่าจะชื่อที่อยู่ อาการ การรักษา เงินที่ผู้ป่วยให้และพร้อมรูปถ่ายประกอบอีกด้วย
    ขณะที่ท่านอยู่จังหวัดอ่างทองนั้นท่านได้มีโอกาสรู้จักท่าน พระเทพสังวรญาณ (สนิท ถิรสินิทโธ) วัดศีลขันธาราม เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต) ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นคนบางน้ำเปรี้ยว คนแปดริ้วเหมือนกันทำให้ทั้งสองท่านสนิทกันอย่างมาก และที่อ่างทองนี่เองเป็นที่ๆท่านได้เริ่มศึกษาตำราพระเวทต่างๆจนเชี่ยวชาญ จากบันทึกที่ท่านได้เขียนไว้ตามหนังสือและตำราที่ท่านได้เรียนพบว่าท่านได้เริ่มเรียนวิชา ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๖ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือท่านสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง ๑๕ วันก็จบคัมภีร์ปถมังวรรคแรก และใช้เวลา ๒ ปีก็เรียนจบถึงคัมภีร์มหาราช คัมภีร์ที่ท่านเรียนทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดและสูงสุดของการเรียนสายพระเวททั้งสิ้น แล้วเหตุใดข้าพเจ้าจึงว่าท่านเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วก็เพราะข้าพเจ้าได้เรียนคัมภีร์เดียวกันจากท่าน แต่ยังใช้เวลาแรมเดือน อย่าลืมว่าท่านมีงานตำรวจ งานรักษาคนไข้ ซึ่งการที่จะเรียนและท่องตำรา ต้องใช้สมาธิอย่างมาก ขณะที่ท่านได้เริ่มเรียนนั้นข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านได้แรงบัลดาลใจในการเขียนผงต่างๆจาก พระครูจันทรโพธิคุณ (หยวก) วัดโพธิ์เกรียบ ต.สามง่าม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง แต่ยังเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองแต่หลังจากนั้นก็น่าจะได้รับความเมตตาจากพระครูหยวกในการแนะนำวิธีการเขียนผงตามคัมภีร์ปถมัง อิถธิเจ ตรีนิสิงเห มหาราชและปถมังวรรค ๙ ท่านยังได้รับกระดานชนวนของพระครูหยวก ซึ่งท่านได้ใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้และคาดว่ากระดานนี้อายุน่าจะเกือบร้อยปีทีเดียว ระหว่างที่ท่านศึกษาวิชาคัมภีร์ผงนั้นท่านยังได้รับคำแนะนำวิชาอาคมจาก พระราชสิงหคณาจารย์ (แพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ตามหลักฐานที่เป็นรูปถ่านงานไหว้ครูปี พ.ศ. ๒๕๑๒ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าท่านได้รับความเมตตาจาก หลวงพ่อแพ พระครูหยวก หลวงพ่อสนิท เป็นอื่นไปไม่ได้เพราะเหตุที่การเดินทางที่ลำบากการเดินทางไปมาหาสู่กันสมัยนั้นลำบากอย่างมาก การที่พระเกจิหลายรูปจากต่างที่จะมาเจริญพุทธมนต์ยังบ้านฆารวาสหนุ่มนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
    พระเกจิคณาจารย์ที่มาร่วมงานไหว้ครูที่บ้านอาศรมพิทักษ์โอสถ ปี พ.ศ.๒๕๑๒
    พระราชสิงหคณาจารย์ (แพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    พระเทพสังวรญาณ (สนิท ถิรสินิทโธ) วัดศีลขันธาราม เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต) ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    พระครูจันทรโพธิคุณ (หยวก) วัดโพธิ์เกรียบ ต.สามง่าม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    นอกจากพระเกจิที่ได้เห็นนี้แล้ว ยังมีอีกท่านหนึ่งคือ เจ้าคุณนรฯ พระภิษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมมวิตกโก ภิขุ) ที่อ้างว่าเกี่ยวข้อง ก็เนื่องมาจากเจ้าคุณสนิทนั้นสนิทสนมกับเจ้าคุณนร ท่านได้เข้าออกวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เป็นประจำเนื่องก็เพราะท่านได้คอยติดตามและรับใช้ท่านเจ้าคุณสนิท และยังเป็นเรี่ยวแรงในการช่วยท่านเจ้าคุณสนิทสร้างสมเด็จสายรุ้งและพระพิมพ์อื่นๆอีก เช่นปี พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นต้น ท่านเป็นผู้ช่วยจัดสร้างและเรียกได้ว่าอยู่เบื้องหลังของสมเด็จสายรุ้งในขณะนั้น แต่เรื่องการเรียนพระเวทนี้ยังมิอาจหาหลักฐานได้แต่ก็เข้าใจว่าน่าจะได้รับคำแนะนำอยู่บ้างเนื่องด้วยได้เข้าออกวัดเทพศิรินฯเป็นประจำพร้อมเจ้าคุณสนิท
    หินลับมีดนี้คือพิมพ์พระ ที่หลวงพ่อแกะเองกับมือ ค้นเจอที่พระประธานหลังห้องทำงานและได้รับการยืนยันจากบุตรชายของท่านว่าเป็นพิมพ์พระที่ท่านแกะสมัยเป็นฆารวาส ในสมัยนั้นท่านค่อยๆบรรจงแกะแล้วเอาดินน้ำมันกดดูพิมพ์แล้วก็ใช้เหล็กแทงแกะพิมพ์อยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้พิมพ์พระที่ต้องการ
    ถึงปี พ.ศ.๒๕๒๖ หลวงพ่อได้ตัดสินใจลาออกจากราชการตำรวจและทำการขายทรัพย์สินทั้งหมดที่จังหวัดอ่างทองแล้วกลับมาซื้อที่ดินปลูกบ้านกับคู่ชีวิตของท่านที่บ้านเกิด เนื่องจากเรื่องปัญหาสุขภาพแล้วยังมีเรื่องที่ท่านเป็นห่วงคู่ชีวิต ก็เนื่องด้วยหากตัวท่านเป็นอะไรไปแล้วคู่บุญของท่านจะลำบากเนื่องจากจังหวัดอ่างทองมิใช่บ้านเกิดและภรรยาท่านก็ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่นั้นเลย แม้ท่านจะทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าจากการตรวจดูดวงชะตาตั้งแต่ก่อนอยู่กินกับภรรยาท่านว่า ภรรยาท่านจะต้องเสียชีวิตก่อนท่านก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามท่านก็ยังทำหน้าที่ของคู่ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ และเหตุผลประการสุดท้ายท่านได้ทำนายดวงชะตาของท่านว่ามิอาจได้ดีในอาชีพข้าราชการตำรวจแต่ต้องอยู่ในอาชีพที่มีคนกราบไหว้ เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากราชการแล้วย้ายกลับมาอำเภอพนมสารคามเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
    ครั้นเมื่อย้ายกลับมาสู่อำเภอพนมสารคามท่านก็ได้ใช้ชีวิตโดยเงินบำนาญตำรวจและก็เป็นโหราจารย์ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาเสมือนหนึ่งว่าเตรียมความพร้อมเพื่อรอเวลาอะไรสักอย่าง ท่านยังถือการครองผ้าขาวดังเช่นพวกพราหมณ์เป็นนิจและยังคงแยกห้องนอนกับภรรยาเพื่อรักษพรหมจรรย์ดังเดิมเหมือนสมัยครั้งยังอยู่จังหวัดอ่างทอง

    แล้ววันหนึ่งก็มาถึงหลวงพ่อได้บวชครั้งแรก (ประวัติช่วงนี้ขาดหายไปไม่สามารถหาราบละเอียดประกอบได้) บวชได้อยู่สักระยะก็มีเหตุที่ทำให้สึก แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นท่านก็ได้กลับมาสู่เพศบรรพชิตอย่างถาวร (ส่วนนี้ได้มีผู้เรียบเรียงให้หลวงพ่อแล้วข้าพเจ้าได้ค้นเจอเอกสารที่พิมพ์ไว้แต่เห็นว่ามีสมบูรณ์บางส่วนและบางส่วนได้พรรณเกินไปอยู่บ้าง จึงขอเรียบเรียงขึ้นใหม่ให้กระชับและถูกต้องยิ่งขึ้น)

    วันหนึ่งก่อนเข้านอน ท่านได้สวดมนต์ไหว้พระตามปกติและตั้งจิตอธิฐานเกี่ยวกับการอุปสมบทเมื่อท่านหลับไปก็ได้ฝันว่ามีตายายสองคนมาหาแล้วบอกว่าให้ท่านอุปสมบทและช่วยสร้างอุโบสถหลังใหม่ให้เสร็จ (พระอธิการพรได้สร้างไว้มีเพียงฐานตอหม้อ) เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไป หลังจากนั้นอีกประมาณ ๒ ถึง ๓ วันขณะที่ท่านนอนหลับอยู่ก็ฝันว่ามีกำแพงใหญ่ขวางหน้าอยู่ด้านหลังกำแพงมีช้าง ๑ เชือก มันชูงวงข้ามกำแพงตรงมาหาท่าน ท่านตกใจตื่น และในคืนถัดมาหลวงพ่อก็สวดมนต์ไหว้พระและตั้งจิตอธิฐานอีกครั้ง พอตกดึกก็ฝันอีกว่า กำลังสวดมนต์ไหว้พระด้วยเทียน ๓ เล่ม (นี่กระมังเป็นเหตุให้ท่านแนะนำข้าพเจ้าไหว้พระด้วยเทียน ๓เล่มเสมอ) ท่านชิ้นิ้วไปที่เทียนเล่มแรกแล้วไฟก็ติด ก็เลยชี้ไปที่เทียนอีกสองเล่มที่เหลือปรากฎว่าไฟก็ติดเหมือนกัน พอเอาความฝันทั้ง ๓ มาพิจารณา ก็น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจอุปสมบทโดยไม่บอกกล่าวให้ผู้ใดรับรู้ ท่านได้อุปสมบทวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๓ ณ วัดหนองเค็ด โดยมีพระครูโอภาสมณะวัตร ซึ่งเป็นเพื่อนกับท่าน เป็นพระอุปปัชฌาย์หลังจากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่วัดเตาเหล็ก โดยขณะนั้นที่วัดเตาเหล็กไม่มีพระอยู่จำพรรษาเลย ท่านจึงอยู่เพียงรูปเดียว หลังจากนั้นท่านก็เริ่มหาทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่ที่ต้องหยุดชะงักไป จนเสร็จสมบูรณ์ได้วิสุงคามสีมาในปี พ.ศ.๒๕๔๔ (จากคำบอกเล่า ข้าพเจ้าจำได้ว่าอุโบสถหลังใหม่นี้ได้มาด้วยวิชาโหราศาสตร์) เรื่องมีอยู่ว่ามีนักการเมืองคนหนึ่งมาให้ท่านตรวจดวงชะตาและท่านตรวจดูดวงชะตาและทำนายว่าจะไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่นักการเมืองท่านนั้นไม่เชื่อ โดยท่านบอกว่าถ้าไม่เป็นไปตามที่ท่านบอก ต้องมาช่วยท่านสร้างอุโบสถ แล้วผลการเลือกตั้งก็ออกมาเหมือนที่ท่านทำนายก็เป็นเหตุให้มีเงินมาสร้างอุโบสถจนแล้วเสร็จนั้นเอง หลังจากที่หลวงพ่อท่านได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างบริหารอย่างดีเยี่ยมก็ทำให้วัดเตาเหล็กแห่งนี้เจริญอย่างไม่มีผู้ใดทำได้มาก่อน ตลอดเวลาที่ท่านได้ครองเพศบรรพชิตท่านก็ทำให้ผู้คนและพระด้วยกันยอมรับในความสามารถ โดยเฉพาะเรื่องมนต์พิธีต่างๆที่มีเสียงลือหนาหูว่าหลวงพ่อโอดนั้นเก่งมนต์อย่างมาก ถึงขนาดพระหลายรูปต้องรู้สึกระอายปนสงสัยและคลางแคลงใจ แต่ในที่สุดเพชรก็คือเพชร ทุกสิ่งก็ประจักษ์แก่สายตาท่านเหล่านั้นจนมิกล้าพูดสิ่งใดอีกเลยในกาลต่อมา หลวงพ่อโอดเป็นพระที่ทำการต่างๆอย่างถูกต้องไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังเหมือนครั้งที่เป็นตำรวจ แม้เรื่องกฐินท่านก็ทำอย่างถูกต้องในด้านวินัยอันละเอียด ตั้งแต่จำนวนพระในวัดการหาเจ้าภาพและการครองผ้า ท่านให้ความสำคัญและการเคร่งวินัยเหล่านี้มากก็เพื่อที่จะให้ผู้ที่ได้ทำบุญได้ผลบุญกุศลอย่างมากที่สุด เรื่องผ้ากฐินนี้ท่านสั่งกำชับพระในวัดจนวันสุดท้ายก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ชลบุรี หลวงพ่อโอดท่านมักสั่งสอนลูกศิษย์ให้เข้าใจถึงหน้าที่ เข้าใจถึงชีวิตในแง่มุมต่างๆท่านมักบอกเสมอว่า “เกิดมากำมือ ตายไปก็แบมือท้ายสุดเอาอะไรไปได้บ้าง”

    หลวงพ่อโอด วัดเตาเหล็ก ลบผงคัมภีร์มหาราชในพิธีพุทธาภิเษก พระบูชาดวงพิชัยสงครามและกุมารทองเจ้าทรัพย์

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ณ พระ อุโบสถ วัดเตาเหล็ก อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

    ปี พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นปีที่ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและเป็นปีที่ถือกำเนิดกุมารเก่งเฮงเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นแม้จะมีชื่อเสียงอย่างไรท่านก็ยังเป็นหลวงพ่อโอดคนเดิมของพวกเราเสมอ มิเคยเปลี่ยนไปเลยสักนิดภายนอกท่านดูเป็นคนที่ดุแต่แท้จริงแล้วท่านเป็นคนใจดีอย่างมากและมีความเมตตาอย่างสูง ลาภสักการะที่ได้จากกิจการงานต่างๆท่านก็ทุ่มเท เพื่อสร้างวัดไม่ว่าจะเป็นเมรุไร้มลพิษ หรือการสร้างศาลาการเปรียญหน้ากฎิท่านเพื่อให้ญาติโยมได้สะดวกต่อการทำบุญทำทานเหล่านี้เป็นคุณประจักษ์ไปทั่ว

    บั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อตลอดปี พ.ศ.๒๕๕๔ ท่านได้ดูดวงชะตาตัวเองมาตลอดและเริ่มรู้ว่าใกล้เวลาของท่านแล้วแต่ท่านก็พยายามดูแลสุขภาพอย่างดีที่สุดด้วยตนเองโดยมิหวังพึ่งพาให้ผู้ใดมาดูแล แม้ขณะนั้นท่านจะมีบุตรและธิดาคอยเอาใจใส่ อย่างไรก็ตามท่านก็ไม่ได้รอแต่จะพึ่งเพียงบุตรและธิดาก็หาไม่ ท่านปรารภเสมอๆว่า เดี๋ยววันที่เทานั้น วันที่เท่านี้ดาวดวงนั้นมันจะย้ายราศีแล้วนะแต่ท่านก็ไม่ได้บอกกับผู้ใดโดยตรงสักคน กระทั่งท่านเข้ารับการรัษาตัวที่โรงพยาบาล ชลบุรีและได้จากไปด้วยอาการติดเชื้อในปอด นั้นเป็นการจากไปของบุคคลที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้เป็นแบบอย่าง ไม่ว่าท่านจะครองชีวิตอยู่ในเพศฆราวาสหรือบรรพชิตก็ตาม

    ที่มา: หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ

    พระครูสถิตญาณคุณ (พิทักษ์ ฐิตญาโณ)

    โดย จิตรพงษ์ ศรีสวัสดิสีโลดม
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    หนุมาน วัดเตาเหล็ก

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  19. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,020
    สวัสดียามเที่ยงครับบบบบบบ พี่ตี๋ คุณโอ๊ต คุณเอ๋ คุณเอ็ม ^__^

    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    ryan boy, kraisorn_pithsanulok, ddd445, oatlovetong
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    สวัสดีครับพี่บอย

    ไม่สบาย ดีขึ้นหรือยังครับ จะเที่ยงแล้ว หาไรทานกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...