ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

....................................
๑. ปลอมเยอะ..มานานแล้ว(มากกว่า ๔๐ ปี)..
๒. พิมพ์เนื้อ..ธรรมดาๆ(มั้ง)
๓. ของจริงๆ..และ..ที่ีท่านทำจริงๆ..มีน้อยมาก..ในตลาด..ที่เห็นๆ..ส่วนใหญ่..ไม่ใช่ของท่าน..และ..ของปลอมเป็นส่วนใหญ่
..ของใคร..ไม่ทราบ..

 

หลวงปู่โต๊ะ ผมมีนางพญา ปี 2472 องค์เดียว เพราะราคาถูกสุด เหมาะกับรายได้น้อยอย่างผมครับ

 

ดูยังไงครับคุณลุง ... ถ่ายรูปมาให้คุณลุงดูคร่าวๆ ได้มั้ยครับ ?

 

.............................
...โอ้ย..อย่างนี้..ถือว่าเจ๋งเลย..ใครมีพระหลวงปู่โต๊ะ..ก่อนยุคอินโดจีน..นี่ก็ยอดเยี่ยมแล้ว..หายาก
..ไม่ต้องไปสนใจ..ค่านิยม..เอาพุทธคุณเป็นหลัก..และ..ไม่ต้องปล่อยให้ใคร..เป็นมรดกไป...
...ช่วงนั้น..ท่านยังหนุ่ม..ยังฟิต
......................................
.....ดีใจด้วย...อายังไม่มีเลย..น่าอิจฉา..
..ไปถามนักเลงพระรุ่นเดอะ..ซิ..ระหว่างปลดหนี้..กับ..รุ่นนี้..เขาจะเลือกอะไร..
..ปลดหนี้..มีกะตังค์..ก็หาได้..พระวิ่งในตลาดเพียบ..แล้วก็ดูกันขาด.....
..รุ่นเก่า..มีที่มาชัดเจน...จะไปหาที่ไหนละ...
..มีกะตังค์..เป็นแสน..ก็หาไม่ได้..ถึงได้มา..ก็ไม่รู้ว่า..จริงรึเปล่า...

 

...........................
..ไม่ต้องเอามาให้ดูหรอก..เพียงแต่เป็นที่รู้กันในแวดวง..มานานแล้ว...ตอนลุงเล่นพระใหม่ๆ..รุ่นเก่าๆ..เขาก็คุยกัน..แบบนี้...
...ของจริง..ไม่เคยเห็น..และ..ลุงก็เคยบอกไปแล้ว
ว่า..ไม่ต้องเอาพระมาให้ดู..ทางจอ..ดูไม่ได้..ตัดสินไม่ได้....

 

..........
..หวัดดี..กำธรน้องรัก..Punthai...หลานสวนพลู..และ..โอ้ตตี้..
รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวของผม...
................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
..................
.....................(^_^)........(*_*)....( '_' ).............
๑. เมื่อ ผม..ยึดถือว่า..พระธาตุ..เป็น..ของจริงแล้ว....
.....ดังนั้น...มันจึงเกิด..ตัวแปร..เพียงแค่.....
.....ก. การพบนั้น..เป็นเรื่องจริง..ไม่ได้จัดฉาก...และ..ฟือเร่อ..ไม่ได้ผิด..แต่..อูม่า..
ที่ตั้งใจจะดัดหลังแก้เผ็ด..ฟือเร่ออยู่แล้ว...เพราะได้ข้อมูลจากข่าวจากหนังสือพิมพ์
..ว่า..การพบ..ครั้งนี้..มีการตรวจสอบเบื้องต้น..และ..มีชื่อ..ฟือเร่อ..อยู่ด้วย..เลยข้อมูล
..มาใช้..โดยปลอมจดหมาย..ขึ้นมาใหม่...ทำเป็นว่า..ฟือเร่อ..แจ้งให้ตัวเองทราบ
ก่อนหน้ามาเป็นปี..อาจปลอมลายมือ..และ..ลายเซ็นขึ้นมาใหม่...ซึ่งไม่น่ายาก
เพราะ ๒ คนนี่..ติดต่อกันเป็นประจำ..มีตัวอย่าง..ลายมือ..ลายเซ็นเพียบ..
..และ..ก็เอาซองจดหมายที่ฟือเร่อเขียนมาในช่วงที่อ้างจริงๆ..มาประกอบ..
หลักฐาน..(ข้อมูล..นั้นในหนังสือพิมพ์ก็มีบอกอยู่แล้วว่า..พบอะไรบ้าง)....
..แล้ว..ก็ไปส่งให้ทางการอังกฤษในพม่า..แบบว่า..หวังดี..และให้ลงดาบไอ้
ฟือเร่อซะ..เพราะแค้นที่หลังๆ..หลอกขายของปลอมบ่อย...ตัวเองก็คงมีโทษ
ไม่มาก..เพราะ..ทำประโยชน์ที่แจ้งข่าวให้...............
.......................................
......ข. การพบนั้น..เป็นเรื่องจริง...ไม่ได้จัดฉาก...แต่..ฟือเร่อ..พอได้รับแจ้ง...
ก็วางแผนล่วงหน้า..ในการที่เอา..ของที่เป้ปเป้พบ..จะเปลี่ยนเอา..กระดูกเผา
โบราณอื่น..สับเปลี่ยนแทน..หรือ..อาจไม่สับเปลี่ยน..เพราะ..พวกกระดูกรุ่นๆนี้
แถวๆนั้น..ของพวกกษัตริย์ต่างๆ..ก็คงได้พบอยู่แล้ว...เอาไปขายให้อูม่าแทน..
แต่เพื่อความน่าเชื่อถือ..จึง..จะติดต่อให้ทางเป้ปเป้..เอาของไปไว้ที่ทำงานตัวเอง
ก่อน(..ที่เล่าไปแล้ว)..จะเป็นหลักฐานสร้างความน่าเชื่อถือ..ให้อูม่า..
....จะสังเกตได้ว่า..ตอนที่ทราบข่าวครั้งแรก..ฟือเร่อ..ก็ถามเป้ปเป้ไปว่า..ผอบ..มีจารึก
..รึเปล่า...ช่วงเวลานั้น..ฟือเร่อ..ก็ได้แรงบันดาลใจอย่างที่ว่า..รีบส่งจดหมาย..ไปให้
อูม่า..เลย..และ..ก็รู้อยู่แล้วว่า..เดี่ยวข่าวต้องลงหนังสือพิมพ์แน่..สร้างความน่าเชื่อถือ
...เพียงแต่..อูม่ามันคงเอือม..ถึงได้รับรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่อมา..แต่..มันก็ไม่ใช่ฟือเร่อ
เป็นคนพบ..มันอาจจะกลัว..โดนหลอกอีก..ก็เลย..ปลอมจดหมาย..ดัดแปลง..ข้อความ
..และ..วันที่ๆเขียนมา..ซะ..แล้วก็ส่งไปให้ทางการ...โดยไม่สนใจจะซื้อของเที่ยวนี้..
..จะแก้เผ็ด..และ..เล่นงานฟือเร่อ..ให้จมดิน........

............................

...ชาวพุทธนานาชาติ..ที่แวะเวียน..ไปที่..สถูป PIPRAHWA

..............................ต่อตอนหน้า............

 

ขอบคุณความรู้ดีๆครับ

 

ติดตามคุณลุงเช่นเคยครับ

 

สวัสดีครับคุณอา modpong ติดตามอ่านต่อครับ..ขอบคุณครับ

 

เซียนพระ ชื่อฮง วุฒากาส ที่อำลาวงการ เช่ามาปล่อยให้ผมครับ เขาบอกว่า หลงอยู่ในเซ็นทรัล พระราม 2 อยู่ สามสี่องค์ เจ้าของแผง ไม่รู้ว่านางพญาที่ไหน เช่า มา 800 บาทครับ แล้วเขาก็เปิดหนังสือรวมพระหลวงปู่โต๊ะให้ดู ก็ใช่เปะๆ เป็นคล้ายๆเนื้อดิน ออกส้มๆแดงๆ ตาฮง นี่เป็นศิษย์หลวงปู่โต๊ะเลยครับ แกเล่าเรื่องตอนหลวงปู่โต๊ะมีชีวิตบ่อยๆ แกบอกว่า ท่านรู้วาระจิตหมดทุกคน ใครขึ้นกุฏิมา คิดไม่ดี ท่านไล่ไปเลย ท่านดุ แกบอกอย่างนี้ครับ มีอยู่หลายรุ่น แกเป็นกรรมการจัดสร้าง มาตอนนี้เหลือไม่กี่องค์ เพราะแกเซียนพระ ขายแทบเกลี้ยง แล้วก็เอาตะกรุดหลวงปู่โต๊ะ มาให้ชมอยู่บ่อยๆ บอกว่ารับกับมือ โดนลอบยิง ไม่เข้า แต่โค๊ดของแก ตอกจากข้างในออกมา ไม่ตอกจากข้างนอกเข้าไป แกเลยบอกว่า แกเท่กว่าใคร อิอิ

 

ไอ้เจ้า ฟือเร่อ นี่ต้นตอความยุ่งยากทั้งหมดทั้งมวลจริงๆ

ขอบคุณอาครับ รอติดตามตอนต่อไป

 

................
..หวัดดี..หลานApril..หลานBear..หลานเดิน..หลานสวนพลู..และ..หลานเขม
รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม...
.......................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
......................
...............................................................
....ค. การพบเป็นเรื่องจริง..แต่..ระหว่าง..เมื่อเริ่มขุดค้น..ฟือเร่อร์..เมื่อทราบข่าว..อาจแวะไป
เยี่ยม..เป้ปเป้..เนื่องจากประสพการณ์ของตัวเอง..ทราบว่า..นี่เป็น..สถูปที่ค่อนข้างใหญ่
..อาจมีโอกาศพบ..ของสำคัญมากๆได้..ดั่งที่สมิท..เคยเขียนรายงานไปก่อนหน้านั้น
ร่วมปี..โดยทั้งสองมีข้อตกลงกัน..ถ้าพบอะไร..ให้แอบแจ้งไปทาง..ตนเองก่อน...
และอาจมีข้อตกลงล่วงหน้า..ในการแบ่งปัน..เนื่้องจากระยะห่างจากทั้งสองคน..
ง่ายมากแค่..สิบกว่าไมล์...พอเป้ปเป้..พบ...ก็ให้คนรีบไปแจ้ง..ฟือเร่อ..พอฟือเร่อมาดู..
ก็..มีความเป็นไปได้สูง..เพราะ..เครื่องประดับก็เป็น..ยุคอโศกฯ..แต่เดิม..ผอบใส่พระ
ธาตุนั้น..คงเป็นผอบ..ธรรมดา..เรียบๆ..แบบที่พวกอินเดียพบ..ในปี ๑๙๗๑..แต่..ฟือเร่อ
เล็งผลเลิศ..ต้องการให้..การขุดค้นครั้งนี้ดัง..เป็นข่าว...เพราะทั้งสองคน..ก็จะได้ผล
ประโยชน์ทั้งคู่..คือ..
๑. เป้ปเป้..นักขุดมือสมัครเล่น..ที่แม้ในอินเดียเอง..ยังไม่มีใครรู้จัก..ก็จะมีชื่อเสียง
ไปถึงอังกฤษ..และ..ทั่วโลก..เป็นใบเบิกทางในอนาคต..ต่อไป...อย่างว่าครับ...
..ผมว่า..ไอ้คนที่มีใจรักแต่..ไม่มีวุฒิปริญญา..ความรู้ด้านนี้มาก่อน..อย่าไปคิดเลยว่า
..ระดับ..The ROyal Asiatic Society จะแล...มันก็จะได้มีข่าวมีรูป..และ..มีผลการขุด
เผยแพร่ยิ่งใหญ่.....
๒. ทางฟือเร่อ..หลังๆชักแย่..เริ่มไม่ค่อยพบอะไรที่สำคัญมากๆ..หลายครั้งก็ต้อง
ย้อมแมว..ทางลูกค้าชักไม่ค่อยเชื่อถือ...งวดนี้ถ้าสำเร็จ..เรื่องนี้ดังไปทั่ว..และก็มีชื่อ
ตัวเองปนอยู่ด้วย..ก็จะกลับมากู้ชื่อกับลูกค้า..แถมสินค้าล็อตนี้..ต้องทำกำไรมหาศาล
..และต่อไปๆ..ธุรกิจก็..จะราบรื่น..เครดิตดี..ในอนาคต..ก็ทำเงินอีกมหาศาล...
....................................................
......วิธีที่ว่า..ก็คือ..สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในชมพูทวีป...(นี่แหละที่..นักวิชาการอินเดีย
เอามาอัด)..คือ..การระบุที่ผอบ..เก็บกระดูกว่า...เป็นของใคร...แล้วเขตนี้..มันเป็นเขต
ก่อกำเนิดพุทธศาสนา..อยู่ในแคว้นศากยะ..เครื่องบูชา..ก็เป็นของยุค..พระเจ้าอโศกฯ
....มันก็ย่อมจินตนาการต่อเนื่อง..อาศัยเหตุผล..ประกอบ..กระดูกนี้..ก็น่าจะเป็นของ
พระพุทธเจ้า...แต่ถ้าลำพังมีแค่นี้..เป้นแค่ข้อสันนิษฐาน..มันจะเป็นข่าวได้ยังไง...
ต้องไปผ่าน..ผู้เชี่ยวชาญ..อาจต้องรอส่งไปอังกฤษอีก..แล้วจริงๆคือ..อาจจะเป็นของ
เจ้าชาย..หรือ..กษัตริย์ในวงศ์ศากยะต่อๆมาในยุคหลังก็ได้..หรือ..อาจเป็นของ...
พระอรหันต์..ที่พระเจ้าอโศก..เคารพนับถือ..ก็ได้....ใครจะมาบอกได้..แม้ในปัจจุบัน
.......................................................................
....เพราะ..เราไม่มี..DNA ของพระพุทธเจ้า..ไว้ก่อน..เพื่อมาตรวจสอบ.....
......................................................................
(..นี่แหละที่ผมบอกว่า..ไอ้พวกอินเดีย..ที่มันด่าว่า..การค้นพบครั้งนี้..แหกตา..
..แต่ที่มันมา..ประกาศความชอบธรรมว่า..การค้นพบ..ในปี๑๙๗๑ ของมันนะ..
คือ..กระดูกพระพุทธเจ้า..แท้ๆ...ผมคิดว่า..ถ้าไม่มีการค้นพบครั้งนี้ก่อน..และไม่มี
อักขระ..หลักฐานบอกอะไร..มันจะมีหน้ากล้ามาบอกชาวโลก..ได้ยังไง..ว่า
..ที่มันพบ..คือ..ของพระพุทธเจ้า...แค่รู้เพียงแต่ว่า..เป็นกระดูกเก่ายุค ๒,๕๐๐ ปี..
..กษัตริย์..มเหสี..เจ้าชาย..หรือ..พระอรหันต์ที่มีคนเคารพนับถือมาก..เป็นไปได้ทั้งหมด
......มันก็อาศัย..เครดิต..เครดิตในการขุดครั้งแรก..นั่นแหละ..มาประกอบเรื่อง..
..มาประกอบ..ข้อสันนิษฐาน...แม้จริงๆในปัจจุบัน..นักวิชาการฝรั่งหลายคน..ก็ยังไม่เชื่อ
..........แค่ยอมรับว่า..เก่าจริง...เป็นคนชั้นสูง..ที่มีคนนับถือยกย่อง..จนมีการสร้างสถูปให้..
.....ก็แค่นั้น...........................)

...........................

...นี่คือ..กระดูกที่ถูกเผา..อยู่ในผอบ...ที่อินเดียขุดค้น..อยู่ในชั้นล่างสุดของ
สถูปที่ PIPRAHWA เมื่อ ๑๙๗๑ ...รู้ได้ไง..ว่าเป็นของพระพุทธเจ้า..ไม่ได้มี
เขียนบอกไว้ซะหน่อย...แล้วเที่ยวไปว่า..ของคนอื่น..เป็นปาหี่

............................ต่อตอนหน้า........................

 

ถ้ายอมรับว่าของตัวเองเป็นของปลอม งานเข้าฟือเร่อ แน่ๆ ต้องแถสถานเดียวครับคุณอา

 

ขอบคุณครับพี่ modpong

 

ถึงว่า เขาให้ตีแขก ก่อนตีงู ....

 

..........
..การพิสูจน์ DNA ย้อนหลัง..เก่าที่สุด..ที่ยอมรับได้..ตอนนี้คือ
.....ประมาณ ๕๕๐ ปี..นั่นคือ..กระดูกของพระเจ้าริชาร์ดที่ ๓ ของอังกฤษ
ที่เสีย..ชีวิตจากการรบ..ในสงครามดอกกุหลาบ...เพิ่งขุดเจอเมื่อ ประมาณ
๓ ปี..ที่แล้ว...(กระดูก..พบเกือบทั้งหมด..ยกเว้นข้อมือ..ข้อเท้า..ที่ถูกตัดออกไป )
ข้อพิสูจน์เบื้องต้น...
๑. สถานที่...ใช่....
๒. บาดแผล..ตามข้อมูลประวัติศาสตร์.....ใช่
๓. ข้อมูลร่างกายที่เป็น ..เอกลักษณ์...ใช่..
(..คือ..ท่านมีลักษณะ..กระดูกสันหลังคดงอ ..เปนตัว S .....
..กระดูกที่พบ...ก็..เป็นเช่นเดียวกัน...)
๔. อายุกระดูก..ทดสอบด้วยวิธีคาร์บอน ๑๔....ใช่..
..............................................................
......ขนาดนี้..ฝรั่งชาติมันเอง..ก็ยังไม่เชื่อเลย.....
.......ไอ้ที่บอกมา..นี่ยิ่งกว่า..เศษกระดูก..เผาแล้ว..ไม่กี่ชิ้น...ของไอ้แขก
อินเดีย...ในปี ๑๙๗๑ ....ที่มีข้อมูลอ้างอิงน้อยมาก..เทียบกันไม่ได้....
......พอถึง DNA ใช้วิธี..สืบทอด..ลูกหลานที่..มีประวัติ..สายตระกูลสืบต่อ..อย่าง
ชัดเจน..ทั้งสองสาย..คือ..สายพ่อ..และ..สายแม่...
......กว่า..ที่นักประวัติศาสตร์..จะเจอก็แทบอ้วก..เพราะ..ต้องเช็คไล่สายให้แน่นอน
..กันข้อขัดแย้ง...ได้..ทั้งสองสาย..ประมาณ สายละ ๒ คน...
..คนนึง..สายพ่อ..เปิดเผยตัว..เป็นช่างไม้..สายราชวงศ์ YORK ของพระเจ้าริชาร์ดที่
๓..อยู่ถึง ประเทศ แคนาดา........
...เอา DNA มาเปรียบเทียบ..กัน..ทุกแง่มุม..จนมั่นใจ..ถึงจะประกาศให้..
ราชสมาคมประวัติสาสตร์อังกฤษ..และ..สื่อทราบ...ทางสมาคมฯตรวจสอบกันอีกนาน
...จึงประกาศเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้...............
..........................................
....ทำอย่างี้ซิครับ...ผมถึงจะเชื่อ...แต่มันช้ามาก..ข้อมูลเยอะ...
.......ดังนั้น...เมืองไทยเราถึง..เจ๋งสุด..แป๊บเดียว...พิสูจน์ด้วยวิชาอภิญญา..
...ด้วยฌานสมาบัติ..อันสูงส่งของ..พระมหาเถระ(ยุคโบราณ)..บ้านเรา.....
..........จบเลย...สำหรับ..คนไทยพุทธ...ฝรั่งไม่เชื่อ..ชั่งหัวมัน...

 

สวัสดีครับ..คุณอา มาติดตามอ่านบทความดีๆเหมือนเดิมครับ

 

หายไปหลายวัน เรื่องราวเดินหน้าไปใกลเลยครับ
ต้องค่อยๆอ่าน และคิดตาม
รอติดตามตอนต่อไปครับ
เป็นกำลังใจให้ครับผม

 

.............
..หวัดดี..กำธรน้องรัก..หลานสวนพลู..หลานVes..เฉียวฟงหลานรัก
และ..Orkarรุ่น๑..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม...
...................
..ต่อจากตอนที่แล้ว....
...................
....................................................................
...ดังนั้น..ฟือเร่อ..คิดแผนแยบยล..เพื่อจะให้เรื่องโด่งดังไว...ก็ระบุไปที่ผอบ
ซะเลยให้มันรู้แล้วรู้รอด..ตัวเองเห็น..และ..ศึกษาจารึกภาษาพราหมี...มาอย่างดี
หลายปี..เนื่องจากเครื่องบูชา..เป็นยุคพระเจ้าอโศกฯ..ก็เข้าทางเลย...ที่นี่คือ..
แผ่นดินของศากยะ..เมื่อยุคพุทธกาล..ตัวเขารู้เรื่องพุทธประวัติดี..มันก็ไม่ยากอะไร
..ที่จะแต่งความ..เพราะรู้ว่า..หลังจากการประชุมเพลิง..พระพุทธเจ้า..อัฐิ..ถูกแบ่ง
ออกไป ๑๒ ส่วน..ส่วนนึงแน่ๆ..ก็คือ..ของราชวงศ์ศากยะ..ที่เป็นตระกูลของพระ
พุทธเจ้า....เมื่อเรียบเรียงถ้อยคำแล้ว..ก็ใช้เหล็กแหลม..เขียนลงบน..ผอบ..ซะเลย..
..มันบังเอิญว่า..ผอบเป็น..หินสบู่..เนื้ออ่อน..นอกจากจะเขียนง่าย..จะทำให้รอยนั้น
เก่า..ก็ง่ายด้วย..ก็เอาขี้ฝุ่น..ที่ในโลงหินนั่นแหละ..มาอัดถูลงไปที่รอยเขียนใหม่..
..ความที่เนื้อหินมันนิ่ม...เศษฝุ่นผง..มันก็ฝังลงไปได้ง่าย....แค่นี้..รอยก็เก่าเหลือเฟือ
(..ฝรั่ง..มันยังไม่รู้จักนักปลอมพระเมืองไทยดี..รอยแบบนี้..กระจอกมาก...)
...แล้วก็นัดแนะ..ให้...ไอ้เป้ปเป้..เขียนรายงานการขุดพบ..ไปที่..สมิท..และ..ตัวมัน..
..โดยยังไม่ต้องบอกว่า..พบรอยจารึก..ทำแบบตื่นเต้นดูไม่ละเอียด..ตัวมันเองจะ...
แนะ..ให้เช็คดูว่า..มีจารึกรึอยู่มั่งรึเปล่า...แล้วให้ไอ้เป้ปเป้..คัดลอก..จารึกใส่..กระดาษ
ส่งไปให้..สมิท..เพราะ..สมิท..อ่านได้...ไม่ต้องส่งให้มัน...เมื่อนัดแนะเสร็จแล้ว
มันก็รีบแอบกลับไปที่ๆมันขุดตามเดิม..แล้วให้ไอ้เป้ปเป้..เดินตามแผน....
(..เรื่องการแปล..นั้นผมว่า..มันแยบยลมาก..เพราะ..มันจะไม่เป็นคนแปล....
เพื่อ..จะหลีกเลี่ยงข้อสงสัย..ทำเป็นว่าไม่รู้เรื่อง..เพราะมันรู้ว่า..หัวหน้ามัน..
สมิท..ก็มีความสามารถแปลพอได้....)
..ขณะเดียวกัน..ฟือเร่อ..ก็รีบจดหมายไปบอก..รายละเอียด..สินค้าล็อตใหม่..
ให้ไอ้อูม่า..ที่พม่า..บอกหมดว่า..พบอะไรบ้าง..มีกี่อัน..ผอบมีจารึกด้วย...
....แล้วเรื่องก็เดินตามแผน..คนที่ตื่นเต้นมาก..และ..แพร่ข่าวออกไป..ก็คือ..สมิท..
เพราะ..มันอยู่ในความรับผิดชอบของเขา...แต่ปัญหา..มันมีตอน..หลังจากข่าว
ออกไปประมาณ ๒ อาทิตย์..ฟือเร่อ..มาเยี่ยมดูของที่สถานที่ขุด..และมาชักชวนให้เป้ปเป้
..เอา..ของไปไว้ที่ พิพิธภัณฑ์Lucknow..ที่เป็นออฟฟิศหลัก..ของฟือเร่อ..
...ตอนนี้..น่าจะเกิดมีความเห็นไม่ลงรอยกัน...เป้ปเป้..เกิดไม่ยอม.....
..ผมว่าถ้าเรื่องจะลงตัว..เรื่องการพบ..ครั้งหลังนี่..อาจไม่ถึง ๒ อาทิตย์ดี..พอไอ้
เป้ปเป้..ไม่ตกลง..ฟือเร่อ..ก็คงรีบโทรเลขไปบอกเรื่องนี้กับ..อูม่า..อูม่า..มันเลยยัวะ
ว่า..เอากูอีกแล้ว..หลอกให้ดีใจ..แล้วไม่ได้ของ..ก็เลยดัดหลัง..ไอ้ฟือเร่อซะเลย...
....เรื่องนี้ที่ผมผูกขึ้นมา..มันมีความเป็นไปได้..ค่อนข้างสูงเพราะ...
๑. ตามปกติ..นักโบราณคดี..เจอของที่ยิ่งใหญ่..และอยู่ในสายที่ตัวเองเชี่ยวชาญ
..ไม่ว่าใคร..ก็ต้องรีบไปดู..รู้ข่าววันนี้..พรุ่งนี้ไปดู.....แม้กระทั่งสมิทเอง..พอได้ข่าวจากเป้ปเป้
...ไม่ถึง อาทิตย์..เขาก็รีบไปดู..และก็เอา..รอยอักขระไปแปล..แล้วส่งกลับไปให้...
.......แต่กับ..ไอ้ฟือเร่อ..สายตรง..อยู่ห่างจากที่ขุด สิบกว่าไมล์...แม่-..ไม่ได้ตื่นเต้นเลย
..อยู่แค่นั้น...ปล่อยเวลาผ่านไปเกือบท ๒ อาทิตย์..ถึงจะไปดู...มันไม่สมเหตุสมผล..
...ผิดธรรมชาตินักโบราณคดี..ผิดวิสัยเอามากๆ
๒. ไอ้เรื่องอักขระนี่...ที่นักวิชาการอินเดียมันตี..นี่เถียงมันไม่ได้..ซึ่งจริงๆ..มันผิด
วิสัย..และ..ผิดธรรมชาติ...คือ..
ก. ไม่เคยมีธรรมเนียมของอินเดีย..ที่จะมีการจารึกที่ผอบใส่กระดูกว่า
เป็นของใคร(..อันนี้..ยังพอมีให้โต้ได้บ้าง..ผมจะเล่าทีหลัง..)
ข. อักขระเขียนเพี้ยน..อันนี้..เถียงแทบไม่ออก..เพราะถ้ามีการจารึก..และ..นำ
อัฐินี้..ไปบรรจุ..พระเจ้าอโศกฯ..จะใช้ไอ้ควายที่ไหน..ที่มีความรู้ภาษางูๆปลาๆ..มา
เขียนจารึกเหรอ..มันเป้นไปไม่ได้..คนเขียนก็ต้องเป็นช่างหลวง..ที่ชำนาญการแกะ
สลักความรู้ต้องดี..ภาษาดี...ถ้าเขียนแบบนี้..ก็คงโดนพระเจ้าอโศก..ตัดหัวไปแล้ว...
ค. ไอ้เรื่องนี้..แย่สุดๆ...เพราะ...ลายมือที่บนผอบ..มันห่วยมาก..เส้นหงิกๆงอๆ
เหมือนเด็ก...แถมไอ้นี่มันหินสบู่เนื้อนิ่ม..ขูดลงไปแทบไม่ต้องออกแรง...ก็เป็นรอยแล้ว
..แล้วลองเอาไป..เทียบกับจารึกบนหินทราย..ที่เสาหินพระเจ้าอโศกซิ..เนื้อหินทราย..
มันแข็งกว่าเป็นไหนๆ...แถมตัวหนังสือ..เนี๊ยบมาก..เส้นตรง..เส้นโค้ง..เนียนสบายตา
...คือพูดง่ายๆ..พอเห็นตัวอักขระ..แล้วให้ความรู้สึก..สองอย่างคือ...
๑. รีบเขียน..แล้ว..ทำไมต้องรีบเขียน...ถ้าเป็นการเขียนในยุคนั้นจริงๆ...
..ก็เมื่อ..มีการจัดเตรียมเครื่องบูชา..แล้วมีโลงหิน..เอากระดูก..พร้อมเครื่องบูชา..ใส่ใน
โลงหิน..มันต้องมีการตระเตรียม..มีพิธีกรรม...แล้ว..การเขียนลงไปที่ผอบ..มันน่าจะ
ตระเตรียมล่วงหน้า..นี่มันผลงาน..ของกษัตริย์อย่าง..พระเจ้าอโศกมหาราช..ที่ครองทั้ง
อินเดีย..มีพื้นรวมกัน..มากกว่า..ทวีปยุโรป......
.........แล้ว....ไอ้ลาย..อักขระ..มันออกมากระจอก..ขนาดนี้เหรอ......
๒. หรือ..เพราะไอ้คนที่เขียน..คือ..คนที่..ไม่ใช่ช่างแกะสลัก...เป็นคนงานธรรมดา
ความรู้แค่พออ่านออกเขียนได้..หรือ..อย่างไอ้ฟือเร่อร์..ไม่ได้ท่องแถ้ใน..ภาษา..
..นอกจากจะเขียนผิดๆถูกๆ..ยังเขียนลายมือให้สวย..ไม่เป็น...
.........มันไม่สมเหตุ..สมผล..จริง...ๆ............

.................

.................

..ลองดูเอา..ข้างบน..วัสดุหินสบู่..อ่อนพอๆกับ..หินอ่อน...แกะสลักง่ายมาก..
...ตัวหนังสือ..เส้นสาย..ยังหงิกไป..หงิกมา..เหมือนเด็กเขียน...
...อันล่าง...วัสดุหินทราย..แข็งเป๊ก..แบบเดียวกับ..ที่ใช้สร้างปราสาทหินบ้านเรา
( อันนี้..มากจากเสาหินพระเจ้าอโศก..ที่พระองค์ให้ช่างเขียน..บัญญัติต่างๆไว้)
....เรียบร้อยกว่ากันเยอะ..แถมสลัก..ทั้งต้นเลยง...

..........................ต่อตอนหน้า..........................

 

ติดตามเรื่องดีๆต่อครับ..