ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

รอติดตามตอนต่อไปครับ

 

ขอบคุณครับพี่ มารออ่านตอนต่อไปครับ

 

ไม่อยู่เมืองไทยเสียหลายวัน กลับมาต้องไล่อ่านย้อนหลังหลายตอนเลย

กำลังเข้าไคลแม็กของเรื่อง

ต้องติดตามและจะติดตามอย่างต่อเนื่องครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความดีๆ มีคุณภาพเช่นนี้ ที่หาอ่านที่อื่นไม่ได้
ยิ่งยุค internet มีแต่ก๊อป แอนด์ เพสต์ๆๆๆๆ จนหาต้นแหล่งไม่เจอ และมีแต่
ข้อความซ้ำๆ แสดงว่าคนยุคนี้ไม่มีการค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่กันเลย นอกจากไม่หา
ความรู้ใหม่แล้ว ยังไม่มีการคิด วิเคราะห์อย่างที่พี่ modpong ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

 

สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามอ่านบทความดีๆตอนต่อไปครับ

 

.............
..หวัดดี..หลานเดิน..หลานApril..น้องThong..กำธรน้องรัก..และ..เฉียวฟงหลานรัก
..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม....
............................
..ต่อจากตอนที่แล้ว.........
..........................
.................................................................
.........หลายท่าน..สงสัยแล้ว..เวลาฟือเร่อร์..มันบอกอะไร..บางอย่าง..หรือ..
การยืนยันว่า..แท้แน่...แล้ว..อูม่า..มันยังเสือกเชื่อ..อยู่ได้ยังไง.......
.......อย่าแปลกใจครับ...เพราะ..ฟือเร่อ..นั้นมีชื่อเสียง...และ..มีผลงานดังหลายอย่าง
โดยเฉพาะ..เรื่องประวัติศาสตร์..การขุดค้น..ที่เกี่ยวข้องกับ..พระพุทธศาสนา...
...แกได้เป็น..ผู้อำนวยการที่พิพิธภัณฑ์..ที่Lucknow..มาตั้งแต่ปี..๑๘๘๕ และ..ขณะ
เดียวกัน..ก็ทำหน้าที่..หัวหน้าสำรวจขุดค้น..ในแถบอุตระประเทศ..ที่ๆมี..โบราณสถาน
ทางพุทธศาสนา..มากมาย..ถึง..มากที่สุด..พอๆ..กับในเนปาลเลย...แกเอง..ตั้งแต่ปี..
๑๘๙๓ ก็เริ่มเข้าไปสำรวจ..และ..ขอทางการเนปาล..ขุดค้น..เข้าไปใน..เนปาลหลายครั้ง
..ไปสำรวจ..แม้แต่ที่..ลุมพีนีวัน..ทำให้มีชื่อเสียง....
..............แต่พอหลัง..เรื่องสืบสวนที่..PipRAhwa..แล้ว...เรื่องเก่า..ของแกหลายเรื่อง
ก็ถูกรื้อฟื้นมา..เรื่องไปก็อบปี้..จารึกอักขระพราหมียุคพระเจ้าอโศก..ลงในแผ่นศิลา..
เอาไปขาย..และ..ยังมีเรื่องเอาผลงาน..หรือ..รายงานที่คนอื่นทำไว้..แต่ไม่ได้ส่ง..เอา
มาเป็น..ผลงานตัวเองอีก....
......ก็คิดดูเอา..หลังจากถูกไล่ออกไปแล้ว..แกก็กลับไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์...ไม่ได้ยุ่ง
กับ..พุทธศาสนาอีก..และ..ไม่ได้กลับมาอินเดียอีกเลย....
.......แล้วไอ้เรื่อง..แก.ก็อปปี้..จารึกพราหมี..นี่แหละเลย..เป็นประเด็น..
ทำให้นักวิชาการอินเดีย..และ..ฝรั่งบางท่าน..เอามาโจมตีว่า..จารึกที่ผอบ..นี่..อาจเป็น
ไปได้ว่า..ฟือเร่อร์..อาจจะเขียนเอง...เพราะเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว...
..............คนมันชื่อเหม็นซะแล้ว..ไม่ว่าอะไรก็โยงไปได้หมด...ปัญหาคือ..ถ้ามันเหม็น
กับเรื่องอื่น..คนอื่น..เราก็ไม่สน..แต่มันยังเสือก..มีกลิ่นมาติดกับเรื่อง..พระธาตุที่เราได้มา
...........................................................................
.......จะบอกให้ว่า..แม้ในปัจจุบัน...พ.ศ.นี้...ไอ้พวกนักวิชาการฝรั่งที่มีชื่อเสียง..มากกว่าครึ่ง
(ถ้าของแขกอินเดียละ..เกือบทั้งหมดมั้ง..ผมว่านะ..)..เชื่อว่า..พระอัฐิธาตุ..ที่เราได้รับมา
ครั้งนั้น....เป็น..ของปลอม...ไม่ใช่ของ..พระพุทธเจ้า..การขุดค้นครั้งนั้น..คือ..ปาหี่...
....................................................................................
....คราวนี้..มาถึง..ผมทำหน้าที่..นักสืบยุคปัจจุบัน........
ผมก็จะเรียง..สิ่งที่เป็นข้อมูลแน่นอน..ซะก่อน........
....อย่างแรก...ผมถือว่า..พูดไปแล้ว..วิเคราะห์ไปแล้วก่อนหน้าว่า...พระธาตุชุดนี้..เป็นของแท้..
พิสูจน์แล้วโดย..ยอดคณาจารย์..เถระชั้นสูง..และเป็นพระอภิญญา..ของสยาม.......
....อันนี้เป็น..ประเด็นหลัก..ที่ใช้วิเคราะห์เรื่องราว..ที่จะวิเคราะห์ต่อไป.....
.............................................
...ฟือเร่อ..เป็นนักวิชาการ..ที่ทำมาหาแด-...ไม่พอความต้องการ..มีการลักลอบซื้อขายวัตถุโบราณ
เถื่อน..และ..ลักลอบ..นำออกนอกประเทศ..เป็นเวลานาน...ซึ่งอันนี้มีหลักฐานในการสืบสวน
ของอังกฤษ..ก็ทำนองว่าเจ้าตัวยอมรับ...และถูกไล่ออกในที่สุด.......
..........................................
...ฟือเร่อ..กับ..พระอูม่าชาวพม่า..รู้จักกันดี..และ..ทำธุรกิจร่วมกันมา..ก่อนหน้า..เรื่องจะเกิด..ไม่
น้อยกว่า ๒ปี..จาก..หลักฐาน..จดหมายที่ติดต่อ....เพราะไม่งั้น..ทางพม่าคงไม่ส่งเอกสารนี้มา
..และ..ทางพระอูม่าก็ต้องถูกสอบสวนมาก่อนหน้าแล้ว...
...........................................

.........................

..ผมเอาตัวอย่าง..ตำแหน่งสถูป..ที่ยังไม่ได้ทำการขุดค้น..ที่เมืองTILAURAKOT
หรือ..กบิลพัสดุ์ของเนปาล...ซึ่ง...มันก็จะคล้ายๆกับ..ที่PIPRAHWA...เป็นเนินดินเตี้ยๆ....มองปุ๊บ..ก็รู้ได้เลย...ว่าข้างล่างเป็นสถูปแน่...เพราะ..มันเป็นที่ลุ่ม...พื้นโดยรอบ..ทั่วไป..จะราบ....

......................ต่อตอนหน้า.....................

 

.............
..หวัดดี..ทุกคนในครอบครัวผม...
.........................
ต่อจากตอนที่แล้ว..
........................
...........................................................
...พื้นที่แถบPiprahwa..อุตตระประเทศ..ยันไปติดชายแดนนี้..เป็นพื้นที่..ทำงานของเขาอยู่แล้ว
..เขารู้จักพื้นที่แถบนี้..ดี..และ..รู้จักเนินดิน..ที่เปิดมาเป็นสถูปนี้ดี..เป็นเป้าหมายในการขุดค้น..
มาตั้งแต่..ต้นปี ๑๘๙๖..แล้ว..เนื่องจาก..วินเซนต์ สมิท..เจ้าหน้าที่ปกครอง..ที่ดูแลแถบนี้...
..และ..ประสานงาน..และ..ฟือเร่อ..ก็ทำงานอยู่ใต้เขา..เคยเสนอ..รายงานลงใน..The Royal
Asiatic Society...ว่า..เขาได้มาสำรวจ..แถบนี้ก่อนหน้านั้น(..ก็มีฟือเร่อ..ร่วมอยู่ด้วย)..และ..
คาดว่า..เนินนี้..น่าจะเป็นโบราณสถานสำคัญ..ของ..ราชวงศ์ศากยะ.แห่ง..กบิลพัสดุ์...เพราะ
มีหลักฐานประกอบหลายอย่าง..หลายประการโดยรอบ..ก็วางเป้าไว้..รอการขุดค้นต่อไป...
ตั้งแต่..ต้นปี ๑๘๙๖.......
...................................................
...เครื่องประดับ..วัตถุมีค่า..รวมถึงเหรียญทอง..ทั้งหมด...ที่พบ..พร้อมๆกับพระธาตุ...ที่เก็บ
ไว้โดยเป้ปเป้..แล้วตกทอดมาถึง..หลานเขานั้น..ได้รับการตรวจสอบยืนยันว่า...เป็นของใน
ยุคพระเจ้าอโศกมหาราชจริง.....(..เป็นที่น่าสงสัยว่า...วัตถุอื่นนอกจาก..พระธาตุ...ไม่ได้..มี
เหลือเก็บไว้..นอกจากผอบที่มีลายจารึก..แต่ไม่ได้โชว์..เก็บไว้ในตู้(..กล่อง..ใส่ของมีค่าอื่นๆ
..ไม่รู้ว่า..เก็บไว้ที่เดียวกัน..รึเปล่า..หรือ..อาจไม่ได้เก็บ..รวมถึง..พวก..เครื่องประดับ..ที่พบ
..ก็..ไม่รู้เอาไว้ไหน..แต่ก็ไม่ได้ออกมาวางโชว์เหมือนกัน..หรือ..อาจจะ..เปลี่ยนรูปไปแล้ว
....หรือ..อาจจะยกให้เป้ปเป้หมด..ก็ไม่ทราบ..จะได้ไม่มีหลักฐานอะไรไว้..ให้มาสืบสาว
เอาความ...).........รวมถึงโลงหินทรายด้วย..แถม..โลงหินทรายนั้น..อินเดีย..เก็บไว้ภายนอก
อาคาร..ปะปน..กับวัตถุโบราณ..ทั่วไป...
...............................................
...ผลของเรื่องนี้..เมื่อไม่สามารถ..คาดคั้น..เอาผิด..หรือหาหลักฐานอื่นมา..ยืนยันว่า..
..เป้ปเป้..ร่วมมือ..กับ..ฟือเร่อ..หรือเปล่า..แต่ก็ทำให้..เป้ปเป้..อยู่ในแบล็คลิสต์..เป็นบุคคล
ผู้ต้องสงสัย..ต้องจับตา...ถูกห้ามไม่ให้ทำการขุดที่อื่นอีก..ต้องทำไร่ไปอย่างเดียว....
ชื่อเสียงที่ควรจะได้รับเต็มที่..เมื่อกลับไปอังกฤษ..ก็ไม่ได้เต็มที่..แม้จะบริจากของที่พบ
บางส่วน..ให้กับทาง..The Royal Asiatic Society ก็ตาม..เพราะ..เรื่องฉาวโฉ่..ที่เคลียร์ตัวเอง..
ไม่ได้..แม้ไม่ว่า..ใครจะมาถามเขา..เขาจะยืนยันความบริสุทธิ์..ตลอดมา....
................................................
......ผมเอาจุดนี้มาเขียนอีกครั้งเพราะกล่าวไปก่อนหน้านี้นานแล้วคือ..เรื่อง..ฟือเร่อ...
เดินทางไปหา..เป้ปเป้..หลังจากการพบ ๒ อาทิตย์ถัดมา..และ..แนะนำ..ให้เป้ปเป้..
เอา..ของทั้งหมดที่พบ..ไปเก็บไว้ที่..พิพิธภัณฑ์เมืองLucknow..ก่อน..แต่เป้ปเป้...
ไม่ยอม..และยืนยัน..ที่จะนำของ..ไปให้ทางการโดยตรงไปเลย.....
...คือนอกเหนือ..จากการออกไปขุดสำรวจทางโบราณคดีแล้ว..ตำแหน่งประจำ..อยู่กับที่
ก็ทำด้วย..คือ..เป็นภัณฑรักษ์(..ก็คล้ายๆกับ..ผู้อำนวยการ)..ของ..พิพิธภัณฑ์ที่ Lucknow..นี้เอง
...ดังนั้น...ที่นี่..เป็นที่ทำงานนั่งโต๊ะ..ของฟือเร่อ..และเเป็นสถานที่ติดต่อหลัก(และคาดว่า..น่าจะ
เป็นที่..พักของ..ก่อนลักลอบนำออกนอกประเทศ..ไปขายให้..พระอูม่า..เป็นประจำ)
..................................................
......ที่ พิพิธภัณฑ์ ที่กรุงลอนดอน ...จะไม่มีของที่..พบ..ที่นี่อยู่เลย..และ..จะไม่มีการ
กล่าวถึง..แต่..ของยุคพระเจ้าอโศกฯ..ในบริเวณใกล้เคียงมี......นั่นคือ..ไม่อยากใคร
ทั่วไปเห็น..และ..จะต้องพูดถึง.....

....................

....GANWARIA..เมืองคู่แฝด..ของPIPRAHWA..ที่อินเดีย..อ้างว่า..ทั้งสองเมืองนี้
..(อยู่ใกล้กัน)..รวมกัน..ก็คือ..กรุงกบิลพัสดุ์.ของอินเดีย...ที่เห็นนี่..คือ..ประตูทางเข้า..ส่วนที่น่าจะเป็นพระราชวัง.....

.......................ต่อตอนหน้า...........................

 

2 thumps up.

 

..........
..หวัดดี...น้องthong..และ..ทุกคนในครอบครัวผม...
.............
..ต่อจากตอนที่แล้ว...
.....................
....................................................................
......การขุดสำรวจของนักโบราณคดีอินเดียเองในปี ๑๙๗๑ พบ..เศษกระดูกเผาแล้ว
อยู่ในผอบหินสบู่..แบบเดียว..กับที่เป้ปเป้พบ...ในตำแหน่งที่ศุนย์กลางสถูป....
(จะเห็นว่า..ผมไม่ยืนยันว่า..เป็นพระอัฐิฐาตุ..ของพระพุทธเจ้า)..ซึ่งทำการตรวจสอบ
อายุด้วยวิธีคาร์บอน๑๔..พบว่าอยู่ในยุคสมัย..ของพระพุทธเจ้า....
........................................
.....การขุดค้นของทางอินเดียครั้งนั้น..เป็นการขุดลึกลงไปจาก..ระดับความลึกที่เป้ปเป้
ขุดไว้เดิม...และ..มีการยืนยันว่า...สถูปนี้มีการ..บูรณะเพิ่มเติมอีก...หลังจากยุคพระเจ้า
อโศกฯ...............
.........................................
...จากข้อมูลของ..พระภิกษุจีน..ที่ทำการบันทึก..และ..อ้างอิงตำแหน่ง..จาก..สวนลุมพีนี
ระบุ..ตำแหน่งกรุงกบิลพัสดุ์..เมื่อร่วมๆ ๒,๐๐๐ ปีก่อนนั้น...ทั้ง..หลวงจีนฟาเหียน..
..และ..หลวงจีนซ้วนจาง(พระถังซำจั๋ง)..(หลวงจีนฟาเหียน..มาถึง..อินเดีย..ก่อน ..
หลวงจีนซ้วนจางหลายร้อยปี)..ระบุตำแหน่ง..กรุงกบิลพัสดุ์..ได้ใกล้เคียง..ก็คือ..
ตำแหน่ง..ประมาณเคร่าๆ..ของPIPRAHWA...ซึ่ง..เป็นหลักฐานสำคัญ..ที่อินเดีย
ประกาศให้..ทาง The Royal Asiatic Society..ของอังกฤษ..รับทราบว่า..บริเวณนี้..
คือ..กรุงกบิลพัสดุ์ของจริง..ไม่ใช่..ที่อังกฤษ..เป็นคนพบ..ที่ในเขตของเนปาล...
...และ..ใช้สิ่งนี้..เป็นหลักฐานเป็นทางการ..ต่อมาจนปัจจุบัน..ว่าที่นี่คือ..กรุงกบิลพัสดุ์
...........และเช่นกัน..ที่ทาง..อังกฤษ..กับ..เนปาล..ก็ยังยืนยัน..ว่า..กรุงกบิลพัสดุ์ที่ค้น
พบ..ที่เนปาล..คือ..ของจริง...จนทุกวันนี้
..............................
....จากผลพวง..การการพบ..ในปี ๑๙๗๑...ทางนักวิชาการอินเดีย..ได้ออกมาแสดงความ
เห็น..และ..พิสูจน์ว่า..ลักษณะ..ของจารึกที่ปรากฎอยู่บน..ผอบ..ที่เป้ปเป้พบ..นั้น..เขียน
ไม่ถูกต้อง..มีความเพี้ยน..ในการเขียน..เมื่อเปรียบเทียบกับ..อักขระพราหมีในยุคพระเจ้า
อโศกฯเท่าที่มีอยู่..ทั่วไปในอินเดีย..ในบางส่วน...ซึ่งนักประวัติศาสตร์ทั่วไปยอมรับ
ในเรื่องนี้..........
............................
.....วินเซนต์ สมิท..ที่เป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง..และ..เป็นคนแรก..ที่ได้รับแจ้ง..การค้นพบ
จากเป้ปเป้คาดว่า..คงมีการสอบสวน..แต่ไม่ได้มีความผิด(หรือสาวไม่ถึง)..หรือ..การ
ลงโทษอันใด...(..เขาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ..ถ้าจะพิสูจน์ลงโทษจริง..คงต้องมีหลักฐาน..
แน่นหนา...แต่ฟือเร่อร์นั้น..เป็นแค่ลูกจ้าง..นายจ้างไม่พอใจ..ก็ไล่ออกได้ง่าย...)
.......................................
...เป้ปเป้..ถึง..แม้อังกฤษไม่ชื่นชม..แต่รัชกาลที่๕..ได้ประทาน..พานลงถม(เนื้อทองเหลือง)
..มี..พระปรมาภิไทยลงถมไว้..อย่างสวยงามตอบแทน..ที่เป็นผู้พบ..พระอัฐิธาตุ....
.................................
...มีการประชุมนักวิชาการที่.Harewood House..ในอังกฤษ..เมื่อปี ๒๐๐๖ เรื่องตำแหน่ง
เมืองกบิลพัสดุ์..รวมถึง..การพบของเป้ปเป้..วัตถุที่พบ..อักขระที่เขียนเป็นของจริง..หรือไม่
...ซึ่ง..ไม่ลงตัว..เพราะทางอังกฤษ..ก็ยืนยัน..ทางอินเดียก็ยืนยัน..แต่เรื่องอักขระเพี้ยนนั้น..
ยอมรับกัน.....
.....................................
..............เอาแค่นี้ก่อนครับ...ส่วนที่เป็นข้อมูล..เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง..ที่..มีความแน่นอน...
เท่าที่รวบรวมได้เคร่าๆ...เอาไว้เป็นหลักก่อน....ต่อไปคือ....
.....เรื่องข้องใจ...ข้อสงสัย...ความสับสน...ที่จะมาเป็นตัวแปร..

...................................

...นี่แหละครับ..ข้อเท็จจริงสำคัญตัว..ที่นักวิชาการอินเดีย..มาแย้ง..พวกอังกฤษ
..ก็คือ..ทิศทางตำแหน่ง..ของเมืองกบิลพัสดุ์..ที่หลวงจีนฟาเหียน..และ..หลวงจีนซ้วนจาง(พระถังซำจั๋ง)..ระบุในจดหมายเหตุการเดินทางมาอินเดีย..ฟาเหียน..มาก่อน
..เกือบร่วม ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว..ซ้วนจางมาหลังจากนั้น..ร่วม ห้า-หกร้อยปีหลัง...
..โดยการระบุุ..จากจุดเดียวกันคือ..ลุมพีนีวัน....ซึ่ง..จะใกล้เคียงกับ..ตำแหน่งของ
PIPRAHWA...แต่ห่างไกลจาก..ตำแหน่งเมือง TILAURAKOT..ที่อังกฤษระบุว่า
เป็น..เมืองกบิลพัสดุ์.....

...............................ต่อตอนหน้า..............................

 

ขอบคุณครับคุณลุง ที่ช่วยเปิดโลก... นำความรู้ดีๆ ความคิดในอีกแง่มุมนึง ... ผมชอบเรื่องท่านปฤษมากครับ ... ผมถามพ่อผม(ท่านเกษียณจากไปรษณีย์ไทย) ว่าใครเป็นบิดาแห่งไปรษณีย์ พ่อยังบอกว่า เจ้าฟ้าภาณุรังษีฯ เลยครับ ... บ้านเราชอบบอกไม่หมด ... ความจริงเป็นเท็จ ... เท็จเป็นจริง ... แล้วประวัติศาสตร์ที่เรียนมาตอนเด็กๆจะเชื่อถือได้มากแค่ไหนครับ...

ปล. คุณลุงรู้จักท่านเจ้าคุณสุนทร วัดกัลยา ไหมครับ ... หาข้อมูลทางเน็ตแล้ว ข้อมูลน้อยมากๆเลยครับ ผมมีพระของท่านอยากทราบครับ ... รบกวนคุณลุงด้วยครับ

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณมากครับพี่ modpong มารอฟังความรู้ดี ๆ เหมือนเดิมครับ

 

...........................................
...ครับ..หลานโอัต...เมืองไทย..คนคิด..คนที่ทำงานจริง..จะอยู่เบื้องหลัง
..คนเบื้องหน้า..รับชอบไป..
..แต่..หลายเว็บที่..คนรุ่นใหม่..ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย..หรือ..กรมไปรษณีย์..ก็มาเขียนยกย่องท่านกัน..หลายคน..ลุงก็ได้ข้อมูลมาเขียน..จากแหล่งเหล่านี้ด้วย.....
...............................
....อย่างหนึ่ง..ที่เจ้าคุณฯพรหม..มีประวัติไม่มาก
ก็เพราะ..ท่านไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส..แต่ลุงแปลกใจว่า..สมัยยุคก่อนในหนังสือพระ..ก็มีลงประวัติท่านยาวนะ..ท่านเป็นอาจารย์ของ..หลวงพ่อเส่ง
วัดกัลยาฯนี่แหละ...และท่าน..ก็สนิทกับ..หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว..เวลาหลวงปู่บุญ..เข้ามาธุระ..ที่เมืองหลวง..ก็จะมาแวะพักที่วัดกัลยาฯด้วย........
...ท่านเก่ง..ด้านเมตตา..แคล้วคลาดครับ..วิชาส่วนใหญ่..ของหลวงปู่เส่ง..สหายสนิทหลวงปู่โต๊ะนี่...ก็มาจากท่าน....
....คิดดูว่า..ปรกใบมะขามวัดกัลยาฯ..ที่อยู่ในเบญจภาคี..ปรกใบมะขาม..ท่านดังขนาดไหน..ขลังขนาดไหน...ดังนั้น..ท่านทำพระอื่น..ที่ไม่ใช่ปรก
ก็ต้องขลัง..เหมือนๆกัน..เพียงแต่..เขาไม่เล่นกัน
..เขาชอบแต่ปรกใบมะขาม...ก็ดี..ทำให้พระไม่แพง...
..ของท่านที่มีคนเล่นหาเยอะหน่อย..ก็..น่าจะเป็น..พระสมเด็จ..พระกลีบบัวขัดสมาธิเพชร..(
..โดยเฉพาะ..พระนี้..ตามที่ลุงศึกษามา..จริงๆแล้ว..ท่านเจ้าคุณพรหม..ทำก่อน..แล้วน่าจะมาจาก..ความสนิท..และไปมาหาสู่กันบ่อย..หลวงปู่บุญท่าน..ท่านชอบใจ..รูปแบบ..ก็เลยเอาไปทำมั่ง...ทำให้สมัยก่อนจะสับสน..คนไปตีเอาพระกลีบบัววัดกัลยาฯของเจ้าคุณพรหม..เป็น..พระกลีบบัว..ของหลวงปู่บุญ..กันเยอะ..เนื่องจากของ..หลวงปู่บุญ..ไม่ว่าพิมพ์ไหน..ก็ราคาดีทั้งนั้น..................
......ดังนั้น..โชคดีแล้ว..ห้อยคอได้เลย..พุทธคุณหายห่วง..เมตตา..แคล้วคลาด..สูงแน่นอน..ฟันธง...(^_^)

 

ขอบคุณมากๆครับคุณลุง modpong

ผมสนใจอยากทราบอีกเรื่องของหลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด หลวงปู่โต๊ะ ... ที่คุณลุงเคยเขียนเรื่อง "ผงเรียนคำภีร์" คืออยากทราบว่าหลวงปู่โต๊ะท่านผสมผงทั้งสามหลวงพ่อ ลงในพระทุกรุ่นที่หลวงปู่สร้างเลยหรือเปล่าครับ อย่างเช่น พระปิดตา พระสมเด็จปรกโพธิ์ 18

 

วันนั้นเจอ ปรกโพธิ์ข้าวสารดำ ของหลวงปู่โต๊ะ เขาเปิด 5000 ไม่กล้ากัดฟันเช่า เสียดายจนทุกวันนี้

 

........................................
...ส่วนใหญ่..น่าจะเป็น..พระผงรุ่นเก่า..ของท่าน
...จะมีทั้งนั้น..อย่าง..สมเด็จขาโต๊ะ..สมเด็จแช่น้ำมนต์...มีแน่..แต่ท่านจะใช้ไปหมดก่อน..รึเปล่า..ลุงก็ไม่แน่ใจ...เอาเรียกว่า..พระผงไม่ว่า..สมเด็จ..หรือ..พระปิดตา..ก่อนปี ๒๕๑๐ มีแน่..๒๕๑๐-๒๕๒๐ ก็น่าจะมี..หลังปี ๒๕๒๐ ก็ไม่แน่ใจ...........

 

ขอบคุณครับคุณลุง ... คงต้องหาพระหลวงพ่อผึ่งมาสักองค์เพราะมีผงครบทั้งสามหลวงพ่อแน่ๆ

 

สวัสดีครับ..คุณอา มาติดตามอ่านบทความดีๆเหมือนเช่นเดิมครับ

 

..........
....วันนี้..ขอแทรกเรื่อง..พระธาตุ..หนึ่งวัน....
..อันมีผลมาจาก..เรื่อง"ผงเรียนคำภีร์"..ของสามอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค
และเป็นสหายสนิทกัน..ตั้งแต่เรียนที่สำนักหลวงพ่อโหน่ง วัดดอนมะดัน สุพรรณบุรี
...ที่..หลานโอ้ต..พูดถึง....
..ถ้าคนได้อ่าน..วิธีทำ..ผงวิเศษหลักๆ...จะไม่ค่อยแปลกใจว่า...
ทำไม..ผงที่ทำตอนเรียน..เป็นผงสำเร็จ..แต่ละชนิดมี..คุณค่ามหาศาล...
..ทั้งใน..หนังสือของ..อาจารย์เทพ สาริกบุตร..อาจารย์อุคริน..ท่าน..ก็มีอธิบายไว้
....ผงหลัก..ก็ได้แก่...
....ผงพุทธคุณ..คัมภีร์พุทธคุณ
...ผงอิธิเจ...คัมภีร์อิธิเจ..
...ผงปถมัง...คัมภีร์ปถมัง..
...ผงมหาราช...คัมภีร์มหาราช
..ผงตรีนิสิงเห....คัมภีร์ตรีนิสิงเห..
...นอกจากผงหลัก ทั้ง ๕ ก็ยังมี..ผงรองๆ..ที่มีพุทธคุณเฉพาะทาง..ของสำนัก
ต่างๆ..ก็ว่า..กันไป....
.....ทำไม..ทั้ง ๓ อาจารย์..ต้องเก็บกักตุนไว้..และ..เกื้อกูลกัน..
เวลาที่จะสร้างพระ.....
..เพราะ ๑. ทำยาก..และ..ใช้เวลา..ในผงแต่ละคัมภีร์..นาน..
คิดดู..ต้องเตรียมวัสดุ..เตรียมพิธีกรรม..ชักสูตร..เรียกยันต์..เรียกอักขระแต่ละตัว
เขียนเสร็จ..ลบผง..ปั้นเป็นดินสอใหม่..เขียนอีก ...ทำซ้ำเป็น ๑๐๘ ครั้ง..
...คิดดูเอาว่า..จะต้องใช้เวลานานเท่าใด..กว่าจะได้ ๑ ผง....
...แล้วจะต้องทำทั้งหมดทั้ง ๕ ผง ..จะต้องใช้เวลาเท่าใด..
......คิดว่า...เมื่อเรียนจบ..กลับมาอยู่วัด..แล้วนึกอยากทำพระขึ้นมา..
.....ท่านแต่ละองค์..จะเอาเวลาที่ไหน..มาทำผงอีก...
...วันๆ..ส่วนนึง..ก็เรื่องของสงฆ์ของวัด..ส่วนนึงเรื่องของส่วนอุบาสกอุบาสิกา..ส่วนนึงก็อาจจะต้องสอนลูกศิษย์..เรียกว่าวันๆนึง..แต่ละท่าน..ก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อน...
..แล้วคิดดูแต่ละท่าน..เมื่อท่านทำพระ..ท่านก็จริงจัง..และ..อยากให้พระของท่านเอง..ครบเครื่องทุกด้าน..พระแต่ละรุ่น..อย่างน้อยก็ปลุกเสกทุกคืน..อย่างน้อยสุดก็
๑ ไตรมาส..ปกติ..ก็..สามไตรมาส..ก็คือ..ทั้งปี..ปลุกเสกทุกคืน...
...แล้วจะเอาเวลาที่ไหน..มานั่งทำผงหลัก ๕ ผง....
...ขืนทำผงขึ้นใหม่ไปด้วย..แต่ละท่านคงไม่ต้อง..จำวัด...
.....นี่คือ..การเล็งการณ์ไกลของทั้ง ๓ องค์
๒. การที่แต่ละองค์..เมื่อองค์ใดองค์หนึ่ง..ทำพระ..ก็..จะบอกกล่าวกัน..แล้ว..อีก ๒ องค์..ก็จะเอาผง..ของแต่ละองค์มาร่วมด้วยนั้น....
...นั่นมีความหมายเพราะ..ทั้งสามองค์..การสร้างพระ..ให้กับ..พุทธบริษัททั้งหลาย..ถือ..เป็น..บุญกุศลยิ่งใหญ่..เป็นการช่วยเหลือ..ผู้ที่ทำนุบำรุงพระศาสนา..เป็นการตอบแทน..ช่วยเหลือ..ให้พ้นทุกข์พ้นภัย......
....อีก ๒ ท่าน..ก็..ต้องยินดีกับบุญกุศลในการสร้างพระ..ดังกล่าว..ไปด้วย..ถือเป็นการทำบุญร่วมกัน..และทำให้เพื่อน..แบ่งปันกัน..ใครสร้างพระบ่อย..สร้างพระมาก
..ผงตัวเอง..ก็จะน้อย..ก็ได้อาศัย..ผงของเพื่อนมาช่วยด้วย..
๓. ทั้งสามองค์..ก็..ยกย่องซึ่งกันและกัน...ดังนั้น..พลังคุณวิเศษในผง..ของแต่ละองค์..ย่อมใกล้เคียงกัน...เรียกว่า..ทดแทนกันได้เลย..เรียกว่า..
เชื่อมั่นในฝีมือกัน..เพราะมาจากสำนักเดียวกันและ..อยู่ด้วยกัน..เรียนด้วยกัน
............

 

หลากหลายเรื่องราว เนื้อหาน่าสนใจ ทั้งพุทธคุณ และ ประวัติศาสตร์

 

รอติดตามอ่านเลยครับคุณลุง ... ผมสนใจและอยากเรียนรู้เรื่องหลวงพ่อทั้งสามองค์ และผงเรียนคัมภีร์ เพราะตั้งแต่เกิดจนโตจะเห็นรูปหลวงพ่อสององค์ติดอยู่ที่ห้องพระ และในละเวกบ้านตามร้านค้า ร้านอาหาร บ้านคนไทยหรือจีนจะมีรูปถ่ายหลวงพ่อองค์นี้อยู่เสมอ คือ หลวงพ่อสด และหลวงปู่โต๊ะครับ ...

 

ขอถามแทรกอีกเรื่องครับคุณลุง พระของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ถึงไม่ค่อยมีคนพูดถึงครับ ... ที่บ้านมีอยู่องค์เป็นหลังยันต์ตรีฯ ท่านจารไว้สวยมาก คม และเนี๊ยบสุดๆครับ