ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ขออนุโมทนาในความดีงามทั้งปวงด้วยครับ

    วันนี้ผมก็ไปฝึกมโนมยิทธิที่ศูนย์พุทธศรัทธามาแล้วรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น สามารถขึ้นไปไหว้พระจุฬามณีและไปที่วิมานของสมเด็จองค์ปัจจุบันที่พระนิพพาน แต่ที่อื่นๆผมไม่ได้ไปเลยครับ พระท่านยังไม่อนุญาต กำลังใจผมยังไม่แจ่มใส ตอนที่เข้าไปไหว้พระจุฬามณีกว่าจะเข้าได้ต้องอธิษฐานหลายครั้ง ภาพที่เห็นก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ ยังมัวๆ ไม่ค่อยแจ่มใส ต่อไปก็ต้องซักซ้อมให้หนักแน่นกว่านี้ จะได้เห็นชัดเจนเสียที

    อิอิ
     
  2. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาบุญกับคุณ choto ครับ ขึ้นไปกราบพระข้างบนได้ถือว่าใช้ได้แล้วละครับ แต่อย่าละทิ้งการปฏิบัตินะครับ ควรฝึกเป็นประจำที่บ้านด้วย เวลาที่กำลังใจจะรวมตัวได้ดีและแจ่มใสพอสมควรคือเวลาประมาณตีสี่ตีห้า เพราะช่วงนั้นเป็นเวลาที่ร่างกายเราพักผ่อนมาพอสมควรแล้วแต่ต้องไม่นอนดึกมากจนเกินไปด้วยนะครับ พอตื่นนอนแล้วก็อาบน้ำล้างหน้าแปลงฟันด้วย พอร่างกายสดชื่นแล้วก็ทำเหมือนตอนไปฝึกที่ศูนย์พุทธศรัทธานั้นละครับ แล้วก็อย่างลืมพิจารณาวิปัสนากรรมฐานด้วย เพราะถ้าเราพิจารณาร่างกายเราแล้ว จะช่วยเรื่องความแจ่มใสด้วยครับ

    แฮะๆวันนี้เอาบุญมาฝากครับ วันนี้ผมแว่บไปกราบสมเด็จองค์ปฐมวัดป่าซางงามมา เลยนำภาพมาให้ชมกัน และในเดือนเมษายนนี้จะมีการน้อมถวาย

    - สมเด็จองค์ปฐม ปางมารวิชัย หน้าตัก 4 ศอก ปิดทองประดับเพชร
    - สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน ประดับเพชร สูง 4.95 เมตร
    - และวิหารแก้ว วัดป่าซางงาม อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน

    โดยมีกำหนดการ ในวันที่ 3-5 เมษายน 2557 ณ วัดป่าซางงาม อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยญาติธรรมสามารถร่วมบุญเป็นเจ้าภาพทุกอย่าง ทั้งวิหารทาน มหาสังฆทาน ภัตตาหาร ได้ถึงวันที่ 3 เมษายน 2557 ท่านใดไม่สะดวกไปร่วมงานสามารถโอนเงินมาร่วมทำบุญที่

    ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 240-2-309727
    ชื่อบัญชี อาริยา หยาง
    ติอต่อ คุณ Oh Ariya
    (กรุณาอย่าถามเลขที่บัญชีผมนะก๊าบ เดี๋ยวเอาไปใช้หมด ^_^ อิอิ)

    ญาติธรรมทุกท่านสามารถดูรายละเอียดได้ที่

    กระทู้ร่วมบุญพิเศษถวายสมเด็จองค์ปฐม วัดป่าซางงาม

    และที่ FaceBook

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2632_resize.JPG
      2632_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      319 KB
      เปิดดู:
      2,173
    • 2636_resize.JPG
      2636_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.3 KB
      เปิดดู:
      2,203
    • 2648_resize.JPG
      2648_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      300.2 KB
      เปิดดู:
      2,216
    • 2622_resize.JPG
      2622_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277 KB
      เปิดดู:
      2,399
    • 2623_resize.JPG
      2623_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      265.7 KB
      เปิดดู:
      2,354
    • 2624_resize.JPG
      2624_resize.JPG
      ขนาดไฟล์:
      222.8 KB
      เปิดดู:
      2,160
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2014
  3. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    โมทนาสาธุในธรรมทานครับ.. หลวงพ่อวิชัย วัดแม่สะลาบ ตอนนี้ท่านเปิดสอนมโนมยิทธิตลอดใช่ไหมครับ ?

    คิดว่าอีกปีกว่าจะไปฝึกที่นั่นบ้างน่ะครับ เพราะที่ผ่านมาไม่รู้จะหาครูบาอาจารย์แถวๆเชียงใหม่-ลำพูน จากที่ไหน เท่าที่รู้จักก็จะมีพระอาจารย์อนันต์ ที่วัดพระธาตุ 5 ดวง อ.ลี้ ซึ่งเป็นสายหลวงพ่อฤาษีเหมือนกัน แต่ก็อยู่ไกลเกินไป
     
  4. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ถ้าหลวงพ่อท่านไม่ติดกิจนิมนต์ที่ไหน ไปกราบและขอเรียนกับท่านได้ตลอดครับ แล้วก็ท่านจะฝึกให้ตัวต่อตัวเลย ช่วงแรกๆที่ตั้งใจและอยากจะไปฝึกอาจจะมีเหตุติดขัดบ้าง ทำให้ไม่สะดวกไม่ได้ไปเรียนก็ไม่เป็นไรครับ คิดว่าเป็นการทดสอบในศรัทธาและความตั้งใจก็แล้วกัน ถ้าถึงเวลาก็จะได้เรียนเองครับ

    แหม วันนี้มีเรื่องจะมาบ่นให้ฟังกันครับ นี่เป็นประสบการณ์ตรงเลย ไม่ทราบว่าญาติธรรมเคยเป็นเวลาที่ตั้งใจจะปฏิบัติธรรมกันบ้างไหม ผมนี่ยอมรับกันตรงๆเลยว่าเป็นคนที่ชอบของสวยของงาม โดยเฉพาะสาวหมวยๆนี่ แหมเวลาที่เราจะปลงสังขารมั่งนี่ ก็ชอบไปเจอหรือไปเห็นไอ้แบบที่ชอบๆซะด้วย แล้วสาวๆแถวที่ผมไปติดต่องานนี่ก็ทั้งสวย ผิวขาว ผมยาว ขาก็ยาว กลิ่นก็หอม (เฮ้อ!อะไรกันเนี๊ยะ ตรูจะปลงสังขารนะว้อย) ก็ต้องใช้ใจระลึกถึงอสุภะกรรมฐานเข้าไว้ นึกถึงซากศพ เข้าไว้ นึกถึงเวลานี่ตัวเรายังเอาตัวเองไม่รอดเลย ยังจะไปสร้างกรรมกับใครเค้าอีก แค่เจ้ากรรมนายเวรที่เราติดหนี้ทางด้านความรัก เป็นคู่ครองเก่าเรา ยังไม่เยอะพออีกเหรอ นึกถึงตัวเราถ้าไม่มีผิวหนังกำพร้าที่ห่อหุ้มไขมัน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก อุจจาระ ปัสสาวะ เดินไปเดินมานี่ ก็พอๆกันกับคนอื่นเค้าละว้า พอผ่านไปได้ครับ แต่อีกวันมา เอาอีกละ เอ้อ!กิเลสมารเยอะจริงๆเลย ที่เล่านี่ก็อยากจะบอกญาติธรรมว่าตราบใดที่เรายังไม่เป็นพระอริยบุคคลเริ่มตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปละก้อ ก็ยังลุ่มๆดอนๆเหมือนผมนี่ละคร้าบ ยังก้ำกึ่งกับขอบนรกอยู่ ต้องใช้กำลังใจเยอะหน่อย เพราะมารเค้ารู้จุดอ่อนเราดี ไอ้ที่เราชอบๆนี่มากันจัง เพราะถ้าเป็นพระโสดาบันขึ้นไปแล้วละก้อถึงแม้ท่านจะครองเรือน มีคู่ครองอยู่ แต่ท่านจะมั่นคงในคู่ของตัวเองเท่านั้น พอเข้าถึงอรหันต์ก็สบายแล้ว ไม่ต้องทุกข์เรื่องร่างกายตนเอง ร่างกายคนอื่น ไม่ต้องมีทุกข์ แล้วก็ไปบ้านใหม่ สบายใจไปเลย เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าจะสอนไม่เกินไปกว่าภายในร่างกายเราเลย

    พอดีท่าน ผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้านท่านมาสิงอยู่ข้างหลัง บอกว่าเขียนเรื่องโดนรถสิบแปดล้อชนให้ญาติธรรมอ่านด้วยไม่งั้น....)[​IMG]เฮ้อ!ก็ต้องเชื่อท่านละก้าบ นี่ละครับการครองเรือน มีคู่ครอง สิ่งใดที่ไม่เกินกว่าความสามารถของผมหรือไม่ผิดศีล 5 ถ้าท่านสั่งก็ต้องทำละคร้าบ เลยไม่อยากจะดึงใครมาทุกข์กับเราอีก เวลาเจอกิเลสมารที่ขาวๆ หมวยๆก็ต้องปลงสังขารอีกละ (เป็นความเลวเฉพาะตัว โปรดอย่าเลียนแบบนะครับ มีสิทธิ์ตกนรกไม่รู้ตัว ถ้าเผลอ T^T อิๆ)

    เมื่อปลายปี 2555 ผมขับรถไปส่งของลูกค้าแถวบางพลี สุมทรปราการ บริเวณคลองขุดแถวๆนั้นละครับ ถ้าท่านใดเคยขับรถไปลงทางด่วนแถวโลตัสบางพลี แล้วตบไฟเลี้ยวซ้ายเข้าถนนข้างโลตัสบางพลี แล้วขับตรงเข้าไปเรื่อยๆจะผ่านถนนที่เค้ากำลังก่อสร้างทำสะพานข้ามแยกพอตรงมาถึงทางร่วมแยกที่บังคับวันเวย์ให้เลี้ยวซ้ายอย่างเดียว ผมก็กำลังจะไปส่งของลูกค้าที่นิคมบางปู ก็กำลังจะตีเลี้ยวซ้าย พอดีมีเก๋ง แคมรี่ตีคู่มากับผม ไอ้เราก็มองกระจกข้างขวาแล้วเห็นรถพ่วงอยู่ไกลๆก็หันมาดูเก๋งแคมรี่ที่เบียดๆกับเราอยู่ พอหันมาอีกที

    !*฿&?///++...นึกได้คำเดียวว่าซวยแล้วตรู ถ้าท่านใดเคยมีประสบการณ์โดนชน เสียงมันจะไม่เหมือนกันนะครับในแต่ละเหตุการณ์ ของผมนี่ไม่มีดังโครมครามอะไรหรอก ดังตึบ เสียงเดียวจริงๆ ผมนิ่งไปซักสี่-ห้าวิ ประมาณว่าอะดรีนาลีนกำลังทำงานอยู่ พอตั้งสติได้ ฝั่งทางขวามือคนขับ ซึ่งคนขับก็คือผมแหละครับ (ผบ.ทบ.ท่านก็สมกับตำแหน่งท่านจริงๆ สั่งงานอย่างเดียว ฉันไม่ขับ) กันชนและล้อหน้าซ้ายของรถพ่วงสิบแปดล้ออยู่ที่ประตูฝั่งผมเลย กะๆว่าเหลือซักประมาณคืบนึงก็จะถึงขาขวาผม สรุปว่าผมกับแฟนไม่บาดเจ็บไม่เป็นอะไรเลย ส่วนรถ โดนแค่ประตูฝั่งคนขับ ประตูหลังอีกนิดหน่อย ช่วงล่างไม่เป็นอะไร กระจกแตกแค่ฝั่งคนขับ ล้อและยางไม่เป็นอะไร เพราะคู่กรณีที่เป็นรถสิบแปดล้อพ่วง เค้าถอดพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ออกไปก่อนหน้านี้ เลยลดแรงเฉื่อยไปได้อีกเยอะเลย แล้วเป็นรถยี่ห้ออะไรรู้มั๊ยครับ รถสิบแปดล้อยี่ห้อBenz (เบนซ์) ครับนึกในใจว่า โห!ตรูนี่เลือกชนก็เลือกของแพงซะด้วยว้อย รถพ่วงพี่แกไม่เป็นอะไรเลย นอกจากคิ้วล้อหน้าซ้าย (นึกในใจว่ามานจะกี่ตังกันว้า ยี่ห้อนี้เป็นรถพ่วง เก๊าเพิ่งเคยเห็น ปกติเห็นแต่รถพ่วงญี่ปุ่นอะ) พี่คนขับรถพ่วงแกบอกว่ามองไม่เห็นรถผม รู้สึกเหมือนเหยียบอะไรเข้า เลยลงมาดู ง่ะ!รถเราเล็กไปหรือรถพี่แกใหญ่ไปว้า ก็เลยรอประกันมา พอประกันมาก็เรียกเลย ถ้าพี่จ่ายห้าพันจะให้คนขับรถพ่วงเค้ายอมรับผิดเอง ประกันของรถพ่วงเค้าเป็นประกันชั้น 1 จะได้ซ่อมทั้งรถเรา รถพ่วง ผมก็ต่อรองเหลือสี่พันบาท ฮือๆ เสียตังค์อีกแล้วตรู แต่โชคดียิ่งกว่าก็คือรถผมยังขับไปได้ ไม่ต้องเสียค่ารถลาก เพราะล้อก็ไม่แตก ยางก็ไม่แตก ช่วงล่างก็ไม่เป็นอะไร ที่เกือบเป็นคือขาผม ถ้าชนเข้ามาถึงขาขวาผมเมื่อไหร่ มีสิทธิ์เป็นเดชไอ้ด้วนได้ในพริบตาครับ

    (ภาพข้างล่างนี่ถ่ายโดยไม่ใช้สตั้นแมน ไม่ใช้สแตนอิน ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้อะไรทั้งนั้นตอนชนและโปรดอย่าเลียนแบบ)

    [​IMG]

    ที่เล่าให้ทุกท่านได้อ่านกันนี้ประเด็นก็คือ ความตายอยู่ใกล้เรานิดเดียว ปกติเราเห็นคนอื่นตาย เราก็ลืมนึกไปว่าเราก็ต้องตาย ไปงานศพคนอื่นแต่ลืมพิจารณาว่าถ้าเราตายแล้วเราจะไปไหน ยิ่งถ้าญาติธรรมได้ไปโรงพยาบาลไม่ว่าจะไปเยี่ยมญาติ หรือตัวเองป่วยก็ตาม ให้สังเกตุสภาพในโรงพยาบาลให้ดีนะครับ ได้เห็นคนเกิด คนแก่ คนเจ็บ และคนตาย ที่นั้นมีให้ดูครบ เพราะซักวันหนึ่งก็จะเป็นตัวเราเอง ทุกวันนี้ เราๆท่านๆก็กำลังนับเวลาถอยหลังเดินไปหาความตายอยู่ทุกวินาที ทุกลมหายใจ หายใจครั้งนึง ชีวิตก็สั้นเข้าไปเรื่อยๆ อย่าประมาทในชีวิตนะครับ วันนี้ พรุ่งนี้เราอาจจะตายก็ได้ สิ่งใดก็ตามที่เป็นบุญกุศล ทาน ศีล ภาวนา ตั้งใจสะสมบุญบารมีของเราไปเรื่อยๆครับ

    เพราะหัวขบวนของพวกเรา ซึ่งก็คือหลวงพ่อท่านตัดเข้านิพพานไปแล้ว พวกเราลูกหลานจะอยู่หาอะไรกัน เพราะหลวงพ่อท่านบำเพ็ญบารมีเป็นพุทธภูมิวิริยาธิกะ บำเพ็ญเพียรมา 16 อสงไขยกับแสนกัปป์ ยังขาดอีก 7 ชาติ แต่พอท่านลาพุทธภูมิ ตัดเข้าพระนิพพานเป็นสาวกภูมิซึ่งบารมีสำหรับสาวกภูมิแล้ว ท่านเลยไปนานแล้ว ลูกหลานส่วนมากที่ติดตามกันมาก็บำเพ็ญบารมีเกินไปนานแล้วเหมือนกัน ฉะนั้นพวกเราลูกหลานมาตั้งใจปฎิบัติกันเพื่อพระนิพพานดีกว่าครับ เพราะผมก็เบื่อร่างกายตัวเองจังเลย ขนาดหาของกินที่ชอบใจ อาบน้ำดูแลมันทุกอย่าง ร้อนก็เปิดแอร์ให้ ง่วงก็ให้นอน ปวดหนัก ปวดเบา ตรูก็เข้าห้องน้ำให้แล้ว มันยังจะแก่ ยังจะป่วย ยังจะตายอยู่อีก

    ยังไงก็ฝากให้เป็นข้อคิดและธรรมะด้วยครับ สาธุสวัสดีและขอให้ญาติธรรมทุกท่านมีความสุขครับ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2166_resize.jpg
      2166_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      259.4 KB
      เปิดดู:
      2,066
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  5. หยุย

    หยุย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +350
    สาตุ๊.. ครับ วิหารวัดป่าซางงาม งามแต้ๆครับ
    บุญใดที่ท่านทั้งหลายได้กระทำดีแล้วนี้ กระผมนายอภิศักดิ์ สารสมุทร ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  6. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เดี๋ยวเย็นๆค่ำๆถ้าไม่ติดงานอะไร จะมาปั่นประสบการณ์สมาธิในฌาน 3-4 ให้อ่านกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2014
  7. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    รอติดตามค่ะ ^^
     
  8. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    เมื่อก่อนที่ผมจะมาศรัทธาและศึกษาธรรมะที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้ทิ้งไว้ให้นั้น โดยปกติแล้วผมมักจะตื่นมาอาบน้ำและนั่งสมาธิประมาณสักตี1-3 นั่งนี่ก็ไม่ได้นั่งนานนะครับ โดยปกติก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง แล้วก็ไม่ได้นั่งสมาธิทุกวัน แต่จะทำอาทิตย์ละประมาณ 1-2 ครั้ง เวลาผมนั่งสมาธิก็จะใช้คำภาวนา พุท-โธ แล้วก็จับลมหายใจที่ปลายจมูก ด้วยตอนนั้นผมศึกษาด้วยตนเอง เวลาทำก็ทำเอง ไปแบบงูๆปลาๆ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าความรู้สึก หรืออารมณ์ที่รู้สึกในขณะนั้น เค้าเรียกว่าอะไร แล้วบางวันด้วยความไม่รู้(แถวบ้านผมเค้าเรียก“ผญาปึก” แปลว่าโง่ครับ) พอภาวนา พุท-โธ ไปซักแป๊บ อยู่ๆก็หายไปเฉยๆ ลมหายใจก็แทบไม่รู้สึก เหมือนไม่หายใจ ไอ้เราก็นึกว่าเราเผลอ เอ้าต้องตั้งต้นท่องพุท-โธ ใหม่ แล้วซักแป๊บ อยู่ๆผมก็นึกถึงสิ่งที่ร่างกายเราดำรงอยู่ก็ด้วยเหตุแห่งปัจจัย ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟมาประชุมรวมกันเป็นร่างกาย พอระลึกอย่างนี้ได้ ก็คิดว่าเราฟุ้งอีกแล้ว ทั้งๆที่สิ่งนี้หลวงพ่อเรียกว่า “วิปัสสนากรรมฐาน” ซึ่งเป็นการเฝ้าดูกายและใจของเราเพื่อให้เห็น ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และความเป็นอนัตตาไม่มีตัวตน เพื่อคลายความยึดมั่นถือมั่นของเรา

    ที่ผมจะเล่าให้ฟังนั้นคือมีอยู่วันนึง ผมก็ตื่นประมาณ ตี 1 กว่าๆ พออาบน้ำแปลงฟันเสร็จสวดมนต์ไหว้พระแล้วก็เริ่มนั่งสมาธิ วันนั้นพอนั่งไปได้ซักประมาณ 10 นาที องค์ภาวนาหรือพุท-โธ อยู่ๆก็หายไปเฉยๆ ลมหายใจก็แทบไม่รู้สึก เหมือนไม่หายใจ หูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร อาการเหมือนหูดับก็ไม่ใช่ เหมือนประสาทหูมันตัดไปเอง อารมณ์ก็กลางๆ จะว่าสุขก็ไม่ใช่ จะว่าไม่สุขก็ไม่ใช่ เห็นแสงสีสว่างคล้าย ๆ แสงไฟฉาย หรือเหมือนฟ้าแลบ แว่บไปแว่บมา พอเห็นแสงแบบนั้นผมก็เฉยซะ นั่งอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง พอถอนจิตออกจากสมาธิแล้ว ก็เอนตัวลงนอน พอตื่นเช้าขึ้นมา มันแปลกตรงที่อารมณ์มันวางเฉย อาการคิดก็ไม่อยากคิด พูดก็ไม่อยากพูด มันเฉยไปซะทุกอย่าง ท่านผบ.ทบ.ท่านยังบ่นเลยว่า อะไรว้า คุยอะไรมันก็ไม่คุยด้วย เป็นอะไรเนี๊ยะ เดี๋ยวปั๊ด (อารมณ์ของท่านผบ.ทบ.นี่น่าจะเหมือนกันเกือบทุกบ้านนะครับ อยากจะแจ้งเรียนว่าเดี๋ยวนี้เค้ารณรงค์ลดใช้ความรุนแรงในครอบครัวแล้วนะก๊าบ วอนท่านผบ.ทบ.อย่าทำอะไรผมเลย)

    พอมาอ่านหนังสือที่หลวงพ่อเขียนไว้ ผมเทียบอารมณ์เข้ากับฌาน 4 ครับ แต่ตัวผมพอตั้งใจจะทำให้ได้อารมณ์อย่างนี้อีก ถ้าตั้งใจมากไปก็ไม่ถึงอารมณ์นี้ ต้องใช้อารมณ์และร่างกายที่ไม่เครียด นอนพักผ่อนเพียงพอ แล้วไม่หวังผลถึงจะได้ครับ

    ปัจจุบันนี้ผมก็ละเลียดอยู่แถวอุปจารสมาธิ หรืออารมณ์ฌานหนึ่งหรือสอง แถวๆนี้ละครับ เป็นธรรมดาของคนครับ เพราะคนแปลว่ายุ่ง ผมก็ยุ่งทั้งเรื่องทำมาหากิน เรื่องครอบครัว แล้วก็อยากได้โน้นอยากได้นี่ แต่ที่ไม่ทิ้งเลยคือ ทาน ศีล ภาวนา แต่ก็ลุ่มๆดอนๆครับ ทรงตัวมั่งไม่ทรงตัวมั่ง ก็พยายามกันต่อไป เพราะผมบอกตรงๆกะว่าจะค้ากำไรเกินควร แบบว่าถ้ากำลังใจมันพอ ก็ไม่อยากทำมาหากิน ไม่อยากอาบน้ำ ไม่อยากมีครอบครัว ไม่อยากจ่ายค่ารถ ค่าบ้าน ไม่อยากฉี่ อึ ไม่อยากร้อน ไม่อยากหนาว ไม่อยากๆๆๆๆๆๆๆๆ สรุปว่าเป็นคนขี้เกียจน่ะครับ เมื่อไหร่ที่ใจบอกว่าจบกิจแล้วไม่มีกิจใดต้องทำอีกแล้ว ผมจะรอวันนั้นครับ จะได้ย้ายบ้านเป็นการถาวรซะที เพราะบอกตรงๆว่าเบื่อครับ

    คำเตือนโปรดพิจารณาหลังอ่าน มิเช่นนั้นจะยุ่งเช่นผู้เขียน

    ยังไงก็ฝากให้เป็นข้อคิดและธรรมะด้วยครับ สาธุสวัสดีและขอให้ญาติธรรมทุกท่านมีความสุขครับ

    [​IMG]

    คาถานี้ท่านปู่พระยายมท่านให้หลวงพ่อไว้ เวลาใช้ท่านให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า 5 พระองค์และท่านปู่พระยายม ท่านบอกว่าคาถานี้กันตายก็ไม่ได้ รักษาโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ได้ แต่ช่วยคลายทุกข์เวทนาได้ คือลดอาการเจ็บปวดทรมานก่อนตาย กำลังใจจะได้ไม่ตก ใจไม่หม่นหมองก่อนที่จะตาย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  9. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    ชอบและฮา ตรงธาตุ 4 กับผบ.ทบ.นี่แหละค่ะ 555+ :p
     
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    อันนี้เป็นเรื่องการบ่นล้วนๆนะครับ ทุกท่านเคยได้อ่านหรือรับฟังประสบการณ์ที่พ่อ แม่ สามี ภรรยา พี่ น้อง ลูก หลาน ญาติสนิท มิตรสหาย และผู้ที่เรารู้จักอีกเยอะแยะมากมาย เวลาตายแล้วท่านๆเหล่านั้นมาให้เห็นบ้าง ตอนตายใหม่ๆ อันนี้ยังพอเข้าใจว่าเพิ่งจะเสียชีวิต ยังไม่รู้ตัวหรือเพิ่งจะรู้ตัวว่าตายแล้ว ก็ยังมีห่วงจึงมาหาคนใกล้ชิด แต่ประเภทที่สักระยะนึงผ่านไป มาเข้าฝันให้ทำบุญให้ด้วย ลำบากมาก หรือหนีเค้ามาเพื่อขอส่วนบุญจากคนใกล้ชิด หรือเป็นวันพระ นรกเค้าให้ขึ้นมาขอส่วนบุญได้สำหรับผู้ที่ตกนรกขุมที่ไม่ลึกเกินไปนัก เคยนึกถึงกันบ้างไหมครับว่าทำไมไม่ทำบุญไว้ว้า เที่ยวมาขอส่วนบุญอยู่ได้ (เค้ากลัวนะตัวเอง) ไอ้ประเภทที่จะมาแบบสวยๆหล่อๆนี่ยากครับ เพราะรับกรรม มีทุกข์และไม่มีบุญ ไม่มีทางจะมาแบบหล่อๆสวยๆได้

    [​IMG]

    [​IMG]
    นั้นสิครับ รู้อยู่แล้วทำไมไม่ทำบุญไว้ ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งยังไม่มีลูก มีแต่ภรรยา (ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.คนปัจจุบัน คือตำแหน่งนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้วละครับ ถ้าเปลี่ยนนี่มีเฮ คนที่เฮน่ะคนอื่นครับ ส่วนผมน่ะตายเลย) และคุณพ่อซึ่งอายุ 85 ปีแล้ว คุณแม่ก็ 70 ปีแล้ว เป็นลูกท้องนี้คนเดียว ปู่ ย่า ตา ยาย ท่านก็เสียไปหมดแล้ว มานั่งนึกๆดูถ้าเกิดตูตายไปแล้วครายจะทำบุญให้ตูว้าเนี๊ยะ ไม่ได้การละ ต้องหาเสบียงไว้เผื่อถ้าตายโดยไม่ได้สั่งเสียใคร จะได้ไม่ลำบากตัวเอง เพราะคนเค้าจะทำบุญให้เรานี่ก็ 3 วัน 7 วัน พอเผาแล้วก็ทำบุญ 100 วัน ที่เหลือก็ตามโอกาสที่ระลึกนึกถึงได้ หรือตามแต่จะฝันถึง มาให้เห็นไม่ว่าจะสภาพไหนก็ตาม (แฮะๆ จะสภาพไหนก็ตามอย่ามาให้เก๊าเห็นเลยนะตะเอง) ก็ไม่ต้องการที่จะต้องมาเดือดร้อนใครเขาภายหลัง

    [​IMG]

    แล้วประเภทเป็นเทวดาที่เวลานั่งฟังธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเทศน์ที่เทวสภาแล้วต้องนั่งหลีกให้เทวดา นางฟ้า ที่มีบุญมากกว่าเรา แล้วเราต้องไปนั่งแถวหลังสุดนี่ผมก็ไม่ปรารถนาเหมือนกัน ถ้ากำลังใจเราตอนจะตาย ตัดสังขารได้หมด สิ้นภพจบชาตินั้นเป็นสิ่งที่ผมต้องการที่สุดครับ แต่ถ้าเผื่อบารมีและกำลังใจมันยังไม่พอ ขาดเหลืออีกนิดหน่อย ต้องไปเป็นเทวดาก่อน ก็ขอแบบประเภทที่หลวงพ่อท่านสรรเสริญไว้ว่าเป็นเทวดาที่มีมเหสักขา คือมีฤทธิ์มาก มีบุญมาก ไม่ต้องหลีกให้ใครเค้า มีความเป็นทิพย์ครบทั้งหมด มีเสื้อผ้าเครื่องทรง มีวิมาน มีแสงสว่าง เป็นเทวดาสัมมาทิฏฐิ และปฏิบัติต่อข้างบนต่อตรงไปเลย ไม่มาเกิดอีกแล้วเบื่อครับ ทำทั้งหมดเลยทาน ศีลและภาวนา ฉะนั้นในชั้นของทานผมจึงเน้นวิหารทานและสังฆทานเป็นปกติ แต่บุญอย่างอื่นผมก็ทำนะครับ เช่นอาหารที่เหลือก็เอาให้สัตว์อื่นเค้ากินก็ได้บุญครับ คืออะไรที่เป็นบุญ ไม่เกินกว่ากำลังของเรานี่ เป็นทำหมดครับ เลยอยากจะบ่นให้ญาติธรรมได้อ่านแล้วลองคิดแบบผมว่าจริงไหม เป็นไปได้ไหม มองเป็นข้อธรรมะได้ไหม ฝากให้ไปคิดแก้กลุ้มกันเล่นๆครับ

    คำเตือนโปรดพิจารณาหลังอ่าน มิเช่นนั้นจะยุ่งเช่นผู้เขียน

    ยังไงก็ฝากให้เป็นข้อคิดและธรรมะด้วยครับ สาธุสวัสดีและขอให้ญาติธรรมทุกท่านมีความสุขครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  11. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    เมื่อคืนผมฝันแปลกๆครับ จะเล่าให้ฟัง เมื่อคืนผมหลับไปก่อนท่านผบ.ทบ.ที่บ้าน แล้วพอผมรู้สึกตัวซักประมาณตีหนึ่ง ทั้งโทรทัศน์ทั้งไฟ เจ๊เล่นเปิดไว้หมดแล้วหลับหนีเฉยเลย นี่ละครับชีวิตตอนอยากได้ก็ใช้ทุกวิธีให้เจ๊ท่านเมตตามาเป็นภรรยา(เมีย) ตอนนี้ก็ 14 ปีแล้วละก๊าบ T_T ก็ต้องดูแลและทำตามที่ท่านสั่งไปตลอดชาตินี้

    เอ้ามาเล่าถึงความฝันกันดีกว่า พอผมตื่นก็เลยอาบน้ำแล้วก็สวดมนต์ไหว้พระขอขมาพระรัตนตรัย สมาทานศีล แล้วก็สวดคาลาเงินล้าน แล้วก็นั่งสมาธิซักแป๊บ พอเริ่มเคลิ้มๆก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนแล้วก็สวดคาลาเงินล้านไปเรื่อยๆจนหลับ ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยฝันซักเท่าไหร่ แต่ฝันเมื่อคืนเป็นอย่างนี้ครับ ฝันว่าไปเห็นวัตถุมงคลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นถาดเลย ในฝันว่าเป็นของคุณลุงแท้ๆของผม ตอนนั้นก็นึกในความฝันว่าถ้าขอลุงดีๆ ลุงจะให้มั๊ยน้อ หรือว่าจะขโมยแม้มดีว้า แล้วในฝันก็ตัดสินใจว่าลองบอกลุงขอตรงๆเลยแล้วกัน ในฝันลุงผมท่านแบ่งพระเครื่องให้ผมมาครึ่งถาด ตอนเช้านึกขึ้นได้เลยเล่าให้เจ๊ฟัง

    ผมเข้าใจว่าท่านคงจะบอกอะไรซักอย่าง ส่วนตัวผมเข้าใจว่าสิ่งที่ทำนั้นมาถูกทางแล้วแต่ยังได้แค่ครึ่งเดียว ยังดีไม่พอ แล้วก็อย่าท้อให้ตั้งใจทำต่อไปแล้วจะได้สิ่งที่ตั้งใจหวังไว้ สำหรับผมแล้วนั้นคือการไปอยู่กับพระพุทธองค์กับหลวงพ่อ ท่านอยู่ที่ไหน ผมขอไปอยู่ที่นั้นละครับ

    [​IMG]

    เหมือนที่หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ว่า “ชาตินี้ควรเป็นชาติสุดท้ายของลูก...พ่อขอแนะนำว่า สักกายทิฏฐิตัวเดียว ลูกรัก คืออย่าไปสนใจรูป รูปของเราก็ดี รูปเขาก็ดี รูปวัตถุธาตุก็ดี ตัดกันเสียที เรื่องการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือพรหม เลิกกัน เราไม่ต้องการมีมันอีกต่อไป เพราะว่ามันเป็นของไม่ดี เราไปนิพพานกันดีกว่า นอนให้เป็นสุข
    จากหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ หน้า 25 โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2014
  12. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
  13. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    โมทนาสาธุ กับเสบียงบุญที่คุณได้สร้างและสั่งสมค่ะ จะขอร่วมบุญกับวัดป่าซางงามด้วยค่ะ
     
  14. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ที่ลูกรักของพ่อมีความต้องการธรรมะ หวังพระนิพพานพ่อพอใจ เราไปนิพพานกันดีกว่า
    นอนสบายให้มันเป็นสุข เราเหนื่อยกันมาเกินกว่า 16 อสงไขยกับแสนกัป



    จากหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ หน้า 68 โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2014
  15. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    เนื่องด้วยในกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่บ่นไปตามเรื่องตามราว วันไหนอยากบ่นอะไรก็บ่นไปเรื่อยตามประสาคนค่อนข้างจะบวมๆหน่อย
    เพราะนี่เป็นมุมมองของผมเอง ท่านที่สนใจอ่านหรือทนอ่านด้วยใจ อาจจะได้ข้อคิดที่เป็นธรรมะนะครับ

    วันนี้ผมจะมาบ่นเรื่องความตายล้วนๆครับ ผมเชื่อว่าญาติธรรมในเว็บพลังจิตส่วนมากจะปรารถนาพระนิพพานกันอยู่แล้ว แต่พวกญาติพี่น้องพ่อแม่ แฟน ลูกหลานเราเค้าเชื่อและศรัทธาแบบเรากันไหม สังคมโลกปัจจุบันนี้เค้าบังคับให้เราต้องเรียนหนังสือตั้งแต่เล็กๆ เรียนโรงเรียนกวดวิชาเพื่อให้สอบได้เกรดดีๆจะได้เรียนโรงเรียนดังๆ จบมาจะได้มีงานดีๆทำ เพื่อจะได้มีเงินเดือนสูงๆ หรือมีลู่ทางประกอบธุรกิจตามที่ชอบและถนัด แล้วเคยถามตัวเองไหมครับ เราทำไปเพื่ออะไร เพื่อตัวเอง(เอ่อ!.แล้วตูทำไปทำไมว้า)หรือตามที่พ่อแม่และสังคมหล่อหลอมเรามา บังคับให้ทำและเป็น ต้องยอมรับว่าในโลกปัจจุบันเป็นโลกแห่งการแข่งขัน แล้วเราเหนื่อยไปเพื่ออะไรกันครับ ต้องการความร่ำรวยโดยไม่สนวิธีการที่จะได้มา หรือเราจะอยู่แบบพอมีพอกินไม่เดือดร้อนตัวเอง ไม่เดือนร้อนคนอื่น

    ทุกวันนี้ผมเองพยายามไม่สร้างหนี้เพิ่ม เพราะเคยเดินพลาดมาแล้ว ไปกู้เงินมาลงทุนค้าขาย รถยนต์ก็อยากได้รถใหม่ อยากมีบ้านสวยๆ อยากได้รถมอเตอร์ไซต์ 4 สูบแบบคันใหญ่ขี่แล้วแมนมั่กๆ อยากได้จอLED จอใหญ่ๆไว้ดูหนัง อยากได้ๆๆๆๆๆโอ้ย..อีกเยอะแยะครับที่อยากได้ แต่ตอนนี้อะไรที่ทำให้เราทุกข์ทั้งร่างกาย ทุกข์ทั้งใจ เลิกดีกว่า ตอนนี้รถผมก็ไม่ต้องผ่อนแล้วเป็นรถมือสองด้วย สบายใจ บ้านก็ไม่ต้องผ่อนเพราะไม่ได้ซื้อ บ้านแม่ก็เหมือนบ้านเราเพราะแม่มีผมคนเดียว(อิๆ ^_^ ) มอเตอร์ไซด์ก็ซื้อมือสอง 7,800 ต่อราคาคนขายเค้าลดให้อีก600แน่ะ จอLEDอยากได้ก็ซื้อตอนลดราคาครับ ที่อยากจะโชด์ก็คือคอมพิวเตอร์ผม เครื่องที่ใช้พิมพ์นี่ละ เป็นคอมรุ่นเมื่อซัก10ปีที่แล้ว อัพเปลี่ยนอะไหล่บ้างก็นิดหน่อย ตอนนี้ก็ยังใช้ทำงานอยู่เลยครับ ทั้งๆที่ผมเปิดร้านค้าขายอะไหล่คอมพิวเตอร์ เป็นช่างเองด้วย ขับรถเอง ยกของเอง ส่งของเอง(เอ๊ะ!.นี่มันหน้าที่ลิ่วล้อนี่หว่า) ส่วนหน้าที่รับตังค์กะใช้งานเป็นของท่าน ผบ.ทบ.(อีกแล้วครับท่าน)

    แต่ลงท้ายที่สุดแล้วก็ตายเหมือนกัน ความตายอยู่ใกล้เราแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น แล้วเวลาจะตาย มันก็ไม่บอกเราด้วย บทมันจะตายมันก็ตายเอาดื้อๆ ไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าว่า จะตายตอนไหน ตายเช้า ตายสาย บ่าย เย็นก็ไม่รู้กับมัน หายใจเข้าแต่ไม่ออกก็ตาย หายใจออกแต่ไม่เข้าก็ตาย แล้วเวลาตายเราฝึกตายล่วงหน้ารึยัง ถ้าเรามีจิตไม่มั่นคงในความดี เมื่อถูกบาปบุญคุณโทษครอบงำ จิตใจก็ไม่มั่นคงอยู่ในความดี บางครั้งดี บางครั้งก็ไม่ดี พูดง่ายๆ ก็คือ จิตใจหวั่นไหวเกาะทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีอยู่ตลอดเวลา จิตที่ไม่ได้ฝึกไว้ดีแล้ว ย่อมไม่มีความมั่นคงว่าจิตจะไปสู่ทุคติ หรือสุคติ

    ฉะนั้นด้วยความฉลาดของเราเหมือนดั่งที่หลวงพ่อท่านแนะนำไว้ เวลาเราทำบุญให้ตั้งจิตระลึกถึง
    ปู่พระยายมฝากท่านเป็นพยานบุญ เป็นการกันเราตกนรกครับ แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานในตอนเช้าตั้งแต่ตื่นนอน และตอนก่อนจะนอน ตั้งจิตไว้ว่าถ้าเราตายในวันนี้ จะไปพระนิพพานไปอยู่กับพระพุทธองค์และหลวงพ่อ และถ้าคุณได้ตายในเวลาใดเวลาหนึ่ง ในเวลา 24 ชั่วโมง รับรองว่า ได้ไปสู่สถานที่ตามที่จิตได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้แน่นอนครับ สำคัญอยู่ที่ว่าเมื่อตั้งจิตอธิฐานแล้ว จงอย่าสงสัยในความดีที่ได้ตั้งสัจจะไว้ดีแล้ว ให้มีความมั่นใจสูงสุด ส่วนมันจะไปได้หรือไม่ได้ไม่ต้องไปสนใจ ถ้ากำลังใจมันไม่พอขาดเหลือนิดหน่อย ไปต่อบนสวรรค์ก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก

    [​IMG]

    แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือวิปัสสนาญาณเพื่อให้เกิดปัญญา การเกิดเป็นคนเต็มไปด้วยความทุกข์ ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมุติที่คนเราใช้เรียกกัน ลองไม่อาบน้ำแปรงฟัน 1 วัน กลิ่นหอมฉึ่งขนาดไหน ที่ผมและญาติธรรมทุกท่านใช้ชีวิต เดินไปเดินมา พิจารณาในร่างกายเรา เอ๊ะนี่เราเป็นถุงอึถุงฉี่เคลื่อนที่นี่หว่า เดินไปเดินมาก็หอบทั้งอึทั้งฉี่ไปด้วย เสื้อผ้ากับหนังกำพร้าเป็นแค่สิ่งที่ห่อหุ้มไว้ให้ดูสวยงามตากันอุจาดเฉยๆครับ เป็นแค่ธาตุสี่มาประชุมรวมกัน พอถึงเวลาก็คืนให้ผืนดินและธรรมชาติไปไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย ทิ้งไว้ให้แก้วมาลูน(เป็นภาษาเหนือแปลว่าผู้ชายชื่อแก้วมาทีหลัง เป็นศัพท์แสลง คล้ายๆกับทิ้งสมบัติ ลูก ผัว เมีย ไว้ให้คนที่มาทีหลังชุบมือเปิบเอาไปเลย ไม่เกี่ยวกับวงมารูนไฟว์นะคร้าบ)

    สมบัติที่เราหามา ลูก ผัว เมีย ก็ไม่ใช่ของเรา พอเราตายไปก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว ก็ตกเป็นสมบัติของโลก คนที่มาทีหลังเค้าก็เอาไปครอบครอง ไปแบ่งสันปันส่วน เห็นแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่มีกายหยาบแล้ว ก็ต้องปล่อยวางครับ

    [FONT=&quot]นำภาพที่ได้รางวัลพูลิตเซอร์ปี 1994 มาให้ชมและพิจารณาข้อธรรมะกันครับ รู้สึกว่าช่างภาพ
    คุณเควิน คาร์เตอร์
    [/FONT][FONT=&quot] คนที่ถ่ายภาพนี้หลังจากได้รับรางวัลแล้วแกก็ฆ่าตัวตายเพราะถูกสังคมประนาม[/FONT]
    [FONT=&quot]

    [/FONT]
    [FONT=&quot][​IMG][/FONT]
    [FONT=&quot]
    ในภาพเป็นเด็กผู้หญิงชาวซูดานกำลังจะตาย ขณะเดินทางไปขอรับปันอาหารจากแคมป์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ[/FONT][FONT=&quot] 1 [/FONT][FONT=&quot]กิโลเมตร[/FONT][FONT=&quot]ไม่ไกลกัน คือนกแร้งผู้รอคอยเสี้ยววินาทีที่เด็กหญิงจะหมดลมหายใจ เพื่อจิกกินร่างเธอเป็นอาหาร[/FONT][FONT=&quot] แต่มีคนทราบว่าหลังจากที่เขาถ่ายรูปแล้ว เขาทำเพียงแค่ไล่นกแร้งไป แต่ไม่ได้ช่วยเด็ก หลายคนประนามเขาว่าเขาก็เป็นเหมือนนกแร้งอีกตัว ที่คอยจะกินเด็กชาวซูดานนั่นเอง[/FONT]


    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นพวกพ้อง มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กระทำกรรมอันใดไว้ เป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  16. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [​IMG]

    เคยมีคนกล่าวไว้ว่า“คนเราเกิดมาเพื่อพบเจอกันและรอวันเวลาพลัดพรากจากกัน” เมื่อนำมาพิจารณา นึก คิด แล้วย้อนระลึกดูว่าเราเกิดมากี่ชาติภพ เหนื่อยมากันเท่าไหร่ เบื่อหน่ายกันพอรึยัง กับการเกิด

    ในความคิดของผมแล้ว ดวงจิตดวงนี้ดวงเดียวท่องเที่ยวไป เคยผ่านการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในโลกนี้มาแล้วกี่กัปกี่กัลป์ นับนิ้วมือไม่ได้แน่นอน ใช้ตัวเลขศูนย์กี่ตัวก็ไม่รู้ ต้องใช้เลขยกกำลังกันเลยทีเดียว ภพภูมิอื่นๆที่เคยเกิดมาเข้าใจว่าน่าจะเหมาครบทุกที่ นรกภูมิต้องเคยผ่านมาแล้วทุกขุม สวรรค์ 6 ชั้น และพรหม 11 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้น ก็ต้องเคยไปมาแล้วยกเว้นพรหมชั้นที่ 12-16 เพราะนั้นเป็นพรหมชั้นสำหรับพระอริยเจ้าขั้นอนาคามีขึ้นไป ซึ่งไม่มีถอยหลังอีกแล้วและท่านก็นิพพานข้างบนเลยไม่ต้องมาเกิดอีก รวมความว่าอะไรก็ตามที่ไม่มีความแน่นอน ทั้งผมและญาติธรรมต้องเคยผ่านมาหมดแล้ว

    [​IMG]

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำในชาติสุดท้ายก่อนจะมาเกิดนั้น ท่านเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูรพระพรหมโพธิสัตว์นามว่า “สัมพเกษีพรหม” เป็นผู้ที่ได้สร้างสมบารมีมาดีแล้ว จนกระทั่งจวนจะเต็มครบถ้วนทั้ง 30 ทัศ เหลืออีก 7 ชาติสุดท้าย จัดอยู่ในระดับปรมัตถบารมี หวังที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพิชิตมาร ในอนาคตกาลพระองค์หนึ่ง จนได้รับพระพุทธพยากรณ์ในสำนักพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ อันปรากฏอยู่ในบันทึกพิเศษของท่านตอนหนึ่งว่า

    ถ้าเธอยังไม่ละพุทธภูมิ จะได้เป็นพระพุทธเจ้า มีนามว่า “พระพุทธอริยะมุนี” ต่อจากพระศรีอาริย์ไปเป็นองค์ที่ 20 แต่สงสัยว่าจะคลายตัวเสียตั้งแต่พระสมณโคดม ถ้าคลายตัวตอนนั้น ก็จะเป็นกำลังใหญ่ของ
    ลูกหลานให้เข้าถึงธรรมได้อย่างแน่นแฟ้นคือ“พระโสดาบัน”เป็นต้นทั่วกันทุกคนเพราะผลที่ตนบรรลุ...


    แต่สำหรับผู้ที่เป็นลูกหลานหลวงพ่อ ผมเข้าใจว่าพวกเรามีวาสนาบารมีในองค์หลวงพ่อท่าน ท่านจึงต้องมีภารกิจสำหรับลูกหลานที่ติดตามกันมา ที่เรียกว่า “เป็นผู้ที่เคยช่วยสนับสนุนพระโพธิญาณกันมาในกาลก่อน” จึงมีข้อแม้ว่าจะต้องอยู่เพื่อทำกิจของพระโพธิญาณต่อไปอีก 12 ปี ครั้นถึงปี พ.ศ. 2515 หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน ก็ปรากฏออกมาพร้อมกับอาการป่วยหนักของท่าน เมื่อจะขอลาเข้าสู่แดนพระนิพพาน ท่านปู่พระอินทร์ ก็มายับยั้งว่า

    ก่อนลงมาเกิด คุณตั้งใจจะมาช่วยบรรดาลูกหลาน อย่างน้อยก็ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เวลานี้คนของคุณก็ยังมาไม่หมด คนของโยมก็ยังไม่ครบ แล้วยังมีคนของสมเด็จองค์ปัจจุบัน และของหลวงพ่อปานอีก...

    หลวงพ่อท่านก็บอกว่า ก็รอมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่มาอีกล่ะ นับตั้งแต่นั้นมา การหลั่งไหลมาตาม “ใบสั่ง” ก็เกิดขึ้นอย่างมากมาย ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ แต่ก่อนมรณภาพ พระศรีอาริย์มาแถม ฝากไว้อีกไม่มากประมาณ 3 แสนคน มีคนมาเล่าให้ฟังหลายรายว่า หลวงพ่อไปเข้าฝันให้มาวัด ทั้งที่ไม่เคยรู้จักวัด และไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน ดลใจให้หลงทางไปเจอวัดท่านบ้าง(อะอันนี้ตัวผมเองครับ) มีเหตุปัจจัยให้มาศรัทธาในตัวหลวงพ่อไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    ครั้งนั้นจึงมีการต่อสัญญาอีก 10 ปี เพื่อใช้หนี้ลูกหลานที่ติดตามกันมา จนถึงเวลา ครบ 10 ปีตามสัญญา ท่านก็ต้องมาตายชั่วคราวในปี พ.ศ. 2523 เพื่อตัดตอนก่อนที่จะครบในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งมีการยืดเวลาไปอีก 10 ปี ถึงปี พ.ศ. 2535 ท่านก็ได้ทำกิจพระศาสนาครบถ้วนตามมโนปณิธาน จนถึงวาระสุดท้ายของสังขาร
    [​IMG]

    จิตดวงนี้ไม่มีผู้สร้างไม่มีต้นกำเนิด แต่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ได้มาตรัสรู้ในโลกนับตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม เราต้องเคยผ่านช่วงเวลานั้นๆมาแล้วบางชาติอาจจะอยู่อเวจีมหานรก โลกันต์นรก หรือนรกขุมใหญ่ๆย่อยๆ เป็นสัมภเวสี เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน คน เทวดา พรหม ดังนั้นคิดว่าน่าจะอิ่มกันพอซะทีครับ แค่ในชาติปัจจุบันนี้ ก็มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งตัวเอง ครอบครัว บริวาร ทรัพย์สมบัติ หน้าที่การงาน เหนื่อยทั้งกายและใจ(บางอย่างเป็นหน้าที่ที่ท่านผบ.ทบ.สั่งงานมาก็ต้องทำครับห้ามบ่นห้ามอู้ไม่งั้น) เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่หรอกครับ นอนพักมันก็หาย แต่เหนื่อยใจนี่สวดยอดสวดๆ(สุดยอดสุดๆ) ทุกข์ก็มากกว่าสุข สุขก็สุขไม่จริง ประเภทสุขนิดหน่อย สุขเล็กน้อยอะไรประมาณนั้น

    ปิดท้ายด้วยคำกล่าวที่ว่า“วันเวลาล่วงเลยผ่านไป เราทำอะไรบ้าง
    ได้ทำอะไรที่เป็นเสบียงไว้เพื่อตัวเองภายหน้ากันรึยังครับ
    ผมทำแล้วครับ
    หาบ้านใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว
    แล้วคุณละทำรึยัง


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  17. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ประโยคท้ายๆนี่กระแทกใจอย่างจัง

    กำลังสร้างบ้านเหมือนกันครับ แต่รู้สึกว่ากำลังใจตัวเองนี่อ่อนแอมาก แต่จะไม่ท้อ ไม่ถอย เกิดเป็นคนทั้งทีต้องเอาดีให้ได้

    อนุโมทนาในความดีทั้งปวงด้วยนะครับ
     
  18. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับคุณchotoครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

    เช้านี้จะเอาสภาพบ้านใหม่ผมที่สร้างไว้แล้วมาเล่าให้ฟัง คือมีแล้วนะครับที่บรรยายให้ฟังนี่ แต่ยังไม่มีสิทธิไปอยู่ แค่มีเฉยๆ เพราะเจ้าของซึ่งก็คือผมยังคาบเกี่ยวปากบ่อนรกอยู่ เพราะผมยังเป็นคนเต็ม100% ยังมองเห็นสาวๆขาวๆหมวยๆว่าสวยอยู่ ยังลุ่มๆดอนๆในการปฏิบัติอยู่ ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ แต่ยังอยู่ในขอบเขตของศีล

    พระนิพพานสวยเกินกว่าจะบรรยาย เห็นวิมานแก้วเต็มไปหมดนับไม่ถ้วน ระยิบระยับแพรวพราว หาที่เปรียบมิได้ ขนาดของวิมานไม่เท่ากัน เป็นเหมือนบ้านจัดสรร วิมานหลังใหญ่ตั้งเรียงอยู่หัวแถวด้านหน้า เป็นของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ แล้ววิมานที่เรียงแถวลึกเข้าไปในแต่ละแถวนั้นเป็นของสาวกในพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นๆ วิมานนั้นไม่มีฝา มีหน้าจั่ว หลังคาเป็นชั้นๆมีปลายแหลมสูงขึ้นไป มีกนกเป็นแก้วระยิบระยับ สวยงามมาก เป็นแก้วระยิบระยับทั้งหลัง นอกจากวิมานแล้วก็มีสวนดอกไม้แก้ว เป็นประกายระยิบระยับ มีสระโบกขรณี มีดอกบัวชูก้าน ใบและ ดอกใสเป็นแก้วชูช่อไสว สวยงามมาก ทุกอย่างเป็นแก้วหมด มีน้ำใสเหมือนแก้ว เมื่อเข้าไปในวิมาน เวลาจะนั่งก็มีแท่นหรือตั่งมารองรับ พอเอนตัวลงนอนก็มีหมอนมารองศีรษะ สบายมาก จิตใจโปร่งเบา ไม่มีความทุกข์ใดๆ นี่คือความเป็นทิพย์ ถ้าญาติธรรมท่านใดก็ตามที่รักและตั้งใจไว้ที่พระนิพพาน วิมานจะปรากฏที่นั้นทันทีแต่จะยังไม่ชัดเจน แต่มีเพื่อเราแน่นอนแล้ว จะใสชัดเจนเมื่อเจ้าของเป็นอรหันต์

    [​IMG]

    ฉะนั้นหลวงพ่อท่านจึงสอนให้ตัดสักกายทิฏฐิตัวเดียว คืออย่าไปสนใจรูป รูปของเราก็ดี รูปเขาก็ดี รูปวัตถุธาตุก็ดี ตัดกันเสียที เรื่องการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือพรหม เลิกกัน เราไม่ต้องการมีมันอีกต่อไป เพราะว่ามันเป็นของไม่ดี เราไปนิพพานกันดีกว่า นอนให้เป็นสุข ทุกข์สักน้อยนิดก็ไม่มี ไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้ม ไม่ต้องมีร่างกายให้ต้องดูแลมันอีกต่อไป

    อันนี้ถ้าท่านผู้รู้ท่านใดจะแย้งผม หรือจะบ่นว่าสิ่งที่ไปเห็นไม่จริง อุปทานคิดไปเอง อันนี้ต้องไปกราบเรียนหลวงพ่อท่านเอาเองนะครับ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่แฟนผมใช้มโนมยิทธิขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านไปเห็นมา ทั้งๆที่แฟนผม(ท่านผบ.ทบ.)เค้าเป็นคนไม่ค่อยอ่านหนังสือและไม่ได้สนใจในนิพพานเลย มีแต่ผมที่บ๊องๆบวมๆอยู่คนเดียว ชวนเค้าไปฝึกมโนมยิทธิด้วยกัน แต่อ้าว!พอฝึกเสร็จกลายเป็นว่าเจ๊ท่านเอาไปกินซะเอง ของผมนี่ยังบ๋อต๋ออยู่เลย และยังเดินเล่นอยู่ปากบ่อนรกอยู่เป็นปกติ ฉะนั้นญาติธรรมทุกท่านอย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ลองพิจารณาดูก่อนแล้วลองหาทางพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ แล้วเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมมาบ่นให้ฟังนะครับ

    [​IMG]


    อันนี้เป็นภาพที่เทียบเคียงคล้ายๆวิมานที่นิพพานนะครับ



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    อันนี้เป็นภาพเทียบเคียงข้างในวิมานที่นิพพานครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  19. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เคยมีคนกล่าวไว้ว่า เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก ทุกสิ่งในโลกนี้เชื่อมโยงกันไว้ด้วยสายใยแห่งโชคชะตา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถูกกำหนดไว้แล้ว และสิ่งที่เรากระทำในปัจจุบันจะส่งผลไปถึงตัวของเราในอนาคต (อืมๆ!คมเหมือนกันนะเราเนี๊ยะ ประโยคข้างบนนี้ผมเอามายำรวมกันครับ)

    วันนี้มีโรคกรรมมาบ่นให้ฟังครับ โรคกรรมผมคือโรคกระเพาะเป็นโรคประจำตัวซึ่งไม่ได้อยากเป็นเลย ตอนนี้มีอีกอย่างแล้วครับ เป็นโรคปวดไหล่เรื้อรัง บริเวณสะบักขวา ไม่รู้ว่ามีอาการพังผืดยึดรั้งในกล้ามเนื้อด้วยรึเปล่า แฟนผมบอกว่านอกจากชาติก่อนจะเอามีดไปจิ้มพุงกะทิศัตรูในสนามรบแล้ว ยังเห็นภาพเอาดาบฟันศัตรูขาดสะพายแล่งด้วย เลยทำให้มีโรคนี้เป็นโรคเวรกรรมที่ผมได้ทำไว้ มันเป็นแล้วรำคาญมากครับ แหมถ้ารำด้วยเดินด้วยท่าจะดี แต่เดี๋ยวท่านผบ.ทบ.จะจับผมส่งโรงพยาบาลสวนปรุงเอา อย่ากระนั้นเลย อยู่เฉยๆก็ดีแล้วครับ

    กล่าวถึงวิมานพระนิพพานไปแล้ว มาพูดถึงอารมณ์ที่นิพพานบ้างนะครับ

    ตัดตอนจากหนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ หน้า 104-106

    อารมณ์พระนิพพานเป็นยังไง ใครตอบได้ ท่านที่เข้าพระนิพพานแล้วนั่นแหละตอบได้ท่านแม่ศรีของลูกๆเป็นผู้ตอบคำถามนี้...ท่านบอกว่า

    มันไม่มีอารมณ์อะไรนี่ อารมณ์อย่างเทวดาก็ไม่มี อารมณ์อย่างพรหมก็ไม่มี จะมานั่งห่วงว่าคนนั้นจะแก่ก็ไม่มี ห่วงว่าคนนั้นจะป่วยก็ไม่มี ห่วงว่าคนนั้นจะหิวมันก็ไม่มี ห่วงว่าคนนี้จะเหนื่อยมันก็ไม่มี มันไม่มีอะไรจะห่วงทั้งหมด อารมณ์มันเฉยๆถึงจะเป็นลูก เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นสามี เป็นภรรยา อารมณ์เดิมมันก็ไม่มี แต่ความเนื่องถึงกันในอดีตนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขึ้นมาบนนี้อารมณ์มันปล่อยหมด แต่ทว่า คำว่า พันธะยังมีอยู่นิดหนึ่งคือ ห่วงพวกที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ แต่ห่วงแล้วจิตมันไม่เป็นทุกข์หรอก มีกังวลอยู่นิดเดียวว่า ทำอย่างไรเขาจึงจะเป็นพระอรหันต์ จะหาวิธีใดที่จะให้เขามานิพพานได้

    หลวงพ่อถามท่านแม่ว่า สมมุติว่า
    ถ้าเขามีกำลังที่จะมานิพพานไม่ได้ล่ะ จะมีกังวลไหม

    ท่านแม่ตอบว่า
    ไม่มีกังวลเพราะว่ารู้ว่ากำลังเขาไม่พอ เราก็ไม่มีกังวล เราก็จะมีทางอย่างเดียวว่า ชี้แนว แนะแนว เพื่อความเข้าใจ เวลาที่จิตเขาเป็นทิพย์จะสร้างความเข้าใจให้เกิด ว่าการเกิดป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูงน่ะจะทำยังไง ให้เขาเกิดอารมณ์ความรู้สึกเอง

    ท่านแม่ถามหลวงพ่อว่า
    ขึ้นมาข้างบนนี้มีกังวลไหม

    หลวงพ่อตอบว่า
    ฉันจะไปกังวลอะไรกะฉัน ฉันอยู่เมืองมนุษย์ฉันยังไม่กังวลเลย

    ท่านแม่ถามอีกว่า
    ห่วงใครบ้าง

    หลวงพ่อตอบว่า
    ตัวฉัน ฉันยังไม่ห่วงเลย แล้วฉันจะห่วงใครล่ะ

    ครานั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทับเป็นประธานอยู่ด้วยตรัสว่า

    ถูก ตัวคุณ คุณก็ไม่ห่วง และคำว่าห่วงจริงๆมันก็ไม่มี แต่ทว่าพระหรือคนก็ตาม ถ้าทำอารมณ์จิตถึงที่สุดได้ ก็อย่าลืมว่าถ้าขันธ์ 5 มันยังมีอยู่ ภาระก็ยังมี นี่เราไม่ห่วงจริงแต่เราก็ต้องทำงานตามหน้าที่ ฉะนั้น ความหนักในขณะที่ยังทรงขันธ์ 5 มันจึงยังมีอยู่ แต่ทว่าจิตที่ยังทรงขันธ์ 5 อยู่ควรจะทำอารมณ์ให้เบา เหมือนกับที่มาอยู่ที่นิพพาน

    ส่วนที่ผมถามแฟน(ท่านผบ.ทบ.)นั้น ได้ความว่าที่สวรรค์นั้นบรรยากาศยัง
    เหมือนมีหมอกบางๆ นิดเดียวจริงๆ แต่ก็ยังเบาบางและสบายกว่าที่โลกเรา แต่ทีี่่พรหมนั้นแฟนผมไม่เคยแวะเลย บรรยากาศที่พระนิพพานนั้นโปร่ง เบา สบาย ใสสว่างจริงๆ บรรยายเป็นคำพูดก็ยังไม่ใกล้เคียงหรือได้ซักหนึ่งในสิบส่วนเลยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2014
  20. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุค่ะพี่ อ่านแล้วสนุกมากเลย (ชอบตรงธรรมะที่สอดแทรกมานี่แหละ)

    แปลกอย่างหนึ่งตรงที่ตั้งแต่ฝึกมโนมยิทธิเมื่ออดีตนั้น เวลาไปท่องเที่ยวก็จะไปแต่สวรรค์และพระนิพพานเหมือนกับผบ.ทบ.พี่เลยค่ะ ส่วนพรหมนี่ไม่ค่อยได้ไปจริงๆ ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...