เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.

  1. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448

    รัก(ที่จะอ่าน)แล้ว รอหน่อย รอกันไปยาวๆ
    แฟนคลับเก่าๆ เค้าปูเสื่อหลับรอ
    ส่วนเราไป ทำกับข้าวกับปลา กินให้อิ่มแน่นพุง
    แล้วไปเขียนกลอนนอนรออ่านเรื่องเล่าจากอาจารย์toplus99กันนะ
    ยายเล่น^^
     
  2. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    จร้า......เขียนไป 5 หน้าก็ยังรอจร้า..555555 fcอ่ะ 555555
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,164
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ***********************************
    บอกแล้ววว จะไปรออ่านจากข้างบนค่ะqsqu
     
  4. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    นี่ก็ปาเข้าไปหน้า 96 แล้วสำหรับกระทู้นี้ ยาวเกินไปล่ะ..
    ตั้งไว้ไม่ควรเกิน100หน้า
    ได้เวลาสำหรับการเดินทางอันเนิ่นนานหลายปี จะย้ายไปที่กระทู้..

    "ตามครรลองธุลีดิน..."ตั้งใจไว้จนถึงก่อนเข้าพรรษาปีนี้ เก็บเรื่องราวตกหล่นๆให้หมด..
    ก็จำต้องขอปลีกตัวลาไปก่อน
     
  5. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495

    อุเหม่...เกือบตกขบวนสาแหล่ว
    เค้าจะออกเดินทางกันอีกแหละย้ายกระทู้ ไปบ้านใหม่หลังเดิมนี่เอง
    ดีนะ กลับมาทัน เกือบไป...


    :z7
     
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    toplus99 รอคอยคุณภิศรณ์มาน๊านนาน..ไม่แวะมาเยี่ยมกันเลยหนอ
    ไม่ได้น้อยใจ แค่คิดถึง....ว่าเค๊าไปไหนน๊อ!!!!
    หรือเราทำอะไรให้เขาไม่ชอบใจกระมัง!
    ======

    ต่อไปกระทู้จะไม่เรื่องมากแล้ว...เดินหน้าลุย
    ใครเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เค๊า..ไม่ใช่เรื่องของเรา

    " เรื่องของท่านไม่ใช่เรื่องของเรา....
    เรื่องของเราไม่ใช่เรื่องท่าน" ล่อภาษาพ่อขุนรามนี่ได้อารมณ์ที่สุด

    แค่อยากบอกเล่า..เพียงเศษเสี้ยวในอิทธิแห่งฤทธิ์อภิญญาลูกศิษย์สายหลวงปู่ใหญ่หลวงปู่เทพโลกอุดร องค์บรมครู ผู้ดูแลผู้ประพฤติธรรม รักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงสถาพรคงสืบจากองค์สมณโคดมตามพุทธทำนาย... มีอยู่จริง

    แต่มิต้องเสาะหาว่าท่านผู้นั้นเป็นใคร เราเป็นใครเพราะมิใช่สาระสำคัญที่ต้องสนใจ เพียงเรื่องนิยายประกอบกระทู้พลังจิตนี้เท่านั้น

    ..โดยมิได้คัดลอกนำมาจากหนังสือนิตยสารเล่มไหนทั้งสิ้น!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  7. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495
    "ขอบคุณค่ะในความคิดถึง ห่วงใยที่มีให้ และมิตรภาพที่ดีมอบแก่กันค่ะ"

    หลากหลายเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา ทำให้ความรู้สึกเซถลาตั้งรับ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
    ตามประสา แต่วันนี้กลับบ้านมา เพื่อนั่งหน้ารอรับฟังทุกเรื่องราว

    ;k05
     
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    วันนี้ก้าวเท้าลุกจากเตียงที่นอน...เพียงย่างเหยียบเท้าซ้ายก้าวแรกแตะลงพื้น

    มันเสียวแปล๊บ..เสียววูบใจหายวาบ ส่งความรู้สึกไปถึงก้านสมอง...อีกแล้วหรือ?

    มันเหมือนตกลงหลุมอากาศชั่วขณะ
    ...ก็พยายามค้นหาคำตอบอาการประหลาดแบบนี้อยู่นานมา 1-2ปีแล้ว

    ว่ามันคือเหตุใด อะไรหน๊อ...รึเรากำลังจะตาย...พลังชีวิตมันอ่อนลงรึ?
    พลังธาตุสี่ในร่างกายมันไม่สมดุลย์?...


    ขาอ่อนหมดแรง...เมื่อสัมผัสพื้นดินล้มเซ หัวทิ่มจนบาดเจ็บหัวเข่าแตก มือเจ็บนิ้วเดาะก็เป็นมาแล้ว
    หรือหลายครั้งในอาคารสูง เมื่อก้าวขาซ้ายขยับย่างไป..ให้ใจหายเป็นช่วงๆ
    จนแทบไม่กล้าก้าวย่างเดินไปไหน..ก็เป็นมาแล้ว++



    เพราะมันรู้สึกเสียวแปล๊บ..ใจหายเหมือนเสี้ยวเวลามันหลุดเข้าไปในอวกาศที่ไม่มีพื้นดินรับไว้
    .....โอ้บ้าจริงเชียว ..ซาร่า!!


    ท่านใด..มีใครที่เคยเจอเหตุการณ์ประหลาดๆกับตัวเองแบบนี้บ้างหรือไม่?
    ช่วยบอกเล่าหน่อยเหอะครับ!!!ด้วยอ่อนด้อยประสบการณ์เหลือเกิน


    ว่าแล้ววันนี้ก็ไปเดินหาซื้อรูปปั้นพระแม่ธรณีสวยๆ มาทำพิธีไหว้บวงสรวงดีกว่า....
    เผื่อเหตุการณ์ประหลาดๆมันจะดีขึ้น...อ่ะงง สิ


    ...อย่าเพิ่งว่าเราบ้า
    เพราะลำพังตนก็ยังสงสัยว่า..ตัวเองกำลังบ้าหรือเพี้ยนไปพอแรงแล้วล่ะ!!



    ว่าหนอโลกเรานี้ ..เรื่องของจิตวิญญาณพลังงานธาตุนี้มันซับซ้อน ซ่อนเงื่อนจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ตอนนี้ชักเริ่มเข้าใจละ..

    ว่าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในสถานปฏิบัติธรรมหลายที่ทำไม..

    พระสงฆ์ครูบาอาจารย์ ผู้มีญาณสัมผัสรู้

    ท่านเหล่านั้นจึงต้องมีการจัดสร้าง หรือหารูปปั้นองค์พระแม่ธรณีมาให้สาธุชนทั้งหลายได้มากราบไหว้เคารพกัน....

    มันมีที่มาอย่างนี้นี่เอง...เห็นในถ้ำมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่เข้าใจชัดเจน

    แต่คาดว่าท่านที่มีญาณสัมผัส น่าจะเจอการบอกเตือน-สื่อสารที่แตกต่างกันออกไป
    ..ท่านเหล่านั้นคงมิทำไปเพราะธรรมเนียม เอาโก้เก๋ให้เปลืองตังค์ไปเปล่าๆแน่ๆ..


    อันนี้คงแล้วแต่วิจารณญานตัดสินกันเอง

    ไม่เชื่อ...ก็อย่าหมิ่นประมาทพลังแห่งเทพพระแม่ธรณีเลย เรื่องราวตามพุทธประวัติก็มีกล่าวถึงการอ้างถึงการสั่งสมบารมีกรวดน้ำเมื่อตั้งปฏิญาณแห่งโพธิสัตย์เพื่อเป็นองค์พุทธเจ้าไว้ชัดเจน

    โดยมีพระแม่ธรณีเป็นองค์สักขีพยาน เก็บรวบรวมน้ำจากการกรวดน้ำสั่งสมบุญบารมีไว้ทุกภพชาติของพระองค์ และถ้าไม่เชื่อ...ก็เลิกเป็นคนพุทธซะ เปล่าประโยชน์จะคุยกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  10. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495
    พบแพทย์หรือยังคะ ควรต้องพบแพทย์บ้างก็ดีนะคะ เผื่อว่าอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ทางร่างกายมาแทรก

    ;aa8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  11. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    toplus99 ตรวจสุขภาพประจำทุกปีครับ...ผลคือปกติ

    เคยเฝ้าดูตัวเองเวลาวิญญาณออกจากร่าง..เหงื่อกาฬไหลซึมออกจนเสื้อเปียก ชนิดบิดออกเป็นน้ำไหลโจก
    สลบตื่นฟื้นไปมา คาสมาธิ 3-4 รอบ เวทนาแสนสาหัสมาก..

    เพราะไม่เข้าใจว่าตัวเองตอนนั้นเป็นอะไรกันแน่


    เช้าวันต่อมาเลยไปโรงพยาบาลผลตรวจเลือด
    ..ผลคือ...ไข้เลือดออก ระยะช๊อค (ปกติคนทั่วไปมักเสียชีวิตกันในระยะนี้)

    "...เกร็ดเม็ดเลือดต่ำมาก...จนหมอ-พยาบาลพากันประหลาดใจมองหน้ากันเลิ่กลั่กๆ

    หมอบอก"..เกร็ดเลือดคุณต่ำกว่าปกติมากขนาดนี้..ตามธรรมดาน่ะ เขาตายแง๋ๆชัวร์ๆ"

    ดีที่คุณยังขับรถมาโรงพยาลบาลได้เองอีกนี่ น่าแปลก??
    เราก็ "อ้าวเหรอครับ..อันนี้ก็ไม่รู้สินะ"

    จากนั้นก็เซถลา..เหมือนนกปีกหัก นอนหยอดน้ำเกลือจากพยาบาลสาวน่ารักๆ จนแก้มบวมตุ่ยไปเลย 4วันรวด

    =====

    ไงเจ๋งป่ะ?
    แหมโง่แล้ว ยังอยากมาคุยอวดอีกอ่ะเราไม่ธรรมดา.. อิอิ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  12. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    บางครั้ง การปรับสมดุลย์ธาตุในร่างกาย
    เราแค่ ตาดูดาวเท้าติดดิน เอ่ออ ตาไม่ต้องดูดาวอย่างเดียว
    จะดูเดือน ดูอาทิตย์ ดูน้องนกน้องไม้ก็ได้ ถ้าไม่เมื่อยคอซะก่อน^^
    แต่ถ้า..ตาดูใจใช้เท้าสัมผัสดิน จะเพิ่มพลังบวกจนคุณสัมผัสได้

    เพียงแต่ เราเดินเท้าเปล่าบนดิน ถ่ายเท พลังลบ ปรับสมดุลย์ร่างกายได้บางส่วน
    พลังแห่งพระแม่ธรณี นี่นี้ มากคณานับ

    ถ้า..เกิดเป็นไข้เลือดออก ระยะช๊อค แบบท่านอ.toplus99
    ส่วนใหญ่จะได้ไปนอนคุยกับพระแม่ธรณี แทนที่จะถ่ายเทพลัง
    เป็นความสามารถ ที่เราไม่ควรลอกเลียนแบบ ^_^

    ที่กล่าวมานั้น เราก็มั่วไปตามประสา คนขาดๆเกินๆ
    จริงรึไม่ ก็ไปทดลองพิสูจน์กันเอาเอง
    เราไม่รับผิดรับแต่ชอบเท่านั้น ..อิอิ
     
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004

    พฤติกรรมเราคงไม่ค่อยมีใครอยากเลียนแบบหรอก..ถ้าไม่โง่จริงๆ
    ขนาดว่าเป็นไข้หนาวร้อนสลับไปมา ปวดเมื่อย ชาเนื้อตัว มาตั้ง4-5 วันยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ก็ไปทำงานตามปกติ ได้แค่สงสัยว่าเป็นไรว๊าเรา

    จนขั้นจวนเจียนเฉียดตายจริงๆนั่นแหละ...ถึงได้ไปหาหมอ
    เวรกรรม!!!นี่คือครั้งที่สาม ที่ป่วยเฉียดตาย

    ++++++

    จะว่าไปแล้วหลายๆคนที่ เจ็บป่วยบ่อยๆ...เป็นโน้นเป็นนี่
    เดี๋ยวเป็นไข้หวัด เดี๋ยวปวดหัวเป็นไมเกรน เดี๋ยวเป็นภูมิแพ้ อ่อนเพลียง่าย
    หน้าตา ที่ดูสวยงาม ตบแต่งลวงตาด้วยเครื่องสำอางประทินโฉม อาหารเสริมราคาแพงที่โฆษณากัน แต่ดูไปเหมือนคนไม่แข็งแรง อมโรค

    ส่วนหนึ่งเพราะไม่เคยถอดรองเท้า ให้เท้าเราเหยียบสัมผ้สพื้นดินโดยตรงเลย
    ลองนึกๆดูนะครับ...มีคนไทยไม่ใช่น้อยที่มีพฤติกรรมเป็นเช่นนี้..
    โดยเฉพาะในสังคมแบบคนเมือง คนอยู่พักอาศัยอยู่บนตึกสูง, อพาร์ตเมนท์ ,คอนโด,หอพัก

    กลับบ้านเลิกงาน ซื้ออาหารถุง หรือหากินตามร้านอาหาร
    เข้าห้องเล่นเนต เล่นเกม...คุยแชต F/B เข้านอนดึก ..

    เช้าออกมาทำงาน วันหยุดก็ตื่นสายหน่อย..ไม่เคยหาเวลาออกกำลังกาย พฤติกรรมเหล่านี้ เขาเรียก "วงจรของเรียกโรคเข้าหาตัว"
    ..แบบฝังจมโดยไม่รู้ตัว

    พออายุมากน้อย เข้าหลักอายุ 40 ปีขึ้นไป สังขารเริ่มเสื่อมพลังธาตุขาดสมดุลย์มากเข้า โรคร้ายทั้งหลายจะเริ่มแสดงผล หลายคนเริ่มเจ็บป่วย หรือล้มป่วยเสียชีวิต เงินที่อุตส่าห์หาเก็บมาได้ ต้องสูญไปกับค่ารักษาตัวเพื่อแลกยื้อกับชีวิต...

    งั้นลองมาหาเวลา ตื่นเช้าๆหน่อย..สับดาห์ละครั้งก็ยังดีหาสถานที่มีสวนต้นไม้เยอะหน่อย อากาศดีๆออกเดินเล่นไป
    แล้วถอดรองเท้าเหยียบเท้าเปล่าลงบนพื้นหญ้า....แล้วกำหนดรู้ในลมหายใจเข้าออก แบบช้าๆ แรงๆ ลึกๆดูสักวันละ 3-5นาที รับรองอาการเจ็บป่วย เพราะภูมิแพ้ ไมเกรนทั้งหลายจะลดลงไปได้เยอะเชียวนา..เชื่อสิ

    ให้พลังงานในร่างกายได้คลายพลังไฟฟ้าสถิตย์ในตัวลงพื้นดิน...ก็จะเพิ่มพลังหยิน-หยางในร่ากายให้สมดุลย์มากขึ้น ร่างกายก็จะแข็งแรงมากขึ้น โรคภัยก็จะน้อยลง

    ถ้าจะลองมาถามและตอบเล่นๆกันหน่อย..
    ว่าล่าสุดนี้...ท่านเหยีบลงพื้นดินด้วยเท้าเปล่าเมื่อไร?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  14. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    เดินที่พื้นทรายท่าจะดีนะค่ะ .......... สาธุจร้า
     
  15. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    ยายเล่นลองสัมผัสดู
    ดินแต่ละที่ แต่ละเวลา แต่ละชนิด มีความแตกต่างทางความรู้สึก^^
     
  16. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    ขอบคุณป้าแตนจร้าจะทดสอบพรุ่งนี้จร้า
     
  17. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495


    นั่นสิคะ...คงนานพอดูเพราะหาจำได้ไม่...

    อย่างดีที่เท้าได้เหยียบดินจริง ๆ ก็เพลาใส่บาตรเช้าเท่านั้นเอง
    ซึ่งก็คงนับไม่ได้ว่าเดินดินด้วยเท้าเปล่า เพราะก็จะถอดวางรองเท้าไว้ไม่ห่างตัวเรามากนัก แต่เพียงแค่เดินไม่กี่ก้าว ก็แทบจะไม่เรียกว่าเดินแล้ว ออกแนวย่องเสียมากกว่า ช่างน่าอายเสียจริง หมดกันบุคลิกภาพ แต่มันเจ็บจริงค่ะ


    ดังนั้น จึงไม่กล้าเดินเท้าเปล่าให้ใครเห็น เดี๋ยวเค้าจะว่าเป็นหัวขโมยแน่เลย คงต้องไปเริ่มที่สนามหญ้าก่อนดีกว่า หรือพื้นทรายคงได้นะคะ
     
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ใช่แล้ว พื้นดินแต่ละที่ให้ความรู้สึกต่างกัน..
    จากที่เคยมีการวัดทดสอบการลงกราวด์ระบบอุปกรณ์สื่อสารด้วยเครื่องวัดค่ากราวด์(ค่าความสามารถในการเชื่อมต่อทางศักย์ไฟฟ้ากับพื้นโลก)

    ผลการวัดค่ามักออกว่าพื้นดินที่แห้งแล้ง จะนำไฟฟ้าได้ไม่ดี
    พื้นดินที่เป็นทรายมากๆ นำกระแสก็สู้ดินที่เป็นดินร่วนปนชื้นไม่ได้..

    วิธีการที่ทำกันบางทีต้องเล่นเอา ให้ขุดดินเป็นหลุมกว้าง แล้วหาซื้อเกลือทะเลมาหลายๆถุงมาผสมคลุกปนกับเศษถ่านไม้ป่น มาคนผสมปนลงไปในหลุมดินแล้วจึงตอกเส้นแท่งทองแดงลงไป วัดค่าความสามารถของการนำกระแสไฟฟ้าของกราวด์ระบบอุปกรณ์สื่อสาร
    ...ผลที่ได้ดีขึ้นมาจนน่าประหลาด
    (ค่าเข้าใกล้ศูนย์โอห์มตามสเปควิศกรรมไฟฟ้า..ไม่งั้นส่งมอบงานกันไม่ได้)
    น่างงสงสัย..ถ่านกับเกลือมันช่วยยังไง???

    คาดว่าการเดินเล่นทรายที่อยู่ใกล้แถบชายทะเล น่าจะช่วยได้เยอะ เพราะเกลือเพียบ

    คุณภิศรณ์นี่ไม่เจอกันนาน..นี่ก็ตลกไม่เบาเหมือนนะเนี่ย!!!!
    การเดินถอดรองเท้า เหยียบพื้นดินก็ควรเหยียบไปบนหญ้านุ่มๆ ตอนเช้าๆนี่ล่ะครับเพราะได้ความชุ่มชื้นของผิวดินกับน้ำค้างบนยอดหญ้าผสานกัน แรกๆอาจจั๊กกะจี้...จู๋จึ๋เท้าหน่อยในรายที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสถอดรองเท้าเดินบ่อยๆ.. นานๆไปจะเริ่มชิน
    หรือจะถอดรองเท้าโอบกอดต้นไม้ใหญ่อายุหลายๆปีก็ช่วยได้มาก..(ถ้าไม่อายคนอื่นเขาว่าเพี้ยนก็ OK)

    (ในประเทศญี่ปุ่นต้นไม้ใหญ่ๆหลายต้น ทางการต้องทำรั้วกันคนเข้าใกล้ ไม่งั้นโดนโอบกอด...จนเสียผิวธรรมชาติหมดเพราะคนญี่ปุ่นหลายคนเชื่อว่าพลังงานเรกิจากต้นไม้ใหญ่รักษาโรคได้)


    ข้อควรระวัง...

    โปรดใช้สายตาสำรวจพื้นหญ้าที่จะเดินให้ถ้วนถี่
    ก่อนจะหลงไปเหยียบโดน..ขี้หมาเข้าให้
    ..ปะเดี๋ยวจะเข็ดหลาบไปนาน..แหว่ะ
     
  19. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    รายงานผลการเหยียบดินเมื่อเช้านี้ พอดีลูกชายตัวดีมาขุดหลุมข้างต้นมะม่วง เป็นดินร่วนปนทรายบ้าน มิใช่ทรายทะเล ลูกชายพันธุ์นี้ชอบขุด เลยมีความชื้นด้วย พอสัมผัสถูกเท้านุ่มและละเอียดเดินสบายดีค่ะ จบข่าว
     
  20. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เรื่องปฏิหารย์ของคาถาอาคมกับการเจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปี

    วันนี้ไหนๆก็เล่าเรื่อง หมอ เรื่องโรงพยาบาลล่ะ ลุยต่อเลย..ตื่นเต้นสิท่า

    เหตุการณ์วันนั้นยังจำแม่นเชียว..
    ก่อนไปตรวจสุขภาพประจำปีตามสวัดิการของหน่วยงาน..
    (แบบว่าประสาลูกกระจ๊อกทั่วไปแหละ)

    ไปได้คาถาดีมาซิทีนี้..เขาท่องจำง่าย สั้นๆ แค่ 3 คำ
    "หนังเหนียว คงกระพันดีนักแลฯ"

    เปลี่ยนเสื้อผ้า ถ่าย X-ray ทดสอบกล้ามเนื้อ ตรวจปัสสวะอะไรก็ว่ากันไปตามเรื่อง

    จุดตื่นเต้นทดสอบสำคัญมาถึง..แล้ววว ฮ่าๆ

    นั่นคือมาถึงขั้นการเจาะตรวจเลือดสิคราวนี้..ก่อนเข้าห้องก็ตั้งใจทำสมาธิเป็นอย่างดี

    ตามประสา..ศิษย์โง่ที่ดันมีอาจารย์เก่ง

    เจอปาหาริย์แน่หล่ะคุณพยาบาลคนสวย...ฮ๊ะ ฮ้า ให้กระหยิ่มในคาถาที่อุตส่าห์ท่องบ่นมาร่วม 10 นาที...เข้าเลยได้เวลามงคลของมนต์อาถรรย์เวทย์ซะที

    "เปิดแขนขึ้นค่ะ.ขอเจาะเลือดให้คุณหมอดูหน่อยนะคะ"
    คุณพยาบาลใจดี ว่างั้น

    ..ฮึๆ แล้วเธอจะเซอร์ไพร์สกับคาถามหาอุด ที่ฉันบริกรรมมา ศักดิ์สิทธิ์คณานักจนเข็มแทงไม่เข้า จนเข็มคดหักแน่นอน ฮือฮากันทั้งโรงพยาบาล หึหึ!!!
    ในใจเราลำพองอย่างนั้นจริงๆ..

    ว่าแล้วก็โดนยางรัดแขน นิ้วเคาะเรียกเส้นเลือด...แปะๆ เธอคนสวยก็จ่อรอเข็มหลอดเลือดทิ่มเข้าไปที่เส้นเลือดปูดโปนหมายได้เลือดชายหนุ่มไปเชยชมดังใจหมาย..ตามหน้าที่

    ปาฎิหารย์เกิดขึ้นทันใด...ทิ่มพรวดปักจึ๊กลงที่แขนผ่านลงเส้นเลือด...โอ้วแม่จ้าววว!!
    มันเจ็บแปล๊บเสียวจี๊ด..โดนสูบดูดเลือดไหลโฮกๆ...ซวบๆเข้าหลอดสลิงค์ยาเรียบร้อยตามต้องการเ เช็ดแอลล์กอฮอล..พลาสเตอร์ปิดเรียบร้อย..จบข่าว

    "เสร็จแล้วค่ะ"

    อ้าวเฮ้ย..นี่มันเลือดจอมคาถาขมังเวทย์ หนังเหนียวมหาอุดเลยนะเว้ย..อีหนู แงๆ เจ็บชิบโป๋งอ่ะ!!!

    หลังจากนั้นมานั่งฟังผลการวิเคราะห์การตรวจสุขภาพจากปากคุณหมอ...

    "คุณนี่..อย่างโน้นอย่างนั่น ความดัน ปริมาณเม็ดเลือด...บุ๋ยยๆๆ"ตามเรื่องราวของหมอปริญญา

    " เอ..ทำไมชีพจรการเต้นของหัวใจคุณมันช้ากว่าปกติทั่วไปเยอะเลยนะ ปรกติที่หมอเคยรู้รู้มา การเต้นหัวใจช้าๆ แบบนี้มักเกิดในคนที่ทำสมาธิบ่อยๆนะ ร่างกายทำงานน้อยทำให้อวัยวะจะเสื่อมช้า คุณทำสมาธิมาเหรอ แนะนำหมอหน่อยได้มั๊ย อยากฝึกบ้าง"

    อิย๊ะ!! คุณหมอโรงบาลนี่ฉลาดจริงๆ..รู้ซะด้วย
    ว่าแต่ในความภูมิใจ ทำไมมันผสมด้วยรู้สึกเจ็บแปล๊บที่แขนโดนเจาะจังเลยวะตรู

    "หมอๆ ...ผมท่องบริกรรมคาถามหาอุดหนังเหนียวมา..เมื่อกี๊ เจ๋งป่ะ"

    อูยยย เจ็บแขน



    แล้วจะเล่าทำไมเนี่ย..เพื่อ???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2014

แชร์หน้านี้

Loading...