ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

บ๊ะ กำลังมันส์เลยครับอ้าย
ตามต่อครับตามต่อ

 

รอเสพความรู้ ตอนต่อไปครับอา

 

...........
..หวัดดี..เฉียวฟงน้องรัก..น้องThongchat..พลศิริน้องรัก..และ..หลานเขม
..รวมถึง..คนในครอบครัวผม.....
..............................
...ต่อจากตอนที่แล้ว.........
................................
...........................................................................
............การที่เรา..มาเป็นนักเลงพระเครื่อง..หรือ..ชื่นชอบและ..ศรัทธาพระเครื่องนั้น..
..และ...เราก็..ห้อยพระเครื่องนั้น...เพราะเราเชื่อมั่น..ในพุทธศาสนา...และ....
..พลัง..แห่ง..พระพุทธตุณ..พระธรรมคุณ..และ..พระสังฆคุณ.....
.....ผู้ที่..โยงสามสิ่งเข้าด้วยกัน..แล้วสร้างพลังให้เกิด..ในพระเครื่อง..ที่เราห้อย..
..ก็คือ..องค์พระสงฆ์..ผู้สร้างและ..ปลุกเสก..พระหรือ..วัตถุมงคลนั้นๆ.....
...การที่พลังความศักดิ์สิทธิ์..ที่ประจุอยู่นั้น...นอกจากคาถา..เลขยันต์ต่างๆที่เป็น..
ส่วนประกอบ..สิ่งที่สำคัญที่สุด..ถ้าไม่มีสิ่งนี้..วัตถุหรือ..พระเครื่ององค์นั้น...
..ก็..มีพลังตามที่ผู้สร้าง..ตั้งใจน้อย....เกือบไม่มี..หรือ..ไม่มีเลย...นั่นคือ..
..พลังที่เกิดจาก..ฌานสมาบัติ..ของ..ผู้สร้าง..หรือ..พระสงฆ์..ผู้นั้น.....
....ฌานสมาบัติสูง....พลังที่ประจุอยู่กับ..พระเครื่อง..ก็สูงตามไปด้วย......
....สมาธิ..ก่อให้เกิด..ฌานสมาบัติ...เมื่อ..ขึ้นไปอยู่ใน..ระดับสูง..ก็เกิดอภิญญา...
...เกิด..การหยั่งรู้.....
....................ลองย้อนประวัติศาสตร์ไป..สมัยกลางรัชกาลที่ ๕...เมื่อปี..พ.ศ. ....
๒๔๔๐ ....ผมว่า..พวกเราหลายๆคนมาก..รวมทั้งผมด้วย..อยากย้อนเวลาไป..อยู่
ตรงนั้น..สัก ๑ เดือน..หรือ..บางคนขอเป็นปีเลย...เพราะอะไร..ก็เพราะ.......
..ทั้งพระเครื่อง..วัตถุมงคล..ในยุคนั้น(ที่เป็นสุดยอดในยุคนี้)..หาได้ง่ายถูก..เผลอๆฟรี
....แต่เหนือ..สิ่งอื่นใด...พระอาจารย์ในยุคนั้น..พวกเราก็แน่นอนอยู่แล้ว...อยากไปกราบ
ท่าน..เพราะอะไร..แค่ใน..ตัวพระนตร..และ..ฝั่งธนบุรี...มีแต่..พระที่ฌานสมาบัติสูง..
เป็นพระอภิญญา..เต็มไปทุก..ถนน..ทุกคลอง...จะแต่ว่า..ใครเหนือกว่าใครเท่านั้น..
..ไม่ใช่แบบ..ในยุคอินเตอร์เน็ต..ยุคไอที..แบบปัจจุบัน..ทั้งประเทศ..มีแค่เป็นหลัก..สิบต้นๆ
...สมัยโน้น..มีเป็น..หลักร้อย..กลางๆ....
...แถม..พระระดับ..พระราชาคณะ(เจ้าคุณ)..ขึ้นไป..ถึง..สมเด็จ...นั้น..ส่วนใหญ่ถ้าท่านไม่เน้น
ไปทางปริยัติ..ก็..เก่งแทบทุกท่าน..เป็นพระอภิญญา..จำนวนไม่น้อย...ซึ่งเจ้าคุณ..หรือ..
สมเด็จ..ก็ประดังกันอยู่ใน..พระนคร..และ..ธนบุรี..เพียบ....
....ก็ในเมื่อ..ปัญหาที่เกิดคือ..ทางเรา..เมื่อได้รับพระอัฐิธาตุ..พร้อมกับ..สำเนารูปถ่าย..
.. แบบจำลองลายเขียนบนผอบ..พร้อม..คำอ่าน..คำแปล......มันพิสูจน์อะไรไม่ได้..
ยิ่งทั้งกรมพระยาดำรงฯ..ที่ท่ายเคยไปอินเดียมา ๒ ครั้ง..และได้ไปดู..พระอัฐิธาตุ...ที่
ขุดได้จากบางที่..ก็บอกว่า..เหมือนๆกัน..อันนี้ของใครไม่รู้..อังกฤษมันหลอกจะให้เราไปไหว้
กระดูก..แขกอินเดียรึไง(ทำนองนี้..ผมไม่ได้คัดลอกจากเอกสารโดยตรง)....รัชกาลที่๕..
ก็สงสัยเรื่องการบรรจุพระอัฐิในผอบ....คำแปล..จริงๆ..ในยุคนั้น..คนไทย..ไม่มีใครอ่าน
อักขระพราหมมีออก..หรอกครับ..เพราะเป็นภาษาที่ตายแล้ว..พระไตรปิฏก..ที่ชำระกัน
มาตั้งแต่..ก่อนหน้านั้นเป็นพันปี..ก็ไม่ได้ใช้อักขระพราหมมีแล้ว..พระไทยจึงไม่มีทาง
ทราบว่า..เขาอ่านว่ายังไง..เพียงแต่คำอ่านที่ประกอบมาด้วย..ที่เป็นภาษาสันสกฤต..นี่
แหละ..ที่พระสงฆ์ไทยแปลได้..และในยุคนั้นก็คือ..กรมพระวชิรญาณวโรรส...นั้นเชี่ยวชาญยิ่ง
...นั่นก็เพียงแต่ทราบว่า..แปลเป็นไทยได้ยังไง..ไอ้ที่ฝรั่งแปลเป็นภาษอังกฤษมา..มันตรงมั้ย
ก็..แค่นั้น........ยังไง..ก็ไม่มีทางรู้ว่า..เป็นของจริงรึเปล่า...
..........ดังนั้น..ก็เหลือวิธีเดียวและ..แน่นอนกว่า..ประเทศไหนก็ไม่มี..ไม่ใช่แค่เช็คว่าเก่า..
ถึงอายุรึเปล่า..แต่เช็คได้..ว่าเป็นของใคร...วิธีนั้น..ต้องใช้วิชาอภิญญา..ใช้ฌานสมาบัติ
ที่สูงส่ง...ซึ่งใกล้ตัวพระองค์ท่าน..มีเพียบ..เท่านั้นละครับจึงจะพิสูจน์ได้ว่า..เป็นของแท้รึเปล่า

............................

............................

......สมเด็จพระราชาคณะ ๒ องค์ ที่เข้าร่วมพิจารณา..และ..ทั้งสอง..เป็นพระอภิญญา..มีฌานสมาบัติ..ขั้นสูงยิ่ง.....

..................................ต่อตอนหน้า.......................................

 

เรื่องราวกำลังเข้มข้นเลยครับ

 

รอตอนต่อไปครับคุณลุง

 

ขอบคุณครับผม ^^

 

..........
...พระราชาคณะชั้นรองสมเด็จ(ชั้นพรหม)..อีกองค์..ที่เป็นพระอภิญญา..และ..ฌานสมาบัตรสูงยิ่ง(ตำแหน่งขณะนั้น..ภายหลังเลื่อนขึ้นเป็น..สมเด็จพุทธโฆษาจารย์)

.............................

 

รออ่านครับคุณอา กำลังเข้มข้นอย่างแรงครับ

 

กำลังสนุกเข้มข้นเลยครับอา

รอติดตามตอนต่อไปครับ

 

สวัสดีครับคุณอา.modpong.เข้ามาติดตามอ่านต่อครับ..ขอขอบคุณข้อมูลดีๆที่คุณอาได้นำมาให้ลูกหลานน้องๆได้รับทราบด้วยครับ..

 

สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามตอนต่อไปครับ

 

.............
...หวัดดี..April..หลานbear..maestro..หลานสวนพลู..หลานเขม..และ..เดินตามพระ
..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวของผม...
..................................
..ต่อจากตอนที่แล้ว....
..............................
...............................................................................................
..........ในจดหมายเหตุของทางการ..จากหอจดหมายเหตุชาติ..เรื่องพระธาตุนี้..ระบุไว้ชัดเจนว่า
..รัชกาลที่๕ได้นิมนต์..พระเถระชั้นผู้ใหญ่ระดับสูง..มาร่วมพิจารณาในครั้งนี้..ก็แน่นอนว่า
..เรื่องนี้..เกี่ยวพันกับศาสนาพุทธ..พระเถระตั้งแต่..สมเด็จพระสังฆราช(ในขณะนั้นคือ..
พระสังฆราชสา ปุสสเทโว วัดราชประดิษฐ์ฯ)..รวมทั้ง สมเด็จพระราชาคณะทุกพระองค์
..รวมถึง..ชั้นรองสมเด็จ(ชั้นพรหม จารึกชื่อใน..หิรัญบัตร)..ก็ต้องมาด้วยแน่......
...เพราะเหล่าพระสงฆ์ชุดนี้..ก็คล้ายมหาเถรสมาคม..ในปัจจุบัน..ที่จะตัดสินเรื่องที่สำคัญ
ที่เกี่ยวข้อง..กับ..ศาสนา.....................
.....ซึ่งพระทุกองค์ใน..ที่นี้..ประกอบด้วย..คุณวุฒิ..และ..วัยวุฒิ..ทุกองค์..เป็นพระเปรียญ
ทั้งสิ้น..มีความสามารถเรื่อง..ภาษาบาลี..สันสกฤต..เป็นอย่างดี..เพียงแต่ใครจะโดดเด่น
กว่าใครเท่านั้น..อย่างองค์ที่พรรษาน้อยที่สุดในที่นั้น..แต่โดดเด่นเรื่องนี้..ก็ต้องยกให้...
..สมเด็จกรมพระวิชรญาณวโรส..ซึ่งได้รับ..ชั้น..พระสมเด็จราชาคณะไปไม่นาน...
...มีความเชี่ยวชาญ..ภาษายิ่ง..บาลี..สันสกฤต..มคธ...อังกฤษ..รอบรู้หมด.......
............แต่ในนี้..ก็ยังมี พระราชาคณะที่ทรง..คุณวิเศษยิ่ง..อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว..
..เชี่ยวชาญ..วิปัสสนากรรมฐาน..ฌานสมาบัติสูงยิ่ง..และ..เป็นพระอภิญญา....ดั่งรูปที่
ผมเสนอไปตอนที่..แล้ว....
....ที่ผมไม่ระบุชื่อ..ก็อยากให้..พวกเราพัฒนาสมองมั่ง..หาชื่อของซึ่ง..ไม่ยาก..หมูมาก
..แต่ต้องออกแรงหน่อย..สำหรับ..คนที่ไม่คุ้นเคย..เป็นการพัฒนาสมอง..ไม่ใช่รับลูกเดียว
..จะได้ฝึกหัด..ค้นคว้าอะไรบ้าง....นี่คือ..เจตนาของผม..จริงๆ....
........องค์แรก..ตามลำดับรูป.......
.....ถ้าบอกสมณศักดิ์สุดท้าย..ส่วนใหญ่น่าจะ..อ๋อ..ส่วนน้อยอาจไม่ค่อยแน่ใจ..อย่างนี้
ยังพอให้อภัยได้........แต่ถ้า..บอก..สมณศักดิ์ตอนเป็นเจ้าคุณ..แล้วยังทำงง...อย่างนี้..
อภัยไม่ได้..แสดงว่า..ความรู้ด้านพระ..ห่วยมากๆ..ต้องให้ออกจากครอบครัวของผมไปเลย
...........ท่านครอง..วัดระฆังโฆสิตาราม....ครับ...
...สมณศักดิ์..ขณะนั้นคือ..สมเด็จพุฒาจารย์...ครองวัดระฆัง..ต่อมาจาก..สมเด็จฯโต..
.....ท่านชื่อ ทัด...ยศแต่เกิดคือ..หม่อมเจ้า................
ก่อนเป็นสมเด็จ..สมัยที่เป็นเจ้าคุณ..ชื่อตำแหน่งสมณศักดิ์ของท่านจะไม่ซ้ำกับใคร..มีองค์เดียว
...............คือ..พระพุทธบาทปิลันท์....................................
...แค่นี้..ก็คงไม่ต้องเล่าที่มาที่ไปกันมาก.......แต่บางอย่างที่หลายท่านเข้าใจผิด...
..และ..อยากจะให้เข้าใจซะใหม่..คือ..กระแสคำ..ที่ทำให้วงการพระยุคนี้สับสน..
..ผมได้ยินคำนี้..ทีไร..บอกตรงๆ...........เบื่อมาาาาาาาาาาาาาากกกกกกกกกกกกก...
.................ศิษย์เอก...................................
....หลวงพ่อดังๆบางองค์....ไอ้พวกสื่อมันแต่งตั้ง..ตำแหน่งนี้ให้ลูกศิษย์..ซัก ๗-๘ องค์..มั้ง..
....คำว่า..เอก..หรือ..เอกะ...ก็หมายคำว่า ๑ ...มาเป็นคนที่หนึ่ง..เก่งเป็นที่ ๑(ใช้กับ..พระ
ไม่ได้..เพราะ..ลูกศิษย์ทุกองค์..จะไม่ยอมรับว่า..ตัวเองเป็นเก่งที่๑ ผิดวิสัยพระ.....
ไอ้พวกฆาราวาส..ก็..ไม่ควร..เสือกไปเลือก..ให้....
..ลูกศิษย์..บางองค์..เรียนอยู่ ๒-๓ เดือน..ยังได้เป็นศิษย์เอก...บางองค์..วัดอยู่ใกล้กัน...
มาเรียนแบบ..ไปเช้า..เย็นกลับ..ก็ได้เป็นศิษย์เอก...บางองค์..เรียนตอนเป็นเด็ก..เป็น
..เณร..มั่ง..ไม่ถึงปี..ก็ยังอุตส่าห์ยกตำแหน่ง..ศิษย์เอก..ให้อีก....ทุเรศสิ้นดี)
....วงการพระสมัยก่อน..การค้าไม่ได้นำหน้า...ไม่มีคำว่า.."ศิษย์เอก"..ครับ..เขาเรียกแค่..
.."ลูกศิษย์"..กับ.."ศิษย์ก้นกุฏิ"(หมายถึงนอกจากจะเป็น..ลูกศิษย์แล้ว..ก็ทำหน้าที่ปรนนิบัติ
อาจารย์ทุกด้านมาตลอดเวลา..ที่อยู่ด้วย)....แค่นี้..................
.....ไอ้คำว่า..."ศิษย์เอก"..มันเกิดมาด้วย..ความมุ่งหวังด้าน..การพาณิชย์เป็นหลักเท่านั้นแหละ
...........................
....สมเด็จฯทัด..ท่านอยู่กับ..สมเด็จโต..ตั้งแต่เริ่มเป็นพระ..และ..เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ..และ
อยู่ปรนนิบัติ..และ..ทำหน้าที่แทนหลายอย่าง..ของสมเด็จโต..มานานกว่า..ลูกศิษย์ทุกองค์
..เพราะอยู่วัดระฆังร่วมกันมาตลอด..เรียกว่า..ตั้งแต่..เป็นพระหนุ่ม..จนกลายเป็นพระแก่...
......เรื่องความเก่ง...ก็คงไม่ต้องถาม...พระท่านพิมพ์ที่หายากและสวยมาก..แพงกว่า..
สมเด็จบางขุนพรหม..ธรรมดาๆ..อีก.....เป็นอย่างนี้มาแต่ไหน..แต่ไรแล้ว...คนสมัยก่อน..
เขาไม่มี..ของสมเด็จโต...เขาก็ใช้สมเด็จปิลันธ์แทน.....
....แถมท่านยังผลิต..ลูกศิษย์เก่งๆอย่าง..สมเด็จพุทธโฆษาจารย์(มรว. เจริญ)..หลวงปู่นาค..
..เป็นต้น...นั่นก็..แสดงถึง..คุณภาพ..ของท่านได้ดี
...ก็ลองคิดดูเอาว่า..ท่านอยู่ใกล้ชิดกับสมเด็จโต..โดยตลอดประมาณ ๓๐ ปี...แล้วท่านจะไม่ได้เรียน
ทุกอย่าง..จากสมเด็จโตเหรอ..บางคนบอกเรียนทุกอย่างได้..แต่จะทำทุกอย่างได้ใกล้เคียง
รึเปล่า...พระของท่านเป็นเครื่องพิสูจน์...ของพุทธคุณ..พระวัดบางขุนพรหมนั้น..ยังได้
เครดิต..จากพระสมเด็จวัดระฆัง...แต่พระสมเด็จปิลันธ์..ไม่มีเครดิตจาก..เดิม..เพราะ
ท่านไม่ได้ทำพระอื่น..ดังด้วยพุทธคุณที่เปี่ยมอยู่ในนั้น..ด้วยตัวเอง...โด่งดังประสพการณ์
มากมาย..เหมือนพระสมเด็จวัดระฆัง....มาตั้งแต่แตกกรุใหม่ๆ...นักเลงพระรุ่นเก่านะ..
..ถ้าเอา..พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม..กับ..พระสมเด็จปิลันธ์..วางแล้วให้เลือกห้อย..
..รับประกัน ๙..ใน..๑๐ เลือก..พระสมเด็จปิลันธ์..ครับ...เรื่องจริง..ไม่ใช่นิยาย...

..........................
....รูปหล่อ..สมเด็จพุฒาจารย์ หม่อมเจ้า ทัด เสนียวงศ์ ในวิหารสมเด็จ..วัดระฆังโฆสิตาราม
(..ขอบคุณภาพจาก..OKnation..)
....................................ต่อตอนหน้า................................

 

เป็นกำลังใจให้และรอติดตามตอนต่อไปครับคุณลุง

 

สวัดดีครับคุณลุง รออ่านบทความดี ๆ อยู่ครับ

 

สวัสดีครับพี่ Modpong

มารายงานตัวครับ ยังคงติดตามบทความคุณภาพจากพี่อย่างต่อเนื่อง แบบ 2-3 วันเข้าที และยังต้องยกนิ้วหัวแม่โป้งให้เมือนเดิม

 

สุดยอดข้อมูล ขอบคุณครับพี่

 

ตอนผมเด็กๆ พระปิลันธ์ ไม่แพงครับ แต่พอโตมา ก็ปีนหนีรายได้ไปมากมายเลยครับ

 

น้อมกราบสมเด็จฯ พระสังฆราชทั้งสองรูปอย่างสูงครับ
รายงานตัวครับผม
บอกแค่นี้ดีแล้วครับอ้าย
เพื่อเป็นแนวในการสืบเสาะต่อไปครับ
ค้นหน่อยเพื่อเพิ่มรอยหยักในสมองครับ
เดี๊ยวส่วนที่มันไม่ได้ออกแรงมันจะเป็นง่อยไปซะก่อนครับ

 

.........................................
....เข้าใจผิดแล้ว..หลานเอ๋ย...ไอ้ตอนที่เราป็นเด็กเริ่มเล่นพระใหม่ๆ..นะ...เราแยกแยะ..ไม่ออกหรอก..คำว่า"สวย"..ในภาษาพระ..เป็นยังไง....
...สมเด็จปิลันธ์..ที่เราเคยห็น..หรือ..เห็นในรูปนั้น..ธรรมดามาก...ความสวยนั้น..ประกอบทั้ง..
ความคมชัดของพิมพ์..ความสมบูรณ์ขององค์พระ...กระจายตัวของไข..ที่ไม่มากไปน้อยไป...
แค่นี้..เราถ้าได้เห็นของจริงนะ..ถือว่าเป็นบุญ..ไอ้ที่ลงรูป..บอกสวย..พิมพ์นิยมนะ..กระจอก...พระแบบที่อา..พูดถึงนะ..ไม่วิ่งอยู่ในตลาดล่าง..และแพงมาแต่ไหน..ไร..ถ้าพิมพ์ตัวไปนะ..ถือว่า..ไม่แพงมาก..แต่ใช้คำว่า..ไม่แพงนี่..ไม่ใช่..อาอยู่ในวงการนี้มานาน..และ..ขอโทษ...ไม่ค่อยได้มองของตลาดล่าง..จริงๆนะ..
พระปิลันธ์แท้ๆ..นะ..มีอยู่ไม่ได้มากมาย..แต่ไอ้ที่วิ่งขายกันนะ..ปลอม..ซะเยอะ..ตั้งแต่ ๔๐ กว่าปีก่อน..สมเด็จปิลันธ์..เปอร์ซนต์..การปลอมก็ใกล้ๆ..สมเด็จบางขุนพรหมแล้ว...ยิ่งไอ้ที่ลงในเว็ปนะ..ปลอมกือบทั้งนั้น...เพราะของจริง..ถูกเก็บไป..ซะเยอะ..............
....เพียงแต่..ข้อแตกต่าง..ของ..ปิลันธ์..อย่างที่
บอกว่า..พิมพ์นิยม..กับ..พิมพ์ธรรมดา..ต่างกันเยอะ..สวย..กับ..ไม่สวย..ก้ต่างกันเยอะด้วย...
....ราลองไปถามนักเลงพระที่เล่นพระจริงๆ..หรือ
..เซียนรุ่นเก่าที่ได้มาตรฐาน(เล่นพระมา ๔๐ ปีขึ้น)..รับรองได้เลยว่า..จะพูดเหมือนที่อาบอก..
..จะไปถาม..คุณต้อย..คุณพยัพ..กำนันชูชาติ
ก็ได้..แต่ต้องเก๋า..ระดับนั้นขึ้นไปนะ..ได้เลย
.....เพิ่มเติมให้หน่อย..ถ้าไม่แพงนะ..ป่านนี้..อาคงได้มาซักองค์แล้ว..ขนาดบางขุนพรหม
..ก็มีแล้ว..แต่จนปัจจุบัน..อายังไม่มีปิลันธ์..อย่างที่พอดูดี..ถูกใจได้ซักองค์..รอมากว่า๔๐
ปี..ซักองค์

 

มาติดตามอ่านต่อครับคุณน้า modpong ขอบคุณสำหรับการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์พระธาตุจากอินเดียครับ