<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

พระยอดขุนพล ปี2497

อ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเสก พระยอดขุนพล ปี2497 เป็นพระที่ร่วมพิธีเดียวกันกับพระปี2497 พิมพ์ต่างๆ แต่มีความพิเศษกว่าคือ หลวงปู่คง (อาจารย์ของขุนแผน) ท่านได้เข้าทรงเพื่อช่วยปลุกเสก ในการทำพระครั้งนี้อาจารย์ให้ทำพระยอดขุนพลซัก 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยท่านหาฤกษ์เมื่อทำพระครบ 84000 รูป แล้ว ก็ลงมือพิมพ์ ศิษย์ที่พิมพ์ต้องเอาคนวันอังคารกับวันพฤหัสบดี เมื่อครบ 24 ชั่วโมง แล้วท่านก็ให้หยุด ผงที่เหลือทั้งหมดทำเป็นจารึกประวัติของพระแล้วนำขึ้นไปบรรจุไว้บนพระบรมธาตุ พระยอดขุนพลที่ทำในครั้งนี้ได้ 2500 พอดี พระยอดขุนพลนี้หลวงปู่คง (อาจารย์ของขุนแผน) ท่านได้ทำขึ้นครั้งแรกเพื่อฉลองชัยชนะให้แก่พลายแก้ว เมื่อครั้งพลายแก้วเป็นแม่ทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ชนะ โดยคุณวิเศษตามคำบอกเล่าของหลวงปู่คง (อาจารย์ของขุนแผน) ท่านบอกว่าเป็นยอดแห่งพระ ทุกปาง ทุกสมัย ดีเลิศใช้ได้ทุกทาง มีชัยชนะในการรบและกิจการทั้งปวง กันสรรพอาวุธและสัตว์ร้ายตลอดจนกึ่งผีสางเทวดาที่มาให้โทษ ใช้ประจำตัวหรือบูชา ทำน้ำมนต์ในมงคลพิธีการทั้งปวง ขออนุญาติโชว์ครับ

​

พระยอดขุนพล เนื้อดินผสมผงว่าน หลังใบไม้ พิธีปี 2497 พระสวยเดิมๆ สภาพเก่าเก็บไม่ผ่านการใช้ เกจิสายเขาอ้อมากมาย และอ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเสกครับ

องค์ที่1


องค์ที่2
​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

พระซุ้มกระรอกกระแต เนื้อดินผสมผงว่าน ด้านหลังจารเปียก และแบบหลังเรียบ พิธีปี 2497 ชุดแจกกรรมการ เกจิสายเขาอ้อมากมาย และอ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเสกครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

สุดยอด..นักรบ นักรัก เมืองนคร พระขุนแผน เนื้อดินผสมผงว่าน หลังยันต์นะเข้าหา พิมพ์ใหญ่ แช่น้ำมันหนูแมว พุทธาภิเษกพิธี ปี 2497 ณ.พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช เกจิสายเขาอ้อมากมาย และอ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเสก โดยอ.ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกครับ

องค์ที่1



องค์ที่2​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

พระสมเด็จ เนื้อดินผสมผงว่าน พิธีปี 2497 มีทั้งแบบหลังจารเปียกและหลังเรียบ องค์นี้เป็นแบบหลังเรียบครับ พระสภาพสวยเดิมๆ เป็นอีกพิมพ์หนึ่งที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันสักเท่าไหร่คับ เกจิสายเขาอ้อมากมาย และอ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเสก โดยอ.ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

เหรียญพระนาคปรกเทพนิมิตร เนื้อเงิน อ.ชุม ไชยคีรี หายากมาก

ทำพิธีครั้งบูรณะพระบรมธาตุ วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา พระเทพนิมิตรเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน เนื้อทองคำ (ยันต์ 108 ดวงๆละ 108 ครั้ง) สร้างขึ้นตามตำราเมืองพัทลุงและตำราอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผน เข้าประทับทรง กรุณาบอกให้ไว้ครั้งสร้างพระผงเทพนิมิตร เมื่อปี พ.ศ.2496

ครั้งนี้นำเอายันต์ของท่านลงในแผ่นโลหะ แผ่นเงิน แผ่นทองคำ สร้างพระแบบนาคปรกตามแบบพระผงเทพนิมิตรเดิม ณ วิหารพระพุทธนาคน้อย วัดประยุรวงศาวาส ธนบุรี เป็นเวลา 48 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2499

นั่งบริกรรมด้วยนักพุทธนุสสติภาวนาคืนละ 8 คน นั่งปรกด้วยอาจารย์ผู้เฒ่า และสวดพุทธาภิเศกทุกคืน แบ่งการบริกรรมออกเป็น 4 ระยะๆ 7 วัน ทางคงกระพัน กันปืน 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน และทางโชคลาภ 7 วัน ทางแคล้วคลาด7 วัน ทุกๆ 7 วัน

มีการทดลองต่อหน้าท่านผู้รู้ทั้งหลาย ครั้งละมากๆคน จากการพิสูจน์ เป็นที่รับรองว่าถ้าใครเชื่อและเข้าถึงแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึก กำจัดภัยได้จริงให้แก่ผู้นั้น ตามความปรารถนา

หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" มีคุณวิเศษสูงสุดได้ทั้งคงกระพัน กันปืน เมตตามหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาดจากภัยอันตราย วิเศษตามตำราทุกประการ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กที่เกิดมาแล้วพ่อแม่เลี้ยงยาก เมื่อนำพระไปแขวนคอให้ กลายเป็นเด็กเลี้ยงง่าย เจริญรุ่งเรือง กันอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูงไม่เป็นอันตราย ตกน้ำไม่จมเด็กลอยน้ำได้ ฯลฯ

​

สนใจpmหรือโทรหาครับ

 

เหรียญพระนาคปรกเทพนิมิตร เนื้อสัมฤทธิ์ อ.ชุม ไชยคีรี หายากมาก

ทำพิธีครั้งบูรณะพระบรมธาตุ วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา พระเทพนิมิตรเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน เนื้อทองคำ (ยันต์ 108 ดวงๆละ 108 ครั้ง) สร้างขึ้นตามตำราเมืองพัทลุงและตำราอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผน เข้าประทับทรง กรุณาบอกให้ไว้ครั้งสร้างพระผงเทพนิมิตร เมื่อปี พ.ศ.2496

ครั้งนี้นำเอายันต์ของท่านลงในแผ่นโลหะ แผ่นเงิน แผ่นทองคำ สร้างพระแบบนาคปรกตามแบบพระผงเทพนิมิตรเดิม ณ วิหารพระพุทธนาคน้อย วัดประยุรวงศาวาส ธนบุรี เป็นเวลา 48 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2499

นั่งบริกรรมด้วยนักพุทธนุสสติภาวนาคืนละ 8 คน นั่งปรกด้วยอาจารย์ผู้เฒ่า และสวดพุทธาภิเศกทุกคืน แบ่งการบริกรรมออกเป็น 4 ระยะๆ 7 วัน ทางคงกระพัน กันปืน 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน และทางโชคลาภ 7 วัน ทางแคล้วคลาด7 วัน ทุกๆ 7 วัน

มีการทดลองต่อหน้าท่านผู้รู้ทั้งหลาย ครั้งละมากๆคน จากการพิสูจน์ เป็นที่รับรองว่าถ้าใครเชื่อและเข้าถึงแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึก กำจัดภัยได้จริงให้แก่ผู้นั้น ตามความปรารถนา

หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" มีคุณวิเศษสูงสุดได้ทั้งคงกระพัน กันปืน เมตตามหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาดจากภัยอันตราย วิเศษตามตำราทุกประการ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กที่เกิดมาแล้วพ่อแม่เลี้ยงยาก เมื่อนำพระไปแขวนคอให้ กลายเป็นเด็กเลี้ยงง่าย เจริญรุ่งเรือง กันอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูงไม่เป็นอันตราย ตกน้ำไม่จมเด็กลอยน้ำได้ ฯลฯ

​

ให้บูชา 1,950ครับ

 

พระพุทธพิมพ์นาคปรก"เทพนิมิตร" ปี2496 ท่านอาจารย์ชุม เนื้อดำหายากครับ สวยมากทุกองค์

พระเทพนิมิตร เป็นพระที่ท่านอาจารย์ชุม พูดมาเองกับตัวท่านว่า เป็นพระที่ดีที่สุด ในการสรางพระของท่าน ท่านอัญเชิญเทวดา มาร่วมชุมนุม และ อัญเชิญ เทวดา มาปกปักษ์รักษา คุ้มครองผู้บูชาพระชุดนี้ คำว่าเทพนิมิตร คือ เหมือนมีเทพเทวดา มาคอยนิมิตรบอก ไม่ว่าเป็นเรื่องดี และ ไม่ดี ก็จะเหมอนมีอะไรมาบอก มาเตือนล่วงหนาเรื่องนี้ มีเพื่อนผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ท่านใดอยากได้พระท่านอาจารย์ชุม แบบ ราคาไม่แพงมากนัก และ ดีจริงๆลององค์นี้

องค์ที่1



องค์ที่2



องค์ที่3
​

ปิดหมายเลข1 กับ 2 ครับ เหลือหมายเลข3 องค์เดียว ให้บูชา 2,450ครับ

 

รูปเหมือนปั๊ม พระสิวลี ปี 2497 เนื้อทองแดงรมดำ สวยเดิมๆ หายากมากครับพิมพ์นี้

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

สมเด็จอาจารย์ชุมปี97หลังยันต์เนื้อขาว หายากมากครับพิมพ์นี้ พระดีปีลึก ประสพการณ์มากมายครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

​

เหรียญรุ่นแรก เนื้อเงิน หลวงพ่อนั่งเต็มองค์ พระอธิการใจ วัดพระยาญาติ จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างถวายงานสลากภัตร พศ.๒๕๕๒ สวยมาก หายากสุดๆ

เหรียญรุ่นนี้ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกที่เป็นรูปหลวงพ่อสร้างครั้งแรกในงานสลากภัตรปี52 นับวันจะหาอยากขึ้นทุกวัน
๑.เนื้อทองคำสร้าง ๔๑ องค์
๒.เนื้อเงินสร้าง ๒๙๖ องค์
๓.เนื้อตะกั่วสร้าง ๒,๙๙๙ องค์
๔.เนื้อฝาบาตรสร้าง ๒.๙๙๙ องค์
๕.เนื้อทองแดงสร้าง ๒,๙๙๙ องค์
๖.เนื้อนากสร้าง ๒ องค์
๗.เนื้อนวะโลหะสร้าง ๔๑ องค์

ประวัติพระอธิการใจ ฐิตาจาโร เจ้าอาวาสวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) ฐานะเดิม ชื่อ นายใจ ศิริขำ เกิดวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐ บิดา นายเชื้อ ศิริขำ มารดา นางพริ้ม ศิริขำ พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน ๙ คน ๑.นายบุญชุบ ศิริขำ (เสียชีวิตเมื่ออายุ ๖๘ ปี) ๒.เสียชีวิตแต่เยาว์วัย ๓.นายบุญช่วย ศิริขำ ๔.นางสมจิต ศิริขำ (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘) ๕.พระอธิการใจ ฐิตาจาโร ๖.นางชิ้น ศิริขำ ๗.เสียชีวิตแต่เยาว์วัย ๘.นายชัชวาลย์ ศิริขำ ๙.นายบุญชู ศิริขำ การศึกษาเบื้องต้น ชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดช่องลม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม อุปสมบท วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ.อุโบสถวัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระอุปัชฌาย์ พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสมุทรภัทรกิจ (หลวงพ่อทอง) วัดพระยาญาติ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระอนุสาวนาจารย์ พระครูสมุทรธีรคุณ (หลวงพ่อมหาพิน) วัดช่องลม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม วิทยฐานะ พ.ศ.๒๕๑๔ สอบได้นักธรรมตรีสำนักเรียนวัดช่องลม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พ.ศ.๒๕๑๖ สอบได้นักธรรมโทสำนักเรียนวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พ.ศ.๒๕๑๗ สอบได้นักธรรมเอกสำนักเรียนวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม งานปกครอง วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๙ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระยาญาติ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นพระครูวินัยธรฐานานุกรม พระเทพสมุทรโมลี งานด้านศาสนูปการ ๑.สร้างเมรุปลอดมลพิษแห่งแรกของจังหวัด สมุทรสงคราม ๑ หลัง ๒.สร้างศาลาคู่เมรุ ๑ หลัง ๓.สร้างห้องน้ำ ๑๖ ห้อง ๒ หลัง ๔.บูรณะกุฏิ ๘ หลัง ๕.บูรณะพระอุโบสถ ๖.สร้างศาลาการเปรียญ ๗.ให้ที่ศาสนูปโภค สร้างสะพานคอนกรีตข้างวัดให้ชาวบ้านสัญจร ๘.ลานเอนกประสงค์หน้าวัด ๙.สร้างโรงครัว ๑ หลัง หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในธรรมวินัย ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างสมบูรณ์ เอาใจใส่ในกิจการของสงฆ์ มีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน สันโดษ มักน้อย สงบเสงี่ยมเจียมตัวมารยาทอ่อนโยน เป็นที่รักและเครารพนับถือของชาวบ้านอัมพวา และตำบลใกล้เคียง ในวัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวเงียบไม่ยุ่งสุงสิงกับใครไม่ทำให้บิดามารดาของท่านต้องหนักใจครอบครัวของหลวงพ่อใจท่านมีฐานะปานกลางหลวงพ่อท่านเป็นเด็กขยันช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง เงินที่ได้มาก็ให้พ่อแม่หมด จะกินอะไรก็จะให้แม่ทำให้กิน เมื่ออายุ ๒๑ปี ท่านได้ไปรับใช้ชาติโดยการเป็นทหารเรืออยู่สองปีสมกับความเป็นชายชาตรี หลวงพ่อใจท่านเป็นคนกตัญญูต่อบิดามารดามาก ภายหลังจากที่ท่านได้รับการปลดประจำการจากทหาร ท่านก็อยากบวชเพื่อจะได้ทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ ท่านทั้งสองได้ฟังคำกล่าวของหลวงพ่อใจ ท่าน รู้สึกปลื้มปิติ ยินดีมากจึงได้พาหลวงพ่อเข้าพบหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เพื่อที่จะหาฤกษ์อุปสมบท หลวงพ่อเนื่องท่านให้ฤกษ์อุปสมบทมาซึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๑๔ โดยมีพระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมุทรภัทรกิจ (หลวงพ่อทอง)วัดพระยาญาติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสมุทรธีรคุณ (หลวงพ่อมหาพิน) วัดช่องลม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ.อุโบสถวัดจุฬามณีได้รับฉายาว่า“ฐิตาจาโร”เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่ที่ช่องลมหนึ่งพรรษา พรรษาที่สองหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี อุปัชฌาย์ของท่านขอให้ท่านไปจำพรรษาที่วัดจุฬามณีแต่หลวงพ่อทองวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) มาดักรอหน้าวัดจุฬามณีเพื่อให้หลวงพ่อใจมาช่วยงานที่วัดพระยาญาติ (ปากง่าม) ซึ่งหลวงพ่อทององค์นี้ท่านเก่งมากไม่ว่าจะด้านการรักษาผู้ที่ป่วยเป็นอัมพฤก อัมพาต และที่ดีที่สุดของหลวงพ่อทองคือ ท่านทำนายทายทัก (ดูดวง) ได้แม่นยำมากคนจากทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะต้องมาให้ท่านทำนายทายทักทั้งสิ้น แต่หลวงพ่อกับไม่สนใจท่านมุ่งแต่ศึกษาพระธรรมวินัยของสงฆ์จนได้นักธรรมชั้นเอก และที่สำคัญที่สุดหลวงพ่อท่านไม่ได้จำวัดในกุฎีเหมือนพระองค์อื่น แต่หลวงพ่อท่านจำวัดอยู่ใต้ถุนพระอุโบสถของวัดพระยาญาติ หลวงพ่อใจท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งครัดในธรรมวินัยสมเป็นพระที่แท้จริง ภายหลังจากที่ท่านได้ศึกษาธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ท่านเป็นห่วงโยมพ่อโยมแม่จึ่งคิดที่จะสึกจากการเป็นพระเพื่อไปช่วยโยมทั้งสองทำมาหากินเนื่องจากโยมทั้งสองอายุมากแล้ว แต่เมื่อไปหาหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีเพื่อที่จะลาสิขาบถทุกครั้งกลับถูกหลวงพ่อเนื่องปฏิเสธทุกครั้งไป จนญาติโยมที่รู้จักกับหลวงพ่อบอกว่าถ้าจะสึก ก็ไปสึกกับหลวงพ่อทองก็ได้ หลวงพ่อใจกับตอบว่า หลวงพ่อเนื่องท่านจุด(บวช)ฉันมา ฉันต้องดับ(สึก)กับหลวงพ่อเนื่องเท่านั้นเพราะฉันบอกกับโยมพ่อโยมแม่ไว้อย่างนั้น ฉันจะมาผิดคำพูดไม่ได้ และในครั้งนั้นเองถือว่าครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งที่ทำให้เกิดพระอริยะสงฆ์ พระเกจิคณาจารย์ องค์สำคัญรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร ได้เดินทางเข้าพบหลวงพ่อเนื่อง แห่งวัดจุฬามณี หลวงพ่อเนื่องได้กล่าวว่า “โยมพ่อโยมแม่ของท่านใจ ท่านสบายดีอยู่แล้วที่มีลูกชายบวชเรียนรับใช้พระพุทธศาสนา ท่านมีความปลื้ม ปิติยินดีมากอยู่แล้ว ท่านใจอยู่ช่วยฉันรับใช้พระพุทธศาสนาได้ไหมเพราะต่อไปในภายภาคหน้าถ้าสิ้นเราแล้วจะไม่มีใครคอยช่วยเหลือญาติโยมที่เขาเดือดร้อน”ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาทุก ๆ วันในช่วงเวลาตีสองถึงหกโมงเช้า หลวงพ่อเนื่องจะให้หลวงพ่อใจไปหาที่กุฎิทุก ๆ วัน เพื่อที่หลวงพ่อเนื่องจะได้สอนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่ท่านมีไม่ว่าจะเป็นการลงตะกรุดมหาปราบ มหารูด มหาระงับ ตรีนิสิงเห ยันต์โสฬส ยันต์วิรุฬจำบัง ยันต์พัดโบก ทำน้ำมนต์ใบมะนาว การลงเจ็ดเสาร์ เจ็ดอังคาร รวมถึงทำน้ำมนต์ เพื่อไล่สิ่งที่เป็นอัปมงคล ฯลฯ จัดได้ว่าหลวงพ่อท่านได้สรรพวิชาจากหลวงพ่อเนื่องจนหมดสิ้นทีเดียว หลังจากที่หลวงพ่อใจท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อเนื่องจนสำเร็จแล้วท่านยังได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่าง ๆจากโยมพ่อใบ คำอึก ซึ่งเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี พ่อใบ คำอึก นี้มีวิชามากมายเหลือแค่จับเถาวัลย์เท่านั้น เถาวัลย์ยังเลื้อยขึ้นมือเองได้จัดว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียน แม้แต่หลวงพ่อเนื่องยังบอกว่า “โยมพ่อใบคนนี้เก่งมาก ๆ รอบรู้ในสรรพวิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อคงอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว” ไม่ว่าจะเป็นพระหรือพวกที่อยากเรียนวิชาเคยมาหาเพื่อให้พ่อใบ คำอึก สอนแต่ท่านกับไม่สอนใครเลย ท่านบอกว่า “ถ้าเราให้ไปเดี๋ยวเขานำไปใช้ในทางที่ผิด เรามันจะตกนรกซะ” แต่กลับแปลกพ่อใบ คำอึก กับให้คนมาตามหลวงพ่อใจให้มาหา และได้สอนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้กับหลวงพ่อ เช่น การกวนสีผึ้ง เพื่อเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม การจับปลายเถาวัลย์ การล้างอาถรรพ์ การแก้คุณไสย การทำน้ำมนต์เดือด และบอกหลวงพ่อว่า “สิ่งที่ฉันให้หลวงพ่อไป หลวงพ่อเอาไว้ช่วยคนนะฉันจะได้ขึ้นสวรรค์กับเขาซักที” หลังจากที่หลวงพ่อได้เรียนกับพ่อใบ คำอึก จนสำเร็จ หลวงพ่อเนื่องได้ให้หลวงพ่อไปหาหลวงพ่อหนูวัดภุมรินทร์กุฏีทอง และหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง ท่านทั้งสอง องค์นี้ก็เป็นศิษย์หลวงพ่อคงเช่นกัน หลวงพ่อหนูท่านได้สอนสุดยอดวิชาของท่านให้กับหลวงพ่อใจคือวิชา ดำน้ำลงตะกรุด ซึ่งวิชานี้ปีหนึ่งจะทำได้แค่ครั้งเดียว คือวันเพ็ญเดือน สิบสองเท่านั้น ตะกรุดที่ดำน้ำทำในแต่ละปีจะทำได้ปีละไม่กี่ดอกใครที่มีไว้ครอบครองถ้าอธิษฐานใช้แล้วจะสัมฤทธิ์ผลได้ดั่งใจหวัง พอหลวงพ่อใจท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อหนูจนสำเร็จท่านได้เข้าไปกราบหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง เพื่อศึกษายันต์ครูจากหลวงพ่อปึก ซึ่งหลวงพ่อปึกองค์นี้สามารถตบยันต์ทะลุกระดาษทุกแผ่นได้เลยเหมือนหลวงพ่อปึกท่านจะรู้ท่านบอกกับหลวงพ่อใจว่า “ฉันจะสอนให้ ๓ วัน ถ้าเอาไปได้ก็เอาไป” หลวงพ่อใจท่านอยู่ศึกษายันต์ครูกับหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวงเพียง ๓ วันจริงๆท่านก็เรียนจนสำเร็จดังความตั้งใจ หลังจากนั้น หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ก็ให้คนมาตามหลวงพ่อใจเข้าไปพบ หลวงพ่อหยอดท่านได้สอนหลวงพ่อใจเรียนวิธีหุงสีผึ้ง ทำตะกรุดลูกอม ทำน้ำมนต์ตลิ่งพัง ตามตำราหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และยังได้สอนวิธีการทำพระปิดตาตามตำราของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี หลังจากที่หลวงพ่อใจท่านได้เรียนสรรพวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อหยอดเสร็จ หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำได้ส่งหลวงพ่อใจไปศึกษาการทำตะกรุดกับหลวงพ่อน้อย วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี พอหลวงพ่อใจท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อน้อยจนเสร็จ ได้ไม่นานหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำท่านก็เมตตาให้หลวงพ่อมาคอยรับใช้ และยังถ่ายทอดสรรพวิชาที่หลวงพ่อเก๋มีให้หลวงพ่อจนหมด หลวงพ่อใจท่านอยู่กับหลวงพ่อเก๋ได้ไม่นานหลวงพ่อง้อ วัดดาวดึงส์ ท่านขอตัวหลวงพ่อจากหลวงพ่อเก๋ให้มาช่วยงานอยู่กับท่าน หลวงพ่อง้อองค์นี้ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อคงรูปสุดท้าย และการที่มาอยู่กับหลวงพ่อง้อในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทบทวนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่ได้ร่ำเรียนมา รวมถึงการฝึกจิต การปลุกเสกของ ให้เข็มขลังยิ่งขึ้น รวมถึงวิชาบางวิชาที่ยังไม่ได้เรียนหลวงพ่อง้อท่านก็ช่วยสอนให้จนหลวงพ่อใจมีความชำนาญในสรรพวิชาต่าง ๆ อย่างเชี่ยวชาญ หลังจากนั้น หลวงพ่อท่านก็เดินทางกลับเข้าสู่วัดจุฬามณี เพื่ออยู่คอยดูแล และรับใช้หลวงพ่อเนื่อง จนหลวงพ่อเนื่องมรณภาพลง หลวงพ่อใจท่านก็กลับสู่วัดพระยาญาติ (ปากง่าม) และในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ หลวงพ่อทองท่านได้มรณภาพลง ท่านก็ได้รับการสนับสนุนจาก ชาวบ้านวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) และคณะสงฆ์ยกย่องท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อใจท่านเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน ต่างก็พากันมาช่วยเป็นกำลังในการบูรณปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามจนเจริญรุ่งเรือง เป็นลำดับ นอกจากจะพัฒนาวัดแล้วท่านยังได้ช่วยสงเคราะห์ญาติโยม ไม่ว่าจะเป็นอะไรมาหลวงพ่อใจท่านก็จะช่วย ที่ว่าหนักก็คลาย ที่ว่าเบาก็หาย วัยรุ่น ตำรวจ ทหาร พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ ต่างพากันมาหาหลวงพ่อบางคนมาขอตะกรุด เพื่อปกป้องคุ้มครองตัว ค้าขายให้มีกำไร บางคนก็มาขอใบมะนาว เพื่อรักษาโรคมะเร็ง และโรคที่รักษาไม่ได้ บางคนก็มาให้พ่นรักษาโรคสะเก็ดเงิน สะเก็ดทอง เริม งูสวัด ไฟรามทุ่ง ฯลฯ บางคนก็มาขอโชคลาภ เพราะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อเป็นพระที่มีความเมตตาสูง เป็นผู้ให้จริง ๆ ใครขออะไรถ้าเป็นของหลวงพ่อก็จะให้โดยที่ไม่นึกเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว จตุปัจจัยต่างๆที่หลวงพ่อได้มาท่านจะแจกเด็ก ๆ ในวัดซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นลูกคนยากคนจน เป็นเด็กกำพร้า ไม่ใช่แต่พวกเด็กๆ แม้แต่คนยาก คนจน ที่ไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้ามาขอหลวงพ่อ ๆ ก็ให้ หลวงพ่อใจบอกว่าเขาเดือดร้อนมา เราช่วยได้ เราก็ช่วย หลวงพ่อใจท่านเป็นพระ พระจริงๆ หลวงพ่อใจท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกได้ยากทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะไม่ว่าจะรวยหรือจน ท่านพร้อมที่จะช่วยลูกศิษย์ของท่านตลอดเวลา ท่านเป็นพระรูปเดียวของอัมพวา ของแม่กลอง ของจังหวัดสมุทรสงครามที่มีแต่ให้ ให้ กับให้ มีลูกศิษย์ของท่านกล่าวไว้ว่า “พระองค์นี้คือพ่อ พ่อผู้มีแต่ให้ พ่อผู้มีแต่ช่วย พ่อผู้ไม่ยึดติด พ่อผู้ไม่ยอมให้ลูกตกอับ พ่อผู้ช่วยให้ลูกถึงฝั่ง พ่อผู้สอนให้ลูกเป็นคนดี” คำกล่าวข้างต้นเหมาะมากสำหรับ หลวงพ่อใจ แห่งวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) พระซึ่งเปรียบเสมือนเทพเจ้า แห่งลุ่มน้ำแม่กลองยุคปัจจุบันโดยแท้จริง พระผู้ควรเทิดทูนไว้เหนือหัวตลอดเวลา คุณงามความดีของท่านฝังอยู่ในหัวของพวกเราเหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อทุกคนอย่างไม่ลืมเลือน..

​

สนใจpmหรือโทรหาครับ

 

รูปเหมือนระฆังผงรุ่น๑ หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพสวยมาก กล่องเดิมครับ

​

ให้บูชา 450ครับ

 

พระพิมพ์ขุนแผน หินหยกในแม่น้ำโขง เขตอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แกะมีพญานาครักษา หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม วัดพิชัยพัฒนาราม (เขาน้อย สามผาน) อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

หลวงปู่เคยกล่าวให้ลูกศิทษ์ฟังเกี่ยวกับพุทธคุณ พระเครื่องหินหยก บนกุฎิว่า " พระนี้เด่นเรื่องแคล้วคลาด เมตตา รักษาโรค เอาไปแล้วต้องใส่นะ สวดมนต์ที่เราให้ก่อนใส่ " หลวงปู่พูดพร้อมทั้งแสดงท่าทางวิธีการเอาพระหยกทำน้ำมนต์และเอามาวางไว้ตามจุดที่เกิดโรคตามร่างกาย หลวงปู่ว่ามีพญานาครักษา และท่านเองจะเรียกว่าพระหยกบ้าง พระหินบ้างจริงๆ แล้วถ้าทิ้งหินเขียวชนิดนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน หินชนิดนี้จะเป็นหินหยกเป็นตระกูลเดียวกันแต่อายุยังไม่ถึงปาฏิหาริย์ที่ได้ยินมามีเยอะครับส่วนใหญ่เป็นเรื่องโภคทรัพย์แทบทั้งสิ้น

หลวงปู่ท่านมักจะบอกว่าพระหยกนี้ เป็นของค้ำคูณรักษาให้ดี
ของค้ำคูณคือของที่ช่วยค้ำชูอุดหนุนดวงชะตาครับ ประสบการณ์จากลูกศิทษ์ มีนับไม่ถ้วนจริงๆครับ

​

ให้บูชา 2,950บ.ครับ

 

พระพิมพ์ใบโพธิ์ หินหยกในแม่น้ำโขง เขตอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แกะมีพญานาครักษา หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม วัดพิชัยพัฒนาราม (เขาน้อย สามผาน) อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

หลวงปู่เคยกล่าวให้ลูกศิทษ์ฟังเกี่ยวกับพุทธคุณ พระเครื่องหินหยก บนกุฎิว่า " พระนี้เด่นเรื่องแคล้วคลาด เมตตา รักษาโรค เอาไปแล้วต้องใส่นะ สวดมนต์ที่เราให้ก่อนใส่ " หลวงปู่พูดพร้อมทั้งแสดงท่าทางวิธีการเอาพระหยกทำน้ำมนต์และเอามาวางไว้ตามจุดที่เกิดโรคตามร่างกาย หลวงปู่ว่ามีพญานาครักษา และท่านเองจะเรียกว่าพระหยกบ้าง พระหินบ้างจริงๆ แล้วถ้าทิ้งหินเขียวชนิดนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน หินชนิดนี้จะเป็นหินหยกเป็นตระกูลเดียวกันแต่อายุยังไม่ถึงปาฏิหาริย์ที่ได้ยินมามีเยอะครับส่วนใหญ่เป็นเรื่องโภคทรัพย์แทบทั้งสิ้น

หลวงปู่ท่านมักจะบอกว่าพระหยกนี้ เป็นของค้ำคูณรักษาให้ดี
ของค้ำคูณคือของที่ช่วยค้ำชูอุดหนุนดวงชะตาครับ ประสบการณ์จากลูกศิทษ์ มีนับไม่ถ้วนจริงๆครับ

​

ให้บูชา 2,550บ.ครับ

 

พระพิมพ์พระกริ่ง เจาะก้นอุดกริ่งเขย่ามัเสียงครับ(พิมพ์นี้หายากที่สุดครับ) หินหยกในแม่น้ำโขง เขตอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แกะมีพญานาครักษา หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม วัดพิชัยพัฒนาราม (เขาน้อย สามผาน) อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

หลวงปู่เคยกล่าวให้ลูกศิทษ์ฟังเกี่ยวกับพุทธคุณ พระเครื่องหินหยก บนกุฎิว่า " พระนี้เด่นเรื่องแคล้วคลาด เมตตา รักษาโรค เอาไปแล้วต้องใส่นะ สวดมนต์ที่เราให้ก่อนใส่ " หลวงปู่พูดพร้อมทั้งแสดงท่าทางวิธีการเอาพระหยกทำน้ำมนต์และเอามาวางไว้ตามจุดที่เกิดโรคตามร่างกาย หลวงปู่ว่ามีพญานาครักษา และท่านเองจะเรียกว่าพระหยกบ้าง พระหินบ้างจริงๆ แล้วถ้าทิ้งหินเขียวชนิดนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน หินชนิดนี้จะเป็นหินหยกเป็นตระกูลเดียวกันแต่อายุยังไม่ถึงปาฏิหาริย์ที่ได้ยินมามีเยอะครับส่วนใหญ่เป็นเรื่องโภคทรัพย์แทบทั้งสิ้น

หลวงปู่ท่านมักจะบอกว่าพระหยกนี้ เป็นของค้ำคูณรักษาให้ดี
ของค้ำคูณคือของที่ช่วยค้ำชูอุดหนุนดวงชะตาครับ ประสบการณ์จากลูกศิทษ์ มีนับไม่ถ้วนจริงๆครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

​

รูปเหมือนหล่อโบราณรุ่นแรก พ่อท่านดำ ปณฺณกณฺโห วัดศรีมาประสิทธิ์ นครศรีธรรมราช เกจิผู้เฒ่าของนครศรีธรรมราชอายุ 97ปี องค์นี้พิเศษเลขสวย123 ครับผม

รูปเหมือนหล่อโบราณพ่อท่านดำ รุ่นแรก จัดสร้างอย่างพิถีพิถันครับทั้งเนื้อหาและมวลสารที่บรรจุด้านใต้ฐานองค์พระผงเหล็กไหลผงว่านดอนถ้ำหมื่นยม,เพชรหน้าทั่ง,เกสา,จีวร,ชานหมากและจำนวนการสร้างที่นับว่าน้อยมากครับ เพียง267องค์เท่านั้นครับ มีเนื้อเงิน 9 องค์ ทองแดงและเนื้อทองผสมที่สำคัญได้นำชนวนฝาบาตรโบราณหล่อผสมลงไปด้วยครับสำหรับพ่อท่านดำไม่ต้องบรรยายกันให้มากครับท่านกราบได้อย่างสนิทใจครับสำหรับคุณวิเศษท่านนับว่าไม่เป็นสองรองใครครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

​

“พ่อท่านหนูจันทร์ องค์เดียวที่ฉันได้ศึกษาเล่าเรียนมา”

พ่อท่านเคล้า ปญฺญาธโร วัดแดง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

“นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู” นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีพื้นที่ใหญ่เป็นอับดับสองของภาคใต้รองจากสุราษฏษ์ธานี มีอาณาเขตติดต่อ ตรัง พัทลุง กระบี่ สงขลาและสุราษฏร์ธานีในอดีตมีชื่อเรียกดินแดนแถบนี้หลายชื่อ เช่น ในคัมภีร์มหานิเทศของอินเดีย ที่เขียนขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เรียกว่า "ตามพรลิงก์", บันทึกโบราณของเมืองจีนเรียก "เซี้ยะ-โท้ว(ถู-กวั่ว)", "รักตะมฤติกา"(จารึกภาษาสันสกฤต) ซึ่งล้วนหมายถึง "ดินแดนที่มีดินสีแดง", ตะวันตกนิยมเรียกกันมาจนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 คือ "ลิกอร์" สันนิษฐานว่าชาวโปรตุเกตุที่เข้ามาติดต่อค้าขายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นเป็นผู้เรียกก่อน โดยเพี้ยนมาจากคำว่า "นคร" ส่วนชื่อ "นครศรีธรรมราช" มาจากพระนามของกษัตริย์ผู้ครองนครในอดีต มีพระนามว่า "พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช" (ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช) มีความหมายว่า "นครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม" หรือ "เมืองแห่งพุทธธรรมของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่"

นครศรีธรรมราชเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นไอแห่งพระพุทธศาสนาที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนานพระเกจิเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษมากมายก่อเกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้สุดยอดพระเถราจารย์นามกระเดื่องผู้ทรงคุณวิเศษรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำเชียรใหญ่ก่อกำเนิดเกิดขึ้นที่นี่ นามพ่อท่านหนูจันทร์ ปุญฺญสุวณฺโณ วัดพัทธสีมา อริยะเถราจารย์นามอุโฆษบารมีของท่านแผ่ไปทั่วคุ้งน้ำ กิตติคุณวิเศษเป็นที่เลื่องลือก่อเกิดตำนานเล่าขานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

พ่อท่านหนูจันทร์ ปุญฺญสุวรรณฺโณ ท่านมีนามเดิมว่า หนูจันทร์ จันทร์ปาน เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนหก ปีมะเมีย 2436 ที่บ้านเกาะขรบ ม.7 ต.เขาพระบาท อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายศักดิ์ มารดาชื่อนางจันทร์คง จันทร์ปาน มีพี่น้องร่วมอุทร 6 คน ได้ศึกษาอักษรไทยและขอมที่วัดแดงโยมีพระอาจารย์อินทร์ ชาวหนองชีพูนเป็นผู้สอน และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 18 ปี และอุปสมบท ณ อุโบสถวัดแดง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีท่านพระครูพนังศรีวิสุทธิพุทธภักดี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ชู เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอาจารย์บม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และเมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่เต็มกำลัง และท่านได้เดินทางไปอยู่จำพรรษายังวัดและสำนักต่างๆมากมายหลายที่หลายจังหวัด แต่ท่านได้สร้างความเจริญให้กับวัดแดงมากมาย เช่นสร้างพระประธานในอุโบสถ 3 องค์ โรงเรียนประชาบาลวัดแดงและท่านยังได้วางรากฐานการศึกษาโรงเรียนประชาบาลหลายโรงเรียนในอำเภอเชียรใหญ่และหัวไทร พ่อท่านหนูจันทร์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาและปฏิบัติธรรมไปพร้อมๆกัน มีสายตาอันยาวไกล ท่านได้ใช้ชีวิตอุทิศเพื่อการศึกษา เพื่อศาสนาอย่างแท้จริง ตลอดถึงท่านมิได้ละเว้นการบำเพ็ญเพียรทางด้านวิปัสสนาธุระ ท่านชอบดำรงตนอยู่อย่างสันโดษ ในสถานที่วิเวกสัปปายะ ป่าช้า เพื่อกระทำวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่เสมอ ท่านประพฤติปฏิบัติดำรงตนตั้งมั่นอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา แผ่เมตตาอยู่ตลอดเวลา

ตลอดเพศบรรชิตของท่าน ท่านอุทิศตนเพื่อพุทธศาสนาและเพื่อการศึกษาของลูกหลานชาวเชียรใหญ่ หัวไทร อย่างยิ่งยวด เป็นหลักธรรมหลักชัยเป็นที่พึ่งทางใจของศิษยานุศิษย์อย่างแท้จริง ด้วยอุปลักษณะนิสัยที่รักสันโดษของท่าน ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาในหลายที่หลายแห่ง สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้สถานที่ต่างๆมากมาย แต่ท่านไม่เคยปรารถนาชื่อเสียงเกียรติยศ แม้กระทั่งตำแหน่งเจ้าอาวาส หรือพระครูที่ทรงเกียรติ ท่านก็ไม่เคยหมายปองถวิลหา ท่านปฏิเสธสิ่งต่างๆเหล่านี้มาโดยตลอดในทุกครั้งที่มีการกล่าวถึงท่าน ท่านเป็นสงฆ์ผู้ทรงคุณ วิเศษมากมายหลายประการ วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านสร้างและที่ศิษย์ขออนุญาตสร้างเนื่องในวาระโอกาสต่างๆมีประสบการณ์อภินิหารต่างๆมากมายเป็นที่เลื่องลือขจรขจายไปทั่วคุ้งน้ำ ลามไกลถึงทั่วหัวเมืองปักษ์ใต้ เป็นที่เสาะแสวงหาของผู้คนที่เคารพและศรัทธาอย่างมากจากครั้งอดีตจวบจนปัจจุบัน พ่อท่านเคล้า เจ้าอาวาสวัดแดงศิษย์เอกหนึ่งเดียวของท่านเมตตากล่าวเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นให้ผู้เขียนฟังว่า พระอาจารย์ท่านมีจิตที่เมตตาอย่างสุดประมาณ กุฏิที่ท่านอยู่จะเต็มไปด้วยสารพัดสัตว์ เป็ด ไก่ นก หมา แมว อยู่รายล้อมและที่น่าอัศจรรย์ ท่านสามารถนำกล้วยมาตัดเป็นชิ้นๆ แล้ววางไว้บนมือ เหล่ามุดสัง หรือที่ภาคกลางเรียกว่าอีเห็น หรือชะมด ทยอยกันเดินเข้าแถวมากินกล้วยที่อยู่บนฝ่ามือท่านได้ ซึ่งมันไม่ได้มีเพียงตัวหรือสองตัว เพราะมันมีมากถึง40ตัว แสดงให้เห็นถึงเมตตาธรรมอันเอกอุที่ท่านแผ่บารมีออกไปแม้กระทั่งสัตว์ป่ายังสามารถรับรู้ได้ถึงมหาเมตตาอย่างสุดประมาณนั้น กิติคุณบุญบารมีของพ่อท่านหนู่จันทร์นั้น เป็นที่เลื่องลือในแต่ละวันจะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมากราบสักการะขอพร ท่านไม่ขาดสายท่านเมตตาให้ความอนุเคราะห์ สงเคราะห์ทุกคนที่มาอย่างเท่าเทียมกัน

ตลอดชีวิตในสมณเพศท่านบำเพ็ญสมณธรรมตั้งมั่นอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา วิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างเคร่งครัด ตลอดชีวิตท่านสร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนาทั้งสร้างคน สร้างถาวรวัตถุเสนาสนะต่างๆมากมายหลายที่หลายแห่ง สร้างโรงเรียนเพื่อการศึกษาของเหล่าลูกหลานลุ่มน้ำเชียรใหญ่ จวบจนบั้นปลายแห่งชีวิตตามกฎแห่งไตรลักษณ์เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปซึ่งไม่มีใครหนีพ้น ท่านได้ถึงการมรณภาพลงเมื่อวันที่15สิงหาคม 2525 เวลา17.30น.ด้วยโรคลมปัจจุบันหลังจากพิธีบำเพ็ญกุศลและเก็บท่านแล้ว พ่อท่านเคล้า ศิษย์เอกของท่านได้ปรึกษากับบรรดาญาติ ศิษย์ และพุทธบริษัทที่เคารพเลื่อมใส จัดสร้างศาลาเมรุเป็นสถานที่ฌาปนกิจ เมื่อสร้างเมรุเสร็จแล้ว ก็ได้กำหนดวันจัดงานบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพของพระอาจารย์ในวันที่15สิงหาคม2527 โดยมีท่านพระเดชพระคุณพระครูปัญญาธรานุวัตร((เคล้า ปญฺญาธโร) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายปลื้ม โชติษฐยางกูร อธิบดีผู้พิพากษา ภาค9 เป็นประธานฝ่านฆารวาส คงเหลือไว้แต่คุณความดี บารมีที่ท่านสร้างไว้เป็นเครื่องระลึกถึงที่น่าจดจำตราบนานเท่านาน

วัดแดง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช วัดแดงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกริมภูเขาพระบาทเหตุที่มีชื่อเรียกว่าวัดแดง ผู้เฒ่าหลายคนเล่าว่าเดิมที ที่ตั้งวัดเป็นของนางแดงวันหนึ่งมีพระภิกษุธุดงค์มาปักกรดที่ดินแห่งนี้ นางแดงไปถวายภัตตาหารและมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระธุดงค์รูปนั้น จึงยกที่ดินแปลงนี้ถวายแด่ภิกษุสงฆ์รูปนั้นเพื่อสร้างวัดขึ้นมา ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าวัดป้าแดงหรือวัดยายแดง ต่อมาคำว่าป้าหรือยายเพี้ยนหายไปจนเหลือเพียงคำว่าแดง และเรียกกันว่าวัดแดงสืบกันมานับจากนั้น อีกเรื่องเล่าหนึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ละแวกวัดหลายคนเล่าว่า ในอดีตที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณวัดแดงมีต้นยางแดงขนาดใหญ่ มากมายผู้คนในพื้นที่ต่างเรียกกันว่าวัดยางแดง และเพี้ยนไปจนเหลือเพียงวัดแดง ซึ่งไม่สามารถหาข้อยุติได้ว่าวัดแดง มาจากชื่อยายแดงหรือว่าเพราะมีต้นยางแดงกันแน่

วัดแดงตั้งขึ้นมาในยุคสมัยใด ปีไหน ยังค้นคว้าและหาข้อสรุปยิติไม่ได้ พ่อท่านหนูจันทร์ เคยเล่าให้พ่อท่านเคล้า ฟังว่า ท่านเคยอ่านในเพราวัดพะโคะ พบข้อความว่าสมเด็จเจ้าพะโคะได้เดินทางผ่านวัดแดงและได้บันทึกไว้ในเพราว่า”วัดท่าลิพง วัดพัทธสีมา วัดแดง วัดพระพุทธบาท”สร้างในสมัยเดียวกัน จากคำบอกเล่าของพ่อท่านหนูจันทร์ ที่ถ่ายทอดผ่านมายังพ่อท่านเคล้านั้น จึงสันนิษฐานได้ว่าวัดแดงสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นอย่างน้อย เพราะเพราวัดพะโคะบันทึกในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกาทศรถ พ่อท่านโคะ ตามที่ชาวบ้านเรียกนั้นได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระราชสามีรามคุณูปมาจารย์จากพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ เมื่อสมเด็จเจ้าพะโคะเคยเดินทางผ่านวัดแดง แสดงว่าวัดแดงมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว อาจจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นหรือยุคสุโขทัยก็สุดคาดเดา หลักฐานที่เก่าแก่และน่าสนใจที่สุดในวัดแดงคือพระพุทธรูปปูนปั้นซึ่งหักพังตั้งอยู่หลังพระประธานในอุโบสถวัดแดง

วัดแดงเป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเปลี่ยนผ่านการปกครองจากพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณมาหลายยุคหลายสมัยทำเนียบอดีตเจ้าอาวาสประกอบไปด้วย1.พ่อท่านทองอินทร์(เฒ่า) 2.พ่อท่านอินทร์ 3.พ่อท่านจันทร์ 4.พ่อท่านหนู 5.พ่อท่านแดง 6.พ่อท่านม่อย พันธ์เทพ 7.พ่อท่านผลี้ 8.พ่อท่านสุข 9.พระปลอด รักษ์รงค์ 10.พ่อท่านคง 11.พระชุ่ม จงใจ 12.พระอ้วน อนุกูล 13.พระอธิการเปลี่ยน ไทรแก้ว(2479-2485) 14.พระอธิการกลับ จงใจ(2485-2490) 15.พระอิธาการประดับ จิตญาโณ(2491) 16.พระสมุห์นวล โชติปญฺโญ 17.พระครูปัญญาธรานุวัตร(พระมหาเคล้า ปญฺญาธโร2514-ปัจจุบัน)

พระครูปัญญาธรานุวัตร หรือที่ศิษยานุศิษย์ตลอดถึงผู้เคารพศรัทธาเรียกกันว่าพ่อท่านเคล้า ปญฺญาธโร นามเดิมเคล้า ทองใสพร เกิดวันที่2ตุลาคม2475 ที่บ้านเลขที่122ม.7ต.เขาพระบาทอ.เชียรใหญ่จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายขุก มารดาชื่อนางหม้อ ทองใสพร ในวัยเด็กได้เรียนหนังสือที่วัดแดงจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่4ซึ่งเป็นระดับการศึกษาที่สูงที่สุดในสมัยนั้นและเมื่อพ.ศ2495 ท่านได้ทำการบรรพชาอุปสมบทที่วัดแดงโดยมีท่านพระครูนันทกรวรสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการประดับ จิตญาโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระนิ่ม ผลณาโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทเข้ามาในบวรพระพุทธศาสนาแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดแดง10พรรษา ได้หมั่นศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยอย่างมุ่งมั่นและด้วยใจที่คิดอยากจะศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ในหลักของพระพุทธศาสนาให้รู้แจ้งเห็นชัดเพื่อที่จะนำความรู้มาเผยแผ่สอนพระเณรภายในวัดแดง ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษานักธรรมบาลีที่สำนักเรียนวัดคูหาสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดพัทลุงซึ่งเป็นสำนักเรียนที่มีชื่อเสียงมากในขณะนั้น โดยได้ไปพักอาศัยอยู่จำพรรษาที่วัดโคกเนียน ท่านได้ทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนักด้วยความมุ่งหวังที่จะนำความรู้กลับมาพัฒนาวัดแดงและอบรมสั่งสอนพระเณรที่วัดให้ได้รับและมีความรู้เหมือนดังสำนักเรียนต่างๆ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่สำนักวัดคูหาสวรรค์ประมาณ11พรรษา สามารถสอบได้นักธรรมตรี โท เอกและเป็นพระมหาเปรียญ 5 ประโยค ท่านจึงเดินทางกลับวัดแดงเพื่อนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาเพื่อพัฒนาวัด พระเณรให้มีความรู้ อย่างที่ท่านตั้งใจ เมื่อกลับมาอยู่วัดแดงท่านได้ช่วยสนองงานของอดีตเจ้าอาวาสอย่างสุดความสามารถทั้งทางด้านพัฒนาวัด พัฒนาพระเถรมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัด จวบจนกระทั่งปีพ.ศ2514 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแดงและพร้อมกันนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเขาพระบาทอีกด้วยด้วยความรู้ความสามารถและความเป็นนักปกครองปีพศ.2516ท่านได้รับตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเชียรใหญ่และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเชียรใหญ่ในปีพ.ศ2547 ตลอดชีวิตที่ผ่านมาท่านทุ่มเทกำลังกาย กำลังทรัพย์และกำลังสติปัญญาบริหารงานคณะสงฆ์ได้อย่างเรียบร้อยเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเป็นพระผู้ใหญ่ที่คณะสงฆ์ในพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทรให้ความเคารพยกย่องอย่างที่สุด

นอกจากจะเป็นพระผู้ใหญ่มีหน้าที่เป็นถึงเจ้าคณะอำเภอ ท่านก็ยังคงดำรงตนอยู่อย่างเรียบง่ายสมถะสมกับสมณสารูปพุทธบุตรแห่งพุทธองค์ ให้ความเมตตาสงเคราะห์ อนุเคราะห์ผู้ที่เดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกันคนจำนวนไม่น้อยที่รับรู้และรู้จักท่านเพียงด้านพระนักปกครองแต่หารู้ไม่ว่าด้านพุทธาคมสรรพเวทย์มนตราท่านก็สืบทอดสรรพวิชาอาคมขลังมาอย่างครบถ้วนจากสุดยอดพระอริยะเถราจารย์นามกระเดื่อง”พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา.ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าพ่อท่านหนูจันทร์ท่านมีความผูกพันธ์กับวัดแดงเป็นอย่างมากแม้กระทั่งปั้นปลายชีวิต ท่านก็มาอยู่จำพรรษาและละสังขารตลอดถึงฌาปนกิจศพที่วัดแดงโดยมีพ่อท่านเคล้า ศิษย์เอกหนึ่งเดียวของท่านเป็นผู้จัดการงานบำเพ็ญกุศลศพของท่านอย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีสมบารมีของท่าน ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เราท่านสมควรได้รับรู้ถึงสายวิชาและความแน่นแฟ้นของพ่อท่านเคล้าและองค์บรมครูอาจารย์พ่อท่านหนูจันทร์ พ่อท่านเคล้าหลังจากที่กลับจากศึกษาเล่าเรียนนักธรรมบาลีที่วัดคูหาสวรรค์ พัทลุงแล้วก็กลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดแดงและได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี2514 และแล้วครูบาอาจารย์ก็กำหนดวิถีแห่งการสืบทอดพุทธาคมก็บังเกิดขึ้นปี2516 พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมาได้เดินทางมาอยู่จำพรรษาที่วัดแดง ซึ่งในขณะนั้นชื่อเสียงบารมีของท่านเป็นที่ขจรขจายแผ่ไปทั่วคุ้งน้ำ กิติคุณวิเศษมากมายหลายประการที่เล่าขาน ทำให้ในแต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย วัตถุมงคลต่างๆที่คณะศิษย์ตลอดถึงวัดต่างๆมาขอสร้างและกราบขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกต่างก่อเกิดประสบการณ์มากมายเป็นที่ต้องการและเสาะแสวงหามาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

ด้วยอุปลักษณะนิสัยจริยาวัตรที่เรียบร้อยงดงามและความเมตตาที่ท่านมีพ่อท่านหนูจันทร์จึงเป็นสุดยอดพระเถราจารย์ที่ชาวเมืองนครศรีธรรมราชและจังหวัดต่างๆในปักษ์ใต้ต่างให้ความเคารพนับถืออย่างที่สุด ไม่ว่าใครมาจากไหนใกล้ไกลเดือนเนื้อร้อนใจด้วยเรื่องอะไรเมื่อมาหาท่านแล้วทุกคนจะได้รับความเมตตาจากท่านช่วยอนุเคราะห์ สงเคราะห์ ขจัดปัดเป่าเรื่องราวร้ายๆให้หมดสิ้นไปด้วยมหาบารมีท่าน ตลอดระยะเวลาที่พ่อท่านหนูจันทร์ จำพรรษาสถิตเป็นมิ่งมงคลของชาวบ้านวัดแดง ศิษย์เอกหนึ่งเดียวของท่านที่คอยช่วยเป็นลูกมือ เป็นธุระต่างๆในกิจต่างๆนั้นคือพ่อท่านเคล้า ตลอดระยะเวลา9ปี ที่พ่อท่านหนูจันทร์ ท่านอยู่ที่วัดแดง หลังจากหมดศิษยานุศิษย์ตลอดถึงญิตโยมที่มากราบสักการะในแต่ละวันแล้ว ท่านจะเรียกพ่อท่านเคล้ามาเพื่อถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆทุกวัน ไม่ว่าสรรพวิชาทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ชาตรี เมตตามหานิยม มหาโชค โภคทรัพย์ ทำให้ตลอดระยะเวลา9ปี พ่อท่านเคล้าท่านสืบทอดสรรพวิชาสายพ่อท่านชูเฒ่า อริยสงฆ์ผู้ทรงคุณแห่งวัดพัทธสีมาที่สืบทอดกันมาจากพ่อท่านหนูจันทร์ อย่างครบถ้วนกระบวนยุทธ พ่อท่านหนูจันทร์ ท่านรัก เมตตาพ่อท่านเคล้ามาก ท่านเมตตาชี้แนะการปฏิบัติภาวนาวิปัสนากรรมฐานและไขข้องข้องใจในทุกเรื่องที่พ่อท่านเคล้าท่านติดขัดในการปฏิบัติเจริญสมณธรรม พ่อท่านหนูจันทร์ท่าน ดำรงตนอยู่อย่างสงฆ์สุปฏิปันโนสมถะเรียบง่าย ไม่คือเงิน ทอง ปฏิบัติเจริญกรรมฐานอย่างเคร่งครัดในกุฏิไม้เก่าๆท่ามกลางต้นไม้ใหญ่รายล้อมที่แสนร่มรื่น ท่ามกลางสารพัดสัตว์ทั้งไก่ บ้าน ไก่ป่า มุดสัง กระรอก ตลอดถึงนก มากมายหลายชนิด พ่อท่านเคล้าท่านปรนนิบัติรับใช้อุปการะสนองคุณต่อพ่อท่านหนูจันทร์ครูบาอาจารย์ของท่านอย่างน่ายกย่องสรรเสริญ แม้ท่านจะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส พ่อท่านหนูจันทร์เป็นเพียงพระลูกวัดเท่านั้น ท่านเรียกพ่อท่านหนูจันทร์ว่าพระอาจารย์ในทุกครั้งที่เอื้อนเอ่ยถึงจวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ กระทั่งพ่อท่านหนูจันทร์ท่านละสังขารลง เมื่อปีพ.ศ2525 สิริอายุ 89 ปี ท่านก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการดำเนินการบำเพ็ญกุศลศพ จัดการเก็บศพไว้2ปีศพของท่านหาได้เน่าเปื่อยแต่อย่างได หากแต่กลายร่างแข็งเป็นหิน พ่อท่านเคล้า และสฺษย์ ญาติ ก็ได้กระทำการฌาปนกิจศพตามคำสั่งเสียของพ่อท่านหนูจันทร์ที่สั่งเสียไว้ก่อนละสังขารว่าห้ามเก็บไว้ โดยจัดงานอย่างยิ่งใหญ่สมบารมีท่านที่เมรุวัดแดง

​

ทุกวันนี้สายวิชาของพ่อท่านชูเฒ่า ที่ถูกสืบทอดผ่านมายังพ่อท่านหนูจันทร์ มีเพียงพระเดชพระคุณพ่อท่านเคล้า เพียงหนึ่งเดียวที่สืบทอดมาอย่างครบถ้วน ถนนทุกสายต่างมุ่งมายังวัดแดง ทำให้ชื่อเสียงกิตติคุณท่านโด่งดังไปทั่ว พ่อท่านเคล้าท่านสร้างเหรียญพ่อท่านหนูจันทร์ อนุสรณ์ในการวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดแดง ปี2540 เพื่อบูชาพระคุณครูและมอบให้ศิษย์เป็นที่ระลึกในการสละทรัพย์เพื่อสร้างอุโบสถ ท่านปลุกเสกอย่างเต็มที่เต็มกำลังและมีประสบการณ์มากมายเป็นที่กล่าวขาน ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน ชาตรี วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกก่อเกิดประสบการณ์ชวนน่าตื่นตะลึงมากมาย ตะกรุดของท่านเป็นที่เสาะหาของเหล่านักเลงวัวชนเมืองนคร เพราะเคยเกิดเหตุการณ์รุมยิงถล่มนักเลงวัวชนคนหนึ่งของเชียรใหญ่ด้วยปืนM16 นับร้อยนัด แต่กระสุนปืนนั้นกลับไม่ระคายผิวเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่โจษจันกันไปทั่วว่าพ่อท่านเคล้า วัดแดงที่สุดแห่งความเหนียว รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ตลอดถึงเรือขนาดต่างๆ เจ้าของต้องนำมาให้ท่านเจิมและผูกคอด้วยเชือกสามสี แม้จะนำมาให้ท่านเจิมไม่ได้เจ้าของก็ต้องมากราบขอเชือกสามสีของท่านเพื่อนำไปผูกคอรถ เรือกันทั้งนั้น ประสบการณ์ต่างๆมากมายหลากหลายเรื่องราวสร้างให้ชื่อเสียงบารมีของท่านเป็นที่รู้จักไปทั่วในหัวเมืองใต้ ท่านก็ยังคงดำรงตนประพฤติปฏิบัติตนตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ของท่านวางไว้อย่างเคร่งครัด ท่านทุ่มเทการ ใจ กำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญาพัฒนาวัดแดงเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อสร้างถาวรวัตถุ เสนาสนะต่างๆมากมายเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการงานของสงฆ์ สร้างกุฏิสงฆ์ สร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม สร้างเมรุ สร้างห้องน้ำ สร้างศษลาเอนกประสงค์ปัยญาธรานุสรณ์ ปรับภูมิทัศน์วัดแดงได้อย่างลงตัวเสนาสนะต่างๆถูกจัดวางอย่างกลมกลืนกับแมกไม้ น้อยใหญ่ที่ร่มรื่นของวัดแดงอย่างลงตัว สงบเงียบสัปปายะยิ่งนัก และท่านยังอุปภัมภ์โรงเรียนวัดแดง ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดให้เด็กนักเรียนมีอุปกรณ์การศึกษาเล่าเรียนอย่างเท่าเทียมโรงเรียนอื่นๆ ในทุกปีท่านจะแจกทุนการศึกษาให้กับเหล่าลูกหลานที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทุกปี

เนื่องด้วยวาระโอกาสมงคลที่กำลังจะมาถึงท่านเจริญอายุครบ7รอบ84ปี ท่านได้เมตตาจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นฉลองอายุครบ7รอบ84ปีขึ้นมาวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมปัจจัยเพื่อสร้างศาลาเอนกประสงค์”ปัญญาธรานุสรณ์” ที่ก่อสร้างมาเมื่อครั้งฉลองอายุ80ปีของท่าน ซึ่งปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ ให้แล้วเสร็จเป็นถาวรวัตถุของพุทธศาสนา ใช้ในกิจการงานของสงฆ์สืบต่อไป วัตถุมงคลรุ่นฉลองอายุครบ7รอบ84ปีประกอบไปด้วย1.เหรียญรูปไข่เต็มองค์ ด้านหน้า-เป็นรูปท่านนั่งเต็มองค์ โดดเด่น สวยงามมาก ด้านหลัง-ยันต์ครูใหญ่ที่ท่านเมตตานำมาบรรจุบนเหรียญอักขระเลขยันต์ ข้อความต่างๆถูกจัดวางอย่างลงตัวสวยงาม 2.พระปิดตามหาลาภ รุ่นแรก เนื้อโลหะ รูปแบบพิมพ์ทรง สวยงามตามโบราณวิธีสี่กร เน้นมหานิยม มหาลาภ มหาโชคโภคทรัพย์อย่างยิ่งยวด 3.ล๊อกเก็ตเต็มองค์รุ่นแรก รูปท่านนั่งสมาธิเต็มองค์ แผ่บารมีคุ้มครองผองศิษย์ วัตถุมงคลรุ่นฉลองอายุครบ7รอบ84ปี มีกำหนดพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556นี้อย่างยิ่งใหญ่ที่วัดแดง

และขอแจ้งข่าวไปยังศิษยานุศิษย์ตลอดถึงผู้เคารพศรัทธาในองค์พระเดชพระคุณพ่อท่านเคล้า ปญฺญาธโร ขอเชิญร่วมพิธีทำบุญฉลองอายุครบ7รอบ84ปีและเททองหล่อรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงในวันที่5-6ตุลาคม2556 กำหนดการวันเสาร์ที่5ตุลาคม เวลา 13.30น.เททองหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง พระเกจิเถราจารย์นั่งปลกคุมธาตุสี่ทิศประกอบไปด้วย1.พ่อท่านห้อง ธัมวโรเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ2.พ่อท่านมหาอุทัย วิมโล วัดดอนศาลา 3.พ่อท่านเนื่อง มานิโต วัดสวนจันทร์ 4.พ่อท่านพุ่ม กตปฺญโญ สำนักสงฆ์เจดีย์ศรีวิชัยพุทธสถิต พระเกจิเถราจารย์ที่เมตตามานั่งปรกคุมธาตุทั้งสี่ทิศ พ่อท่านเคล้า ท่านเมตตาระบุรายนามด้วยตัวท่านเองและให้ศิษย์ไปนิมนต์ตามที่ท่านระบุ วันอาทิตย์ที่6ตุลาคม 2556 เวลา 10.00น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลา11.00น ร่วมถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ-สามเณร เวลา12.00น.ร่วมถวายมุทิตาจิตแด่องค์พ่อท่านเคล้า โอกาสมงคลที่ครูบาอาจารย์เจริญอายุครบ7รอบ84ปี จึงอยากขอเชิญชวนศิษย์ยานุศิษย์เดินทางมาร่วมงานพิธีกันในวันเวลาดังกล่าว

​

วัดแดง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีระยะทางห่างจากตัวจังหวัดนครศรีธรรมราช 50กิโลเมตรโดยประมาณ การเดินทางสะดวกสบาย มีโอกาสไปกราบสักการะขอพร ขอบารมี ขอหลักธรรมคำสอนของท่านมาเป็นหลักธรรมหลักชัยในการดำรงชีวิต กราบไหว้สักการะสงฆ์สุปฏิปันโนบริสุทธิ์เป็นมงคลชีวิต เมื่อท่านมาถึงวัดแดงแล้วท่านจะพบกับพ่อท่านเคล้า พระสงฆ์จริยาวัตรเรียบร้อยงดงามผู้ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมเจริญรอยตามองค์พระอาจารย์พ่อท่านหนูจันทร์ ของท่านอย่างเคร่งครัด มีเมตตาสงเคราะห์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ตลอดชีวิตในเพศบรรพชิตที่ผ่านมาท่านได้อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่เต็มกำลังและยังอุทิศตนเพื่อการศึกษาของเหล่าลูกหลานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ตลอดถึงอบรมสั่งสอนศรัทธาสาธุชนให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดี ดำเนินชีวิตที่ถูกต้องในครรลองคลองธรรม เพื่อชีวิตที่มีความสุขทั้งในปัจจุบันและอนาคตกาลเบื้องหน้า สุดท้ายขอฝากคำคม “รวยเพราะทำ จำเพราะเรียน เตียนเพราะถาง ไม่ถางไม่เตียน ไม่เรียนไม่จำ ไม่ทำไม่รวย” จากพระเดชพระคุณพระครูปัญญาธรานุวัตร(เคล้า ปญฺญาธโร) ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบสัมมาอาชีพ หวังใจว่าทุกท่านคงหาเวลา หาโอกาสไปกราบสักการะท่านสักครั้งแล้วท่านจะเคารพรักและศรัทธาท่านทั้งหัวใจเฉกเช่นเดียวกับผม สวัสดี

 

​

พระยอดขุนพลรุ่นแรก พ่อท่านเคล้า วัดแดง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 แจกงานทอดกฐิน ศิษย์สายพ่อท่านหนูจันทร์ พระเกจิยอดอาคมแห่งนครศรีธรรมราช จำนวนการสร้าง 300 องค์ครับ

​

ให้บูชา 550บ.ครับ

 

​

พระเนื้อว่านผสมชานหมาก พิมพ์รูปเหมือน พ่อท่านเคล้า วัดแดง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ศิษย์สายพ่อท่านหนูจันทร์ พระเกจิยอดอาคมแห่งนครศรีธรรมราช สร้างน้อยหายากครับ

​

ให้บูชา 450บ.ครับ

 

​

รูปหล่อกริ่งรุ่นแรก พ่อท่านเคล้า วัดแดง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ศิษย์สายพ่อท่านหนูจันทร์ พระเกจิยอดอาคมแห่งนครศรีธรรมราช สร้างน้อยหายากครับ

​

ให้บูชา 450บ.ครับ

 

​

รูปหล่อเหมือน เนื้อสัมฤทธิ์ขันลงหิน สร้างปี56 พ่อท่านเคล้า วัดแดง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ศิษย์สายพ่อท่านหนูจันทร์ พระเกจิยอดอาคมแห่งนครศรีธรรมราช สร้างน้อยหายากครับ ฉนวนมวลสารเยอะมากครับรุ่นนี้

​

ให้บูชา 950บ.ครับ