ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พายุหิมะระลอกใหม่ส่งผลให้ต้องปิดทางด่วน 10 สายในจีน

    [​IMG]

    เฉิ่นหยาง 19 ธ.ค.-สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า พายุหิมะระลอกใหม่พัดกระหน่ำมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ส่งผลให้ต้องปิดทางด่วนตลอดทั้งสาย และบางส่วนจำนวน 10 สาย

    สำนักงานการจราจรมณฑลเหลียวหนิงรายงานว่า ทางการได้ระงับบริการขนส่งสินค้าในเมืองต้าเหลียนในวันนี้ เนื่องจากพายุหิมะซึ่งมาพร้อมกับลมกระโชกแรง ด้านศูนย์พยากรณ์อากาศมณฑลเหลียวหนิงได้ประกาศเตือนระดับสีเหลือง เนื่องจากถนนมีน้ำแข็งเกาะ เพื่อเตือนให้ประชาชนผู้ขับขี่รถระมัดระวังถนนลื่น รายงานยังระบุว่า นับจนถึงเวลา 09.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ยังคงมีหิมะตกอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อเดือนที่ผ่านมาพายุหิมะกำลังแรงได้พัดกระหน่ำมณฑลเหลียวหนิง มณฑลเฮย์หลงเจียง และมณฑลจี๋หลิน ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ส่งผลให้โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนหลายแห่งในเมืองฮาร์บิน เมืองฉางชุน เมืองจี๋หลิน และเมืองไป่ชาน ต้องปิดการเรียนการสอน 1-2 วัน.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ธ.ค. 2556 15:10 |

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนไวรัสหวัดนก H10N8 ส่อเค้าคุกคามหนัก

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 19 ธ.ค.-ศาสตราจารย์ เฉิน เซอ แห่งสถาบันยาชีววัตถุเซี่ยงไฮ้ได้ออกมาเตือนว่าไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ H10N8 ส่อเค้าจะคุกคามหนักขึ้นหลังจากคร่าชีวิตสตรีชาวเจียงซีเป็นรายแรก

    ศาสตราจารย์ผู้นี้คือผู้ที่เคยออกมาเตือนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า ไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ H10N8 และ H6N6 ที่พบเฉพาะในนกป่าจะคุกคามมนุษย์ในอนาคตอันสั้น ล่าสุดเขาได้ ระบุว่า ขณะนี้มีหลักฐานว่าเชื้อไวรัส H10N8 ได้กลายพันธุ์และติตต่อไปสู่คนได้แล้ว ทั้งนี้ไวรัส สายพันธุ์ H10N8 นั้นศาสตราจารย์เฉินและคณะทำงานเป็นผู้ค้นพบจากนกป่าที่ทะเลสาบตงถิงเมื่อปี 2550 และเมื่อนำไปทดลองกับหนูทดลองก็พบว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวได้กลายพันธุ์ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างง่ายดาย และยังแพร่เชื้อไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วยกันอย่างง่ายดาย

    ดังนั้นมาตรการปิดตลาดค้าสัตว์ปีในกรณีที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกยังคงจำเป็นอยู่ พร้อมกับระบุว่าสตรีชาวเจียงซีวัย 73 ปี คนหนึ่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนโดยมีอาการปอดบวมอย่างรุนแรงและได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยคาดว่ามาจากไวรัสไข้หวัดนก H10N8 แต่ก็ไม่มีการปิดตลาดหรือทำลายสัตว์ปีกที่ต้องสงสัยแต่อย่างใด ส่งผลให้รัฐมนตรีอาหารและยาของฮ่องกง ได้ออกมาเตือนชาวฮ่องกงงดเว้นเข้าไปใกล้ตลาดค้าสัตว์ปีกบนแผ่นดินใหญ่ในพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดไว้ก่อน รวมทั้งอย่าแตะต้องสัตว์ปีกด้วย

    สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ธ.ค. 2556 06:12 |

    เทศกาลจับจ่ายซื้อของในสหรัฐช่วงนี้ยังไม่คึกคัก

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 19 ธ.ค. - ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งยังคงมีผู้คนบางตา แม้ติดป้ายลดราคาไว้ถึง 50 เปอร์เซนต์ตามร้านเสื้อผ้าและร้านค้าชั้นนำอื่นๆ ซึ่งถือเป็นบรรยากาศที่น่าผิดหวัง

    ช่วงนี้ถือว่าบรรดาห้างร้านในสหรัฐต่างแข่งกันลดราคาครั้งใหญ่ในเทศกาลจับจ่ายซื้อของ นับตั้งแต่สหรัฐประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง และถือเป็นครั้งที่น่าผิดหวังที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับห้างร้านต่างๆ ข้อมูลจากการสำรวจของช็อปเปอร์แทร็กพบว่า ยอดขายเพิ่มร้อยละ 2 มาอยู่ที่ 176,700 ล้านดอลลาร์ (5.65 ล้านล้านบาท) นับจากวันที่ 1 พฤศจิกายนจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    ซึ่งถือว่าชะลอตัวกว่าที่ช็อปเปอร์แทร็กเคยคาดไว้ว่ายอดขายจะเพิ่มร้อยละ 2.4 เป็น 265,000 ล้านดอลลาร์ช่วงสองเดือนติดกัน ยอดจำหน่ายที่เบาบางมีขึ้นทั้งที่มีการลดราคาตามร้านค้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 จากปีที่แล้วนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2551

    สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ธ.ค. 2556 09:30 |

    ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เมื่ออเมริกาปะทะจีน..ไทยจะทำอะไรได้?

    [​IMG]

    ช่วงเวลานี้จึงอยากให้มองไกลออกไปนอกบ้านเรา จะพบว่าอินทรีใหญ่อย่างอเมริกา กำลังร่อนลงในหลายพื้นที่ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในขณะที่มังกรยักษ์อย่างจีนบุกไปก่อนแล้ว พวกเขาจะทำอะไร? และเราทำอะไรได้?

    การแผ่อิทธิพลของจีนลงใต้

    การแผ่อิทธิพลของจีนลงใต้ ทำอย่างต่อเนื่อง คน 1,300 ล้าน อยู่นิ่งก็อดตาย จำต้องเคลื่อนไหว การเคลื่อนตัวลงใต้ของจีนครั้งนี้ สมกับเป็นมังกรยักษ์ ส่วนหัวอยู่ในทะเลจีนใต้ ลำตัวพาดผ่านลาว-ไทย ส่วนหางไปไกลถึงพม่า แต่ กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ก็ยังอยู่ในระยะของเท้าหน้า

    ที่จริงมีชาวจีนจำนวนหนึ่งมาแล้ว มาเงียบๆ ก่อนเส้นทางรถไฟจะมาถึง คนจีนที่ทรหด ดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า กำลังไหลลงสู่ตอนใต้ เข้าสู่ทุกประเทศ ทั้งพม่า ไทย ลาว กัมพูชา และประเทศแถบทะเลจีนใต้ จากคนจีน 1,300 ล้านคน ไหลลงมาแค่ 0.1% ก็เท่ากับ 1.3 ล้านคน มาทั้งในรูปทุนใหญ่ เป็นบริษัทมีเทคโนโลยีสูง และทุนเล็ก เป็นพ่อค้าวาณิชแต่สามารถกู้เงินดอกเบี้ยต่ำมาลงทุนได้

    วันนี้พวกเขาเหมือนทหารที่มีอาวุธพร้อม มีความอดทน แข็งแกร่ง คาดว่าในระยะเวลาไม่กี่ปี จะสามารถขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเบียดขับคนท้องถิ่น ขึ้นมาอยู่แถวหน้า

    มีความร่วมมือ ก็มีความขัดแย้งในภูมิภาค

    ลาว... การสร้างเส้นทางรถไฟจากจีนผ่านลาว เพื่อเชื่อมกับประเทศไทยและสามารถต่อไปถึงสิงคโปร์ ข้อเสนอของจีนที่มีต่อลาวอาจสูงไปบ้าง ฝ่ายจีนต้องการที่ดินกว้างถึง 2 กิโลเมตร สองข้างทางรถไฟในตลอดเส้นทาง ยาว 420 กิโลเมตร พร้อมครอบครัวคนจีน 50,000 ครอบครัว เพื่อทำงานก่อสร้าง แต่ลาวจะให้แค่ที่ดินหน้ากว้าง 800 เมตร ในตลอดเส้นทาง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ไป จีนน่าจะใช้ท่าทีที่อ่อนลง ความล่าช้าจะส่งผลกระทบกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าอาเซียนที่มีไทยเป็นศูนย์กลาง

    พม่า...รัฐบาลจีนและบริษัทต่างๆ ได้ลงทุนในพม่าไปแล้วมากกว่า 14,000 ล้านเหรียญ ในช่วงปีงบประมาณ 2553-2554 เพราะพม่าคือกำแพงตะวันตกที่ขวางทางลงมหาสมุทรอินเดียจีนจึงถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ จีนต้องเข้าไปในพม่าให้ได้ วันนี้วิสาหกิจน้ำมันและก๊าซ (MOGE) ของรัฐบาลพม่า ได้อนุมัติสัมปทานในการสำรวจขุดค้นหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั้งบนบกและในเขตทะเลของพม่าให้กับบริษัทต่างชาติไปแล้วมากกว่า 100 แปลง ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดคือ China National Petroleum Corporation (CNPC) และ China National Offshore Oil Corporation (CNOOC)

    เมื่อพม่าเตรียมเปิดประเทศก็เริ่มถ่วงดุลการเมืองระหว่างประเทศ และสร้างผลประโยชน์ให้ตนเอง โดยเปิดโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายให้เป็นท่าเรือสากลใหญ่แห่งที่ 2 ด้านมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งก่อนหน้ามีเพียงท่าเรือที่ จ็อกปิว ซึ่งจีนดูแลอยู่ แถมยังมีการระงับโครงการสร้างเขื่อนยักษ์ Myitsone ในลุ่มน้ำอิรวดีทางตอนเหนือของประเทศพม่า ซึ่งจีนลงทุน 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตไฟฟ้าได้ 6,000 เมกะวัตต์ ซึ่งถูกคัดค้านอย่างหนัก ทั้งจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ พม่าหนีจีนไม่ได้ แต่วันนี้ได้พลังเสริมจากอเมริกาและยุโรปมาต่อรองกับจีน

    สถานการณ์ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้

    ปัจจุบันจีนมีกรณีพิพาทเรื่องเขตดินแดน กับ 5 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน เวียดนาม และไต้หวัน เพราะมีการสำรวจพบว่าใต้ชั้นดินของทะเลจีนใต้มีทั้ง น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ประเมินว่ามีน้ำมันดิบมากกว่า 200,000 ล้านบาร์เรล และปริมาณก๊าซสำรองที่ใช้ได้นานถึง 60 ปี จีนได้ประกาศใช้แผนที่แสดงเขตน่านน้ำของจีนครอบคลุมส่วนใหญ่ ของทะเลจีนใต้

    ซึ่งไม่มีใครยอมรับ สหรัฐ, ญี่ปุ่นและเกาหลี บอกว่านี่เป็นเส้นทางเดินเรือเสรีและบางส่วนเป็นพื้นที่ทับซ้อนจีนจึงต้องพิพาทกับหลายประเทศ เช่น... กรณีหมู่เกาะสแปรตลีย์ซึ่งมีทั้ง จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ไต้หวัน กรณีความขัดแย้งระหว่าง จีน-ฟิลิปปินส์ เหนือเกาะสการ์โบโรห์ถึงขั้นเผชิญหน้า กรณีกับเวียดนาม ที่กลุ่มบริษัท CNOOC ได้เปิดการประกวดราคาการสำรวจน้ำมันในพื้นที่พิพาทซึ่งอยู่ทางตอนล่าง ห่างจากเกาะใหญ่ในหมู่เกาะพาราเซล เพียง 1 ไมล์ทะเล จีนยิ่งรุกมากก็ยิ่งขัดแย้งมาก

    การขยายอิทธิพลของอเมริกา

    อเมริกาวันนี้เหมือนนกรู้ แต่เป็นนกอินทรีผอมที่จำเป็นต้องบินย้อนกลับมาหากินในถิ่นเก่า พวกเขามองเห็นความขัดแย้งในภูมิภาค รู้ดีว่าสามารถร่อนลงไปถ่วงดุลอำนาจของจีนในเขตเอเชียอาคเนย์ และหาประโยชน์ได้คุ้มค่า พม่า... อเมริการีบกลับลำโดดเข้าพม่า เพราะต้องการทำธุรกิจพลังงาน ตามคำเชิญชวนของรัฐบาลพม่า ที่เชื่อว่าทั้งบนบกและในทะเลนั้น ยังคงมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซมากกว่าที่สำรวจพบในเวลานี้หลายเท่า (แต่ทีมวิเคราะห์เคยคุยกับผู้ที่เคยทำงานสำรวจ มา 20 ปี บอกว่า ฝั่งอ่าวไทยน่าจะมีมากกว่า)

    พม่าหวังจะได้เงินจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีภายในปี 2020 บริษัทยักษ์ในอเมริกา ย่อมอยากมีส่วนร่วม เดือนกรกฎาคม 55 ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐ อนุญาตให้กลุ่มบริษัทข้ามชาติของอเมริกันเข้าไปลงทุนภาคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพม่า ถือเป็นการผ่อนคลายการคว่ำบาตรครั้งสำคัญต่อพม่า

    กัมพูชา...นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของสหรัฐ อเมริกามาประชุม ASEAN Regional Forum (ARF) ครั้งที่ 19 ที่กรุงพนมเปญ พร้อมพ่วงนักธุรกิจสหรัฐในนามของ US-ASEAN Business Council ให้ร่วมเดินทางไปเยือนเวียดนาม ลาว และกัมพูชา แถมมีการเชิญนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปร่วมด้วย เพราะ ฮุน เซน ไปเชิญให้ยักษ์ใหญ่ของจีนคือ CNOOC ให้เข้ามาสำรวจหาแหล่งน้ำมันและก๊าซในอ่าวไทยด้วย ทำให้กลุ่ม Chevron ต้องผลักดัน นางฮิลลารี คลินตัน ออกหน้าแข่งขัน

    เวียดนาม... สำหรับการเดินทางไปเยือนเวียดนามครั้งล่าสุดนั้น นางฮิลลารี คลินตัน ต้องการให้รัฐบาลเวียดนามแก้ไขปัญหาขัดแย้งกับจีน กรณีหมู่เกาะสแปรตลีย์และพาราเซลอย่างสันติเพราะอเมริกาไม่อยากให้เกิดการปะทะและกระทบกระทั่งกันทั้งจีนกับเวียดนามและอีก 4 ประเทศ คือฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ถ้ามีการปะทะก็จะไม่สามารถเข้าไปขุดค้นเอาทรัพยากรทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พิพาทดังกล่าวขึ้นมาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้

    ฟิลิปปินส์... กรณีความขัดแย้งระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ในน่านน้ำใกล้เกาะสการ์โบโรห์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน อเมริกาประกาศอย่างเปิดเผย ด้วยการซ้อมรบร่วมกับกองทัพ ฟิลิปปินส์ เป็นการจำลองเหตุการณ์บุกยึดคืนเกาะ ที่ถูกกองกำลังศัตรูยึดครองเหมือนจะบอกจีนว่าถ้าเล่นงานฟิลิปปินส์เมื่อใด อเมริกาจะเข้าช่วยทันที ในยุคประธานาธิบดีอาร์โรโย เธอถูกมองว่า โปรจีน แต่ยุคของ นายเบนิญโญ อาคีโน เป็นประธานาธิบดี เขากลับมาแนบแน่นกับสหรัฐอีกครั้ง

    AEC จะผนึกกำลังกันได้จริงหรือ

    สิ่งที่กังวลกันวันนี้คือการประชุมครั้งล่าสุดที่ผ่านมา อิทธิพลของจีน ที่มีต่อ กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานอาเซียน ทำให้ไม่สามารถออกแถลงการณ์การประชุมที่มีจีนเป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้ และในปี 2014 พม่าจะเป็นประธาน จะเกรงใจจีนแค่ไหน

    วันนี้อเมริกายังโฉบเข้ามาร่วมวง คนจีนต่างจากฝรั่งตรงที่ ถ้าพวกเขาสามารถทำมาหากินได้ ก็จะลงหลักปักฐานอยู่ต่อไป แต่ฝรั่งเหมือนนกอินทรีโฉบมาเอาประผลประโยชน์กลับไปกินที่รัง ในท่ามกลางการแย่งชิงของมหาอำนาจอย่างจีนและอเมริกา ประเทศเล็กๆ ใน AEC จะต้องหาวิธีปกป้องผลประโยชน์และอธิปไตย ต้องคิดว่าจะร่วมกับมหาอำนาจโดยไม่เสียเปรียบได้อย่างไร?

    ประเทศไทยจะทำอย่างไร?

    ทีมวิเคราะห์ประเมินว่า ไทยไม่มีความสามารถที่จะตั้งรับการแข่งขันและการเอาเปรียบจากภายนอกได้ เพราะคนในประเทศเดียวกันมัวแต่แย่งอำนาจและผลประโยชน์แบบไร้กติกา ในขณะที่หลายประเทศสามารถสร้างกฎเกณฑ์และข้อตกลงเพื่อแบ่งผลประโยชน์ และอำนาจแบบสันติวิธีตามกฎเกณฑ์ประชาธิปไตยได้ แต่ 6 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ว่าเราทำไม่ได้ วันนี้เราด่ากันแล้วก็ไปฟ้องศาล หาทางจับผิดทุกเรื่องแล้วไปฟ้องเพื่อชิงอำนาจ เพราะวิธีนี้เคยได้ผล เมื่อปี 2551 เรื่องงี่เง่าแบบนี้จึงเกิดขึ้นอีก ถ่วงรั้งความเจริญ และเป็นวังวนซ้ำซากจนน่ารำคาญ

    ในขณะที่อเมริกาและจีนบุกข้ามประเทศมาหากิน วันนี้พม่าเปลี่ยนรถใหม่และขับออกมาแล้ว เวียดนามกำลังจะแซง เราขับมาไกลมากแต่ตอนนี้ขัดแย้ง ตีกันจนยางแตก เครื่องพัง ที่ทำได้ตอนนี้คือ ซ่อมรถธรรมนูญให้เสร็จ เวลาขับต่ออย่าแย่งกันขับก็แล้วกัน

    บทความโดย มุกดา สุวรรณชาติ คอลัมน์ หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1668 หน้า 20

    ที่มา บทความดีๆ เพื่อชีวิตเสรี&เวทียุติธรรม: เมื่ออเมริกาปะทะจีนในAEC ไทยจะทำอะไรได้? โดย มุกดา สุวรรณชาติ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชักน้ำเข้าลึก..ชักศึกเข้าบ้าน !!!

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pJ1qgoJviqw]ตอน ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน - YouTube[/ame]
    มณีส่องแสง สมาชิก

    สาส์นที่เราทราบมา(โปรดพิจารณาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล) เกี่ยวกับนาซ่าที่อู่ตะเภา พวกเค้ามาติดตั้งอุปกรณ์ ตรวจจับการบินในภูมิภาค และเรดาห์ เพื่อหาแร่ทรัพยากร และเกี่ยวกับกลยุทธสงครามโลก พวกเค้าเอาเงินยัดปากพวก....(?) ระดับสูงไว้...

    (โปรดพิจารณาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล)..อู่ตะเภา.นาช่า.
    ๑. ลักลอบขนอาวุธข้ามชาติ
    ๒. เตรียมยึดประเทศไทย
    ๓. ยึดทรัพยากร (จุดที่พวกเขาสำรวจไว้แล้ว..อุบล ตาก กรุงเทพ ตราด กาญจบุรี ขอนแก่น..และตอนนี้พวกนาซ่าก็กำลังส่งคนไปสำรวจที่ เกาะเสม็ด)
    ๔. เป็นแหล่งซุกเงินหนีภาษี
    ๕. จุดฟอกเงิน
    ๖. และจะใช้อู่ตะเภาเป็นที่รองรับ(คนคนหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ)
    ๗. แผนที่พวกเขาวางไว้คือ ยุให้ม๊อบชนม๊อบและให้เกิดเหตุร้ายแรง และให้สหรัฐฯเข้ามาไกล่เกลี่ย(เหมือนที่ทำในหลายประเทศ)
    ๘. เขาใช้ระบบกระสวยอวกาศในการสำรวจ
    ๙. และจะใช้เป็นฐานในการก่อสงครามโลกครั้งที่สาม
    ๑๐.ใช้เป็นฐานและจุดเพื่อจะทำการติดตั้งตัว ฮาป(ตัวที่ทำให้เกิดคลื่นซินามิ เหมือนที่เขาทำกับหลายประเทศ..เพราะอเมริกาคือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรลับด้วย)..

    ที่จริงปีที่แล้วสหรัฐฯและคนบางคนที่มีอำนาจ ได้ไปเซ็นต์สัญญากันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว (ตั้งแต่ได้รับอำนาจ และถ้าเพื่อนจำได้ สหรัฐฯได้นำเครื่องบินและทหารกองพล (อาวุธสงครามมากมายที่ซ๋อนไว้ที่ใต้ทะเลในเรือดำน้ำ)...เข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในการเตรียมการทุกอย่าง แต่ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยดูแล และสิ่งที่สามารถไปย้อนดูข่าวปีที่แล้วได้ก็คือ ช่วงที่สหรัฐฯจะเข้ามาจอดเครื่องบินที่ดอนเมือง และอ้างว่าจะมาช่วยรัฐบาล แต่ก็ไม่สามารถกระทำได้เพราะน้ำท่วม (ต่อให้เก่งหรือมีอำนาจมากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถ..เก่งเกินภัยพิบัติได้หรอกค่ะ)..."ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิด"

    ที่พวกเขาไม่สามารถมาใช้พื้นที่อู่ตะเภาได้ เพราะว่าผู้มีอำนาจลึกลับ ได้สั่งการให้ผู้ที่ดูแลที่อู่ตะเภา (พญานาคสีดำ ได้ตื่นและปกป้องจัดการและทำหน้าที่ของเขานั้นเอง)...

    (ส่วนตัวเรามิมีสิ่งใดที่แอบแฝง เพราะตัวตนของเรานั้นคือ หนึ่งลมหายใจเพื่อพ่อและแผ่นดินไทย)

    18-07-2012, 02:00 AM

    ที่มา NASA ยกเลิกอู่ตะเภาสำรวจอากาศแล้ว [เอกสาร] - PaLungJit.com
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จับตา 'ดุลอำนาจเอเชีย-แปซิฟิก' สหรัฐเพิ่มบทบาทในภูมิภาคเบียดจีน !!!

    [​IMG]

    การประกาศนโยบายขยายอิทธิพลสหรัฐในย่านเอเชีย-แปซิฟิก ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะสร้างความตึงเครียดระหว่างอเมริกากับจีนไม่น้อย บรรยากาศมึนตึงได้แผ่จากเวทีเอเปก อาเซียน จนถึงเวทีผู้นำเอเชียตะวันออก ประเด็นใจกลางของกลิ่นอายความคุกรุ่นในเวลานี้ก็คือ มหาอำนาจแต่ละฝ่ายจะจัดการอย่างไรกับการอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้

    นายกรัฐมนตรีจีน เวินเจียเป่า ถึงกับออกปากในเวทีประชุมผู้นำอาเซียนที่เกาะบาหลีเมื่อวันศุกร์ว่า "มหาอำนาจภายนอก" ไม่มีข้ออ้างที่ชอบธรรมที่จะยื่นมือเข้ายุ่งเกี่ยวกับข้อพิพาททางทะเลอันสลับซับซ้อนในย่านนี้ ซึ่งเป็นการปรามสหรัฐกับบรรดามิตรประเทศของอเมริกาที่กำลังขยับจะมีบทบาทในประเด็นอ่อนไหวนี้

    เว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศจีน ได้เผยแพร่คำพูดของเวินว่า เรื่องนี้ต้องหาทางออกด้วยการปรึกษาหารือกันฉันท์มิตรในหมู่ประเทศที่อ้างสิทธิ์มหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดๆ ไม่ควรมายุ่ง

    ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของจีนกับสหรัฐได้ตอบโต้กันไปมาหลายรอบแล้ว คราวนี้เวินเจียเป่าออกโรงเอง เพราะประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้อาศัยโอกาสที่เดินทางมาในภูมิภาคนี้ประกาศขยายบทบาทของสหรัฐ ซึ่งว่ากันว่ามุ่งที่จะถ่วงดุลอิทธิพลของจีนที่กำลังเติบใหญ่ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

    เมื่อวันพฤหัสฯ โอบามาได้ไปแวะที่ออสเตรเลียก่อนเดินทางมาเข้าร่วมประชุมกับบรรดาผู้นำชาติเอเชียที่อินโดนีเซีย ผู้นำสหรัฐบอกว่า กองทัพสหรัฐจะเพิ่มบทบาทในย่านเอเชีย-แปซิฟิก แม้อเมริกากำลังตัดลบงบประมาณของประเทศก็ตาม อเมริกาจะยังคงเป็นมหาอำนาจคุมน่านน้ำแปซิฟิกต่อไปอีกนาน

    ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน โอบามาในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ยังได้ฉวยจังหวะเล่นงานจีนในเรื่องการค้าด้วย พร้อมกับผลักดันข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่กับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านของจีน

    การเดินหมากเหล่านี้ถือเป็นความพยายามที่จะกอบกู้สถานะผู้นำของสหรัฐ เพื่อต้านทานอิทธิพลของจีนตลอดสองฟากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นการยืนยันกับชาติพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นว่า สหรัฐจะช่วยถ่วงดุลจีนอย่างแข็งขัน

    ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สหรัฐได้ผลักดันให้เวทีประชุมที่เกาะบาหลีระหว่างชาติสมาชิกในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ กับบรรดาชาติพี่เบิ้มอีก 8 ประเทศ เช่น สหรัฐ จีน รัสเซีย และญี่ปุ่น หยิบยกเรื่องข้อพิพาททะเลจีนใต้ขึ้นมาหารือกัน

    หลายประเทศในแถบนี้ คือ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย และบรูไน ได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกับการอ้างสิทธิ์ของจีนในหลายส่วนของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการค้าทางทะเลเป็นมูลค่าปีละ 5 ล้านล้านดอลลาร์

    ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐ กำลังกดดันให้จีนพยายามหาทางออกต่อปัญหาเขตอำนาจอธิปไตยที่ว่านี้ ซึ่งในปีนี้ได้เกิดเหตุเผชิญหน้ากันในทะเลหลายครั้งแล้ว

    เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฮิลลารี คลินตัน ยังได้เรียกร้องให้บรรดาชาติที่อ้างสิทธิ์หลีกเลี่ยงการใช้วิธีข่มขู่คุกคามกัน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณอย่างอ้อมๆ ไปยังจีน

    แล้วเมื่อวันศุกร์ โอบามาก็ได้เสนอให้เวทีประชุมผู้นำเอเชียตะวันออก หรืออีสต์ เอเชีย ซัมมิต หารือกันในเรื่องนี้ ขณะที่จีนบอกว่าไม่อยากให้เวทีอีเอเอสหยิบยกกรณีทะเลจีนใต้ขึ้นเป็นประเด็น เรื่องนี้จีนกับแต่ละประเทศที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันจะพูดคุยกันเองแบบทวิภาคี การนำประเด็นนี้เข้าสู่เวทีพหุภาคีจะไม่ส่งเสริมความร่วมมือในเอเชียตะวันออก

    ก้าวแรกที่สหรัฐจะเพิ่มบทบาททางทหารเข้ามาในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็คือการวางกำลังทหารนาวิกโยธินสหรัฐ เรือรบ และเครื่องบินรบไว้ที่ฐานทัพทางตอนเหนือของออสเตรเลียตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะเพิ่มกำลังพลอเมริกันเป็น 2,500 นาย ภายในปี 2016 ขณะที่สหรัฐได้วางกำลังไว้ในเกาหลีใต้ 28,000 นาย และในญี่ปุ่น 50,000 นายอยู่แล้ว

    ฐานทัพที่เมืองดาร์วินอยู่ห่างจากอินโดนีเซียแค่ 820 กม. จึงเท่ากับเป็นการวางกำลังประชิดกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว เช่นนี้แล้วจีนย่อมต้องรู้สึกอึดอัดเพราะจีนได้เข้ามามีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์และทางเศรษฐกิจในแถบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลัง

    ที่สำคัญ กำลังเหล่านี้จะอยู่ใกล้กับทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดีย สหรัฐจึงสามารถส่งกำลังทางทหารเข้ามาได้อย่างรวดเร็วหากต้องการ จีนจึงรู้สึกว่ากำลังถูกสหรัฐโอบล้อมกระหนาบจากหลายทิศทาง

    นักสังเกตการณ์บอกว่า ตั้งแต่เวทีเอเปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การแวะเยือนออสเตรเลีย และการเข้าร่วมประชุมที่บาหลี โอบามาได้พูดจาแข็งกร้าวกับจีนหลายครั้ง ซึ่งดูเป็นเจตนาที่จะหาเสียงกับชาวอเมริกันในประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า

    อย่างเช่นที่ฮาวาย โอบามาได้เรียกร้องให้จีน "เลิกเล่นเกม" โดยพูดจาขึงขังว่า จีนมักบอกว่าตัวเองเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่ที่จริงจีนได้ "เติบโตขึ้น" แล้ว จึงควรประพฤติตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่

    ถึงแม้ถูกรุกเร้าแบบนี้ จีนก็เก็บปากเก็บคำไม่ได้ตอบโต้โฉ่งฉ่าง นักวิเคราะห์บอกว่า ภายในจีนก็กำลังเตรียมจะผลัดเปลี่ยนคณะผู้นำประเทศชุดใหม่ ในช่วงนี้ปักกิ่งจึงไม่อยากเปิดศึกทางการทูต

    ปีหน้าฟ้าใหม่ เราอาจได้เห็นการเดินแต้มคูทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐกับจีน เพื่อถ่วงดุลกันและกันในภูมิภาคแถบนี้.

    บทความจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
    วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

    ที่มา ริงไซด์เวทีโลก จับตา 'ดุลอำนาจเอเชีย-แปซิฟิก' สหรัฐเพิ่มบทบาทในภูมิภาคเบียดจีน | ไทยโพสต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2013
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผู้นำยูเครนประกาศเตือนชาติตะวันตกอย่าแทรกแซงกิจการภายใน

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 20 ธ.ค.-ผู้นำยูเครนประกาศเตือนชาติตะวันตกอย่าแทรกแซงกิจการภายในยูเครน หลังรัสเซียประกาศทุ่มเงินสนับสนุนแก้วิกฤติ หนี้สินยูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์

    ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ระบุในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า รัฐบาลยูเครนอาจจำต้องเข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจกับรัสเซียเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการกอบกู้เศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อย่างหนักแม้จะไม่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมประท้วงการที่ยูเครนหันหลังให้กับสหภาพยุโรปอยู่ที่จัตุรัสอินดิเพนเดนท์ในกรุงเคียฟก็ตาม ผู้นำยูเครนกล่าวอย่างจริงจังว่า ไม่ต้องการให้ชาติใดมาทำตัวเป็นนาย ชี้นิ้วสั่งสอนว่าควรทำอย่างไร ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในอย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนได้เสนอขอความช่วยเหลือทั้งสหภาพยุโรปและรัสเซียเพื่อกอบกู้วิกฤติการเงินของยูเครนซึ่งหาอาจต้องล้มละลายในปีหน้า หากไม่ได้รับความช่วยเหลือซึ่งแนวโน้มที่ปรากฏออกมาชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ รัสเซียพร้อมช่วยเหลือยูเครนแก้วิกฤติการเงินขณะที่สหภาพยุโรปไม่พร้อมที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลให้ยูเครน

    ทางด้านกลุ่มมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมประท้วงในกรุงเคียฟ ต่างยิ่งไม่พอใจต่อท่าทีล่าสุดของผู้นำยูเครนหลังจากรัฐบาลรัสเซียประกาศเมื่อ 2 วันก่อนพร้อมให้เงินกู้ยืมแก่ยูเครนในรูปของการซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูเครนมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์พร้อมกับลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติให้เป็นกรณีพิเศษ ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าวว่า นายยานูโควิชไม่เห็นพวกตนอยู่ในสายตาทั้งที่มวลมหาประชาชนได้ชุมนุมประท้วงนานกว่า 1 เดือนแล้วและว่าการบรรลุข้อตกลงกับรัสเซียจะทำให้ยูเครนตกอยู่ในอิทธิพลของรัสเซียอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันบริเวณหน้ารัฐสภายูเครนก็มีการชุมนุมสนับสนุนนายยานูโควิชและข้อตกลงกับรัสเซียที่จะกอบกู้เศรษฐกิจของชาติไม่ให้ล่มสลาย

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ธ.ค. 2556 06:10 |

    ผู้นำรัสเซียเผยยังไม่ตัดสินใจเรื่องประจำการขีปนาวุธติดชายแดนอียู

    [​IMG]

    มอสโก 19 ธ.ค.-ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เผยว่ารัสเซียยังไม่ตัดสินใจเรื่องประจำการขีปนาวุธอิสกันเดอร์ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ในมณฑลคาลินินกราด ที่มีชายแดนติดกับสมาชิกหลายประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ส่วนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือยูเครน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 480,000 ล้านบาท) ก็ในฐานะที่เป็นประเทศพี่น้องกัน และไม่เกี่ยวกับเรื่องยูเครนเจรจาข้อตกลงกับอียู

    ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประการแรกรัสเซียยังไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น ประการที่สองรัสเซียยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อต้านการรุกรานจากใคร และยั่วยุให้เกิดการตอบโต้ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตุว่า อาวุธของอเมริกันอยู่ในยุโรป แต่ไม่มีใครควบคุม ขณะที่รัสเซียเองก็มีอาวุธอื่นที่จะปกป้องตนเอง ขีปนาวุธอิสกันเดอร์เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง และยังไม่ใช่อาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

    ผู้นำรัสเซียกล่าวเรื่องนี้หลังจากโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า รัสเซียได้ประจำการขีปนาวุธอิสกันเดอร์ในเขตทหารตะวันตก ซึ่งครอบคลุมมณฑลคาลินินกราด บริเวณชายฝั่งทะเลบอลติก เพื่อตอบโต้โครงการขีปนาวุธขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขีปนาวุธนี้มีพิสัยยิงไกล 500 กิโลเมตร สามารถทำลายเรดาร์ภาคพื้นดินและเครื่องบินสกัดกั้นในระบบป้องกันใหม่ของนาโตได้ การประกาศนี้สร้างความวิตกให้แก่สหรัฐและสมาชิกอียูริมทะเลบอลติกอย่างโปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย และลัตเวีย

    ประธานาธิบดีปูติน ยังกล่าวถึงการหารือกับประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ของยูเครน เมื่อวันอังคาร ระบุรัสเซียตัดสินใจซื้อหนี้ของยูเครนที่เป็นพันธบัตรยูโรมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดราคาก๊าซธรรมชาติที่จะส่งให้ยูเครนลง 1 ใน 3 เพื่อช่วยเหลือประเทศพี่น้องที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นอกจากนี้ ยังเป็นการตัดสินใจเชิงปฏิบัติ เพราะยูเครนเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่นำเข้าก๊าซรัสเซียและเป็นหุ้นส่วนสำคัญต่อความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมมาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต

    ผู้นำรัสเซียปฏิเสธด้วยว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการประท้วงใหญ่ในกรุงเคียฟ หรือเรื่องที่รัฐบาลยูเครนไม่ลงนามข้อตกลงกับอียูที่จะนำไปสู่การเป็นสมาชิกอียู และว่าข้อตกลงลดราคาก๊าซเป็นเพียงข้อตกลงชั่วคราว จะต้องหาทางออกระยะยาวเพื่อให้ยูเครนสามารถนำเข้าก๊าซในราคาถูกได้ต่อไป

    สำนักข่าวไทย TNA News |19 ธ.ค. 2556 19:46 |

    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ทางใต้ของปากีสถาน

    [​IMG]

    การาจี 20 ธ.ค.- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของปากีสถานช่วงเช้ามืดวันนี้ ลึกเพียง 5 กิโลเมตร แต่มีแนวโน้มน้อยว่าจะสร้างความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน

    สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.28 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 02.28 น. วันนี้ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเมืองวาราห์ จังหวัดสินธ์ ไปทางตะวันตก 32 กิโลเมตร ประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดความเสียหายไม่มากแม้ว่าศูนย์กลางแผ่นดินไหวตื้นมาก

    ปากีสถานเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ 7.6 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2548 คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 73,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 3.5 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในแคชเมียร์ส่วนที่อยู่ในความควบคุมของปากีสถานและบางส่วนของจังหวัดไคเบอร์ปัคตุนควา

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ธ.ค. 2556 09:06 |

    ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขุนคลังเตือน “สหรัฐฯ” จะหมดปัญญา “จ่ายหนี้” ในเดือนมีนาคม-จี้คองเกรสเพิ่มเพดานก่อหนี้

    [​IMG]
    เจค็อบ ลิว รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่มีเงินพอจ่ายหนี้สินต่างๆ ภายในต้นเดือนมีนาคมปีหน้า หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติให้เพิ่มเพดานก่อหนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เจค็อบ ลิว แถลงเมื่อวานนี้ (19)

    ในจดหมายถึงสภาคองเกรส ลิว เตือนให้บรรดา ส.ส. และ ส.ว. ทั้งหลายเร่งออกกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ได้ผ่านกฎหมายลักษณะนี้มาแล้วเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีผลบังคับไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์เท่านั้น ทั้งนี้เมื่อพ้นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ไป ระดับหนี้สินของสหรัฐฯ ก็จะ “ชนเพดาน” อีกครั้งหนึ่ง

    “หากถึงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ออกมา กระทรวงการคลังจำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษเพื่อให้รัฐบาลมีเงินพอใช้จ่ายต่อไปได้ชั่วคราว” ลิว ระบุในจดหมายซึ่งส่งถึงบรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน

    กระทรวงการคลังประเมินว่า ด้วยมาตรการพิเศษดังกล่าว “จะสามารถขยายความสามารถกู้ยืมของรัฐบาลไปได้จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม ปี 2014” และไม่สามารถยืดเวลาต่อได้อีก เนื่องจากรัฐบาลมีภาระต้องจ่ายคืนภาษีแก่ประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

    ขุนคลังสหรัฐฯ ยังเอ่ยชม ส.ส.รีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรที่ยอมโหวตสนับสนุนข้อตกลงงบประมาณที่รีพับลิกันงัดข้อกับรัฐบาลเดโมแครตมานานถึง 2 ปี โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18) และกำลังถูกส่งไปให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ลงนามเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย

    “จากการโหวตครั้งนี้ สภาคองเกรสได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เรายังมีศักยภาพพอที่จะทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อคลี่คลายวิกฤตการคลังของบ้านเมือง... และด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ผมจึงขอวิงวอนให้สภาคองเกรสใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อปกป้องความศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯไว้อีกครั้ง โดยการขยายเพดานก่อหนี้” ลิว ระบุ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 08:35 น.

    ที่มา www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156049
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พ่อค้าเขมรสั่งผ้าห่มกันหนาวมือสองมาตุนไว้ขายนับแสนผืน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สุรินทร์ - พ่อค้าแม่ค้าเขมรที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง สุรินทร์ สั่งผ้าห่มกันหนาวมือสองมากักตุนไว้ขายเป็นจำนวนมากรวมนับแสนผืน เผยส่วนใหญ่นำเข้าจากเกาหลี ญี่ปุ่น ราคาถูกผืนละ 50-80 บาท

    วันนี้ (20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า บรรยากาศที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเข้าสู่ฤดูหนาว พบว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต่างพากันสั่งซื้อผ้าห่มกันหนาวมือสองเข้ามากักตุนไว้ที่ร้านของตัวเองที่มีอยู่กว่า 30 ร้านกันเป็นจำนวนมากรวมนับแสนผืน เพื่อเตรียมไว้ขายให้นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวไทยผู้มีรายได้น้อย ที่มักเลือกซื้อไปใช้ห่มให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเพื่อคลายหนาว เนื่องจากมีราคาถูกกว่าผ้าห่มใหม่ที่ราคาแพง โดยผ้าห่มกันหนาวมือสองเหล่านี้มีราคาตั้งแต่ผืนละ 50 บาท ไปจนถึง 80 บาท

    นายเมียน เชา พ่อค้าขายผ้าห่มมือสองชาวกัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า หน้าหนาวปีนี้อากาศเย็นกว่าปีที่แล้ว และคาดว่าคงจะหนาวเย็นเป็นเวลานานกว่าทุกปี จึงสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมากักตุนไว้ขายจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะขายดีเพราะมีราคาถูก โดยผ้าห่มดังกล่าวเป็นผ้าห่มมือสองนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่มาจากเกาหลี และญี่ปุ่น

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 17:53 น.

    ที่มา www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156337

    อากาศหนาวจัด กระทบฝูงลิงถ้ำปลากว่า 400 ตัวไม่ยอมลงเขา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เชียงราย - อากาศหนาวจัดกระทบฝูงลิงบนถ้ำปลา แหล่งท่องเที่ยวดังไม่ยอมลงเขา ทำนักท่องเที่ยวอดชม แถมบางตัวตกผาได้รับบาดเจ็บ

    วันนี้ (20 ธ.ค.) สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย รายงานสภาพอากาศจาก ต.บ้านดู่ อ.เมือง ว่าอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 8.7 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ สภาพอากาศช่วงเวลากลางคืนและตามยอดดอยสูงจะลดต่ำลงกว่านี้หลายองศาเซลเซียส

    ข่าวแจ้งว่า ผลพวงของสภาพอากาศที่หนาวเย็น นอกจากกระทบประชาชนทั่วไปแล้ว ยังทำให้ฝูงลิงกว่า 400 ตัวที่อาศัยอยู่ในวัดถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.เชียงราย ซึ่งมีถ้ำต่างๆ อยู่มากมาย ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยช่วงที่อากาศปกติบรรดาฝูงลิงจะออกมากินอาหารที่นักท่องเที่ยวซื้อมาให้ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่เช้า แต่ช่วงที่อากาศหนาวเย็นฝูงลิงลงมาจากเขาน้อยมาก ขณะที่บางตัวก็ต้องนั่งตากแดดคลายหนาวริมสระน้ำ

    ชาวบ้านที่อยู่บริเวณวัด รวมทั้งคนที่ดูแลลิงของวัดต่างระบุว่า เกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ลิงไม่ลงมาจากภูเขา และเลือกที่จะอยู่ตามซอกเขาหินผาเพื่อความอบอุ่นแทน

    นอกจากนี้พบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอากาศหนาวจัด ยังทำให้ลิงบางตัวที่มีอายุมาก พลัดตกหน้าผาบาดเจ็บ บางตัวไม่สบาย ทางวัดจึงต้องแยกมารักษา และเกรงว่าหากอากาศยังหนาวจัดมากขึ้นกว่านี้จะทำให้ลิงอาจเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นอีก

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 15:25 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156213
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของสภาพสิ่งแวดล้อมทั่วโลก !!!

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=H7zt3XRuvUg]Signs Of Change The Past Week Or So December 2013 Pt 1 - YouTube[/ame]
    เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง และปริศนาทั่วโลกของสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์พายุหิมะที่ตกในที่ไม่เคยตกมาก่อน นกตายจากท้องฟ้าไม่ทราบสาเหตุ ปลาตายจำนวนมาก น้ำท่วมในหลายพิ้นที่ อุกาบาตหรือลูกไฟแปลกจากทั่วโลก ถูกรวบรวมไว้ในวิดีโอชุดล่าสุดโดย HawkkeyDavisChannel Signs Of Change The Past Week Or So December 2013 Pt 1

    โพสต์โดยคุณ ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล

    ที่มา https://th-th.facebook.com/pages/ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล/448042111925451
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "โอบามา" ขออย่าเพิ่งคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม

    [​IMG]

    วอชิงตัน 21 ธค. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐเรียกร้องให้สภาชะลอมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับอิหร่านไว้ก่อน เนื่องจากข้อตกลงที่มีในปัจจุบันเป็นโอกาสในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

    ผู้นำสหรัฐแถลงต่อสื่อมวลชนว่า อิหร่านตกลงที่จะทำตามข้อตกลงแล้วและยืนยันว่าเป็นโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า เขาจะสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นในภายหลัง หากพบว่าอิหร่านละเมิดต่อข้อตกลงที่ทำไว้ร่วมกัน แต่เวลานี้ผู้นำสหรัฐขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาอดทนรอและขอใช้กระบวนการทางการทูตให้ได้ผลก่อน ขณะที่อิสราเอลระบุว่า ข้อตกลงปัจจุบันถือว่าผ่อนผันให้อิหร่านมากเกินไป

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ธ.ค. 2556 09:31 |

    เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.3 ริกเตอร์ ทางตะวันออกของญี่ปุ่น

    [​IMG]

    โตเกียว 21 ธ.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นในเช้าวันนี้ สะเทือนอาคารหลายหลังในกรุงโตเกียว แต่ไม่มีแนวโน้มเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

    จุดแผ่นดินไหวที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 67 กิโลเมตร สะเทือนจังหวัดอิบารากิบนเกาะฮอนชู ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงโตเกียวเมื่อเวลาประมาณ 01.10 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวราว 35 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ธ.ค. 2556 09:29 |

    เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 ปี

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 21 ธ.ค.- เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 ปี จับตาสัปดาห์หน้าอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

    บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุภาวะการซื้อขายตลาดเงินระยะสั้นและตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทรงตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์มีการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ และมีการตัดจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือนผ่านระบบธนาคารในช่วงต้นสัปดาห์ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) มีระดับหนาแน่นที่ 2.15% ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน อยู่ที่ 2.25% ทรงตัวเช่นกันจากสัปดาห์ก่อน

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค. 56 ธนาคารพาณิชย์จะมีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ นอกจากนี้ คงจะมีการเตรียมสภาพคล่องต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้เงินของลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทยคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 2.25% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยและสหรัฐ

    อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาท ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ที่ระดับ 32.645 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียที่เผชิญแรงเทขาย หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเกือบเป็นเอกฉันท์ให้มีการเริ่มลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (มาตรการ QE) ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มาที่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยให้มีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย นอกจากนี้ ความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ ก็ยังคงเป็นปัจจัยลบของเงินบาทด้วยเช่นกัน

    สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (23-27 ธ.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ และการปรับโพสิชั่นของตลาดในช่วงสิ้นปี ท่ามกลางกระแสการเตรียมชะลอมาตรการ QE ของเฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคลเดือน พ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนในประเทศอาจจับตารายงานตัวเลขการส่งออก และข้อมูลเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย. ด้วยเช่นกัน อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐ จะปิดทำการในช่วงกลางสัปดาห์เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ธ.ค. 2556 09:57 |

    ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2013
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จีนพบผู้ป่วยหวัดนกรายที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หวั่น “เซินเจิ้น” แหล่งแพร่เชื้อระบาดหนัก

    [​IMG]
    ไก่ที่ถูกวางขายอยู่ในตลาดสดเขตหลงกั่ง นครเซินเจิ้น มณฑลก่วงตงของจีน (ภาพ - เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์)​

    เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นในจีนเผยพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช7เอ็น9 (H7N9) รายล่าสุด พร้อมระบุผู้ป่วย 3 รายก่อนหน้านี้ต่างมีประวัติคลุกคลีพื้นที่เขตหลงกั่ง นครเซินเจิ้น มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของประเทศ หวั่นสถานการณ์ระบาดหนักแม้ทางการสั่งปิดตลาดสดสองแห่งที่พบเชื้อ H7N9 แล้วก็ตาม

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อนครเซินเจิ้น รายงานว่า ชายท้องถิ่นวัย 38 ปีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช7เอ็น9 (H7N9) เป็นรายล่าสุดกำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส โดยเขาเป็นคนงานต่างถิ่นซึ่งพักอาศัยและทำงานอยู่ที่ถนนหนันวัน เขตหลงกั่ง ใกล้กับตลาดสดแห่งหนึ่งที่ได้รับการยืนยัน (11 ธ.ค.) ว่าพบเชื้อเอช7เอ็น9 ซ่อนตัวอยู่

    ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อฯ คนดังกล่าวเข้าด้พบแพทย์ที่คลินิกท้องถิ่นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. หลังจากมีอาการไข้หวัด จากนั้นถูกส่งตัวเข้าสถานพยาบาลในวันที่ 12 ธ.ค. และถูกย้ายไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในวันถัดมาด้วยภาวะปอดบวมขั้นรุนแรง

    ส่วนผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้เป็นชายชาวเมืองตงกวน วัย 39 ปี ขณะที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นคนงานหญิงชาวอินโดนีเซียที่มีประวัติข้ามไปซื้อเป็ดไก่เป็นๆ จากตลาดบนถนนหนันวันเช่นเดียวกันก่อนจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย

    อนึ่ง ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการยืนยันการติดเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9 ในพื้นที่ของมณฑลก่วงตงภายในระยะเวลา 5 วัน โดยทางการมณฑลเผยยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อฯ รวม 6 ราย นับตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ 2 รายในเมืองตงกวน 2 รายในเมืองหยังเจียง 1 รายในเมืองฮุ้ยโจว และรายล่าสุดที่มีการรายงานวานนี้ (19 ธ.ค.)

    เฉิง จินฉวน หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของเซินเจิ้น กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อจากเมืองตงกวนและฮ่องกงต่างมีประวัติการเดินทางมายังเขตหลงกั่ง ก่อนที่จะปรากฏอาการเจ็บป่วยขึ้นมา โดยรายแรกเป็นชายชาวตงกวนวัย 39 ปี เดินทางไปทำงานในย่านกันหลันของเขตหลงกั่ง ส่วนรายที่สองเป็นคนงานหญิงอินโดนีเซียที่ทำงานอยู่ในฮ่องกงเดินทางข้ามมาซื้อเป็ดไก่ในตลาดสดของเมืองเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.

    “อย่างไรก็ดีตอนนี้ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าพวกเขารับเชื้อไวรัสในเมืองเซินเจิ้น เนื่องจากผู้ป่วยทั้งสองรายยังอยู่ในอาการโคม่า ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้” หัวหน้าเฉิงกล่าว

    ขณะเดียวกันโรงพยาบาลหลายแห่งบนเกาะฮ่องกงพากันยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนก โดยดร.เหลียง ไป่เสียน หัวหน้าระดับสูงของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในฮ่องกง กล่าววานนี้ (19 ธ.ค.) ว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดบวมและไข้ขึ้นสูงต้องได้รับการตรวจเช็คเชื้อไวรัสไข้หวัดนกทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกหรือเดินทางในพื้นที่เสี่ยงก็ตาม

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 14:19 น.

    ที่มา www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156198

    กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านบังกลาเทศปิดถนน-ทางรถไฟประท้วงเลือกตั้ง

    [​IMG]

    ธากา 26 พ.ย.-กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้ปิดกั้นถนนและทางรถไฟหลายสายในบังกลาเทศวันนี้ หลังจากรัฐบาลบังกลาเทศปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ชะลอการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้าออกไป

    พรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (บีเอ็นพี) และพันธมิตรอิสลามได้เรียกร้องให้มีการปิดถนนและทางรถไฟครั้งใหม่เป็นเวลา 48 ชั่วโมง หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่าจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 5 มกราคมปีหน้า โดยไม่สนใจคำขู่คว่ำบาตรของพันธมิตรฝ่ายค้าน 18 พรรค ทั้งนี้ฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปทันที พร้อมระบุว่าจะไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งใดๆ หากนายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินา ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำบังกลาเทศ โดยฝ่ายค้านต้องการให้นายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินา ลาออกจากตำแหน่งและเปิดทางให้มีการจัดการเลือกตั้งภายใต้การบริหารของรัฐบาลชั่วคราวที่เป็นกลาง

    ตำรวจรายงานว่า หลังจากการปิดกั้นถนนและทางรถไฟเริ่มขึ้นในวันนี้ เกิดเหตุรถไฟตกรางในเมืองห่างจากกรุงธากาไปทางเหนือราว 100 กิโลเมตร โดยตำรวจสงสัยว่ากลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้ถอดไม้หมอนออกจากรางรถไฟ อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้การขนส่งทางรถไฟระหว่างกรุงธากากับเมืองไมมันสิงห์หยุดชะงัก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

    ตำรวจยังระบุว่า ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างกรุงธากากับเมืองจิตตะกองซึ่งเป็นเมืองท่าของบังกลาเทศก็ไม่สามารถให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มสนับสนุนฝ่ายค้านได้ถอดไม้หมอนออกจากรางรถไฟและพยายามจุดไฟเผาสะพานทางรถไฟใกล้กับเมืองอิมัมบารีทางตะวันออกของบังกลาเทศ ขณะนี้ตำรวจพยายามซ่อมแซมให้ทางรถไฟสายดังกล่าวกลับมาให้บริการได้โดยเร็วที่สุด

    โฆษกตำรวจระบุว่า ขณะเดียวกันมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในกรุงธากา โดยตำรวจและหน่วยพิทักษ์พรมแดนกึ่งทหารได้กระจายกำลังรักษาการในพื้นที่ ทั้งนี้รถโดยสารระหว่างพื้นที่ได้ระงับการให้บริการ ทำให้ผู้โดยสารหลายพันคนไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้

    สำนักข่าวไทย TNA News | 26 พ.ย. 2556 14:32 |

    ที่มา www.mcot.net/site

    บังกลาเทศส่งทหารครึ่งแสนดูแลศึกเลือกตั้ง หลังประท้วงรุนแรงตายแล้วนับร้อย

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ทางการบังกลาเทศเผยเมื่อวันศุกร์ (20) ว่า ในสัปดาห์หน้าจะส่งกำลังทหารหลายหมื่นนายเข้าระงับเหตุความรุนแรง ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 มกราคม ท่ามกลางเหตุประท้วงต่อต้านรุนแรง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วนับร้อยศพ

    คณะกรรมการการเลือกตั้งของบังกลาเทศ บอกว่า แม้กองกำลังด้านความมั่นคงได้กระจายกำลังไปตามจุดที่มีปัญหาหลักๆ อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็จะมีการเสริมกำลังทหารเข้าไปอีกทั่วประเทศ และจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นไป

    “เจ้าหน้าที่ทหารจะถูกส่งเข้าประจำการทั่วประเทศระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม ถึงวันที่ 9 มกราคม” คาซี ราคีบุดดิน อาห์หมัด ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งบอกกับผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เจาะจงถึงจำนวนทหารที่ถูกส่งเข้าประจำการ แต่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าน่าจะมากถึงราวๆ 50,000 นาย

    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศแห่งนี้ หลังจากพรรคฝ่ายค้าน และพรรคพันธมิตรประกาศคว่ำบาตรศึกเลือกตั้งทั่วไป แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งตามกำหนด

    บังกลาเทศ เนชันแนลลิสต์ ปาร์ตี (บีเอ็นพี) และพันธมิตร ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้ง หลังจากนายกรัฐมนตรีซีค ฮาซีนา ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลรักษาการที่มีความเป็นกลางเข้ามาดูแลการเลือกตั้ง ด้วยพรรคบีเอ็นพี เชื่อว่าเลือกตั้งที่ดูแลโดยรัฐบาลของนางฮาซินา จะมีการโกงอย่างกว้างขวาง

    ศึกเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดำเนินการโดยรัฐบาลรักษาการที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อให้มีความเป็นอิสระ และยุติธรรม แต่รัฐบาลของนางฮาซินา ยกเลิกขั้นตอนดังกล่าวในปี 2011 โดยอ้างว่า มันไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และอาจเปิดทางสำหรับรัฐประหาร

    นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม พันธมิตรฝ่ายค้านจัดชุมนุมมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในความพยายามโค่นล้มนางฮาซินา และกดดันให้เธอยอมรับข้อเรียกร้อง ในนั้นมีทั้งการนัดหยุดงาน ขวางกั้นท้องถนนทั่วประเทศ ปิดสำนักงาน และโรงเรียน ก่อความโกลาหลด้านการสัญจรระหว่างเมือง ปาระเบิดใส่รถบัส และทำรถไฟตกราง ท่ามกลางเหตุรุนแรงรายวัน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    พรรคสันนิบาตอวามี (Awami League) ของนางฮาซินา ปิดประตูสำหรับการประนีประนอมใดๆ กับพรรคบีเอ็นพีแล้ว ตามหลังการเจรจาระหว่าง 2 พรรคที่มีสหประชาชนเป็นคนกลาง 3 รอบเมื่อสัปดาหห์ที่แล้ว ลงเอยโดยไม่ได้ข้อเห็นพ้องใดๆ ฉุดประเทศเข้าสู่วิกฤตครั้งเลวร้ายสุดในรอบหลายทศวรรษ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 22:29 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156398
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2013
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ฝ่ายค้านกัมพูชาชุมนุมใหญ่ไล่นายกฯ อีกในวันนี้

    [​IMG]

    พนมเปญ 22 ธ.ค.-ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านกัมพูชาชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันนี้ โดยประกาศจะประท้วงจนกว่านายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะลาออกหรือจัดการเลือกตั้งใหม่

    พรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ประกาศจะจัดการชุมนุมทุกวันจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง และอ้างว่าวันนี้มีผู้ชุมนุมมากถึง 500,000 คน ออกมาเคลื่อนขบวนตามถนนสายต่างๆ ทั่วกรุงพนมเปญ

    ด้านพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านเรื่องโกงเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกรกฎาคม และไม่เปิดการสอบสวนข้อกล่าวหาตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง แต่ได้เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลและเปิดการประชุมสภาท่ามกลางเสียงประท้วง.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 22 ธ.ค. 2556 18:58 |

    มณฑลกวางตุ้งของจีนเผยมีความเสี่ยงต่ำที่หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 จะระบาด

    [​IMG]

    กวางตุ้ง 22 ธ.ค.-ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เผยว่ามีความเสี่ยงต่ำที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 จะระบาดในมณฑลนี้ เพราะทางการสามารถควบคุมไข้หวัดนกในคนที่พบอย่างประปรายได้แล้ว

    ทางการมณฑลกวางตุ้งเริ่มโครงการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสเอช 7 เอ็น 9 ในคนตั้งแต่วันที่ 16 ธนวาคม หลังจากมีผลตรวจยืนยันว่า นับจนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยแล้ว 6 คน ใน 4 พื้นที่ ผู้ป่วย 2 รายแรกออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังได้รับการรักษา ส่วนอีก 4 รายหลังยังอาการหนัก

    อย่างไรก็ดี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคมณฑลกวางตุ้งแถลงวันนี้ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และมีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดการระบาดในพื้นที่ที่พบผู้ป่วย เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่พบยีนดื้อยา แสดงว่าการรักษาได้ผล นอกจากนี้ ทางการยังได้กำหนดให้โรงพยาบาล 130 โรงเป็นจุดรักษา และแจกจ่ายยาเพิ่มอีกกว่า 50,000 กล่อง.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 22 ธ.ค. 2556 18:20 |

    พายุกระหน่ำภาคใต้สหรัฐ เสียชีวิต 2 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้หลายหมื่น

    [​IMG]

    มอนโร 22 ธ.ค.-พายุพัดกระหน่ำภาคกลางและภาคใต้ของสหรัฐ ก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดและลมกระโชกแรง ส่งผลให้หลังคาบ้านปลิวว่อน และทำให้ต้นไม้ล้มพาดสายไฟฟ้า

    เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน เมื่อวานนี้ โดยชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากบ้านเคลื่อนที่ของเขาพลิกคว่ำทางเหนือของรัฐมิสซิสซิปปี ขณะที่ชายอีกคนเสียชีวิตเพราะรถของเขาชนกับต้นไม้ซึ่งล้มขวางถนนทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐมิสซิสซิปปี ผู้หญิงที่อยู่ในรถคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส

    ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันหลายหมื่นคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุต่างไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนที่รัฐอาร์คันซอมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน และมีบ้านเรือนสิบกว่าหลังเสียหายเพราะพายุทอร์นาโดพัดถล่ม 2 ลูก.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 22 ธ.ค. 2556 14:37 |

    อุณหภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอุ่นทุบสถิติ

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 22 ธ.ค.- สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เปิดเผยว่า อุณหภูมิในมหานครนิวยอร์ก เมืองฟิลาเดลเฟีย และเมืองแอตแลนติกซิตี้ อุ่นทุบสถิติใหม่ ระหว่างที่เกิดปรากฎการณ์คลื่นความร้อนเป็นช่วงสั้นๆ ในเดือนธันวาคม

    อุณหภูมิวัดได้ที่สวนสาธารณะเซ็นทรัล ปาร์ค ในนิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำสถิติที่ 18.3 องศาเซลเซียส ลบสถิติเดิมที่ 16.7 องศาเซลเซียสในปี 2554 และปี 2466 ส่วนที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเนซิลเวเนียและเมืองแอตแลนติก ซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซีย์ วัดอุณหภูมิได้ถึง 19.5 องศาเซลเซียส ลบสถิติเดิมของเมืองฟิลาเดลเฟียที่ 18.9 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2438 และสถิติเดิมของเมืองแอตแลนติกซิตี้ที่ 17.2 องศาเซลเซียส เมื่อปี 2554

    เอ็นดับเบิลยูเอสพยากรณ์ว่า อุณหภูมิในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มจะสูงขึ้นในวันอาทิตย์นี้ โดยอาจจะแตะระดับ 21.1 องศาเซลเซียส

    สำนักข่าวไทย TNA News | 22 ธ.ค. 2556 12:48 |

    ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    HAARP เป็นโครงการสร้างและควบคุมสภาพภูมิอากาศ !!!

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=L91PMigwuMM]haarp พากย์ไทย 1/4 - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=io4KZjyoUTY]haarp พากย์ไทย 2/4 - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=tmCY__6Nb4k]haarp พากย์ไทย 3/4 - YouTube[/ame]
    อัปโหลดเมื่อ 23 ส.ค. 2011​

    HAARP เป็นโครงการสร้างและควบคุมสภาพภูมิอากาศ ควบคุมกระแสลมกรด ซึ่งเป็นกุญแจของธรรมชาติที่จะนำพากลุ่มเม­ฆ น้ำฝน ความร้อน ความแห้งแล้ง และความหนาวเย็น และสร้างคลื่นความถี่ ทำให้เกิดเเผ่นดินไหวรอบโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    dazedx chantrarat

    "มะกันขอใช้อู่ตะเภา" ขอให้คนไทยทั้งประเทศได้ตระหนัก ช่วยกันพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบก่อนที่จะถลัมลึก...เพราะพวกเรายังไม่เข้าใจเรื่อง HAARP Project ของ USA NASA (High Frequency Active Auroral Research Program) ใช้คลื่นฯความถี่สูงควบคุมภูมิบรรยากาศได้ ตลอดจนเมฆ ฝนตก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ซึนามิ ภูเขาไฟ ใช่หรือไม่ มีหลักประกันอะไรที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่า เป็นการควบคุมภัยธรรมชาติ หรือเป็นการ-สร้าง..ภัยธรรมชาติ ให้เกิดขึ้นตามใบสั่งของการเมืองระดับโลก ขณะนี้ได้มีการเกิดสภาพการก่อตัวของเมฆฝน ฟ้าแลบชนิดแปลกประหลาดที่มนุษย์อย่างเราๆไม่เคยเห็นมาก่อน มีภาพถ่ายจากประเทศต่างๆที่มีปรากฏอยู่ใน Social Network หลายแห่ง

    ไลออน วีรพงศ์ ศศิวิมลพันธุ์

    มนุษย์จะฆ่ากันเอง พลังธรรมชาติ หากควบคุมได้ มันก็คือ อาวุธทำลายล้างที่จับไม่ได้ว่าใครสร้างมันขึ้นมา

    nongfahsai24

    ทฤษฏีสมคบคิด จริงๆคิดเล่นๆมานานละนะ เริ่มตั้งแต่ แผ่นดินไหวใหญ่ที่จีน > เฮอริเคนที่พม่า > และก็การทำลายเตาปฎิกรณ์ของญี่ปุ่น เป็นเหตุเป็นผลทั้งนั้น ถ้าลำดับเหตุการณ์ดูและก็เทียบกับเหตุการณ์ของประเทศนั้นในตอนนั้น

    Naamz Applicationz
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สหรัฐเริ่มต้นฤดูหนาวด้วยอากาศหนาวทางตอนเหนือ-น้ำท่วมทางตอนใต้

    [​IMG]

    คอนคอร์ด 23 ธ.ค.- สหรัฐเริ่มต้นฤดูหนาวเมื่อวันอาทิตย์ด้วยสภาพอากาศที่แตกต่างกัน รัฐในเขตนิวอิงแลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือและเขตมิดเวสต์เผชิญกับอากาศหนาวเย็น หิมะตกจนเป็นน้ำแข็งและลมแรง ขณะที่รัฐทางตอนใต้ประสบกับอุทกภัย ส่วนรัฐทางตอนกลางมหาสมุทรแอตแลนติกมีอากาศอุ่นทำสถิติสูงสุด

    หิมะและน้ำแข็งทำให้บ้านเรือนและธุรกิจในรัฐมิชิแกน นิวยอร์ก และนิวอิงแลนด์ไม่มีไฟฟ้าใช้มากถึง 400,000 แห่ง ถนนหนทางลื่นและเป็นอันตรายต่อการขับขี่ คาดว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันจันทร์เป็นอย่างน้อย ขณะที่รัฐทางตอนกลางมหาสมุทรแอตแลนติกอากาศอุ่นทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สอง ติดต่อกัน สวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์กในนครนิวยอร์กอุณหภูมิแตะ 21 องศาเซลเซียส ลบสถิติเดิม 17 องศาเซลเซียสเมื่อปี 2541 คาดว่าอุณหภูมิจะลดลงกลับเข้าสู่ปกติภายในคืนวันจันทร์หรือเช้าวันอังคาร

    ส่วนรัฐทางใต้อย่างอาร์คันซอ เกิดทอร์นาโดความเร็วลมถึง 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคร่าชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน รัฐทางตอนกลางค่อนไปทางใต้อย่างเคนทักกีเกิดอุทกภัย กระแสน้ำซัดรถตกน้ำเสียชีวิต 4 คน สภาพอากาศที่แปรปรวนทั่วสหรัฐทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินแล้วกว่า 500 เที่ยว ล่าช้า 3,800 เที่ยว.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 23 ธ.ค. 2556 09:54 |

    ภาคตะวันออกของแคนาดาเผชิญพายุและอากาศหนาว

    [​IMG]

    โทรอนโต 23 ธ.ค.-หลายรัฐทางตะวันออกของแคนาดาเผชิญสภาพอากาศรุนแรงทั้งพายุและอากาศหนาวเย็น ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่มีไฟฟ้าใช้ ตกค้างตามท่าอากาศยานและเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

    นายกรัฐมนตรีสตีเฟน ฮาร์เปอร์ของแคนาดา ทวีตแสดงความเห็นใจประชาชนกว่า 400,000 คนในรัฐออนแทรีโอ รัฐควิเบกและรัฐนิวบรันสวิกที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพราะพายุหิมะทำให้กิ่งก้านต้นไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งล้มพาดสายไฟฟ้า และขอให้ทุกคนปลอดภัย

    ด้านทางการนครโทรอนโต รัฐออนแทรีโอ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศได้ตั้งศูนย์ให้ความอุ่น งดบริการเดินรถรางและรถไฟฟ้าใต้ดินบางสถานี นายกเทศมนตรีนครโทรอนโตระบุว่า เป็นพายุรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในเมืองนี้ การเดินทางทั้งทางอากาศและทางบกล้วนได้รับผลกระทบ ผู้โดยสารตกค้างตามท่าอากาศยานจากนครโทรอนโตไปยังเมืองเซนต์จอห์นในรัฐนิวฟันด์แลนด์ บริการเดินรถไฟระหว่างนครโทรอนโตกับเมืองมอนทรีออล และนครโทรอนโตกับกรุงออตตาวาล่าช้า ส่วนท้องถนนหลายสายเกิดอุบัติเหตุรถชนกันและผู้คนลื่นล้ม

    สำนักข่าวไทย TNA News | 23 ธ.ค. 2556 09:42 |

    รัฐมนตรีอิสราเอลร้องสหรัฐยุติสอดแนมอิสราเอล

    [​IMG]

    เยรูซาเลม 22 ธ.ค.- รัฐมนตรีอิสราเอลออกโรงเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสอดแนมอิสราเอล หลังมีการเปิดเผยว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นเอสเอ) ดักตรวจจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์) ของสำนักงานอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล

    นายอิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีคมนาคมของอิสราเอล กล่าวว่า เขาจะกดดันให้รัฐบาลเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสอดแนมอิสราเอล ขณะที่นายยูริ แอเรียล รัฐมนตรีการเคหะกล่าวผ่านสถานีวิทยุอิสราเอลว่า เขาหวังว่าสหรัฐจะยอมรับว่าได้กระทำผิดจริง รัฐมนตรีทั้ง 2 คนยังได้ร่วมกันเรียกร้องให้สหรัฐปล่อยตัวสายลับที่ถูกสหรัฐคุมขัง เนื่องจากส่งข้อมูลความลับทางราชการให้กับอิสราเอล

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ตีพิมพ์เอกสารลับจากนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างชั่วคราวของเอ็นเอสเอว่า จีซีเอสคิว ซึ่งเป็นหน่วยงานสืบราชการลับอังกฤษได้ร่วมกับเอ็นเอสเอดักตรวจอีเมล์ของสำนักงานของอดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 22 ธ.ค. 2556 16:38 |

    ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    มลพิษหมอกแพร่ขยายท่วมมิดประเทศจีน ฟ้าสีเทอร์ควอยซ์ในทิเบต ยังกลายเป็นสีฝุ่น

    [​IMG]
    ภาพลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติทิเบต ในสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยฝุ่น (ภาพ เอเจนซี)​

    เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์—วิกฤตหมอกมลพิษ (smog) ของจีน ทวีความรุนแรง โดยได้แพร่ขยายจากเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่งโจว เป็นต้น สู่เมืองต่างๆแถบตอนใน ภาคตะวันตก และภาคเหนือ ของประเทศ

    หลายๆเมืองในภาคตะวันตก รวมทั้งเมืองแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของโลก ได้แก่ นครซีอัน และลาซา ก็โดนหมอกมลพิษครองเมืองในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้เมืองชายฝั่งตะวันออกในมณฑลซันตง ก็เต็มไปด้วยหมอก ดัชนีมลพิษพุ่งกระฉูดทะลุตารางดัชนี

    “นี่คือ สัญญาณเตือนภัย สะท้อนถึงรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน ขณะนี้เมืองต่างๆทั่วประเทศกำลังจ่ายราคาเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม” หลี่ ปั๋ว ที่ปรึกษาอาวุโส แห่ง Friends of Nature องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในจีน กล่าว

    นครลาซา ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,700 เมตร ผจญกับพายุทรายอย่างหนักในวันพฤหัสฯและศุกร์(19-20 ธ.ค.) ทัศนะวิสัยการมองเห็นไม่ถึง 5 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่สนามบนกอนกา (Gonga)

    สำนักข่าวซินหวารายงาน กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าพายุทรายยังคงป่วนไปถึงสุดสัปดาห์นี้ ดัชนีคุณภาพอากาศเลวร้าย โดยฝุ่นขนาดใหญ่ หรือ PM10 ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 10 ไมครอน เข้มข้นมาก

    พระราชวังโปตะลา และยอดภูเขาหมวกหิมะ เลือนหายไปในม่านฝุ่น กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างตกใจ ที่เมืองที่ขึ้นชื่อด้านอากาศบริสุทธิ์ และฟ้าสีเทอร์ควอยซ์ ก็ยังไม่พ้นวิกฤตหมอกมลพิษ

    “แม้แต่นครลาซา เมืองศักดิ์สิทธิ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองฟ้าสีใสสด ก็เต็มไปด้วยฝุ่นพิษเสียแล้ว เราได้สูญเสีย “แผ่นดินบริสุทธิ์” แห่งสุดท้ายไปแล้ว” ชาวเน็ต โพสต์ใน ไมโครบล็อก “เวยปั๋ว” ที่คล้ายทวิตเตอร์

    นักรณรงค์สิ่งแวดล้อมบางกลุ่ม ชี้ว่าการขยายกิจกรรมขุดเหมืองบริเวณภูเขากอนกา (Gonga) น่าจะเป็นตัวการโหมกระพือพายุทราย การระเบิดเหมืองทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ Gabriel Lafitte นักวิจัยชาวออสเตรีย กล่าว

    นอกจากนี้ เมืองที่เผชิญวิกฤตมลพิษอย่างเลวร้ายที่สุดในสุดสัปดาห์นี้ ได้แก่ ซีอัน และ เป่าจีในมณฑลส่านซี, เหลียวเฉิง เต๋อโจว และจี่หนิง ในมณฑลซันตง

    ปัญหาหมอกมลพิษในแผ่นดินดูจะแรงมากขึ้นจากระดับแย่สู่ระดับเลวร้ายที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ และยิ่งลุกลามไปยังพื้นที่ต่างๆจากกรุงปักกิ่ง สู่มณฑลภายใน และภาคตะวันตก ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของโลก

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2556 15:36 น.

    ที่มา www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156837

    ซาอุฯประกาศจับมือชาติอาหรับตั้งกองกำลังความมั่นคงร่วม 100,000 นาย ปกป้องตะวันออกกลาง เลิกง้อมะกัน

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-ซาอุดีอาระเบียประกาศจัดตั้งกองกำลังร่วมระหว่างกลุ่มชาติอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซียซึ่งจะมีกำลังพลประจำการกว่า 100,000 นาย ถือเป็นความพยายามล่าสุดของซาอุดีอาระเบีย ในการปลดแอกตนเองทางด้านความมั่นคงจากร่มเงาของสหรัฐฯ และเป็นการส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า รอยร้าวทางการทูตระหว่างรัฐบาลริยาดห์และวอชิงตัน “ลึกเกินเยียวยา”

    เจ้าชายไมเทบ บิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศของซาอุดีอาระเบีย แถลงที่กรุงริยาดห์ในวันอาทิตย์ (22) โดยระบุว่า ซาอุดีอาระเบียประกาศจับมือกับชาติเพื่อนบ้านอาหรับผู้มั่งคั่งแถบอ่าวเปอร์เซีย ที่ประกอบด้วยคูเวต กาตาร์ บาห์เรน โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพื่อจัดตั้งกองบัญชาการทางทหารร่วมกัน สำหรับดูแลความมั่นคงในภูมิภาค โดยจะมีกำลังพลราว 100,000 นายประจำการภายใต้กองบัญชาการดังกล่าว

    “ถึงเวลาแล้วที่พวกเรา บรรดาชาติอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซีย จะต้องลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อแสดงพลังปกป้องภูมิภาคของเราเอง แทนการคอยแต่หวังพึ่งมหาอำนาจที่ไม่จริงใจกับเรา” เจ้าชายไมเทบ บิน อับดุลลาห์กล่าว พร้อมย้ำว่า กองกำลังร่วมดังกล่าวของทั้ง 6 ชาติจะเริมเป็นรูปเป็นร่างในเร็วๆนี้

    ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มชาติอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซียถือเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า กองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯซึ่งมีฐานอยู่ในบาห์เรนและมีกำลังพลราว 30,000 นายจะเป็นผู้ดูแลความมั่นคงให้กับทั้ง 6 ประเทศนับตั้งแต่ปี 1982 เป็นต้นมา

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนมีขึ้นหลังจากที่ทางการซาอุฯแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่พอใจรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่หันไปผูกไมตรีกับอิหร่าน ศัตรูตัวฉกาจของซาอุฯ อีกทั้งยังล้มเหลวในการขุดรากถอนโคนระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย โดยซาอุดีอาระเบียมองว่าระบอบการปกครองทั้งในอิหร่านและซีเรียซึ่งเป็นพวกมุสลิมชีอะห์นั้น เป็นภัยคุกคามกับ 6 ชาติอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซียที่เป็นพวกมุสลิมซุนนี

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ธันวาคม 2556 00:06 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156972

    เอเชียร้อนระอุ! หลังญี่ปุ่นปรับ “ยุทธศาสตร์ใหม่” เสริมเขี้ยวเล็บกลาโหม

    [​IMG]

    การตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่อนุมัติในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ต่อแผนยุทธศาสตร์ใหม่ทางด้านการทหารรวม 2 ฉบับ ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลแดนปลาดิบสามารถใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหม เพิ่มขึ้นอีก 5เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วเอเชีย โดยเฉพาะต่อประเด็นด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่กำลังร้อนระอุ

    แผนยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการทหารทั้ง 2 ฉบับล่าสุดของญี่ปุ่นซึ่งครอบคลุมถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์สุดล้ำอย่าง “โดรน” หรืออากาศยานรบแบบไร้นักบินเป็นครั้งแรกถูกมองจากนักวิเคราะห์ทั่วเอเชียในทันทีว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลโตเกียวภายใต้การนำของ “ชินโซ อาเบะ”นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยว ในการเสริมสร้างบทบาทของแดนปลาดิบในการรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ ในยุคที่สาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังเร่งแผ่ขยายอิทธิพลของตนอย่างเต็มที่ ขณะที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือก็กำลังมีพฤติกรรมที่คาดเดาได้ยากยิ่ง หลังผู้นำสูงสุด คิม จอง อึน “สวมบทโหด” กระชับอำนาจของตน ด้วยการจับผู้อาวุโสที่ทรงอำนาจหลายคนในกรุงเปียงยาง ที่รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของตัวเองไปประหารชีวิต

    ขณะเดียวกัน ยุทธศาสตร์ใหม่ของญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 2014-2019 นี้ ยังกำหนดให้มีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายทางด้านการทหารที่สำคัญสูงสุดของญี่ปุ่น โยกจากทางด้านเหนือของประเทศซึ่งอยู่ประชิดกับรัสเซีย มาเป็นพื้นที่ด้านตะวันตกและด้านใต้ของประเทศ ซึ่งครอบคลุมบรรดาหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ทางรัฐบาลโตเกียวและปักกิ่งกำลังมีข้อพิพาทแย่งชิงอธิปไตยเหนือหมู่เกาะต่างๆ อยู่

    นอกจากยุทธศาสตร์ด้านการทหารใหม่นี้ จะสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลจากการผลักดันของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ที่ต้องการเพิ่มบทบาททางการทหารของญี่ปุ่นในเวทีโลกแล้ว บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากหลายสำนักต่างลงความเห็นว่า ยุทธศาสตร์และแผนกลาโหมใหม่ของญี่ปุ่นดูจะมีความสอดคล้องกับดุลอำนาจของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปรไปตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

    แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า บรรดาชาติเพื่อนบ้านของญี่ปุ่น โดยเฉพาะจีน เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ รวมถึง ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยยังคงมีความหวั่นวิตกว่า ยุทธศาสตร์ใหม่ที่รัฐบาลอาเบะผลักดันจนสุดตัวนี้ อาจทำให้ญี่ปุ่นต้องยอมละทิ้งจุดยืนดั้งเดิมของตัวเองในการจำกัดบทบาทกองทัพแดนปลาดิบ ที่มีสถานะเป็นเพียงกองกำลังป้องกันตนเอง (Japan Self-Defense Forces : JSDF) ตามรัฐธรรมนูญที่ถูกเขียนขึ้นภายหลังจากที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายปราชัยในมหาสงครามโลกครั้งที่ 2

    ด้านนายกรัฐมนตรีอาเบะ ในวัย 59 ปี ซึ่งกลับเข้ามาครองอำนาจเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังเคยครองอำนาจมาแล้วระหว่างปี 2006-2007 ยืนยันว่า ยุทธศาสตร์ใหม่ดังกล่าว จะทำให้กองทัพญี่ปุ่นมีขีดความสามารถที่สูงขึ้นในการแบกรับความรับผิดชอบต่างๆ ในเวทีโลก โดยอาเบะกล่าวถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นโดยใช้คำว่า “ลัทธิสันตินิยมเชิงรุก” ซึ่งเป็นการนำเอาหลักการสันติ มาผูกเข้ากับ การดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแบบเชิงรุก ที่ทำเอาหลายฝ่ายถึงกับงุนงงว่า มันจะดำเนินไปด้วยกันได้อย่างไร?

    ในอีกด้านหนึ่ง ยุทธศาสตร์ใหม่ของญี่ปุ่นยังหมายรวมถึงการจัดตั้งหน่วยงาน “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ในรูปแบบที่แทบจะเรียกได้ว่า “ถอดแบบเป๊ะ” มาจากองค์กร National Security Agency (NSA) ของสหรัฐฯ ที่จะมีการรวมศูนย์แห่งอำนาจในการตัดสินใจทางด้านความมั่นคงและการทหาร เอาไว้ในมือของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในโตเกียวเพียงไม่กี่ชีวิต

    รายงานข่าวระบุว่า ในช่วง 5 ปีตั้งแต่ ค.ศ.2014 จนถึงปี ค.ศ. 2019 ทางรัฐบาลโตเกียวมีแผนทุ่มงบประมาณมหาศาลในวงเงินไม่ต่ำกว่า 247,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8 ล้านล้านบาท) สำหรับจัดซื้อ “โกลบอล ฮอว์ค” หรือ โดรนสำหรับตรวจการณ์ 3 ลำ , เครื่องบินขับไล่ล่องหน สเตลธ์ เอฟ-35 เอ รวม 28 ลำ , เครื่องบินรบ “ออสเปรย์” ซึ่งสามารถบินขึ้น-ลงในทางดิ่งจำนวน 17 ลำ, ระบบสกัดกั้นขีปนาวุธเอจิส อันเกรียงไกรอีก 2 ชุด ไม่รวมถึงเรือดำน้ำ เรือพิฆาต และพาหนะสงครามสะเทินน้ำสะเทินบก อีกเป็นจำนวนมาก

    ทั้งนี้ ตัวเลขงบประมาณทางทหารของญี่ปุ่นที่คิดเป็นเงินไทยราว “8 ล้านล้านบาท” ดังกล่าว ถือเป็นตัวเลขที่ปรับสูงขึ้นราว 5 เปอร์เซ็นต์จากแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีฉบับเดิมที่กำลังจะหมดอายุในสิ้นปี 2013 นี้

    หากพิจารณาในมุมมองของรัฐบาลญี่ปุ่นชุดปัจจุบันแล้ว การขยับตัวล่าสุดในการเสริมเขี้ยวเล็บด้านการทหารและความมั่นคงแบบขนานใหญ่ถือเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอิทธิพลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องของจีนและ “ความเอาแน่เอานอนไม่ได้” ในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง รวมถึง ความไม่ชัดเจนที่ว่า สหรัฐฯที่เป็นพันธมิตรสำคัญของญี่ปุ่นจะสานต่อนโยบาย “Pivot in Asia” ที่หยุดชะงักไปดื้อๆหรือไม่

    แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่น กำลังสร้างความไม่สบายใจให้กับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออก ที่ยังไม่ลืมบทเรียนอันแสนเจ็บปวดจากการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นอันเกรียงไกรในอดีต รวมถึง ประเด็นที่ว่าการขยับตัวเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บของญี่ปุ่นครั้งนี้ ย่อมมีผลให้ความขัดแย้งที่คุกรุ่นในการแย่งชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทต่างๆ ในภูมิภาค ทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2556 23:20 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000155964
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายวันสิ้นยุค..จากคัมภีร์ไบเบิ้ล !!!

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=aKEh8agcCZo#t=173"]?????????? Judgment Day.flv - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pGpUM-msRk4]ตราทั้งเจ็ด - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3n5jVHRqSAU]แตรทั้งเจ็ด - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=QAlMDmEaM2w]ขันทั้งเจ็ด - YouTube[/ame]
    อัปโหลดเมื่อ 16 ก.ย. 2010
    โดยคุณ A.J. SonPrint​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ทูตสวรรค์ของศาสนาคริสต์..ที่จริงก็คือมนุษย์ต่างดาว ?

    [​IMG]

    คำสอนศาสนา เกี่ยวพันธ์กับมนุษย์ต่างดาว

    ในหลายๆประโยคคำสอนของศาสนาคริสต์ จะกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้าที่มาเยือนจากสรวงสวรรค์ สวรรค์ในที่นี้คงหมายถึงอีกโลกหนึ่งที่อยู่ฟากฟ้าหนึ่งอันห่างไกลที่สายตาไม่สามารถมองถึงได้ คำกล่าวที่ถูกกล่าวบ่อยๆในคำภีร์ไบเบิลว่า”ทูตสวรรค์”คงหมายถึงตัวแทน ของผู้นำที่มาจากอีกโลกหนึ่ง

    จุดประสงค์ที่ลงมายังโลกก็เพื่อปลดปล่อยชำระล้างความชั่วให้กับมนุษย์ที่ละเลยความดีไปหมด หากปล่อยให้ความชั่วเกาะกินพฤติกรรมของมนุษย์มากเกินไป ความล่มสลายของอาณาจักรโลกใบนี้ก็จะยุติลง

    และทุกครั้งที่ทูตสวรรค์ได้ลงมาประกาศข่าวประเสริฐ ลำแสงจะปรากฎให้เห็นสาดส่องลงมายังร่างกายของพระผู้เป็นเจ้าเกือบจะทุกภาพที่ปรากฎเป็นหลักฐานให้เห็น เรื่องราวต่างๆของปรากฎการณ์ที่ดูจะเป็นองค์ประกอบที่คนสามัญธรรมดาจะทำให้เกิดขึ้นได้นอกเสียจากผู้ที่มากไปด้วยประสบการณ์ทางวิทยาศษสตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนาสูงสุดแล้วเท่านั้น

    กฎของธรรมชาติที่ได้กล่าวเอาไว้ว่าเมือถึงที่สุดแล้วก็ต้องจบลง หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไป แต่เมือคุณภาพของจิตใจที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจุดมุ่งหมายท้ายสุด ก็คือความเป็นนิรันดร์ของสภาพจิตใจที่ไม่แตกดับได้อีก

    จะเห็นว่าทุกคำสอนของทุกศาสนาจะมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาจิตใจเป็นหลัก รวมไปถึงคำสอนของตัวแทนผู้ที่มาจากนอกโลก หากต้องการที่จะสัมผัสกับผู้ที่อาศัยอยู่นอกโลกได้ จำเป็นต้องฝึกสมาธิเป็นเป้าหมายหลักที่จะสามารถสนทนากับพวกเขาได้ ถึงแม้ว่าการพัฒนาอย่างหาที่สุดไม่ได้แล้ว อย่างวิทยาศาสตร์และสิ่งที่จุดประกายต้นกำเนิดของรากฐานวิทยาศาสตร์ก็คือไสยศาสตร์และความเชื่อ หากแรงบัลดาลใจไม่เกิดก็จะไม่มีผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์

    จากพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากตัวบุคคลทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมแนวคิด พฤติกรรมการแสดงออกต่อหน้าฝูงชนที่สามารถชักจูงใจให้กลุ่มคนต่างๆ ได้โน้มเอียงเชื่อในแนวคิดของคนที่มีลักษณะที่แตกต่างจากมนุษย์โลกทั่วๆไป

    คนที่มีลักษณะพิเศษเหล่านี้จากหลายแง่มุมของกลุ่มคนที่เชื่อสิ่งนอกเหนือธรรมชาติก็ได้เล็งไปที่”มนุษย์ต่างดาว”มาเกิดยังโลกมนุษย์แล้ว การเป็นผู้นำที่ไร้หลักฐานทางสังคมที่จะยืนยันถึงความเชื่อมั่นได้ว่า เขาไม่น่าจะสามารถเป็นผู้นำได้ การขาดองค์ประกอบในเชิงบวกที่เขาคนนั้นพึงจะมีว่าเขาไม่น่าจะเป็นแกนนำได้ หลายแง่มุมของความแปลกใจที่มนุษย์คนนั้นควรจะมี

    จากการสุ่มสำรวจว่าประชาชนทั่วๆไป เชื่อหรือไม่ว่ามีมนุษย์ต่างดาวได้ลงมาอาศัยปะปนกับมนุษย์โลกแล้ว จากประชาชน 22 ประเทศได้ลงความเห็นออกมาเป็นเปอร์เซ็นถึง 40% ถึงแม้ว่าตัวเลขจะไม่เกินครึ่งในการสรุปผลทางการวัดผลก็ตาม แต่นั้นก็ยังเป็นเรื่องราวพอที่จะหาหลักฐานประกอบว่าคนเหล่านั้นยังให้ความสำคัญกับสิ่งที่ห่างไกลสายตาออกไปยังดาวดวงอื่นๆนอกโลก ว่ายังมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่แน่นอน

    คำถามที่ตามมาว่า”หากมนุษย์ต่างดาวได้ลงมาปะปนอยู่กับมนุษย์โลกแล้ว ตามหลักฐานการเกิดเขามีพ่อแม่เป็นมนุษย์โลกเช่นกัน เหตุใดถึงคิดว่ามนุษย์ต่างดาวได้ลงมาปะปนกับมนุษย์”

    นั่นเป็นเหตุผลทางการพิสูจน์ถึงที่มา และสามารถนำมาประกอบหาเหตุผลทางบุคคลได้ในโลกมนุษย์ จะไปเรียกว่ามนุษย์ต่างดาวได้อย่างไร สิ่งแอบแฝงลึกๆหากการกระทำโฉ่งฉ่างมากเกินไปก็จะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้

    การที่จะขยายพันธุกรรมมนุษย์ต่างดาวให้ลงมายังโลกมนุษย์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ที่พัฒนาไปเกินกว่ามนุษย์โลกที่มีอายุไขเพียงไม่เกิน 100 ปี ตัวตนที่แท้จริงเขาเพียงอาศัยร่างกายเท่านั้น สิ่งที่เขาควบคุมได้ก็คือสติและปัญญา

    หลายคนมองว่าเขาเป็นคนแปลก เข้ากับคนอื่นๆไม่ได้เรยทั้งๆที่เราก็ได้ลองปรับตัวเองเพื่อให้เข้ากับเขาได้แต่ก็ต้องถอยหนีเหมือนกับคนอื่นๆที่ถอยออกมาก่อน

    แต่คนประเภทนี้ก็ดำรงชีวิตให้อยู่ได้ในโลกอย่างเฉกเช่นมนุษย์โลกทั่วๆไป แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกก็คือเขาจะมีความสามารถพิเศษอะไรสักอย่างที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้

    นานนับวันมนุษย์ที่แปลกๆแบบนี้เราจะเห็นว่าไปปรากฎตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก คนเหล่านี้มีความคิด พฤติกรรมที่แตกต่างจากมนุษย์โลกเราๆอย่างสิ้นเชิง

    เมื่อวัตถุดิบของเขาที่ได้ทดลองส่งลงมายังโลกมนุษย์ได้สัมฤทธิ์ผลตามความต้องการของเขาแล้ว อนาคตคงไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยท้องมนุษย์เพื่อตั้งครรภ์อีกต่อไป การการเคลื่อนย้ายของมนุษย์ต่างดาวก็คงเป็นเรื่องปกติของสังคมโลกใบนี้ที่จะต้องให้การต้อนรับผู้ที่มาเยือนจากนอกโลก ไม่ต่างอะไรกับการต้อนรับชาวต่างชาติที่มาเยือนประเทศ

    ที่มา คำสอนศาสนา เกี่ยวพันธ์กับมนุษย์ต่างดาว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สงครามระหว่างพระคริสต์กับซาตาน..ที่จริงก็คือสงครามอวกาศ ?

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=4EEpTU_cT64]มิติโลกหลังเที่ยงคืน สงครามอวกาศ - YouTube[/ame]
    จากวันที่กำเนิดมนุษย์ จนถึงวันสิ้นสุดศตวรรษที่ 20 เป็นเวลา 6,795 ปี SATAN ครอบงำหลอกล่อมนุษย์ ให้ทำชั่วทุกวิถีทาง มีคำถามที่เป็นที่น่าสงสัยว่า ทำไม พระเจ้า ทรงสร้างหรือยังปล่อยให้ SATAN ดำรงอยู่ ทั้งที่ท่านมีอำนาจในการทำลาย คำตอบง่ายๆก็คือ พระเจ้า ทรงมองเห็นว่าทุกสิ่งที่ท่านสร้าง เป็นสิ่งที่สวยงาม และดีที่สุด หรือ พูดให้ง่ายคือ พระเจ้าทรงมีพระเมตตา และ รักในทุกสิ่ง SATAN แท้จริงก็เป็น เทวดาองค์หนึ่ง ที่หลงผิดคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง ปล่อยให้ความริษยา เข้าครอบงำตนเอง ความโกรธแค้นมีทิฐิ ไม่ยอมรับและอภัยผู้อื่นนั้นเอง แต่พระเจ้าก็ยังทรงเมตตาเสมอ ทั้งๆที่ SATAN ไม่เคยที่จะคิดได้ ยังคงทำความเลวต่อไป

    ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึง สงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666 สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมี อำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้ ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบสยบแทบเท้ามัน SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่ แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN

    สงครามขั้นแตกหัก ARMAGEDDON หรือ APOCALYPSE หรือ JIHAD น่าจะเป็นการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 การทำลายล้างจะทำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตมนุษย์ ไปถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคน ตามบันทึกมีการพูดถึง ดวงตราทั้ง 7 หรือ THE SEVEN SEALS เมื่อมีการเปิดผนึกดวงตราทั้ง 7 จะมีการปรากฎตัวของบุรุษลึกลับ 4 คน ขี่ม้า 4 ตัวที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาด มีเสียงร้องอันดังดุจสายฟ้าร้อง หรือที่เรียกกันว่า THE FOUR HORSEMEN OF THE APOCALYPSE หรือ 4 อัศวินแห่งวันโลกาวินาศ เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ คือ ดวงตราทั้ง 7 การเป่าแตรทั้ง 7 และการเทขันแห่งพระพิโรธทั้ง 7

    เมื่อตราดวงแรก ถูกเปิดออก จะมีคนลึกลับขี่ม้าขาวออกมา ในมือถือคันธนู ทำให้โลกเกิดความทุกข์ยากไป 3 ปีครึ่ง และ SATAN ที่มีเครื่องหมาย 666 ก็จะเข้าครอบงำโลกมนุษย์อีก 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นจะเกิดสงครามมหาประลัย พระมาซีอา พระมะห์ดีร์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะเสด็จมา ทรงทำให้โลกเข้าสู่ยุคแผ่นดินโลกใหม่ ยุคของชาววิไล
    เมื่อดวงตราที่ 2 ถูกเปิดผนึก จะมีคนลึกลับขี่ม้าสีแดงออกมา ในมือถือดาบเล่มใหญ่ คนๆนี้จะทำให้โลกเข้าสู่สงครามอันน่าสะพรึงกลัว มีคนล้มตายถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก
    เมื่อดวงตราที่ 3 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่มาสีดำออกมา ในมือถือตราชู ทั่วโลกจะเกิดความกันดาร อดอยาก และกลียุค เขาจะมาในคราบของนักบุญที่นำสันติสุขมาสู่โลก แต่กลับนำพาผู้คนเข้าสู่สงครามมหาประลัย
    เมื่อดวงตราที่ 4 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่ม้าสีเขียวอมดำ ออกมา คนๆนี้ถือเป็นมัจจุราช มาคร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคระบาด ความอดอยาก ทำให้ผู้คนล้มตายไปอีก 1 ใน 4 ของที่เหลือ
    เมื่อดวงตราที่ 5 ถูกเปิดผนึก วิญญาณของผู้ที่ล้มตายมากมาย จะได้รับเสื้อสีขาวที่พระเจ้าทรงประทานให้ และรับสั่งให้พวกเขาทนรอเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ต้องล้มตายครบตามจำนวน
    เมื่อดวงตราที่ 6 ถูกเปิดผนึก จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง กลางวันกลับมืดมิด กลางคืนดวงจันทร์ทอแสงเป็นสีเลือด ทุกคนจะรู้ดีว่าวันที่พระเจ้าทรงพิโรธ ได้มาถึงแล้ว วิญญาณที่ได้รับเสื้อขาว จะถูกนำตัวไปยังน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาจะไม่หิวกระหายอีกต่อไป ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป
    เมื่อดวงตราที่ 7 ถูกเปิดผนึก ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์ประมาณครึ่งชั่งโมง เทวทูตทั้ง 7 องค์ ได้รับแตร 7 อัน มีอยู่หนึ่งองค์ที่ถือกระถางไฟทองคำมาด้วย และเตรียมที่จะโยนมันลงมายังโลก เพื่อเผาผลาญคนชั่วให้สิ้นซาก

    จากนั้นเทวทูตทั้ง 7 ก็ทำการเป่าแตร
    องค์ที่ 1 เป่าแตร ยังผลให้โลกไหม้ไป 1 ใน 3 ส่วน
    องค์ที่ 2 เป่าแตร ยังผลให้เกิดอุกาบาตตกลงในทะเลทำให้ทะเลกลายเป็นสีเลือดไป 1 ใน 3
    องค์ที่ 3 เป่าแตร ยังผลให้อุกาบาตตกลงในแน่น้ำทั้งหลาย ทำให้น้ำมีรสขม ทำให้ผู้คนล้มตายเพราะน้ำนี้
    องค์ที่ 4 เป่าแตร เป็นการเตือนว่าความพินาศจะเกิดแก่คนทั้งหลายบนโลก
    องค์ที่ 5 เป่าแตร อุกาบาตตกลงยังพื้นดินผู้คนที่บาดเจ็บจะได้รับความทรมานแต่ไม่ตายอยู่เป็นเวลา 5 เดือน แม้อยากตายก็ตายไม่ได้
    องค์ที่ 6 เป่าแตรทูตสวรรค์ที่เคยถูกส่งมายังโลกและถูกมารจับตัวไว้จะได้รับการปลดปล่อย และเตรียมตัวทำลายล้างมนุษย์ที่ชั่วช้าที่ถูกSATAN ครอบงำ
    องค์ที่ 7 เป่าแตร แผ่นดินใหม่บังเกิด พระเจ้าชนะสงคราม แต่มารหรือซาตานก็ยังล่อลวงมนุษย์ต่อไป

    ทำให้เกิดการเทขันแห่งพระพิโรธขึ้น
    ขันที่ 1 ผู้ที่บูชา SATAN จะเกิดแผลร้ายเป็นหนองไปทั้งตัว
    ขันที่ 2 เทลงในทะเล สัตว์ที่อยู่ในทะเลก็ตายจนสิ้น เกิดโลกระบาดไปทั่ว
    ขันที่ 3 ล้างพวกที่มีจิตใจใฝ่อธรรมจนหมดสิ้น
    ขันที่ 4 เทลงไปที่ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์แผดแสงมากยิ่งขึ้น เกิดความแห้งแล้ง ทุรกันดาร อดอยาก
    ขันที่ 5 เทใส่ บัลลังก์ ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน
    ขันที่ 6 เทลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำเหือดแห้ง ผีโสโครก 3 ตน ปรากฎกายออกมา ปลอมตัวเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้า ล่อลวงให้มนูษย์ทำสงครามกันเอง
    ขันที่ 7 เทไปในอากาศ METRATON แผดเสียงแทนพระเจ้าดังกังวารว่า "สำเร็จแล้ว" ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มหานครต่างๆบนโลก แยกออกเป็น 3 ส่วนบรรดาเกาะใหญ่น้อยทั้งหลายจมลงสู่ใต่บาดาลเชกเช่นตอนที่อาณาจักร ATLANTIS ถูกพระเจ้าทำลายล้าง

    เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายจบลง SATAN และสัตว์ร้ายทั้งหลาย ถูกจับตัวและถูกโยนลงไปในบึงไฟ และถูกฆ่าตายด้วยแสงที่เปล่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า นกทั้งปวงรุมแทะกินเนื้อพวกมันจนแหลกเหลว แต่วิญญาณชั่วร้ายของมันยังคงอยู่แต่ถูกจับมัดและกักขังในบาดาล 1,000 ปี แผ่นดินสงบสุขไป 1,000 ปี ก่อนที่วิญญาณชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยอีกครั้ง....

    ที่มา www.writer.dek-d.com/MintWind/story/viewlongc.php?id=256803&chapter=8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขันที่ 5 เทใส่บัลลังก์ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน !!!

    [​IMG]

    Kamen rider สมาชิก

    แปลได้บางบท เคยฟังกับอ่านๆๆ มา

    17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย

    หญิงแพศยา ใช้แทนพฤติกรรมของอเมริกาครับ นิสัยอยู่ด้วยผลประโยชน์หลอกลวงสำส่อนไปทั่ว เห็นๆกันอยู่ ....คือเค้าใช้คำได้แรงและน่ารังเกียจมาก....แล้วตกลงในความเป็นจริง อเมริกาทำตัว น่ารังเกียจขนาดนั้นเชียวหรือ ท่อนนี้จะกล่าวถึงจุดจบบางประการของ อเมริกา

    "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ

    17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"

    ความสัมพันธ์ประเทศทั้งหลายในโลก กับ อเมริกา อำนาจ วัฒนธรรม ข่าวสาร เศรษฐกิจ ครอบคุมทั่วโลก ทุกประเทศ จะถูกระบบอเมริกากลืน เดินตามอเมริกาเป็นแถบ เพราะวัฒนธรรมทางวัตถุของอเมริกา จะตอบสนองกิเลสมนุษย์ได้สุดๆ ....ทุกประเทศจะนิยม เหมือนกับ หลงไหลมัวเมาเหล้าองุ่น ให้เห็นว่าเป็นคุณค่าเป็นอารยธรรมที่แสนวิเศษ ตามอำนาจพลังข่าวสาร ที่อเมริกาประเคนหลอกล่อยัดเยียดให้

    17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำ ที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครก แห่งการล่วงประเวณีของตน

    การล่วงประเวณี ให้ดูประวัติศาสตร์ครับ หลังจากอังกฤษหมดอำนาจ มหาอำนาจอเมริกาเข้ามาแทนที่...ด้วย...การที่พยายามจะเป็นเจ้าโลก....อเมริกาได้ทำ...อะไรไว้ในโลกบ้าง.......อเมริกาใช้ทุกวิถีทาง แห่งระบบทุนนิยม...สร้างความหายนะ อะไรกับโลกใบนี้บ้าง.....ดูดกลืนทรัพยากรจากประเทศต่างๆ...เข้าไปยุ่งเข้าไปแหย่ ใครบ้าง........หยาดน้ำตาเท่าไหร่..เลือดเท่าไหร่..ทำความแค้นให้ประเทศไหนบ้าง...ถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน หมายถึง อานาจทางการเงินเศรษกิจ บนความหายนะของประเทศต่างๆ

    17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น

    หมายถึงอเมริกา และ บรรดาประเทศคู่ค้า คู่ร่วมผลประโยชน์อุ้มชูกันอยู่

    17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ

    เขาสิบเขา น่าจะเป็นกลุ่มประเทศพันธมิตร ทางเศรษกิจที่อเมริกาพึ่งพาอยู่...อยู่ด้วยผลประโยชน์......ไม่จริงใจ..ในที่สุด...ถึงคราวแตกหัก.....อเมริกาเจอเอาคืน...สุดท้ายเจอไฟซึ่งเป็นนิวเคลียร์แน่ๆ

    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"

    ประเทศมหาอำนาจอเมริกา แน่นอนบทนี้

    ที่มา http://palungjit.org/threads/หายนะ-อเมริกา-ตาม-พระคัมภีร์-วิวรณ์-บทที่17.9723/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2013
  19. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    ๒๔ ธ.ค. ๕๖ ขออภัย

    ขอแจ้งข่าวผ่านเว็บฯ ถึงท่านสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า Boon 04

    เนื่องจากในช่วงสัปดาห์นี้ได้ส่งข่าวสารไปให้แล้วทางส่วนกลางแจ้งกลับมาว่าส่งไม่ถึงอยู่หลายครั้ง จึงขอให้ท่านช่วยส่งเมล์มาหาอีกที

    เคอิสรา

    ปล. แจ้งกลับมาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 ธันวาคม 2013
  20. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    เรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องจริง และดำเนินการตามนี้จริง รับรองได้ครับว่านี่ล่ะคืออภิมหาภัยพิบัติของประเทศไทยเลยทีเดียวครับ

    [​IMG]

    สรรพสามิตจ่อรีดภาษีดีเซล10บ.หลัง31ธ.ค. (ไอเอ็นเอ็น)

    กรมสรรพสามิต เล็งรีดภาษีดีเซล ในอัตราปกติ 10 บาท หลังหมดมาตรการรัฐ 31 ธ.ค. 56 ส่งผลให้หน้าปั๊มแตะ 40 บาท/ลิตร

    เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต จะมีการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตราปกติ ภายหลังจากการที่สิ้นสุดมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งหากไม่มีการต่อมาตรการภาษีน้ำมันดังกล่าว ก็อาจทำให้กรมสรรพสามิต จะมีการเรียกเก็บอัตราภาษีตามพระราชกำหนดอยู่ที่ 10 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายน้ำมันดีเซล หน้าปั๊มแตะที่ระดับ 40 บาท/ลิตร จากราคาปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละ 29.99 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...