ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

...............
...หวัดดี..กำธรน้องรัก..น้องรุ่ง..และ..Mastertestศิษย์ครู...
.....................................
....ต่อจากตอนที่แล้ว.......
.....................................

...................................

...........................................................
.....ข้อดี..ในการใช้..ดินน้ำมันคือ..พอถอดแบบ..ออกมา..ผมก็วางทิ้งไว้ก่อนได้..แล้วก็ลองกด
อันอื่น..ต่อ..แต่ในความเป็นจริงนั้น..เมื่อช่างกดพิมพ์..ถอดพระ..ออกมาจากพิมพ์..ต้องรีบ..
..พับปืก..เลย..เพราะ..น้ำจะค่อยๆระเหยจากมวลดินไปเรื่อยๆ..ดินยิ่งส่วนปืกนั้น..บางมาก
..น้ำยิ่งระเหยออกได้ง่าย..ปีกจะแห้ง..และจะดัดไม่ได้..เพราะมันจะหักออกจากตัวองค์พระ
เมื่อเราพยายามจะพับมัน...
.....ที่ผมทำการกดพิมพ์..ไว้หลายๆอัน..เพื่อ..จะดูรูปแบบ..ที่เปลี่ยนไป..อย่างที่พบใน..พระรอด
จริง...ตามที่เดยเห็นตามหนังสือ..และ..ที่เคยเห็นด้วยตัวเอง....
...ก็คือ...ปริมาณดินที่พอๆกัน..ถ้าทำให้หลายไม่ค่อยอูม(ค่อนข้างราบ)..ปีกล่างก็จะยาว...เพราะ
จากการกด..แต่ถ้าเรากดไม่มากนัก..และใช้หัวแม่มือ..ค่อยๆไล้..ปีกล่างจะยาวน้อยกว่า....
....ทุกอย่างโป๊ะเช๊ะ..ผมได้มาทั้งหมด..ประมาณ ๑๐ อัน..ที่ค่อยๆแตกต่างกัน..อีกอย่างที่ผมทำ
ตัวอย่างไว้เยอะนั้น...ก็เพราะ..ผมใช้รูปแบบการกดพับปีกที่แตกต่างกัน....
......เพราะจากการสังเกต..พระรอดที่หลากหลายกันนั้น..สังเกตว่า..การพับ..ในบางองค์..ไม่พบ
รอยนิ้วมือ..แต่มีคล้ายๆรอยเล็บ..
....ซึ่งนั่นแหละครับ..ผมไหนๆ..ทดลองต้องให้มันเห็นผล...ผมก็เลยต้องเตรียมเผื่อไว้..
..........สิ่งแรก...ในการพิสูจน์...
.....ปีกด้านข้าง..ที่ใกล้ฐาน..ซึ่งก็มีความกว้างใกล้..เคียงกับส่วนบน..แต่จะพบ..รอยพับ...เกือบทุก
องค์..หุบเข้าไม่กางออก...
....เมื่อ..ผมจะองค์ที่หงายขึ้นนั้น..ส่วนเดียวที่..จะไม่ทำให้องค์พระ..เสียรูปจากการจับ..มันก็ต้อง
เป็น..องค์พระครึ่งล่างที่เป็นฐาน.งเพราะมีความหนา..ส่วนบนนั้น..บาง...
..พอผมเอานิ้วชี้..และ..หัวแม่มือขวา..คีบพระขึ้นมาเพื่อ..เตรียมจะพับปีกใต้ฐานด้านล่าง..
.....มันก็เลย..พับเอง...โดยอัตโนมัติ.......ซึ่งพิสูจน์ได้ตามความเป็นจริง...
.....คือ..มันเกิดจากการคีบพระ..ขึ้นมา............เพื่อจะพับปีกใต้ฐาน....
.................ต่อตอนหน้า.....................

 

สวัสดีครับคุณอา modpong.คุณสวนพลู.พี่ๆ . และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน.ถ้าได้มีโอกาสมานั่งผิงไฟจิบยาดอง.แกล้มปลาสร้อย.ปลาตะเพียนย่างเกลือ.หอมกลิ่นเกล็ดปลาไหม้ไฟ.กับอ่านบทความที่มีประโยชน์.ก็น่าจะเพลินดีเหมือนกัน.อากาศเย็นไม่ได้สัมผัสมานาน..คิดถึงวันวาร..

 

หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาบ้านกลาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ
พี่พอจะรู้จักหรือเคยเห็นเหรียญนี้หรือเปล่าครับ เห็นลักษณะต่างๆรวมทั้งยันต์เหมือนกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องเลยครับ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อแช่มหรือเปล่าครับ

 

..................................
...เคยได้ยินชื่อเหมือนกันนะครับ..แต่ไม่ทราบที่มาท่านหรอกครับ..เรื่องยันต์นี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน..
...เพราะ"ยันต์หนุมาณอมพลับพลา"นี่..มีหลายอาจารย์ใช้ครับ..หลวงพ่อรุ่นเก่า..ที่สมุทรปราการท่านก็ใช้ยันต์นี้..และ..ไม่ได้เกี่ยวข้อง..กับหลวงพ่อแช่ม.....

 

........
....หวัดดี..เดินตามพระ...
............................
...ต่อจากตอนที่แล้ว...
...........................

.........................

..................................................
...เพียงแต่..การพับเข้ามาเล็กน้อย..มากบ้างไม่เท่ากัน..แล้วแต่การจับ..บางองค์พับมาก..พับน้อย
..แต่นี่มันไม่ได้เจตนา..ดังนั้น..รอยพับจึงอาจไม่แนบ..เพราะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น..
....แล้วบางองค์..หลังไม่อูมมาก..ปีกจะไม่ลอยขึ้นมาจากพื้นมาก..เวลาคีบจับ..นิ้วก็อาจไม่ไป
โดน..แต่ส่วนใกล้มุมนั้น..แน่นอน..เพราะมัน..พับติด..เพราะอะไร..ผมจะกล่าวถึง..ต่อไปข้างหน้า
...ไม่เหมือนกับ..ปีกใต้ฐาน..ที่เป็นเจตนา..ต้องพับให้แนบกับใต้ฐาน..และกดให้เนื้อมันติดกัน
.....สิ่งที่ ๒ การพับปีกด้านใต้ฐาน...
....ก็ไม่ได้ยืนยัน..ว่า..จะใช้..นิ้วชี้..หรือ..หัวแม่มือ..ใน..การพับ..ซึ่ง..ผมก็ลองทั้งสองนิ้ว..ก็ไม่ได้มี
ผล..แตกต่างกันเท่าไหร่..แต่..มีผลกับรูปลักษณ์..ขององค์พระ..คือ..
...ถ้าปีกยาว..มันจะยื้น่ออกมา..เสมอๆ..ขอบฐาน..ด้านหน้า..หรือ..อาจเกินมาหน่อยด้วยซ้ำ..
.....(ดูจากภาพตัวอย่างนี่..ชัดเจนมาก..และ..เหมือนที่ผมเคยทำ...จะสังเกตจากรูปได้ว่า..ส่วนล่างสุด
ของฐาน..ที่เห็นยื่นออกมา..บางๆ..เหมือนลิ้น..โค้ง..ไม่ตรง..นั่นแหละครับ..คือ..ปีกใต้ฐาน..
ที่พับทบ..ขึ้นไป..เพียงแต่..เขาไม่ลูบ..ส่วนปลายสุด..ให้แนบ..ผมคิดว่า..ช่างอาจจะกลัวว่า..จะไป
บัง..ส่วนฐานด้านหน้า..ในเมื่อ..ปีกติดแนบใต้ฐาน..ก็เลย..ปล่อยไว้เช่นนั้น...ชัดเจนมาก..เหมือน
กับที่ผม..เคยทำ..แต่ถ้า..ปีกสั้น..มันก็จะซ่อนแนบอยู่ใต้ฐาน..ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่ออก..ซึ่ง
ก็มีพบทั้งสองแบบ...
....ส่วนแบบที่ใช้เล็บ..คาดว่า..น่าจะเป็นเล็บ..หัวแม่มือ..ซึ่งก็ทำได้ง่ายเช่นกัน..คือ..เอาเล็บ..รอง
ใต้ปีก...แล้ว..หมุนหัวแม่มือ ๙๐ องศา..เล็บมือ..จะดันปีก..ขึ้นมาแนบ..ใต้ฐานได้เอง...
....นอกจากใต้ฐาน..จะโค้งหน่อย..ตามสว่นโค้งของเล็บ..แล้ว..ก็จะมีร่องรอยเป็นเส้นโค้งบางๆ
..ซึ่งเกิดจากขอบ..ของปลายเล็บ..ด้วย..จะเห็นได้หลายองค์..ในพระรอดที่พบ(..ถ้าองค์ไหน..
พบ..เป็นลายนิ้วมือ..นั่นแสดงว่า..ใช้นิ้วกด)....แต่..การกดพับนี่เอง..รวมถึง..การต้องคีบองค์พระ
ไว้..ก็ส่งผล..ให้เกิด..ความขี้เหร่..ขึ้น..ซึ่งในการทดลองผม..ได้ยืนยันชัดเจน..เฉกเช่น...
สิ่งที่เกิดกับ..องค์พระในส่วนล่างที่เป็นส่วนฐาน..ตามที่เกิดจริงกับ..องค์พระรอด..ทุกองค์..จน
เหมือน..เป็นสัญญักษณ์..ประจำตัว..ของพระรอดแต่ละองค์..ที่ไม่ซ้ำกันเลย..หลายประการ
...ดังที่ผมเคยเล่าไปตอนค้นๆ..มีหลายประการดังนี้..และทุกอย่าง..สามารถอธิบายได้ด้วยการ
ทดลองของผมเอง...คือ..
๑. การที่..เกิดแรงกด..จากการพับปีกใต้ฐานให้แนบติดสนิท..กับใต้ฐาน..มันจะเกิดแรงกดขึ้น
..รวมทั้งการคีบพระ..เพื่อป้องกันไม่ให้พระขยับ..ตอนที่กดพับ...การกดนี้เจตนาต้องการให้เนื้อ
พระติดกันด้วย..จึงต้องใช้แรงมากหน่อย...
.....เนื่องจากขณะที่ถอดพิมพ์ใหม่ๆนั้น...พระยังนิ่มอยู่พอสมควร..จึงทำให้..ฐานแอ่นโค้งขึ้น..
ตามแรงกด..สามารถดูได้จาก..พระรอดทุกองค์..แล้วแต่จะเป็นมาก..หรือ..เป็นน้อย..สิ่งที่
ตามมา..คือ..แนวฐานทั้งสามชั้น..จะไม่กลายเป็นเส้นตรง..ตามเช่นเดิม..ก็จะแอ่นโค้งตามไป
ด้วย..(สังเกต..จากองค์ตัวอย่าง..และ..องค์อื่นๆ..ในเน็ต..หรือ..ในหนังสือได้..)..เนื่อง..การทำ
แต่ละครั้ง..มันเป้นปกติ..ที่จะทำไม่เหมือนกันในการกด..เพราะ..คนไม่ใช่เครื่องจักร..
แถม..คนกด..ก็ย่อมมีหลายคน..แน่นอน..ผลคือ..แนวเส้นโค้งฐานที่เห็น..มันโค้งก็จริง..แต่โค้ง
ไม่เหมือนกัน.....
.............ต่อตอนหน้า..................

 

ครับ ยันต์นี้เห็นมีหลายอาจารย์็ใช้อย่างที่พี่ modpong บอกนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หรือเปล่าครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับพี่

 

สวัสดีครับพี่ๆ ทุกท่าน สบายดีกันนะครับ

ช่วงนี้อากาศเย็น ผมเลยนำรููปน้ำตกใกล้ ๆ site งานมาฝาก

น้ำเย็นมากครับ เอาเบียร์ลงไปแช่แป๊ปเดียว จิบสบาย

จะได้เข้ากับบรรยากาศช่วงนี้ครับ ^^

( ไม่รู้ทำไมรูปมันกลับหัวครับ ตอนดูในคอมผมก็ปกติดีนะครับ )

 

หวังว่าทางโน้นจะสบายดีเหมือนกันนะครับ ปีใหม่นี้จะได้กลับมาเมื่องไทยหรือเปล่า??? ห่างหายจากการไปทำบุญ กราบไหว้ครูบาอาจารย์ด้วยกันนานแล้วเหมือนกันนะครับ....

 

***มารออ่าน ตอน ต่อไปครับพี่ และ ทุกๆท่าน รวย รวย รวย***

 

.......
หวัดดี..กำธรน้องรัก..pardy..เด็กวัดป่า..และ..น้องรุ่ง..
.........................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
........................
..............................

......................................................
....ข้อสังเกต..แนวโค้งที่ฐาน..ที่ผมทดลองทำ..ซึ่ง..มันก็ออกมาแนวทาง..เดียวกันกับ..ของจริงคือ
...เส้นฐานชั้นล่างสุด(ไม่นับปีกที่พับขึ้นมาติดฐาน..แน่นอนต้องโค้งมากที่สุด)..จะโค้งมากกว่า
...ชั้นถัดขึ้นไป..คือ..รัผศมีความโค้ง..จะลดลงเรื่อยๆ..ตามความห่างจากใต้ฐานล่างสุด...นี่คือ..
..ธรรมชาติ..เพราะ..ส่วนที่อยู่ใกล้การกด..ย่อมรับแรงมากที่สุด..แล้วมันค่อยๆกระจาย..ไปสู่เนื้อพระ
...ในส่วนลึกๆเข้าไป...และ..ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ....
..(..ดูรูป..ตัวอย่างที่..ผมใช้ประกอบ..จะเห็น..ลักษณะธรรมชาติว่า..มันเป็นยังไง)
.....ตรงนี้สำคัญ...คือ..ถ้าไปเห็น..พระรอด..ที่ชั้นฐาน..และ..อาสนะ..โค้ง..ขนานกันไปหมด..นั่น
คือ..ไม่ธรรมชาติ..เกิดจากการแกะ..พิมพ์ให้เป็นอย่างนั้นไปเลย....
.....นี่แหละครับ..การทดลองของจริง..ทำให้เราจะเข้าใจ..อะไรมากขึ้นเยอะ..ไม่ใช่..พวกนักวิชาการ
ด้านพระ..ที่มีแต่ทฤษฎี..นั่งคิด..นั่งประเมิน..อาศัยข้อมูลชาวบ้านมาประกอบ...แล้วก็เขียนบทความกัน
........เรียกว่า..เอามานั่งคุย..มีพิธีกรกลาง..กับ..พวกนักปลอมพระ..พวกนี้หงายเก๋ง....
.........๒. การไล้ให้ปีกติก..กับ..องค์พระให้แนบแน่น...
....สิ่งนี้มันเกิด..เพราะ..เมื่อเรากดปีกใต้ฐาน..ให้แนบสนิทกับใต้ฐานนั้น..ส่วนกลางๆนั้นติดก็จริง
...แต่ปลายขอบด้านข้างของปีกใต้ฐาน..ซึ่งอยู่ด้านริมทั้งสองข้างนั้น..มันจะไม่สนิทจริง...ซึ่ง
การทดลองทำให้ทราบได้..ขนาดดินน้ำมันที่ติดง่าย..มันยังเห็น..ว่า..มันไม่สนิทกลมกลืน..เห็น
ปลายขอบปีก..เป็นแนวเส้นชั้นเจน..ถ้า..เป็นดินจริง..ก็อาจจะมากกว่านี้..ซึ่งถ้าทิ้งไว้ให้แห้ง..
..มันจะอ้า..ขึ้นอีกเล้กน้อย..เผาเสร็จ..ตรงนี้..ตรงแนวนี้..จะอ้าชัดเจน..ไม่เรียบร้อย..
(...แนวนี้..เวลา..หันข้างพระ..แล้วมองที่ฐานล่างสุด..สำหรับบางองค์..ที่ไล้ไม่ดี..หรือ..อาจไม่ไล้
..จะเป็นเส้นขอบปีกชัดเจน).........
.............ดังนั้น..การแก้ก็คือ..การเอาปลายนิ้ว..(หรือ อาจเป็นเล็บ)ไล้..ขอบปีก..แต่ผลเสียของมันคือ
...มันทำให้..บริเวณี่เป็นส่วนขอบฐานไล่ขึ้นไปโดยเฉพาะ..ที่มุม..พบกรณีนี้มาก..คือ..
....มันจะมน...ไม่เป็นเหลี่ยม..อย่างที่ควรจะเป็น..อีกทั้ง..เส้นฐานทั้ง ๓ ชั้น..ที่บริเวณมุมฐาน..
...ก็พลอยหายชัดเจน..สิ่งนี้..มันพิสูจน์ได้..จากการทำของผม..แล้วก็ออกมาในสภาพคล้ายจริง..
(..ดูรูปตัวอย่าง..ของจริงที่แสดง..จะเห็น..สิ่งที่ผมว่า..ชัดเจน..)...
........แถมถ้า..เผื่อรีบทำหน่อย..ไม่พิถีพิถัน..หรือ..เริ่มเบื่อ..ไอ้การตบแต่งปีก..นี่ก็พาลส่งผลอีก..
....ดังเช่นในรูปตัวอย่าง...ท่านจะเห็นว่า..เข่าด้านซ้ายขององค์พระ(..ขวาของภาพ)..มีเศษดินบางๆ
แปะ..อยู่ที่ปลายเข่า..จากการทดลองทำมาหลายครั้งของผม..สันนินษฐานได้เลยว่า..
....นั่นคือ..ส่วนเศษปลายปีกใต้ฐาน..ที่ตอนไล้ด้านข้างแล้วหลุดติดปลายนิ้ว..พอนิ้วเลื่อนไปใกล้..
เข่าที่นูนออกมา..ก็เลย..ไปแปะติดอยู่ที่ปลายเข่า..และด้วยความที่เล็กมาก..ช่างคงไม่ได้สังเกต..
..เศษปลายปีกที่ว่า(..ที่ผมบอกเช่นนั้น..ได้อีกอย่าง..เพราะ..มันบางมาก)..ก็เลยติดอยู่อย่างนั้น..
.............ต่อตอนหน้า................

 

สวัสดีครับคุณอา modpong.พี่ๆ.และเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับมาติดตามอ่านเรื่องราวดีๆต่อตอนค่ำๆครับ

 

รอฟังเรื่องราวดี ๆ ต่อครับ

 

ได้ความรู้ครับอา แถมได้อีกหนึ่งวิธีทำแบบพิมพ์ รอเสพตอนต่อไปครับ

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่านมาตามอ่านบทความพระรอดตอนต่อไปครับ

 

..........
...หวัดดี..เดินตามพระ..หลานเขม..กำธรน้องรัก..และ..เฉียวฟงหลานรัก
...............................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
.............................
....................................................
...สำหรับ..ตัวอย่างพระรอด..ที่นำมาให้ดูนี้..เข่าขวา..รวมถึง..มือขวาที่จับเข่า..ก็เสียหายเช่นกัน..
...แต่สภาพไม่ชัดเจน..อาจจะเกิด..ชำรุดในภายหลังก็ได้..แต่ในหลายองค์..ก็พบร่องรอยการ..
ชำรุดเปื้อน..หรือ..รอยไถ..อันน่าจะเกิดจากการไล้ปีกใต้ฐาน..บริเวณส่วนมุมและ..ขอบ..เช่นกัน..
.........เนื่องจาก..การตบแต่งส่วนนี้..จำเป็นต้อง..ปล่อยนิ้วที่คีบพระ..ในบางช่วง..และต้องเลื่อน
ไปจับ..ที่อื่นแทน...ดังนั้น..สำหรับองค์นี้..มีการไล้ปีกเยอะ..เลยเลื่อนนิ้วมาคีบที่องค์พระแทน..
..เลยปรากฎรอยนิ้วมือ..บริเวณอก..อย่างชัดเจน..บางองค์ปีกใต้ฐานไม่กว้างมาก..
...พอพับขึ้นมาติดใต้ฐาน..ปีกไม่ยื่นออกมาด้านข้าง..หรือ..ออกมาน้อย..แค่หัวแม่มือที่กด..
ก็จะทำให้..ปีกแนบติดองค์พระได้หมด..การไล้ปีกฐานด้านข้างจึงไม่เกิดขึ้น..หรือ..มีเล็กน้อย
(เอาหัวแม่มือ..ข้างเดิมที่กด..มาแปะๆที่ขอบ..ปีกก็ติดดี..ไม่จำเป็น..ต้องเปลี่ยนมือ...ดังนั้น
..ก็จึง..ไม่มีร่องรอย..ที่ส่วนองค์พระ.......
........๓. ผลสืบเนื่องจาก..ไล้ขอบฐานด้านข้าง..รวมถึง..การพับปีกใต้ฐาน...นอกเหนือจากที่กล่าว
มาแล้ว..ยังส่งผลอีกอย่าง..ที่ส่งผลให้..บริเวณ..ฐาน(ที่เห็น..สามชั้น..รวมอาสนะ)..ด้านข้าง..
..ความจริงควรจะเป็นแนวตรง.....คือพูดง่าย..
....ถ้าคุณจับพระรอด..ยกขึ้นมาหันใต้ฐานพระ..เข้าหน้าตัวเอง...แนวขอบฐานด้านข้าง...
...มันจะไม่เป็นเส้นตรง..เป็นส่วนใหญ่..ทั้งๆที่..พระถอดออกมาจากพิมพ์..และ..มีความหนา
..ยังไงๆ..ก็ต้องเป็นเส้นตรง..ไม่งั้นพระ..จะหลุดออกมาไม่ได้...แต่นี่..แนวฐานด้านข้าง..จะโค้ง
หน่อยๆ..บางองค์ก็โค้งมาก..จนสังเกตได้ชัด..ทำให้..คนสมัยก่อน..หลายคน..ที่ไม่เจาะลึก..
...ไม่เข้าใจ...ว่า..เป็นไปได้ยังไง....
....แต่ผู้อ่านที่อ่านเรื่องมาถึง..ตอนนี้..คงจะพอทราบได้บ้าง..แล้ว..ก็เพราะ..กระบวนการ..
พับปีกใต้ฐาน..และ..การไล้ขอบใต้ฐานนี่แหละ..มันส่งแรงเข้าไปที่ฐาน..
....เริ่มจาการพับปีกใต้ฐาน..เนื่องจาก..ขั้นตอนแต่ละครั้งที่ทำ..ผมจะสังเกต..รูปทรง..ทีเปลี่ยนไป
..โดยตลอด...
......แรงที่กดจากนิ้ว..ที่นอกจากแรงแนวตรงจะทำให้..ใต้ฐาน..โก่งขึ้นแล้ว..มันก็ยังกระจายออก
ไปรอบๆ..เนื่องจากการคีบพระไว้นั้น..มันเป็นปกติอยู่เอง..ที่เราไม่ได้คีบ..ลงไปลึก..หรือ..คีบ
เต็มด้านข้าง..ส่วนใหญ่จะคีบเบาๆส่วนบนของด้านข้างฐาน..เมื่อเรากดปีกเข้าแรงที่กระจายออก
ไป..มันก็จะดันดินให้เคลื่อนตัวด้านข้างๆไปด้วย..เมื่อส่วนบนด้านข้างของฐาน..โดนนิ้วของเรา
บังคับไว้..ดินมันก็ขยายออกไปในส่วนล่างแทน...ทำให้เนื้อดินบวมออกมาเล็กน้อย....
.....ผลก็คือ..เกิดในลักษณะ..ที่ผมว่า..นั่นเอง...
.................ต่อตอนหน้า..............

 

...........................................................
..........ของแบบนี้...ไม่ใช่..ว่ามันมีมาตรฐานแน่นอน..เพียงแต่เราพยายามย้อนรอยเพื่อทำความ
เข้าใจ..ในเสี้ยวของประวัติศาสตร์..วัฒนธรรม...จริงๆ..ผมไม่ได้ยืนยัน..แบบนี้ว่า..มันจะเป็น...
สิ่งที่เกิดจริง..แต่แนวโน้ม..มีสูง..จากความน่าจะเป็น..ซึ่งมีการทดลองอ้างอิง..แล้วปรากฎใกล้
เคียงกัน...ซึ่งมันน่าจะใกล้เคียงกว่า..สิ่งที่เล่าต่อกันมา..ใช้สันนิษฐาน..ประกอบ..แล้วก็มาสู่..
คนที่มีชื่อเสียงในวงการ..ทั้งๆที่เขาไม่เคยกดพระพิมพ์พระเองซักองค์..แต่เล่าเป็นตุเป็นตะ..
..อาศัยชื่อเสียง..สร้างความน่าเชื่อถือ.....
.......ผมเองที่บอกเล่นพระมา..ถ้ามันมีหลักฐานความสมเหตุสมผล..ความเป็นไปได้..ผมไม่เคยเชื่อ
ผมจะลองของผมเอง...ต่อให้มันเป็นปรมาจารย์มาจากไหน..ก็ตาม...
...........ก็เอาแค่พระสมเด็จ..คนเริ่มเล่นพระจริงๆ..เมื่อสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง..ที่เริ่มมีการ
เขียนตำราการดูกัน..ก็ไม่มีใครเกิดทันสักคน..ฟังแต่คำบอกเล่าของคนเก่า..ซึ่งบางท่านทัน..แต่
ก็ไม่ได้มีส่วน..แต่เคยฟังเขาคุยกันมา...เล่ามากันมากี่ทอด..มันก็เพี้ยนได้.......
.............เมื่อไม่มีใครเกิดทัน...ท่านก็จงเชื่อตัวเอง..อันไหน..เรามั่นใจแบบนี้..แล้วมันขัดแย้งกับเขา..
..เราก็ไม่จำเป็นต้องไปเถึยงกับใคร...ให้มันเสียอารมณ์..เราใช้ของเรา..ก็ไม่ต้องโชว์ใคร...
....ขออย่างเดียว..ก่อนที่จะเชื่ออะไรสักอย่าง..ต้องรอบคอบ..ตรวจสอบ..จุดบกพร่องทุกด้าน..
...ถ้า..ไปเจอบางจุดที่..ขบคิดไม่ออก..แสดงว่า..สมมุติฐานที่ตัวเองตั้งไว้อาจผิด...ก็ย้อนกลับไป
คิดใหม่..ซะ....ก็เท่านั้น...
.............ทั้งหมดที่เล่ามา..ก็เพียงนำเสนอแนวทางไว้..ในการเล่นพระแบบใช้สมอง....
หัดวิเคราะห์..และลองเพื่อพิสูจน์..สมมุติฐาน...เมื่อท่านไปเจอ..เรื่องที่ขบคิดไม่ออก..และ..
ไม่มีตำราเขียนไว้..ก็ไม่จำเป็นต้องยอมแพ้..หัดคิดเอาเองมั่ง..สมองจะพัฒนาขึ้น................
......อีกอย่าง..ผมสังเกตดู..ผู้VIEW..และ..การตอบรับ..น้อย..แสดงว่า..คนไม่ได้สนใจวิชาการ
เท่าไหร่..ชอบเรื่องสนุกมากกว่า...ก็ขอลาไปเลย..แล้วกัน
...............................จบ...............................

 

***รอ พี่ และ เรื่องเล่า ตอนต่อไปครับ ****

 

ได้ความรู้มากๆครับ รออ่านเรื่องต่อไปครับ

 

ต้องขอบคุณผู้ถ่ายทอด ....หวังว่าวันหนึ่ง คงมีการถ่ายทอด แนวนี้อีกครับ....กราบขอบคุณมากครับ

 

กลับมาแล้วครับ เคลียร์งานจบแร้ว เดี๋ยวเย็นนี้จัดให้อ่านกันต่อครับ