ของดีราคาถูก พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย mayakarn, 22 กรกฎาคม 2011.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    น้อมกราบหลวงปู่สด -/\-

    คติธรรมหลวงปู่

    ด้วยความหมั่นมั่นใจไม่ประมาท
    รักษาอาตม์ข่มใจไว้เป็นศรี
    ผู้ฉลาดอาจตั้งหลักพำนักดี
    อันห้วงน้ำไม่มีมารังควาญ​
     
  2. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ออกไปซื้ออาหารกับของใช้ก่อน เดี๋ยวกลับมาครับ...[​IMG]
     
  3. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,460

    หลังจากพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณ สร้างพระเครื่องในนาม "หลวงพ่อทวด" ขึ้นแล้ว และประจักษ์ถึงอภินิหารศักดิ์สิทธิ์กันไปทั่วต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ชาวพุทธแห่งจังหวัดปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียงได้นิมนต์พระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณ ให้สร้างพระเครื่องในแบบรูปเหมือน "หลวงพ่อปาน" อดีตเจ้าอาวาสวัดนาประดู่ แห่งจังหวัดปัตตานีขึ้นบ้าง โดยเหตุผลว่า แม้พระคุณเจ้ารูปนี้จะเพิ่งถึงแก่มรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ คือครึ่งร้อยปีมานี้เอง แต่พระคุณเจ้าก็เป็นพระเถระที่มีกฤตยานุภาพแก่กล้าปรากฏเป็นที่มหัศจรรย์รูปหนึ่ง เป็นที่สักการบูชาของชาวพุทธทั่วไปในจังหวัดภาคใต้ของอาณาจักรไทย ถือเสมอว่าพระคุณเจ้าเป็นร่มโพธิร่มไทร ตลอดจนชาวพุทธซึ่งเป็นคนไทยและจีนที่อยู่ในรัฐเคดาห์ ไทรบุรี สหพันธรัฐมลายู ต่างก็มีความเลื่อมใสศรัทธาในกฤตยานุภาพอภินิหารของพระคุณเจ้ากันทั้งนั้น เมื่อพระคุณเจ้าถึงแก่มรณภาพแล้ว ก็ขอแบ่งเอาอัฐิของพระคุณเจ้าไปบรรจุไว้ที่วัดไทยที่ตำบลบากาบาตา รัฐเคดาห์ ไทรบุรี ชาวพุทธทั้งไทยและจีนในถิ่นนั้น ต่างไปสักการะอัฐิของท่านทุกวันวันละมาก ๆ มิได้ขาด เพราะเมื่อใครไปสักการะขอพึ่งกฤตยานุภาพอภินิหารของท่านขอให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย หรือขอให้ธุรกิจอันสุจริตผ่านพ้นอุปสรรค ต่างก็สมประสงค์กันทั้งนั้โดยเฉพาะพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานนั้นเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่เมื่อท่านมีชีวิตอยู่ ท่านมิได้สร้างพระเครื่องหรือเหรียญรูปเหมือนตัวท่านทิ้งไว้เลย แต่ก็ยังดีที่ในกาลต่อมาหลังจากพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณอดีตเจ้าอาวาสวัดช้างไห้ ได้สร้างพระเครื่อง"หลวงพ่อทวด" ที่มีอภินิหารเลื่องลือขึ้นแล้ว ได้ติดต่อกับวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคุณเจ้าหลวงพ่อขออนุมัติสร้างขึ้นในรูปแบบรูปเหมือนตัวท่านด้วยเนื้อว่านเช่นเดียวกับที่สร้างหลวงพ่อทวด โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้ผู้มีศรัทธาปสาทะพกติดตัวคุ้มกันผองภัยคู่กับหลวงพ่อทวด เมื่อพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณติดต่อกับวิญญาณของหลวงพ่อปานทางวิปัสสนาแล้ว ก็ได้รับอนุญาต จึงได้สร้างขึ้นในนาม "หลวงพ่อปานวัดนาประดู่"ในการสร้างจะนอกจากจะหาว่านมาทำผงขึ้นใหม่แล้ว ได้นำผงที่สร้าง "หลวงพ่อทวด" ที่เหลืออยู่ผสมด้วย เมื่อทำเสร็จตามพิธีกรรมให้มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์แล้ว ได้นำออกแจกจ่าย ผู้ที่ได้รับแจกไปบู่ชาต่างได้ประจักษ์อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์กันทั้งนั้น ทั้งในทางอำนวยลาภผลและคุ้มครองให้รอดพ้นอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันและอุปัทวเหตุ เช่นรายหนึ่งซึ่งพระมหาประพันธ์ เจ้าอาวาสวัดบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ได้เล่าให้พระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณฟังว่า หลังจากได้พระหลวงพ่อปานไป ๓ องค์ ได้มอบให้นายจิตร บ้านจงแก ไปองค์หนึ่งเพื่อบูชาพกติดตัว หลังจากนั้นต่อมาไม่ช้าไม่นาน นายจิตรออกจากบ้านไปธุระในตอนพลบค่ำ ขากลับในระหว่างทางที่เดินมา ถูกลอบยิง กระสุนปืนถูกที่หน้าอกอย่างจัง เสียงปืนและความเจ็บที่หน้าอกนายจิตรตกใจสุดขีดยกมือขึ้นกุมอกวิ่งไปหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อพบเพื่อนก็ละล่ำละลักบอกว่าถูกยิงที่อก เพื่อนจึงขอดู ก็เห็นแต่เสื้อตรงหน้าอกมีรอยทะลุ แต่หน้าอกของนายจิตรมีเพียงรอยช้ำ ๆ แดง ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่ามหัศจรรย์ยิ่ง เพราะตรงที่ถูกกระสุนปืนนั้นตามธรรมดาจะต้องล้มคว่ำขาดใจคาที่ เพื่อนจึงถามว่ามีของดีอะไร นายจิตรจึงบอกว่า "มีหลวงพ่อปานวัดนาประดู่องค์เดียวเท่านั้น" ได้มาจากท่านมหาประพันธ์เมื่อไม่กี่วันมานี้เองน


    [​IMG]


    ประวัติโดยสังเขปของพระคุณเจ้ามีว่า ท่านชาตะในวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ ปีมะแม พ.ศ.๒๔๐๒ บิดาชื่อจันทร์ มารดาชื่อหนู เกิดที่บ้านทุ่งหาร ตำบลบ้านกล้วย อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่ท่านได้ชื่อว่า "ปาน" ก็เพราะท่านมีปานดำที่โคนลิ้น พออายุได้ ๑๐ ขวบ บิดามารดาจึงนำไปฝากฝังให้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์ชู เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ในสมัยนั้น เพื่อให้เรียนหนังสือชักสวดซึ่งนิยมเรียนกัน อยู่กับพระอาจารย์ชูจนอายุครบอุปสมบท จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามแบบแผนโบราณ จนมีความรู้ความเข้าใจทั้งทางคันฐธุระและวิปัสสนาธุระ แต่ที่ท่านมุ่งหน้าศึกษาอย่างคร่ำเคร่งนั้นคือทางวิปัสสนาธุระ ฉะนั้นจึงหลีกออกจากหมู่คณะถือธุดงค์ไปแสวงหาที่สงบวิเวกตามป่าเขาที่มีถ้ำให้อาศัยคุ้มกันแดดและฝนได้ ท่านถือความเป็นอยู่อย่างสันโดษ จนกระทั่งพระอาจารย์ชูของท่านถึงแก่มรณภาพ ประดาชาวพุทธแห่งจังหวัดปัตตานี จึงนิมนต์ท่านให้กลับไปอยู่วัดนาประดู่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากพระอาจารย์ชู ท่านรับนิมนต์และได้เป็นเจ้าอาวาสจนกระทั่งถึงแก่มรณภาพใน พ.ศ.๒๔๖๒ ท่านมีอัธยาศัยเยือกเย็นและมีอารมณ์ร่าเริงอยู่เป็นนิจและมั่นคงในสัจจธรรม มีความอดทนไม่เคยแสดงความโกรธเคืองผู้ใดเลย และท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นท่านจึงไม่กล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นมงคลกับศิษย์และชาวบ้านคนใดเลย และใคร ๆ ก็ไม่ทำตัวให้ท่านกล่าวว่าเป็นคนชั่วคนเลว เพราะต่างเกรงกลัวในวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ตามปรกติวิสัยของท่าน ท่านมีเมตตาจิตโอบอ้อมอารีต่อคนทั่วไป ผู้ใดเจ็บไข้ได้ทุกข์ไปหาท่าน ท่านก็ให้ความช่วยเหลือโดยทั่วหน้ากัน และโดยเฉพาะในทางหยูกยาและน้ำมนต์ของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ เพราะรักษาความป่วยไข้ให้หายได้ดังปลิดทิ้ง เมื่อท่านให้พรผู้ที่ได้รับก็ประสบผลดีงามตามพรที่ท่านให้ เนื่องจากวาจาสิทธิ์ของท่าน ในสมัยที่พระคุณเจ้ามีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าอาวาสวัดนาประดู่นั้น แต่ละวันมีผู้คนไปนมัสการขอพึ่งกฤตยานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้ช่วยบำบัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และปัดเป่าข้อขัดข้องในกิจการอาชีพอย่างคับคั่ง มีทั้งผู้ที่มีฐานะมั่งมีและยากไร้และทั้งไทยและจีนและมีที่ชอบกลอยู่คนหนึ่ง เป็นหนุ่มชื่อราด เขาผู้นี้จะไปนั่งอยู่ที่หน้าวัดนาประดู่เสมอเกือบทุกวัน แต่ไม่ได้เข้าไปนมัสการพระคุณเจ้าเหมือนคนอื่น ๆ หากแต่ไปคอยดูคนที่ไปนมัสการท่านด้วยความสงสัยสนเท่ห์ว่าเขาแห่กันมาทำไมมากมายทุกวัน เขาจะออกปากถามคนเหล่านั้นก็ไม่กล้า เพราะเขาสำนึกตัวว่าเป็นคนต่ำต้อยในทุกทาง และคนที่รู้จักเขาก็เห็นว่าเขาเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ในที่สุดเขาก็นึกว่าพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานต้องมีอะไรดีเป็นพิเศษแน่ ๆ แล้วตกลงใจว่าจะไปขอของดีจากหลวงพ่อท่านบ้าง วันหนึ่งจึงเดินปะปนไปกับผู้คนที่มุ่งหน้าไปนมัสการหลวงพ่อ แต่ในชั้นแรกผู้คนหนาแน่น เขาจึงเลี่ยงมานั่งแอบเมียงมองอยู่ห่าง ๆ ต่อตกเย็นผู้คนเบาบาง เขาจึงค่อย ๆ คลานเข้าไปหาหลวงพ่อ วางดอกไม้ธูปเทียนลงแทบเท้าหลวงพ่อ ก่อนกราบเอาชายผ้าขาวม้าชายหนึ่งพาดบ่า ชายอีกข้างปูที่พื้นข้างหน้าทำเป็นผ้ากราบ แล้วกราบลงบนชายผ้าขาวม้าด้วยความคารวะ ๓ ครั้ง แล้วจึงเอ่ยปากขอว่า "หลวงพ่อครับ หลวงพ่อมีของดี โปรดให้กระผมบ้าง กระผมจะเอาไว้ป้องกันตัว"พระคุณเจ้าหัวร่อหึ ๆ อย่างอารมณ์ดี แต่แทนที่ท่านจะหันไปหยิบพระเครื่องหรือเครื่องรางอะไรยื่นให้เขา ท่านกลับยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนชายผ้าขาวม้าที่เขาปูกราบท่าน แล้วบอกอย่างทีเล่นทีจริงว่า "เอาไปเถอะนี่แหละของดี"แม้เพียงเท่านี้ หนุ่มราดก็แสนดีใจ กราบท่านอีก ๓ ครั้งแล้วลากลับบ้าน แต่นั้นมาเขาเชื่อมั่นว่าผ้าขาวม้าผืนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารคุ้มกันให้เขาแคล้วคลาดจากผองภัย เมื่ออยู่บ้านก็เอาบูชาไว้บนที่สูงไม่นำมาใช้อย่างผ้าขาวม้าธรรมดาอีกต่อไป เมื่อออกจากบ้านไปไหน ๆ ก็นำติดตัวไปด้วยไม่ขาด และนับตั้งแต่นั้นมาเมื่อมีทุกข์ร้อนประการใด เขาจะยกผ้าขาวม้านั้นทูนขึ้นเหนือหัวตั้งจิตเป็นสมาธิระลึกถึงพระคุณเจ้าหลวงพ่อ ขอให้อภินิหารของท่านช่วยขจัดความทุกข์ร้อนนั้นให้สิ้นไป ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จดังปรารถนาทุกครั้ง นอกจากนี้เขายังประสบโชคลาภไม่ขัดสนยากไร้เหมือนกาลก่อน โดยเหตุนี้จึงทำให้หนุ่มราดเลื่อมใสศรัทธาในอภินิหารของพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่บุพกรรมนั้นไม่มีใครหรืออำนาจอะไรจะฝืนได้ ฉะนั้นในกาลต่อมาหนุ่มราดจึงได้กลายเป็นอาชญากรขั้น "ไอ้เสือ" ตามบุพกรรมที่กำหนดมา ทางการประกาศจับตายและตั้งสินบนเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับผู้จับได้ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย แต่ไม่มีใครสามารถจับหรือปราบเขาได้ เพราะผ้าขาวม้าที่พระคุณเจ้าหลวงพ่อปานเหยียบชายให้เขานั้นได้ยังผลให้เนื้อหนังของเขาอยู่ยงคงกระพัน ปืนผาหน้าไม้หอกดาบไม่ทำอันตรายแก่เขาได้เลย คราวหนึ่งเขาหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจนมุมโดยวิ่งตกลงไปบ่อที่น้ำแห้งบ่อหนึ่ง ลึกท่วมหัว เจ้าหน้าที่ล้อมปากบ่อไว้และต้องการจับเป็นจึงร้องบอกให้เขาขึ้นมาให้จับเสียดี ๆ แต่หนุ่มราดซึ่งกลายเป็น "ไอ้เสือร้าย" ไม่เอาด้วยอุบนิ่งอยู่ก้นบ่อ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายก็ขัดใจขึ้นมาเปลี่ยนเป็นจับตายระดมยิงปืนลงไป แต่ลูกปืนหาได้ระคายผิวของไอ้เสือราดไม่ เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนวิธีเป็นขอร้องให้ชาวบ้านที่มามุงดูช่วยหาไม้ไผ่เสี้ยมปลายแหลมเป็นปากฉลามมาให้ แล้วแทงลงไปที่ร่างของเสือราด ไม่ระคายผิวของเสือร้ายอีก แต่คราวนี้เสือร้ายเกิดความคิดว่าขืนอุบอยู่ในบ่อซึ่งไม่มีทางหนีคงไม่เข้าทีเสียแล้วจึงตะกายขึ้นจากบ่อ เจ้าหน้าที่จึงกลุ้มรุมกันช่วยจับ แต่เสือราดดิ้นสลัดลื่นหลุดวิ่งหนีไปได้เหมือนกับว่าตัวเขาลื่นอย่างปลาไหล เจ้าหน้าที่วิ่งไล่จนหอบหมดแรงไปตามกันก็หาทันไม่ เป็นอันว่าเสือราดหนีรอดตาจนไปได้อย่างลอยนวลเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง และนี่ก็ใช่ว่าเขามีคาถาอาคมขลังหรือพระเครื่องของขลังของเกจิอาจารย์อื่นใดติดตัวเลยนอกจากผ้าขาวม้าที่ชายข้างหนึ่งเจ้าพระคุณหลวงพ่อปานท่านเหยียบให้นั้นผืนเดียวเท่านั้น เมื่อรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่คราวนั้นแล้ว เสือราดก็เตลิดหนีออกจากพระราชอาณาจักรไทย ไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินโดยกลับเนื้อกลับตัวเป็นสุจริตชนอยู่ในรัฐเคดาห์ ไทรบุรี สหพันธรัฐมลายู และการงานอาชีพก็เจริญรุ่งเรืองยังผลให้มีฐานะมั่งคั่ง เมื่อพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานมรณภาพ เขาเป็นคนหนึ่งในบรรดาชาวพุทธที่มาขอแบ่งอัฐิของพระคุณเจ้าหลวงพ่อไปบรรจุไว้ในสถูปที่สร้างขึ้น ณ วัดพุทธศาสนาที่ตำบลบากาบาตา ไทรบุรี ปัจจุบันตายไปแล้วเพราะความชรา



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    พระเครื่องหลวงปาน วัดนาประดู่ พ.ศ.2506

    พระอาจารย์ทิม ท่านเคยอยู่วัดนาประดู่ โดยศึกษากรรมฐานจาก พระอาจารย์แดง วัดนาประดู่ .... เช่นนั้น พระเครื่องหลวงพ่อปาน วัดนาประดู่ จึงมีความเกี่ยวพันธ์กับท่าน ... มวลสารในการสร้างพระจึงมีส่วนผสม พระหลวงพ่อทวด 2497 จำนวนมาก เรียกได้ว่า องค์ชำรุดตำโขลกใส่ไปเลยครับ นอกจากนี้ เนื้อว่านที่พระอาจารย์ทิม ท่านเตรียมจะสร้างรุ่นพินัยกรรม ได้นำมาผสมในหลวงพ่อปาน วัดนาประดู่ ด้วย ... นอกจากนี้ยังมีว่านอื่น ๆ ที่มาเพิ่มเติม เรียกได้ว่า เป็นว่านทั้งยอดทั้งสิ้น ... คนเฒ่า คนแก่ เคยกล่าวไว้ว่า "พระอาจารย์ทิม ตั้งใจสร้างพระเครื่องหลวงพ่อปาน ให้ลูกหลานติดตัวคู่กับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด"


    ผมรักพระเครื่องท้องถิ่นบ้านผม ... กว่าจะสร้างมาแต่ละรุ่น ให้เวลาเตรียมการ ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี ในพระ 1 รุ่นครับ >__<

    [​IMG]

    พระหลวงพ่อปาน วัดนาประดู่ ปี37
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    พระพุทธสิหิงค์ ณ.พระที่นั่งพุทไธสวรรย์

    ในจำนวนพระพุทธรูปสำคัญ พระพุทธสิหิงค์มีความเป็นมาสับสนที่สุด เนื่องจากมีหลายองค์ นอกจากองค์หลักที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์แล้ว ยังมีที่เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ตรัง วัดโคกขาม สมุทรสาคร และทุกที่ก็อ้างว่าเป็นองค์จริงที่ถูกสร้างขึ้นในลังกา

    อาจารย์พิเศษ เจียรจันทร์พงษ์ ยืนยันว่าทุกองค์เป็นองค์จริง เพียงแต่ก็ทราบกันดีว่า องค์ที่เชียงใหม่สร้างขึ้นที่ล้านนา องค์ที่นครฯสร้างที่ภาคใต้ องค์ที่กรุงเทพฯสร้างขึ้นที่สุโขทัย

    คำยืนยันของผู้รู้ขั้นสุดท้าย ไม่มีพระพุทธสิหิงค์องค์ไหนในประเทศไทย สร้างจากลังกา


    ที่มา:ไทยรัฐ

    ขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2013
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,494
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญเจริญพร พระอาจารย์สุรศักดิ์ (จื่อ) พนฺธมุตฺโต วัดเขาตาเงาะ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ พระผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศิษย์หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต
    เหรียญที่ระลึกงานแสดงมุทิตา สักการะ ทำบุญเจริญอายุวัฒนะมงคล 70 ปี 2556 ศิษย์อำเภอโนนแดง นครราชสีมา สร้างถวาย พระอาจารย์จื่อ อธิฐานจิตเมื่อวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2556 เวลา 19.09 น.
    เหรียญเจริญพร เนื้อทองคำ 28 เหรียญ
    เนื้อนาค 3 เหรียญ
    เนื้อตะกั่ว 30 เหรียญ
    เนื้อเงิน 160 เหรียญ
    เนื้อชนวนไม่ตัดปีก 72 เหรียญ
    เนื้อชนวน 3,999 เหรียญ
     
  6. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    รูปก็สวย ธรรมะก็คม...ชอบมากครับพี่ปู..(^_^)
     
  7. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    เอาอากาศดีๆริมชายหาดอ่าวมะนาวมาฝากครับพี่ปู ^__^

    ถ่ายรูปมาสดๆร้อนๆเลยพี่...ลมทะเลช่วงนี้ดีมั๊กๆ

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  8. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    น้อมกราบพระพุทธสิหิงค์....

    ขอบคุณข้อมูลครับพี่ปู...
     
  9. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    เล่นผ่านมือถือกดอนุโมทนาพอไหว เพราะปุ่มใหญ่หน่่่อย, แต่likeลำบากมากเลยยยยยพี่่ปู....
     
  10. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,460
    like ยากสุด ๆ
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,494
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]


    ขออภัยด้วยครับ ภาพใหญ่ไปหน่อย ด้านล่างสุด เป็นหลวงพ่อเกษม กับหลวงปู่โง่นครับ

    พระชัยวัฒน์ พุทธวิโมกข์ หลวงปู่โง่น สรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ด้ดำริที่จะสร้างพระพุทธวิโมกข์ขนาดบูชาติดตัว เมื่อปี 2528 เป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้แก่เหล่าทหารที่ประจำการอยู่ตามฐาน ห้วยโกร๋น หินร่องกล้า ดอนมะเกลือ เมืองน่าน ทุ่งช้าง ท่านจัดสร้างและอธิษฐานจิตเสร็จแล้ว ก็นำไปมอบให้กับเหล่าทหารดังกล่าว พุทธคุณที่ปรากฏแก่เหล่าผู้กล้ารั้วของชาตินั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีทางแคล้วคลาดปกป้องอุบัติภัยได้อย่างรอบด้านเลยทีเ ดียว จัดเป็นของดีที่น่าบูชาติดตัวเพื่อหวังพึ่งพุทธคุณได ้เป็นอย่างดี เนื่องจากผ่านการปลุกเสกและอธิษฐานจิต โดยหลวงปู่โง่น โสรโย และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่สำคัญ ท่านทั้งสองยังเป็นสหธรรมิกที่เคยพบปะกันหลายครั้งหลายหนด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2013
  12. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ตอนที่สาม
    หลังจากได้สนทนาและทำการตกลงกับเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยในการหาแนวร่วมกราบเรียนให้ท่านสอนกรรมฐาน

    เมื่อไปถึงเหมือง หลังจากปฏิบัติภารกิจการงานเสร็จ ก็ได้มีโอกาสกราบหลวงพ่อและฟังท่านสนทนาเรื่องราวต่าง ๆ

    พอสบโอกาสเพื่อนก็สะกิด ผมก็เลยกราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่อครับ พวกผมอยากเรียนกรรมฐานครับ ต้องทำอย่างไรบ้างครับ”

    ท่านก็หัวเราะและบอกแต่เพียงว่า “ก็ท่องคำว่า พุทโธ ไป หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ” ตกลงวันแรกได้มาเท่านี้ก็ต้องกลับบางพลีแล้วมาท่องเอาเองครับ

    ครั้นถึงวันพฤหัสในสัปดาห์เดียวกัน น้อง ๆ ที่เหมืองก็โทรมาบอกว่า คืนนี้สองทุ่มหลวงพ่อจะสอนกรรมฐานพี่จะมาหรือเปล่า

    ถ้ามาจะได้จัดขันธ์ครูไว้ให้ ผมก็คุยกับเพื่อนว่าจะไปกันทันไหม ดูจากเวลาที่ต้องขับรถไปก็ฉิวเฉียดแต่ก็ตอบตกลงว่าไป ซึ่งก็เดินทางไปทันเวลาพอดี

    ตกลงคืนนั้นก็ได้ถวายขันธ์ครูเพื่อมอบให้หลวงพ่อท่านเป็นครูผู้สั่งสอนอบรม และคืนนี้เองที่ผมได้รับประสบการณ์ในการปฏิบัติที่แปลกสำหรับผม

    ในคืนนั้นหลวงพ่อก็ให้ทำพิธียกขันธ์ครูพร้อม ๆ กันทุก ๆ คน มีคนเข้าร่วมประมาณ 14-15 คน ก็นั่งกันในเรือนกรรมฐานที่สร้างไว้เป็นที่พักของลูกศิษย์นั่นแหละครับ

    หลังจากเสร็จพิธี หลวงพ่อก็ให้สมาทานพระกรรมฐานโดยพูดตามหลวงพ่อ ซึ่งต่อมาผมก็ค่อยทราบว่าเป็นคำสมาทานในสายผู้ฝึกมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำโดยตรง

    หลังจากสมาทานเรียบร้อยท่านก็ให้ดับไฟและบริกรรมคำว่า “นะมะ พะทะ” โดยหายใจเข้า ท่อง “นะมะ” หายใจออกท่อง “พะทะ” ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจิตจะสงบ

    เมื่อได้บริกรรมไปได้สักครู่ หลวงพ่อท่านก็บอกให้คณะผู้ปฏิบัติยกจิตขึ้นจุฬามณี ไปกราบพระพุทธเจ้า

    ซึ่งผมมีแต่ความสงสัยว่า

    "ยกจิต" คืออะไร

    "จุฬามณี" คืออะไร

    "พระพุทธเจ้า" หน้าเป็นอย่างไร

    งุนงงและสับสนอยู่พักใหญ่กับการบริกรรม "พุทโธ" และ "นะมะ พะทะ"

    จนกระทั่งรู้สึกเบื่อและคิดว่า"ช่างมัน" จะไปหรือไม่ไปขอบริกรรมแบบไม่เห็นอะไรก็ได้

    เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น จิตเริ่มสงบไม่อยากเห็น ไม่อยากยกจิตออก "ผล" จึงปรากฏครับ

    เดี่ยวเล่าต่อนะครับ ว่า "ผล" ที่ว่าคืออะไร?



    ไม่แน่ใจว่าหลักร้อยหรือหลักพัน เพราะไม่ค่อยได้พบเห็นผ่านเวป
    พระกริ่งพิทักษ์โรคา ๒

    [​IMG]
     
  13. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    น้อมกราบหลวงพ่อเปิ่น -/\-
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,494
    ค่าพลัง:
    +53,107

    ผมว่าพี่โญ เล่าก็เหมือนสอนคนอื่นไปด้วยในตัวนะครับ ชอบๆ ครับ เพราะผมเอง นั่งสมาธิได้ไม่นาน นั่งๆ ท่องๆ แล้วก็ เวลานอน ก็จะท่องๆ จนหลับ แต่ไม่ค่อยได้อะไรครับ ส่วนมากชอบสวดมนต์มากกว่า
     
  15. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    อนุโมทนาด้วยคร๊าบบ รอฟังผลต่อไป
     
  16. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    จ๊วยอ่ะ พี่ปู ทำไมหลวงพ่อเปิ่นจึงต้องคู่กับเสือครับ
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,494
    ค่าพลัง:
    +53,107
    กราบหลวงพ่อเปิ่น

    สวัสดีครับพี่ปู ........
     
  18. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    [​IMG]


    น้อมกราบหลวงพ่อเปิ่น...
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ขอบคุณครับคุณเอ็ม การเล่าก็เป็นเพียงต้องการนำประสบการณ์มาถ่ายทอด

    ซึ่งก็ย่อมมีเหมือนและแตกต่างกันไปตาม"ของเดิม" ที่มีอยู่ครับ

    คงไม่ถึงกับเป็นการสอนได้หรอกครับ รู้ไว้แค่เปรียบเทียบก็พอว่า

    ถ้าเป็นเหมือนกันผมหลุดมาได้อย่างไร

    ยืนยันครับทุกคนมีส่วนแตกต่างในวิธีการแน่นนอนครับ....
     
  20. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    น่าจะเป็นวิชาที่สำเร็จน่ะครับรูปสมัยหนุ่มๆของท่านมีแววตาดุเหมือนเสือเลย คล้ายๆหลวงพ่อหลิวท่านก็สำเร็จวิชาเต่าเรือน ตอบเอาตัวรอดไปก่อนน๊าเด๋วหาข้อมูลให้อีกทีคร๊าบบ

    สวัสดีครับน้องเอ็ม
     

แชร์หน้านี้

Loading...