สวรรค์กับโลกเราทั้งโลกที่ไหนใหญ่กว่ากันครับ และอีก 1 คำถาม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 25 พฤศจิกายน 2013.

  1. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    มันยังไม่เกิดขึ้นก็เลยสรุปแบบนั้นไม่ได้
    สวรรค์อาจจะขยายตามจำนวนเทวดาก็ได้
    เพราะวิมานยังเกิด โบ๊ะ!!! ตามบุญเลย
     
  2. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    นี่ได้ความรู้มากๆเลยนะครับ ขอบคุณทุกๆคนมากเลยครับ

    ใช่ครับ ผมงอล 55555

    ว่าแต่คำว่า "วิมานเกิดตามกำลังบุญ" วิมานนี้จะหมายถึงตัวบ้านเราและสวนหลังบ้านเราด้วยป่ะครับ เพราะผมอ่านหนังสือธรรมะหลายๆเล่มวิมานของแต่ละท่านหรือในพระไตรปิฎกตรงส่วนของวิมานวัตถุวิมานจะชอบมีสวนใหญ่ๆด้วยอ่ะครับ แสดงว่าวิมานเกิดขึ้นพร้อมกับสวนส่วนตัวหรอครับ ??
     
  3. Middle Earth

    Middle Earth Middle Earth

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +799
    ลองพิจารณากันดูนะครับ
     
  4. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    หลวงพ่อฤาษีเคยพูดว่า ไม่ว่าเราคิดจะทำบุญอะไร มิมานก็เกิดแล้ว ยิ่งบุญเยอะ บุญใหญ่ วิมานก็ยิ่งใหญ่ สว่างสวยระยิบระยับ ทั้งแก้วทั้งทองงามจับจิตจับใจ แก่คิดยังไม่ทันได้ลงมือทำบุญ ก็เกิดวิมานแล้วจ้า เพราะจิตเราเป็นกุศลก็ได้บุญตอนนั้น
     
  5. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ว้าวววว มีวิมานของตนแล้วก็ต้องมีสวนทิพย์อยู่รอบๆนั่นเอง สุดยอดเลยครับ

    งี้เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาชั้นล่างๆที่อยู่ตามต้นไม้คงไม่มีล่ะสิครับ
     
  6. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    แปลว่าบุญเกิดตอนคิดไง
    ไม่ได้พูดสักคำว่าต้องลงมือทำ

    แปลอีกรอบก็ได้ว่า ที่คุณ sirigul เอาคำพูดหลวงพ่อฤๅษีมาแย้งว่ายังไม่ทันต้องลงมือทำบุญวิมานก็เกิดแล้ว
    ผมก็อธิบายว่าไอ้ข้างบนที่ผมบอกน่ะ ผมบอกว่าวิมานเกิดตามบุญ ไม่ได้บอกว่าต้องลงมือทำแล้ววิมานค่อยเกิด
    คุณพลังบอดมาไม่เห็นด้วยเรื่องอะไร จะไม่เห็นด้วยก็ไปไม่เห็นด้วยกับข้างบนด้วยเลย
    เรื่องเดียวกันไม่เห็นด้วยอันนึงไลค์อันนึงมันดูเหมือนคนบ้านะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤศจิกายน 2013
  7. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    ใจเย็นๆครับท่านไผ่
    เอ๊ะ คาดว่าตอนนี้คงจะใจเย็นลงมากแล้ว



    อารมณ์ใจเย็นนี่แหละครับ เป็นอารมณ์ของสวรรค์
    จงอย่ามีอารมณ์ร้อน เพราะอารมณ์ร้อนไม่ใช่อารมณ์ของชาวสวรรค์
    เพราะฉะนั้นจงรักษาใจให้มีความสงบเยือกเย็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เถิด
     
  8. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    อยากรู้น่ะครับ สงสัย ตัวกระผมเองไม่หวังไรมาก กำลังใจนิพพานไม่มีเลย ขอพยายามหาทางบรรลุโสดาบันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ขอไปเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์รอพระศรีอาริย์เมตไตรมาสอนโปรดให้บรรลุธรรมละกัน แห่ะๆ
     
  9. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    ดีมากเลยครับ
     
  10. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    โมทนาสาธุ
    ท่านคิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
    ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  11. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    จริงด้วยครับท่านๆ ผมลืมคิดไปเลยอายุเทวดาชั้นดาวดึงส์ 1000 ปีทิพย์ (36ล้านปีมนุษย์) ผมจะอยู่ทันยุคพระศรีอาริย์ไหมเนี่ยครับ ??

    เพราะกว่าจะมนุษย์อายุลดลงเหลือ 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นทุก 10 ปี จนถึงเกือบแสน 36 ล้านปีกลัวไม่ทันยุคท่านจริงๆครับ

    ขอบคุณสำหรับธรรมทานนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ธมมสุนทโร

    ธมมสุนทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +107
    ศีล 5 ไม่ขาด เป็นใช้ได้แล้ว
     
  13. InvisibleForce

    InvisibleForce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +659
    ตามที่ผมเข้าใจ คือ เฉลี่ยทุก 100 ปี อายุมนุษย์จะเปลี่ยน 1 ปี
    ดังนั้นจนกว่ามนุษย์จะไปอยู่ในยุคพระศรีคือ 80,000 ปีขาลง คือ
    1) อายุขาลง จากเฉลี่ย 75 ลดถึง 10 ปี :
    . ใช้เวลา 65*100= 6,500 ปี
    2) อายุขาขึ้น จากเฉลี่ย 10 ขึ้นเป็น 100,000 ปี (บางที่ว่าถึงอสงไขย) :
    . ใช้เวลา 99,990*100= 9,999,000 ปี
    3) อายุขาลง จากเฉลี่ย 100,000 ปี ลงถึง 80,000 ปี :
    . ใช้เวลา 20,000*100= 2,000,000 ปี

    รวมระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ = 12,005,500 ปี
    (เดาอย่างมีหลักการ , สิ่งที่ไม่ทราบคือ 1. อายุสูงสุดเลยแสนปีหรือไม่
    2. กฎทุกร้อยปีเปลี่ยนหนึ่งปีจะตายตัวตลอดหรือไม่)

    หากประมาณตามนี้จริง และอายุเทวดาชั้นดาวดึงส์ที่ 36ล้านปีมนุษย์
    ก็จะแสดงว่าทันครับ

    แต่มาคิดดูอีกที เรื่องอายุมนุษย์สูงสุด น่าจะเกินแสนปี
    เพราะปกติเท่าที่เคยทราบ พระพุทธเจ้าจะมาโปรดในช่วงขาลง
    ที่มนุษย์สามารถเห็นความเสื่อมและความทุกข์ได้
    ซึ่งถ้าอายุมนุษย์สูงสุดที่ 1,000,000 ปี ก็ต้องบวกอีก 100 ล้านปีเลย

    แต่ที่น่าแปลกคือโลกธาตุเรานี้ นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ธาตุจากการปล่อยรังสี
    พบว่าดาวโลกหรือแผ่นดิน มีอายุแล้วกว่า 6 พันล้านปี
    ที่สงสัยคือ หลายพันล้านปี นั้นเกิดอะไรขึ้น และเป็นช่วงไหน
    เพราะว่าหากรวมเรื่องพระบาทสี่รอยก็ รวมๆ ไม่น่าเกิน หลักร้อยล้านปี เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  14. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    คำนวณแบบเดียวกันเลยครับ

    เมื่อคืนผมก็เดาแบบมีมีหลักการโดยการคำนวณแบบนี้ครับ แต่ผิดๆถูกๆ

    แต่ผมว่าน่าจะแสนปีนะ เพราะถ้าถึงล้านปีอาจไม่เข้ากับเรื่องของ สุปติฎฐิตาเทพบุตร ที่จะหมดอายุขัยแล้ว กลัวตกนรกจึงไปฟังธรรมพระพุทธเจ้าจนบรรลุโสดาบัน แล้วอยู่จนถึงยุคพระศรีอาริย์และจุติลงมาบวชเป็นพระอรหันตสาวกในยุคนั้นครับ ซึ่งประจวบเหมาะพอดีนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  15. saisiam_amn

    saisiam_amn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +12
    มีท่านผู้หนึ่งบอกว่า สวรรค์ นรก ซ่อนอยู่ในอีกมิติหนึ่งของโลกเรานี่แล ^^
     
  16. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    "ยา สา สพฺพเทวตานํ วตฺถาลงฺการวิมานสรีรานํ ปภาทฺวาทสโยชนานิ ผราติ, มหาปุญญฺานํ ปน สรีปปฺภาโยชนสตํ ผรติ"

    แปลความว่า "รัศมีที่ออกจากร่างกาย และอาภรณ์ภูษาที่เป็นเครื่องประดับของเทพบุตร เทพธิดา พร้อมทั้งวิมานอันเป็นที่อยู่ของตน บางองค์ก็มีรัศมีสว่างถึง ๑๐๐ โยชน์" (รัศมีที่มีความสว่าง หรือรัศมีน้อย หรือรัศมีหม่นหมอง หรือวิมานของเทวดาก็มีความอลังการไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกุศลกรรมที่ตนได้กระทำไว้ในภพก่อน)


    ไว้เจอกันที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นะครับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2013
  17. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    1. ขนาดของสวรรคชั้นต่างคิดว่าคงจะวัดเป็นขนาดที่แน่นอนไม่ได้เพราะไม่มีรูป มีแต่จิตที่แสดงให้เราเห็นได้ตามภูมิธรรมของแต่ละคน ถึงเวลาจะใหญ่มันก็ใหญ่ ถึงเวลาจะเล็กมันก็เล็ก ตามความเหมาะสมของมัน และเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

    2. เทวดาคงไม่ไดบินแน่ๆ เพราะไม่มีรูป มีแต่จิต จิตนั้นเป็นทิพย์ นึกจะไปไหนก็ไปได้ทันที ตามบารมีของเทวดาท่านนั้น ไม่ได้มีปีกบินหรือเหาะได้แน่ๆ ที่เห็นว่าเป็นตัวเหมือนคน เพราะว่าเทวดาประสงค์ให้เห็นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

    3. พระพุทธเจ้าประสงค์ให้สัตว์ทั้งหลายไปเสวยสุขบนสวรรค์เป็นอย่างต่ำที่สุดแน่นอน เพราะสวรรค์มีแต่ความสุข ทั้งยังมีโอกาสได้บำเพ็ญบารมีต่อด้วยการฟังเทศน์จากพระอริยเจ้าทั้งหลายที่เป็นเทวดาได้ง่ายกว่าเป็นมนุษย์ ที่ต้องทำงานเลี้ยงชีพ

    ส่วนการไปเกิดในนรกต้องรับแต่ความทุกข์ไม่มีความสุขแม้แต่นิดเดียว การจะบำเพ็ญบารมีแทบจะเป็นไปไมได้เลย

    การจะไปเกิดเป็นเทวดาในชั้นต่าง ๆ จะต้องเป็นผู้มีความเกรงกลัวและไม่ยินดีต่อการทำชั่วต่างๆ ทั้งจะต้องมีความประสงค์ว่าเมื่อตนเองตายจะขอไปเกิดเป็นเทวดาชั้นนั้นๆ หากก่อนจะตายกุศลกรรมที่ทำไว้ดลให้คิดถึงความดี ก็จะทำให้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นที่ตนต้องการได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...