ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

***รับทราบครับ***

 

เรื่องปิดทอง ก็จะอธิบายซักหน่อยครับ นี่เป็นหนึ่งในวิชาที่แม่ผมมี ก็คือ ท่านจะลงทองเปลวแท้ ประจุเสกอัดด้วยคาถา และก็ต้องลงในวันครู คือวันพฤหัสบดี หากถามว่าเอาทองไปทำไม ทองนี้ให้นำไปปิดที่ไฝ บริเวณที่ลับ ในร่มผ้า ทั้งหญิงและชาย หากใครไปดูดวงกับแม่ผม แม่จะรู้ทันที ว่าคนนี้มีไฝที่ลับ แต่ก็มีบางคนเถียงว่าไม่มี แม่ผมก็บอกให้กลับไปค้นดูให้ละเอียดบางคนมันจาง และเป็นไฝที่หายาก จนต้องกลับมาเพื่อบอกว่ามี แม่ผมจะต่อต้านการจี้ไฝที่ลับออก เพราะบางคนบอกว่ามีไฝนี้แล้วจะร้อนรน เจ้าชู้ กินลูก กินผัว แม่ผมจะบอกฆ่าไฝได้ แต่ถ้าฆ่าไม่ตายหรือไม่สำเร็จ เขาจะทำให้เราตกต่ำ สู้อยู่กับไฝนี้อย่างประณีประนอมไม่ได้ บางคน มีลูกยากเพราะไฝนี้ และทองที่ลงนี่แหละ คือ 1 ในทางแก้ไข เก้าแผ่น ปิดทุกวันพระ 9 วัน เดี๋ยวเห็นผลเอง .....บางคนก็มีลูกได้ บางคนก็ถูกหวยรวยเบอร์ ชีวิตก็ดีขึ้น ทะเลาะกับคู่ครองน้อยลง ทองเปลวที่ลงจะทำให้เย็นขึ้น ไม่ต้องกลัวเปื้อน เพราะทองแท้มีคุณสมบัติหายไปในเนื้อเราได้โดยไม่มีพิษต่อร่างกาย

 

เติมส่วนที่ขาดก่อนนิสนึงนะครับ ครั้งนี้ที่ไปวัดหนองเลง คือครั้งแรกนะครับ และก็จำคำพูดหลวงพ่อทาบ ตอนมารอหลังพวกผมลงจากรถ ให้ดี มีส่วนเกี่ยวข้องกับตอนต่อไปครับ

 

สวัสดีพี่มดพงษ์ คุณนัน และพี่ๆ ทุกท่านครับ

>>>> จบไวจังครับ..... คุณนัน <<<<

 

.........
....สนุกดี..มีสาระ..มากมาย....
....๑. หลวงพ่อทาบนี่..ท่านเก่งมากนะ..เสียดาย..ไม่เคยรู้จัก..อย่างว่า...
อาจารย์เมืองชลนี่..เก่งๆเยอะ..
.....๒. วิชาของแม่เรานี่..ถือว่าสุดยอด...อาเอง..เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้..เหมือนกัน
..คนรู้จัก..เคยไปหาพระ..ที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ในกรุงเทพนี่แหละ..ท่านก็ใช้วิชาคล้ายๆแบบนี้...ก็ไม่รู้ว่าได้ผลรึเปล่า...ไม่ได้ถามต่อ...เค้าบอกว่า..มีคนแนะนำมาอีกที..
.....แล้วแม่เรา..ไม่ได้ครอบให้ใครเหรอ..เสียดายวิชาโบราณ..ตัวเราเองมีพรสวรรค์..
..และ..รับGENE..มาจากแม่..อยู่แล้ว..น่าจะรับต่อไป..น่าจะทำได้ขลังไม่แพ้..แม่..
....ถึง..ตัวเองไม่อยากทำ..แต่ควรรับไว้ก่อน..ไม่ให้วิชาสูญหาย..เผื่อไว้เจอใคร..ที่
เหมาะสม..ก็ค่อยครอบและถ่ายทอด..ให้เขาต่อไป....
........นี่มัน..มรดกแห่งวัฒนธรรม..นะ....
...เพราะที่..ยังมีทำอยู่(อย่างที่อาบอก)..ก็ไม่ทราบว่า..ครบถ้วนสมบูรณ์..และขลังจริง
รึเปล่า...คราวนี้..ถ้าของไม่สมบูรณ์ถูกถ่ายทอดออกไป.....
...ก็เหมือนกับ..ที่อาเคยเล่าเกี่ยวกับ..เรื่องพิธีพุทธาภิเษก..ในสมัยนี้..ที่ทำกันแบบ
สุขเอา..เผากิน..นั่นแหละ..พลังและความขลังแห่งพิธีไม่มี..หรือ..มีน้อย(..เพราะไม่สมบูรณ์..ไม่ถูกต้อง)..ก็เลยไม่ช่วยอะไร..ได้มาก.....
.............................
...เอ้า..เป็นกำลังใจให้เสมอ....
...................................................

 

ขอบคุณเรื่องเล่าค่ำนี้.ด้วยครับกะลังมันเลยครับ
รอติดตามอ่านต่อครับ..นี่ถ้าเป็นหนังสือนี่อ่านแบบว่า.วางไม่ลง.
เรื่องวิชานี่ขออนุญาติแสดงความเห็นด้วยกับคุณอา modpong อีกหนึ่งเสียงครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมคิดว่า.ท่าน."องค์ใหญ่"ท่านจะมีหลักพิจารณาอย่างไรก็คงไม่มีใครทราบ แต่คุณ.สวนพลู.ก็มี"สมบัติเก่า"ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก.แบบนี้เรียกได้เต็มปากว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยแท้.เรียกได้ว่าหนึ่งในล้านยังน้อยไป..หมั่นสร้าง."สมบัติใหม่"ไว้ให้มาก.เชื่อว่าศาสตร์วิชาโบราณที่มีคุณประโยชน์ทั้งหลายจะยังคงอยู่และมีการสืบทอดแบบรุ่นต่อรุ่นได้ถ้าปฎิบัติตนดีและต้องมีจิตอาสาด้วย..หนักอยู่เหมือนกันนะ..เอาใจช่วยด้วยคนครับ..

 

ผมยังไม่เคยถามแม่เลยครับ ว่าท่านเรียนมาจากใคร วิชาลงทอง และอีกหลายๆวิชา เช่น เรียกผัว-เมีย กลับ ทำหุ่นผูก ทำให้เฉพาะเมียหลวงเท่านั้น เมียน้อยหมดสิทธิ์ และก็ถอนคุณไสย์ แม่ผมเคยโดนย้อนเล่นงานตัวเองด้วย น่ากลัวเลยหล่ะครับ แต่แม่ก็เลิกมานานแล้ว ไม่รู้ยังจำคาถาได้หรือป่าว

 

จิตอาสา นี่เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ ตอนนี้ก็ยังช่วยพระศาสนาอยู่เรื่อยๆ ใครเรียกใช้ก็ไปหมดแหละครับ ถ้าสะดวก

 

ตามอ่านตอนต่อไปครับพี่สวนพลู

 

........
....อาว่า...วิชาที่ควรเรียน..ก็คือวิชา..ที่ไม่เกิดผลทั้งด้าน..บวกและลบ..กับ...คนอื่น..เช่น..เรียกผัว-เมีย..อย่างที่ว่า...
...เพราะ..คนที่มาให้ทำก็ได้รับผลที่ดี..แต่ฝ่ายตรงข้าม..ได้รับผลร้าย..แน่นอนว่า..ผู้ที่ได้รับผลร้าย..ถ้ารู้ว่ามันเกิดมาจากไสยเวท...
..มันต้องสาปแช่ง..มีการเอาคืน..หรือ..อย่างเช่นที่เราเล่ามา..มาถึง..ผู้ทำพิธีด้วย
...ยิ่งถ้า..คนที่ได้รับผลร้าย..เป็นคนดี..แต่คนมาว่าจ้าง..เป็นคนไม่ค่อยดี..
..หรือ..ถึงดี..แต่คู่ครองเดิม..ไปด้วยกันไม่ได้..อยากไปหา..คนใหม่..ก็คงได้รับ..ยาปกรรม..มาด้วย...อย่างงี้หลีกเลี่ยงซะดีกว่า....
....เอาเฉพาะ..วิชาที่ส่งผลให้กับ..ผู้ขอตรงๆ..และตรงไปตรงมา..เช่น
..ปิดทอง..เพื่อช่วยแก้ไข..และ..ส่งเสริม..เช่นนี้...ดี...
.....วิชาแบบหลวงอา..ของ..อา..ที่เล่าไปนี่ก็ไม่ไดี..เรียกว่า..ไม่เฉพาะ..เจาะจง..ดือ..ทำของออกไป..ให้เขาขอเอาเองตามประสงค์..ถ้าเขาขอแบบ..ที่ส่งผลร้ายให้คนอื่นด้วย..ไอ้บาปกรรม..ก็มาย้อนกลับเข้ามาหา..คนที่ทำของนั้น..คือ..คนทำของนั้นจิต..เป็นกุศล..ไม่ได้คิดว่า..คนที่เอาไป..จิตอกุศล..แถมทำเสร็จ..ไม่ทำบุญให้เจ้าของวิชาและเจ้ากรรมนายเวร..มันก็..ย้อนกลับเข้ามาหา..คนทำ..อย่างงี้อันตราย..ถึงวิชานี้จะสูญไป..ก็ต้องทำใจ..เพราะมีข้อเสีย..อย่างที่ว่า....
......................................
....ดังนั้น..นอกจากวิชา..ปิดทองนี่..ก็ควรเรียน..วิชาอื่นที่ดี..ช่วยคนได้..ตรงไปตรงมา..เฉพาะเจาะจง..ไม่ส่งผลเสีย..กับ..บุคคลที่สาม..นะ..ดีที่สุด...เรียนเอาไว้ด้วย..เรียนไว้..ครอบไว้..แต่ยังไม่ต้องทำก็ได้..จดบันทึก..เป็นหลักฐาน..หลักการไว้...แค่นี้ก็ถือว่า..ช่วยชาติได้
....รักษา.วิถีไทย..ซึ่งนับวัน..มันจะค่อยๆสูญสิ้น..
......วันนึง..มันอาจเป็น..ประโยชน์กับตัวเอง..และ..กับผู้อื่น..ก็ได้...

 

.....
..ความจริงแล้ว..เรื่องวิชาปิดทอง..หรือ..อะไรอย่างอื่นนี้..อายังไม่อยากให้เล่า..อะไรไปก่อน..ทั้งนั้น...แต่เมื่อ..เล่าแล้วก็แล้วไป..เพราะมัน..จะเสียรูป..ของเรื่องราว
..ที่ผู้อ่านติดตามอยู่..เขาจะได้รู้ว่า..ช่วงเวลาของเรา..ที่เพิ่มขึ้น..ค่อยๆ..สัมผัสวิชา..อะไรไปบ้าง..เห็นวิชานี้..จากแม่เมื่อไหร่..อย่าลืมว่าที่เราเขียนอยู่...
..มันคล้ายกับ..ตำนานชีวิต..ต้องปล่อยให้มันไหลเลื่อนไปตาม..เวลาของชีวิต..ที่ค่อยๆ..ผ่านไป..ดังนั้น..เราควร..เล่าเรื่องนี้อีกรอบ..ให้ละเอียด..เมื่อครั้งแรก..ที่เราได้เห็นวิชานี้...รีบปล่อยของ..ออกไปหมด..มันก็จืดซิ..หลานเอ้ย....

 

555+ รับทราบครับคุณอา เสียท่าไปนิดนึงครับ แต่ยังมีเก็บไม้เด็ดไว้อีกเยอะครับ น้อมรับคำแนะนำครับ เด๋วจะปล่อยข้อมูลตามเรื่องราวที่จะเล่าดีกว่าครับ กร่อยไปนิดนุง อิอิิ

 

อิิอิ มารอไม้เด็ดครับอ้าย
หนาวแล้วครับผมนอนคลุมโปงอ่านเลย 555

 

***แสดง ว่า ยังมีอาวุธลับ อยู่อีกหลายอย่างนะครับ..........
รอครับท่าน***

 

เมื่อครั้งยังเด็ก .........(7)
กราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่าน ทั้งทักทายบ้างไม่ทักทายบ้าง และอ่านเพื่อความรู้บ้าง ที่สำคัญคือ ขอบพระคุณคุณอาเจ้าของกระทู้ที่เปิดช่องให้ได้เล่าประสบการณ์เพื่อการแบ่งปัน.............ต่อเลยนะครับ.......หลังจากหลวงพ่อทาบได้ควักมีดประจำตัว ชี้กวาดไปรอบๆ บางท่านที่องค์ลงอยู่แต่หันหลัง ก็มีอันต้องนิ่งไป หรือเรียกว่า องค์ออก หรือหลุด ก็ไม่แน่ใจ หลวงพ่อทาบ ในตอนนั้น นั่งเคี้ยวหมาก หงุบหงิบๆ เก็บมีด แล้วก็ให้ทุกคน นั่งเป็นวงกลม รอบๆศาลา ที่เป็นเหมือนลานกว้างๆ แต่ก็มีเสากั้นบ้างในบางขณะ แล้วก็เริ่มทำการบวงสรวง มีบทโองการไหว้ครู และยังมีการรำถวายบรมครูของหลวงพ่อทาบท่าน แต่ที่รำถวาย ผมจำได้ว่า เป็นผู้ชาย ออกแนวแต๋วๆ หน่อย ใส่โจงกระเบนแดง ใส่เสื้อยืดสีขาว ชุดแบบนักศึกษานาฏศิลป์ แล้วก็รำแบบมีม้าปลอมแขวนข้างตัว ใช้ดาบบ้าง ขวานบ้าง รำสลับกันไป รำด้วย วิ่งด้วย กระโดดเหมือนม้าย่องบ้าง ควงมีด ควงขวาน ไปเรื่อยๆ แต่ก็วนอยู่เพียงใน วงกลมมนุษย์ ที่ไม่ค่อยกลมซักเท่าไหร่ตามแต่พื้นที่จะอำนวย..........เมื่อรำได้จนจบ..... (ในตอนนั้นผมก็ดูเพลินดีครับ สนุกเหมือนกัน วิ่งไปหาคนนู้นทีคนนี้ที เพลินๆ แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าการรำแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรใครทราบก็ช่วยบอกผมด้วยครับ) ....ท่านผู้รำก็ร่วงตรงที่นั่งของตัวเอง(เหมือนองค์หลุด)....เสร็จแล้วก็มานั่งปกติ แล้วก็ทำการเวียนเทียน ส่งเทียนที่ผูกติดกัน3เล่ม ในกรวยอะไรซักอย่าง ประมาณ 9 อันได้ จับขึ้นมาได้ ก็วนๆ หมุนๆ กัน 3 รอบ แล้วเอามือปัดเปลวเทียน 1 ที ให้ทำครบทุกคน ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จนเทียนทุกกรวย วนครบ 3 รอบ ...(ผมอยู่ข้างๆแม่ ก็แอบยุ่งไปทำกับเขาด้วย ถ้าไม่ได้แม่ก็เจอผมงอนแน่ๆ หุหุ).......เมื่อวนครบถ้วนแล้ว หลวงพ่อทาบ ท่านก็จัดการ เริ่มพิธีครอบครู โดยนำเศียรฤาษี (ชื่ออะไรก็ไม่ทราบนะครับ เพราะไม่เคยได้ถามยังเด็กอยู่มาก) ........... แล้วก็เข้าคิวเรียงกันอย่างมีระเบียบ เพื่อทำการครอบครู.........แต่เหตุการณ์ตอนนี้ ถึงขั้นอลหม่าน คือ ใครครอบเสร็จ ก็ออกมาดิ้นพรวดพราด บางคนชักดิ้นชักงอ บางคนก็รำสวยๆ แบบอินเดีย บางก็บอกว่า พระแม่อุมา กาลี ฯลฯ แต่ละองค์ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีอีกคนที่บอกว่าตัวเอง คือฤาษีตาไฟ องค์ลงทีไรนั่งร้องไห้ทุกทุก หลับตาปี๋ บ่นบอกว่า สงสารร่างมันๆๆ เมื่อโตมา ผมก็งง เป็นถึงฤาษี จะมานั่งร้องไห้ทำไม........และไม่เคยได้แสดงปาฏิหารย์อะไรเลย เหมือนเป็นอุปทานมากกว่า.....กินหมาก ปากยังพองเลย.........ทีนี้ แม่ผมของปลายๆ ของวงกลมมนุษย์ ก็ได้ต่อคิวท้ายๆ กว่าจะถึงก็นานพอสมควร แต่ที่อยู่ข้างแม่ไม่ห่าง ก็คือผม ..... ติดแจเลย เมื่อคนผ่านไปเยอะๆ องค์นั้นองค์นี้ก็ลงกันเพียบ.....บนศาลา เหมือนกับละครเวทีตอนออกรบ.........เหมือนโขนก็ไม่ปาน....ตอนพระรามบุกไปรบกับทศกัณฑ์ มันวุ่นวายขนาดหนัก ไอ้ผมก็กลัวจะโดนเหยียบ แถมข้างๆผม ลุงหนิด.......องค์พญานาคลง ดิ้นแบบ บี-บอย ทำตัวกระดึบๆ กลิ้งบ้าง ทำมือกับศอกเป็นหงอน แล้วก็พ่นน้ำลายออกมา เยอะมาก พ่นดัง ฟู่ๆ ฟู่ๆ ฟู่ ตลอดเวลา......ในใจเด็กๆตอนนั้นแปลกใจมากๆ อะไรกันก็ไม่รู้ ที่เหนื่อยสุดคือ แม่ผม ...... เพราะต้องตอบคำถาม เจ้าหนูจำไม อย่างผมตลอดเวลา (เด็กๆมีนิสัยขี้สงสัย จนป่านนี้ยังเป็นอยู่ จะสงสัยไปเรื่อยๆ เวลาไปบ้านเพื่อนๆต่างจังหวัด คนแก่ๆจะชอบ เพราะผมชอบถามให้ท่านตอบ) เมื่อใกล้หลวงพ่อทาบขึ้นเรื่อยๆ ....ประมาณ อีก 2-3 คิว แม่ก็จะครอบเศียรแระ และอยู่ๆ แม่ก็ไม่คุยกับผม...........เงียบบบ..............หน้าแม่ก็เปลี่ยนไป........จากคนผิวขาว กลับกลายเป็นดำ...........นั่งหลังค่อม...แล้วก็ไม่ยอมคุยกับผม.........หลวงพ่อท่านเหลือบมามองแม่ผมอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่พิธีเริ่ม และตั้งแต่มาถึงวัดตั้งแต่แรกแล้ว..........เมื่อหลวงพ่อทาบเห็นแม่ผม เปลี่ยนโหมด.......ท่านจึงบอกว่า.........................ขอจบตอนก่อนนะครับ แล้วติดตามตอนต่อไปครับ

 

***อั้ยย่ะ เพิ่งนึกได้ ลืม .......ไปเลย เอิ๊กเอิ๊ก***

 

***อั้ยย่ะ กำลังเพลิน จบซะแล้ว แหะๆ***

 

.....
..เอ้อ..มันดี..อย่างว่า..พิธ๊ไหว้ครูนี่..ส่วนใหญ๋..จะวุ่นวาย..แต่ก็สนุกไป
อีกแบบ..อาไม่เคยหรอก..ได้แค่สังเกตการณ์ไกลๆ..เราเล่าได้..บรรยากาศดี..แต่เราลืมบอกว่า..แม่เราเริ่มไปหาท่านตั้งแต่เมื่อไหร่..และ..เพราะอะไร..หรือ..ใครถึงได้เจอกับท่าน..แล้วท่านรู้ตั้งแต่แรกเลยรึเปล่า..ว่า..แม่เราเป็นร่างทรงของ..ฤาษีนารอท...
................................
..เอ้าขอบคุณ..สำหรับบทความ..และ..เป็นกำลังใจให้เสมอ..

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ เรื่องของคุณ สวนพลู กำลังสนุกอ่านเพลินและได้ความรู้มากแถม ได้บรรยากาศคนสามสิบอัพค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุงและคุณสวนพลูทุกวันค่ะ

 

ขอตอนต่อไปด่วนคร้าบบบบบบบบบบบบ
กำลังจะไคลแม็กซ์เลย ฮ่า ๆๆๆๆ