พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Sunny

    Sunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    1,405
    ค่าพลัง:
    +8,071
    ต้องขอขอบคุณในคำชมของคุณ Sithiphong มากครับ แต่ต้องขอออกตัวว่าผมไม่ได้เก่งกาจอะไรสมกับคำชมของคุณ Sithiphong แต่อย่างใด ในทางกลับกันคุณ Sithiphong เองนั่นแหละที่ผมยอมรับว่าเป็นผู้ที่ศึกษาข้อมูลของพระวังหน้าอันเป็นการเผยแผ่เชิดชูเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ท่านเจ้าคุณกับทั้งเป็นผู้ที่ศึกษาทรงพิมพ์ของพระวังหน้าด้วยความเสียสละเทอดทูนและบูชาอย่างจริงจัง นอกจากนั้นยังเป็นหน่วยกล้าตายทะลวงฟันไม่มีเว้นหากพบกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องและชอบธรรม ยากที่จะหาผู้ใดเทียบได้

    หากเปรียบเป็นมวยแล้วคุณ Sithiphong เป็นมวยมาตรฐานที่มีค่ายฝึกสอนและครูมวยชั้นดีตำแหน่งแชมป์อยู่ไม่ไกล ผมเป็นแค่เพียงมวยที่อาศัยชกตามงานวัดต่าง ๆ แล้วแต่โอกาสจะอำนวย แต่อย่างน้อยที่เรามีวาสนาร่วมกันก็คือ เรามีครูมวยชั้นเซียนเหยียบเมฆ อย่างปู่ประถม หรือ อ.ประถม อาจสาคร เป็นผู้สอนและชี้แนะเทคนิคต่าง ๆ อย่างไม่มีปิดบัง ทำให้วงการรับรู้ว่าอย่างน้อยนักมวยจากการฝึกสอนของ ปู่ประถม ก็เป็นนักมวยที่ใครหาอาจจะต่อกรได้ ถึงแม้จะไม่ได้สังกัดอยู่ใต้เงาปีกของผู้มีอิทธิพลในวงการก็ตาม

    ช่วงที่ผมตระเวณฝึกปรือเสาะหาความรู้ในยุทธจักรวงการพระเครื่อง นับหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เข้าไปคลุกคลีอยู่กับวงการการสร้างพระ เข้าไปร่วมพิธีปลุกเสกกับสำนักดัง ๆ มาก็หลายที่ รู้จักคนในวงการทำพระก็มากมาย แทบไม่ได้มีเวลาให้ครอบครัวของตัวเองก็ด้วยใจมันรักในเรื่องพระเครื่องและวัตถุมงคลต่าง ๆ ผมบอกได้เลยว่าส่วนใหญ่ที่พบเจอมาหาที่บริสุทธิ์ได้ยาก ทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวล้วนแต่เข้ามาหาผลประโยชน์ใส่ตัว ตั้งแต่พวกรับจ้างสร้างพระ พวกสื่อโฆษณาต่าง ๆ แม้กระทั่งเจ้าพิธี ส่วนใหญ่ทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองกันทั้งนั้น ซึ่งหากเอากันแต่พอเหมาะพอควรหรือพอหอมปากหอมคอก็พอทำเนา แต่นี่กลับหลงไหลในความงามของอสรพิษจนลืมนึกถึงอันตราย สุดท้ายมักจะลงเอยกันไม่ค่อยดีเท่าไร

    สิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาทำให้ผมเกิดความเบื่อหน่าย และไม่ค่อยเชื่อถือในวงการนี้เท่าไรนัก หากผมไม่ได้เห็นไม่ได้รับรู้ด้วยตนเองหรือจากผู้ที่เชื่อถือได้ผมจะขออนุญาตไม่เชื่อไว้ก่อน ต่อเมื่อได้ตรวจสอบหรือทดลองเสียก่อนแล้วจึงจะสามารถเชื่อได้ อันนี้เป็นนิสัยส่วนตัวที่เกิดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในวงการนี้ ทั้งนี้ เพราะผมเคยพบว่าพระที่ออกโฆษณาให้บูชากันนั้น บางทีในวันทำพิธีพุทธาภิเษกยังปั๊มไม่เสร็จด้วยซ้ำไป มีแต่กล่องเปล่า ๆ หลอกคนดู แล้วนัดรับของในวันหลัง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เสกนั่นเอง เป็นมวยล้มต้มคนดูมีเพียงวัตถุเปล่า ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับศรัทธาของผู้ใช้เป็นที่พึ่ง หรือบางทีมวลสารที่โฆษณาเขียนกันไปเกินความจริง ล้วนแต่โฆษณาชวนเชื่อทั้งนั้น พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบ่อนทำลายความดีงามของวงการทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ต้องขอบอกว่าไม่ได้หมายความว่าของดีจริง ๆ พิธีดีจริง ๆ ไม่มีนะครับ เพียงแต่ผมอาจจะไม่ค่อยได้พบก็ได้

    เจตนาของคุณ Sithiphong ในกระทู้พระวังหน้าผมยอมรับว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวผมก็เห็นสอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกัน แต่ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความว่าเจตนาของท่านอื่นไม่บริสุทธิ์แต่อย่างใด อย่างน้อยที่ผมรู้จักก็มี อ.จเร หรือ Dej Amarin ผู้เป็นครูบาอาจารย์ และ Guawnรุ่นน้องที่เทอดทูนและบูชาในแนวทางเดียวกัน และอีกหลายท่านที่ผมอาจไม่ได้เอ่ยนามแต่ยอมรับด้วยจิตเจตนาที่เคารพอย่างแท้จริง

    วันหน้ามีโอกาสจะมาเล่าประสบการณ์ของตนเองกับพระวังหน้าให้ฟังกันครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ได้ทำบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ต้องยอมรับกันตรงๆว่า คุณSunny<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_845702", true); </SCRIPT> ก็เป็นคนที่เก่งเรื่องพระวังหน้าคนนึงเช่นกัน และเก่งกว่าคนที่แค่ตรวจพลังอิทธิคุณได้บางคนเยอะ ไม่ใช่เพียงแต่ว่า รับข้อมูลมาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    การดูพระวังหน้า นอกจากตรวจพลังอิทธิคุณได้หรือตรวจพลังอิทธิคุณเป็นนั้น ต้องดูเนื้อหาทรงพิมพ์เป็นด้วย

    นอกจากคุณSunny<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_845702", true); </SCRIPT> แล้วยังมีคุณนายสติ ที่เก่งมากๆเช่นกัน ทั้งสองท่านนี้ เป็นผู้ที่ศึกษาพระวังหน้าหรือพระกรุวัดพระแก้วจากท่านอาจารย์ประถม อาจสาครมามากกว่าผมเยอะครับ


    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมยังยืนยันในคำพูดเดิมผมอยู่

    ทองคำย่อมเป็นทองคำอยู่วันยังค่ำ ถึงแม้จะอยู่ที่ไหน อย่างไรย่อมเป็นทองคำอยู่ครับ

    แต่สิ่งที่ผมต้องทำคือ การเชิดชูครูบาอาจารย์ที่เก่งโดยหาคนเทียบได้ยากในปัจจุบัน ประสบการณ์ของท่าน เราจะต้องศึกษาและเรียนรู้เพื่อที่ต้องถ่ายทอดให้กับคนรุ่นต่อๆไปให้ได้รู้ถึงเรื่องราวต่างๆที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครได้ศึกษามาทั้งชีวิต ท่านเป็นผู้ที่ศึกษาและค้นคว้าทั้งตำรา(ที่เชื่อถือได้) ,ทั้งการปฎิบัติ(ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพระพิมพ์ , การลบผง(ตามตำราของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ,การศึกษาเรื่องของโหราศาสตร์ ฯลฯ

    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ประถม อาจสาครที่ได้เมตตาสั่งสอนคณะศิษย์ทุกๆคน

    ขอบคุณสำหรับคำชมคุณsunnyครับ

    และที่สำคัญ ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาโดยตลอดครับ

    มหาโมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://palungjit.org/showthread.php?t=100183&page=9


    <TABLE class=tborder id=post850296 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">7/12/2550, 08:45 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#165 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_850296", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต



    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:19 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,913 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 17,114 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,202 ครั้ง ใน 6,158 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4328 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_850296 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->บทสวดน้ำมนต์ของ หลวงพ่อสิริ สิริวฒฺโน วัดตาล


    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    <!-- / icon and title --><!-- message -->บทสวดน้ำมนต์

    ของ หลวงพ่อสิริ สิริวฒฺโน วัดตาล ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    สาธุ สาธุ สาธุ

    อิติปิโสภะคะวา ข้าพเจ้าจะขอกล่าวสรรเสริญพระคุณบิดามารดา คุณนางแม่พระโพสพเจ้า ๑๙ คุณพระพุทธเจ้า ๕๖ คุณพระธรรมเจ้า ๓๘ คุณพระสงฆเจ้า ๑๔ คุณพระอาจารย์ ๓๐ ทัต คุณพระกรรมวาจา คุณพระอุปัชฌาย์ คุณพระกรรมฐาน คุณพระธรณี ๒๑ คุณพระแม่คงคา ๑๒ คุณพระพาย ๖ คุณพระเพลิง ๗ คุณพระอากาศ ๑๐ ทัต คุณอักษร ๔๔ คุณอักขระ ๓๓ คุณอัสสวาส คุณปัสสวาส คุณมิสสวาส คุณดวงแก้ว ๓ ประการ คุณศีล ๕ คุณศีล ๘ คุณศีล ๑๐ คุณศีล ๒๒๗ คุณปัญญา คุณพระโสดา คุณพระสกิทาคา คุณพระอนาคา คุณพระอรหันต์ คุณมรรค ๔ คุณผล ๔ คุณพระนิพพาน ๑ จึงเป็น ๙ คุณพระนวโลกุตตรธรรม
    ขอเดชะข้าพเจ้าได้ร่ำเรียนศิลปศาสตร์วิชาการใดๆ ขอให้ประสิทธิ คุณพระอาทิตย์ ๖ คุณพระจันทร์ ๑๕ คุณพระอังคาร ๘ คุณพระพุธ ๑๗ คุณพระเสาร์ ๑๐ ทัต คุณพระพฤหัสบดี ๑๙ คุณพระราหู ๑๒ คุณพระศุกร์ ๒๑ คุณพระเกตุ ๙ คุณท้าวเวสสุวรรณอันเรืองเดช คุณพระนเรศ คุณพระนารายณ์ คุณพระอินทร์ คุณพระพรหม คุณพระยม คุณพระกาฬ คุณพระจตุโลกบาลทั้งสี่ คุณพระมาตุลี คุณพระภูมิเจ้าที่ คุณสมเด็จพระเจ้ากรุงพาลี และพระไวยทัตเทวาเป็นที่เคารพแก่ชุมชน คุณทาน คุณศีล คุณสัจจะ คุณวิริยะ คุณขันติบารมี คุณพระพรหมวิหารสี่ เป็นที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คุณพระคาถา ว่านยา เลขยันต์ พิสมร ตะกรุด ประเจียด และมงคล คุณทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์จบพระไตรปิฎก คุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระธาตุคาถา คุณพระสถูปเจดีย์ คุณพระศรีมหาโพธิ์ อันรุ่งโรจน์ชัชวาล คุณพระพรหมวิหารทั้ง ๗๐๐,๐๐๐ จักรวาล โดยคณนา คุณพระโมคคัลลาน์ คุณพระสารีบุตร คุณพระอุปคุตเถระ คุณภควัมบดี คุณพระตรีนิสิงเห ขอเดชะพระคุณทั้งผอง คุณพระฤๅษีนารอด คุณพระฤๅษีนารายณ์ คุณพระฤๅษีตาวัว คุณพระฤๅษีตาไฟ คุณพระฤๅษีประลัยโกฏิ พระคุณสมเด็จพระมหาฤๅษี ๑๐๘ พระองค์อันทรงฤทธา พระคุณพระมหากษัตริย์อันสูงสุด พระคุณสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๙๐๐,๐๐๐ จักรวาล
    สาธุ สาธุ สาธุ
    อิติปิโสภะคะวา ข้าพเจ้าจะขอกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณัง พระธรรมคุณัง พระสังฆคุณัง คุณบิดามารดา คุณครูอุปัชฌาย์คุณัง ขออัญเชิญองค์สมเด็จพระอิศวรผู้เป็นเจ้าเสด็จมาเป็นตาซ้าย ขออัญเชิญองค์สมเด็จพระนารายณ์เสด็จมาเป็นตาขวา ขออัญเชิญพระแม่คงคาเสด็จมาเป็นน้ำลาย ขออัญเชิญพระพายเสด็จมาเป็นลมปาก ขออัญเชิญพระยานาคเสด็จมาเป็นสร้อยสังวาลย์ ขออัญเชิญพระกาฬเสด็จมาเป็นหัวใจ ข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใด จงสัมฤทธิ์ผลทุกประการ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    ข้าพระบาท ข้าพระบาท ข้าพเจ้า นึกถึงพระคุณ บุญคุณ พระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ สูงสุดยอดไม่มีประมาณ ไม่มีที่เปรียบ ไม่มีอะไรจะวัด ครูบาอาจารย์ ๑๐๘ ครูบาอาจารย์ ๑๐๘ ครูบาอาจารย์ ๑๐๙ ครูบาอาจารย์ ๑๐๙ ครูบาอาจารย์ทั่วประเทศไทย ครูบาอาจารย์ทั่วประเทศไทย ครูบาอาจารย์เก่าแก่ ร้อยปี พันปี หมื่นปี แสนปี ล้านปี โกฏิปี ร้อยโกฏิ พันโกฏิ หมื่นโกฏิ แสนโกฏิ ล้านโกฏิ มหาบรมจอมโกฏิ ครูบาอาจารย์เก่าแก่ ร้อยกัลป์ พันกัลป์ หมื่นกัลป์ แสนกัลป์ ล้านกัลป์ โกฏิกัลป์ พระมหาบรมจอมโกฏิกัลป์ มากนับไม่ถ้วน บรมครู บรมบูรพาจารย์ บรมปรมาจารย์ ทิศาปาโมกข์ พระครูเฒ่า เก่าก่อน ปัจจุบัน พระครูเลข พระครูยันต์ พระครูว่าน พระครูยา พระครูตำรับ พระครูตำรา พระครูเวทมนต์ดลคาถา พระครูนะโม ก ข ก กา พระครูอักขระขอมไทย จบหมดสิ้น ที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาเล่าเรียนมา ครูบาอาจารย์ที่ได้ยินได้ฟังมา จนกระทั่งครูพักลักจำ บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยตัวเดียว บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยทุกๆ ตัว บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน เป็นโกฏิ ร้อยโกฏิ พันโกฏิ หมื่นโกฏิ แสนโกฏิ ล้านโกฏิ มหาบรมจอมโกฏิ บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยมากนับไม่ถ้วน บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยมากไม่มีประมาณ บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยมากไม่มีที่เปรียบ บุญคุณครูบาอาจารย์ตัวหนังสือไทยมากไม่มีอะไรจะวัด บุญคุณครูบาอาจารย์ กสิน ๑๐ อภิญญา ๖ สมาบัติ ๘ กรรมฐาน ๔๐ พระวิปัสสนากรรมฐาน พระมหาบาลีอภิธรรม พระคาถาอาการวัตตาสูตร ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก มหาพุทธาภิเษก มหาชินบัญชร ครูบาอาจารย์ พระมหาธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร มหาสมัยอาทิตต์อนัตต์ พระมหาคาถาพัน คาถาหมื่น คาถาแสน พระมหาปาฏิโมกข์ ครูบาอาจารย์ ๑๒ ตำนาน ๗ ตำนาน มนต์พิธี ครูบาอาจารย์ภาณยักษ์ ครูบาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ อาฬารดาบส อุทกดาบส ชีวกโกมารภัจจ์ ครูบาอาจารย์ธรรมโชติสมัยศึกบางระจัน ครูบาอาจารย์ นักธรรม นักเทศน์ นักสวด นักแหล่ ครูบาอาจารย์โหร ครูบาอาจารย์โหราศาสตร์ ครูบาอาจารย์มหาคงกระพัน มหาแคล้วคลาด มหาอุด มหาอำนาจ เมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ ครูบาอาจารย์เสดาะกุญแจโซ่ตรวน ครูบาอาจารย์เสกใบมะขามเป็นตัวต่อ ครูบาอาจารย์เสกขวานเป็นไก่ ครูบาอาจารย์เสกสังกะสีเป็นปลากัด ครูบาอาจารย์เสกหัวปลีเป็นตัวกระต่าย ครูบาอาจารย์เสกดอกแคเป็นนกกระยาง ครูบาอาจารย์แปลงเป็นจรเข้ ครูบาอาจารย์แปลงเป็นเสือโคร่ง ครูบาอาจารย์สะกดเรือบิน สะกดรถ สะกดเรือ ครูบาอาจารย์ระเบิดน้ำ ครูบาอาจารย์เดินบนน้ำ ครูบาอาจารย์ล่องหนหายตัว ครูบาอาจารย์เหาะเหิรเดินบนอากาศ ครูบาอาจารย์ ๑๕ ชั้นดิน ครูบาอาจารย์ ๑๖ ห้องชั้นฟ้า
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
    ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท นึกถึงพระคุณองค์สมเด็จพระอรหังสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ ร้อยพระองค์ พันพระองค์ หมื่นพระองค์ แสนพระองค์ ล้านพระองค์ โกฏิพระองค์ ร้อยโกฏิ พันโกฏิ หมื่นโกฏิ แสนโกฏิ ล้านโกฏิ มหาบรมจอมโกฏิ พระคุณองค์สมเด็จพระอรหังสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้เสด็จล่วงลับไปแล้ว ร้อยกัลป์ พันกัลป์ หมื่นกัลป์ แสนกัลป์ ล้านกัลป์ โกฏิกัลป์ มหาบรมจอมโกฏิกัลป์ มากนับไม่ถ้วน
    ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท นึกถึงพระคุณองค์สมเด็จพระอรหังสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเจ้าของพระพุทธศาสนานี้ นึกถึงพระคุณองค์สมเด็จพระอรหังสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะเสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาลภายภาคหน้านี้ มากนับไม่ถ้วน นึกถึงพระคุณพระธรรมที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มากนับไม่ถ้วน พระธรรมในปัจจุบันนี้ พระธรรมที่ยังมีมาภายในภาคหน้า มากนับไม่ถ้วน นึกถึงพระคุณพระอริยสงฆ์ พระสมมุติสงฆ์ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มากนับไม่ถ้วน พระอริยสงฆ์ พระสมมุติสงฆ์ในปัจจุบันนี้ พระอริยสงฆ์ พระสมมุติสงฆ์ที่จะมีมาในภายภาคหน้า มากนับไม่ถ้วน
    ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท นึกถึงพระคุณองค์สมเด็จพระอรหังสัมมาสัมพุทธเจ้า พระคุณพระธรรม พระคุณพระสงฆ์ ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท นึกถึงพระคุณองค์สมเด็จพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ได้เสด็จปรินิพพานล่วงลับไปแล้ว มากนับไม่ถ้วน นึกถึงพระคุณบิดามารดา พระคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลาย คู่สวด พระอุปัชฌาย์ นึกถึงพระคุณ บุญคุณ ทานบารมี ทานอุปบารมี ทานปรมัตถบารมี ศีลบารมี ศีลอุปบารมี ศีลปรมัตถบารมี เนกขัมมะบารมี เนกขัมมะอุปบารมี เนกขัมมะปรมัตถบารมี ปัญญาบารมี ปัญญาอุปบารมี ปัญญาปรมัตถบารมี วิริยะบารมี วิริยะอุปบารมี วิริยะปรมัตถบารมี ขันติบารมี ขันติอุปบารมี ขันติปรมัตถบารมี สัจจะบารมี สัจจะอุปบารมี สัจจะปรมัตถบารมี อธิษฐานบารมี อธิษฐานอุปบารมี อธิษฐานปรมัตถบารมี เมตตาบารมี เมตตาอุปบารมี เมตตาปรมัตถบารมี อุเบกขาบารมี อุเบกขาอุปบารมี อุเบกขาปรมัตถบารมี นึกถึงพระคุณพระมหาบริจาคทั้ง ๕ ทรัพย์ ร่างกาย บุตรธิดา ภรรยา และชีวิต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่บำเพ็ญมา
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
    ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขออาราธนาเสด็จพ่อ เสด็จปู่ เสด็จทวด พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร องค์พระแก้วมรกต เสด็จพ่อปู่พระพุทธชินราช เสด็จพ่อปู่พระมงคลบพิตร เสด็จพ่อปู่วัดพนัญเชิง เสด็จพ่อปู่วัดเกศไชโย เสด็จพ่อปู่พระพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา เสด็จพ่อปู่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เสด็จพ่อปู่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เสด็จพ่อปู่วัดบ้านแหลม แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม เสด็จพ่อปู่วัดบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    เกล้ากระหม่อมขออาราธนาพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ องค์สมเด็จพระสังฆราช มหาสมณเจ้าทั้งสามพระองค์ องค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้าทั้งหลาย องค์สมเด็จพระสังฆราชทั้งหลาย
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
    อาตมาภาพขออัญเชิญดวงพระวิญญาณอันสูงสุดยอด องค์สมเด็จพระเจ้าพรหมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้าพรหมจอมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้ารามคำแหงมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้ารามคำแหงจอมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้าเม็งรายมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้าเม็งรายจอมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้านเรศวรมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้านเรศวรจอมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้านารายณ์มหาราช องค์สมเด็จพระเจ้านารายณ์จอมมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินจอมมหาราช องค์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระปิยมหาราช องค์พระบาทสมเด็จพระภูมิพลมหาราช องค์สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    อาตมาภาพขออัญเชิญดวงพระวิญญาณอันยิ่งใหญ่ ท่านเจ้าคุณพระยาพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ขออัญเชิญดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่ พระยาสีหราชเดโชท่านปราบปรามมหาสงครามอันยิ่งใหญ่ ขออัญเชิญดวงวิญญาณท่านขุนพลเสมาผู้ยิ่งใหญ่ในกรุงศรีอยุธยา ขออัญเชิญดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่ พันท้ายนรสิงห์ ขออัญเชิญดวงพระวิญญาณ วิญญาณบรรพบุรุษทั้งหลายที่ได้สละชีวิตปกป้องผืนแผ่นดินไทย
    สาธุ สาธุ สาธุ
    พระพุทธัง อาราธนานัง พระธรรมมัง อาราธนานัง พระสังฆัง อาราธนานัง
    ข้าพระบาท ขออาราธนาพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ เสด็จพ่อปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เสด็จพ่อปู่โต วัดระฆัง ขออาราธนาหลวงพ่อศุข หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อรุ่ง หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อ หลวงปู่วัดเก้ายอด วัดบางปลา จังหวัดสมุทรสาคร พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อพริ้ง หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อกลั่น หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อเดิม หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อเงิน หลวงปู่เงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร พระอาจารย์กรมหลวงชุมพร ขออาราธนาหลวงพ่อเอี่ยม หลวงปู่เอี่ยม หลวงทวดเอี่ยม วัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี ขออาราธนาหลวงพ่อเอี่ยม หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง บางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร ขออาราธนาหลวงพ่อแช่ม หลวงปู่แช่ม วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต ขออาราธนาหลวงพ่อแช่ม หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง จังหวัดนครปฐม ขออาราธนาหลวงพ่อปาน หลวงปู่ปาน คลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ขออาราธนาหลวงพ่อปาน หลวงปู่ปาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขออาราธนาหลวงพ่อขาว หลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ บางเขน กรุงเทพมหานคร ขออาราธนาหลวงพ่อแฉ่ง หลวงปู่แฉ่ง วัดบางพัง ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ขออาราธนาหลวงพ่อบุญทัน หลวงปู่บุญทัน จังหวัดปราจีนบุรี ขออาราธนาหลวงพ่อเสาร์ หลวงปู่เสาร์ พระอาจารย์ของพระอาจารย์มั่น ขออาราธนาหลวงพ่อมั่น หลวงปู่มั่น จังหวัดสกลนคร ขออาราธนาหลวงพ่อ หลวงปู่ครูบาศรีวิชัยที่สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ขออาราธนาหลวงพ่อเทียน หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี ขออาราธนาหลวงพ่อคล้าย หลวงปู่คล้าย จังหวัดนครศรีธรรมราช ขออาราธนาหลวงพ่อแดง หลวงปู่แดง วัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี ขออาราธนาหลวงพ่อเครื่อง หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงหาร จังหวัดอุดรธานี ขออาราธนาหลวงพ่อแหวน หลวงปู่แหวน หลวงทวดแหวน จังหวัดเชียงใหม่ ขออาราธนาหลวงพ่อโต๊ะ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร ขออาราธนาหลวงพ่อขาว หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู ขออาราธนาหลวงพ่อมุม หลวงปู่มุม จังหวัดศรีสะเกษ ขออาราธนาหลวงพ่อ หลวงปู่เจ้าคุณนอ วัดเทพศิรินทร์ ขออาราธนาหลวงพ่อ หลวงปู่พระมงคลเทพมุนี วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร ขออาราธนาหลวงพ่อเงิน หลวงปู่เงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม ขออาราธนาหลวงพ่อชอบ หลวงปู่ชอบ จังหวัดเลย ขออาราธนาหลวงพ่อ หลวงปู่ครูบาพรหมจักร พระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ขออาราธนาหลวงพ่อผาง หลวงปู่ผาง จังหวัดขอนแก่น ขออาราธนาหลวงพ่อฝั้น หลวงปู่ฝั้น จังหวัดสกลนคร ขออาราธนาหลวงพ่อเทสก์ หลวงปู่เทสก์ จังหวัดหนองคาย ขออาราธนาหลวงพ่ออุตตมะ หลวงปู่อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี ขออาราธนาหลวงพ่อเกษม หลวงปู่เกษม จังหวัดลำปาง ขออาราธนาท่านพระอาจารย์ และหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงทวด และพระธุดงค์ที่เคร่งครัดทั่วประเทศไทย พระธุดงค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย ขออาราธนาท่านพระอาจารย์ หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงทวด พระธุดงค์ที่มีฤทธิ์เดชเดชา ศักดานุภาพทั่วประเทศไทย
    สาธุ สาธุ สาธุ
    อาตมาภาพขออัญเชิญองค์สมเด็จพระเจ้าพ่อ องค์สมเด็จพระเจ้าปู่ องค์สมเด็จพระเจ้าตา พ่อครูฤๅษีนารอด พ่อครูฤๅษีนารายณ์ พ่อครูฤๅษีตาวัว พ่อครูฤๅษีตาไฟ พ่อครูฤๅษีประลัยโกฏิ พ่อครูฤๅษี ๑๐๘ พระองค์ทรงฤทธา พ่อครูฤๅษีศักดิ์สิทธิ์วิเศษ มากนับไม่ถ้วน อาตมาภาพขออัญเชิญองค์สมเด็จพระภูมิเจ้าที่ องค์สมเด็จพระเจ้ากรุงพาลี องค์สมเด็จพระไวยทัตเทวา อาตมาภาพขออัญเชิญองค์สมเด็จพระสยามเทวาธิราชเจ้า พระหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองอันเรืองฤทธิ์ อาตมาภาพขออัญเชิญเทพยดาเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในภูผา ห้วยเหว เกาะแก้ว เมืองหลวง จังหวัดวงศ์ เมืองใหญ่ ห้วย หนอง คลอง บึง บาง ไพรพฤกษา ทุกหย่อมหญ้าลดาวัลย์ มิใช่เท่านั้น อีกทั้งยักษ์ คนธรรพ์ นาคราชผู้เป็นใหญ่ อาตมาภาพขออัญเชิญเทพเจ้าทั่วทั้ง ๑๐ ทิศ มหาสมุทรจักรวาล มหาจักรวาล อนันตจักรวาล อาตมาภาพขออัญเชิญเทพเจ้าทั่วโลก อาตมาภาพขออัญเชิญเทพเจ้า ๑๖ ชั้นฟ้า อาตมาภาพขออัญเชิญท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ ทิศ อาตมาภาพขออัญเชิญพระผู้เป็นใหญ่ พระผู้เป็นเจ้าองค์สมเด็จพระอิศวรนารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    อาตมาภาพขออัญเชิญเทพเทวัญทุกชั้นฟ้า องค์สมเด็จพระอิศวรเจ้าโลกาเป็นประธานทรงโคอุสุภราชเป็นยานพาหนะอันใหญ่ยิ่ง ขออัญเชิญองค์สมเด็จขันทกุมารมิ่งโอรสราชทรงพญานกยูงมะยุรยาทพาหนะอันจงดี ขออัญเชิญองค์สมเด็จพระบรมจักกริชฤทธิเรืองศรีทรงครุฑโบยบินเวหาเหิรไม่มีผู้ใดล่วงเกินประมาทหมิ่น ขออัญเชิญองค์อมรินทร์เจ้าเวชยันต์ พระเวศวกรรมกับพระมาตุลี เทพเจ้าทั่วทั้งจักรราศีทุกแหล่งหล้า พระอาทิตย์เทวาเรืองเดช พระยานรัตนประเวศเที่ยวเวียนวง
    สาธุ สาธุ สาธุ
    นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ
    นะโมพุทธายะ นะโมธัมมายะ นะโมสังฆายะ
    ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
    เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ
    ตโจ ทันตา นขา โลมา เกศา
    ทุกขัง สมุทัยยัง นิโรธัง มัคคานัง ภะคะวา ภะคะวา
    พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สัมพุทเธ อะสังวิสุโล นะโมพุทธายะ วันทานัง ปาสุอุชา ทะโตทุนา ปะคะ หะปะทัง อิสะปะมิ พุทธะสังมิ อิสวาสุ มะอะอุ อิกะวิติ สุทธิเสตโถ อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ สังวิทาปุกะยะปะ อาปามะจุปะทีมะสังอังขุ สะธะวิปิปะสะอุ ทุสะนะโส จิเจรุนิ ตันนิพพุติง กะระมะถะ จะภะกะสะ นะมะพะทะ จะอะพะทะ จะอะภะตะ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง จิปิเสคิ คิปิจิเส สุสิโม พุทโธภะคะวา สุสิโม ธัมโมภะคะวา สุสิโม สังโฆภะคะวา
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โนโนโน นะโมพุทธายะ
    อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ
    อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโลปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา อะวิชสุนุตสานุสติ
    อิติปิโสภะคะวา อะระหัง อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สุคะโต อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะ สาระถิ อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวมนุสสานัง อิติปิโสภะคะวา พุทโธ อิติปิโสภะคะวา ภะคะวาติ
    พามานาอุ กะสะนะทุ
    เตชะสุเนมะ ภูจะนาวิเว
    อิติปารมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
    อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม
    นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ มะอะอุ อุอะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ
    พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทธัง อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะโมพุทธายะ พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทธัง อะระหังพุทโธ
    อะระหังสุคโตภะคะวา นะโมพุทธายะ อิติปิพุทโธภะคะวา
    อะสังวิสุโล ปุสะพุภะ จิเจรุนิ นะชาลีติ นะมะพะทะ
    ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงการะณา ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ สารพัดศัตรูวินาศสันติ
    สันติปักขาอะปัตตะนา สันติปาทาอะวัญจะนา มาตาปิตาจะนิกขันตา ชาตะเวทะปะฏิกกะมะ พระโสนามะยักโข เมตะทันตะปริวาสะโก อรุณีหะเตโหตุ เตชัยยะมังคลานิ
    สุโกปันจะ อากาเสจะ พุทธะทีปังกะโร นะโมพุทธายะ
    จะพุทโธ ท้าวเวสสุวัณโณ เวสสะพุทธสะ
    สักกัสสะวชิราวุธัง ยะมัสสะนัยนาวุธัง อาฬะวะกัสสะทุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะคธาวุธัง จัตตาโร วา อาวุธานัง เอเตสังอานุภาเวนะสัพเพยักขา ปะลายันติ

    บทกรวดน้ำ

    บุญกุศลทั้งหลาย มหากุศลทั้งหลาย มหากุศลอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ข้าพเจ้าขออุทิศให้บิดามารดา อุปัชฌาจารย์ ท่านปู่ย่าตาทวด ปู่ย่าตายาย ญาติกาทั้งหลาย ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย และเทวดาที่รักษาข้าพเจ้า พระที่เสวยอายุข้าพเจ้า เทพเจ้าทั้ง ๗ วัน พระภูมิที่บ้านข้าพเจ้า เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายที่บ้านข้าพเจ้า ผีเรือนทั้งหลายที่บ้านข้าพเจ้า และพระผู้เป็นใหญ่ พระผู้เป็นเจ้า องค์สมเด็จพระอิศวรนารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ พระจตุโลกบาลทั้งสี่ เทพเจ้าสิบหกชั้นฟ้า เทพเจ้าทั่วมหานภากาศ เทพเจ้าทั่วทั้งสิบทิศ มหาสมุทร จักรวาล มหาจักรวาล อนันตจักรวาล เทพเจ้าทั่วโลก และดวงพระวิญญาณจอมมหาราชทั้งหลาย จอมอริราชทั้งหลาย มหาราชทั้งหลาย พระเจ้าแผ่นดินไทยทั้ง ๙ พระองค์ และบรรพบุรุษทั้งหลาย องค์พระสยามเทวา พระหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองอันเรืองฤทธิ์ พระโพสพ นางพระธรณี นางพระคงคา พระพาย พระเพลิง ดิน น้ำ ลม ไฟ ศัตรูหมู่มารทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย มากไม่มีประมาณ จงเป็นสุขเป็นสุข หมดทุกข์ หมดภัย หมดอันตราย ทั้งหลายเทอญ
    บุญกุศลทั้งหลาย มหากุศลทั้งหลาย มหากุศลอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ข้าพเจ้าขออุทิศให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติกาทั้งหลาย ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอแผ่เมตตากรุณาไปในสรรพสัตว์ทั้งหลาย เบื้องต่ำตั้งแต่มนุษย์โลกลงไปถึงอเวจีมหานรก เบื้องสูงตั้งแต่มนุษย์โลกขึ้นไปถึงอกนิฏฐ์มหาพรหม และรอบครอบจักรวาล มหาจักรวาล อนันตจักรวาล จงเป็นสุขเป็นสุข หมดทุกข์ หมดภัย หมดอันตราย ทั้งหลายเทอญ
    บุญกุศลทั้งหลาย มหากุศลทั้งหลาย มหากุศลอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ข้าพเจ้าขออุทิศให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติกาทั้งหลาย ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย เมื่อชาติก่อน ทุกภพทุกชาติ ไม่มีประมาณ จงเป็นสุขเป็นสุข หมดทุกข์ หมดภัย หมดอันตราย ทั้งหลายเทอญ
    บุญกุศลทั้งหลาย มหากุศลทั้งหลาย มหากุศลอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ข้าพเจ้าขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ศัตรูหมู่มารทั้งหลาย ทั้งในชาตินี้และเมื่อชาติก่อน ทุกภพทุกชาติ ไม่มีประมาณ จงเป็นสุขเป็นสุข หมดทุกข์ หมดภัย หมดอันตราย ทั้งหลายเทอญ
    ข้าพเจ้าขออาราธนา พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และเสด็จพ่อปู่พระแก้วมรกต เสด็จปู่พระพุทธชินราช เสด็จปู่พระมงคลบพิตร เสด็จปู่วัดพนัญเชิง เสด็จปู่วัดเกศไชโย เสด็จปู่พระพุทธโสธร เสด็จปู่วัดเขาตะเครา เสด็จปู่วัดไร่ขิง เสด็จปู่วัดบ้านแหลม เสด็จปู่วัดบางพลี สมเด็จพระสังฆราชทุกๆ พระองค์ เสด็จปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เสด็จปู่โตวัดระฆัง พระธุดงค์ที่เคร่งครัดทั่วประเทศไทย พระธุดงค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย พระธุดงค์ที่เรืองฤทธิ์เรืองอำนาจทั่วประเทศไทย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในมนุษย์โลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในเทวโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในพรหมโลก จงคุ้มครองข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้า หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย หมดอันตราย หมดสรรพเคราะห์ หมดสรรพโศก หมดสรรพโรค หมดสรรพภัย หมดสรรพอันตราย ศัตรูหมู่มารทั้งหลายจงพ่ายแพ้ไป ศัตรูหมู่มารทั้งหลายจงเสื่อมสูญไป
    ขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญก้าวหน้ามหาศาล เจริญรุ่งโรจน์มหาศาล เจริญรุ่งเรืองมหาศาล ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนาน
    ขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ เจริญรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่ เจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนาน
    ขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญก้าวหน้าอันสูงสุดยอด เจริญรุ่งโรจน์อันสูงสุดยอด เจริญรุ่งเรืองอันสูงสุดยอด ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนาน
    ขอให้ข้าพเจ้าจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ อายุเจริญด้วยอายุ วรรณะขอให้มีรูปร่างสวยงามเหมือนทองคำธรรมชาติ เหมือนหนึ่งนายช่างผู้ฉลาด หลอมหล่อขัดเกลาไว้เป็นอันดี ขอให้มีรูปร่างสวยงาม ดังเทพเทวัญบนชั้นฟ้า สุขะขอให้มีความสุขความเจริญอันมโหฬารอันยิ่งใหญ่ พละขอให้มีกำลังวังชาถึงเจ็ดช้างสาร ขอให้มีมหาอำนาจใหญ่โตมโหฬารดั่งพญาราชสีห์ ขอให้มีฤทธิ์ดังพระโมคคัลลาน์ ขอให้มีปัญญาและกำลังทรัพย์มากกว่าคนทั้งหลายตลอดกาลนาน
    ขอให้ข้าพเจ้าได้สดับตรับฟังพระธรรมเทศนาของพระศรีอาริย์ สมเด็จพระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จมาตรัสรู้ ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นสาวกและได้สำเร็จมรรคผลนิพพานเทอญ

    คาถาคงกระพัน

    โอมพุ่งพล่าน ข้างหลังให้มีเหล็กกล้า ข้างหน้าให้มีเหล็กแข็ง ใครจะฟันแทงไม่เข้า ตีไม่แตก ปืนยิงไม่ออก ภัยอันตราย ศาสตราวุธหนึ่งร้อยแปดประการ ฆ่าไม่ตาย พระพุทธังบังข้างขวา พระธัมมังบังข้างซ้าย พระสังฆังบังกายา พระอะระหังบังเกศา อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
    พุทธคุณนัง นะโมพุทธายะ ธัมมะคุณนัง นะโมพุทธายะ สังฆคุณนัง นะโมพุทธายะ ครูอุปัชฌาจารย์คุณนัง นะโมพุทธายะ ปิตาคุณนัง นะโมพุทธายะ มาตาคุณนัง นะโมพุทธายะ พุทธัง บังเนตร ธัมมัง บังเนตร สังฆัง บังเนตร พุทธัง บังจักขุ ธัมมัง บังจักขุ สังฆัง บังจักขุ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
    คาถามหาอำนาจ

    อิติปิโสภะคะวา พยัคโฆ พยัคฆา สัตถาอาหะ
    คาถากันศัตรู

    ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงการะณา ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ สารพัดศัตรู วินาศสันติ
    คาถาเมตตามหานิยม

    นะเมตตานะ อุเมตตานะ อะเมตตานะ เมตตานะ พระพุทโธนะ พระธัมโมนะ พระสังโฆนะ เมตตานะ แด่ข้าพเจ้า
    คาถาโชคลาภ

    พระนาชาลีติ พระฉิมพลีจะมหาเถโร สุวรรณรัตนจินดามณีมามะ วัตถุวัตถามามะ โภชนะมามะ อาหารมามะ พลาพละมามะ มหาลาโภ มหาพรหมามามะ มหาอินทรมามะ มหาราชามามะ มหาราชเทวีมามะ มหาราชกุมาโรมามะ มหาราชกุมารีมามะ อัครมหาเสนาบดีมามะ มหาเศรษฐีมามะ มหาเศรษฐีนีมามะ
    สัพเพชนา มหาชนา สัพพะสุขัง สวัสดิลาภัง มหาลาภัง ภวันตุเม

    <!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    ขอเชิญร่วมสร้างทานบารมีกับหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโนและหลวงปู่ทองดี อนีโฆ108 งานบุญ กับพระและวัตถุมงคลชั้นเยี่ยม

    แจกฟรี !!! พระและวัตถุมงคลอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    How are you? ทุกท่าน ไม่ได้แวะเข้ามาวันนึง คิดถึงเพื่อนๆครับ เดี๋ยว ขออนุญาตหายตัวสัก 4วันแล้วจะกลับมาทักทายกันใหม่ครับ ท่าน ปา-ทานมีงานบุญใดส่งข่าวบอกด้วยครับ
    nongnooo...
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    รับทราบครับ

    วันเสาร์คงได้ทราบกันว่า ท่านใดจะมีงานบุญบ้างครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    มาบอกข่าวดีกันครับ ติดตามในกระทู้ ตอบคำถามพระธาตุเจดีย์ ๙ แห่ง รับมอบพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอนุรุทธ พระธาตุสิวลี นะครับ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=103525


    <TABLE class=tborder id=post850776 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:35 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_850776", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:37 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 1,985 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 14,338 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 19,825 ครั้ง ใน 2,042 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2195 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_850776 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ตอบคำถามพระธาตุเจดีย์ ๙ แห่ง รับมอบพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอนุรุทธ พระธาตุสิวลี
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เนื่องในเดือนมหามงคล และขึ้นปีใหม่นี้ ขอมอบ

    -พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานที่พระพุทธกัสสปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอธิษฐานจิตให้เสด็จมารวมกันในลักษณะที่คล้ายๆกัน จำนวน ๙ องค์
    -พระธาตุอนุรุทธอรหันต์เถรเจ้าจำนวน ๙ องค์
    -พระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าจำนวน ๙ องค์
    -พระสมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพานจำนวน ๙ องค์

    โดยสามารถร่วมสนุกตอบคำถามว่าพระธาตุเจดีย์ทั้ง ๙ แห่งนี้ มีชื่อว่าอะไร โดยผมได้บอกใบ้ถึงความสำคัญของพระธาตุเจดีย์แต่ละแห่ง และจังหวัดที่ตั้งไว้แล้ว ค่อนข้างยากอยู่ครับ แต่อยากให้ใช้ความสามารถ ความพยายามโดยส่งคำตอบมาทาง PM ถึงผมได้จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๐ จะเฉลยคำตอบ และแจ้งชื่อผู้ที่สามารถตอบถูกทั้ง ๙ แห่ง ทั้งนี้จะต้องตอบได้ถูกต้องทั้ง ๙ แห่งจึงจะได้รับมอบพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานที่พระพุทธกัสสปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอธิษฐานจิตให้เสด็จมารวมกันในลักษณะที่คล้ายๆกัน จำนวน ๙ องค์ พระธาตุอนุรุทธอรหันต์เถรเจ้าจำนวน ๙ องค์ พระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าจำนวน ๙ องค์ และพระสมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพานจำนวน ๙ องค์

    จะทำการ post ภาพพระธาตุเจดีย์คืนนี้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.banfun.com/buddha/teacherday.html

    <TABLE width=780 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=580>วันนี้ตรงกับ วันศุกร์ที่ ๗ ธันวาคม ปีพระพุทธศักราช ๒๕๕๐ </TD><TD align=right width=100><INPUT onclick=history.back(); type=image height=16 alt=back width=40 src="http://www.banfun.com/image/back.gif"></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width=780><TBODY><TR><TD class=cd16 width=80 rowSpan=2></TD><TD class=cd16 width=620>คำสวดไหว้ครูทำนองสรภัญญะ

    [​IMG]
    </TD><TD class=cd16 width=80 rowSpan=2></TD></TR><TR><TD class=cd16 width=620><CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD class=cd16 width="100%" bgColor=#ccffff>
    ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตตรา นุสาสกา

    </TD></TR><TR><TD class=cd16 width="100%">ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอรปเกิดประโยชน์ศึกษา ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
    ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
    ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
    ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
    ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทย เทอญ
    </TD></TR><TR><TD class=cd16 width="100%" bgColor=#ccffff>ปัญญา วุฑฒิ กเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหํ
    </TD></TR><TR><TD width="100%">*****

    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">อนึ่งข้าคำนับน้อม </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ต่อพระครูผู้การุณย์</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">โอบเอื้อและเจือจุน</TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ยัง บ่ ทราบก็ได้ทราบ </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ชี้แจงและแบ่งปัน </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ขยายอรรถให้ชัดเจน</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">จิตมากด้วยเมตตา</TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">และกรุณา บ่ เอียงเอน</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์</TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ให้ฉลาดและแหลมคม</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ขจัดเขลาบรรเทาโม-</TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">หะจิตมืดที่งุนงม</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">กังขา ณ อารมณ์ </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ก็สว่างกระจ่างใจ</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">คุณส่วนนี้ควรคำนับ </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร</TD></TR><TR><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">ควรนึกและตรึกใน </TD><TD class=cd16 vAlign=top width="50%">จิตนึกน้อมนิยมชม.</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <CENTER><TABLE width=780 border=0><TBODY><TR><TD width="100%">อ้างอิง
    • จากหนังสือสวดมนต์
    • บทสวดภาษาไทยประพันธ์โดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล ณ อยุธยา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    จะหายไปไหนละครับ นานไประวังผมจำไม่ได้นาครับ เอ๊ะ ใช่อั้มรึเปล่านี่(deejai)
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000144495

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ปุ๊ ปิยะมาศ" หลั่งน้ำตาเปิดใจถึงชีวิตหลังฝ่าฟันมัจจุราช! </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ธันวาคม 2550 14:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=right><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=PageTab vAlign=center align=middle>1 | 2 </TD><TD width=3>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=7 height=17>[​IMG]</TD><TD align=middle background=/images/b_bg.gif height=17>หน้าถัดไป</TD><TD width=8 height=17>[​IMG]</TD><TD width=11 height=17>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>"ปุ๊ ปิยะมาศ" น้ำตาแตก เปิดใจป่วยเป็นไวรัสซีเพราะรับเลือดจากคนอื่น ถึงกับช็อกหลังรู้ว่าตับเสียไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ยากในการเยียวยา เจ้าตัวรับทรมานถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย พร้อมเผยรักษามา 3 เดือนจ่ายเกือบล้าน

    เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเปลื้องผ้าถ่ายนู้ดมาแล้ว จู่ๆ ทำเอาหลายคนช็อกไปตามๆ กัน เมื่อรู้ข่าวการป่วยของนักแสดงวัย 50 กว่าๆ "ปุ๊ ปิยะมาศ โมนยะกุล" ว่าป่วยเป็นไวรัสซีเป็นเหตุให้ตับเข็งและเสียตับไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ร่างกายพ่ายผมซูบซีดไม่เหลือเค้าความเซ็กซี่แม้แต่น้อย

    ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดบ้านให้ "บันเทิงออนไลน์" บุกไปสัมภาษณ์ถึงที่บ้าน งานนี้ทำเอานักแสดงรุ่นใหญ่ถึงกับปี่แตกปล่อยโฮ เมื่อต้องเล่าถึงความทรมานในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ รวมถึงมุมมองชีวิตหลังจากรอดตายมาได้ว่าควรจะอยู่เพื่อแบ่งปันคนอื่นบ้าง

    "เริ่มรู้สึกว่าร่างกายตัวเองผิดปกติเมื่อปี 2 ปีหลังนี่แหละ รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเหนื่อยมากผิดปกติ ทำงานกลับมามันจะเหนื่อยเหมือนไม่มีแรง ซึ่งเราไม่เคยเป็น ทีแรกคิดว่าเพราะทำงานเยอะหรือว่าเราอายุมากขึ้นหรือเปล่า แล้วจะมีปัญหาเรื่องการย่อย มันจะแน่นทานอะไรเข้าไปนิดนึงมันจะไม่ย่อย มันจะจุกเสียดแล้วก็ท้องอืดท้องเฟื้อ ทรมานบอกไม่ถูก แล้วก็เริ่มมีเม็ดแดงๆ ขึ้นเหมือนไฝแดง แล้วใหญ่ขึ้นๆ"

    "ส่วนมากขึ้นตามแขนขวาและหน้าอก มันจะมีแฉกคลายๆ ใยแมงมุม แต่พี่ก็ยังไม่คิดอะไร จนเพื่อนที่เป็นหมอทักว่าอาการแบบนี้เหมือนอวัยวะภายในอักเสบมากนะ แต่ก็ยังไม่ยอมตรวจเลยนะ งานยุ่งอยู่ 2-3 เดือน เพราะคิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ ก็รอจนงานเสร็จเดือนสิงหาคมพี่ไปเช็กก็เจอไวรัสซีเลย หมอต้องเช็คตับปรากฏว่าตับอักเสบไปประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณหมอก็ให้กำลังใจดีมากบอกไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเรามาช่วยกันคุณปิยะมาศต้องทำใจให้สบายอย่าเครียด เป็นหน้าที่ของหมอเอง"

    "คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก ฟังแล้วมันดูคุ้นแต่ที่จริงมันเป็นโรคใหม่ วงการแพทย์ทั่วโลกรู้จักมาประมาณ 10 กว่าปี ปกติมันจะมีไวรัส เอกับบีใช่มั้ย แต่ตัวนี้มันเป็นไวรัสซี ซึ่งเป็นอะไรที่แข็งแรงมากและมีผลรุนแรงมาก ที่น่ากลัวคือเราเป็นโดยไม่รู้ตัว มันจะเป็นระยะฟักตัวอยู่ในผู้ป่วยเป็น 10 ปี แต่ของพี่เกือบ 20 ปีได้แล้ว มันเพิ่งมาแสดงอาการ เพราะฉะนั้นมันจะอันตรายกับคนที่เป็นเยอะแล้ว"

    "กว่าพี่จะรู้ว่าตัวเองเป็นไวรัสซีตับพี่เสียไป 60 เปอร์เซ็นต์แล้วนะ มันจะทำลายเซลล์ตับตลอดมันไม่เหมือน เอ บี ที่จะมีระยะของการเตือนให้รู้ว่ามีการผิดปกติ แต่ไวรัสซีเขาไม่เตือนเรา ถ้าเป็นปุ๊บเขาก็จะฝักตัวในตับเรา แล้วค่อยๆ ทำลายเซลล์เราไปเรื่อยๆ หมอใช้คำว่าตับแข็ง คนส่วนมากจะเข้าใจว่าโรคตับแข็งเกิดจากแอลกอฮอล์ แต่ที่จริงไม่ใช่ตับแข็งแต่เป็นอาการของเซลล์ตับที่เสียไปแล้ว เสียไปแล้วที่หมายความว่ารักษาไม่ได้เลย นี่ยังโชคดีเสียแค่ 60 ดีกว่าเสียไป 90 แล้วค่อยรู้ ไม่อย่างนั้นคงรักษาไม่ได้แล้ว"

    แจงเป็นโรคที่ติดต่อทางเลือด ไม่ใช่จากกินเหล้าอย่างเดียว เผยทราบข่าวตอนแรกถึงกับช็อก แต่โชคดีที่ครอบครัวเพื่อนฝูงให้กำลังใจทำให้ฝ่าฟันความท้อแท้มาได้

    "โรคนี้หมอบอกว่าติดโดยการรับเลือดจากคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้คือเค้าต้องได้รับเลือดมาอย่างน้อยประมาณสิบกว่าปีมาแล้ว เมื่อก่อนโรคนี้ไม่มีในสารบบแพทย์เพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่เช็กเชื้อตัวนี้ จะไปตำหนิหมอไม่ได้ แต่คนที่รับเลือดปัจจุบันนี้ไม่มีใครเป็นแล้ว เพราะหมอเขาจะตรวจทุกครั้งที่มีการรับและบริจาคเลือด นอกจากติดจะไปทำศัลยกรรม หรือว่าไปสักที่มันไม่สะอาดมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"

    "เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว พี่ไปรับเลือดมาเพราะว่ามีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน มันจะเสียเลือดเยอะมากแล้วมันโลหิตจางเพราะฉะนั้นพี่จะต้องให้เลือดมา 2-3 ปี โรคนี้มันใช้เวลาฟักตัวเป็นสิบปี พี่รับเชื้อนี้มาแล้วมันก็ฝักตัวมาตั้งแต่ตอนนั้น โดยที่พี่ไม่รู้ตัวเลย คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าโรคนี้เกิดกับคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่พี่เป็นคนไม่ดื่มและไม่สูบบุหรี่เลยนะ คำว่าตับแข็งไม่ใช่เกิดจากแอลกอฮอล์หรือเหล้าอย่างเดียว แต่ที่พี่เป็นเพราะว่ามันเกิดจากเชื้อโรคตัวที่ทำให้ตับแข็ง"

    "อาทิตย์แรกที่รู้ว่าเป็นกำลังใจเสียเลยแหละ เรายังไม่ได้ตั้งสติ สัญชาตญาณคนเรามันจะหวั่นไหวกับสิ่งที่มากระทบชีวิตแบบห้ามไม่ได้อยู่แล้ว อาทิตย์แรกมากกว่าเอ้...ทำไมเราเป็น คือเราไม่รู้คำว่าตับเสียไป 60 และไม่สามารถที่จะทำให้ดีขึ้นมาได้ ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูให้เขาดีขึ้นมาใช้งานได้ มันตกใจกับคำๆ นี้"

    "เราไม่ได้ต้องการความสุขอะไรมากมายขนาดนั้น เพียงแต่ให้เราได้ใช้ชีวิตไปทำงานแล้วก็ได้ไปทำธุระในสิ่งที่เราต้องไปได้ มันก็คือเป็นชีวิตที่โอเคมีความสุขแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับเตียงเป็นเดือนเข้าออกโรงพยาบาลหลายเที่ยวมาก มันทุกข์ทรมาน หิวแต่ทานไม่ได้ ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นหายใจจะไม่ออก บางทีพี่ก็คิดนะว่าฆ่าตัวตายน่าจะดีกว่า ตายมันง่ายกว่าเยอะเลยนะไม่ทรมานตัวเอง ไม่ทรมานคนที่อยู่ข้างกายเราญาติพี่น้องทั้งหมดด้วย พี่โชคดีที่ดีขึ้นภายในหนึ่งเดือน รู้สึกว่าตับเราดีขึ้น"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, aries2947+, ดง </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เย็นวันศุกร์ เข้ามาเยี่ยมกันเยอะอยู่เลยนะครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ราชาแห่งปัญญา กษัตราแห่งความพอเพียง
    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145002
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ธันวาคม 2550 01:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>วิวัฒน์ ศัลยกำธร</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร.ภาธร ศรีกรานนท์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พระอัจฉริยภาพของในหลวงทั้งด้านศาสตร์และศิลป์นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่คนไทยและต่างชาติ พระองค์ทรงใช้เวลาตลอด 60 ปีแห่งการครองราชย์ เพื่อศึกษาเรียนรู้ผืนดินทุกตารางนิ้วของเมืองไทย และทรงงานหนักเพื่อความสุขของพสกนิกรชาวไทย จนก่อเกิดเป็นโครงการนานัปการที่ล้วนนำมาซึ่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3 บุคคลต่อไปนี้จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ได้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถาแห่งองค์กษัตราธิราชพระองค์นี้

    ** “วิวัฒน์ ศัลยกำธร”
    คืนชีวิตให้แผ่นดิน ตามรอยพระยุคลบาท


    แรงบันดาลใจจากคนคนหนึ่งสามารถขับเคลื่อนชีวิตใครสักคนให้ออกย่างก้าวบนเส้นทางที่เลือกเดินได้อย่างมั่นคง วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

    หลายคนคงคุ้นตากับบุคคลที่เดินตามในหลวงไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจดพระราชดำรัสทุกคำของในหลวง และครั้งหนึ่งในชีวิต วิวัฒน์ เคยมีโอกาสรับใช้เบื้องพะยุคลบาทอย่างใกล้ชิดในตำแหน่งนั้น ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญอย่างที่ใครคาดไม่ถึงทีเดียว

    ปัจจุบัน ถึงแม้ อ.วิวัฒน์ จะเลือกเกษียณตัวเองจากราชการ หันเหชีวิตมาเป็นเกษตรกรเพื่อพ่อหลวงเต็มขั้นแล้วก็ตาม แต่หากให้ย้อนเล่า ถึงจุดเริ่มของภารกิจตามรอยแนวพระราชดำริองค์ในหลวง เขายังคงจำได้ดี “ตอนนั้นผมเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนประจำอยู่ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำงานได้ไม่นานเจ้านายเห็นว่าเอางานเอาการ ก็เลยส่งไปทำงานโครงการของพระเจ้าอยู่หัว” ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าต้องไปทำงานกับใคร ความตื่นกลัวย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ประกอบกับความที่ตัวเองเป็นเด็กบ้านนอก ไม่กล้ามักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เมื่อรู้ว่าต้องไปทำงานกับพระองค์ท่าน จึงไม่มั่นใจว่าความรู้ความสามารถที่มีจะไปทำให้งานของพระองค์สำเร็จได้ตามพระประสงค์หรือไม่

    โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เป็นโอกาสแรกในชีวิตของเขา ทำให้ได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด เขาเล่าว่า ราวปี 2525 ในขณะนั้นพื้นที่ภาคตะวันตกมีการทำลายป่า เพื่อปลูกสับปะรดขายป้อนโรงงาน ทำให้ป่าหมดสภาพไปเรื่อยๆ เกิดปัญหาความแห้งแล้งและภัยพิบัติตามมา ในหลวงก็ทรงมีพระราชดำริว่า ต้องเก็บป่าไว้ให้ได้ ทำอย่างไรคนจะเข้าป่าและไม่ทำลายป่า อยู่กับป่าได้อย่างพึ่งพา ให้ทำมาหากินกับป่า ทรงมีพระราชดำริให้สร้างชุมชนอยู่กับป่าให้ได้

    ความปลาบปลื้มใจกับการถวายงานครั้งแรกยังคงฉายชัด เขามีหน้าที่จดบันทึกพระราชดำริและทุกคำที่ในหลวงตรัส ทันบ้างไม่ทันบ้างหลายครั้งก็ได้รับความกรุณาจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ติดตามใกล้ชิดช่วยจดให้ หรือบางครั้งช่วยถือเครื่องบันทึกเสียงไว้เดินตามพระองค์ท่าน แต่ก็นับเป็นการถวายงานครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ไม่เพียงแต่การจดบันทึก แต่ผู้รับใช้มือใหม่จะต้องนำสิ่งเหล่านั้นมาศึกษาต่อเพื่อช่วยชาวบ้านให้สามารถใช้ชีวิตอยู่กับป่าได้ตามพระราชประสงค์

    “4 เดือนเต็มที่ผมทุ่มเททำงานหนัก ระดมผู้เชี่ยวชาญมาปรึกษาหารือกัน ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันเต็มที่ พอเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมทำแผนไปถวาย เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย ส่วนตัวก็คิดว่าแผนงานชิ้นนี้จะต้องเป็นที่พอพระทัยแน่นอน แต่เมื่อได้กราบบังคมทูลถึงเหตุผลที่เลือกวางแผนให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งปลูกป่า และอีกส่วนหนึ่งทำทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ โดยคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างรวมถึงวิถีของชาวบ้านที่มีทั้งชุมชนพุทธและมุสลิมไปพร้อมๆ กัน แต่เมื่อกราบบังคมทูลให้ทรงทราบแล้ว ตัวเองก็กลับต้องยอมจำนน ด้วยเหตุผลที่ทรงพระราชทานกลับมาอย่างมีหลักการ จะทำอย่างที่ผมคิดไม่ได้ หากเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ชาวบ้านจะเอาข้าวที่ไหนกิน”

    เขาเล่าว่า พระบรมราชวินิจฉัยที่ทรงตรัสกลับมาทุกอย่างล้วนชัดเจนตามวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ ทรงต้องการแก้ปัญหาป่าของภาคตะวันตกที่ถูกทำลาย โจทย์ข้อใหญ่ คือ จะทำอย่างไรให้ชาวบ้านอาศัยอยู่กับป่า เหตุเพราะ เมื่อป่ามีความสมบูรณ์ ก็จะมี 3 ความพอเพียงตามมาแน่นอน นั่นคือ การมีพอกิน มีพออยู่ และการมีพอใช้ ซึ่งเกิดจากการปลูกป่า 3 อย่าง อย่างแรกที่จะได้ คือการเตรียมไม้ไว้ปลูกบ้าน สองผลผลิตจากป่าเก็บไว้เป็นอาหาร และสามเก็บไว้เป็นของใช้ ทำเป็นยารักษาโรค ยาสระผม เครื่องอุปโภคต่างๆ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น

    “พระองค์ทรงเป็นพระราชาที่รับฟังเหตุผลอย่างมาก แม้เราจะเป็นเด็ก ก็ทรงพระราชทานโอกาสให้ผมได้อธิบายถึงสาเหตุที่เราคิดและทำมาอย่างนั้น จากนั้นทรงพระราชทานข้อวินิจฉัย ทรงอธิบายให้ฟังอย่างมีเหตุผล เป็นขั้นเป็นตอน ทำให้เราเชื่ออย่างสุดใจ ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านได้พระราชทานคำชี้แนะนั้นถูกต้องและสามารถช่วยชาวบ้านได้อย่างแท้จริง รวมถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้ยินกันอยู่ทุกวัน ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้ ด้วยการเริ่มจากสิ่งเล็กน้อยในบริบทชีวิตของตัวเอง”

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยตรัสไว้ว่า “ความพอเพียงจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรู้และความเพียร ทั้งสองอย่างนี้ต้องมีควบคู่กันไปเสมอ รู้อย่างเดียว แต่เกียจคร้านที่จะทำให้สำเร็จ ก็ไม่อาจทำให้สำเร็จได้” ที่ผ่านมาทรงเป็นที่ปรึกษาทั่วไปของประเทศว่า... ควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่รัฐบาลหรือประชาชนจะนำไปทำหรือเปล่านั้น พระองค์ไม่มีสิทธิ์ขาดตามกฎหมาย แต่ก็ทรงอดทนมีความเพียรที่จะตรัสอยู่เสมอว่า ทำอย่างไรถึงจะเกิดความพอเพียงขึ้นได้ ซึ่งถ้าทำได้และเรียนรู้ที่จะทำ ประเทศไทยจะเป็นยอดยิ่งยวดของโลก

    การได้ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิดนับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ทว่า ความภาคภูมิใจเหนือชีวิตของเกษตรกรผู้เดินตามรอยพระเจ้าอยู่หัวคนนี้ นั่นคือ การที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นผู้นำที่ประกอบด้วยคุณธรรมนำหน้า ทรงรักษาทศพิธราชธรรมไว้อย่างไม่ขึ้นอยู่กับยุคสมัย โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณในเรื่อง “ทาน” ที่ทรงเป็นพระผู้ให้ตลอดมา ทรงสร้างสิ่งต่างๆ มากมาย ก็เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทย อย่างที่พระองค์ทรงเป็นผู้รู้ ทรงหมั่นเพียรและอดทนที่จะรู้ในเรื่องต่างๆ เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นกลับมาช่วยเหลือชาวบ้านของพระองค์ ไม่เพียงแต่ช่วยประเทศไทย สิ่งเหล่านี้ยังทรงช่วยลดภาวะโลกร้อน ทำให้โลกเย็นลง พวกเราทุกคนก็ได้รับความสุขนั้นไปด้วย

    “ตลอดเวลาที่ทำงาน ผมถูกสอนมาว่า งานของพระราชา คือ งานที่ปิดทองหลังพระ ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานให้พระราชา คือ ความสุขที่ได้เห็นผลสำเร็จของงาน ไม่มีลาภยศสิ่งใด ที่จะทรงคุณค่ายิ่งไปกว่า การที่เราได้ทำงานกับพระราชาที่มีธรรม ทำให้เราเห็น จนเกิดความศรัทธาในความเพียรและพระเมตตาของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้”

    การสร้างโอกาสให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าด้วยการทำตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เพียงแต่จะทำให้คนเห็นคุณค่าของกันและกัน ของป่า ของดิน ของน้ำและอาหาร เท่านั้น แต่ยังก่อเกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป เช่นเดียวกับปลายทางความฝันของชายผู้นี้ กับทุกลมหายใจที่เหลืออยู่ เขายังคงต้องการสร้างคนให้ปฏิบัติตามพระเจ้าอยู่หัวให้มากๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145002

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา
    ผู้ต่อยอดเกษตรทฤษฎีใหม่ของพ่อหลวง

    มาถึงอีกหนึ่งภาคสังคมอย่าง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างใกล้ชิด แต่ในฐานะที่เกิดมาอยู่ใต้ร่มบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการที่ได้เข้าไปสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวทฤษฎีต่างๆ ของพระองค์ที่ทรงเป็นครูถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับพสกนิกรในวาระต่างๆ จึงทำให้เกิดความรู้สึกซาซึ้งในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้พระราชทานไว้เพื่อเป็นหลักในการบริหารจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตร ในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดงฯ จึงร่วมมือกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตพื้นที่ 3 กรมวิชาการเกษตร ทำโครงการ “เรารักษ์น้ำ 2” เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดทางภาคอีสาน คือ ขอนแก่น ,สกลนคร ,และ อุดรธานี เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ และสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในระยะยาว ด้วยการขุดสระน้ำตามแนวเกษตรทฤษฏีใหม่ ที่ให้มีการแบ่งพื้นที่ดินออกเป็น 4 ส่วน และหนึ่งในนั้นที่ถือได้ว่าเป็นประตูสำคัญ ที่จะนำพาให้ทฤษฏีนี้สามารถบรรลุผลได้ก็คือ “น้ำ”
    สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา หรือ “คุณตุ๊กตา” ของพนักงานทุกคนในบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดงจำกัด ทุกวันนี้นอกจากเธอจะเธอจะกุมบังเหียนด้วยการรั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทกระทิงแดง จำกัด แล้ว อีกภาคหนึ่งเธอคือผู้อำนวยการแผนกกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ ที่ได้แทนคุณแผ่นดิน ด้วยการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับการเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการนี้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายของโครงการ

    หญิงสาวเล่าว่า จากการที่ตัวเองมีโอกาสไปนั่งศึกษาแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง ทำให้เห็นว่า “น้ำ” นับเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการทำการเกษตร แต่เกษตรกรหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งส่วนมากเป็นนาข้าวและพืชไร่ ส่งผลต่อสภาพชีวิตและความเป็นอยู่อื่นๆ ของเกษตรกรให้แย่ลง

    “เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ ในการเกษตร ของเกษตรกรทางภาคอีสาน และช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน เราจึงน้อมนำกระแสพระราชดำริ เกษตรทฤษฏีใหม่ มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการโดยเฉพาะเรื่อง “น้ำ” ซึ่งเราเห็นว่าน้ำมีความสำคัญในการทำการเกษตร
    ที่ผ่านมาชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรมาโดยตลอด ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอในการปลูกข้าว มีบางปีถึงกับต้องหยุดทำนา เราจึงสนับสนุนการขุดสระน้ำขนาด 2,500 ลบ.ม. และ 3,700 ลบ.ม. ซึ่งการขุดสระและขนาดของสระน้ำ นั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของขนาดไร่-นา โดยเป็นทั้งการขุดสระเพิ่มเติมจากสระน้ำที่ชาวบ้านมีอยู่เดิม และ ขุดสระเก็บน้ำขึ้นมาใหม่” หญิงสาวอธิบาย

    คุณตุ๊กตาอธิบายเพิ่มเติมว่า วิธีการขุดสระน้ำตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่นั้น แตกต่างจากการขุดสระน้ำทั่ว ๆ ไปที่ใช้รถแม็คโครขุดเป็นหลุมก็เสร็จงานแล้ว แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพของในหลวงที่ทรงศึกษาเรื่องน้ำเป็นเวลานาน พระองค์ท่านทรงวางขั้นตอนการจัดสรรทรัพยากรทุกอย่างไว้อย่างแยบคาย แม้แต่กระทั่งรูปแบบของการขุดสระน้ำตามรูปแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ต้องขุดแบบขั้นบันไดเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า

    “สระที่ขุดเจะต้องเป็นแบบขั้นบันได 3 ขั้น โดยชั้นล่างสุดของสระใช้เลี้ยงปลา ตื้นขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งสำหรับให้ปลาวางไข่ และขอบสระก็จะลงต้นไม้ที่โตริมน้ำ เช่น ตะไคร้ ผักบุ้ง ผักกระเฉด เพื่อเป็นผักไว้กิน”หญิงสาวแจกแจง

    หญิงสาวเล่าต่อว่าความประทับใจหลังจากที่ได้ทำโครงการนี้ผ่านพ้นไปแล้ว มีชาวบ้านส่งจดหมายมายังบริษัทแล้วมีถ้อยความหนึ่งในจดหมาย บอกว่า “หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปขุดบ่อน้ำแล้ว มีกลุ่มพ่อค้าจากในเมืองมาติดต่อขอรับซื้อผลิตผลทางเกษตรของคนทั้งหมู่บ้าน ทำให้คนในหมู่บ้านมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
    เพียงข้อความสั้นๆประโยคนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกว่า ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ แต่ก็สามารถสานต่อปณิธานพ่อหลวงในการนำ เกษตรทฤษฎีใหม่ มาต่อยอดจนบังเกิดผลอันนำไปสู่การสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับชาวบ้านก็เพียงพอแล้ว

    ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจในเสียงดนตรี
    ดร.ภาธร ศรีกรานนท์

    ช่วงเวลา 20 ปีที่ ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ ชายหนุ่มผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นลูกไม้ตกไม่ไกลต้นของ เรืออากาศตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ สมาชิกอาวุโสแห่งวง อ.ส.วันศุกร์ ซึ่งเป็นวงดนตรีส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ถวายความสำราญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด

    นอกจากเป็นสมาชิกวง อ.ส.วันศุกร์ที่มีอายุน้อยที่สุดแล้ว เขายังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานทุนการศึกษาให้บินไปเรียนต่อด้านดนตรีอย่างจริงจังตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตไฮสคูลจนจบปริญาเอก

    เริ่มจาก Interlochen Arts Academy มิชิแกน, ปริญญาตรีด้าน Composition and Saxophone Performance จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, ปริญญาโทสาขา Music in Composition จากมหาวิทยาลัย Yale และปริญญาเอกสาขา Music Composition จาก University of Edinburgh อังกฤษ

    ดร.ภาธร บอกเล่าความรู้สึกปลาบปลื้มใจในชีวิตที่ได้สัมผัสจากการได้ถวายความสำราญด้านดนตรีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
    “ประการแรกที่รู้สึกประทับใจ คือ ทรงไม่ถือพระองค์ และทรงเป็นแบบอย่างของพ่อ ครู และเจ้านายที่ดี อีกทั้งพระองค์จะทรงรับฟังเหตุผล อย่างกรณีของดนตรี ในเมื่อพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณส่งผมไปเรียนดนตรีมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ฉะนั้นเมื่อใดที่พระองค์ทรงข้องพระราชหฤหัยเกี่ยวกับเรื่องดนตรี พระองค์ก็จะทรงมีรับสั่งถามทันที ซึ่งผมก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา

    ผมยังจำได้เสมอว่า สมัยเรียนอยู่ต่างประเทศ ทุกครั้งที่ปิดภาคเรียนก็จะกลับมาเมืองไทย ซึ่งพระองค์ก็ทรงติดตามพัฒนาการของผมว่ามีความก้าวหน้าในวิชาการดนตรีอย่างไรบ้าง โดยใช้การเล่นดนตรีร่วมกับวง อ.ส.วันศุกร์ในการดูพัฒนาการทางดนตรี และทุกครั้งพระองค์ท่านจะรับสั่งว่า เป็นการเปิดเทอมของผม”

    ตลอดระยะเวลาที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปรียบเป็นครูทางดนตรีคนแรกของเขา เพราะทรงแนะนำสั่งสอนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นใดต้องเล่นระดับเสียงดังเท่าไหร่จึงจะพอดี กระทั่งทรงสอนถึงประวัติความเป็นมาของดนตรีแจ๊ส ตลอดจนทรงชี้แนะในเรื่องการเลือกฟังผลงานเพลงแจ๊สของศิลปินแต่ละคน พร้อมทรงแนะนำแผ่นซีดีให้ไปลองฟัง และลองทำตาม

    ดร.ภาธร บอกต่อว่าในฐานะที่เป็นนักดนตรี ฉะนั้นพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงเป็นสิ่งที่เขาปลาบปลื้มเป็นที่สุด และตั้งใจยึดถือพระองค์เป็นต้นแบบ

    “การที่พระองค์ทรงเป็นนักเล่นดนตรี และทรงเครื่องเล่นดนตรีได้หลายชนิด หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น แซกโซโฟน คลาริเน็ต ทรัมเป็ต เปียโน กีต้าร์ กลอง ซึ่งผมก็พยายามดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท แต่ก็รู้ว่ายากจริงๆ อย่างเช่น เครื่องดนตรีโดยเฉพาะเครื่องเป่า จะแยกเป็น 2 จำพวกใหญ่ๆ คือ Woodwind และ Brass ซึ่งทั้งสองประเภทจะมีวิธีเป่าแตกต่างกัน ซึ่งลักษณะการวางปากคนละเรื่องกันเลย เครื่องเป่าประเภท Woodwind จะมีลิ้นปี่เป็นตัวกำเนิดเสียง แต่เครื่องเป่าประเภท Brass ตัวกำเนิดเสียง คือ ริมฝีปากของเรา

    และในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้เป็นอย่างดีทั้ง 2 ประเภท อย่างในวงการดนตรีแจ๊สคนที่สามารถเล่นเครื่องเป่าได้ดีทั้ง 2 ประเภท คือ เบนนี่ คาร์เตอร์ ซึ่งเคยมาเล่นถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำคัญพระองค์ยังทรงสนับสนุนให้ผมเล่นได้ทั้งสองประเภทเช่นกันซึ่งผมก็พยายามจะเล่นให้ได้ดีที่สุดแม้จะยังทำได้ไม่ดีนักก็ตาม”

    ส่วนพระอัจฉริยภาพอันประจักษ์แจ้งที่สุดสำหรับนักดนตรีเช่นเขา คือ พระอัจฉริยภาพในการพระราชนิพนธ์บทเพลงซึ่งบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านแต่ละบทเพลงจะให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งพระราชนิพนธ์มาจากก้นบึ้งของพระราชหฤทัย ทำให้ทุกเพลงมีความหมาย และล้วนออกมาจากความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน ทั้งยังบ่งบอกถึงยุคสมัย กาลเวลา และสภาพการณ์ในช่วงเวลานั้นด้วย

    “เพลงพระราชนิพนธ์ในยุคแรก ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในปี พ.ศ.2489 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่พระองค์ทรงเสด็จขึ้นครอบราชย์เล็กน้อย ประกอบกับประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาของการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 มาไม่นานนัก ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง ประชาชนลำบากข้นแค้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อเป็นกำลังใจให้พสกนิกรชาวไทย เช่น ใกล้รุ่ง ยามเย็น ซึ่งแม้ว่าทำนองเน้นความสนุกสนาน หากในความสนุกนั้นก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงประชาชน หรือในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2516 -2517 ที่มีความวุ่นวายในประเทศในช่วงนั้นพระองค์ก็ได้พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ เราสู้ และความฝันอันสูงสุดออกมาให้กำลังใจประชาชน
    นอกจากนี้ยังมีเพลงพระราชนิพนธ์ยิ้มสู้ ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายดีมาก พระราชทานให้กับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เนื้อหาในภาคภาษาไทย กล่าวถึงว่าโลกนี้ไม่ว่าจะมืดมนเพียงใด ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหน แต่ถ้าเรายิ้มสู้กับมัน และทุกอย่างมันจะดี ส่วนเนื้อเพลงภาษาอังกฤษมีใจความว่า ถ้าเรายิ้มคนเดียว คนที่เขาเดินผ่านไปมา แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักเรา แต่เขาก็จะยิ้มให้กับเรา เพราะเขาเห็นเรายิ้มจึงยิ้มตอบ และทุกคนก็จะส่งยิ้มต่อกันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะยิ้มกันหมด บ้านเมืองก็จะมีสันติสุข”

    แต่หากเอ่ยถึงแรงบันดาลใจอันเป็นข้อคิดในชีวิตที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่าง ดร. ภาธร เล่าอย่างภาคภูมิใจถึงการน้อมนำพระราชปรัชญาเรื่องความพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิต ก่อนที่ภาครัฐจะมีกระแสปลุกระดมให้ประชาชนหันมาคำนึงวิถีชีวิตที่ยึดหลักความพอเพียงด้วยซ้ำ

    “บ้านของผมเน้นเรื่องความพอเพียงมาตั้งแต่ผมจำความได้ ซึ่งเรื่องของความพอเพียงไม่ใช่เรื่องของนโยบาย ไม่ใช่เรื่องของปรัชญา ไม่ใช่เรื่องของกฎ กฎหมาย หรืออะไรทั้งสิ้น แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่จะปฏิบัติตัวเรื่องความพอเพียงที่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่าพระองค์ท่านทรงสอนให้รู้จักให้เรารู้จักการประมาณตน และทรงสอนพวกเรารู้จักขอบเขต และการบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนในสังคม

    เช่นเดียวกับการเล่นดนตรีแจ๊ส เป็นการสอนให้รู้จักการทำงานเป็นทีม และเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ความสำคัญของแต่ละคน เพราะเครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป แต่ก็ต้องมาเล่นผสานร่วมกันเป็นบทเพลงเดียวกัน

    แม้ว่าดนตรีจะเป็นสิ่งที่ไม่มีเขตแดน แต่ว่าการเล่นดนตรีด้วยกัน จะต้องมีการกำหนดกรอบของแต่ละคน โดยเฉพาะดนตรีแจ๊สที่เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็มีฟังก์ชั่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น กลอง เบส แซกโซโฟน ร้องนำ ซึ่งไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ ฉะนั้นการเล่นดนตรีก็เหมือนการร่วมแรงร่วมใจ และรู้จักบทบาทหน้าที่ของตัวเองของนักดนตรีแต่ละคนซึ่งเป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงให้มาก”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวล่าสุด ในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>“เหรียญทองของพ่อ” ในหลวงกับพระราชปณิธานด้านกีฬา</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ราชันแห่งปัญญา พระมหากษัตริย์นักประดิษฐ์แห่งแผ่นดินไทย</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ภาพ, ถ้อยคำ และการเดินทางเพื่อพ่อของแผ่นดินของอนุชัย ศรีเจริญพู่ทอง</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>การกลับมาอีกครั้งของ “ เครื่องละครหลวง ” แห่งแผ่นดินรัชกาลที่ 9</TD></TR><TR vAlign=bottom><TD align=middle width=21 height=15>[​IMG]</TD><TD align=right height=15>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ราชันแห่งปัญญา พระมหากษัตริย์นักประดิษฐ์แห่งแผ่นดินไทย
    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000144181
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 ธันวาคม 2550 10:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พ.ศ. 2498 พระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่งเสด็จฯ ไปเยี่ยมเยือนราษฎรบนแผ่นดินทุรกันดารห่างไกล ทรงสังเกตเห็นความแห้งแล้งทุกข์ยากที่ราษฎรของพระองค์ประสบอยู่ หนึ่งปีถัดมา พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นได้พระราชทานพระราชดำริเพื่อหาลู่ทางคิดค้นหาเทคนิค หรือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ด้านการดัดแปรสภาพอากาศมาช่วยให้เกิดการก่อและรวมตัวของเมฆให้เกิดฝนได้

    3 ทศวรรษหลังจากนั้น ประเทศเล็กๆ ในเอเชียนามว่า “ประเทศไทย” ก็รู้จักการทำฝนเทียม หรือ “ฝนหลวง” เฉกเช่นมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

    พ.ศ.2518 ห้วงยามที่คำว่า “ไบโอดีเซล” ยังไม่แพร่หลายเช่นในทุกวันนี้ พระมหากษัตริย์พระองค์เดิมได้ทอดพระเนตรและทรงดำริให้นำปาล์มน้ำมันมาสกัดเป็นน้ำมันปาล์มและนำมาใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลได้ ขณะที่โลกส่วนใหญ่ยังมิได้เผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤตพลังงานเชื้อเพลิง และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า “พลังงานทดแทน”

    พ.ศ.2549... 60 ปีแห่งการครองราชย์ รัฐบาลไทยได้ถวายพระราชสมัญญาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” ขณะที่ทั่วโลกต่างร่วมถวายรางวัลสดุดีเฉลิมฉลองพระปรีชาสามารถแด่พระองค์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

    ล่าสุด ในโอกาสเฉลิมพระชนมายุครบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงจัดให้มี โครงการทรัพย์สินทางปัญญาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดงาน “ราชันแห่งปัญญา พัฒนาไทยให้ยั่งยืน” เพื่อแสดงอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็น “บิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” ให้ประจักษ์ชัด

    พวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ชี้แจงเหตุผลในการการตั้งชื่องานว่า “ราชันแห่งปัญญา” สืบเนื่องมาจาก การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์ราชันที่ทรงมีพระอัจฉริยะภาพในการประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งทรงมีผลงานการประดิษฐ์มากมาย ยังประโยชน์แก่ผสกนิกรอย่างมาก ยากที่จะหาพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกนี้เสมอเหมือนได้

    สาระสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักนอกจากเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์แล้ว ทางกรมฯ ยังต้องการให้ประชาชนได้ชื่นชมพระปรีชาสามารถ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์ การคุ้มครอง รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน ทางปัญญาอย่างเป็นระบบและครบวงจร
    อีกทั้งต้องการปลูกฝัง เสริมสร้าง และส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีทุนทางสังคมของความเป็น “นักประดิษฐ์คิดค้น” และสนใจในการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ และท้ายสุดคือ เพื่อพัฒนา และส่งเสริมนักประดิษฐ์ ให้ร่วมมือร่วมใจกันในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ความเจริญและความมั่นคงของประเทศชาติ

    “นิทรรศการสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยนี้ แสดงเรื่องราวถึงพระวิริยะอุตสาหะ และพระอัจฉริยะของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว กว่าจะมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตร เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา ซึ่งเป็นสิทธิบัตรที่ทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นฉบับแรก ทรงคิดค้นพัฒนามาถึง 9 ปี น้ำมันไบโอดีเซล จะจัดในลักษณะที่ผู้เข้าชมงานสามารถเรียนรู้และทดลองทำไบโอดีเซลได้เองจากคอมพิวเตอร์

    ทางด้าน ฝนหลวง ที่ทรงคิดค้นพัฒนามาเป็นเวลากว่า 30 ปี และโครงการแกล้งดิน ซึ่งเป็นสิทธิบัตรฉบับล่าสุด ได้มีการถวายการรับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ทรงใช้วิธีการทางธรรมชาติเพื่อแกล้งดินเปรี้ยวที่ไม่สามารถปลูกพืชได้ให้เปรี้ยวจัดก่อน แล้วพัฒนาดินให้สามารถปลูกพืชผลทางการเกษตรได้ ซึ่งผู้เข้ามาชมงานสามารถที่จะหาคำตอบ ได้ว่าแกล้งดินได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังจัดให้มีโต๊ะเจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจและเจ้าของผลงาน ในกรณีที่นักธุรกิจสนใจที่จะนำผลงานสิทธิบัตรของคนไทยไปผลิตเป็นสินค้าเพื่อจำหน่าย”

    แม้นิทรรศการดังกล่าวจะจบลงไปแล้ว แต่ทว่า สาระสำคัญของงาน โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวกับสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ในในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นข้อมูลที่มีคุณค่า ทั้งในเรื่ององค์ความรู้ และความวิริยะอุตสาหะของพระองค์ ที่พสกนิกรและเยาวชนไทยควรดำเนินตามรอยพระราชดำริเป็นแบบอย่าง

    แม้จะทรงเป็นนักประดิษฐ์ที่ทรงปราดเปรื่องเพียงใด แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มิได้ทรงละเลยให้ความสำคัญต่อเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาแต่อย่างใด

    “ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว สิทธิบัตร และลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีความสำคัญมาก เมื่อตอนปี พ.ศ. 2500 พูดกันว่าเราไปลอกจากต่างประเทศมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าคิดที่จะจดทะเบียนสิทธิบัตร เราสามารถใช้อะไรจากต่างประเทศได้โดยไม่เสียค่าใช้สิทธิ การพูดอย่างนี้ไม่ถูก เป็นการดูถูกคนไทย”

    พระราชดำรัสที่อัญเชิญมาข้างต้นนั้น แสดงถึงพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ของพระองค์ ในการที่จะนำสิ่งประดิษฐ์ของพระองค์เข้าสู่ระบบทรัพย์สินทางปัญญา พระองค์ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้น และสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย จนเป็นที่ทราบและเลื่องลือไปถึงต่างประเทศในพระราชกรณียกิจของพระองค์ อันสะท้อนให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และพระวิริยะสูงส่ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักประดิษฐ์ในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์อันจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองในอนาคต ตามแนวพระราชดำริแบบเศรษฐกิจพอเพียง

    สิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญาสาขาหนึ่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในการประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ มากมาย ทรงใช้พระอัจฉริยภาพกับสองพระหัตถ์ คือใช้ความคิดแล้วถ่ายทอดออกมา และทรงเน้นที่จะใช้ธรรมชาติในการประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหา เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา หรือเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย เป็นการประดิษฐ์ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรเป็นฉบับแรก เป็นผลงานที่เกิดจากการที่พระองค์ทรงมีความห่วงใยในคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

    นอกจากนั้น ทรัพย์สินทางปัญญาด้านสิทธิบัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน้ำ ฝนหลวง น้ำมันไบโอดีเซล อุปกรณ์ควบคุมการผลักดันของเหลว หรือที่เรียกว่า เรือหางกุด การใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ และภาชนะรองรับของเสียที่ขับออกจากร่างกาย ที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรแล้ว

    ทรัพย์สินทางปัญญาสาขาอื่น เช่น เครื่องหมายการค้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้คนไทยได้เข้าใจและเห็นความสำคัญในการสนับสนุนสินค้าของคนไทยและมีค่านิยมในการบริโภคสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าของคนไทยให้มากขึ้น ทรงสร้างเครื่องหมายการค้าและนำออกเผยแพร่ให้คนไทยรู้จักกันอย่างกว้างขวาง คือเครื่องหมายการค้าคำว่า “ทองแดง” และรูปคุณทองแดง ที่คนไทยทุกคนล้วนชื่นชมและพยายามหาซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายดังกล่าว จนสินค้าขาดตลาดและต้องผลิตเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง เป็นต้น

    ลิขสิทธิ์ คือผลงานทรัพย์สินทางปัญญาของพระองค์ท่านอีกสาขาหนึ่ง ซึ่งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรู้จัก และซาบซึ้ง ในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์อีกด้านหนึ่งคือ ผลงานสร้างสรรค์บทเพลง ซึ่งพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เป็นจำนวนมาก ล้วนมีความไพเราะซาบซึ้ง คนไทยเป็นจำนวนมากรู้จัก และสามารถร้องเพลงพระราชนิพนธ์เหล่านั้นได้เป็นอย่างดี และเกือบทุกเพลงได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ทำให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสฟัง และสามารถร้องเพลงเหล่านั้นอย่างแพร่หลาย และยังมีผลงานด้านวรรณกรรมอีกหลายเรื่องที่พระองค์ทรงสร้างสรรค์ขึ้น อาทิ พระมหาชนกนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ ฯลฯ เป็นต้น

    ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้การคิดค้น ดัดแปลง ปรับปรุง และแก้ไขงานการพัฒนาประเทศตามแนวพระราชดำริดำเนินไปอย่างสำเร็จลุล่วง องค์การด้านการประดิษฐ์ระหว่างประเทศ (IFIA) ประเทศฮังการี และองค์กร KIPA สาธารณรัฐเกาหลีใต้ จึงทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลและประกาศนียบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา

    โดยรางวัลที่ทูลเกล้าฯ ถวายประกอบด้วย ถ้วยรางวัล “IFIA CUP 2007” สำหรับผลงาน “กังหันน้ำชัยพัฒนา”, เหรียญ “Genius Prize” สำหรับผลงานเรื่อง “ทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง” จาก IFIA และรางวัล Special Prize พร้อมประกาศนียบัตรจาก KIPA ซึ่งถือเป็นรางวัลทรงเกียรติของนักประดิษฐ์ระดับโลก

    นอกจากนี้ จากการหารือขององค์กร IFIA ซึ่งมีสมาชิก 84 ประเทศ ได้มีมติให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันนักประดิษฐ์โลก โดยถือเอาวันที่ทรงได้รับการจดสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนาจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา นับว่าเป็นสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทย และครั้งแรกของโลก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000144181

    ปัจจุบัน สิทธิบัตรที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ทูลเกล้าฯ ถวายการรับจดทะเบียน มีทั้งสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร รวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ คือ

    1. กังหันน้ำชัยพัฒนา เกี่ยวกับเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำ โดยทำให้น้ำไหลตกลงมาเป็นสายสัมผัสกับอากาศโดยตรง เป็นหนึ่งในหลายรูปแบบที่ทรงประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศขึ้น เลขที่สิทธิบัตร 3127 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536

    2. เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน้ำ เกี่ยวกับเครื่องกลเติมอากาศใต้ผิวน้ำในระดับที่ลึกกว่ากังหันน้ำชัยพัฒนา เป็นการพ่นฟองอากาศใต้ผิวน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องกลเติมอากาศอีกรูปแบบหนึ่งของพระองค์ เลขที่สิทธิบัตร 10304 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544

    3. การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล น้ำมันไบโอดีเซลตามปั๊มน้ำมันทั่วไป เป็นน้ำมันที่มีการผสมน้ำมันดีเซลกับน้ำมันไบโอดีเซล ที่ได้จากการนำน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ไปผ่านกระบวนการที่เรียกว่า ทรานเอสเตอริฟิเคชั่น ส่วนการประดิษฐ์ของพระองค์ท่าน เป็นการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการนี้ มาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลได้เลย หรือจะนำไปผสมกับน้ำมันดีเซลก็ได้ เลขที่สิทธิบัตร 10764 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2544

    4. การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ เป็นการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการใด ๆ เป็นน้ำมันน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ แทนน้ำมันหล่อลื่นที่เรียกกันทั่วไปว่า น้ำมันออโต้ลูป ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง เลขที่อนุสิทธิบัตร 841 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2545

    5. ฝนหลวง เป็นกระบวนการหรือขั้นตอนในการทำฝนหลวง ที่ประกอบด้วยขั้นตอน “ก่อกวน” เพื่อทำให้เกิดเมฆ “เลี้ยงให้อ้วน” เพื่อทำให้เมฆรวมตัวกันหนาแน่นยิ่งขึ้น และขั้นตอน “โจมตี” เพื่อให้เมฆที่รวมตัวกันหนาแน่นแล้วตกลงมาเป็นฝน กระบวนการทำฝนหลวงนี้ ทรงพัฒนามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันและโปรดเกล้าฯให้เรียกว่า “ซุปเปอร์ แซนวิช” และทรงทำเป็นภาพตำราฝนหลวงขึ้น เลขที่สิทธิบัตร 13898 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545

    6. ภาชนะรองรับของเสียที่ขับออกจากร่างกาย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรองรับของเสียของผู้ป่วย ซึ่งทรงออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน เลขที่สิทธิบัตร 14859 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2546

    7. อุปกรณ์ควบคุมการผลักดันของเหลว เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งที่ท้ายเรือสำหรับการขับเคลื่อน โดยอาศัยแรงขับของของเหลวที่ถูกพ่นออกมา เลขที่สิทธิบัตร 16100จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2547

    8.โครงการแกล้งดิน เป็นกระบวนการในการปรับปรุงดินที่มีสภาพเป็นกรด หรือที่เรียกว่าดินเปรี้ยว ซึ่งพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ โดยกระบวนการที่เลียนแบบธรรมชาติแต่ร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้น เพื่อแกล้งดินเปรี้ยวจัดก่อน แล้วจึงทำการปรับปรุงดินจนทำให้สามารถเพาะปลูกได้ เลขที่สิทธิบัตร 22637 จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2550

    ทั้งนี้ การจดสิทธิบัตรฝนหลวงในต่างประเทศ ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ยื่นขอจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป โดยที่สหรัฐอเมริกายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่สหภาพยุโรปได้รับการจดทะเบียนออกสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2548 ส่งผลให้ฝนหลวงของไทยได้รับความคุ้มครองในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจำนวน 30 ประเทศ รวมทั้งดีรับความคุ้มครองในเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงด้วย

    จากสิ่งประดิษฐ์ทั้ง 8 ชิ้น ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีลักษณะของการพัฒนาที่อนุโลมและรอมชอมกับสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสภาพจิตวิทยาแห่งชุมชน คือ ไม่ยึดติดกับตำรา ไม่ผูกมัดติดกับวิชาการและเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนไทย

    อีกทั้ง ทรงนำความจริงในเรื่องความเป็นไปแห่งธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติมาเป็นหลักแนวปฏิบัติที่สำคัญ ในการแก้ปัญหาและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาวะที่ไม่ปกติเข้าสู่ระบบที่เป็นปกติ เช่น การนำน้ำดีขับไล่น้ำเสีย หรือเจือจางน้ำเสียให้กลับเป็นน้ำดี ตามจังหวะการขึ้นลงตามธรรมชาติของน้ำ การบำบัดน้ำเน่าเสียโดยให้ผักตบชวาซึ่งมีตามธรรมชาติ ให้ดูดซึมสิ่งสกปรกปนเปื้อนในน้ำ ดังพระราชดำรัสความว่า “ใช้อธรรมปราบอธรรม” นั่นเอง
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137

    ๕๕๕๕๕ ไม่ขนาดนั้นครับคุณหนุ่ม เป็นภาพจากหนังสือโบราณ เทียบกันเอาเองระหว่าง"ภาพเก่าในกระทู้" กับ"ภาพใหม่ใน website" สำหรับจ้าวแห่งการท่องเวปคงไม่มีใครเกินคุณหนุ่ม search ได้รวดเร็วมาก อิอิ มีคำใบ้ให้ ไม่น่ายากแล้วครับ ขอเพียงตอบถูกทั้ง ๙ ข้อเท่านั้นครับ

    จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้ คืออยากให้ได้เดินทางไปกราบสักการบูชาองค์พระธาตุเจดีย์กันมากๆในช่วงปีใหม่นี้ ไปรับกระแสบารมีจากองค์พระธาตุเจดีย์ ขณะกราบสักการะลองน้อมใจเข้าถึงพระบารมีของพระพุทธองค์ น้อมอัญเชิญฉัพพรรณรังสีลงมาปกคลุมกายของเรา แล้วอธิษฐานจิจเอาตามใจปรารถนา หากไม่เหลือวิสัยจริงๆ ท่านสงเคราะห์แน่นอน..
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    http://www.pratatlanna.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=181358&Ntype=5

    คาถาบูชา ๑๒ พระธาตุเจดีย์ปีเกิด

    [​IMG]


    พระธาตุศรีจอมทอง วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

    ปีชวด(หนู)
    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)นะโมพุทธายะ นะมามิ ติโลกะโมลี โลหะกูเฎ ปะติฎฐิตัง ปูชิตัง สัพพะโลเกหิ กิตติมันตัง มะโนหะ รัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา อัง คะวะเย ปุเรรัมเมิโกวิลา รัคคะปัพ พะเต สะหิเหมะคูหา คัพเภทักขิณะโมลี ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะทา

    พระธาตุจอมทอง เป็นที่ประดิษฐานของพระทักษิณโมลีธาตุ (พระธาตุ ส่วนที่เป็น พระเศียรเบื้องขวาของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) มีขนาดโตประมาณ เมล็ดข้าวโพด สันฐานกลมเกลี้ยง สีขาวนวลเหมือน ดอกบวบ หรือ สีดอกพิกุลแห้ง ตามประวัติเล่าว่า พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ ดอยจอมทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๑๘ ปัจจุบัน พระธาตุ ถูกบรรจุไว้ในพระโกศ ๕ ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ภายใน พระวิหารจตุรมุข ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส คล้ายพระเจดีย์ กว้าง ๔ เมตร สูง ๘ เมตร ตามประวัติว่าสร้างขึ้นโดย พระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช หรือ พระเมืองแก้ว กษัตริย์ราชวงศ์มังราย เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๐๖๐

    [​IMG]



    พระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุลำปางหลาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง

    ปีฉลู(วัว)
    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)ยาปาตุภูตา อะตุลานุภาวาจีรังปะติฎฐาสัมภะ กัปปะปุเร เทเวนะคุตตา อุตตะราภิทัยยา นะมามิหันตัง วะระชินะธาตุง ฐะเปติ มะหา ฐาเนเจติยัง ปูชิตา นะเะเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโย

    พระมหากัสสปเถระ และพระเมติยะเถระ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาจากประเทศอินเดีย เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช โปรดให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ นำไปประดิษฐานในอาณาจักรต่าง ๆ

    ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงมอบพระเกศาธาตุให้ชาวลัวะผู้หนึ่งชื่อกอน ลั๊วะกอนได้สร้างพระสถูปเจดีย์สูงเจ็ดศอก เพื่อบรรจุพระเกศาธาตุไว้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๘ ได้มีพระอรหันต์สององค์คือ พระกุมารกัสสปะ ได้นำเอาพระอัฐิธาตุพระนลาตข้างขวา และพระเมฆิยะ ได้นำเอาอัฐิธาตุลำคอ มาบรรจุไว้ในพระสถูปเจดีย์ไว้อีก พระสถูปเจดีย์องค์นี้ได้มีการสร้างเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง สำหรับองค์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ได้สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๓๐๙ โดยเจ้าเมืองหาญศรีธัตถะมหาสุรมนตรี ซึ่งพระเจ้าดิลกปนัดดาเจ้านครเชียงใหม่ ได้ส่งมากินเมืองลำปางในครั้งนั้น
    [​IMG]



    พระธาตุช่อแฮ วัดพระธาตุช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่

    ปีขาล(เสือ)
    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)โกเสยยะ ธะชัคคะ ปัพพะเต สัตตะมะโนรัมเมพุทธะ เกสาธาตุ ปะติฎฐิตา อะหัง วันทามิ สัพพะทาอะหัง วันทามิ ธาตุโยอะหัง วันทามิสัพพะโส


    พระธาตุช่อแฮ เป็นเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปูชนียสถานที่ศักดิ์ศิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองแพร่มาแต่โบราณตามตำนานกล่าวว่าขุนลัวะอ้ายก๊อมเป็นผู้สร้าง ปรากฏหลักฐานการบูรณะปฏิสังขรณ์ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๗๙-๑๘๘๑ ในสมัยพระมหาธรรมราชา(ลิไท) เมื่อครั้งยังทรงเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองศรีสัชนาลัย ลักษณะองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสนสูง ๓๓ เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ ๑๑ เมตร สร้างด้วยอิฐโบกปูน หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ลงรักปิดทอง
    [​IMG]



    พระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุแช่แห้ง กิ่งอ.ภูเพียง จ.น่าน
    ปีเถาะ(กระต่าย)

    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)ยาปาตุภูตา อะตุลานุภาวาจีรังปะติฎฐิตา นันทะกัปปะเกปุเร เทเวนะ คุตตา วะระพุทธะธาตุงจิรัง วันทามิหันตัง ชินะธาตุโย โส ตะถาคะตังอะหัง วันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ ทูระโต

    จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากกรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง


    [​IMG]
    พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่


    ปีมะโรง(งูใหญ่)

    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)อิติ ปะวะระสิหิงโค อุตตะมะยโสปิ เตโข ยัตถะ จิตโตโส สักกาโร อุปาโท สะกาละพุทธะสาสะธัง โชตะยันโตวะ ทีโป สุระนะเรหิ มะหิโต ธะระมาโนยะ พุทโธติ นะมามิ สิหิงคะพิมพังสุวัณณาภิรัมมัง ลังกาชาตัง

    ในตำนานสิหิงคนิทาน และพงศาวดารโยนก เล่าประวัติว่า หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไป ๗๐๐ ปี พระเจ้าสีหลและกษัตริย์องค์อื่นใคร่ทอดพระเนตรรูปของพระพุทธเจ้า มีแต่พระยานาคที่เคยเห็นพระองค์ จึงแปลงรูปเนรมิตตนเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระเจ้าสีหลได้บูชา ๗ วัน ๗ คืน และให้ช่างถ่ายแบบพระพุทธรูปไว้


    [​IMG]
    วัดเจ็ดยอด หรือ วัดมหาโพธาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    ปีมะเส็ง(งูเล็ก)

    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)ปะฐะมัง โพธิปัลลังกัง ทุติยังอะนิมิสสะกัง ตะติยัง จังกะมะเสฏฐัง จะตุตถะกัง ระตะนะฆะรังปัญจะมัง อะชะปาละนิโคธังฉัฏฐัง ราชายะตะนัง สัตตะมัง มุจจะลินทัง อะหัง วันทามิ ทูระโต

    วัดเจ็ดยอด หรือ วัดมหาโพธาราม เป็นอารามที่มีความ สำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา ในอาณาจักรล้านนา กล่าวคือ ในปีพุทธศักราช 2020 พระเจ้าติโลกราช โปรดให้จัดการ ประชุม พระเถรานุเถระ ทั่วทุกหัวเมืองในอาณาจักรล้านนา แล้วทรงคัดเลือกได้พระธรรมทิน เจ้าอาวาสวัดป่าตาล ผู้เจนจัดในพระบาลี เป็นฝ่ายสงฆ์ พระเจ้าติโลกราช ทรงรับเป็น ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ทำการสังคายนา พระไตรปิฎกครั้งใหญ่เป็นลำดับที่ 8 นับเนื่องจากที่ ได้ทำมาแล้วทั้งในประเทศอินเดีย และ ศรีลังกา รวมแล้ว 7 ครั้ง และการทำการสังคายนา ที่ได้ทำ ณ วัดมหาโพธารามนี้ นับว่าเป็นการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งแรกในประเทศไทย




    [​IMG]
    พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า

    ปีมะเมีย(ม้า)
    คำบูชาพระธาตุ (ตั้งนโม 3 จบ)สัมมาสัมพุทธะ นะลาตะอัฏฐิ จะตุเกสาธาตุยาคันธะวะ รังฐิตัง ปะระมา ธาตุ เจติยัง
    อะหัง วันทามิ สัพพะธา

    ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ขณะที่เสด็จประทับอยู่ใต้ต้นเกด มีพ่อค้าพี่น้องสองคนชื่อ ตปุสสะ และ ภัลลิกะ มีความเลื่อมใส ถวายข้าวสัตตูให้เสวย แล้วถวายตัวเป็น ปฐมอุบาสก ในพระพุทธศาสนา
    ครั้นเมื่อจะจากไป กราบทูลขอให้พระพุทธองค์ ประทานสิ่งอันใด ไปเป็นอนุสรร์ สำหรับบูชาพระพุทธคุณ สักสิ่งหนึ่ง พระมหากรุณาเจ้า จึงเสยพระเศียร ได้พระเกศา 8 เส้น ประทานอุบาสกทั้ง สองตามความปรารถนา (หนังสือปฐมสมโพธิ ตอนอภิสัมโพธิสัพพัญญูปริวัตร) ต่อมามอญ เอามาตั้งเป็นตำนานพระเกศธาตุต่อว่า...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...