พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.rasbit.com/free/book/budha1.htm#8

    อานิสงค์การทำทาน


    ๐๘ อานิสงส์บวช ...บวชนี้ ย่อมมีผลานิสงส์อย่างมากมาย
    องค์สมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสเทศนาอานิสงส์แห่งการบรรพชาอุปสมบทไว้โดยอเนกประการว่า
    "ทาสสฺส อานนฺท ดูกร อานนท์ บุคคลใดมีศรัทธาบรรพชาทาสกรรมกรให้เป็นสามเณร หรือสามเณร มีอานิสงส์ ๔ กัลป์ บวชเป็นภิกษุหรือภิกษุณี มีอานิสงส์๘ กัลป์ และถ้าอุปสมบทจะได้รับอานิสงส์ ๑๖ กัลป์ หากอุปสมบทได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป์ ถ้าอุปสมบทตนเองในพระพุทธศาสนา ด้วยศรัทธาเลื่อมใสจะได้อานิสงส์ถึง ๖๔ กัลป์ บุคคลใดได้บรรพชาบุตรตนก็ดี บุตรของผู้อื่นก็ดี ก็จะไม่ไปสู่อบายภูมิ"
    แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า "ดูกร อานนท์ ดังจะเห็นได้จากหญิงผู้หนึ่ง เขามีบุตรอยู่คนเดียว บุตรชายเขาขอไปบวชมารดาก็ไม่ให้บวชบุตรชายจึงหนีไปบวช อยู่มาวันหนึ่งมารดาของสามเณรนั้นออกจากบ้านไปแต่เช้า เพื่อจักแสวงหาฟืน มารดาสามเณรครั้นหาฟืนได้พอสมควรแล้วก็กลับบ้าน พอมาถึงระหว่างทางได้พักอยู่โคนต้นไม้ใหญ่ แล้วลงนอนพักผ่อนก็หลับไป ได้นิมิตรฝันไปว่ามีพระยายมราชมาถามว่า ดูกรผู้หญิง เธอได้กระทำบุญหรือว่าไม่ได้กระทำเลย
    มารดาของสามเณรนั้นตอบว่า 'ข้าแต่เจ้า ดิฉันไม่ได้กระทำบุญอย่างไรเลย'
    พระยายมราชทราบแล้ว ก็จับเอาผู้หญิงนั้นไปใส่นรกทันที ได้และเห็นไฟนรกลุกโพลงก็ถามพระยายมราชว่า 'อันไฟแดงนั้นเป็นอย่างไร'
    พระยายมราชว่า 'อันไฟแดงนั้นเป็นไฟนรก'
    ผู้หญิงจึงบอกว่า 'เหมือนกับผ้าจีวรของลูกชายของข้าพเจ้าอันได้บวชเป็นสามเณรนั้นแล'
    พระยายมราชจึงกล่าวว่า 'ดูกร ผู้หญิง ลูกชายของเธอยังได้บวชหรือ'
    นางก็ตอบว่า 'ลูกชายยังได้บวชเป็นสามเณรอยู่'
    พระยายมราชได้ยินคำของนางดังนั้นแล้ว จึงนำนางมาคืนไว้เดิมเสีย เหตุอันนี้ก็เพราะบุญของลูกชายตนที่ได้บวชเป็นสามเณรในพุทธศาสนาไปกั้นนรกไว้ได้ ครั้นนางตื่นขึ้นมาก็ตกใจกลัวรีบกลับบ้าน ตั้งแต่นั้นนางก็เลื่อมใสในพุทธศาสนา เฝ้าปฏิบัติสามเณรลูกชายของตนมิได้ขาดจนนางได้ตายไปตามอายุขัยก็ไปบังเกิดในสวรรค์ดั้งนี้ เป็นต้น...


    ๒๐ อานิสงส์รักษาศีล
    ...พ่อค้าสำเภา ได้ไปค้าขายหัวเมืองต่างๆ ในท้องมหาสมุทร อยู่มาวันหนึ่งเกิดมรสุมพายุพัดอันแรงกล้า จนพวกพ่อค้าสำเภาหมดปัญญาแก้ไขได้คิดทอดอาลัยตามแต่บุญกรรม หัวหน้าพ่อค้าสำเภาเรียกบรรดาพ่อค้ามาพร้อมกัน ๕๐๐ คน ให้สมาทานศีลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวไปในชาติหน้ากันเถิด เมื่อสมาทานศีลจบแล้ว เรือสำเภาก็แตก จมลงในมหาสมุทรนั้น พ่อค้า ๕๐๐ คน ถึงแก่ความตายพร้อมกันหมด แต่ด้วยอำนาจรักษาศีลด้วยความตั้งใจเพียงชั่วครู่เท่านั้น ก็ไปเกิดในสวรรค์มีวิมานทองเป็นที่อยู่ตลอดทั้ง ๕๐๐ คน...

    <HR color=#c0c0c0 SIZE=1>
    ๒๑ อานิสงส์ถวายดอกไม้ธูปเทียน ..ในครั้งพุทธกาลก็มีผู้กระทำมาแล้วย่อมมีผลานิสงส์อย่างอเนกประการ คือ นายสุมนมาลากร มีเรื่องอยู่ว่า
    นายสุมนมาลาการนี้ เก็บดอกมะลิมาถวาย
    พระเจ้าพิมพิสารวันละ ๘ ทะนาน และรับเงิน ๘ กหาปณะต่อวัน ขณะที่เขาเก็บดอกไม้อยู่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกบิณฑบาตภายในพระนครพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป เป็นบริวาร นายสุมนมาลาการเห็นเข้า ก็เกิดจิตเลื่อมใสคิดอยากจะทำบุญแก่พระตถาคต แต่ไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากดอกไม้ จึงเอาดอกไม้เหล่านั้นบูชาพระองค์ โดยไม่เกรงกลัวพระราชาจะทรงกริ้วโกรธ ถึงแม้จะถูกพระราชาประหารชีวิตก็ยอมตาย การบูชาดอกไม้ของนายมาลาการได้กระทำซัดดอกไม้ขึ้นไปในเบื้องบน ของพระตถาคต ๒ กำมือ ดอกไม้เกิดอัศจรรย์ขึ้นไปประดิษฐานเบื้องบนเป็นเพดานกั้นพระเศียรพระตถาคต แล้วก็ซัดไปทางพระหัตถ์ขวา ๒ กำ ด้านพระปฤษฎางค์ ๒ กำ พระหัตถ์ซ้าย ๒ กำ รวมทั้งหมด ๘ กำ ดอกไม้เหล่านั้นได้เกิดอัศจรรย์แวดล้อมพระตถาคตอยู่ตลอดเวลา นายมาลาการเห็นดังนั้นก็ยินดียิ่งนัก ได้ถือกระเช้าเปล่าไปเรือน ฝ่ายภรรยาเห็นไม่มี
    ดอกไม้ในกระเช้า นายมาลาการบอกแก่ภรรยาว่า
    "เอาดอกไม้บูชาพระตถาคตแล้ว" นางได้ตอบว่า "ธรรมดาพระราชาเป็นผู้ดุร้าย กริ้วคราวเดียวก็ทำความพินาศให้ถึงความตาย ดังนั้นความพินาศนี้พึงมีแก่เรา เพราะเธอได้ทำกรรมไว้"
    นางได้อุ้มลูกไปเฝ้าพระราชาทูลขอหย่ากับนายมาลาการกับพระองค์ พระราชาทรงทราบความต่ำทรามแห่งจิตของนางแล้วก็ทำเป็นกริ้ว และอนุญาตให้นางหย่ากับนายมาลาการ แล้วพระราชาได้เสด็จไปสู่สำนักพระศาสดาถวายบังคมทูลอาราธนาพระศาสดาไปรับภัตตาหารใน
    พระราชวังพระศาสดาทรงทราบพระราชหฤทัยของ
    พระราชา พระองค์ทรงรับอาราธนาแล้วเสด็จไปสู่พระราชวังของพระราชา แต่พระศาสดาทรงพระประสงค์ จะประทับที่พระลานหลวง จะประกาศคุณงามความดีของนายมาลาการ
    พระราชาทรงอังคาสพระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ตามส่งเสด็จพระศาสดาไปสู่วิหาร เสด็จกลับมาตามนายมาลาการ ถามถึงสาเหตุที่ถวายดอกไม้แก่พระศาสดา พอทราบเรื่องแล้วทรงพระราชทานรางวัล ๘ ชนิด มีช้าง ๘ เชือก ม้า ๘ ตัว ทาส ๘ คน ทาสี ๘ คน กหาปณะ ๘ พัน นารี ๘ นาง และเครื่องประดับอย่างละ ๘ และบ้านส่วยอีก ๘ หมู่บ้านเป็นอันว่ากรรมดีได้สนองผลให้แก่นายสุมนมาลาการในวันนั้นเอง...


    ๒๘ อานิสงส์สร้างหนังสือ ...ดังมีใจความว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัม
    พุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุง
    สาวัตถี ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้า มีความประสงค์ว่าจักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัท พระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถามแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
    "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า"
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ดูกร ท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์ ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่างๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดา อากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็น ทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนี้เป็นต้น"
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสต่อไปว่า "ดูกร ท่าน
    สารีบุตร เมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดาแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าปุราณโคดม ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ ได้ตั้งความปรารถนา 'ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น' สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า 'อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดม' ก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้แล" ก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนาที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้...


    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="80%">๓๙ อานิสงส์ปิดทองพระพุทธรูป
    ...นัยว่าพระเจ้ามหารถราช เสวยสมบัติในสักกราชาวดีนคร ท้าวท่านเป็นสัมมาทิฎฐิบุคคล คือมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกันข้ามกับพระเจ้า
    ปัญจาลราช กษัตริย์กรุงปัญจาลราชนคร ผู้เป็นมิจฉาทิฎฐิบุคคล คือไม่นับถือพระพุทธศาสนา กษัตริย์ทั้งสองเป็นสหายที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย
    ครั้งหนึ่ง พระเจ้าปัญจาลราชได้ส่งผ้ารัตนกัมพลผืนหนึ่งไปถวายพระเจ้ามหารถราช พระเจ้ามหารถราชทอดพระเนตรเห็นผ้ารัตนกัมพลแล้วจึงตรัสว่าสหายเราส่งผ้าอันมีค่ามากมาให้เรา เราก็ควรจัดส่งแก้วอันประเสริฐไปให้ตอบแทนพระสหาย ดังนี้ พระเจ้ามหารถจึงคิดว่าเราจะส่งแก้วสิ่งใดหนอซึ่งมีค่ามากเหนือสิ่งอื่นใด พิจารณาแล้วเห็นว่า แก้วใดๆ จะประเสริฐกว่าพุทธรัตนะย่อมไม่มี จึงตกลงใจจะส่งพุทธรัตนะไปถวาย จึงสั่งให้ช่างนำแผ่นทองคำมาตีเป็นแผ่นบาง แล้วให้เขียนรูปพระพุทธเจ้าลงไปในแผ่นทองคำด้วยชาตหรคุณ มีขนาดองค์ประมาณ ๑ ศอก แล้วสั่งให้อำมาตย์เชิญพระพุทธรูปทองนั้นลงสู่สำเภาเพื่อนำไปถวายพระเจ้าปัญจาลราช
    ก่อนที่จะส่งราชทูตไป พระองค์ยกมือขึ้นประนมถวายนมัสการ โดยทรงระลึกถึงองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย พระองค์มีความประสงค์จะสั่งสอนเวไนยสัตว์ในประเทศใดๆ ขอพระองค์ทรงเสด็จไปยังประเทศนั้นๆ แล้วยังประโยชน์ให้เกิดแก่สัตว์จำพวกนั้นเถิด พระเจ้าปัญจาลราชสหายของหม่อมฉันเป็นมิจฉาทิฎฐิ มีความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรมมิได้มีความเชื่อความเลื่อมใสในพระองค์ ถ้าพระองค์เสด็จไปยังพระนครนั้นแล้ว ขอพระองค์ได้โปรด
    แสดงปาฎิหาริย์ทรมานพระเจ้าปัณจาลราชให้ละซึ่งมิจฉาทิฎฐิด้วยเถิด"
    อธิษฐานเสร็จแล้ว จึงเสด็จลงน้ำประมาณพระศอ (พระพุทธเจ้าอยู่บนเรือท่านจึงลงไปในน้ำซึ่งต่ำกว่า) เพื่อส่งรูปพระพุทธเจ้านั้นไปยังเมืองปัญจาลนคร
    ในขณะนั้น บรรดาแก้วอันเกิดในมหาสมุทรที่มีสีต่างๆ ก็ผุดขึ้นจากท้องมหาสมุทรลอยอยู่เหนือน้ำเพื่อบูชาพระพุทธรูปนั้น พื้นน้ำงามวิจิตรด้วยแก้ว ๗ ประการ ประหนึ่งพื้นแห่งภาชนะทอง ดอกปทุมทั้งหลายก็ผุดขึ้นเหนือพื้นน้ำ พญานาคทั้งหลายก็ได้พานาคบริษัทออกจากนาคพิภพขึ้นมาสักการบูชาด้วยสุคันธมาลา เทวดาทั้งหลายก็เรี่ยรายดอกไม้ทิพย์ลงมาจากอากาศ
    เมื่อราชทูตไปถึงกรุงปัญจาลนครแล้ว จึงเข้าไปถวายบังคมพระเจ้าปัญจาล แล้วกราบทูลเหตุอัศจรรย์ให้ทราบโดยตลอด ท้าวเธอทรงโสมนัสปรีดาในเครื่องบรรณาการเป็นยิ่งนัก ได้เสด็จออกพร้อมจตุรงคเสนารับสั่งให้ชาวเมืองประโคมแตรสังข์ กังสดาล เสด็จไปยังท่าน้ำ ถวายนมัสการสักการบูชาแล้วเสด็จลงไปในน้ำประมาณ
    พระศอ ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปแล้วทรงยินดีทรงแสดงตนเป็นพุทธมามกะ
    แล้วด้วยอำนาจความศรัทธาของพระเจ้าปัญจาลราช และด้วยอำนาจอธิษฐานของพระเจ้ามหารถราช พระพุทธรูปนั้นก็ลอยขึ้นไปบนอากาศเปล่งรัศมี ๖ ประการ จับพื้นปฐพีตลอดจนถึงพรหมโลก กลบแสงแห่งอาทิตย์ กลบแสงรัศมีเทวดาในหมื่นโลกธาตุ ณ กาลนั้น
    ในคราวนั้น พระอินทร์ ได้เสด็จลงมาถวายนมัสการพร้อมด้วยเทพบริษัท มนุษย์ก็เห็นหมู่เทวดา เทวดาก็เห็นหมู่มนุษย์พระเจ้าปัญจาลราชเห็นปาฎิหาริย์เช่นนั้น ก็ทรงโสมนัสยินดียิ่งนักได้นำพระพุทธรูปไปประดิษฐานในพระมนเทียรแล้วบูชาด้วยประทีปธูปเทียนชวาลา ทรงแสดงองค์เป็นอุบาสก
    ในเวลาต่อมา พระองค์ได้ให้ช่างแกะรูป
    พระพุทธเจ้าด้วยแก่นจันทน์แล้วประดิษฐานไว้ในศาลาไม้บุณนาค แล้วรับสั่งให้ชาวเมืองพากันมาปิดทองพระพุทธรูป
    ในครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เป็นคนเข็ญใจในเมืองนั้น เมื่อได้ยินเสียงโฆษณาดังกล่าวแล้วจึงตัดสินใจอำลาลูกอำลาเมียเพื่อไปขายตัวให้เป็นทาส แล้วจะได้เงินมาซื้อทองปิดพระพุทธรูป แต่ด้วยความเห็นใจของภรรยา ภรรยาจึงยอมขายตนและลูกเป็นค่าทอง พระโพธิสัตว์นำลูกเมียไปขายในตระกูลที่มั่งคั่ง แล้วนำไปซื้อทองปิดพระพุทธรูป
    แต่เมื่อทองไม่พอแก่การปิดพระพุทธรูป จึงรำพึง "ใครหนอจักทำเนื้อมนุษย์ให้เป็นทองได้ เราจักบริจาคตน"
    ในครั้งนั้นท้าวสักกเทวราช ได้เสด็จลงมายืนอยู่ตรงหน้า แสดงตนเป็นช่างทองต่อพระโพธิสัตว์ เมื่อทราบว่าช่างทองนั้นสามารถทำเนื้อให้เป็นทองได้จึงประกาศแก่เทพเทวดาขออาวุธเชือดเลือดเนื้อตกลงมา เมื่อได้ศัสตราวุธแล้วพระโพธิสัตว์ก็เชือดเนื้อของตนจนตราบเท่าที่จะปิดทองสำเร็จ ก็ให้เกิดความยินดีโสมนัส สลบลงแทบเท้า
    พระพุทธรูป พระอินทร์ได้เยียวยาให้หายเป็นปรกติแล้วเป็นผู้มีกายดุจสีทองได้ตรัสพยากรณ์ว่า
    "ท่านจัดได้เป็นพระศรีสรรเพชญ์ในอนาคต" แล้วพระอินทร์ก็กลับสู่วิมาน พระเจ้าปัญจาลราชพร้อมชาวเมือง ได้ทำการสักการบูชาแก่พระโพธิสัตว์ และแบ่งสมบัติให้
    พระโพธิสัตว์เป็นอันมาก ครั้นดับขันธ์แล้วพระโพธิสัตว์ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตเสวยสมบัติอันมโหฬาร"...
    <HR color=#c0c0c0 SIZE=1>๔๐ อานิสงส์ การเจริญเมตตา
    .."เอวัม เม สุตัง,
    ข้าพเจ้า (คือพระอานนท์) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้,
    เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม,
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นอารามของอนาถปิณฑิกคฤหัสบดี ใกล้เมืองสาวัตถี,
    ตัตระ โข ภะคะวา ภิกขุ อามันเตสิ ภิกขะโวติ,
    ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก
    พระภิกษุทั้งหลายว่า,
    'ดูกร ภิกษุ ทั้งหลาย' ,
    ภะทันเตติ ภิกขู ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุง,
    ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว,
    ภะคะวา เอตะทะโวจะ,
    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระดำรัสนี้ว่า,
    "เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา,
    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เมตตาอันเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
    อาเสวิตายะ,
    อันบุคคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
    พะหุลีกาตายะ ยานีกะตายะ,
    ทำให้มาก คือชำนาญให้เป็นยวดยานของใจ,
    วัตถุกะตายะ อะนุฎฐิตายะ,
    ให้เป็นที่อยู่ของใจตั้งไว้เป็นนิตย์,
    ปะริจิตายะ,
    อันบุคคลส่งเสริมอบรมแล้ว บำเพ็ญดีแล้ว,
    เอกาทะสานิสังสา ปาฎิกังขา,
    ย่อมมีอานิสงส์ สิบเอ็ดประการ,
    กะตะเม เอกาทะสะ,
    อานิสงส์สิบเอ็ดประการ อะไรบ้าง,
    ๑. สุขังสุปะติ, คือ (ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น) หลับอยู่ก็เป็นสุขสบาย
    ๒. สุขัง พุชฌะติ, ตื่นขึ้นก็เป็นสุขสบาย,
    ๓. นะปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ, ไม่ฝันร้าย
    ๔. มะนุสสานัง ปิโยโหติ, เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย,
    ๕. อะมะนุสสานัง ปิโยโหติ, เป็นที่รักของเหล่าอมนุษย์ทั่วไป,
    ๖. เทวะตารักขันติ, เทวดาย่อมคุ้มครองรักษา
    ๗. นาสสะอัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ, ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัตราก็ดี ย่อมทำอันตรายไม่ได้,
    ๘. ตุวะฎัง จิตตังสะมาธิยะติ, จิตย่อมเป็นสมาธิได้โดยเร็ว,
    ๙. มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ, ผิวหน้าย่อมผ่องใส,
    ๑๐. อะสัมมุฬโห กาลัง กะโรติ, เป็นผู้ไม่ลุ่มหลง ทำกาลกิริยาตาย,
    ๑๑. อุตตะรัง อัปปะฎิวำชฌันโต, พรัหมะโลกูปะโค โหติ, เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษอันยิ่งๆขึ้นไป, ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลกแล,
    เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา,
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมตตาอันเป็นไปเพื่อความหลุดพ้นแห่งจิตนี้,
    อาเสวิตายะ,
    อันบุคลบำเพ็ญจนคุ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว,
    พะหุลีกาตายะ ยานีกะตายะ,
    ทำให้มาก คือชำนาญให้เป็นยวดยานของใจ,
    วัตถุกะตายะ อะนุฎฐิตายะ,
    ให้เป็นที่อยู่ของใจตั้งไว้เป็นนิตย์,
    ปะริจิตายะ,
    อันบุคคลส่งเสริมอบรมแล้ว บำเพ็ญดีแล้ว,
    เอกาทะสานิสังสา ปาฎิกังขา,
    ย่อมมีอานิสงส์ สิบเอ็ดประการ",
    อิทะมะโว จะ ภะคะวา,
    พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสธรรมปริยายอันนี้แล้ว,
    อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต,
    ภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ ก็มีใจยินดี,
    ภาสิตัง อะภินันทุนติ,
    พอใจในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น,
    อิติ,
    ด้วยประการฉะนี้แล
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="80%">Go To Top
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="80%"><!--webbot bot="Include" U-Include="../include/budha_pdf.htm" TAG="BODY" startspan --><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="40%" border=0><TBODY><TR><TD width="55%">
    ดาวน์โหลดหนังสือ อานิสงค์การทำทาน​

    </TD><TD width="15%">
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE><!--webbot bot="Include" i-checksum="47561" endspan -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต้องยอมรับกันตรงๆว่า คุณSunny<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_845702", true); </SCRIPT> ก็เป็นคนที่เก่งเรื่องพระวังหน้าคนนึงเช่นกัน และเก่งกว่าคนที่แค่ตรวจพลังอิทธิคุณได้บางคนเยอะ ไม่ใช่เพียงแต่ว่า รับข้อมูลมาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    การดูพระวังหน้า นอกจากตรวจพลังอิทธิคุณได้หรือตรวจพลังอิทธิคุณเป็นนั้น ต้องดูเนื้อหาทรงพิมพ์เป็นด้วย

    นอกจากคุณSunny<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_845702", true); </SCRIPT> แล้วยังมีคุณนายสติ ที่เก่งมากๆเช่นกัน ทั้งสองท่านนี้ เป็นผู้ที่ศึกษาพระวังหน้าหรือพระกรุวัดพระแก้วจากท่านอาจารย์ประถม อาจสาครมามากกว่าผมเยอะครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2007
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    เรื่องแรก จะไปช่วยเรื่องงานบวชของน้องเอกัน
    ผมได้คุยกับน้องเอบ้างแล้ว ยินดีช่วยตามเรื่องตามราวครับ โมทนาสาธุครับ

    เรื่องที่สอบ ไปพบปะสังสรรค์พูดคุยกันที่บ้านปู่

    เอาตำราไหนครับ และจะสอบกันยังไงครับ

    เรื่องที่สาม ไปบริจาคเลือดกันที่สภากาชาดไทย หรือบริจาคเงินให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา

    ยินดีร่วมช่วยทุนทรัพย์ครับ แต่บริจาคเลือดเคยเดินทางไปที่ รพ. รามาธิบดี แล้ว ผลความดันต่ำครับ ของดครับ

    สาธุครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมได้คุยกับคุณSunny เรื่องท่านอาจารย์ประถม คุณSunny มีความเห็นเหมือนกับผมก็คือ ท่านอาจารย์ประถม ไม่ใช่บุคคลที่เป็นสาธารณะ เพราะว่าไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ดารา

    แต่เป็นบุคคลที่ต้องถือว่าเป็นปูชนียบุคคล ที่มีองค์ความรู้อย่างมากมายมหาศาล ท่านเป็นผู้ที่ศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างมากๆ และต้องให้ความเคารพครับ

    ผมจึงมาเรียนให้ทุกๆท่านทราบครับ

    ท่านอื่นๆมีความคิดเห็นอย่างไร เสนอความคิดเห็นกันได้ครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แจกฟรี !!! พระและวัตถุมงคลอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน

    http://palungjit.org/showthread.php?p=846188#post846188

    <TABLE class=tborder id=post846171 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_846171", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:24 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,846 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 16,917 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,635 ครั้ง ใน 6,080 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4265 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_846171 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->แจกฟรี !!! พระและวัตถุมงคลอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เพื่อนๆสมาชิกที่ร่วมทำบุญและไม่ได้ร่วมทำบุญกับผม หากต้องการพระที่ผ่านการอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน จะนำไปแจกในงานบุญต่างๆเช่นงานบวช งานผ้าป่า งานกฐิน งานแต่ง สามารถแจ้งความประสงค์

    ติดต่อขอรับได้จากท่านอ.จเร เกิดผล เบอร์โทรศัพท์ 0819911822 รบกวนโพสด้วยนะครับ


    ปล.ห้ามขอตํ่ากว่า 100 องค์ นะครับ

    แจกให้ฟรีจนกว่าจะหมดเพื่อเป็นการร่วมสร้างทานบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    แจกโดยไม่มีข้อแม้
    แจกโดยไม่มีเงื่อนไข

    แจกโดยไม่ซ่อนเล่ห์ ซ่อนกลไว้

    มหาโมทนาสาธุกับอ.จเร ,น้องกวง เป็นอย่างสูงครับ

    ขอเชิญในกระทู้นะครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมไม่ได้ขวางทางบุญ
    ต้องพิจารณาทีละเรื่อง ทีละประเด็นนะครับ
    ผมก็ยังคงทำบุญต่อไป แต่ผมยังคงอุดมการณ์เดิม ชี้แจงไม่กำกวม ต้องตรงไปตรงมา โปร่งใสครับ

    .
     
  7. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    กึ๋ยส์????? ตั้งแต่เรียนจบมา ก็ยังไม่ได้สอบอะไรมานานแล้ว แล้วผมจะทำไงดีนี่ จะอ่านเล่มไหนดีน้อ
    (tm-love)
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้ไปแจ้งในกระทู้ ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    #1845

    กราบเรียนพระคุณเจ้าครับ
    เรียนคุณโตครับ


    ตามนี้ครับ

    แจกฟรี !!! พระและวัตถุมงคลอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน

    http://palungjit.org/showthrea...188#post846188


    <TABLE class=tborder id=post846171 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_846171", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:24 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,846 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 16,917 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,635 ครั้ง ใน 6,080 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4265 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_846171 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->แจกฟรี !!! พระและวัตถุมงคลอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เพื่อนๆสมาชิกที่ร่วมทำบุญและไม่ได้ร่วมทำบุญกับผม หากต้องการพระที่ผ่านการอธิษฐานจิตโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน จะนำไปแจกในงานบุญต่างๆเช่นงานบวช งานผ้าป่า งานกฐิน งานแต่ง สามารถแจ้งความประสงค์

    ติดต่อขอรับได้จากท่านอ.จเร เกิดผล เบอร์โทรศัพท์ 0819911822 รบกวนโพสด้วยนะครับ

    ปล.ห้ามขอตํ่ากว่า 100 องค์ นะครับ

    แจกให้ฟรีจนกว่าจะหมดเพื่อเป็นการร่วมสร้างทานบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post846338 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:42 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #9 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_846338", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:42 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 17,264 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 21,431 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 97,899 ครั้ง ใน 13,356 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 11546 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_846338 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียนอ.จเร และน้องกวง

    ผมขอพระพิมพ์ที่อธิษฐานจิตโดยหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน จำนวน 500 องค์ เพื่อนำไปถวายหลวงพ่อแผน ที่สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง เพื่อไว้แจกท่านที่ไปทำบุญที่สนส.บ่อเงินบ่อทองครับ

    โมทนาบุญกับ อ.จเรและน้องกวงเป็นอย่างสูงครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=103158

    <TABLE class=tborder id=post846188 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:27 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_846188", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:50 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 17,268 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 21,432 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 97,912 ครั้ง ใน 13,359 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 11548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_846188 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->แจกโดยไม่มีข้อแม้
    แจกโดยไม่มีเงื่อนไข
    แจกโดยไม่ซ่อนเล่ห์ ซ่อนกลไว้

    มหาโมทนาสาธุกับอ.จเร ,น้องกวง เป็นอย่างสูงครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

    <!-- / sig -->

    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("846188")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --> <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack --> <!-- End Post Thank You Hack --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 846188 popup menu -->

    <!-- / post 846188 popup menu --><!-- / close content container --><!-- / post #846188 --><!-- Start Post Thank You Hack --><SCRIPT type=text/javascript><!--function post_thanks_give_846188(){ fetch_object('post_thanks_button_846188').style.display = 'none' fetch_object('post_groan_button_846188').style.display = 'none' do_thanks_add = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_add.onreadystatechange(thanks_add_Done_846188) do_thanks_add.send('showthread.php?do=post_thanks_add_ajax&p=846188')}function thanks_add_Done_846188(){ if (do_thanks_add.handler.readyState == 4 && do_thanks_add.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_846188').innerHTML = do_thanks_add.handler.responseText }}function post_thanks_remove_all_846188(){ do_thanks_remove_all = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_all.onreadystatechange(thanks_remove_all_Done_846188) do_thanks_remove_all.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_all_ajax&p=846188') fetch_object('post_thanks_button_846188').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_846188').style.display = '' }function thanks_remove_all_Done_846188(){ if (do_thanks_remove_all.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_all.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_846188').innerHTML = do_thanks_remove_all.handler.responseText }}function post_thanks_remove_user_846188(){ do_thanks_remove_user = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_user.onreadystatechange(thanks_remove_user_Done_846188) do_thanks_remove_user.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_user_ajax&p=846188') fetch_object('post_thanks_button_846188').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_846188').style.display = '' }function thanks_remove_user_Done_846188(){ if (do_thanks_remove_user.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_user.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_846188').innerHTML = do_thanks_remove_user.handler.responseText }}//--></SCRIPT><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>สมาชิก 7 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ sithiphong ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>[​IMG] guawn (วันนี้), KOSOL THAMPREE (วันนี้), MEW (วันนี้), Sunny (วันนี้), warnipon (วันนี้), yokusta (วันนี้), จอร์จ (วันนี้)</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2007
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณวิรัช (เพื่อนผมที่คบกันมา 24 ปีแล้ว) ได้ร่วมทำบุญที่ "ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 348-1-23245-9 บมจ.กรุงศรีอยุธยา สาขาถนนวิภาวดีรังสิต(ซันทาวเวอร์ส) จำนวนเงิน 5,000 บาท โดยได้โอนเงินเรียบร้อยแล้ว

    ขอมหาโมทนาบุญด้วยครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aries2947 [​IMG]
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>aries2947, โลกิยะ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้พี่ๆไม่อยู่เลยนะครับ
    น้องเอ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ใจตรงกัน

    (ping-love
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าลืมนะเพื่อน ที่เคยพูดให้ฟัง
    ต้องทำน๊ะ เป็นห่วง

    โมทนาบุญอีกครั้งนะครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คุณวิรัช (เพื่อนผมที่คบกันมา 24 ปีแล้ว) ได้ร่วมทำบุญที่ "ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 348-1-23245-9 บมจ.กรุงศรีอยุธยา สาขาถนนวิภาวดีรังสิต(ซันทาวเวอร์ส) จำนวนเงิน 5,000 บาท โดยได้โอนเงินเรียบร้อยแล้ว

    ขอมหาโมทนาบุญด้วยครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ลืมแจ้งไปว่า เพื่อนผมไม่ขอรับพระพิมพ์

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอแสดงความยินดีกับน้องท๊อปด้วย ได้ดาวมาเพิ่มอีกดวงแล้ว

    ขอพระบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดอำนวยอวยพรให้น้องท๊อปปลอดภัยจากการปฎิบัติหน้าที่ทั้งหลาย และมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน,ชีวิตส่วนตัวและครอบครัวด้วยครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.komchadluek.net/2007/11/30/j001_176711.php?news_id=176711


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วิถีบุญวิถีธรรม-"บุญสร้างพระ" กับ...พลังศรัทธาที่หลากหลาย </TD></TR><TR><TD vAlign=top>29 พฤศจิกายน 2550 19:10 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] ประเพณีการสร้างพระมีพื้นฐานมาจากความเคารพความเชื่อมั่นและความศรัทธาเลื่อมใสในสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล
    การสร้างพระพุทธรูปในแต่ละยุคมีลักษณะที่แตกต่างกันแต่พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และจุดประสงค์หนึ่งที่พระและวัดจัดสร้างพระพุทธรูป คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
    นอกจากนี้ยังมีจุดประสงค์อื่นที่หลากหลาย ทั้งนี้ พระครูสิริศุภกิจ เจ้าคณะตำบลหนองพลับและเจ้าอาวาสวัดหนองพลับ บอกว่า พลังศรัทธาในการสร้างพระพุทธรูปแต่โบราณ พอประมวลสรุปได้ดังนี้ ๑.สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒.สร้างเพื่อเป็นพุทธานุสติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการดำเนินชีวิตของบุคคลให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ๓.สร้างเพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา จรรโลงพุทธศาสนาแก่อนุชนรุ่นหลังให้คงอยู่คู่แผ่นดินสยาม
    ๔.สร้างเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์เสริมชะตาชีวิต วิถีทางหนึ่งแต่โบราณคือการบนบานสานกล่าว เมื่อสมปรารถนาก็สร้างพระถวายแก้บน หรือสร้างพระจำนวนเท่ากำลังวันเกิดถวายเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาชีวิต เป็นต้น๕.สร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการีที่ล่วงลับจากไปแล้ว ด้วยอิทธิพลของคำสอนในเรื่องความกตัญญูกตเวทีในหลักพระพุทธศาสนานั้นเอง เป็นต้น ๖.สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติวีรกษัตริย์ หรือบุคคลสำคัญของแผ่นดินสยาม แต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
    ๗.สร้างเพื่อพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร หรือผู้สนองคุณแผ่นดิน เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระสมเด็จจิตรลดา หรือพระกำลังแผ่นดินแก่ผู้สนองคุณแผ่นดิน ๘.สร้างเพื่อเป็นพระชัยประจำรัชกาล หรือพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ๙..สร้างเพื่อเป็นมงคลอนุสรณ์ ในมงคลโอกาสต่างๆ ของชีวิตบุคคลผู้ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ในมงคลโอกาสครบรอบวันเกิด หรืออายุวัฒนมงคลครบรอบนักษัตร
    ๑๐.สร้างเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แผ่พุทธานุภาพปกป้องคุ้มภัยเป็นขวัญกำลังใจต่อชีวิตในโอกาสต่างๆ และ ๑๑.สร้างเพื่อมอบเป็นมงคลอนุสรณ์แก่ผู้ร่วมสร้างกุศลและคุณประโยชน์ในพระพุทธศาสนา และสาธารณกุศลแก่ส่วนรวม แต่โบราณกาลถือคติสร้างเพื่อแจกเป็นทานแก่พุทธศาสนิกชน ผู้ร่วมกุศลในพระพุทธศาสนา เพื่อหารายได้สร้างศาสนสถานในพระพุทธศาสนาและสาธารณกุศลแก่ส่วนรวมต่อไป
    สำหรับผลบุญและอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปนั้น เจ้าอาวาสวัหนองพลับ บอกว่า จะสร้างด้วยวัตถุใด ๆ ก็แล้วแต่ ย่อมมีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จะเกิดในภพใดภูมิใดไม่ว่ามนุษย์และเทวดา อินทร์พรหมทุกหมู่เหล่าจะได้เป็นประมุข ประธาน มียศ วาสนา อำนาจ และบริษัทบริวารมาก เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ จะได้เกิดเป็นบรมกษัตริย์ สมบูรณ์ด้วยสมบัติบริวาร และจะได้เกิดเป็นพระบรมจักรพรรดิติดต่อกันถึง ๑๐ ชาติ บริบูรณ์ด้วยลาภยศสรรเสริญทุกประการ
    ร่วมบุญสร้างพระ
    วัดต้นลำใย จ.กาญจนบุรี จะประกอบพิธีเททองหล่อพระพ่อ (ปางห้ามสมุทร) ขนาดความสูง ๒.๓๕ เมตร เวลา ๑๖.๑๙ น. วันพุธที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ เพื่อประดิษฐาน เชิง"สร้างสะพานบุญสมปรารถนาเฉลิมพระเกียรติฯ" ฝั่งวัดต้นลำใย ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๘๑๙๒๕-๑๙๙๐,๐๘๔-๗๒๘-๒๕๑๘ และ ๐๘๙-๘๓๖-๒๙๐๙
    วัดหนองพลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะจัดพิธีเททองหล่อส่วนเศียร ของพระพุทธรูปปางประทานพร เนื้อโลหะผสม องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๑ เมตร ๘๙ ซม. สูง ๑๗ เมตร ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า ๓๐ ล้านบาท ในเวลา ๑๔.๐๐ น.วันอาทิตย์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๐ และทุกๆ เดือนจะมีการหล่อชิ้นส่วน ๑ ชิ้นจนครบ ๒๔ ชิ้น ทั้งนี้ผู้ที่ร่วมงานทุกครั้งจะได้รับมอบวัตถุมงคลจากวัดฟรีด้วย ผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพ สอบถามรายละเอียดได้ที่พระครูสิริศุภกิจ วัดหนองพลับ หมู่ ๒ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร.๐-๓๒๕๗-๑๑๔๗, ๐๘-๙๕๔๗-๔๔๘๘
    วัดทรงเมตตาวนาราม จ.ชลบุรี เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธรูปสมเด็จพระเจ้าทันใจ ขนาดหน้าตัก ๒๕.๕๐ เมตร สูง ๓๘ เมตร หรือ ๘๐ ฟุตเท่าอายุของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และร่วมเฉลิมฉลองพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ที่สร้างเสร็จแล้ว ณ วัดไทยกุสาวดี ในประเทศอินเดีย (วันมาฆบูชา เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑) สอบถามได้ที่ โทร.๐๘-๑๗๘๑-๙๖๕๖,๐๘-๑๗๒๓-๘๘๕๘ และ๐๘-๑๙๑๑-๗๙๙๔
    วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จ. นครสวรรค์ เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธรูป ๔ ปาง ปางปฐมเทศนา ปางมารวิชัย ปางประทานพร และปางสมาธิ จำนวน ๒๘๔ องค์ องค์ละ ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อประดิษบานโดยรอบองค์เจดีย์ย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๐ จะมีงานสมโภชเจดีย์ศรีพุทธคยา ผู้มีจิตรศรัทธาร่วมบุญได้ที่ โทร.๐-๒๗๑๙-๔๐๘๓-๕ และ๐-๒๙๕๔-๒๗๘๓-๔
    วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน จะขัดพิธีเททองหล่อพระขนาดหน้าตัก ๘๐ นิ้วสูง ๖ เมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ (แบบโบราณ) ในโครงการพุทธเมตตาประชาร่มเย็นตลอดปี ๒๕๕๑ ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ วันมาฆบูชา ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ครั้งที่ ๒ วันวิสาขบูชา ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ และครั้งที่ ๓ วันอาสาฬหบูชาที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ผู้มีความประสงค์จะเป็นเจ้าภาพ ติดต่อสอบถามบริจาคได้ที่ สำนักงานโครงการฯ วัดพระศรีมหาธาตุฯ กุฏิ ๗ โทร. ๐ - ๒๕๒๑ - ๑๕๖๗ และพระครูภาวนาจิตสุนทร โทร. ๐๘๑ - ๔๒๒ - ๕๖๒๓, ๐๘๙ - ๒๔๓ - ๑๙๓๑
    วัดสระแก้วศรีสรรเพชญ จ.สุพรรณบุรี เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธลีลาศรีสัฏฐิยานุสรณ์เป็นพระพุทธรูปปางลีลา ขนาดความสูง ๕ เมตร ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญได้ที่พระปลัดวิชาญ ปวโร วัดสระแก้วศรีสรรเพชญ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ๗๒๒๓๐ ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.ท่าเสด็จ โทร.๐-๓๕๕๙-๗๔๓๘, ๐-๓๕๕๙-๗๗๘๗, ๐๘-๑๘๓๘-๐๓๔๙ และ ๐๘-๙๕๒๙-๖๙๙๖
    วัดพร้าว จ.ตาก กำลังบุรณปฏิสังขร พระประธานในวิหารอายุเก่าแก่กว่า ๑๕๐ ซึ่งสร้างด้วยการก่อปูนหน้าตักกว้าง ๒.๓ เมตร สูง ๓.๓ เมตร โดยจะต้องใช้งบประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท พุทธศานิกชน ร่วมบุญเพื่อปฎิสังขณ์ ได้ที่ วัดพร้าว โทร. ๐๘-๕๗๕-๑๘๘๕
    เรื่อง/ภาพ ไตรเทพ ไกรงู


    -->[​IMG]
    ประเพณีการสร้างพระมีพื้นฐานมาจากความเคารพความเชื่อมั่นและความศรัทธาเลื่อมใสในสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล
    การสร้างพระพุทธรูปในแต่ละยุคมีลักษณะที่แตกต่างกันแต่พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และจุดประสงค์หนึ่งที่พระและวัดจัดสร้างพระพุทธรูป คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
    นอกจากนี้ยังมีจุดประสงค์อื่นที่หลากหลาย ทั้งนี้ พระครูสิริศุภกิจ เจ้าคณะตำบลหนองพลับและเจ้าอาวาสวัดหนองพลับ บอกว่า พลังศรัทธาในการสร้างพระพุทธรูปแต่โบราณ พอประมวลสรุปได้ดังนี้ ๑.สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒.สร้างเพื่อเป็นพุทธานุสติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการดำเนินชีวิตของบุคคลให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ๓.สร้างเพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา จรรโลงพุทธศาสนาแก่อนุชนรุ่นหลังให้คงอยู่คู่แผ่นดินสยาม [​IMG]
    ๔.สร้างเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์เสริมชะตาชีวิต วิถีทางหนึ่งแต่โบราณคือการบนบานสานกล่าว เมื่อสมปรารถนาก็สร้างพระถวายแก้บน หรือสร้างพระจำนวนเท่ากำลังวันเกิดถวายเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาชีวิต เป็นต้น๕.สร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการีที่ล่วงลับจากไปแล้ว ด้วยอิทธิพลของคำสอนในเรื่องความกตัญญูกตเวทีในหลักพระพุทธศาสนานั้นเอง เป็นต้น ๖.สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติวีรกษัตริย์ หรือบุคคลสำคัญของแผ่นดินสยาม แต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
    ๗.สร้างเพื่อพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร หรือผู้สนองคุณแผ่นดิน เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระสมเด็จจิตรลดา หรือพระกำลังแผ่นดินแก่ผู้สนองคุณแผ่นดิน ๘.สร้างเพื่อเป็นพระชัยประจำรัชกาล หรือพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ๙..สร้างเพื่อเป็นมงคลอนุสรณ์ ในมงคลโอกาสต่างๆ ของชีวิตบุคคลผู้ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ในมงคลโอกาสครบรอบวันเกิด หรืออายุวัฒนมงคลครบรอบนักษัตร
    ๑๐.สร้างเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แผ่พุทธานุภาพปกป้องคุ้มภัยเป็นขวัญกำลังใจต่อชีวิตในโอกาสต่างๆ และ ๑๑.สร้างเพื่อมอบเป็นมงคลอนุสรณ์แก่ผู้ร่วมสร้างกุศลและคุณประโยชน์ในพระพุทธศาสนา และสาธารณกุศลแก่ส่วนรวม แต่โบราณกาลถือคติสร้างเพื่อแจกเป็นทานแก่พุทธศาสนิกชน ผู้ร่วมกุศลในพระพุทธศาสนา เพื่อหารายได้สร้างศาสนสถานในพระพุทธศาสนาและสาธารณกุศลแก่ส่วนรวมต่อไป [​IMG]
    สำหรับผลบุญและอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปนั้น เจ้าอาวาสวัหนองพลับ บอกว่า จะสร้างด้วยวัตถุใด ๆ ก็แล้วแต่ ย่อมมีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จะเกิดในภพใดภูมิใดไม่ว่ามนุษย์และเทวดา อินทร์พรหมทุกหมู่เหล่าจะได้เป็นประมุข ประธาน มียศ วาสนา อำนาจ และบริษัทบริวารมาก เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ จะได้เกิดเป็นบรมกษัตริย์ สมบูรณ์ด้วยสมบัติบริวาร และจะได้เกิดเป็นพระบรมจักรพรรดิติดต่อกันถึง ๑๐ ชาติ บริบูรณ์ด้วยลาภยศสรรเสริญทุกประการ
    ร่วมบุญสร้างพระ
    วัดต้นลำใย จ.กาญจนบุรี จะประกอบพิธีเททองหล่อพระพ่อ (ปางห้ามสมุทร) ขนาดความสูง ๒.๓๕ เมตร เวลา ๑๖.๑๙ น. วันพุธที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ เพื่อประดิษฐาน เชิง"สร้างสะพานบุญสมปรารถนาเฉลิมพระเกียรติฯ" ฝั่งวัดต้นลำใย ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๘๑๙๒๕-๑๙๙๐,๐๘๔-๗๒๘-๒๕๑๘ และ ๐๘๙-๘๓๖-๒๙๐๙ [​IMG]
    วัดหนองพลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะจัดพิธีเททองหล่อส่วนเศียร ของพระพุทธรูปปางประทานพร เนื้อโลหะผสม องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๑ เมตร ๘๙ ซม. สูง ๑๗ เมตร ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า ๓๐ ล้านบาท ในเวลา ๑๔.๐๐ น.วันอาทิตย์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๐ และทุกๆ เดือนจะมีการหล่อชิ้นส่วน ๑ ชิ้นจนครบ ๒๔ ชิ้น ทั้งนี้ผู้ที่ร่วมงานทุกครั้งจะได้รับมอบวัตถุมงคลจากวัดฟรีด้วย ผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพ สอบถามรายละเอียดได้ที่พระครูสิริศุภกิจ วัดหนองพลับ หมู่ ๒ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โทร.๐-๓๒๕๗-๑๑๔๗, ๐๘-๙๕๔๗-๔๔๘๘
    วัดทรงเมตตาวนาราม จ.ชลบุรี เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธรูปสมเด็จพระเจ้าทันใจ ขนาดหน้าตัก ๒๕.๕๐ เมตร สูง ๓๘ เมตร หรือ ๘๐ ฟุตเท่าอายุของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และร่วมเฉลิมฉลองพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ที่สร้างเสร็จแล้ว ณ วัดไทยกุสาวดี ในประเทศอินเดีย (วันมาฆบูชา เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑) สอบถามได้ที่ โทร.๐๘-๑๗๘๑-๙๖๕๖,๐๘-๑๗๒๓-๘๘๕๘ และ๐๘-๑๙๑๑-๗๙๙๔
    วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จ. นครสวรรค์ เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธรูป ๔ ปาง ปางปฐมเทศนา ปางมารวิชัย ปางประทานพร และปางสมาธิ จำนวน ๒๘๔ องค์ องค์ละ ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อประดิษบานโดยรอบองค์เจดีย์ย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๐ จะมีงานสมโภชเจดีย์ศรีพุทธคยา ผู้มีจิตรศรัทธาร่วมบุญได้ที่ โทร.๐-๒๗๑๙-๔๐๘๓-๕ และ๐-๒๙๕๔-๒๗๘๓-๔
    วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน จะขัดพิธีเททองหล่อพระขนาดหน้าตัก ๘๐ นิ้วสูง ๖ เมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ (แบบโบราณ) ในโครงการพุทธเมตตาประชาร่มเย็นตลอดปี ๒๕๕๑ ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ วันมาฆบูชา ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ครั้งที่ ๒ วันวิสาขบูชา ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ และครั้งที่ ๓ วันอาสาฬหบูชาที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ผู้มีความประสงค์จะเป็นเจ้าภาพ ติดต่อสอบถามบริจาคได้ที่ สำนักงานโครงการฯ วัดพระศรีมหาธาตุฯ กุฏิ ๗ โทร. ๐ - ๒๕๒๑ - ๑๕๖๗ และพระครูภาวนาจิตสุนทร โทร. ๐๘๑ - ๔๒๒ - ๕๖๒๓, ๐๘๙ - ๒๔๓ - ๑๙๓๑
    วัดสระแก้วศรีสรรเพชญ จ.สุพรรณบุรี เชิญร่วมบุญสร้าง พระพุทธลีลาศรีสัฏฐิยานุสรณ์เป็นพระพุทธรูปปางลีลา ขนาดความสูง ๕ เมตร ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญได้ที่พระปลัดวิชาญ ปวโร วัดสระแก้วศรีสรรเพชญ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ๗๒๒๓๐ ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.ท่าเสด็จ โทร.๐-๓๕๕๙-๗๔๓๘, ๐-๓๕๕๙-๗๗๘๗, ๐๘-๑๘๓๘-๐๓๔๙ และ ๐๘-๙๕๒๙-๖๙๙๖ วัดพร้าว จ.ตาก กำลังบุรณปฏิสังขร พระประธานในวิหารอายุเก่าแก่กว่า ๑๕๐ ซึ่งสร้างด้วยการก่อปูนหน้าตักกว้าง ๒.๓ เมตร สูง ๓.๓ เมตร โดยจะต้องใช้งบประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท พุทธศานิกชน ร่วมบุญเพื่อปฎิสังขณ์ ได้ที่ วัดพร้าว โทร. ๐๘-๕๗๕-๑๘๘๕
    เรื่อง/ภาพ ไตรเทพ ไกรงู <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>​


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000143982

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในหลวงทรงย้ำคนไทยปรองดอง-แนะประหยัดน้ำมันลดเสียเปรียบฝรั่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 ธันวาคม 2550 18:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“ในหลวง” ทรงย้ำให้คนไทยปรองดองก่อนชาติล่มจม ทรงแนะใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ไม่ให้น่าเบื่อ ทรงชื่นชมคนไทยที่ให้กำลังใจระหว่างทรงพระประชวร และทรงแนะให้ใช้น้ำมันอย่างประหยัดและพัฒนาไบโอดีเซลไม่ให้เสียเปรียบฝรั่ง-แขก ติงคนไทยใจดีซื้อขายอะไรก็ยอมขาดทุน แต่ก่อนนี้ขาดทุนเสมอ ต้องทำอะไรที่ไม่ขาดทุนคือทำเอง ทำอย่างพอเพียง พร้อมทรงแนะให้กองทัพคิดให้ดีเรื่องการซื้ออาวุธ

    วันที่ 4 ธันวาคม 2550 เวลา 16.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ มายังศาลาดุสิดาลัย ภายในพระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550

    ขณะที่ ภายนอกศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ได้มีประชาชน และกลุ่มตัวแทนองค์กร มูลนิธิต่างๆ เฝ้ารอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กันเป็นจำนวนมาก ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระดำเนินเข้ามาภายในศาลาดุสิดาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ทรงประทับพระราชอาสน์ จากนั้นรองราชเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ ได้กราบบังคมทูลฯ รายงาน และเบิก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นลำดับต่อไป

    "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเบิกคณะบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร องค์กรต่างๆ รวม 780 คณะ จำนวน 23,696 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในอภิลักขิตสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง ในวโรกาสนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะกราบบังคมทูลพระกรุณา ถวายพระพรชัยมงคล ในนามของผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"

    จากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามของคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

    "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ณ อภิลักขิตมหามงคลกาล คล้ายวันพระบรมราชสมภพ 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2550 นี้ ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปีติยินดีเป็นล้นพ้นที่ได้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีในใต้เบื้องพระยุคลบาท อีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัสในพระบุญญาธิการ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อีกทั้งรู้สึกปีติปราโมทย์ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย ทรงหายจากพระอาการประชวร และไร้ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งปวง ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญในราไชศวรรย์สมบัติ อันเป็นฉัตรแก้ว ร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าตลอดมา นับเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่ได้ถือกำเนิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร

    การที่ราษฎรตลอดพระราชอาณาเขตประเทศไทย มีความผาสุกสวัสดี บ้านเมืองมีความร่มเย็น ก้าวหน้า มาจนถึงทุกวันนี้ ก็ด้วยพระบุญญาบารมีแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงสถิตมั่นในธรรม แผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมโดยถ้วนหน้า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเมตตา รักใคร่ ปรารถนาให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ทรงพระกรุณาปรารถนาให้ประชาราษฎร์พ้นทุกข์ภัย ทรงยินดีในความสุขความเจริญของเหล่าพสกนิกร ทรงใช้พระบรมราชวินิจฉัยโดยถ่องแท้ แก้ไขปัญหาทุกอย่างของประเทศ และประชาชน ลุล่วงไปด้วยดี ทรงมีขันติ ความอดทนอันยอดเยี่ยม ทรงปฏิบัติต่อราษฎรโดยเสมอหน้า ก่อให้เกิดความผาสุกร่มเย็นทุกแห่งหน เกิดเป็นความจงรักภักดี สำนึกมั่นในพระมหากรุณาธิคุณ แน่นแฟ้น ยาวนาน มาถึงบัดนี้

    เนื่องในมหามงคลสมัยที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในพุทธศักราช 2550 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตั้งสัตยาธิษฐาน จะปกปักรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ และจงรักภักดีเทิดทูนราชบัลลังก์ด้วยชีวิต จักสนองพระราชปณิธานอันประเสริฐ บริสุทธิ์ โดยเต็มความสามารถ พร้อมทั้งขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและอานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ทรงพระเกษมสุข ปราศจากโรคาพาธอุปัทวันตรายทุกประการ ขอเทวานุภาพแห่งปวงเทพทั้งหลายอันปกปักรักษาพระราชอาณาจักร อภิบาลบำรุงให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ธำรงมไหศวรรยาธิปัตย์ยิ่งยืนนาน พระบารมีแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตสถาพรเป็นร่มฉัตรคุ้มเกล้าชาวไทยตลอดจนรัฐิติกาลเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000143982

    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัส ความว่า

    "มีหลานคนหนึ่งก็ดี ไม่ต้องพูดมาก พูดมากเหลือเกิน เลิกพูดแล้ว ก็ขอขอบใจนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวคำอวยพร และขอบใจท่านทั้งหลายที่ได้มา มาเยี่ยม และมาให้พร ทำให้มีกำลังใจ ความจริงการที่ท่านมานี้ เป็นการให้กำลังใจ ที่บอกว่าดูแข็งแรง ดูดี พลานามัยที่ดี ความจริงไม่ใช่ ความดีของแพทย์ เป็นความดีของเราที่ตั้งใจที่จะให้แข็งแรง เพื่อที่จะต้อนรับท่านได้ ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะแข็งแรงที่จะต้อนรับท่าน ก็จะมาต้อนรับท่านไม่ได้ เพราะว่าเดินก็เดินขานำไปข้างหน้าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งมันไปข้างหลัง ไม่ค่อยยอมสามัคคี ต้องสามัคคี

    และก็ได้พูดเมื่อวานซืนนี้ว่า ทหารก็ตาม พลเรือนก็ตาม ต้องสามัคคี เหมือนขาของเราที่จะต้องเดินสามัคคีกัน หมายความว่า ก้าวไปข้างหน้า แล้วอีกข้างหนึ่งก็ยันข้างหลัง และเมื่อยันข้างหลังเรียบร้อยแล้วก็ก้าวไปข้างหน้าอีกข้าง คราวนี้ก็สามารถเดินได้ และไม่หกล้ม ซึ่งถ้าไม่สามัคคี ก็บอกแล้วว่า ประเทศจะประสบความหายนะ ไม่ได้ใช้คำว่าหายนะ แต่ก็คล้ายกัน ว่าถ้าไม่สามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ประเทศชาติล้ม ถ้าล้มก็ ผลของการล้มนั้นมีหลายอย่าง ถ้าทางกายก็ร่างกายกระดูกหัก และต้องเข้ารักษา บางทีรักษานานๆ ไม่มีสิ้นสุด ถ้าไม่ระวังประเทศชาติก็ล่ม เมื่อล่มเราจะไปอยู่ที่ไหน ล่มก็หมายถึงว่า ลงไป จม ล่มจม ถ้าเราไม่ระวังประเทศชาติล่มจม ล่มจมก็หมายความว่า ล่มลงไปในทะเล เพราะว่าเมืองไทยก็ติดทะเล ถ้าล่มไปล่มมาก็ลงทะเล

    และสมัยนี้เขาก็ขู่กันว่า น้ำทะเลจะขึ้น แล้วก็เพราะว่าอากาศมันร้อน แต่ทำไปทำมาก็ไม่ได้ร้อนจริง มาตั้งแต่ธันวาฯ นี้คนบ่นว่าอากาศเย็น อากาศหนาว ก็ไม่รู้จะเชื่อใครว่าตอนนี้จะหนาวหรือจะร้อน แต่ว่าคำว่า ร้อน ร้อนจริงๆ คือ เหงื่อออก ร้อน เดือดร้อน จะเดือดร้อนมากกว่า ทุกคนที่มานั่งอยู่ที่นี่ก็จะเดือดร้อน ภาษาไทยใช้คำว่า เดือดร้อน ร้อนแล้วเดือด น้ำเดือดมันร้อน อากาศร้อนก็อากาศทำให้เราไม่สบาย ถ้าไม่สบายแล้วอยู่ไม่ค่อยได้ ที่อากาศร้อนก็เพราะว่าอากาศมันเจอความร้อนของพระอาทิตย์ ซึ่งเมืองไทยก็เคราะห์ดีอยู่เหมือนกันว่า อากาศร้อน ไม่ได้เย็น ไม่ได้เย็นเหมือนอเมริกา เดี๋ยวนี้ที่อเมริกากำลังเดือดร้อนเพราะอากาศเย็น อากาศ หิมะตก ซึ่งตามปกติไม่น่าจะตกอย่างนี้แต่ว่าอเมริกากำลังร้อน เดือดร้อนในความเย็น เมืองไทยนี้ก็มีความเดือดร้อนด้วยความเย็นเหมือนกัน แต่ว่าพูดว่าเดือดร้อน เราก็พูดถึงว่าเมืองไทยบ่นว่าเดือด ที่จริงไม่ได้เดือด แต่คนน่ะเดือด คนมันทำเดือด ทำให้คนเดือดร้อน แล้วเวลาเดือดร้อนมันไม่สบาย น้ำเดือดถึงจะมีประโยชน์ ต้มขายได้ แต่ว่าถ้าเดือดเฉยๆ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนเดือดร้อน สิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็เมื่อคนทำให้เดือดร้อน ที่ว่าสิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็บ่น บ่นว่าประเทศลุกเป็นไฟ ก็ต้องระวังไม่ให้ลุกเป็นไฟ เพราะว่าจะทำให้ล่มจม ล่มจมอย่างนี้ที่ต่างประเทศเขาบอกว่าเมืองไทยจะล่ม จะจม ความจริงยังไม่ล่ม และไม่จม แต่ถ้าไม่ระวังก็จะล่มจม ฉะนั้น ก็จะต้องระมัดระวัง หรือทุกวันนี้ไม่ปรองดองกัน เมื่อไม่ปรองดอง ก็มีรู ก็จะล่ม ก็จะล่ม จมลงไป

    ที่จริงพยายามจะอุดช่องไว้อย่างมาก เช่นน้ำจะท่วม ก็ปิดกั้น ไม่ให้น้ำท่วม แต่ที่เขาทำ น้ำจะท่วม ก็ต้องสูบน้ำออกไปใส่ในทะเล ทะเลก็มีน้ำมากเกินไป น้ำก็ล้นเข้ามาในพื้นแผ่นดิน แล้วประเทศชาติก็ล่มจม ฉะนั้นการป้องกันไม่ให้ล่มจมจะต้องระวังไม่ให้น้ำขึ้นมากเกินไป ซึ่งถ้าน้ำขึ้นมามากเกินไป ก็ต้องแก้ไข จะแก้ไขนี่มีหลายวิธี จะต้องทำเขื่อน แต่ว่าเขาด่ากันว่าถ้าทำเขื่อน เท่ากับประเทศจะจม จมในน้ำ เพราะว่าตั้งเขื่อน น้ำก็ต้องขังเอาไว้ แต่ว่าการขังน้ำโดยใช้เขื่อนมันมีหลายวิธี ซึ่งบางทีไม่เข้าใจ ทำเขื่อนน้ำก็ท่วมบางแห่ง แต่ถ้าหากว่าทำเขื่อนแล้ว ไม่ระวัง ไม่ได้บริหารเขื่อนนั้นให้ดี มันก็อาจจะทำให้น้ำท่วม

    อย่างที่เคยพูดถึงเขื่อนป่าสักฯ เขื่อนป่าสักฯ นี้ถ้าไม่ได้ทำ ถ้าไม่ได้ทำก็จะเสียเงินเป็นพันล้านทุกปี แล้วก็เสียเงินอย่างนี้แล้วไม่ได้อะไรเลย เดี๋ยวนี้ที่ได้ทำป่าสักมา ทุกปีมีผลดีคือ ทำการเกษตร กสิกรรมได้ผล แล้วเมื่อได้ผลแล้วก็ได้รายได้ ถ้าไม่ได้ผลก็จะต้อง ก็จะต้อง

    ..นี่เขา (พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรฯ) น้ำท่วมทุ่ง นี่อย่างนี้น้ำท่วมทุ่งหรือ นี่เหมือนพ่อเขา พูดมาก ปู่พูดไม่มาก แต่เวลาพูดเขาก็ว่าบ้าง พูดมาก หาว่าน้ำท่วมทุ่ง ไอ้น้ำท่วมทุ่งนี่มันไม่ดี เพราะว่าเวลาท่วมทุ่งได้ทุ่งนั้นทำอะไรไม่ได้ พืชผลต่างๆ ก็เน่า ถ้าพืชผลเน่าก็เท่ากับทำให้ ทำลายพืชผลนั้น ซึ่งตามปกติพืชผลขึ้นมาสามารถที่จะขายได้แต่พืชผลที่เน่า ขายไม่ได้ พืชผลที่เน่าทำให้เสียหาย

    แต่ที่ปลื้มใจที่ป่าสักฯ นี่น้ำท่วมมีบ้างแต่น้อยมาก คือว่า แต่ก่อนนี้ทุกปีต้องเสียเงินเป็นพันล้านสำหรับแก้ไขเรื่องน้ำท่วม เสียหายไปพันล้านไม่มีรายได้เลยมีแต่รายจ่าย ถ้ามีรายได้ก็ไม่เป็นไร น้ำท่วมที่เวลามีน้ำท่วมขึ้นมา ความจริงก็มีรายได้เพราะว่า อย่างเช่น ข้าว ถ้าไม่มีน้ำก็แห้ง แห้งผาก ไม่มีผล แต่อย่างไรไม่มีผลอย่างนั้นยังงอกออกมาได้ก็ยังมีข้าว แต่อย่างถ้าข้าวถูกท่วมและเน่า ต้องเสีย ข้าวนั่นเสีย ไม่ได้ผล มีแต่ทางเสียไม่มีทางได้ ฉะนั้นการที่ทำเขื่อนแล้วก็ไม่มีน้ำท่วม ก็มีจ่ายเงินสำหรับค่าทำเขื่อน แล้วก็มีเสียหายเล็กน้อย จนถึงเดี๋ยวนี้ เมืองไทยก็มีรายได้มากกว่ารายจ่าย แต่ถ้าไม่ได้ทำ โครงการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ แล้วอย่างนี้เราก็อยู่ไม่ได้

    พวกพูดเป็นปริศนาว่า ถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่มีรายจ่าย เขาว่าถ้าไม่มีรายได้ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายเพื่ออยู่ดี มีแต่ต้องจ่ายสำหรับป้องกันน้ำท่วมเท่านั้น ป้องกันแล้วไม่มีกำไรเลย มีแต่เสีย ฉะนั้นก็ ที่คนเขาว่า ทำโครงการแล้วก็เสีย จริง เสีย เสียเงิน แต่ว่าไม่เสียผลประโยชน์ ฉะนั้นก็ต้องคิดดีๆ ว่าที่ได้ทำโครงการนั้น ก็มีจุดประสงค์ที่จะให้มีรายได้ แต่ถ้าพูดอย่างที่เขาพูด จ่ายเงินเยอะแยะ ที่จ่ายแยะ แต่ว่าไม่ได้เสีย เพราะว่ามีรายได้ เวลาพูดกลับไปกลับมาอย่างนี้ท่านก็งง ท่านมองหน้าว่า เอ๊ะจะไปไหน ไปนี่ ต้องทำโครงการนี้ อะไรก็ตามจะต้องมีเหตุผล ก็ต้องบริหารงานการให้ดี

    พูดถึงบริหาร ข้างหน้านี้ก็มีฝ่ายที่จะเป็นรัฐบาล รัฐบาลก็คือการบริหาร แต่ว่าบริหารนี้มีทุกอย่าง บริหารโครงการ บริหารกิจการต่างๆ บริหารการเงิน ทุกอย่างจะต้องบริหารให้ดี ฉะนั้นถ้าไม่บริหาร ก็ล่มจม แต่คนที่ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร มีแต่ตำหนิติเตียนว่าไม่ทำ ที่จริง ฝ่ายบริหารเขาก็ทำ คนที่ติเตียนนั้นก็เป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ตรงข้าม มีแต่ทำลาย ฉะนั้นที่มาเมื่อ 2-3 วันนี้ ชักกลุ้มใจ ที่ฟังวิทยุเขาพูด พูดว่าเมืองไทยนี้ไม่ก้าวหน้าเลย แต่ความจริงก็ก้าวหน้า ถ้าไม่ทำอะไรเลยป่านนี้ก็ล่มจมแล้ว ถ้าไม่ทำ ก็ล่มจมเหมือนเวลาน้ำท่วม ล่มจม

    นี่พูดถึงน้ำมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวหาว่าพูดน้ำท่วมทุ่ง แต่ว่ายังไงก็ตามต้องพูด วันนี้ตั้งใจจะต้องพูด ว่า ถ้าไม่ทำอะไร ทำแต่พูดก็จะไม่ดี ก็พูดมามากแล้วในทาง คล้ายๆ ปรามไม่ให้พูด แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ท่านเงียบหมด ทุกคนเงียบ ก็หมายความว่าท่านก็ตั้งใจจะไม่พูดเราก็เห็นว่าท่านไม่พูดเราก็จะไม่พูดแต่ก็พูดมากแล้ว

    ยังไงก็ตาม ก็จะต้องอธิบายว่า ไปเข้าโรงพยาบาลนี้ เข้าๆ ออกๆ เข้าๆ ออกๆ หนังสือพิมพ์ก็ลง วันนี้เข้าแต่งสีชมพู ออกมาแต่งสีฟ้า เขาเหมือนตำหนิติเตียนว่าทำไมเปลี่ยน ก็เข้าๆ ออกๆ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ถ้าเข้าๆ ออกๆ แล้วแต่งเครื่องแบบ มันก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเขาก็ อย่างท่านนายกฯ แต่งเครื่องแบบ ท่านก็บอก น่าเบื่อ โอ๊ยน่าเบื่อ เบื่อหน้าแล้ว ถ้าเบื่อหน้าก็ไล่ออกซิ ไล่เขา แต่ท่านนายกฯ ไม่ได้ยิน เดี๋ยวหาว่าท่านนายกฯ เดี๋ยวนี้แก่แล้ว เขาว่าแก่ ที่จริงหนุ่ม หนุ่มนิดเดียว ของเราหนุ่มแบบพรุ่งนี้อายุจะ 80 ไม่นึกเลยว่าจะถึงอายุ 80 80 มันก็ ใครจะว่าแก่ก็ไม่ว่า ใครตำหนิว่าแก่ไม่ว่า เพราะว่าแก่จริงๆ แต่คนที่อายุ 60 ไม่แก่ แต่ว่าท่านนายกฯ ก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเพราะว่าเจอทีไรก็แต่งเครื่องแบบขาว ความจริงควรจะแต่งสีอื่นบ้าง ของเราวันนี้ไม่มีขาว สีขาว สีเหลือง แล้วเนคไทเป็นสีเหลือง มีสีชมพูด้วย ก็หมายความว่า เราก็แก่แล้ว แต่ไม่อยากแต่งตัวให้น่าเบื่อ

    วันนี้ก็เตรียมเสื้อคล้ายๆ ท่านองคมนตรี เสื้อเชิ้ตขาว และก็เสื้อ ไม่ใช่ท่านองคมนตรี ประธาน เสื้อสีน้ำเงินแก่ เราก็แต่งสีเทา ที่จริงแต่งงี้ก็ไม่น่าเบื่อ แต่ยังมีเนคไทสีเหลืองให้เก๋หน่อย ยังดีไม่ไปใส่สีชมพู แต่วันนั้นใส่สีชมพู โหก็ตื่นเต้น เวลาใส่สีชมพูแล้วก็ใส่สีเขียว ใส่สีอะไรก็ได้ สีแดงก็ยังได้ สีแดงนี่เป็นกาลกิณีของเรา คนที่ว่าเป็นกาลกิณีของเราไม่น่าจะใช้ นี่ยังไงตั้งแต่แม่ ท่านเกิดวันอาทิตย์ ท่านก็สีแดง พี่สาวก็เกิดวันอาทิตย์ พี่ชายก็เกิดวันอาทิตย์ ก็หมายความว่าเป็นสีแดง คนที่รับใช้ก็เกิดวันอาทิตย์ ยังดี ทองแดงนี่ดีไม่ได้เกิดวันอาทิตย์ เขาเกิดวันเสาร์ เป็นสีม่วง ทองแดงสีม่วง เราก็ไม่เดือดร้อน แต่สีม่วงก็ดี วันก่อนนี้ใส่สีม่วง ก็เลยใส่ได้ทุกอย่าง ไม่เหมือนท่านนายกฯ ใส่เครื่องแบบขาวทุกวัน ทุกครั้ง มันน่าเบื่อ ก็จริงน่าเบื่อ แต่ว่าท่านเรียบร้อย แล้วก็แต่งขาว ท่านทำงานได้ดี ก็เลย ถ้าทำงานได้ดีก็ไม่น่าเบื่อ

    ท่านผู้หญิงแต่งสีเหลือง สีเหลือง แต่เหลืองอ๋อย สีเหลืองความจริงตามเรื่อง ต้องเป็นสีค่อนข้างเหลืองอ่อนมาก อย่างวัน เมื่อวันนี้ใส่สีเหลือง สีเหลืองอ่อน นั่นน่ะเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง เพราะว่าเป็นสีเหลืองที่สว่างของพระจันทร์ ก็บรรยาย นี่เขาให้มีกระต่ายอยู่ด้วย ก็เลยเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง แต่มาพูดบอกว่า ท่านนายกฯ แต่งขาวนี่ก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าวันจันทร์ก็เป็นสีขาวก็มี เพราะฉะนั้นก็จะบอก ใครมาบอกว่าท่านนายกฯ น่าเบื่อ มาบอกว่าน่าเบื่อ น่าเบื่อไม่ได้ แต่งสีขาวสวยมาก ดีมาก แล้วทำงานอะไรก็คล่องแคล่ว ไม่ใช่ทำงานไม่ดี ทำงานดี สีขาวก็หมายความว่า หมดจดดี

    แล้วก็ตั้งแต่ครั้งแรกที่คนเขาตำหนิเมื่อปีที่แล้วไปบอกว่า นายกฯ อายุมาก ก็เปรียบเทียบกับนายกฯ เก่า นายกฯ เก่านั่นน่ะเขาเด็กกว่า แต่ไม่เท่าไหร่ก็แก่ นายกฯ กำลังดี 60 กว่าๆ ก็กำลังดี ไม่เหมือนเรา เราแก่เกินไป เราแก่ นี่ท่านประธานองคมนตรีก็ยิ้มๆ บอกว่า ท่านก็แก่กว่า แต่ท่านเก่ง ท่านแก่กว่าท่านก็แข็งแรง ท่านแข็งแรง 80 กว่ากำลังดี พรุ่งนี้ข้าพเจ้าก็จะ 80 กำลังหนุ่ม กำลังแข็งแรง คนอื่นไม่แข็งแรง ยังไม่ 80

    พูดถึง 80 ก็มีอยู่ว่า พี่สาวอายุ 84 ท่านค่อนข้างจะแก่ แล้วเมื่อวานนี้เราไปเยี่ยม ที่จริงควรมาพักที่สวนจิตรฯ นี่ แต่ท่านไม่สบาย ก็ไม่สบายอยู่มาก ก็ต้องไปให้กำลังใจท่าน วันนี้ก็ไปไม่ได้เพราะว่ามีงาน พรุ่งนี้ก็ไปไม่ได้ มะรืนนี้ก็ไปไม่ได้ แต่ว่าต้องไปเยี่ยม ท่านไม่สบาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...