ศีลข้อ5 สุราเมรยะ มัชชปมา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Igiko_L, 8 ตุลาคม 2013.

  1. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    อิจิโกะ ขออนุญาติ สนทนาธรรม กับท่านผู้รู้นะคะ (เพราะตัวอิจิโกะเอง ความรู้ยังน้อย) ขอยกเอาศีลข้อ5 มาขอคำชี้แนะคะ
    อิจิโกะคิดว่า ในสมัยพุทธกาล สุรา คงจะหมายถึง เหล้าโรง ที่ดื่มแล้วเมา หัวทิ่ม(แรงๆ) แล้วทำให้ผิดศีลข้ออื่นๆตามมา
    แต่ปัจจุบัน มาเป็น เหล้า (คือข้อห้าม ของศีล) แต่ว่า ก็มีเครื่องดื่ม ที่ชาวต่างชาติ ผลิตเพื่อดื่มแทนน้ำ แก้กระหาย ก็คือเบียร์
    เบียรื ถ้าดื่มแค่แก้ว(กระป๋อง) ไม่ได้มีผลให้เกิดอาการเมา
    ส่วนเหตผลในการดื่ม ก็ต่างกัน ตัวอย่าง พี่ชายอิจิโกะ บอก ดื่มสักป๋อง ทำให้หลับสบายหลับสนิด ถึงเช้า เป้นต้น
    เพื่อนสาว บอกดื่มไวน์ ทำให้เจริญอาหาร วันละแก้ว
    อยากถามท่านผู้รู้ว่า แบบนี้ ผิดศีลข้อ5ไหมคะ เพราะทุกอย่าง ไม่ใช่ สุรา สำคัญ ไม่มีใครดื่มเพื่อให้เมา
    ขอบคุณคะ
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ของมึนเมาก็ผิดศีลทั้งหมด แต่ตรงนี้ก็พอเข้าใจเพราะดิฉันเองก็อยู่เมืองฝรั่ง เขาดื่มเหล้า เบียร์ แทนน้ำเหล้าเบียร์กันแทนน้ำเป็นวัฒนธรรมเลย ฝรั่งถึงเป็นมะเร็งตายกันเยอะ
     
  4. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    เครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอร์ ทุกอย่างถ้าผ่านลำคอไปแล้ว ผิดศีล 5 ข้ออ้างของการทำผิดศีลมีมากมาย เพื่อสังสรรค์สามัคคี ในหมู่เพื่อน เห็นเมาทีไรก็ตีกันเองทุกที เพื่อความมั่นใจแต่ดื่มแล้วเมาแล้ว ทำในสิ่งที่ตนไม่เคยทำไร้ความอาย เพื่อความอบอุนของร่างกาย พอเมาแล้วหลับ หนาวตายทุกที
     
  5. เนตรอิศวร

    เนตรอิศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +425
    *****พิจารณาก่อนท่านผู้ใฝ่รู้*****
    .....อันสุราในสมัยพุทธกาลนั้นย่อมหมายถึงสิ่งมึนเมา แต่ในคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นหากพิจารณาใคร่ครวญแล้วพระองค์ทรงหมายถึงสิ่งมอมเมาที่ทำให้ลุ่มหลงอันได้แก่อบายมุขทั้ง๖นั่นคือ สุรา๑ เที่ยวกลางคืน๑ ดูการละเล่น๑ การพนัน๑ คบคนชั่วเป็นมิตร๑ เกียจคร้านหน้าที่การงาน๑ ทั้ง๖สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ผู้ลุ่มหลงนั้นเกิดความฉิบหายสิ้น ซึ่งสามารถสาธยายได้ดังนี้คือ
    ๑.สุรา ในที่นี้หมายถึงน้ำเมาที่ทำให้ขาดสติ น้ำเมานี้หากทานแต่น้อยก็เป็นยาแต่เมื่อทานมากก็ย่อมส่งผลให้เป็นผู้ขาดสติ เมื่อเป็นผู้ขาดสติย่อมส่งผลให้บันดาลโลภะ โทสะ และโมหะได้ง่ายอันจะส่งผลให้ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่ตนเองและผู้อื่นตามมาอย่างมหันต์.
    ๒.ดูการละเล่น นั้นคือ การหลงการละเล่นหลงในตัวละครหลงจนยอมนำสิ่งของที่ตนเองมีอยู่ไปปนเปรออาทิเช่นเงินทอง บ้านที่ดิน เป็นต้น ด้วยหลงในรูป หลงในกลิ่น หลงในเสียง หลงในรส จนถึงขาดสติด้วยความหลงจนยอมนำสิ่งของที่ตนเองมีและครอบครัวมีไปปรนเปรอ จนถึงขั้นละทิ้งหน้าที่การงานด้วยความหลงในละคร จนเป็นผลให้เกิดความทุกข์ยากแก่ตนเองและผู้อื่นตามมาด้วยความหลงของตน.
    ๓.เทียวกลางคืน ในที่นี้หมายถึง การเป็นผู้ชอบเที่ยวในแหล่งอโคจรในที่ไม่สมควรไป ด้วยความหลงในรูปชายรูปหญิงจนต้องนำทรัพย์สินของตนและครอบครัวไปปรนเปรอเป็นต้น
    ๔.การพนัน ในที่นี้ก็หมายถึง การต่อรองด้วยความเสี่ยง ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์สินสิ่งมีค่า หรือแม้แต่ชีวิตของตนเองและผู้อื่น ด้วยสิ่งนี้ผู้ชนะพนันก็ย่อมก่อเวรกรรมให้ความทุกข์ยากเกิดแก่ผู้อื่น ผู้แพ้พนันก็ย่อมเป็นทุกข์ บางคนลุ่มหลงจนถึงขั้นยอมนำที่ดินที่ครอบครัวตนเองมีไปจำนองหรือขาย หรืออาจถึงขั้นนำไปต่อรอง เมื่อแพ้พนันก็ย่อมไม่เหลือแม้ที่อยู่อาศัยจนตนเองและครอบครัวกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยต้องกลายเป็นผู้ทุกข์ยากด้วยความลุ่มหลงในการพนัน หรืออาจถึงขั้นยอมเป็นโจรช่วงชิงวิ่งราว หรือแม้แต่พรากชีวิตเขาเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเพื่อเข้าสู่ในหนทางการพนันอย่างนี้เป็นต้น.
    ๕.การคบคนชั่วเป็นมิตร ในที่นี้หมายถึง การลุ่มหลงในคนชั่วด้วยการคบเป็นมิตรสหาย อันได้แก่ การคบคนพาลเป็นมิตร การคบโจรเป็นมิตร การคบนักพนันเป็นมิตร ด้วยการคบบุคคลเหล่านี้เป็นมิตรย่อมเป็นหนทางที่จะนำตนเองเข้าสู่ห้วงแห่งอกุศลกรรมอันจะนำความทุกข์บังเกิดขึ้นแก่ตนในภายหน้า เช่นการคบคนพาลจิตใจหยาบก็อาจจะนำภัยมาสู่ตนด้วยการถูกผู้อื่นทำร้ายด้วยความเข้าใจว่าตัวเรานั้นเป็นคนพาล . การคบโจรเป็นมิตรโจรนั้นก็อาจจะหวนกลับมาทำร้ายตนด้วยอุปนิสัยของโจรย่อมไม่เป็นคุณของผู้ใดด้วยหวังเพียงประโยชน์ของตนเป็นหลัก. การคบนักพนันเป็นมิตร ก็อาจจะต้องสูญเสียทรัพย์ในภายหลังด้วยการถูกชักจูงให้เข้าสู่หนทางพนันก็ดี หรือไม่ก็อาจจะถูกช่วงชิงทรัพย์ในยามที่นักพนันหวังได้ด้วยหมดหนทาง.อย่างนี้เป็นต้น.
    ๖.เกียจคร้านหน้าที่การงาน ในที่นี้นั่นก็หมายถึง ผู้ที่หลงความสุขสบายจนไม่ยอมทำมาหาเลี้ยงชีพ ด้่วยกลัวความทุกข์ยากในงาน ด้วยความหวังในความสุขสบายของตนแต่ไม่ยอมทำงานจึงต้องคอยเป็นมิฉาชีพคอยช่วงชิงทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นต้น.
    *****.....ด้วยอบายมุขทั้ง๖อย่างนี้ เป็นเหตุแห่งความลุ่มหลงอันก่อให้เกิดทุกข์ซึ่งเป็นสิ่งที่มอมเมาให้ชนทั้งหลายที่เข้าไปพัวพันต้องลุ่มหลงด้วยขาดสติจนก่อให้เกิดความฉิบหายตามมา ไม่ว่าจะลุ่มหลงในสิ่งหนึ่งสิ่งใดในทั้ง๖สิ่งนี้ย่อมทำให้ผู้ลุ่มหลงต้องก้าวไปสู่ความฉิบหายจนก่อให้เป็นความทุกข์อย่างแน่นอน.....ฉะนั้นศีลข้อที่๕ ที่กล่าวถึงสุรานั้นจึงมิได้หมายถึงแต่เพียงน้ำเมาแต่จริงแล้วพระองค์ทรงคลุมถึงสิ่งที่ก่อให้เกิดความมัวเมาทั้ง๖อย่างนั่นเอง.....ขออนุโมทนา.
     
  6. InvisibleForce

    InvisibleForce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +659
    อันนี้ผมไม่เห็นด้วยนะครับ .. สุรา ควรเจาะจงที่สิ่งเสพติดเท่านั้นนะคับ อันชาดกชาติก่อนๆก็มีกล่าวไว้ไม่ใช่มีเฉพาะยุคปัจจุบันแค่ไม่กี่พันปีมานี้เท่านั้น

    อบายมุข เช่น เกียจคร้าน ถ้าจัดเป็นผิดศีลห้า โห เด๋วก็อดขึ้นสวรรค์กันหมดหรอก .. บนสวรรค์มีพร้อมหมด ไม่หิว ไม่มีสังขาร ต้องพาหลับนอน ไม่มีเจ็บไขได้ป่วย แล้วจะต้องขวยขวายสิ่งใด แล้วแบบนี้เรียกว่าเกียจคร้านด้วยมั้ย? ดังนั้นหากกล่าวว่าอบายมุขเป็นหนทางแห่งความเสื่อม ผมว่าเหมาะสมดีแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2013
  7. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ต้องพิจารณาว่า น้ำเมาเหล่านั้นมีโทษแน่ๆ
    แม้แต่ยา เราก็อยากจะทานยาที่มีแต่ผล ไม่มีโทษ ไม่มีผลข้างเคียง
    ถ้าบางคนอ้างว่า ดื่มเหล้าเพื่อเป็นยา ให้ร่ายกายอยู่ต่อไปได้
    แล้วผลข้างเคียงของมันล่ะ ก็ทำให้ตายไวเช่นกัน
    แล้วมันถือว่ามีประโยชน์หรือไม่?
    เท่ากับค่อยๆกินยาพิษฆ่าตัวตายมากกว่า

    พิจารณาดูก่อนว่า มีอะไรที่ดีกว่าเหล้าหรือไม่
    ถ้ามีอย่างอื่นเป็นของที่ไม่ให้โทษ ควรจะเลือกของสิ่งนั้น
    การดื่มเบียแล้วหลับสบาย ต้องหาว่า ทำไม?
    จริงๆแล้วไม่ได้หลับสบายเพราะเบีย
    แต่เจ้าตัวอาจจะมีความต้องการที่อยากจะดื่ม
    เมื่อไม่ได้อื่มก็กระวนกระวาย
    เหมือนดั่งผู้ติดยาเสพติด
    พอได้ดื่มก็สบายใจ และหลับลงได้
    ฉะนั้นวิธีแก้ ไม่ใช่ให้ดื่มเหล้า
    แต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิด
    ต้องเลิกเหล้าให้ได้
    ดูอย่างผู้ติดยาเสพติด
    พวกเขาเสพแล้วบอกว่ามีความสุข
    พอไม่เสพแล้วกระวนกระวาย
    ถามว่า ถ้าปล่อยให้เสพต่อไปเรื่อยๆ
    ก็จะเสียสุขภาพ และมีผลเสียทั้งนั้น


    ผิดศีลแน่นอน
    เราย่อมรู้ชัดว่า ดื่มสิ่งพวกนี้เป็นเหตุ มีตับแข็งเป็นผล
    กำลังทำเพื่อฆ่าตัวตาย ลองแม้แต่ตนเองก็ไม่สนใจ
    เบียดเบียนได้แม้แต่ตนเองเพื่อความสุขทางใจ
    บุคคลเหล่านี้ ย่อมเบียดเบียนผู้อื่นได้หน้าตาเฉยเช่นกัน

    อีกกรณี สายงานหรือเพื่อน ที่จำเป็นต้องดื่ม
    พึ่งรู้ไว้ว่าถ้าเราอยากจะแสวงหาความพ้นทุกข์
    การคบคนพาล จะพาไปหาผิด
    ผู้ชวนเราดื่มเหล้า ถือเป็นคนพาล
    เราจะเลือกดื่มยาพิษเพื่อรักษามิตรภาพ
    หรือปฏิเสธเพื่อตัวเอง ปฏิเสธเพราะความรักตัวเอง
    เราเลือกสิ่งที่ถูกต้องได้เสมอครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...