ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

***มาแอบดูพระสวยครับ ทุกๆท่าน***

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวด
สวัสดีญาติธรรมทุกท่านค่ะ

เมื่อปี 2554
ได้ร่วมกับญาติธรรมจัดสร้างผ้ายันต์หลวงพ่อทวดผืนแรก โดยถอดพิมพ์จากผ้ายันต์ปี 2497ย้อนความหลังของการจัดสร้างผ้ายันต์ครั้งนั้นค่ะ

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

เรื่องเล่าจากอาจารย์ ชม

เมื่อฝันเห็นสมเด็จหลวงพ่อทวด
ก่อนหน้าที่ท่านจะเห็นสมเด็จหลวงพ่อทวด
ท่านได้เล่าเรื่องอีกหนึ่งเรื่องซึ่งน่าสนใจมากค่ะ
อาจารย์ชม ท่านนั่งสมาธิตั้งแต่อายุ 17 ปี
ท่านเล่าให้ฟังค่ะว่า ท่านฝันเห็นยมบาลพาผมไปนรก ตอนนั้นท่านไม่ทราบว่าคือนรก
ซึ่งท่านได้นอนหลับในช่วงกลางวัน(เวลาบ่ายกว่า)
คือมียมบาลมา 2 ท่าน (สรรพนามเรียกยมบาล แทน อย่างไรที่ถูกต้อง)สอบถามท่านผู้รู้ด้วยนะคะ
ยมบาลสองท่านเดินทะลุประตูไม้เข้ามา คนแรกในมือถือพานมา และมีสมุดบัญชี มีรายชื่อ ยมบาลนั่นนุ่งผ้าสีแดง เรียกอาจารย์ชม
ในฝัน อาจารย์เล่าว่า ทั้ง 2 ท่านนี้ แต่งตัวแปลก
และพูดกับท่านว่า
ยมบาล : เขาให้มาตามคนชื่อนิยม เขาให้มาตามว่า ถูกหรือผิดตัว
อ.ชม : ในฝันเดินตามยมบาล ไป โดยยมบาลคนเดินหน้าถือพานและสมุดบัญชี
ส่วนอ.ชมเดินกลาง และมียมบาลอีกท่านเดินคุมหลัง และบอกว่าอย่าหันหลังกลับ
และอย่าพูด ยมบาลคนหลังพูดแบบนี้ คืออย่าหันหลังกลับ อย่าพูดจนไปถึงเมืองนรก

คนที่ให้มาตามอ.ชม เป็นหัวหน้าท่านคือยมทูตหัวหน้ายมบาล
อ.ชม ท่านเล่าไว้ค่ะ

 

อาจารย์ ชมบอกว่า นรกน่ากลัวมาก ในฝันเหมือนเป็นคุก มีกำแพงสูง เป็นหิน สูงเท่าตึก 4 ชั้น หน้าประตูจะมีผู้ดูแล ถือดาบ หอก เหล็กแหลม ประตูเข้าออกมีประตูเดียว คือเข้าทางไหนออกทางนั้น

ระหว่างที่เดินไป 2 ข้างทาง จะเป็นห้อง เป็นห้อง บางห้องมีเป็นหิน บางห้องมีกะทะ
มีน้ำต้มเดือด ผุดๆ หลายกะทะ บางห้องก็มีต้นไม้สูงและมีส่วนที่แหลมออกมาจากต้นไม้ คนที่อยู่บนต้นไม้ มีทั้งคนที่ใส่เสื้อผ้าขาดรุงริง และไม่ใส่เสื้อ มีเลือดไหลเต็มไปหมดเพราะจากปีนต้นไม้ บางห้องก็เห็นมีคนแก่ แบกไม้ ลากไม้ ไปใส่เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการต้มน้ำในกะทะ
และมีคนกำกับดูอยู่ใต้ต้นไม้ เอาหวายตีหลังคนที่กำลังปีนต้นไม้ เห็นเลือดแดงเต็มตัว

ยมบาลใส่ผ้าแดง (สีแดงมังคุด)

เมื่อเดินมาได้สักระยะ อาจารย์ก็พูดว่า มียายผมอยู่ที่นี่หรือเปล่า เพราะยายตายไปแล้ว
จนยมบาลอีกคน พูดว่าอย่าถามอย่าพูด ถึงถามเขาก็ไม่ตอบ

จนเดินไปหยุดที่คนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังโดนกลึงแขนกับโซ่ คนนั้นสลบอยู่
โดยยมบาลบอกกับอาจารย์ชมว่าที่พามาให้มาดู คือให้ดูคนที่ถูกกลึงด้วยโซ่ว่าจับมาถูกตัวหรือเปล่า ซึ่งอาจารย์ชมตอบยมบาลว่า ผมมองไม่เห็นเขาก้มหน้า

 

แล้วยมบาลอีกคนก็บอกว่าให้เอาน้ำในถัง (ถังสมัยก่อนเป็นถังไม้ตักน้ำ มาสาดคนนั้น)
สาดมันเข้าไป เขาก็สบัดตัวและเหงยหน้า

ยมบาลถามอาจารย์ชมว่า คนนี้ถูกต้องหรือเปล่า ซึ่งชื่อว่านิยม
ในฝันอาจารย์ชมตอบยมบาลไปว่า ถูกต้อง พอบอกเขาว่าถูก คนนั้นก็ร้องไห้

อาจารย์เล่าว่า ไม่รู้ทำไมอาจารย์จึงตอบยมบาลว่าถูก
เขาจึงโดนอีก
* เขาโดนเฆี่ยนตีต่อ ต่อหน้าอาจารย์ชม เลือดเขาเต็มตัวไปหมด เขาไม่มีเสื้อผ้าใส่ มีแต่ผ้านุ่งผืนเดียว

จากนั้นยมบาลก็บอกว่า
ยมบาล : หมดธุระท่านแล้วกลับได้
อาจารย์ชม : ผมจะกลับยังไง
ยมบาล : ท่านหันหลังกลับ กลับทางเดิม
อาจารย์ชม : สะดุ้งตื่น เมื่อดูเวลาเป็นเวลา เกือบ 6 โมงเย็น

เล่าสู่กันฟังค่ะ
อนุโมทนาบุญ เรื่องเล่าจากอาจารย์ชมค่ะ

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวดค่ะ

ลองค้นคำศัพท์คำว่ายมทูต ยมบาลมาค่ะ

"เรื่องที่ได้รับฟังจากอาจารย์ชม อาจารย์ท่านอาจเรียกชื่อผู้ที่เจอในความฝัน นั้นสลับกัน"

ท้าวเวสสุวรรณ-ยมบาล-ยมฑูต-พระยายมราช คือคนเดียวกันไหมคะ?? ใครตำแหน่งใหญ่กว่ากันตามลำดับคะ??


คนละคนครับ

เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์

ยมทูต เข้าใจว่าคนจินตนาการว่าเป็นผู้ว่ารับตัววิญญาณหรือลงโทษสัตว์นรก น่าจะหมายถึงนายนิรยบาลมากกว่าครับ คือผู้ลงโทษ

ส่วนยมบาล หรือพระยายมราช เป็นใหญ่ในนรกครับ ถ้าจำไม่ผิดหลวงพ่อบอกว่าท่านเป็นพรหม มีวิมานสวยงามมาก

ท่านมีน่าที่ช่วยสัตว์นรกไม่ให้ตกนรก ไม่ได้มีหน้าที่ลงโทษนะ และไม่มีหัวกระโหลกเหมือนในหนังด้วย เพียงแต่อกุศลของสัตว์นรก

ทำให้สัตว์อุปทานไปเป็นสิ่งที่น่ากลัว ท่านพระยายมฯจะคอยถามบุญที่เคยทำ หากนึกออกนิดเดียวก็ได้ไปสุคติภูมิก่อน

พระยายมราช หรือ พระยายม หรือ พญายม หมายถึง ผู้เป็นใหญ่เหนือยมบาลทั้งหลาย
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เจ้าหรือนาย แห่งภูตผีปีศาจ

ตำนานท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เจ้าหรือนาย แห่งภูตผีปีศาจ
ถ้าหากจะพูดถึง "เจ้า" หรือ "นาย" แห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายแล้ว เรามักจะเอ่ยนาม "ท้าวเวสสุวัณ" หรือที่พราหมณ์เรียกกันว่า "ท้าวกุเวร" และทางพุทธเรียก "ท้าวไพสพ" ซึ่งสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นล่างสุดของฉกามาพจร ชื่อสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาภูมิ
รูปร่างหน้าตาของท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) จะเป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเป็นอย่างดี คือ เป็นรูปยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษส และภูตผีปีศาจ คนโบราณจึงมักทำรูปท้าวเวสสุวัณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูตผีปีศาจมารบกวนเด็กเล็ก และนิยมทำผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) หรือจำหลักเป็นด้ามของมีดหมอที่สัปเหร่อใช้กำราบวิญญาณ เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเผาศพก็ยกขึ้นกองฟอนแล้วใส่ไฟเผา พอร้อนเข้าเส้นเอ็นก็ยึดถึงขนาดลุกขึ้นนั่ง สัปเหร่อเลยต้องใช้มีดกรีดตามเส้นเอ็นก่อน ทีนี้พอยกขึ้นเผาศพก็จะไม่กระดุกกระดิก เลยเป็นความเชื่อว่ามีดหมอจำหลักรูปท้าวเวสสุวัณสามารถปราบผีได้

คติความเชื่อแบบไตรภูมิ เชื่อว่ามีท้าวโลกบาลประจำอยู่ 4 ทิศ จึงนิยมจำหลักอยู่ตามบานประตูโบสถ์ วิหาร เรียกว่า "ทวารบาล" หมายถึง ผู้ดูแลประตู บางครั้งพบทวารบาลบางแห่งเป็นแบบจีน แทนที่จะเป็นรูปเทวดาแบบไทยถือพระขรรค์ กลับเป็นเทวดาจีนคล้ายตัวงิ้ว ถือ หอก ดาบ หรือง้าว เหยียบอยู่บนสิงโตจีน เราเรียกว่า "เสี้ยวกาง" หรือ "เซี่ยวกาง" เข้าใจว่าเป็นอิทธิพลของจีนที่เข้ามาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เนื่องจากพระองค์นิยมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบจีน

ท้าวจตุโลกบาลประจำทิศทั้งสี่จะประกอบด้วย
"ทิศตะวันออก" พราหมณ์เรียก พระอินทร์ พุทธเรียก ท้าวธตรฐ มี คนธรรพ์ เป็นบริวาร
"ทิศตะวันตก" พราหมณ์เรียก พระวรุณ พุทธเรียก ท้าววิรูปักษ์ มีนาค ครุฑ และเทวดา เป็นบริวาร
"ทิศใต้" พราหมณ์เรียก พระยม พุทธเรียก ท้าววิรุฬหก มี กุมภัณฑ์ เป็นยักษ์มีอัณฑะใหญ่เท่าหม้อตาลเป็นบริวาร
และ "ทิศเหนือ" ได้แก่ ท้าวเวสสุวัณ พราหมณ์เรียก ท้าวกุเวร พุทธเรียก ท้าวไพสพ มี อสูร รากษส และภูตผีปีศาจ เป็นบริวาร
นอกจากนี้ ในตำราโบราณและงานวรรณคดีกล่าวตรงกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เป็นยักษ์ที่มีพัสตราภรณ์และผิวกายสีเหลืองทอง จิตใจดีงาม ดำรงอยู่ในสัตยธรรม ถึงขนาดอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และองค์พระพุทธเจ้า เช่น รูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ก็ทำเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ส่วนด้านขวาเป็นยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อ "อาฬาวกยักษ์" เหตุที่เรียกกันว่า "ท้าวกุเวร" เนื่องจากพระพรหมเห็นว่ามีรูปร่างไม่ดี ร่างกายพิการต้องถือไม้เท้า จึงตั้งชื่อให้ดังนั้น ที่บ้านเรามาจำหลักเป็นยักษ์ถือตะบองยันพื้น ก็คงจะมีเค้าเงื่อนมาจากเรื่องดังกล่าว
ความหมายของชื่อ "ท้าวเวสสุวัณ" นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน
บ้านเรารู้จักกันในชื่อ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" หรือในชื่อ "ธนบดี" แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ "ธเนศวร" แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวงเทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือ จำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย
วัตถุมงคลที่นิยมทำเป็นรูปท้าวเวสสุวัณก็จะมีมากมาย อาทิ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ของท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นต้น
คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง :โดย ราม วัชรประดิษฐ์
ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด
ที่มาจากตำนานท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เจ้าหรือนาย แห่งภูตผีปีศาจ

 

ยมทูต (อังกฤษ: Psychopomp (ออกเสียง)) “Psychopomps” มาจากภาษากรีกว่า “ψυχοπομπός” (psychopompos) ที่แปลตรงตัวว่า “ผู้นำวิญญาณ” เป็นจินตสัตว์ (creature), สิ่งที่มีจิตวิญญาณ (spiritual being), เทวดา, ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ในหลายศาสนาผู้มีหน้าที่พาวิญญาณผู้ที่เพิ่งสิ้นชีวิตไปยังดินแดนหลังความตาย (afterlife) หน้าที่นี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินผู้ตาย แต่เพียงนำทางเพื่อความปลอดภัย ยมทูตที่มักจะปรากฏในศิลปะเกี่ยวกับความตายจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ประเพณีและวัฒนธรรม บ้างก็เกี่ยวข้องกับม้า, กา, สุนัข, นกฮูก, นกกระจอก หรือกวาง
ตามหลักจิตวิทยาวิเคราะห์ของคาร์ล ยุง ยมทูตคือตัวกลางระหว่างจิตใต้สำนึกและจิตสำนึก บุคลาธิษฐานของยมทูตในฝันจะเป็นนักปราชญ์ หรือ สตรี หรือบางครั้งสัตว์ที่มีความกรุณา ในวัฒนธรรมบางวัฒนธรรมชาแมนจะทำหน้าที่เป็นผู้นำวิญญาณ ที่อาจจะรวมทั้งการนำวิญญาณของผู้เสียชีวิต หรือ ผู้เสียชีวิตอาจจะนำทางชาแมน ในการช่วยเหลือการกำเนิด หรือการนำวิญญาณของเด็กเกิดใหม่ให้เข้ามาในโลก(หน้า 36 ของ “Shamans in Eurasia”[1]) ที่เป็นการขยายความชื่อ “หมอตำแยแก่ผู้กำลังจะสิ้นใจ” (midwife to the dying) ซึ่งเป็นอีกหน้าที่หนึ่งของผู้นำวิญญาณ

 

พระยายมราช สามารถหมายถึง
ราชทินนาม พระยายมราช ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และกรุงธนบุรี ใช้กับเสนาบดีกรมเวียง
พระยายมราช (ทองด้วง) หรือต่อมา คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
พระยายมราช (บุญมา) หรือต่อมา คือ สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
พระยายมราช (แบน) หรือต่อมา คือ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบอง ในสมัยกรุงธนบุรี ต้นสกุล อภัยวงศ์
พระยายมราช (หมัด) หรือ พระยายมราชแขก บุตรของเจ้าพระยาจักรี(หมุด) แม่ทัพในสมัยกรุงธนบุรี
พระยายมราช (สังข์) ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระยายมราช หรือ พระยายม หรือ พญายม หมายถึง ผู้เป็นใหญ่เหนือยมบาลทั้งหลาย

อ้างอิง
ท้าวเวสสุวรรณคือใคร - PaLungJit.org
ตำนานท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เจ้าหรือนาย แห่งภูตผีปีศาจ
พระยม - วิกิพีเดีย
ยมทูต - วิกิพีเดีย
เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) - วิกิพีเดีย

 

หลวงปู่ทวด นะจินดามณี พระอาจารย์ทิน วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รุ่นนี้จุดประสงค์คือทำแจกครับ ใครไปเที่ยวผ่านเพชรฯ แวะเข้าไปขอได้ที่พระอาจารย์ทินนะครับ จะมีแต่เนื้อดำ ไม่มีเนื้อขาวนะครับ แค่มวลสาร พระอาจารย์เห็นก็บอกว่าสุดยอดแล้วครับ ใส่กันไม่ยั้งจริงๆ ผมนั่งกดอยู่ ^_^

 

กราบสมเด็จหลวงพ่อทวด
สวัสดี ญาติธรรมทุกท่านยามเช้าค่ะ


เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อทวด
(หลวงพ่อทวดท่านมานิมิตเข้าฝัน เมื่ออาจารย์ชม ท่านไปวัดโคกสมานคุณหาดใหญ่)

ย้อนเรื่องราวการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดวัดโคกสมานคุณ

[/IMG]

พ่อทวด วัดโคกสมานคุณ องค์ใหญ่-ที่พึ่งจิตใจชาวพุทธ

เป็นเวลายาวนานที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" ต่อมาได้มีการจัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ของท่านประดิษฐานไว้หลายแห่ง

การสร้างหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 7.9 เมตร สูง 9 เมตร ประดิษฐานไว้ที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 50 % ประดับด้วยแผ่นนิลแท้ "1,000,000 แผ่น" ที่องค์หลวงพ่อ และแผ่นโมเสกสีทอง "425 แผ่น" (เพื่อระลึกถึงเวลาที่ผ่านมากว่า 425 ปี) ที่สังฆาฏิ พร้อมฐานกลีบบัวสแตนเลส "52 แผ่น" (หมายถึง สร้างสำเร็จภายในปี 2552) ต้องใช้จตุปัจจัยอย่างมาก

วัดโคกสมานคุณ โดยพระเทพวีราภรณ์ (นิมิต จิตตทันโต) เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะภาค 18 ได้มีดำริที่จะจัดสร้างให้แล้วเสร็จต่อเนื่องจากเดิมที่ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจากมีสาเหตุมาจากความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอุทกภัย

ทางวัดโคกสมานคุณ และคณะผู้ใหญ่ พลเอกเดชชัย มีผดุง ที่ปรึกษาพิเศษ สนง. ปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานจัดสร้างฝ่ายฆราวาส นายชวลิต ตันมงคล รองประธาน พลเอก จุมพฏ กาญจนินทุ ที่ปรึกษา นายรังสรรค์ เพียรอดวงศ์ ผู้ตรวจการกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการ จึงได้จัดสร้าง "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นฐานมงคล" เพื่อหารายได้ร่วมสมทบทุนจัดสร้าง เพื่อที่จะคงไว้เป็น "มรดกแผ่นดิน" แก่ลูกหลานชาวไทยได้กราบไหว้บูชา และจะได้มอบวัตถุมงคลจำนวนหนึ่ง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ทหาร-ตำรวจ และข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทางวัดได้จัดพิธีบวงสรวงเมื่อวันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 โดยมี พระเทพวีราภรณ์ เป็นประธาน และจะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกในวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2552 ณ อุโบสถวัดโคกสมานคุณ โดยคณะพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้เข้าร่วมมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ประกอบด้วย 1.พระราชพิพัฒนาภรณ์ (พ่อท่านผัน) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี 2.พระครูโอภาสธรรมรัตน์ (อาจารย์แสง) วัดศิลาลอย จ.สงขลา 3.พระธรรมสิทธิมงคล (ฉิ้น โชติโก) วัดเมืองยะลา จ.ยะลา 4.หลวงปู่หวาน วัดสะบ้าย้อย จ.สงขลา 5.พระครูโสภิตโพธิคุณ (พ่อท่านจาง) วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี 6.พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล) วัดนาประดู่ จ.ปัตตานี 7.พระใบฎีกาประสิทธิ์ อภินันโท วัดดีหลวง จ.สงขลา 8.พระครูอนุศาสน์กิจจาทร (พ่อท่านเขียว) วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี 9.พระครูสมุห์วิชาญชัย กตปุญโญ วัดพะโคะ จ.สงขลา

วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้นั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะองค์ ประกอบด้วย 1.พระบูชาฐานไม้มงคล เนื้อรมดำมันปู ขนาด 5 นิ้ว มีไม้ 2 เนื้อ คือ ไม้พะยูง (ช่วยพยุงค้ำจุน ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง) และไม้แก่นขนุน (ช่วยเกื้อหนุน ให้ประสบความสำเร็จทุกๆ ด้าน) 2.หล่อลอยองค์ฐานไม้มงคล ไม้พะยูง และ ไม้แก่นขนุน ประกอบด้วย เนื้อทองคำแท้, เนื้อนวโลหะแก่ทองคำ ผิวไฟ, เนื้อเงิน 925 (โค้ด-เลขกำกับ) และเนื้อทองทิพย์ 3.แผ่นนิลมงคล ประดับด้วยหน้ากากทองคำแท้, หน้ากากเงิน, หน้ากากทองแดงเถื่อน และเนื้อนิล ถือเป็นการจัดสร้างครั้งแรกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะองค์ไม่ซ้ำกัน (โค้ดกำกับ) 4.ลูกสะกดนิรันตราย สะกดศัตรู ภยันตราย ให้แคล้วคลาดปลอดภัย (โค้ดกำกับ) ประกอบด้วย เนื้อทองคำแท้, เนื้อนวโลหะแก่ทองคำ ผิวไฟ, เนื้อเงิน 925, ชุบกะไหล่ทอง, เนื้อทองทิพย์, เนื้อทองแดงรมดำ 5.เหรียญรูปไข่ และเหรียญรูปไข่เล็กฐานบัวคชสาร ประกอบด้วย เนื้อทองคำแท้, เนื้อเงิน หน้ากากทองคำแท้, เนื้อนวโลหะ, ชุบทองซาตินดำ, ชุบเงินซาตินดำ, เนื้อสนิมเขียว และเนื้อทองแดงรมดำมันปู 6.เหรียญกลีบบัว และเหรียญกลีบบัวเล็กกลีบบัวคชสารประกอบด้วย เนื้อทองคำแท้, เนื้อเงิน หน้ากากทองคำแท้, เนื้อนวโลหะ, ชุบทองซาตินดำ, ชุบเงินซาตินดำ, เนื้อสนิมเขียว และเนื้อทองแดงรมดำมันปู

รายการพิเศษ 1.ร่วมเป็นเจ้าภาพ สลักชื่อลงนาม บนฐานหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ รับ "พญานิล" บัวทองคำแท้ ใต้ฐานบรรจุมวลสาร พร้อมยันต์นะโม (มีสูจิบัตร หมายเลขประจำองค์) จัดสร้างเพียง 2,552 ชุด 2.ชุดกรรมการ พร้อมกล่องไม้สวยหรู เลขเดียวทั้งชุด (รวม 14 รายการ มูลค่า 12,619 บาท) พิเศษ ล็อกเกตหลวงพ่อทวดลายน้ำทอง สำหรับกรรมการเท่านั้น จัดสร้างเพียง 2,552 ชุด ผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพสลักชื่อลงนาม บนฐานหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ชุดพญานิลและชุดกรรมการ จะได้รับแผ่นดวงหนุนธาตุ)

สำหรับบรรจุในองค์พระใหญ่ เพื่อเสริมดวงชะตาบารมีให้ดียิ่งขึ้น แก่ผู้ร่วมทำบุญทุกท่าน "กว่า 425 ปี จากอดีตสู่ปัจจุบัน ศรัทธามหาชน มิเคยเสื่อมคลาย มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี 2552 ร่วมสร้างฐานมงคลให้กับชีวิต" เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันนี้ และในวันข้างหน้า

ถือเป็นครั้งแรก ในการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด ที่นำแร่รัตนชาติ "นิล" ซึ่งมีอายุกว่าล้านล้านปี มาผสมผสาน กับงานที่มีรูปแบบเข้มขลัง ทรงคุณค่าขององค์หลวงพ่อทวด นับเป็นวัตถุมงคลที่น่ามีไว้บูชา และครอบครองยิ่ง อีกเหตุผลหนึ่ง "นิล" ซึ่งมีสีดำ และมีความหมายถึงการค้าขายร่ำรวย โชคลาภ สอดคล้องกับสมญานามของหลวงพ่อทวด คือ "ท่านลังกาดำ"

สดจากหน้าพระ

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ :
ข่าวสด

ภาพจากPanoramio - Photo of หลวงพ่อทวดวัดโคกสมานคุณ

 

สวัสดียามเช้าค่ะอาจารย์พี่ช้าง

 

ท่านอาจารย์ชมท่านเล่าเรื่องให้ฟังเมื่อวานค่ะว่า

ปี 2554 เพื่อนของอาจารย์ อยู่กรมศาสนา ได้โทรศัพท์มาบอกให้ไปรับที่สนามบินหาดใหญ่ ด้วยเพื่อจะไปวัดโคกสมานคุณ ซึ่งเพื่อนอาจารย์ จะมาดูสถานที่ที่วัดที่สร้างองค์หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ซึ่งยังดำเนินการไม่เสร็จ
ระหว่างที่เพื่อนอาจารย์ได้สนทนาธรรมกับพระของทางวัดโคกสมานคุณ อาจารย์ชมก็ขอปลีกตัว เดินออกมา ข้างนอก ตรงที่ สถานจัดสร้างหลวงพ่อทวด ซึ่งครั้งนั้นยังเป็นโครงสร้าง ซึ่งเป็นรูปองค์หลวงพ่อทวด แต่ยังหลอมไม่สมบูรณ์

อาจารย์ชมก็ยกมือพนม สักการะหลวงพ่อทวด บอกกล่าวกับโครงสร้างรูปหล่อที่ยังไม่เสร็จค่ะว่า วันนี้นับเป็นวันดีที่ลูกได้มากราบสักการะ องค์หลวงพ่อทวด ซึ่งจะจัดสร้างองค์ท่านไว้ประดิษฐานณ วัดโคกสมานคุณแห่งนี้ ลูกได้มากราบหลวงปู่ทวด สิ่งอันใดที่ลูกเคยประสบอยู่ ขอบารมีท่านในความศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ท่านคุ้มครองประชาชนที่นี่ และที่มากราบสักการะบูชาท่านขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญ ขอหลวงปู่ทวดเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเป็นที่เพิ่งบุญของคนทั่วไป และคุ้มครองทุกคน ร่วมทั้งตัวกระผม
ลูกขอโอกาสวันข้างหน้ามวลชนทั้งหลาย ร่วมหล่อหลอมให้รูปหลวงปู่ทวดแล้วเสร็จ ได้มาประดิษฐานอย่างมั่นคงถาวร และสำเร็จลุล่วง

 

เมื่อกล่าวกับหลวงพ่อทวดเรียบร้อย อาจารย์ ก็กลับเข้าไปที่เพื่อนของอาจารย์ และได้แผ่นพับจากทางวัดมาเพื่อ มาบอกบุญแก่ญาติธรรมที่อยากร่วมบุญสร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ อาจารย์ชมเล่าว่าได้ไปบอกบุญและมีเพื่อนบูชาไปเพียง 1 องค์ คือพระลอยองค์ องค์เล็กขนาดแขวนคอ ถัดจากนั้นประมาณ เกือบ 2 อาทิตย์ อาจารย์ก็ฝันค่ะ

อาจารย์ฝันเห็น มีพระรูปเหมือนหลวงพ่อทวด นั่งปางสมาธิมีลูกแก้วในมือ (ถือลูกแก้ว)
และซ้ายขวาขององค์หลวงพ่อทวดมีพระนั่งอยู่ข้างละ 2 รูป สักครู่พระรูปเหมือนหลวงพ่อทวดก็เดินทะลุกระจกแก้วออกมาเป็นพระชรา ท่านแทนคำพูดว่าเรา ท่านนั่งห่างจากอาจารย์ชมประมาณ 1 วา อาจารย์มองที่เท้าของพระชรา ท่านมีเนื้ออูมไม่เหมือนกับคนแก่ชราทั่วไป จะเท้าเหี่ยว เนื้อท่านเต็ม เท้าสวย
-ห่มจีวรผ้าสีเข้ม
-ที่คาดเอวจะมีสีเข้มกว่าจีวร
-ผ้าพาดไหล่สีเข้มกว่าชุด
-ผมมีงอกแซม หลังงอนิดหน่อย

 

หลวงพ่อทวดกล่าวในฝันบอกกับอาจารย์ชมค่ะว่า

หลวงพ่อทวด :เรามีเรื่องจะเล่าให้ท่านฟัง ให้ตั้งใจฟัง ตั้งจิตและสมาธิให้ดีนะ
เราจะเล่าเรื่องให้ฟัง
อ.ชม : ครับ

หลวงพ่อทวด : เรามีลูกสาว 2 คน ลูกสาวเราคนแรกไปมีลูกอีก 2 คน
และลูกสาวอีกคน ก็มีลูกอีก 2 คน เรามีหลาน 4 คน รวมทั้งลูกเขย 2 คน รวมกี่คนท่านนับดู ท่านจำได้ไหมที่เราเล่า พูดที่เราเล่า

อ.ชม จำไม่ได้ครับหลวงปู่

 

หลวงพ่อทวด : ให้ท่านตั้งสมาธิ ท่านหลับตา และตั้งใจฟัง
เรามีลูกสาว 2 คน ลูกสาวเราไปมีลูก 2 คน ลูกเราอีกคนมีลูกอีก 2 คน เรามีหลาน 4 คน รวมทั้งลูกเขย เป็น 6 คน
ท่านลืมตาเถอะ ท่านจำได้ไหมที่เราเล่า ท่านจำแล้วให้ท่านพูดตามที่เราพูด

หลวงพ่อทวด: บอกกับอาจารย์ชมว่า จำไว้นะ
แล้วท่านก็หายไป

ท่านอาจารย์ชมท่านก็มาคิดถึงคำบอกเล่าของหลวงพ่อทวดค่ะว่า
หากดูประวัติของหลวงพ่อทวดท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณร และท่านบอกว่าท่านมีลูก
อาจารย์วิเคราะห์ว่า อาจมีพ่อแม่ ได้ไปขอลูกกับสมเด็จหลวงพ่อทวดไว้ หรือยกให้หลวงพ่อทวด และผู้หญิง 2 คนนี้ ต้องเคยได้สร้างบุญหรือเป็นเนื้อนาบุญ หรือศรัทธาท่านอย่างจริงจัง ท่านเลยมาเล่าให้ฟัง

อนุโมทนาบุญเรื่องเล่าจากอาจารย์ชมค่ะ

 

สวัสดียามเช้าค่ะอาจารย์จงอาง