พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    อ้าวคุณตั้งใจไม่ใช่ครับ เป็นพระพิมพ์สมเด็จกรมท่าเนื้อชมภูในชุด พิเศษ1ไงครับ ที่เหลือ...ไม่บอกครับ กลัวท่านตั้งใจเลียนแบบครับ(555)
    nongnooo...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมเหลือห้อยจริงๆ ห้อยเพียงแค่ 5 เส้นแล้วครับ มีสองเส้น เป็นเส้นที่ห้อยเดี่ยวครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=100377&page=2

    <TABLE class=tborder id=post816730 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 08:03 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #22 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยอดดอยอินทนนท์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_816730", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 08:15 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2007
    ข้อความ: 10 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 8 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 54 ครั้ง ใน 10 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_816730 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย [​IMG]
    ใครที่อยากรู้ว่ามีจริงหรือไม่ ลองไปเดินสนามพระท่าพระจันทร์ดูนะครับ มีพระเก๊แปลกตาให้ชมเต็มไปหมด พระแบบที่เอามาลงให้ดูนี่ก็มีแทบจะทุกแผงที่วางตามทางเดิน คนที่เชื่อว่ามีจริงนั้น เคยไม๊ครับที่ลงมาเดินเปิดหูเปิดตาตามสนามพระเหล่านี้ อยู่กับบ้านมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ต้องออกมาเข้าสังคมกับเขาบ้าง เคยรู้ไม๊ว่ามีอาชีพทำพระเก๊แบบนี้อยู่ในประเทศไทย เคยรู้ไม๊ว่าพระพวกนี้เก๊มานานหลายสิบปีแล้ว คนทำพระเก๊มีเยอะแยะไปหมด มีทุกรูปแบบ คนที่เล่นหาพระกรุวังหน้าส่วนใหญ่จะดูพระไม่เป็น ไม่มีครู ห่างไกลสนาม ไม่รู้จักพระอื่นๆนอกจากพระกรุวังหน้าที่คนเขาเล่านิทานหลอกขายมานมนาน บรมสมกัลป์ อย่างที่บอกลองไปเดินดูตามซอกซอยแถวท่าพระจันทร์จะพบคำตอบเอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอโทษน๊ะคุณมันตรัย สำหรับคุณผมคงต้องใช้คำที่ค่อนข้างไม่สุภาพหน่อยแล้วล่ะ ประเด็นก็คือ แล้วถ้าพระปลอมน๊ะมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับคุณมึง เห็นแส่เข้าไปทุกกระทุ้ เข้าทำนองเสือกไม่เข้าเรื่อง นี่ว่ากันแบบทหารเลยน๊ะ อยากขายพระก็ไปขายในกระทู้คุณมึงต่างหากสิ ทำไมผมถึงพูดกับคุณมึงอย่างนั้น อ่านตามเลยน๊ะ
    1. พระชุดวังหน้านี้ ส่วนใหญ่เป็นที่รู้กันดีในกลุ่มของนายทหารบก วันนี้ผมก็เจอแหวะคอท่านนายพลรุ่นพี่ออกมา โอ้โฮ แขวนกลักไม้ขีดองค์เบ้อเร่อ ถามว่าพี่เป็นไง ท่านบอกว่าเยี่ยม
    2. พอยื่นพระให้ท่านอีกองค์เป็นเจ้าคุณกรมท่า ท่านบอกพี่มีแล้วว่ะ เนี่ยเอาไปตรวจเรียบร้อยแล้ว พร้อมสมเด็จพิมพ์เบญจสิริ คนตรวจบอกแรงจัง
    3. พี่ท่านบอกว่าไอ้พระที่พิมพ์เมื้อนเหมือนวัดระฆังน่ะ ตรวจแล้วโบ๋เบ๋ เนื้อใช่ พิมพ์ใช่ ซื้อผ่านมือเซียนมาหลายบาท ปลอมทั้งนั้น ตรวจไม่ขึ้น ต้องใช้กระบอกปืนขู่มันยอมคืนเงินให้ ท่านยังบอกเลยว่า ถ้ากูจะปลอมพระ กูจะทำมาเป็นพิมพ์อัปลักษณ์ต่างกับที่เซียนเล่นทำไม สุ้ทำให้แม่งเหมือนดีกว่า ขายได้ด้วย ไอ้พระที่ปลอมเยอะน๊ะ พิมพ์นิยมใน 3 วัดทั้งนั้น
    4. ท่านบอกเฮ้ย เอ็งไปดูสิ นายทหารใหญ่หลายคนน่ะ แขวนพิมพ์ประหลาดทั้งนั้น ท่านบอกพระคุ้มตัวเว้ย ไม่ใช่พระหาแดก เวลาออกรบ ลูกปืนลูกระเบิดน๊ะไม่เลือกว่าใครเป็นนายพล หรือพลทหาร ท่านบอกเอาพระที่ตรวจแล้วขึ้นนี่ละว่ะมั่นใจดี แล้วท่านก็ไม่เห็นเป็นอะไร อยู่ยืนยงคงกระพันมาจน 60 ปีแล้ว
    5. ความเห็นนี้เช่นเดียวกับผม ผมแขวนบางน้ำชน อาจารย์ที่นับถือตรวจแล้วบอกสมเด็จโตเสกเอง ลุยมาก็เยอะ ไม่เห็นแม่งจะโดนซะตรงไหน เพื่อนฝูงแขวนพระราคาแพงทั้งนั้น ตายคาหลุมยังมีเลย
    6. พระในคอคุณมันตรัยน๊ะของแท้ใช่มั๊ย ผ่านมากี่สมรภูมิล่ะ ช่วยได้รึเปล่า รึว่ามีไว้ขายแดกอย่างเดียวครับ มั่นใจนักใช่มั๊ย เนื้อใช่ พิมพ์ใช่รู้ไงว่าสมเด็จฯ ท่านเสก ตรวจรึยัง ระวังมีดบาดมือตายน๊ะ

    ขอโทษกับท่านอื่นๆ ด้วย แบบว่า แค้นใจแทนหลายท่านที่มีของดีแล้วโดนโจมตี แต่ทั้งนี้ ของปลอมอย่างที่เขาบอกก็มี ดังนั้น ก่อนแขวนต้องตรวจก่อน ตรวจให้แน่ใจเสร็จแล้วแขวนเอง ห้ามขาย เซียนไม่ชอบครับ เชื่อผมอย่างนึง สมเด็จฯ ท่านอยู่มาเป็นสิบๆ ปี ในชีวิตท่านทำพระแค่พิมพ์นิยม 3 วัด แค่นั้นหรือ หรือเสก 3 วัดแล้วเลิกเลย อย่างนั้น ก็แพ้สมเด็จญาณฯ น๊ะ สิ ในชีวิตท่านเสกมาตั้งแต่ปี 2510-11 โน่น นี่ก็ปี 2550 แล้วยังมีพิธีๆ สำคัญอีก นับเป็นรุ่นแล้ว นับไม่ถ้วนจริง หรือท่านสังฆราชแพ ดูพระกริ่งท่าน ตั้งกี่รุ่น นับประสาอะไรกับสมเด็จโต ที่เป็นยอดพระขลังประจำรัชกาล มีรึ ที่ข้าราชการ หรือฆราวาสต่างๆ จะให้อภิญญาจิตท่านนอนนิ่ง กว่าท่านจะลุกเสกไม่ได้ เอาแค่เสกตั้งแต่เป็นพระธรรมกิติ จนเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ โอ้โฮ น่าจะนับไม่หวาดไม่ไหวจริงครับ

    จากยอดดอยที่สูง
    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("816730")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --> <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. หญิงจัน

    หญิงจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +2,655
    อนุโมทนาด้วยค่ะ มีรูปถ่ายของหลวงปู่บรมครูอยู่แต่ไม่ทราบว่า ร่างไหนคือร่างจริงของท่าน
     
  4. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    ขอบคุณครับ ที่ลงโพสให้ ไม่ต้องเสียเวลาลงโพสเอง เหนื่อยหน่อยนะครับกับการตามหารูป......................ยังอยู่ดีมีสูขครับ...
     
  5. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD class=style52 align=left colSpan=2 height=28>
    จตุคามโบราณ

    เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบทุก 50 ปี ในแต่ละรัชกาล
    (ในสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 9) มีการบูรณปฏิสังขรณ์
    วัดพระแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง มีการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม อันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติให้คงความงดงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทยไว้อย่างดีที่สุด มีการสร้างประติมากรรมสืบทอดพระพุทธศาสนารูปแบบต่าง ๆ ตามความเชื่อ ความศรัทธา ไว้เป็นสมบัติคู่กับกรุงรัตนโกสินทร์
    ตลอดไป

    จตุคามรามเทพยุคต้น เป็นประติมากรรม สร้างโดยฝีมือช่างหลวง (กองช่างสิบหมู่) สำนักพระราชวัง มีแบบพิมพ์หลายแบบพิมพ์ หลายเนื้อ มีทั้งเนื้อโลหะทองดอกบวบ เนื้อผงพุทธคุณ (ผงสมเด็จวัดระฆัง) เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ เนื้อกระเบื้องกังไส ฯลฯ ทาชาดแดงปิดทอง บางองค์ฝังเม็ดพระธาตุ แบบพิมพ์มีหลายขนาด ทั้งพิมพ์กลมน้ำตาลแว่น และรูปหล่อโลหะทองดอกบวบปิดทองล่องชาดแดง

    - ทองและชาดแดง (ยุคเก่า) สามารถเปรียบเทียบได้จากผนังอุโบสถวัดพระแก้ว
    ซึ่งเขียนลายรดน้ำ บนพื้นชาดแดงและทองที่ปิดบานพระทวารในสมัยรัชกาลที่ 3

    - น้ำยาเคลือบกระเบื้องกังไสจากจีน นำเข้าสมัยต้นรัตนโกสินทร์ นำมาเคลือบถ้วย ชาม แจกัน ซึ่งมีหลากหลายสี

    จตุคามรามเทพยุคต้นเหล่านี้ได้รับการยืนยันจากผู้ใหญ่ซึ่งมีตำแหน่งระดับหัวหน้า
    ในกองช่างสิบหมู่ สำนักพระราชวัง ซึ่งท่านเรียนจบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และจากประสบการณ์การทำงานของท่านกว่า 30 ปี ในกองช่างสิบหมู่ยืนยันว่า
    เป็นของแท้แน่นอน มีอายุกว่า 100 ปี โดยพิจารณาจากชาดแดง ทองที่ปิด
    น้ำยาเคลือบกระเบื้องกังไส โลหะทองดอกบวบ และธรรมชาติความเก่า
    อายุของเนื้อผงพุทธคุณ ซึ่งเป็นยุคต้นกรุงรัตนโนสินทร์
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left colSpan=2 height=28>
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left width=273 height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left width=273>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD align=left>

    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ 4 กร
    (ยุคต้น - ด้านหน้า)

    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ 4 กร
    (ยุคต้น - ด้านหลัง)​
    </TD></TR><TR height=28><TD rowSpan=2>
    [​IMG]
    </TD><TD height=28>


    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD></TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD align=left>

    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ 2 เศียรเคลือบ
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ 2 เศียรเคลือบ
    (ยุคต้น - ด้านหลัง)​
    </TD></TR><TR height=28><TD>

    [​IMG]
    </TD><TD colSpan=-1 height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD width=2 colSpan=-1></TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD align=left>

    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ประทานพร
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ประทานพร
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD vAlign=top align=left rowSpan=7>
    [​IMG]
    </TD><TD colSpan=-1 rowSpan=7>

    [​IMG]
    </TD><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD colSpan=-1 height=28></TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ทรงเครื่องกษัตริย์
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ทรงเครื่องกษัตริย์
    (ยุคต้น - ด้านหลัง
    )​
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    </TD><TD align=left>
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD align=left>

    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ทรงเครื่องกษัตริย์เคลืือบ (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ พิมพ์ทรงเครื่องกษัตริย์เคลืือบ
    (ยุคต้น - ด้านหลัง
    )​
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left>



    </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    [​IMG]
    </TD><TD align=left>

    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ หน้า 8 พระราหู
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ หน้า 8 พระราหู
    (ยุคต้น - ด้านหลัง
    )
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพพิมพ์ใหญ่6.5ซม.
    (ยุคต้น - ด้านหน้า)
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพพิมพ์ใหญ่6.5ซม.
    (ยุคต้น - ด้านหลัง)
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ เนื้อโลหะทองดอกบวบ
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ เนื้อโลหะทองดอกบวบ
    (ยุคต้น - ด้านหลัง)
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    รูปหล่อเนื้อทองดอกบวบ 4.5 เซนติเมตร
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD><TD align=left>
    รูปหล่อเนื้อทองดอกบวบ 4.5 เซนติเมตร
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพเนื้อโลหะทองดอกบวบ
    (ยุคต้น - ด้านหน้า
    )​
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพเนื้อโลหะทองดอกบวบ
    (ยุคต้น - ด้านหลัง
    )​
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>
    [​IMG]
    </TD><TD align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR height=28><TD align=left height=28>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ 3 เศียร 12 หน้า

    พิมพ์เล็ก เนื้อโลหะ (ยุคต้น - ด้านหน้า)
    </TD><TD align=left>

    องค์ท้าวจตุคามรามเทพ 3 เศียร 12 หน้า

    พิมพ์เล็ก เนื้อโลหะ (ยุคต้น - ด้านหลัง)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีทั้งหมด 5 พระองค์ คือ คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) (ตามลายเซ็นผม)

    แต่องค์ที่ทุกๆท่านเห็นกันในปัจจุบันคือหลวงปู่อิเกสาโรครับ

    [​IMG]
    รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)

    1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า

    2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
    3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
    4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
    5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)

    หมายเหตุ จากรูปนั้น ชื่อองค์แรกคือพระภูริยะเถระเจ้า แต่ที่ถูกต้องคือพระฌาณียะเถระเจ้า ส่วนองค์สุดท้ายคือพระฌาณียะเถระเจ้า ที่ถูกต้องคือพระภูริยะเถระเจ้า

    โดยปกติที่เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกันทั่วๆไปนั้น จะเป็นรูปของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ครับ

    [​IMG][​IMG]
     
  8. nilkong

    nilkong สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +17
    ยังมีพระสมเด็จวังหน้าเหลือให้บูชาอีกมั๊ยครับ อยากได้บูชามั่งสักองค์
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เชน [​IMG]
    ขอบคุณครับ ที่ลงโพสให้ ไม่ต้องเสียเวลาลงโพสเอง เหนื่อยหน่อยนะครับกับการตามหารูป......................ยังอยู่ดีมีสูขครับ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เวลาที่ขายพระ ก็ใช้ชื่อเดียวก็พอ ไม่ต้องใช้หลายชื่อ เป็นคนขาย เป็นคนเชียร์ หรืออาจเป็นคนซื้อก็ได้ สร้างความน่าสนใจ การตลาดแบบนี้อย่าทำเลยครับ นรกครับ
    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไว้หลังปีใหม่แล้วนะครับ ผมมอบให้ผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์
    แต่ไม่มีให้บูชา

    .
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    <!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, jaroenthai, sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จ๊ะเอ๋ตอนดึก ท่านปา-ทาน ได้เครื่องเย็น มาทำให้เย็นใจมั้ยครับ(b-glass)
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ไม่ได้ครับ ว่าจะไปดูใหม่อีกรอบครับ ผบ.ไม่พอใจของแถม
    (evil2)
    .
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านสั่งห้ามขัดขืนครับ(555)
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระกรุวัดพระแก้ว............ปลอมหรือ?
    http://palungjit.org/showthread.php?t=100377&page=3

    <TABLE class=tborder id=post818517 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:07 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #49 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Dej Amarin<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_818517", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:07 PM
    วันที่สมัคร: Feb 2007
    ข้อความ: 52 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 37 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 400 ครั้ง ใน 55 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 55 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_818517 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->มีจริงหรือไม่มี
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ผมขอเริ่มต้นและขอชมคำพูดของคุณ ยอดดอยอินทนนท์ ว่าเยี่ยมจริง
    และผมขอเริ่มเลยว่าพระสมเด็จหวังหน้านะมีจริงที่ว่ามีจริงก็คือ ของผมก็มีได้มาจากคนข้างในสำนักก็มีแนะนำให้ไปเช่าได้แถวตลาดถ้าพระจันทร์ก็มีเขาว่าตาดีได้ตาร้ายเสีย สมเด็จหวังหน้ามีมากมายหลายพิมพ์ผมจะคุยแบบชาวบ้านให้ท่านฟังนะครับและสิ่งที่นำลงมาตีผมบอกก่อนว่ามิได้มาจากคำพูดของใครหรือตำราของใครมันออกมาจากสมาธิทุกคำแล้วพิมพิ์ออกมา
    พระสมเด็จหวังหน้าและสมเด้จพิมพ์ฝีพระหัตถ์นั้นมีแน่นอนเพราะผมไดพระสมเด็จฝีพระหัตถ์องค์แรกจากลูท่านลองเลขาสำนักพระราชวังแลได้สมเด็จพระปัญจสิริเนื้อเบญจรงค์ก็ได้มาเจ้าหน้าที่บูรณะสำนักพระราชวังผมจึงแน่ใจว่ามีจริงและผมก็ได้มาอีกมากมายหลายอย่างที่ผมได้ออกมาให้พวกท่านทั้งหลายได้ทำบุญกัน
    การสร้างพระสมัยนั้นพวกขุนนางบ่าวไพร่ทั้งหลาย ไม่ว่าพวกขุนนางผู้ใหญ่ที่จะเอาหน้าเอาตาก็ได้สร้างพระถวายองค์พ่อ ร.5 กันมามายคนไหนมีเงินมีทองก็สร้างพระที่มีเพ็ชรพลอย เจ้าพนักงานที่อยู่ฝ่ายในก็นำเอาเศษทองคำมาผสมทำพระที่เวลาเราส่องจะเห็นเป็นผงตะไบทองทั้งในเนื้อปัญจศิริและเนื้อผงสีขาว บางราบสร้างเป็นสีมาถวายตามวันเกิดของตัวเอง เช่นตัวเองเกิดวันจันทร์ก็สร้างสีเหลืองเป็นต้น บางคนมีพลอยก็บรรจุพลอย บางคนมีทองเป็นแผ่นก็นำมาปรุที่องค์พระ และสมเด็จที่บรรจุหลังแผ่นทองเหลืองจริง ๆ แล้วเป็นพระใหม่ ของเก่าจะเป็นทองคำของปลอมจะนำทองเหลืองมาลงชาติแดงหรือชาติดำที่แผ่นทองเหลืองแล้วนำมาขายองค์ละ 50 บาท นี่คือที่มาที่ไปที่รู้เพราะคนที่ขายเรียกผมอาจารย์เพราะนับถือกัน ก็เลยถามต่อว่าพระที่ทำมามีวิธ๊ทำแบบไหนผงนั้นได้เอามาจากวัดสตือ จ.อยุธยาและผงบ้างส่วนที่ช่างได้เขข้าพิธีตามวัดต่าง ๆ เมื่อเวลานักจับพุทธคุณจับพลัง พอจับมีกระแสเขามาก็บอกว่าแท้ ( ผมเคยโดนมาสามสี่ร้อยองค์กับครูบาอาจารย์ ) และก็มาพิจารณาในเรื่องของการจับพลังว่าจะเป็นเช่นไรถึงจัยแล้วมีพลังจับแล้วพลังเดขึ้นนานหรืออยู่คงคนหมายถึงนานจนเข้ากระแสจิตผ่านเข้าไปในสมองหรือไม่มิใช่จับแล้วว่าจะมีพลังเป็นแท้หมด ต้องระวังให้มากนะนักจับพลัง(และก็ระวังให้มากสำหรับนักจับพลังหน้าใหม่) เที่ยวเดินถามเขาว่าจับแล้วรู้สึกอย่างไรฝึกได้แต่อย่าทำให้ชื่อเสียงครูบาอาจารย์เสียนะ คนจริงมันต้องแสดงออกมาว่ามีดีมิใช่บอกว่าดี แต่ไม่ยอมเผยตัว จะทำกันอย่างไรก็ได้แต่อย่าทำให้ครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเสียชื่อนะเดี่ยวจะว่าไม่เตือน

    ส่วนเรื่องจตุคามหวังหน้าผมบอกได้เลยไม่มีล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะคนทำเป็นลูกศิษย์ผมเองทั้งเนื้อกระเบื้องวังหน้า เนื้อกระเบื้องสีเขียว สีแดงที่โผล่มาบอกได้เลยปลอมทั้งหมดทุกพิมพ์ทุกองค์ที่มีพลังเพราะผสมผงวัดสตือและมวลสารของผงที่ฝากเสกที่วัดระฆังและอินทร์ครับท่าน
    การอัญเชิญองค์จตุคามทางวิชชาสายวิชชาดวงธรรมบรรลุเขาเรียกว่าเป็นการเชิญเทวดามาสู่วัตถุเท่านั้นที่จริงต้องมีการเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เชิญลงมาอีก เช่น องค์ พระพรหม พระนารายณ์ หรือองค์ พ่อศิวะ (งค์ทั้งสามคือองค์ตรีมูรติ ) สรุปได้มีมาบอกได้เลยองค์จตุคามวังหน้าปลอมแน่ แน่

    ส่วนเรื่องหลวงปู่มีนั้นผมไปกราบท่านเพราะผมเป็นเพื่อนของหลานท่านและท่านก็เคยมาบ้านผมด้วยที่มาเพราะท่านมาบ้านเพื่อนผมและผมก็เคยสร้างพระถวายหลวงปู่ 1 รุ่น และที่แน่ ๆ ผมได้สร้างพระรูปหล่อเนื้อว่าน 108 จำนวน 1 องค์ และก็มีองค์เดียวที่จำได้องค์เนื้อว่านนี้ประมูลได้เงินเข้าวัด จำนวน 10,000 บาท เมื่อปี 2539 แต่ที่แน่ ๆ ผมเป็นคนที่บูชาครูบาจารย์มาก ไม่ทราบว่าที่คนบางคนกำลังทำอยู่นำเอาบูชามาเป็นเครื่องเล่นมาว่ามาด่ากันแล้วเอาคำสาบานมาเป็นเครื่องวัดว่าผิดถูกผมบอกเลยว่าทำไม่ถูก ทำดีอยู่กับตัวรู้อยู่กับใจก็พอแล้ว (พระขุนแผนเนื้อคนอาจจะมีหรือไม่มีก็ตามแต่ผมขอบอกว่าไม่ว่าพระที่สร้างพระเนื้อมนุษย์หรือฆาราวาสที่สร้างผมว่ามันแล้ว)

    ผมจะไม่บอกว่ามีหรือไม่มีให้ท่านคิดดูและก็ไม่ว่าใครแต่ก็ขอชมคำพูดของคุณยอดดอยอินทนนท์ว่าดีมาก ๆ

    สรุปท้ายเรื่องบอกกับท่านทั้งหลายที่เคารพ สมเด็จหวังหน้ามีจริงแน่นอน พระปรุทองมีแน่นอน ( ของช่วง 2-3 ปีที่ออกมา 98 เปอรฺเซ้นต์ที่ปลอม) อีก 2 เปอร์เซ็นต์ฟลุกที่เป็นของแท้ ส่วนมากผสมมวลสารให่ทั้งนั้นครับ เรื่องจตุคามปลอมทุกองค์ ทุกข์พิมพ์ที่มีขึ้นมา (มีคนเขาบอกว่าเป็นจตุคามวังหน้าต้องคุยกันยาวคงได้ข้อมูลผิดแน่ ๆ เลย ( เบื่อแล้วไม่ยุ้งดีกว่า )
    ขอให้ท่านโชคดีทุกท่านครับ (แต่สำหรับพี่ยอดดอยคงหนาวแย่ขอให้มีความสุขมาก ๆ ครับพี่ยอดดอย )
    อาจารย์ จเร ดวงธรรม

    ทำอะไรทำด้วยใจ อะไรก็ได้ดังใจเชื่อเถอะ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. ศ.รุ่งเรือง

    ศ.รุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +719
    ขอยืนยันอีกครั้งครับ เคยโพสในหลายครั้งหลาบเว็บแล้ว พูดอย่างเป็นกลางๆก็แล้วกันในฐานะที่ผมไม่ใช่นักปฎิบัติ โดยส่วนตัวเชื่อว่าพระสมเด็จปัญจสิริมีจริง หลายสิบปีก่อนในงานทำบุญอุทิศให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ ผมได้คุยกับลูกลุงซึ่งสมัยเด็กๆเราก็เที่ยวเล่นกันพอช่วงโตเราแยกย้ายกัน ตอนนั้นคุยกับญาติๆคนอื่นอยู่เรื่องพระ พอพี่เขามาก็คุยกันเขาบอกอยากเห็นพระสมเด็จไหม กระผมก็ตาลุกสิครับเมื่อ 20 ปีก่อนผมก็เป้นพวกบ้าพระเครื่อง สมเด็จวัดระฆังจัดว่าเป็นพระในฝันทีเดียว พอพีผมหยิบออกมา ปรากฎว่ามันไม่เหมือนกับสมเด็จที่เขาเล่นกัน เป็นสมเด็จสีแบบสายรุ้งแต่ว่าสวยงามมาก ผมก็บอกว่าเขาไม่เล่นกัน แต่พี่ผมบอกว่าไม่เป็นไรรับมาจาก.......(ขออนุญาตไม่แอบอ้างนะครับ เพราะบางคนชอบโจมตีว่าอ้างเบื้องสูงทั้งที่ของเราเป้นของจริง ตระกูลเราก็มีจริงและไม่ได้ขายพระกิน)อ้อลืมบอกไปพี่ผม จบ จปร.ครับ ตายในขณะเป็นพันเอกเมื่อปีนี้เอง พระนี้ตกเป็นสมบัติของหลานสืบไป กรรมในการปรามาศพระวังหน้าในครั้งนั้นทำให้ผมกว่าจะได้พบพระสายนี้ ก็ 20 ปีให้หลังต่อมาทีเดียว
     
  16. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    พี่หนุ่ม น้องเท่หฺ ป่าวคะ ฮ่าๆๆๆๆ อเวเตอร์ อ่ะ หุหุ

    มีหลายเวอร์ชั้นน่ะ ท่านปรมาจานนนนนนนนนนนนนน อิอิ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01bud01181150&day=2007-11-18&sectionid=0121


    วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10844

    5 คำถาม 3 กิเลส ที่บั่นทอนประเทศชาติ


    คอลัมน์ มองอย่างพุทธ

    โดย พระไพศาล วิสาโล



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>-1-

    เหตุการณ์นักเรียนหญิงตบตีกันในห้องเรียนที่จังหวัดลำพูนเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ดี กรณีนักศึกษาสาวสาดน้ำร้อนใส่หน้าหญิงสาวอีกคนหนึ่งในร้านสะดวกซื้อกลางกรุงในเวลาไล่เลี่ยกันก็ดี แม้จะต่างกรรมต่างวาระ แต่ก็เริ่มต้นด้วยประโยคเดียวกัน นั่นคือ

    "มึงมองหน้ากูทำไม?"

    นี้เป็นประโยคเดียวกันกับที่นำไปสู่การยกพวกตีกันระหว่างนักเรียนอาชีวะครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งการรุมทำร้ายกันในผับและบาร์อีกหลายแห่ง ไม่นับการฆ่ากันบนท้องถนน ไม่น่าเชื่อว่าประโยคสั้นๆ เท่านี้สามารถบันดาลโทสะจนเป็นเหตุให้มีผู้คนล้มตายมากมาย

    ทั้งผู้ทำร้ายและผู้ถูกทำร้ายเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ในหลายกรณีผู้ที่เป็น "ฆาตกร" ก็มิใช่คนโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ แต่อะไรทำให้เขาทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนั้นได้ คำตอบคือ ความรู้สึกว่าถูกลบหลู่ เสียศักดิ์ศรี สำหรับคนเหล่านั้นเพียงแค่มีใครสักคนมองหน้า ก็ถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างร้ายแรง

    คนทั่วไปย่อมไม่รู้สึกอะไรหากถูกจ้องหน้า แต่คนเหล่านั้นกลับเห็นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเอาศักดิ์ศรีไปฝากไว้ที่หน้า (อันแสนบอบบาง) เท่านั้น แต่ยังเพราะคิดว่าตนเองนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะจ้องมองหน้าได้ง่ายๆ สำหรับคนเหล่านั้น การหลบตาคือการแสดงสัมมาคารวะที่คู่ควรกับคนใหญ่คนโตอย่างเขา

    คนเหล่านั้นคิดว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโต บ้างก็เพราะเป็นบุคคลในเครื่องแบบ บ้างก็เพราะเป็นนักการเมือง บ้างก็เพราะเป็นเจ้าพ่อ แต่หลายคนไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่มีพ่อหรือญาติผู้ใหญ่เป็นทหาร ตำรวจ ส.ส. หรือรัฐมนตรี เท่านี้ก็ใหญ่คับฟ้าแล้ว ด้วยเหตุนี้เวลาไปไหนมาไหน หากใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็จะโพล่งขึ้นมาทันทีว่า "รู้ไหมว่าอั๊วเป็นใคร?" (หรือไม่ก็ "รู้ไหมว่าพ่อข้าเป็นใคร?" ดังกรณีนักศึกษาสาวที่สาดน้ำร้อนใส่หน้าคู่กรณีกลางร้านสะดวกซื้อ)

    การแพร่ระบาดของความรุนแรงอันเนื่องจากการมองหน้ากัน เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าทุกวันนี้เมืองไทยมีคน "อวดเบ่ง" อยู่ทุกหัวระแหง ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียน เดี๋ยวนี้แม้ไม่ได้มีพ่อร่ำรวยหรือใหญ่โต เพียงแค่เป็นรุ่นพี่ก็คิดว่าตัวเองใหญ่พอที่จะบังคับให้รุ่นน้องทำอะไรก็ได้ ดังปรากฏเวลารับน้องใหม่ จนมีคนตายเพราะอำนาจบาตรใหญ่ของรุ่นพี่ปีแล้วปีเล่า

    -2-

    ในขณะที่หลายคนพร้อมจะทำสิ่งเลวร้ายทันทีที่ถูกมองหน้า แต่หากถูกชักชวนให้ทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ส่วนใหญ่กลับอิดเอื้อนบ่ายเบี่ยง "ทำแล้วฉันจะได้อะไร?" คือคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของผู้คน แม้จะเป็นสิ่งดีมีประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่หากฉันไม่ได้เงินหรือชื่อเสียง ฉันก็ไม่ทำ ในทางตรงข้ามแม้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าฉันได้เงินตอบแทน ฉันก็จะทำ

    เป็นเพราะคิดแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เดี๋ยวนี้เวลาจะชักชวนให้คนทำอะไรที่ถูกต้องดีงาม ก็ต้องแจกเงินหรือมีรางวัลให้ มหาวิทยาลัยอยากให้นักศึกษาสาวแต่งตัวสุภาพ ก็ต้องมีสร้อยทองแหวนเพชรเป็นเครื่องล่อ จะชวนชาวบ้านมาสร้างถนนปลูกป่า ก็ต้องมีค่าจ้าง มิฉะนั้นก็ไม่มีใครมาทำ ทั้งๆ ที่ประโยชน์ก็ตกแก่ชาวบ้านเอง อยากให้ลูกทำการบ้าน ก็ต้องมีรางวัลให้ แม้ลูกโตจนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พ่อแม่ก็ยังต้องจ้างลูกเรียน จนฝรั่งก็อดงงงวยไม่ได้ เพราะที่ยุโรปหรืออเมริกานักศึกษาต้องหาเงินมาเป็นค่าเล่าเรียนเอง

    แต่ฝรั่งจะต้องงงมากกว่านั้นหากรู้ว่า เดี๋ยวนี้ทั้งๆ ที่ถูกจ้างให้เรียน แต่คนไทยไม่สนใจเรียนกันแล้ว การลอกการบ้านหรือลอกรายงานกลายเป็นกิจกรรมที่ทำอย่างเป็นล่ำเป็นสันตั้งแต่ชั้นประถมไปจนถึงปริญญาเอก ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงการโกงข้อสอบ คำถามที่อยู่ในใจของนักเรียนและนักศึกษาตอนนี้คือ "ทำอย่างไรจึงจะได้เกรดดีๆ โดยไม่ต้องเรียน"

    นี้ก็เป็นคำถามเดียวกันกับที่อยู่ในใจของคนส่วนใหญ่ เป็นแต่ยักเยื้องนิดหน่อย คือ "ทำอย่างไรจึงจะรวย โดยไม่ต้องทำงาน?" การรวยทางลัดกลายเป็นความใฝ่ฝันของคนทั้งประเทศไปแล้ว ด้วยเหตุนี้หวย การพนัน วัตถุมงคลทั้งหลาย จึงแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ จตุคามรามเทพกลายเป็นที่นิยมก็เพราะสนองกิเลสคนไทยที่อยากเป็นอภิมหาเศรษฐีโดยไม่ต้องเหนื่อย ขอเพียงแต่ซื้อถูกรุ่นก็พอ แต่นั่นก็ยังเสียหายน้อยกว่าการคอร์รัปชั่นและการปล้นจี้อันเป็นวิธีรวยทางลัดอย่างหนึ่งที่กำลังมาแรงในทุกแวดวงและทุกระดับ จะเรียกว่าการปล้นจี้เป็นทางลัดของคนต่ำต้อย ส่วนการคอร์รัปชั่นเป็นทางลัดของคนที่มีสถานภาพก็ได้

    -3-

    ความอวดเบ่งถือตัวว่าใหญ่โตและความอยากร่ำรวยโดยไม่ต้องเหนื่อย เป็นสาเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทและเบียดเบียนเอาเปรียบกัน เพราะพื้นฐานของสำนึกทั้ง 2 ประการคือ ความเห็นแก่ตัว หมายเอาตัวเองหรือความต้องการของตนเองเป็นใหญ่ แต่ยังมีอีกอย่างที่เราชอบยึดเป็นใหญ่นั่นคือความคิดของตน เมื่อใดที่ยึดติดถือมั่นในความคิดของตน ก็จะไม่พอใจเมื่อเห็นคนอื่นคิดต่างจากตน ความไม่พอใจดังกล่าวมักนำไปสู่การกล่าวหาคนที่ต่างจากตน อย่างเบาก็หาว่าเขาคิดผิด อย่างหนักก็หาว่าเขาคิดชั่ว ถึงจะไม่พูดตรงๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งเป็นคำถามเพื่อหมายประณามเขาอยู่ในที คำถามยอดนิยมใน พ.ศ.นี้ก็คือ "เป็นคนไทยหรือเปล่า?"

    ความเป็นคนไทยทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีความหมายคับแคบลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นว่าต้องคิดเหมือนกัน ถ้าคุณไม่เชื่อว่าพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นผู้ทำศิลาจารึกหลักที่ 1 หรือไม่เชื่อว่าท้าวสุรนารีทำวีรกรรมอย่างที่สอนในโรงเรียน ความเป็นคนไทยของคุณอาจถูกตั้งคำถามทันที แต่ถ้าคุณเชื่อเหมือนคนอื่นๆ แม้จะไปคอร์รัปชั่นเงินหลวงนับร้อยล้านหรือปล้นฆ่าใครที่ไหน มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีใครถามว่าคุณเป็นคนไทยหรือเปล่า

    ความเป็นไทยที่ถูกนิยามให้แคบจนเหลือเพียงแค่คิดอะไรเหมือนๆ กัน พูดภาษาเดียวกัน แต่งตัวคล้ายกัน ทำให้เกิดปัญหากับคนไทยที่คิดต่างกัน หรือคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พูดต่างภาษา แต่งตัวไม่เหมือนคนในจังหวัดอื่นๆ เพียงแค่เขามองประวัติศาสตร์ปัตตานีต่างจากที่สอนในตำราเรียนของราชการ ก็อาจทำให้เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อประเทศชาติได้ง่ายๆ ถ้าประเทศไทยไม่มีพื้นที่ให้แก่คนนับล้านที่คิดต่าง บ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร ที่น่าเป็นห่วงก็คือ แม้แต่ในบ้าน ในที่ทำงาน เดี๋ยวนี้เราก็ตั้งคำถามกันง่ายๆ เสียแล้วว่า "เป็นคนไทยหรือเปล่า?" หรือไม่ก็ถามใส่หน้าว่า "เป็นพุทธหรือเปล่า?" เพียงเพราะคิดต่างในเรื่องศาสนาประจำชาติ หรือเรื่อง "ภิกษุสันดานกา"

    5 คำถามที่กำลังติดปากผู้คนเวลานี้ บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับสังคมไทยได้มาก "มองหน้ากูทำไม? และ "รู้ไหมว่าอั๊ว (พ่ออั๊ว) เป็นใคร?" บ่งบอกถึงความอวดเบ่งถือตัวว่ายิ่งใหญ่เหนือคนอื่น ซึ่งพุทธศาสนาเรียกว่า "มานะ" ส่วน "ทำแล้วฉันจะได้อะไร?" และ "ทำอย่างไรจึงจะรวยโดยไม่ต้องทำงาน?" ส่อแสดงถึง "ตัณหา" หรือความอยากได้ใฝ่เสพ ขณะที่คำถามว่า "เป็นคนไทยหรือ

    เปล่า?" สะท้อนถึงความคับแคบและติดยึดในความคิด ที่เรียกว่า "ทิฏฐิ" ทั้ง มานะ ตัณหา ทิฏฐิ พุทธศาสนาถือว่าเป็นกิเลสตัวสำคัญที่สุด

    มานะ ตัณหา ทิฏฐิ เป็นกิเลสที่ปุถุชนหนีไม่พ้น แต่การที่มันครอบงำผู้คนทั้งประเทศอย่างแน่นหนา เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง ความรุนแรงที่แพร่หลายดาษดื่น อาชญากรรม คอร์รัปชั่นที่ระบาดทุกหย่อมหญ้า ความลุ่มหลงในอบายมุขและหวังลาภลอยคอยโชค การแบ่งฝักแบ่งขั้วจนต้องเรียกร้องสามัคคีและสมานฉันท์กันทุกเช้าค่ำนั้น ล้วนมาจากกิเลสทั้งสาม อันเป็นรากเหง้าของอำนาจนิยม วัตถุนิยม และความหลงชาติ (รวมทั้งศาสนา) ที่กำลังเป็นปัญหาในปัจจุบัน

    ความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกของประเทศไทย อาจไม่ได้อยู่ที่การหาคำตอบที่ดีที่สุดที่ทุกฝ่ายเห็นพ้อง แต่อยู่ที่การตั้งคำถามในใจของผู้คนมากกว่า หากพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ปกครอง รวมทั้งพระสงฆ์องค์เจ้า ส่งเสริมให้ผู้คน (รวมทั้งตนเอง) ตั้งคำถามอย่างถูกต้อง (เช่น "ผมทำอย่างนี้ถูกไหม?" หรือ "ทำแล้วสังคมจะได้อะไร?" หรือ "มีเหตุผลอะไรคุณถึงคิดแบบนี้?") ประเทศไทยจะน่าอยู่กว่านี้มาก ความอ่อนน้อมถ่อมตน การคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม และการรับฟังเหตุผลของกันและกัน คือคุณธรรมสำคัญสำหรับสังคมไทยเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ควรย้ำว่าคุณธรรมเหล่านี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยการยัดเยียดหรือเทศนาสั่งสอน แต่เกิดขึ้นได้จากการทำตัวให้เห็นเป็นแบบอย่าง รวมทั้งการฝึกให้ตั้งคำถามอย่างถูกต้อง หากตั้งคำถามกับตัวเองไม่เป็นเสียแล้ว ชีวิตที่ดีงามก็ยากจะเป็นไปได้ จะกล่าวไปไยถึงสังคมที่เจริญงอกงามและผาสุก
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "ค้าเงินออนไลน์"ระบาดหนักทั่วภาคใต้ ป่วนชิงปิดเว็บไซต์เชิดเงินหนี1,000ล.
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->http://www.matichon.co.th/prachachat...sectionid=0211


    วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3949 (3149)​

    "ค้าเงินออนไลน์"ระบาดหนักทั่วภาคใต้ ป่วนชิงปิดเว็บไซต์เชิดเงินหนี1,000ล.


    มันนี่เกมระบาดหนักภาคใต้ แตกสายพันธุ์ธุรกิจขายตรงเป็นแชร์ลูกโซ่ ลวงรากหญ้า นักศึกษา แม่บ้าน ครู ล่าสุดตุ๋นคนสงขลา-นครฯ-ภูเก็ต สูญเงินกว่า 200 ล้าน ด้าน "แบงก์ชาติ" ทำได้แค่ออกโรงเตือน ชี้ค้าเงินออนไลน์เสี่ยงสูง ผิดกฎหมาย เหยื่อเผยเอาเงินมาล่อแล้วปิดเว็บไซต์หนีเข้ากลีบเมฆ

    นายวชิรชัย คงชัย อดีตประธานชมรมธุรกิจขายตรงภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้การหลอกลวงชักจูงให้คนหลงเข้ามาเล่นมันนี่เกม หรือการลงทุนซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนดอลลาร์ เป็นเชื้อร้ายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสังคม เป็นกับดักล่อในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง คนอยากรวยเร็ว โดยเฉพาะในภาคใต้ใช้หาดใหญ่เป็นฐาน เพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจหลัก โดยระบบจะผ่านเข้ามาจากมาเลเซีย ไต้หวัน อเมริกา และยอมรับว่ามีคนที่อยู่ในวงการธุรกิจขายตรงนอกคอกเข้าไปเล่นกันมากและไปตั้งเครือข่าย ใช้วิธีชักชวนคนเหมือนระบบขายตรง โดยหลอกให้ได้เงินก่อน1-2 ครั้ง คนไม่รู้ก็หลงเชื่อ

    "มันนี่เกมไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เมื่อเราไม่มีกฎหมายควบคุมจึงระบาดหนัก ยิ่งในช่วงเลือกตั้งสังเกตว่าจะระบาดหนักทุกครั้ง หน่วยงานต่างๆ ทั้งตำรวจ สคบ. แบงก์ชาติ ต้องร่วมมือกันป้องกัน ล่าสุดทราบว่าที่สงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ประชาชนสูญเงินจำนวนมาก ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท และมีกลุ่มที่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอีกจำนวนมาก หากนับรวมทุกเว็บทั่วประเทศประเมินว่ามีการเชิดเงินไปนับ 1,000 ล้านบาท"

    นายวชิรชัยกล่าวต่อว่า เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ธนววัตธีรไนย และนาง หทัยทิพย์ เดชกุมพล พร้อมชาวบ้านประมาณ 20 คน เป็นตัวแทนผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนเงินตราดอลลาร์สหรัฐ ทางเว็บไซต์ www.einvest2007.com เข้าพบ พ.ต.ท.ธวัชชัย นคราวงศ์ สวส.สภ.อ.สะเดา เพื่อให้เชิญตัวอาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา มา สอบสวน เนื่องจากระยะหลังไม่ได้รับเงินส่วนแบ่งปันผลกำไร และเงินทุนคืนตามข้อตกลง คนละประมาณ 10,000-200,000 บาท และยังมีประชาชนใน อ.สะเดาและใกล้เคียงอีกกว่า 200-300 ราย ที่ยังไม่กล้าเปิดเผยตัว กลัวว่าจะอับอาย

    สำหรับวิธีการลงทุนซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนดอลลาร์ ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า ลงทุน 3,800 บาท เท่ากับ 100 ดอลลาร์ จะได้รับเงินปันผลวันละ 88.40 บาท ภายใน 100 วันจะได้รับเงิน 8,840 บาท วิธีการล่อใจโดยจะแบ่งเงินปันผลให้ช่วงแรก เพื่อให้เกิดความโลภลงทุนเพิ่ม ซึ่งมีให้เลือก 4 ระดับ คือ 1.ลงทุน 3,800 บาท ได้ปันผล 88.40 บาท ต่อวัน 100 วัน ได้ 8,840 บาท

    2.ลงทุน 19,000 บาท ได้รับปันผล 47,600 บาท ต่อ 100 วัน 3.ลงทุน 38,000 บาท ได้รับปันผล 102,000 บาท ต่อ 100 วัน 4.ลงทุน 76,000 บาท ได้รับปันผล 217,600 บาทต่อ 100 วัน ซึ่งยอดเงินปันผลสูงสุดวันละกว่า 2,000 บาท ทำให้คนเกิดความโลภ ลงทุนคนละหลายหมื่นถึงหลักแสนเพื่อหวังเงินปันผล ซึ่งตอนนี้มีคดีความในชั้นศาลแล้ว

    นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคใต้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เห็นคุณแม่เล่นอยู่แล้ว จึงตัดสินใจลงมาเล่นเอง แต่เล่นคนละเว็บไซต์ ครั้งแรกลงเงินไป 3,500 บาท ได้เงินมาทั้งหมด 6,000 กว่าบาท โดยจะได้เงินกลับมาเป็นเงินเหรียญ ขึ้นอยู่กับความต้องการว่าจะรับเงินทุกวัน หรือรับเป็นก้อนคือ 10 หรือ 20 วัน/ครั้งก็ได้ โดยสามารถเช็กเงินในเว็บไซต์โดยจะมีรหัสเข้าไป

    แต่ต่อมาเว็บไซต์นี้ได้ปิดตัวไป แต่ถือว่าได้เงินกลับมาคุ้มทุนแล้ว หลังจากนั้นก็มีคนมาชวนไปเล่นในเว็บไซต์ใหม่ โดยลงทุนไป 3,800 บาท ซึ่งยังเล่นได้ไม่ถึงเดือนก็ปิดอีก ซึ่งเรื่องนี้คนเล่นก็รู้ว่าเสี่ยง แต่พร้อมที่จะเสี่ยง คนที่มาชักชวนก็บอกว่าเสี่ยงเช่นกัน

    ผู้ที่เคยลงทุนค้าเงินดอลลาร์ผ่านเว็บไซต์อีกรายให้ข้อมูลถึงวิธีการลงทุนว่า ต้องนำเงินบาทไปซื้อเงินดอลลาร์ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 38 บาท/เหรียญ แต่จะซื้อเรากลับ 34 บาท/เหรียญ โดยจะขาย 100, 500, 1,000, 10,000 เหรียญ ถ้า 100 เหรียญ เป็นเงิน 3,800 บาท จะได้รับส่วนแบ่งวันละ 85 บาท จะจ่าย 100 วัน ถ้าครบจะได้กำไร 1,500 บาท ถ้าลงทุน 500 เหรียญ เป็นเงินบาท 19,000 บาท จะได้รับส่วนแบ่งประมาณวันละ 400 บาท ถ้าครบ 100 วันจะได้กำไร 9,000 บาท

    ถ้าลงทุน 1,000 เหรียญ เป็นเงินไทย 38,000 บาท จะจ่ายให้วันละ 900 บาท เมื่อครบ 100 วันจะได้กำไร 23,000 บาท หรือถ้าลงทุน 10,000 เหรียญ เงินไทย 380,000 บาท จะจ่ายให้วันละ 9,000 บาท เมื่อครบ 100 วันจะได้กำไร 230,000 บาท (กำไรคือส่วนที่ลบจากเงินลงทุนแล้ว)

    เหยื่อรายนี้เปิดเผยอีกว่า ลงทุนไป 1,000 เหรียญ เป็นเงิน 38,000 บาท หลังจากลงทุนก็ได้รับเงินเข้าบัญชีทุกวัน วันละ 300 กว่าบาท เพราะถูกหักค่าโอนผ่านบัญชี 25 บาท ได้รับเงินประมาณ 20 วัน หลังจากนั้นเงินในบัญชีที่โอนเข้ามาก็น้อยลง จึงโทร.ไปถามก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้มีการลดอัตราเงินดอลลาร์จากเหรียญละ 34 บาท เหลือเพียงเหรียญละ 28 บาท เริ่มมีเงื่อนไขมากมาย กำไรเริ่มน้อยลง และเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้เงินน้อยลงเรื่อยๆ จนปัจจุบันไม่มีการจ่ายเงินให้แล้ว เพราะล่มสลายไปแล้ว และไม่สามารถเอาผิดใครได้ เพราะไทยไม่มีกฎหมายรองรับ

    "อยากเตือนประชาชนทุกท่านว่า อย่าหลงเชื่อการชักชวนในลักษณะนี้เพราะเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ยิ่งเป็นชาวบ้านตาดำๆ ที่รู้แค่ด้านบวกๆ ว่าจ่ายเงินเท่านี้แล้วจะมีการแบ่งส่วนแบ่งให้ทุกวัน ชาวบ้านก็ดีใจ หลังจากลงทุนใหม่ๆ ก็มีการโอนเงินให้ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะหายไป และไม่สามารถเอาผิดใครได้ เพราะเป็นความจำยอมของทั้งคู่" เหยื่อมันนี่เกมกล่าว

    ก่อนหน้านี้ นายพงศ์อดุล กฤษณะราช อดีต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ได้เคยออกมาเตือนภัย เนื่องจากพบว่ามีบุคคลบางกลุ่มมีพฤติกรรมชักชวน หรือจัดประชุมชี้แจง รวมทั้งส่งข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต แจ้งให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนธุรกิจซื้อขายเงินตรา หรือซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน

    นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนให้หาสมาชิกใหม่มาเพิ่ม เพื่อรับค่านายหน้าอีก 10-15% ของเงินลงทุน โดยหากสมาชิกที่หามาใหม่นั้นสามารถหาสมาชิกได้เพิ่มอีก ผู้ชักชวนคนแรกก็จะได้รับค่านายหน้าเพิ่มอีกในอัตราร้อยละ 10 ของเงินลงทุนนั้นด้วย

    นายพงศ์อดุลกล่าวว่า พฤติกรรมของแก๊ง ดังกล่าวเริ่มระบาดแพร่หลายในเขตพื้นที่ภาคใต้ในหลายจังหวัดแล้ว จึงขอแจ้งเตือนมายังประชาชนที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ให้ระมัดระวังในการร่วมลงทุนกับบุคคลบางกลุ่ม
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ให้ระวังเรื่องความโลภ จะมาบังตาเรา

    ถ้าเมื่อไรความโลภบังตา ตาจะบอดนะครับ

    ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่สามารถได้เงินมาง่ายๆและเยอะๆ และเป็นสูตรหลักๆของพวกมิจฉาชีพที่นำมาหลอกล่อเราครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...