คิดอย่างไรกับเด็กไทยสมัยนี้ครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อีโต้, 24 กรกฎาคม 2013.

  1. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    คนที่สนใจในพุทธศาสนา จะรู้ว่าพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ แต่คนที่ไม่สนใจเค้าไม่เชื่อเลยว่าพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีคำตอบให้ในหลายคำถามจึงต้องหยุดพยายามที่จะอธิบาย..ปัญหาหลายๆอย่างก็มาจากระบบการศึกษา..ครอบครัว..และพื้นฐานนิสัยคนไทยค่ะ
     
  2. จื่อหลิง

    จื่อหลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +698
    จะโละได้ไงในเมื่อ ศาสนาพุทธคือความจริง สิ่งที่ต้องโละคือกิเลสในใจคนต่างหาก ศึกษา,ปฏิบัติดีหรือยัง ถึงได้กล้าพูดเช่นนี้ โลกันต์อาจรอท่านอยู่ก็ได้
     
  3. มันตระเทวะ

    มันตระเทวะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +30
    เอ็งพูดได้ถูกใจข้านักอีหนู หลักสูตรมันห่วยแตกซ้ำซ่ากจริงๆๆ ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ไม่มีอันใดพัฒนาเลย ซ้ำซาก ทั้งๆๆที่พุทธศาสตร์นั้นมีของดีมิใช่น้อย แต่ขาดผู้รู้ที่จักถ่ายทอดออกมา ตัวครูเองที่สอนมีศลีมีธรรมแค่ไหน? ได้ศึกษาเล่าเรียนเพียงใด หรือเมื่อคืนยังเมาอยู่เช้ามามาสอนพุทธศาสตร์เด็ก ตัวครูนั้นจับสาระถูกหรือไม่ เข้าใจจุดมุ่งหมายของพุทธศาสตร์เพียงใด?

    จึ่งวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆๆ ซ้ำซาก ไม่เปลี่ยนแปลง พุทธประวัติ วันสำคัญ หลักธรรมแบบสำเร็จรูป เช่นทุกข์ คือความไม่สบายกายไม่สบายใจ สมุทัยคือสาเหตุของทุกข์ นี้แลไม่มีการขยายการอธิบายเพิ่มเติมให้มันลึกซึ้ง ไม่มีการประยุกต์เข้ากับโลกสมัยใหม่ พระสงฆ์องค์เจ้าก็มุ่งแต่จะหาเงินหาทอง มิได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย มีแต่อวดอุตริมนุษยธรรมอันไม่มีในตนเป็นว่าเล่น เพราะคนชอบแลหาเงินได้มากมายดี เวลาเทศน์มันจึ่งเทศน์แต่เรื่องบุญบาป ให้สะสมบุญไปสวรรค์วิมาร ให้คนกลัวนรก โลภสวรรค์ ผลประโยชน์ตกที่พระ .......เพราะมีที่ทำบุญพร้อม เพราะพระคือเนื้อนาบุญนี่.....

    ไอ้เรื่องหนทางดับทุกข์ก็ตัดทิ้งเสียบอกว่าไม่ใช่ธุระของฆาราวาส เป็นธุระของมนุษย์วิเศษพวกหนึ่งที่สั่งสมบารมีมานับร้อยนับพันชาติ เอ็งเป็นคนธรรมดาก็มีหน้าที่ทำบุญสนับสนุนมนุษย์พวกนี้ เรื่องจะมีความสุขและสันติสุขอย่างแท้จริงได้อย่างไรในปัจจุบันขณะที่นี่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งสนใจ

    ก็สมควรที่เด็กมันจะว่าสมควรโละทิ้ง มันไม่นับถือ ก็ถูกของมัน ก็มันยังไม่รู้ว่ามีดีอะไร แล้วทำไมกูต้องไปนับถือไปสนใจมันด้วยล่ะ ถูกเลยมันฉลาด เอ็งควรจะชมมันนะไม่ใช่ด่ามัน มันรู้จักตั้งคำถามรู้จักสงสัย(ถึงแม้จะออกแนวต่อต้านหัวชนฝา หรือ ดูขวางโลก อยากดังไปงั้นก็เถอะ) แต่ก็ยังดีที่มันรู้จักคิดรู้จักสงสัย ถูกแล้วเวลาเรานับถือศาสนาอะไร เราต้องมีความสงสัยในระดับหนึ่ง ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชื่อ ไม่ตั้งคำถาม ทดลอง พิสูตร ความสงสัยเป็นสิ่งดีเพราะมันเป็นเครื่องยืนยันว่าเอ็งไม่โง่ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ชอบให้เขาจูงจมูกโดยไม่ขัดขืนเลย

    คนเราทุกวันนี้ที่บอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธนะ มันรู้หรือยังว่าพุทธศาสนามีดียังไง หรือรู้แค่ขี้ปากที่เขาสอนมาว่าดับทุกข์ได้ รู้ได้ไงเอ็งดับทุกข์ในใจเอ็งได้แล้วหรือ ถึงรู้ว่าคำสอนใช้ได้จริง ที่เอ็งว่าจริงจริงยังไงจริงเพราะเอ็งกระจ่างแจ้งในใจดุจกลางวันหรือเพราะมีคนบอกเอ็งว่าจริง แล้วเอ็งก็เชื่อว่านอนสนง่ายกันแน่ แล้วอีกอย่างตรงไหนคือแก่นตรงไหนคือกระพี้เอ็งแยกออกแล้วหรือ ถึงถือพุทธนี้ บางคนยังคิดว่าปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนาเพื่อให้เป็นมนุษย์วิเศษมีอำนาจวิเศษ เพื่อเป็นอมตะ ไปเสพสุขบนเมืองทิพย์ เอ็งถือเพราะเข้าใจแจ่มแจ้ง หรือถือตามประเพณีเป็นคนไทยพ่อแม่ถือพุทธเกิดมาเขาจับยัดเข้าศาสนาพุทธในใบเกิดเลย โดยยังไม่รู้ไม่มีโอกาสได้เลือกได้มองได้ตั้งคำถามด้วยตัวเองเลย ว่าพุทธศาสนาคืออะไร อะไรคือสาระ ทดลองแล้วพิสูตรแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต


    ไอ้กระพี้ก็ทิ้งไปสิ เอาแก่นมาสอนมาทำให้มันทันสมัยเสียบ้าง แบบทางธิเบต ทำ เด็กมันเห็นของดีมันก็จักชอบจักสนใจเอง ข้ามีหลานพอมันโตขึ้นมา ข้าให้มันเรียนรู้ทุกศาสนาแล้วบอกมันว่าเอ็งหาอันที่เหมาะกับเอ็งเถิดพิจารณาให้มากๆๆ ว่าอย่างไหนที่เหมาะที่เอ็งเชื่อ ถ้าไม่มีเอ็งก็ไม่ต้องถือหรือจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของเอ็ง

    ถ้าเอ็งดูเอ็งจะรู้ว่ามันไม่ได้ไม่สนใจศาสนา แต่มัน ต้องการที่จะตั้งคำถามกับความเชื่อแบบเดิมๆๆ การยัดเยียดแบบเดิมๆๆ มันต้องการที่จะค้นหาสาระให้พบและถ้าพบถ้ามันคิดว่าเหมาะกับมันมันก็จะเลือกเอง มันบอกว่าอยากให้เปลี่ยนไปสอนศาสนาสากล คือ สอนมันทุกศาสนาและเปรียบเทียบกัน มันบอกว่าควรจะเลิกสอนหรือยัดเยียดสอนแต่พุทธอย่างเดียว ไม่ใช่มันบอกว่าไม่ควรสอนศาสนาอะไรเลย นี้ว่าตามที่เห็นข้อความนะ ตัวจริงมันคิดอะไรข้าไม่รู้ มันก็แค่ว่า ให้โต้แย้งวิพากษ์ได้ทุกลัทธิศาสนา ข้าเห็นด้วยที่สุด เราควรจักสอนแบบนี้ เสียบ้าง ไม่ใช่ไปสอนให้บางคณะหรือภาควิชาในระบบมหาวิทยาลัยอย่างเดียว ถ้าศาสนาพุทธดีเด่นจริงกว่าศาสนาอื่นคนเขาก็จักเลือกเอง ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2013
  4. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    ประเด็นของเด็กมันอยู่ที่ มันไม่นับถือศาสนา และ พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองดูดี

    ขอจับประเด็นตรงๆมาเลย ไม่เชื่อเลยไม่อยากทำ โทษนู่นนี่ ไปเรื่อยตามประสาความคิดของเด็ก

    ทุกคำตอบของน้องคนนี้ล้วนเป็นคำตอบแก้ตัวเพื่อให้ตัวเองดูดี

    โดยปราศจากการศึกษาที่ตัวโจทย์ให้ชัดเจน

    ยกประเด็น เล็กๆของกลุ่มคนที่หากินบนความเชื่อ เอามายกตัวเอง

    ถ้าน้องคนนี้ศึกษาหลักเหตุและผลของศาสนาแล้ว

    ถ้าน้องยังพูดแบบนี้อีก ค่อยมาถกปัญหากันใหม่อีกทีจะดีกว่า
     
  5. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    น่ายินดีที่ยังมีเด็กรุ่นใหม่ๆสนใจในสิ่งที่อยู่รอบๆตัว มากกว่าจับกลุ่มตามร้านเกมส์,เดินห้าง,พากันไปเต้นไปร้องรำทำเพลง หรือดีหน่อยก็พากันไปดูหนังสือหรือพากันไปติวตามศูนย์เรียนต่างๆ ดีขึ้นไปอีกก็ไปทำงานเพื่อสังคมซึ่งน้องคนนี้ก็น่าจะจัดอยู่ในประเภทหลังสุดนะ เพียงแต่วาจาอาจจะดูกร้าวและตรงแต่ก็สะท้อนออกมาจากสิ่งที่น้องเห็น(เพียงผิวเผิน) ซึ่งก็มาจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายทั้งปวงสร้างขึ้นมาแวดล้อมและอีกหลายปัจจัยด้วนกัน ไม่ว่าจะด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป การศึกษาที่ควรจะคู่ไปกับคุณธรรมที่แต่ก่อนมีพระสงฆ์ทำหน้าที่ได้ถูกแยกออกไปแทนที่โดยครูบ้างอาจารย์ ซึ่งหลายอย่างในเรื่องพระธรรมคำสั่งสอนย่อมไม่อาจชี้แนะให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งหรือกินใจ เพราะครูสอนแต่ในด้านวิชาการเป็นหลักตามแนวการศึกษาแบบอย่างตะวันตก ผู้คนที่เป็นผลผลิตจึงเก่งแต่ทางโลก(แต่คุณธรรมเป็นอีกเรื่องนึง)กันมาก ประกอบกับสภาพครอบครัวที่ต้องแข่งขันแย่งชิงผู้คนมีเวลาน้อยลงที่จะไปวัดฟังธรรมตามกาล โดยในส่วนสถาบันศาสนาและพระสงฆ์ในปัจจุบัน ก็แทบจะแยกห่างออกไปเป็นเอกเทศต่างหาก บางวัดบางที่เน้นเพียงพิธีกรรมเรียกศรัทธา(บางที่ขอเรียกเป็นความงมงาย)จบได้ก็กลับได้แล้ว อย่างวันปีใหม่ทำบุญใส่บาตรพระให้ศีลรับศีล คนฟังๆภาษาบาลีที่พระสวดไม่รู้เรื่อง ไม่ทันไรเสร็จแล้วกลับแล้ว แทนที่จะโปรดญาติโยมให้พุทธิปัญญากำกับปรับนำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆได้ในชีวิต ตั้งแต่ขั้นง่ายๆไปจนถึงขั้นลึกซึ้งถ้ามีเวลาศึกษา ถ้าสร้างได้ทำให้เห็นเป็นขั้นๆของการมีธรรมะขั้นต่างๆดีอย่างไรจบได้แค่ไหนล้วนมีประโยชน์ต่อผู้ศึกษาบวชเรียนทั้งเมื่อตอนเป็นพระหรือสึกเป็นฆราวาสทำได้อย่างนี้คำพูดที่ว่าเป็นเพียงพิธีการเป็นการบังคับจะไม่เกิดแต่จะเกิดความเคารพศรัทธาจากภายในไหว้พระสงฆ์กราบพระพุทธรูปอย่างสนิทใจ แล้วลองมองดูสังคมพระปัจจะบันนี้สิซ้ำร้ายบางวัดหรือพระบางรูปบางองค์ ยังแอบแฝงประพฤติตนเป็นเหลือบเกาะอาศัยผ้าเหลืองสร้างรอยด่างมัวหมองให้กับพุทธศาสนาเสียอีก ผู้ที่อยู่นอกพูทธศาสนาหรือไม่มีศาสนาก็ย่อมมีสายตาอย่างน้องคนนี้ ที่ผมว่าน่าเสียดายและน่าเสียใจมากกว่าสิ่งที่น้องเค้าวิพากษ์ติติงมา ก็ตรงที่เรามีของดีๆอยู่กับตัวแท้ๆแต่กลับไม่ค่อยเห็นคุณค่าสักเท่าใดนัก ทั้งที่ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นๆตรงที่พิสูจน์ได้เป็นความจริงของธรรมชาติทุกกาลเวลาจบวัฏฏะสงสารได้ถ้าต้องการ แม้จะมีมารศาสนามาทำลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยันอนาคตแต่ก็ไม่อาจสั่นคลอนเปลี่ยนแปลงสัจจะธรรมที่พระพุทธองค์ได้ประกาศมาแล้วกว่า2500ปี และจะมีอายุครบตามที่พระองค์ได้ทำนายไว้คือ5000ปี แม้ว่าจะหายไปจากสุวรรณภูมิก็ตามแต่ก็จะดำรงค์อยู่ในโลกนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย และผมเองหากยังไม่หมดกรรมก็ขออธิษฐานให้เกิดมาได้พบพุทธศาสนาทุกชาติเทอญ
     
  6. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    เป็นการเสื่อมตามยุคสมัย ต่อไปคนแบบนี้จะมากขึ้น ผู้แบกธรรมซึ่งไม่ได้สนใจซึ่งธรรมอันสอนให้หลุดพ้นก็จะยังแบกต่อไปจนไม่รู้ว่าแบกอะไรจนกลายเป็นการละเล่นไป ผ้าไตรจีวรจะสิ้นไป ผู้ปฏิบัติธรรมอันดำรงศาสนาจะลดลงจนหายหมด บาลีจะสูญหายโดนบิดเบือน จนสิ้นพระศาสนาตามกำหนดวาระนั่นเอง

    เป็นการแสดงให้เห็นซึ่งความเสื่อม เพื่อเตือนสติผู้ปฏิบัติธรรมให้เร่งปฏิบัติ
     
  7. rukmac

    rukmac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +377
    (คำพูดที่ขีดเส้นใต้) คุณคงไม่ได้หมายถึง วัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเรามีมาช้านานเพื่อเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เช่นวันสำคัญๆ ใน 1ปี ก็ล้วนมีพระพุทธศาสนาเกี่ยวข้องทั้งนั้น อีกทั้งพิธีการที่เป็นสิริมงคลต่างๆ เช่นงานแต่งงาน,ขึ้นบ้านใหม่,ออกรถใหม่ และอีกเป็นพันเป็นหมึ่นพิธีการ ก็ข้องเกี่ยวกับพระหรือพระพุทธศาสนา ทั้งหมดล้วนแล้วเป็นการเจริญพุทธศาสนาในหลายหลายรูปแบบในเมืองไทย ที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่คุณกำลังดูแคลนอยู่ไช่หรือไม่? ที่บอกว่าคุณทำได้ดี น่าสนใจ ตระการตามากกว่า รูปแบบศาสนาพุทธในเมืองไทย คุณหมายถึงทำอะไร ผมอยากให้คุณคิดให้ถึ่ถ้วนมากกว่านี้ เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าบุคคลธรรมดาแม้ศิล5 ยังถือไม่ครบจะมาวิพากย์วิจารยณ์ คุณไม่คิดเลยหรือว่าที่จริยธรรมสังคมมันเสื่อมลงทุกวันนี้เพราะเรารับวัฒนะธรรมของชาติตะวันตกเข้ามาจนแยกไม่ออกไหนไทยไหนฝรั่ง ผมไม่โทษอะไร โลกเปลี่ยนไปแบบไหน ถึงยังไงคนมีศิลมีธรรมเค้าก็จะอยู่ได้ เพียงแค่เศร้าใจในความเห็นของคุณเท่านั้น เจริญสติปัญญาทุกท่าน เทอญ
     
  8. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    1. เรื่องสิทธิและเสรีภาพ ในการเลือกที่จะนับถือ หรือไม่นับถือ ศาสนา
    ก็เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัว ส่วนบุคคลจริงๆ และจริงๆก็ไม่ได้มีใครบังคับได้ด้วย
    ยิ่งพระพุทธศาสนาด้วยแล้ว จะเห็นว่าไม่มีการบังคับให้นับถือหรือห้ามไม่ให้นับถือ
    ไม่มีการหาคนเพิ่มคนโดยใช้การแต่งงาน การร่วมเป็นคู่ผัวตัวเมีย มาเป็นเงื่อนไขบังคับให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ
    เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา และต้องใช้ปัญญานำหน้าศรัทธาหรือปัญญาต้องตามทันศรัทธา ถ้าขาดสัมมาทิฐิ(ปัญญา)เสียแล้วก็ยากที่จะยอมรับนับถือได้ ต่อให้นับถืออยู่ก็นับถือแบบลัทธิบูชาเทพเจ้าเสียมากกว่า
     
  9. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ผมอนาถเด็กคนนี้ ครับ

    บางที ผมว่า มันอยากดัง
    เฝพราะ ถ้า
    คนฉลาด บางเรื่อง เขาไม่พูดกันครับ
    เด็ก อาจจะอยากดัง หรือ ถูกหลอก
    หลายๆเรื่องแล้วครับ
    ทั้ง เรื่อง การเคารพธงชาติ อะไรประมาณนี้
    ผมว่า เด็กคนนี้ มีปัญหา ครับ

    อาจจะคิดแบบนี้จริง
    แต่ ถ้ารู้จักคิด หรือ ไม่ถูกหลอก
    คงไม่พูดแบบนี้ ครับ

    อย่าง รายการของนาย ป
    ผมว่า ตั้งคำถามนำมากกว่า
    ไม่ทราบเจตนา ของ นาย ป ว่า ต้องการอะไร กับ คำถามนำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...