OO แด่พระคุณครู ผู้มั่นคงในพระสัมมาสัมโพธิญาณ OO

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ohogamez, 3 พฤษภาคม 2006.

  1. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ท่านผู้ทรงคุณ ปิดทองหลังพระ

    เกินกว่าพรรณณาได้ ได้บันทึกไว้ในไดอารี่ มีความดังนี้ว่า

    00000000000000000000000000000000000000000
    2535

    ระยะนี้มีแต่ข่าวพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสายต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง
    ทั่วประเทศ ต่างออกข่าวจะขอทำพระนิพพานให้แจ้งใน
    ปัจจุบันชาติ พากันลาพุทธภูมิ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อ
    สร้างบารมีนี้ เป็นทุกข์นัก ต่างขอลาเข้าฝั่งพระนิพพานกัน
    ดีกว่า

    เมื่อข้าพเจ้ารู้เช่นนี้ก็มาคิดพิจารณาถึงตัวเอง ทำไมเราจะไม่
    ทำพระนิพพาน ให้แจ้งในปัจจุบันชาตินี้เหมือนเขาเหล่านั้น
    เล่า คิดได้เช่นนั้น ข้าพเจ้าจึงสลักเข้าไส้กลางขึ้นสู่ปราสาท
    ทำวิชชาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ

    <CENTER>
    "หลวงพ่อเจ้าขา ลูกจะทำพระนิพพานให้แจ้ง
    ขอลาเข้าฝั่งในชาตินี้เจ้าค่ะ"
    </CENTER>
    ข้าพเจ้าพนมมือแป้กราบเรียนหลวงพ่อ เสียงหลวงพ่อดัง
    ก้องกลับมาว่า.........

    "ให้ทบทวนภพชาติในอดีตเสียก่อนว่า
    เจ้าปรารถนาสิ่งใด อีก 3 วันค่อยพูดกัน"


    นิมิตพลันปรากฏว่าพวกเรานักสร้างบารมีทั้งหลายยืนอยู่หน้า
    ชายฝั่งทะเล อันกว้างใหญ่ เพื่อมาเก็บดวงตะวัน พระสงฆ์ผู้
    มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง เอ่ยปากขอเก็บตะวันก่อนผู้ใด
    ท่านพยายามแสดงฤทธานุภาพอยู่นาน ก็ทำไม่สำเร็จ
    จึงหันหลังเดินจากไป พร้อมกับถือขวดน้ำปลาติดมือไปด้วย
    พวกเราพยายามเรียกท่านกลับมาเถอะ อย่าเอาขวดน้ำปลา
    เลยนั้นคือชีวิตชาวโลกปุถุชน ผู้มีโลกียธรรมนะท่าน ข้าพเจ้า
    จึงตะโกนออกไปว่า.......

    [​IMG]

    "ท่าน.........ตะวันเก็บไม่ยากอย่างที่ท่านคิดนะท่าน"

    ข้าพเจ้าพูดพลาง กางแขนสองข้างยื่นไปข้างหน้า
    อัศจรรย์ !!! ดวงตะวันลอยติดเข้ามาในอ้อมแขนทั้งสองของ
    ข้าพเจ้า

    "หลวงพ่อ นี้หมายความว่าอย่างไร ? ลูกไม่เข้าใจ"

    "หากทุกคนขอลาเข้าพระนิพพานกันหมด ใครเล่าจะทำงาน
    เพื่อพระศาสนา ศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร ของ
    พระ ตถาคตเจ้าจะเป็นเช่นไร และบุคคลใดที่คิดจะทำพระ
    นิพพานให้แจ้งเป็นภพชาติสุดท้าย ต้องประมูลฤทธิ์กับฝ่าย
    มาร แน่ใจหรือว่าจะบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว ไม่เปิดช่องกรรมอัน
    ใดเป็นจุดอ่อนให้เหล่าพญามารมารอนรานได้"


    ข้าพเจ้ากลับมาคิดพิจารณาถึงคำของหลวงพ่อท่าน และสาว
    เครื่อง เดินเข้าไปในภพชาติอันยาวไกลที่ผ่านมา ค้นแล้วค้น
    อีกอยู่หลายคืน จึงประจักษ์ชัดว่าชาตินี้ข้าพเจ้าทำงานถวาย
    ต้นธาตุต้นธรรมสบายที่สุดแล้ว

    นับตั้งแต่คืนที่ข้าพเจ้าคิดลาเข้าพระนิพพาน ข้าพเจ้าถูกพระ
    เดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ข้าพเจ้าตอกย้ำมหาปณิธาน
    อยู่ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเดิน ยืน นั่ง นอน ทุกกาลทุกเวลา
    เสียงจะก้องอยู่ในมโนวิญญาณว่า

    "ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งอำนาจ สิทธิ ความสำเร็จกิจแห่งศาสนา
    พุทธ วิชชาธรรมกาย มรรคผล นิพพาน ในตำแหน่ง........
    ในฝ่ายบุญภาคปราบ ล้วนทั้งลับและเปิดเผย"


    จนละเมอแต่คำพูดเหล่านี้ ทั้งครอบครัวต่างสงสัยว่าข้าพเจ้า
    บ่นอะไรพึมพำ ๆ แม้ในยามหลับ จริงสินะ ถ้าทุกคนต่างลา
    เข้าพระนิพพาน แล้วงานของศาสนจักร อาณาจักร
    พุทธจักร มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิ แต่ส่วนเดียว
    ใครเล่าจะทำ และทำไม ๆ ๆ ๆ ๆ ต้องเป็นข้าพเจ้าผู้หนึ่งด้วย
    ทำไม ๆ ๆ ๆ ๆ ข้าพเจ้าต้องตั้งมหาปณิธานที่สูงสุดเช่นนี้
    ทำไม ???

    เหตุการณ์ต่อมา ได้แสดงแจ้งชัดตามที่พระเดชพระคุณหลวง
    พ่อกล่าวไม่มีผิด พระปฏิบัติชื่อดัง ๆ ที่ต่างขอทำพระนิพพาน
    ในปัจจุบันชาติ ต่างก็พ่ายแพ้ พญามาร ไม่สามารถประมูล
    ฤทธิ์ได้สำเร็จ ด่านแรกพญามารส่ง ธิดาตัณหาราคะมาเท่า
    นั้น ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ จึงเสียดายมาก ๆ ในการที่ท่าน
    เหล่านั้นสร้างบารมีมาอย่างยาวนานแล้ว มาตายอย่างปลา
    น้ำตื้น แล้วตัวข้าพเจ้าเล่า เปรียบเสมือนดอกบัวในกองเพลิง
    อยู่ท่ามกลางกระแสโลก ก็ขออย่าได้ประมาทเลย
    ข้าพเจ้าจะ
    พยายามพากเพียรเรียนรู้วิชชา และทำงานถวายต้นธาตุต้น
    ธรรมต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ขอเพียงแต่ว่า... พระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อท่านโปรดเป็นกำลังใจ ชี้แนะทางให้ถูกมรรคถูกผล

    [​IMG]

    โปรดอำนวยพรแก่ข้าพเจ้า
    โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นดังน้ำพุที่พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา


    ดังคำที่หลวงพ่อให้ลูกก้องอยู่ทุกขณะจิต..
    ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งอำนาจสิทธิ....

    และแล้วข้าพเจ้าก็ปิดฉากวิชชามณีรัตน์ เข้าสู่วิชชาภาค
    ปราบ - วิชชารบ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ข้าพเจ้าใช้เวลาครึ่ง
    ชั่วโมงฝ่าเหตุ 19 อย่างทะลุทะลวง หลังจากที่ติดมาเป็น
    เวลาสองปีเต็ม ที่วิชชาไม่ก้าวหน้าเพราะไม่มีเวลาต่อยอด

    เป็น สุด หมด ไม่มี ว่างเปล่า ดับ ลับ หาย สูญ สิ้นเชื้อ
    ไม่เหลือเศษ หล่อเลี้ยง เป็น อยู่ เป็นรส เป็นชาด เป็นไอ
    เป็นแก็สกรด...


    หยุดในหยุด ๆ ๆ ๆ ๆ นิ่งในนิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ กลางของกลาง ๆ ๆ
    ๆ ๆ ดับหยาบไปหาละเอียด ๆ ๆ ๆ ๆ ดังนี้

    ระดับสมาธิ : เทวภูมิ 6 คือ 1. จาตุมหาราชิกา
    2. ดาวดึงส์
    3. ยามา
    4. ดุสิต
    5. นิมมานรดี
    6. ปรนิมมิตวสวดี

    ระดับรูปฌาน : รูปภูมิ 16 คือ

    ปฐมฌานภูมิ 3 มี 1.ปาริสัชชา 2.ปุโรหิตา 3.มหาพรหมา

    ทุติยฌานภูมิ 3 มี 4.ปริตตาภา 5.อัปามาณาภา
    6.อาภัสสรา

    ตติยฌานภูมิ 3 มี 7.ปริตตสุภา 8.อัปปามาณสุภา
    9.สุภกิณหา

    จตุตถฌานภูมิ 2 มี 10.เวหัปผลา 11.อสัญญีสัตว์

    สุทธาวาสภูมิ 5 มี 12.อวิหา 13.อตัปปา
    14.สุทัสสา 15.สุทัสสี 16.อกนิฏฐา

    ระดับอรูปฌาน : อรูปภูมิ 4 มี 1. อากาสานัญจายตนภูมิ
    2. วิญญาณัญจายตนภูมิ
    3. อากิญจัญญายตนภูมิ
    4. เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

    โคตรภูมิ : กายธรรม (โยคาวจรภูมิ) ขาหนึ่งเหยียบโลก
    ขาหนึ่งเหยียบธรรม เส้นแบ่งเขตโลก - ธรรม ถ้าข้ามพ้น
    ระดับนี้คือ มุ่งโลกุตตรธรรม คือ ธรรมล้วน ๆ สู่อริยภูมิ
    อริยสมาบัติ : โลกุตตรภูมิ 9 มี มรรค 4 ผล 4
    นิพพาน 1

    1.โสดาบันมรรค 2.โสดาบันผล
    3.สกิทาคามีมรรค 4.สกิทาคามีผล
    5.อนาคามีมรรค 6.อนาคามีผล
    7.อรหัตมรรค 8.อรหัตผล

    เข้านิโรธ เข้านิโรธลงไปในดวงธรรมของพระพุทธเจ้าแก่ ๆ
    หยาบละเอียดตัวเราทั้ง 18 กายและกายมนุษย์ เข้านิโรธ
    พร้อมกัน

    ความอัศจรรย์เลือนลั่นแห่งโลกธาตุภายในก็ปรากฏ

    เห็นสิบแล้วเห็นศูนย์ เป็นเค้ามูลสืบกันมา
    เที่ยงแท้แน่หนักหนา ตั้งอนิจจาเป็นอาจิณ
    จุติแล้วปฏิสนธิ ย่อมวนเวียนอยู่ทั้งสิ้น
    สังขาราไม่ยืนยิน ราคีสิ้นเป็นตัวมา


    ปัญญารอบรู้ เพราะการทำลายกิริยา คือตัวสมมติทั้งหลาย
    ลงได้ ตลอดเวลาที่เดินบนเส้นทางธรรมในปัจจุบันชาติ
    ข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะบำเพ็ญทาน ได้แต่อุทิศทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่ข้าพเจ้าพึงมี พึงได้ สละขาดจากใจ มีแต่ให้ และให้
    ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ เป็นทานในรัตนะ 7 คือ ตา หู จมูก
    ลิ้น กาย ใจ จิตวิญญาณ ทั้งสละไม่โลภและไม่ยึดติดไม่
    หลง เป็น รูปรัตนะ เสียงรัตนะ กลิ่นรัตนะ รสรัตนะ สัมผัส
    รัตนะ ธรรมรัตนะ อายตนะภายนอก 6 อายตนะภายใน 6
    เชื่อมเป็นหนึ่ง สู่สภาวะเดิม เป็นจิตล้วน ๆ ที่สงสารสัตว์โลก
    ผู้ตกอยู่ในความทุกข์ยาก อยากให้ทุกท่าน พ้นจากกองทุกข์
    ทั้งหลาย ไม่ติดในวิชชาต่าง ๆ ที่พึงมี พึงได้ ตามสภาวะ
    ธรรม มุ่งค้นหาแต่ธรรมอันประเสริฐที่จะปลดเปลื้องความ
    ทุกข์ของมวลสัตว์ที่แท้จริง เป็น

    เป็นฐิติจิต ฐิติธรรม
    เป็นวิราคธาตุ วิราคธรรม
    เป็นธาตุล้วน ธรรมล้วน
    เป็นธาตุเป็น ธรรมเป็น ฉะนี้แล

    ขณะจิตหนึ่งที่รวดเร็วปานลูกศรออกจากคันธนูไปสู่เป้าหมาย
    กายละเอียด เปลี่ยนแปลงเร็วมาก แค่กระพริบตา หยุดเข้า
    ไปใน ดวงธรรม ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุติ
    ดวงวิมุติญาณทัสสนะของแต่ละกาย อันมี

    1.กายมนุษย์หยาบ 2.กายมนุษย์ละเอียด

    3.กายทิพย์หยาบ 4.กายทิพย์ละเอียด

    5.กายพรหมหยาบ 6.กายพรหมละเอียด

    7.กายอรูปพรหมหยาบ 8.กายอรูปพรหมละเอียด

    9.กายธรรมหยาบ 10.กายธรรมละเอียด

    11.กายโสดาหยาบ 12.กายโสดาละเอียด

    13.กายสกิทาคาหยาบ 14.กายสกิทาคาละเอียด

    15.กายอนาคาหยาบ 16.กายอนาคาละเอียด

    17.กายอรหัตหยาบ 18.กายอรหัตละเอียด

    ขึ้นสู่อายตนะนิพพานปล่อยกายที่เข้าสิบแล้วเห็นศูนย์ จะเห็น
    อีกอายตนะ ซึ่งแตกต่างออกไป กายที่เป็นองค์พระเหมือน
    พระพุทธรูป(ธรรมกาย) กลับกลายเป็นกายมนุษย์ที่ละเอียด
    ปราณีต สุขุมลุ่มลึก ละเอียดใสเป็นแก้ว ขาว ใส บริสุทธิ์
    และรัศมีสว่างมาก (ธรรมกาย เป็นกายพระ แก้วกายธรรม
    เป็นกายมนุษย์พิเศษ) ศูนย์กลางกายฐานต่าง ๆ ทะลุทะลวง
    เป็นท่อแสงพุ่งจากสุดโลก(ใต้สะดือ 4 นิ้ว) ไปสุดธรรม
    ตำแหน่งจอมประสาท(กลางกระหม่อม) เรียกโปร่งฟ้า

    ปรากฏกายพระพุทธเจ้าอยู่เหนือเศียรเกล้าประจำอยู่ที่สุด
    ธรรมนี้ (เหตุการณ์นี้ทำให้กระจุกผมตรงตำแหน่งโปร่งฟ้า
    เปลี่ยนเป็นสีขาวทันที)

    "แก้วกายธรรม ..........แก้วกายธรรม ........
    ...................รูปัง สูญญะ สูญนิยะตา อีวา รูปา
    รูปา นา เวทะ สูญ นิยะตา สูญญา ตายะนา เวทะ สารูปัง
    ยา รูปัง สา สูญนิยะตา ยะ สูญนิยะตา สารูปัง
    อีวา อีวา วิญญานา สังญา สังขารา วิญญานัง........
    .......................
    ........คะเต คะเต ปาราคะเต ปาระสังคะเต โพธิสัตวา"

    เสียงมหาปณิธานแห่งภพชาติดังก้องกัมปนาทไปทั่วอายตนะ

    " ข้าพเจ้าจะละกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้น
    ข้าพเจ้าจะเรียนรู้ธรรมะทั้งหลายให้เจนจบ
    ข้าพเจ้าจะโปรดสรรพสัตว์เข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน
    ข้าพเจ้าจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ "

    ลำดับนั้นตัวข้าพเจ้ากลับกลายรูปลักษณ์เป็นพระโพธิสัตว์ยืน
    อยู่ บนดอกบัว ถอดระหัสวิชชาพระมหากรุณาธารณีสูตรได้
    สำเร็จ ในพริบตานั่นเอง

    แล้วก็มีเสียงรับขึ้นอย่างก้องกังวานว่า

    " Sa...dhu Sa...dhu Samyak Sambodhi Sa..dhu Sa..dhu"
    (สาธุ สาธุ สัมมา สัมโพธิ สาธุ สาธุ)

    ข้าพเจ้าประจักษ์ชัดถึงคำพูดของหลวงพ่อที่ว่า
    ขุดบ่อล่อธารา ขุดตื้น ๆ น้ำ บ่ มี
    ขุดถึงที่ น้ำจึงไหล
    เป็นฉันใด


    00000000000000000000000000000000000000000000


    สิ้นการอ่านบันทึก ข้าพเจ้ายิ่งมีมโนปนิธานมั่นคงยิ่งในทางนั้น
     
  2. ท่าข้าม

    ท่าข้าม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +2,513
    ถามลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ถ้าคุณเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ คุณจะทำสิ่งเหล่านี้ไหม?
    1.ฉ้อโกง โกงเงินผู้อื่น
    2.เนรคุณผู้ให้ความช่วยเหลือ
    3.ด่าและใส่ร้ายผู้ให้ความช่วยเหลือ(แถมด่าแม่เขาอีกด้วย)
    ถ้าเป็นเราๆไม่ทำหรอกมันเลวเกินไป ผิดศีล 5. ด้วย ในข้อ 2.,ข้อ4.
    แต่เราโดนเพื่อนกระทำกับเราทั้ง 3 ข้อเลยทั้งที่เรากับเพื่อนก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกัน เพื่อนเราโทรศัพท์มาขอสินค้าของเราไปขายเราก็ให้ไปโดยไม่ต้องให้เขาเซ็นต์รับของเลย(เราเชื่อใจ)แต่พอถึงเวลานัดเคลียร์เงิน เพื่อนเราไม่รับสายโทรศัพท์ ถึงรับสายก็ด่าเราและด่าถึงแม่เราว่าขายของแพง(แม่เราขายสินค้านี้มา 10 ปีไม่เคยมีปัญหา แต่มาโดนเพื่อนเราโกงเขาขายสินค้าได้ก็ไม่ยอมจ่ายเงิน จริงๆเราเคยโดนคนในครอบครัวของเพื่อนคนนี้โกงเงินมาแล้ว แต่เขาก็ยังทำมาซ้ำกับเราอีกทั้งที่เราอุตส่าห์เมตตาเชื่อใจ ให้ความช่วยเหลือ) เงินที่เขาขายได้ ทั้งหมด สี่พันกว่าบาท เราก็ลดให้บอกว่าให้โอนเงินให้เราครึ่งหนึ่งอีกครึ่งนึงเราไม่เอาแล้วเขาก็ไม่ทำ เขาบอกว่าเอาเงินของเราไปลงทุนอะไรซักอย่างแถมพูดจาร่าเริงดี ขาดความรับผิดชอบชั่วดีเอามากๆ เรางี้ทุกข์ระทมเลยโดนเพื่อนทำแบบนี้ (เป็นคุณคุณจะกล้านำเงินของคนอื่นไปใช้โดยที่เจ้าของเขาไม่อนุญาติและเจ้าของเงินเขาเดือดร้อนคุณจะกล้าเอาของเขาไหม) เราเสียใจมากนอนร้องไห้มาหลายวัน มันเสียใจว่าเราเมตตาคน เชื่อใจคนทำไมมันทำกับเราได้(ที่สำคัญมันเป็นเพื่อนที่เจอที่วัดท่าซุง)เลว..มาก น้องเราบอกว่าเพื่อนเรามันนั่งสมาธิมากจนเป็นบ้า เราเลยบอกน้องว่าสมาธิไม่ได้ทำให้ใครบ้า สมาธิทำให้เกิดปัญญาทำให้คนดีแต่ที่มันเลว เพราะตัวมันเองที่เลว แม่มันก็ไม่รับผิดชอบอะไร บอกว่าไม่รู้เรื่องว่าลูกเขามาเอาสินค้ากับเราตอนไหน(ก็วันที่ลูกเขามาเอาสินค้าของเราเขายังโทรศัพท์เข้ามาถามลูกเขาว่า เจอเราหรือยัง แล้วก็ยังขอคุยกับเราด้วย)สรุปแม่-ลูกคู่นี้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้สึกอะไรเลย กรรม..เราจึงของเตือน เพื่อนที่ไปที่วัดท่าซุงด้วยว่าให้ระวังแม่-ลูกคู่นี้ไว้เพราะเขายังไปวัดท่าซุงกันอยู่ แต่ตัวลูกสาวรู้สึกจะโดนห้ามเข้าวัดท่าซุงแล้ว(ทำผิดกฎอะไรซักอย่าง) ปัจจุบันแม่เข้าได้ แต่ตัวลูกสาวไปป้วนเปี้ยนแถววัดเขาบ่อทอง(วัดในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ขอให้เพื่อนๆระวังจะเดือดร้อน และอย่าเชื่อใจ ไว้ใจคนถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนเรามานานก็เหอะ
    บอกตรงๆว่า เรายังทุกข์ใจอยู่เลย ไอ้เพื่อนคนนี้มันด่าแม่เรา มันกล้าว่าแม่ที่เหมือนพระอรหันต์ของเรา เราโกรธมาก มันบอกว่าแม่ใช้เราเหมือนวัวเหมือนควายทำไม่ถูก มันบอกว่าพ่อแม่ต้องดีกว่านี้ เพราะลูกเป็นเทวดาของพ่อแม่ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิดถึงพูดมาได้ ตัวมันเองเป็นลูกที่โคตรเลวยังมีหน้าเอาเทวดาที่ท่านมีความเกรงกลัวและละอายต่อบาปมาเปรียบเทียบอีก สำหรับเราแล้วทำอะไรให้พ่อแม่ได้คือสิ่งที่เราภูมิใจ เพราะพ่อแม่ให้เรามาตลอด แม้ชีวิตเขาก็ให้เราได้ เราไม่มีสิทธิ์จะไปว่าอะไรเขาเลย เรายอมที่จะให้พ่อแม่ใช้เหมือนวัวเหมือนความย(ซึ่งทุกวันนี้พ่อแม่มีแต่ทำสิ่งดีๆให้เรา) ถึงตอนนี้แล้วเพื่อนคนนี้ก็ยังไม่ยอมโทรมาหาเราเลย(เข็ดจริงๆคราวนี้ เพราะที่ผ่านมาเขามักเข้ามาทำให้เราเดือดร้อน แต่เราก็ยังช่วยเหลือเขา ทั้งที่คนรอบตัวเราก็บอกว่าอย่าไปคบกับเพื่อนคนนี้ (คราวนี้เราเข็ดแน่ แต่ก่อนเราจะทำสมาธิ ถือศีล 5 สวดมนต์ทุกวันแล้วอุทิศบุญให้เพื่อนคนนี้ด้วยใจเมตตา ทั้งที่เขาทำให้เราเดือดร้อนเสมอ แต่ต่อไปนี้เราก็จะยังอุทิศบุญให้เขาแต่จะอธิษฐานตัดแล้ว) เฮ้อ..ค่อยยังชั่วเราได้ระบายความทุกข์ออกมาบ้าง รู้สึกทุกข์มันท่วมหัวใจชอบกล ขอโทษเพื่อนๆทุกคนถ้าทำให้เสียเวลาอ่านนะ เราอยากเตือนเพื่อนๆไว้ว่าให้เมตตาเฉพาะคนดี คนชั่วนั้นถ้าบารมี(กำลังใจ)เราไม่ถึงแล้วเราไปช่วยเขาเราจะเดือดร้อน ถ้าเพื่อนๆมีคำพูดที่จะทำให้เรามีสติ มีปัญญาขึ้นมาได้เราจะขอบคุณมาก ทุกวันนี้ทุกข์ใจจริงๆ (ปล.เรากับเพื่อนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน)เพศเดียวกันยังหลอกกันได้ ฮือ..
     
  3. hexidecimal

    hexidecimal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +1,637
    อืมม ดีแล้ว สบายใจขึ้นก็ดีแล้ว เราให้กำลังใจคนไม่ค่อยเก่งด้วยซิ แต่เราว่า คนเราทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น แทนที่เราจะไปนั่งคิดแต่เรื่องร้ายๆ ที่เกิดมาแล้ว คิดแต่เรื่องไม่ดีที่ผ่านมา จมอยู่กับมัน มันจะยิ่งปวดหัว แล้วทำให้เราแย่ไปอีก ไม่สามารถทำอะไรได้เต็มประสิทธิภาพ

    เราว่าเอาเวลาไปคิดในแง่บวกดีกว่า ไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตัวเราและคนในครอบครัวดีกว่า ทำดี ละเว้นความชั่ว พยายามทำใจให้สบายๆ ผ่องแผ้วตลอดวันแม้มันจะยากหน่อย
     
  4. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,588
    การเอาชนะความไม่ดี(โกรธ โมโห น้อยใจ) ด้วยความดี (ใจเป็นปกติ สะอาดสว่าง สงบ) เป็นเรื่องที่ทำได้ หากว่าเรารู้เท่าทันมัน จิตใจเราจะไม่ผูกติดกับมันอีกต่อไป ข้อสอบนี้จะมาอีก จนกว่าคุณจะรู้เท่าทัน เมื่อกระทบจิตคุณแบบคล้ายๆเดิม จิตคุณไม่เศร้าหมอง ถือว่าสอบผ่าน บททดสอบจิตใจอย่างอื่นๆก็จะมาให้คุณเจอ ตั้งจิตเมตตาไว้เสมอ อย่าเป็นคนใจดำ จนกว่าจะกลายเป็น อุเบกขา(เพราะรู้แล้วว่า เป็นเวรเป็นกรรม ช่วยก็ไม่เกิดผล ซึ่งเกิดจากปัญญาไม่ได้เกิดจากอารมณ์ ความชอบ) การช่วยเหลือบุคคลอื่นๆ ให้ตั้งจิต ช่วยเอาบุญ อย่าไปคาดหวังสิ่งตอบแทน ในกรณีนี้ หากคุณตั้งจิตไว้ ว่า มีเมื่อไรค่อยเอามาคืน การจัดสรรความช่วยเหลือของคุณก็จะพิจารณาได้เองว่าช่วยเหลือสักเท่าไร จึงจะไม่เดือดร้อน
     
  5. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#a77842></TD></TR><TR><TD>

    OO บันทึกของครูฯ (ต่อ ) OO
    2537 - 2540

    "คุณยายคะ ลูกไม่มีสิทธิ์เลือกทางชีวิตของลูกเองหรือคะ ทำไมลูกจึงจะบวชเข้าวัดไม่ได้" ข้าพเจ้านั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ต่อหน้าคุณครู นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ "ยายเห็นใจและเข้าใจจิตใจคุณดี คุณร้องไห้ให้พอ แล้วนับแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็เลิกคิดเรื่องบวชได้แล้ว หน้าที่ของคุณต้องทำงานถวายต้นธาตุในเพศฆราวาสผู้ครองเรือน จะต้องคลุกคลีกับประชาชนชาวบ้าน จำไว้ถึงจะเหน็ดเหนื่อยเพียงไร จงอย่าท้อ เพราะหลวงพ่อท่านให้อำนาจสิทธิแก่คุณ ความสำเร็จย่อมต้องบังเกิด ถ้าคุณตั้งใจทำ" ข้าพเจ้าป้ายน้ำตาทิ้งและหันหลังมองเข้าไปในโบสถ์ ภาพแจ่มชัด ปรากฏขึ้นในมโนสำนึก...............ฝูงชนวิ่งไล่ตระครุบลูกแก้วใหญ่มากลูกหนึ่ง ลูกแก้วกลิ้งหนีวนไปทั่ว ภายในโบสถ์ของวัดปากน้ำ ผู้คนต่างเยื้อแย่งจะเข้าไปครอบครองลูกแก้วนี้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าผู้คนทำอะไรอึงอื้ออยู่ในโบสถ์ จึงเดิน เข้าไปยืนหน้าประตูข้างขวาด้านหลังของโบสถ์ ชะโงกเข้าไปมอง ทันทีทันใด...ลูกแก้วขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้ว ก็กระโดดลอยขึ้นมาเข้าสู่อ้อมกอดของข้าพเจ้า พร้อมเสียงดังกึกก้องของหลวงพ่อว่า [​IMG] "เอาไปใช้ หลวงพ่อให้" ข้าพเจ้าตกใจตื่นขึ้นจากความฝันในคืนนั้น เมื่อเล่านิมิตความฝันนี้ให้ คุณยายฟัง คุณยายกลับบอกว่า หลวงพ่อให้อำนาจสิทธิแก่ข้าพเจ้า และหลวงพ่อจะให้แก้วกายสิทธิ์ - แก้วจักรพรรดิ แก่ข้าพเจ้าอีกด้วย ข้าพเจ้าหันกลับมามองรูปหล่อของหลวงพ่อ ณ หอวิปัสสนา ฯ เมื่อมองอย่างตั้งใจ ข้าพเจ้าต้องสะดุ้งเพราะ............ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะตัดสินใจมาขอบวช 2 - 3 คืน ก็เกิดนิมิตฝันเห็น.. ตนเองถูกสิงโตตัวหนึ่งวิ่งไล่กวดอย่างเอาเป็นเอาตาย ในฝันข้าพเจ้ากลัวสิงโตมาก จึงวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเข้าไปในวัดร้าง แห่งหนึ่ง ในวัดร้างนั้นมีโต๊ะแท่นบูชาเก่า ๆ สูงมาก (แบบจีน) ข้าพเจ้าจึงกระโดดตัวลอยขึ้นไปยืนบนแท่นบูชานั้น [​IMG] สิงโตวิ่งไล่กวดมาทันที่แท่นบูชาแล้วนั่งลงเฝ้าข้าพเจ้า ไม่ยอมไปไหน ไม่ว่าข้าพเจ้าจะส่งเสียงขับไล่อย่างไร จนข้าพเจ้าอ่อนใจ นั่งลงบนแท่นบูชานั้น เมื่อมองลงมาที่หน้าสิงโต โธ่เอ๋ย !!! .......... หน้าเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นั่นเอง "นิมิตมาเช่นนี้แล้ว ยายว่าคุณหลีกเลี่ยงไม่พ้นหรอก ถึงคุณจะพยายาม ล้างผังนี้ออกไป แต่ผังจริงของต้นธาตุ คุณคิดว่า คุณจะไม่ทำ ได้รึ"คุณยายให้สติข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงเดินไปกราบรูปหล่อหลวงพ่อวัดปากน้ำ และตัดสินใจเด็ดขาดว่า"หลวงพ่อคะ ลูกยอมรับหน้าที่ที่หลวงพ่อประทานมาให้ แต่ลูกจะเป็นในสิ่งที่ลูกจะเป็นเท่านั้นค่ะ" คุณยายแนะนำให้ข้าพเจ้าถอนถอยธาตุธรรมลงเพื่อที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ ได้เช่นปุถุชนทั่วไป เพราะนับแต่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านคืน ข้าพเจ้าสู่สายธาตุสายธรรมที่แท้จริงของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าเดินวิชชา สู่สุดละเอียดแห่งกายสำเร็จพระภาค ข้าพเจ้ากลับพบปัญหาการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะผู้คน แม้กระทั่งลูก ๆ อาหารการกิน และน้ำดื่ม ข้าพเจ้าเหม็นสาปไปหมด อาการทุกขเวทนามาก ถึงขั้นอาเจียนเป็นเลือด จนกระทั่งข้าพเจ้าคิดออกบวชและจะหลีกลี้ผู้คนสู่เทือกเขาหิมาลัย จึงมากราบเรียนคุณครู นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่วัดปากน้ำ ใช่สิ !!! หากไม่ถอนถอยธาตุธรรมลง ข้าพเจ้าจะอยู่ได้อย่างไร ใครอย่ามาตู่เลย ว่าเข้าทรงองค์เจ้า พระองค์นั้น พระแม่องค์นี้ ฯลฯ สัตว์โลกทั้งหลายที่แสนจะเหม็นสาป เข้าใกล้ยังไม่ได้เลย แล้วจะทรงเข้าตัวบุคคลได้เช่นไร นอกจากระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น [​IMG]愿为人天来造福 ปรารถนามาโปรดฟ้า ดิน มนุษย์造开人间成佛路 สร้างหนทางพุทธบุตรให้ปวงชน
    <CENTER>ขบวนผู้คนมากหน้าหลายตาแต่ล้วนแต่งชุดขาว ต่างเดินเป็นสองแถว อย่างมีระเบียบวินัย นำหน้าขบวนเป็นช้างเผือกสีขาว เมื่อขบวนเดินมาถึง บ้านของข้าพเจ้า ช้างเผือกสีขาวก็คุกเข่าลง ข้าพเจ้าขึ้นนั่งบนหลังช้าง แล้วขบวนผู้คนก็แห่แหนข้าพเจ้าออกจากบ้านไป เพื่อนบ้านต่างออกมา กวักมือเรียกข้าพเจ้ากลับมา ทำไมผู้คนจึงมานำข้าพเจ้าไปไหน</CENTER>เสียงร้องเรียกชื่อของข้าพเจ้าให้กลับมา ดังก้องจนข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา ช่างเป็นความฝันที่ประหลาดมาก นี่จะหมายความว่าอย่างไรหนอ เพราะฝันใกล้รุ่ง เขาว่าเป็นเทพนิมิต ข้าพเจ้าออกมารดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน พบเพื่อนบ้าน ป้าผู้อารี รีบตรงเข้ามาหาพร้อมทั้งเล่าความฝันของป้า อย่างตื่นเต้น เออ!!! ป้าทำไมก็ฝันเหมือนข้าพเจ้าทุกประการหนอ ป้าเพื่อนบ้านเป็นห่วงข้าพเจ้ามาก เพราะคิดว่าข้าพเจ้าอาจเป็นอะไรอีก คือต้องจากบ้านไป แต่ข้าพเจ้ากลับคิดว่าน่าจะเป็นนิมิตที่ดี ระยะเวลาสองปีที่เฝ้าศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายขั้นสูงอย่างไม่หยุดหย่อน และไม่พบปะผู้คน ข้าพเจ้าได้ธรรมะอีกมากมาย มีความสุขในการตรึกในธรรม สุขภาพของข้าพเจ้าก็ยังต้องพักผ่อนมากกว่าปรกติคนทั่วไป ข้าพเจ้ายังต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว ทำ ๆ หยุด ๆ ตามแต่โอกาส จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่ข้าพเจ้าเกิดอาการหัวใจวายกระทันหันขึ้นอีก ข้าพเจ้าตั้งใจมั่นว่า ถ้าตายอีกครั้งข้าพเจ้าจะไม่ยอมกลับฟื้นคืนชีพ เพราะมั่นใจว่าตนมีสุคติภพเป็นที่พึ่ง ครั้งนี้กายละเอียดของข้าพเจ้ากลับเป็น พระสงฆ์ครองจีวรเหลืองอร่ามมาก ปรากฏกายขึ้นที่ปราสาททำวิชชาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ข้าพเจ้าวิ่งเข้าไปกอดเสาท้องพระโรง ไว้แน่น บรรดาเหล่าสงฆ์เบื้องบนต่างเข้ามาปลอบโยนข้าพเจ้าว่า ให้กลับลงไปช่วยงานหลวงพ่อเถอะ ต่างพูดปลอบให้กำลังใจ แต่ข้าพเจ้าไม่ฟัง ได้แต่ส่ายหน้าไปมา "ไม่เอาแล้ว เกิดเป็นคนลำบากมาก ไม่กลับเด็ดขาด อย่ามาพูดดีเลย" ทันใดนั้นเสียงหลวงพ่อดังแทรกขึ้นทันที "ทุกท่านถอยไป หลวงพ่อเอง" "หลวงพ่อไม่ต้องพูด ลูกไม่กลับเด็ดขาด"ข้าพเจ้าตั้งใจมั่น แต่........หลวงพ่อไม่พูดต่อสักคำ ยกเท้ากระทืบข้าพเจ้า "ไม่ต้องขึ้นมาอีกเลย ถ้าทำงานยังไม่เสร็จ จำไว้ และให้ยกกำแพงแก้วออกเสีย งานต่าง ๆ รอเจ้าอยู่" โอ้โห !!! ข้าพเจ้าเจอ "รีบอกซ์" ของหลวงพ่ออึกเบอเริ่ม ลอยละลิ่ว หัวทิ่มหัวตำกลับเข้าร่าง ฟื้นขึ้นทันทีกับที่นายแพทย์กำลังช่วยชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องไห้โฮ ทำไมเราไม่มีสิทธิ์ตาย หลวงพ่อทำไมทำกับลูกเช่นนี้ และเมื่อออกพรรษาแล้ว ข้าพเจ้าจึงถอนวิชชาซ่อนธาตุธรรมเพื่อที่จะได้ ช่วยงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้หมดสิ้นหน้าที่ตามสัจจะสัญญา และสุขภาพของข้าพเจ้ากลับดีวันดีคืน จนสามารถใช้ชีวิตได้ดุจคนปรกติ เมื่อข้าพเจ้าเห็นผังงานในอนาคตแล้ว ข้าพเจ้าก็หนาว รีบระเบิดผังทิ้ง แต่เมื่อเป็นผังจริงของต้นธาตุ ไม่ว่าจะระเบิดทิ้งอย่างไร ก็ยังอยู่ "คุณระเบิดผังของหลวงพ่อทำไม" คุณครูนายกสมาคม ฯ กล่าวตำหนิข้าพเจ้าว่า ช้าหรือเร็ว ข้าพเจ้าก็ต้องทำ [​IMG] เมื่อข้าพเจ้าตรึกเข้ากลาง มองเห็นถนนเต็มไปด้วยพระธาตุ ที่หล่นเรี่ยราดเต็มไปหมด ข้าพเจ้ารีบตะโกนเรียกผู้คนมาช่วยกันเก็บ แต่ไม่มีใครสนใจ ข้าพเจ้าจึงต้องเดินลงไปที่ถนน พร้อมทั้งช้อนมือประกบ ขึ้นมาเท่านั้น พระธาตุต่าง ๆ ก็กระโดดขึ้นมาอยู่เต็มอุ้งมือ ทำให้ข้าพเจ้าไม่กล้ากระดุกกระดิกตัว ด้วยกลัวพระธาตุจะตกลงไปอีก "คุณเห็นแล้วใช่ไหม ธาตุธรรมของหลวงพ่อเป็นธาตุธรรม เป็นล้วนมาทำ มรรคผลนิพพาน คุณไม่ทำไม่ได้ แล้วคุณยังจะชักช้าอีกต่อไปหรือ" [​IMG]วันที่ 1 กันยายน 2539 จึงก่อกำเนิดสำนักปฏิบัติธรรมเล็ก ๆ ขึ้น เพื่อรวบรวมเหล่าธาตุธรรมมาร่วมใจกันบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และทำประโยชน์ 3 คือ<CENTER>1.ประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว 2.ประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ3.ประโยชน์อย่างยิ่ง คืองานของศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว โพธิสถานมงคลธัญ ชาวพุทธมามกะนับถือคุณพระปกเกศเกศาเราพึ่งบุญ "หลวงพ่อสด" ท่านเมตตาเทอดทูนธรรมะศาสดาเป็นศาสนาเชิดชูใจเชื่อฟังคำสอนพระสงฆ์องค์เจ้าชี้ทางให้เราร่มเย็นแจ่มใสเราต่างพลีภักดีกายใจชาติศาสนากษัตริย์ไทยเราเทอดไว้ตลอดกาล </CENTER>[​IMG] ปัญญาเห็นแจ้งสภาวะสุญญตา เมตตานำพาสรรพสัตว์ข้ามทะเลทุกข์ [​IMG] [​IMG] [​IMG] มหากฤษดาบารมีอธิษฐาน “ อุกาสะ ข้าพเจ้านมัสการ พระพุทธศักราช พระศาสนา ของสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ เสด็จลงมาตรัสในพื้นแผ่นปฐพีอันกว้างใหญ่หนาแน่น ได้ 2แสน 8 หมื่นโยชน์ ” “สัปปุริสา ดูกรสัปบุรุษพุทธเวไนย์ทั้งหลาย ชายหญิงสิ้นทั้งปวง แต่ล้วนปรารถนาจะใคร่ลุล่วงไปในนฤพานด้วยกันทุกคน จงตั้งจิตให้เป็นกุศล ฟังดังจะกล่าว......" ด้วยอำนาจสิทธิ ความสำเร็จกิจ แห่ง ศาสนจักรอาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว ในฝ่ายบุญภาคปราบล้วนทั้งลับและเปิดเผยข้าพเจ้าจักตั้งกัลยาณจิต แผ่สมาธิจิตไปยังเหล่าธาตุธรรมทั้งหลายทั้งปวง สรรพสัตว์ตลอดโลกธาตุและทั่วทุกอณูจักรวาลโดยไม่มีประมาณ ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้ ปรารถจิตให้ข้า ฯ จงมี.......อิทธิบาทในพระกุศลธรรมเจริญพระอริยะบุคคลทันใด......แผ่เดชบุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล.....ปกคลุมทั่วพื้นภาคจักรวาลโดยไม่มีประมาณ......ขอให้ข้า ฯ จงเจริญในฌานรู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร .....บรรลุพระอริยะธรรมพลัน.... เข้าถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้...ให้ครอบครัวของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้บรรพบุรุษของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้บุพพการีของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้มารดาบิดาของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้ครูบาอาจารย์ของข้า ฯจงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้ญาติสนิทมิตรสหายของข้า ฯ จงมี....อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้เจ้ากรรมนายเวรของข้า ฯ จงมี....อิทธิบาทในพระกุศลธรรมให้ศัตรูผู้จองล้างผลาญของข้า ฯ จงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรมเจริญพระธรรม....โดยบริสุทธิ์เลิศล้ำอำไพเป็นพระอริยะบุคคลทันใด......แผ่เดชบุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล......ปกคลุมทั่วภาคพื้นจักรวาลโดยไม่มีประมาณ....ปรารถจิตให้ท่านผู้เจริญของข้า ฯ จงเจริญในฌานรู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร...บรรลุพระอริยะธรรมพลัน...เข้าถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ... ด้วยมหาเดชแห่งบุญของข้า ฯ นี้...ให้สรรพสัตว์ทั้งปวงจงมี..อิทธิบาทในพระกุศลธรรม เจริญพระธรรม...โดยบริสุทธิ์เลิศล้ำอำไพเป็นพระอริยะบุคคลทันใด......แผ่เดชบุญญฤทธิ์เกริกไกรแผ่อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล.....ปกคลุมทั่วพื้นภาคจักรวาลโดยไม่มีประมาณ....ให้สรรพสัตว์ทั้งปวงจงเจริญในฌานรู้พระพุทธธรรมอันเป็นแก่นสาร....บรรลุพระอริยะธรรมพลัน....เข้าถึงพระนฤพานโดยเลิศเทอญ...สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ นิพพานปัจจโย โหตุ
    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2006
  6. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    " เกิดมา ว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำไม "
     
  7. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,588
    เมื่อจะถึงยุคแห่งการฟื้นฟู กิจบางอย่างพระไม่สามารถทำได้แต่ฆราวาสทำได้สะดวก เช่น การแสดงฤทธิ์เมื่อจำเป็นต้องแสดงเพื่อพิทักษ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อหมดกิจที่ควรทำในเพศฆราวาสแล้ว ค่อยบวชเพื่อความหลุดพ้นก็ยังไม่สายเกินไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2006
  8. รักแก้ว

    รักแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +179
    เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว

    พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำไม
     
  9. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ(ภาษีเจริญ)สอนว่า
    .....อย่าไปรับประทานลาภ อย่าโลภ อย่าติดในลาภสักการะ
    จงช่วยผู้คนด้วยจิตเมตตาต่อผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่เลือกหน้า
    ไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ
    ผู้ที่ได้วิชชาธรรมกายให้ช่วยเหลือคนโดยไม่หวังในลาภสักการะ
    จงถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่ได้วิชชา
    จะต้องแก้ไขความทุกข์ยากเดือดร้อนของทุกคนที่มาหา
    ให้ต้อนรับด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ให้แสดงอาการเบื่อ
    หน่ายหรือรังเกียจ ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข็มแข็งอดทน
    แม้บางคนจะพูดเรื่องไร้สาระ น่าเบื่อหน่าย บางคนพูดเอา
    แต่ผลประโยชน์ ก็ให้รับฟังอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องให้
    คำแนะนำในทางที่ถูกที่ควร และต้องต้อนรับทุกคนที่มาหา
    อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันหมด


     
  10. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    (ต่อ)

    และจากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้
    สัจจธรรม ข้อหนึ่งที่ว่า จะหาสักคนหนึ่งเพื่อธรรมแห่งความ
    หลุดพ้น ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ดังนี้ว่า..............

    "หนทางสายนี้เป็นทางอันสงบ ระงับ อันประณีตเยือกเย็น
    อันสัตว์ทั้งหลายค้นหาได้ยาก เป็นทางอันประเสริฐของผู้มี
    ปัญญา ผู้หาธุลีในดวงตามิได้แล้ว เป็นผู้ดำเนินไป"

    มรรคาสายนี้ เป็นที่ทำญาณ
    รู้ทุกประการ ทำซึ่งดวงตา
    ย่อมจักเป็นไป เพื่อให้นำมา
    ความรู้ยิ่งพา พบสงบนิพพาน


    ฉะนั้นอะไรเล่าที่จะเป็นวิชชาที่นำพาสรรพสัตว์ข้าม
    ทะเลทุกข์ได้ดีที่สุด ข้าพเจ้านำความดำริของตน กราบเรียน
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อทราบ หลวงพ่อยิ้มอย่างพอใจ และ
    ว่า.............

    "แก้วกายธรรม นี้แหละคือ โพธิจิต มหาจิตอันยิ่ง
    ใหญ่ เป็นคุณสมบัติของเหล่าผู้กล้าแห่งโพธิญาณจะดำเนิน
    ไป ถ้าเช่นนั้น เจ้าจงบำเพ็ญโพธิญาณให้ถึงมหาปณิธานที่
    เจ้าพึงมีเถิด หลวงพ่อจะมอบวิชชาอันประเสริญล้ำค่าแก่เจ้า

    เจ้ารู้ไหม ความลำบากยากแค้นและความทุกข์เวทนา
    ที่เจ้าได้รับมา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่าน..............
    ความทุกข์เวทนาแห่งกองสังขาร ทำให้เจ้าเกิดความเบื่อ
    หน่าย เมื่อจิตเกิดความเบื่อหน่าย ก็ย่อมคลายความติด
    เพราะคลายติด จิตก็พ้น เพราะจิตพ้น ก็ผ่องแผ้ว
    รู้ว่า จิตพ้นแล้วหนอ จิตหนา

    แม้จะทุกข์เวทนา แต่เจ้าก็เหมือนเด็กน้อยที่เต็มไปด้วย
    ความหวัง ดั่งเด็กน้อยที่ตื่นขึ้นมาทุกเช้า ด้วยสายตาดวง
    ใหม่ พร้อมที่จะเรียนรู้ และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของ
    ครูบาอาจารย์ อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย และเห็น
    แก่ได้ เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา สงสารสัตว์โลก
    ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ถึงสุขภาพจะไม่อำนวย เจ้าก็ยังข่มสังขาร
    ออกช่วยผู้คน ถึงจะมีเงินทองอันน้อยนิด เจ้าก็สละ เพื่อผู้ที่
    ทุกข์ยากมากกว่า เจ้ามีคุณสมบัติเหมาะที่จะเดินรุกหน้าต่อไป
    เพื่อสู่เส้นทางโพธิญาณ"

    ( หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ความทุกข์ยาก
    ลำบาก พิสูจน์ถึงแล้วแห่ง คุณสมบัติของแก้วกายธรรม ดังนี้

    1.ไม่สนใจ ในความเจ็บไข้ได้ป่วย
    2.ไม่สนใจ ให้ใครตามใจรักใคร่
    3.ไม่สนใจ ในอุปสรรค
    4.ไม่สนใจ ในความล้มเหลว
    5.ไม่สนใจ สิ่งตอบแทนผลประโยชน์
    6.ไม่สนใจ ความทุกข์ยากในการทำดี
    7.ไม่สนใจ การถูกใส่ร้ายป้ายสี
    8.มุ่งมั่นทำดี
    9.อยู่เพื่อให้
    10.ซ้ายไม่ไป ขวาไม่ไป หลังไม่มอง
    เดินหน้าสู่ทางสายกลาง )

    ฉะนั้น หลวงพ่อจะคืนเจ้า สู่เส้นทางที่เจ้าได้ดำเนินมา
    แล้วและ จะต้องผลิต่อไป เจ้าจงตั้งใจเรียนวิชชาธรรมกาย
    ขั้นสูงต่อไป วิชชาเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่องานของธาตุ
    ธรรมหาที่สุดมิได้

    ( วิชชาธรรมกายลำดับจากต้นถึงปลายมี

    มณีรัตน์ วิชชาแก้โรค แก้กรรม
    ฤทธิณรงค์ วิชชาการรบ
    พงศ์กษัตริย์ วิชชาการปกครอง
    บรมจักร มนุษย์สมบัติ
    พุทธจักร นิพพานสมบัติ )


    จากวันนั้นข้าพเจ้าก็ปิดฉากตัวเองลง เพื่อจะฝึกฝน
    วิชชาขั้นสูงต่อไป เพื่อมิให้ผู้คนมารบกวน และอยากให้ทุก
    ท่านที่รู้จัก ลืมข้าพเจ้าเสีย ข้าพเจ้าจึงเข้าสมาธิทำวิชชาแก้
    ผัง จับฝูงแมวสีขาวมัดเป็นพรวน แล้วส่งคืนวัดต้นสังกัดทุก
    แห่ง แล้วอาราธนากำแพงแก้ว 7 ชั้น ครอบทั้งบ้านและ
    ครอบครัว ซ่อนธาตุซ่อนธรรมไว้เสีย ได้ผล แม้ผู้คนที่มาหา
    ถึงหน้าบ้าน ยังหันหลังกลับ และไม่นาน ทุกท่านก็ลืมบ้านหลัง
    น้อยแห่งนี้และลืมข้าพเจ้าไป

    แปลกแต่จริง !!! การปฏิบัติธรรมครั้งนี้กลับทำให้
    ข้าพเจ้าลำบากใจเป็นที่สุด เพราะเมื่อเข้าสมาธิแล้ว กลับ
    ปรากฏมีแส้จีน(ภู่ยาว ๆ มีด้ามถือ) มาตวัดตัวข้าพเจ้าลอยละ
    ลิ่วเข้าไปแดนวิสุทธิภูมิ พบเซียน 2 ท่าน

    <CENTER>
    ท่านหนึ่งหนวดดำ
    อีกท่านหนึ่งหนวดขาว
    นั่งอยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้างงมาก !!!!
    </CENTER>
    แล้วท่านก็เริ่มสอนข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าจำต้องเรียน........
    เรื่องราวของภพ จักรวาล ทั้งจักรวาลภายนอกและจักรวาล
    ภายใน คือตัวของเราเอง ท่านทั้ง 2 ได้บอกชื่อแก่ข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าไม่สันทัดภาษาจีน จึงขอเรียกท่านว่า

    <CENTER>
    ท่านเซียนหนวดขาว
    และท่านเซียนหนวดดำ
    </CENTER>
    ข้าพเจ้าเรียนถามไปว่า

    "มายุ่งกับข้าพเจ้าทำไม? ข้าพเจ้าเรียนวิชชาธรรมกาย
    ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่"

    ท่านเซียนทั้งสองตอบว่า

    "ตัวข้าพเจ้านั้นสร้างบารมีเป็นธาตุธรรมทั้งสองสาย
    คือสายสีขาว ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ
    (ภาษีเจริญ) และสายสีแดง วิชชาเซียน วิสุทธิเทพ -
    วิสุทธิภูมิ "

    นี้คือสาเหตุ เมื่อหลวงพ่อคืน "คุณสมบัติ" ตามที่
    ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา สายสีแดง จึงตรวจพบข้าพเจ้า และให้
    ท่านวิสุทธิเทพมาพาข้าพเจ้าคืนสู่ วิชชาเซียน (ข้าพเจ้าถึง
    บางอ้อ !! เพราะสงสัยอยู่นานว่าทำไม อาสนะบัวของตนมี
    สีชมพู ใส ไม่ใช่สีขาวใสแบบหลวงพ่อ)

    ปรมาจารย์เซียนมาสอนข้าพเจ้า ทุกครั้งแส้ของท่าน
    เซียนจะตวัดข้าพเจ้า ได้ก่อนที่จะเข้าสู่วิชชาธรรมกาย จึงทำ
    ให้ ข้าพเจ้าได้เรียนวิชชาเซียน เริ่มต้นตั้งแต่การกำเนิดแห่ง
    ภพ จักรวาล เรียนรู้มาจนถึงภาคพื้นมนุษย์ ให้รู้ฟ้า รู้ดิน
    และ รู้มนุษย์ ทุกครั้งท่านเซียนจะเอาแส้ตวัดเอากายละเอียด
    ของข้าพเจ้าไปเรียนรู้วิชชาเซียน ซึ่งข้าพเจ้าเริ่มสนุกกับ
    วิชชาเพราะ เป็นสิ่งที่สัมผัสกับมนุษย์โดยตรง รู้ฟ้า
    รู้ดิน และ รู้มนุษย์


    วิชชาเซียนประกอบด้วย

    -ชี่กง การโคจรของลมปราณจักรวาล
    -ไน่กง การโคจรลมปราณภายใน
    -บู๊เฮียบ วิทยายุทธ์
    -ฮวบกง เรื่องฤทธิ์และการเขียนยันต์

    เบื้องต้นฝึกสำเร็จเรียก วรยุทธ์
    เบื้องกลางฝึกสำเร็จเรียก อภิยุทธ์
    เบื้องสูงฝึกสำเร็จ เป็นเซียน

    (เซียนยังมีลำดับขั้นในวิสุทธิภูมิ)


    จนกระทั่ง.......วันหนึ่งที่ข้าพเจ้าเรียนวิชาการเขียน
    ยันต์ให้มีฤทธิอยู่นั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำซ้อน
    สุดละเอียดเก็บกายฝ่ายเซียนออก และสั่งห้ามข้าพเจ้าเรียน
    วิชชาเซียนต่อไป ให้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดแก่วิชชาธรรมกาย
    เพราะจะเป็นวิชชาซึ่งจำเป็นต่องานของธาตุธรรม อย่าได้เสีย
    เวลาแก่สิ่งเหล่านี้เลย ให้ตั้งใจเรียนวิชชาผังการรบ
    การปกครอง

    หลวงพ่อให้ข้าพเจ้าว่า...สัจจะเด็ดขาดจะช่วยงานหลวง
    พ่อสะสางธาตุธรรม สืบสานสายงานต่อจากงานที่หลวงพ่อ
    ทำไว้ คือ การคำนวณยุคทมิฬ - ถิ่นกาขาว ให้เข้าสู่ยุคถิ่น
    กาขาว - ชาวศิวิไลซ์ ไม่ว่ากาลข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ต้อง
    ไม่ทิ้งงาน จนกว่า..จะสามารถคำนวณงานศาสนจักร
    อาณาจักร พุทธจักร มรรคผล นิพพานในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่
    ส่วนเดียว คำนวณรวมเป็นหนึ่ง

    ทั้งนี้ต้องอาศัยเงื่อนไขแห่งกาลเวลาของภพ จักรวาล
    ดวงดาว มาเรียงเป็นแนวเดียวกันในวันที่ 5 พฤษภาคม
    ค.ศ. 2000 ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่อาจอยู่ถึงได้
    เพื่ออาศัยเงื่อนจักรวาลนี้ เปิดเอาหัวแก๊สส่วนธรรม ที่ซ้อนตั้ง
    ฉากกัน เป็นผลให้ศาสนาเรียวลง ๆ จนหมดไปจากแผ่นดิน
    สุวัณณภูมิ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง แผ่นดินแห่งการสืบ
    ศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร มรรคผลแห่งนี้


    ถ้างานแล้วเสร็จ ข้าพเจ้าจะคืนสู่ความเป็นสถานภาพ
    ใด ๆ ก็ตาม ก็จะไม่บังคับอีกต่อไป .............

    ข้าพเจ้าไม่เข้าใจในสิ่งที่หลวงพ่อกล่าว แต่ก็ยอมให้
    สัจจะ คืนนั้นข้าพเจ้าจุดธูปไหว้บอกกล่าวฟ้า - ดิน ขอขมา
    โทษกรรมและ บอกเลิกการเรียนวิชชาต่อปรมาจารย์วิชชา
    เซียนทั้งหลาย ยุติการเรียนนับแต่คืนนี้เป็นต้นไป เพราะ
    ข้าพเจ้าได้ให้สัจจะจะช่วยงาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัด
    ปากน้ำ ผู้มีพระคุณยิ่งไปแล้ว

    ไม่คาดไม่ฝัน ทันทีที่ปักธูปลงเท่านั้น สายตาละเอียด
    ก็เห็นกองทัพ แต่งกายเหมือนนักรบฝ่ายจีนฝ่ายสีแดง ปรากฏ
    ขึ้นกลุ่มหนึ่ง เข้าต่อสู้โรมรันอุตลุดกับกองทัพนักสิทธิ์
    (กายสิทธิ์) ฝ่ายสีขาว ข้าพเจ้าตกใจมาก เกิดมาไม่เคยพบ
    เคยเห็น ยืนตลึงทำอะไรไม่ถูก ทั้งสองฝ่ายประมูลฤทธิ์ เพื่อ
    แย่งชิงธาตุธรรม คือตัวข้าพเจ้านั่นเอง

    เมื่อคิดได้เช่นนั้น จึงกำหนดจิตสู่กายละเอียด ออกไป
    ห้ามทัพ บอกสัจจะเด็ดขาด จะขอช่วยงานพระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อ ตามสัจจะจนกว่าจะถึง ค.ศ. 2000 แล้วค่อยว่า
    กันต่อไป

    กองทัพฝ่ายสีแดงได้ยินเช่นนั้น ก็หยุดรบทันที
    ปรากฏกาย......องค์พระแม่กวนอิมขึ้นมาพูดสำทับเสียงก้อง
    ว่า....

    "เก๊า ซี๊ อี เชาะ นั๊ง บ่ หงี ไล้ ไห่ ลื่อ"

    แล้วทั้งกองทัพฝ่ายสีแดงก็หายวั๊บไปกับตา ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ
    เพราะไม่สันทัดในภาษาจีน แต่ก็จำคำพูดนี้ได้ขึ้นใจ
    รู้สึกแต่ว่าคงจะไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ใส่ใจ เพราะข้าพเจ้าผ่าน
    ความทุกข์ยาก ลำบาก มาอย่างมากมาย ชีวิตก็ตั้งใจเพื่อ
    ช่วยงานหลวงพ่ออยู่แล้ว ฉะนั้น

    ถึงงานจะ เสี่ยงเพียงไร ตั้งใจมั่น
    จะบากบั่น สร้างสรรค์ วางเป้าหมาย
    จะเหลวล้ม สำเร็จ ฤากลับกลาย
    ลูกคนนี้ จะสู้ เพื่อธาตุธรรม
     
  11. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    (ต่อ)

    มีนาคม 2533


    <CENTER>"ลูกของคุณจะ entrance ได้ค่ะ"</CENTER>
    ข้าพเจ้าตอบข้อซักถามแก่หญิงสาวที่เป็นคุณแม่ของ
    ลูก ๆ ที่กำลังจะสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
    สายตา ข้าพเจ้าเหลือบมองไปยังเพื่อนสาวที่ช่วยขับรถมาเป็น
    เพื่อน คุณแม่คนนี้หน้าตาคมคาย จัดว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง
    แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นดวงมรณะซ้อนขึ้นมาในดวงธรรมของเขา
    จึงตรึกเข้าตรวจละเอียดพบว่า...

    หญิงสาวสวยผู้นี้มีผังชีวิตทำอัตตวินิตบาตกรรม(การ
    ฆ่าตัวตาย) มาหลายภพหลายชาติ
    ข้าพเจ้าไม่พูดอะไร ได้แต่
    คุยเรื่องบุญ - กุศล หญิงสาวผู้นั้นสนใจและบอกว่า ถ้ามีงาน
    บุญอะไร อย่าลืมช่วยบอกบุญด้วย ข้าพเจ้าจึงแจกดวงแก้ว
    กายสิทธิ์ลูกเล็ก ๆ ดวงหนึ่งให้เขาไป และขอให้เขาเลี่ยมใส่ติด
    ตัวเพื่อปกปักรักษา พร้อมขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของ
    "พี่แดง" คนสวยผู้นี้

    เดือนหนึ่งผ่านพ้นไป ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังรับฟังเรื่อง
    ของคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาปรึกษาอยู่ พลันได้ยินเสียง
    ของกายสิทธิ์มาบอกว่า.. เจ้าของดวงแก้วกินยาเพื่อจะฆ่าตัว
    ตาย เมื่อสอบถามไปจึงทราบว่าเป็นกายสิทธิ์ในลูกแก้วที่ให้
    พี่แดงไปนั่นเอง ข้าพเจ้ารีบค้นเบอร์โทรศัพท์ และโทรเข้า
    ไปที่บ้านของพี่แดง คนรับใช้มารับโทรศัพท์ ข้าพเจ้าบอก
    ให้เขาขึ้นไปดูเจ้านายเป็นอะไรหรือเปล่า

    จริงดังที่กายสิทธิ์มาบอก พี่แดงกินยานอนหลับเข้าไป
    ประมาณ 200 เม็ด ข้าพเจ้าสั่งให้คนรับใช้รีบนำส่ง
    โรงพยาบาลแถวบ้าน เพื่อล้างท้องช่วยชีวิต และก็สามารถ
    ช่วยชีวิตพี่แดงได้ทันการ

    เมื่ออาการพี่แดงปลอดภัยแล้ว ข้าพเจ้าจึงรับตัวพี่
    แดงมาค้างคืนที่บ้าน และบอกแก่เธอว่า.............. ผังชีวิต
    ของเธอกระทำอัตตวินิตบาตกรรม ข้าพเจ้าจึงให้กายสิทธิ์แก่
    เธอ เพื่อเป็นภาคผู้เลี้ยงคอยคุ้มครองรักษา และข้าพเจ้าได้แก้
    ผังให้แล้ว นับแต่วันที่พบกันครั้งแรก จึงสามารถช่วยชีวิตเธอ
    รอดปลอดภัย

    พี่แดงได้แต่ร้องไห้ว่า...ชีวิตนี้หมดสิ้นทุกอย่าง เธอ
    เป็นคนสวยรวยทรัพย์ แต่ไม่อาจให้ทายาทสืบสกุล เพราะได้
    ผ่าตัดมดลูกไปแล้ว เมื่อ 5 ปีก่อน จึงเป็นสาเหตุให้สามีนอกใจ
    ไป มีหญิงอื่นและมีบุตรด้วยกัน ทอดทิ้งเธอให้ช้ำระกำใจ
    ชีวิตนี้อยู่ไปก็เปล่าประโยชน์

    "พี่คะ สมัยหนึ่งพระอานนท์ทูลถามพระพุทธองค์ว่า
    ทุกข์อันใดที่เป็นทุกข์ที่สุดของสตรีเพศ
    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...................
    ทุกข์ที่สุดของสตรีคือ สามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น

    ฉะนั้นการที่พี่เจ็บปวดรวดร้าวเป็นของธรรมดา เพราะ
    ผู้หญิงนั้นลงได้รักใครแล้วก็มั่นคงเหนียวแน่น ยากที่จะถ่าย
    ถอน และความรักที่ไม่สมปรารถนานั้นเป็นความรวดร้าวอย่าง
    ยิ่ง สำหรับผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงถือว่า ..ชีวิตเป็นส่วนหนึ่ง
    ของความรัก ตรงกันข้ามกับผู้ชายมักเห็นความรักเป็นเพียง
    บางส่วนของชีวิตเท่านั้น เมื่อเกิดความรักผู้หญิงจึงทุ่มเททั้ง
    ชีวิตและจิตใจให้แก่ความรัก

    แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่าคนเราไม่ควรปล่อยตนให้
    ตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งความรัก เพราะการพลัดพรากจากสิ่ง
    อันเป็นที่รักเป็นเรื่องทรมานและเป็นเรื่องที่จะบังคับมิให้
    พลัดพราก ก็เป็นสิ่งสุดวิสัย ทุกคนจะต้องพรัดพรากจากสิ่งอัน
    เป็นที่รักที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

    และหลวงพ่อวัดปากน้ำก็สอนว่า...

    อ้ายที่อยาก มันก็หลอก อ้ายที่หยอก มันก็ลวง
    ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย เลิกอยาก ลาหยอก
    รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
    เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า นิพพาน ก็ได้

    แม้สามีของพี่จะทำให้พี่ชอกช้ำ พี่ก็ต้องให้อภัยคนที่ตน
    รัก ถ้าจะรัก ก็จงรักด้วยจิตที่บริสุทธิ์ จงอย่ารักเพราะตัณหา
    พี่ว้าเหว่ คิดว่าไร้ที่พึ่ง ไม่รู้จะยึดหลักอะไรเป็นที่พึ่งของชีวิต
    พี่จงรับ "ธรรม" เป็นที่พึ่งเถิด อย่าหวังอย่างอื่น
    เป็นที่พึ่งเลย แม้จะประสบปัญหาหัวใจ หรือได้รับความทุกข์
    ยากลำบากสักปานใด ก็ต้องไม่ทิ้งธรรม

    พี่คะ... ธรรมดาไม้จันทร์นั้นแม้จะแห้ง ก็ไม่ทิ้งกลิ่น
    หัสดินก้าวลงสู่สงคราม ก็ไม่ทิ้งลีลา
    อ้อยแม้เข้าหีบยนต์แล้ว ก็ไม่ทิ้งรสหวาน
    บัณฑิตแม้ประสบทุกข์ ก็ไม่ทิ้งธรรม

    พระพุทธองค์ทรงย้ำว่า พึงสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาธรรม

    พี่จงมีดวงตาเห็นธรรม เห็นโทษของความรักที่ประกอบ
    ด้วยตัณหานี้กามคุณนั้นเป็นของไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีสุขน้อย
    แต่มีทุกข์มาก มีโทษมาก มีความคับแค้นเป็นมูล มีทุกข์
    เป็นผล จะบอกความจริงแก่พี่ว่า นับแต่นี้ต่อไป พี่จงปฏิบัติ
    ธรรมสร้างบุญ สร้างกุศลที่สุด เพราะพี่จะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน"

    แล้วข้าพเจ้าก็เอามือตบเข้าที่กระดูกสันหลังของพี่แดง

    "พี่เป็นมะเร็งที่กระดูก และดวงมรณะมาซ้อนดวงธรรมเกิน
    กว่า 50 % คิดว่าคงจะช่วยพี่ให้อายุยืนยาวต่อไปไม่ได้
    แต่จะช่วยชี้ทางสวรรค์ - นิพพานให้พี่ แต่พี่ต้องเป็นผู้ปฏิบัติ
    เอง มรรคผลนิพพาน เป็นของจริงใครทำใครได้ พี่เอาเวลาที่
    เหลือสร้างคุณค่า เป็นประโยชน์ที่สุดแม้แก่ตัวเอง ครอบครัว
    สังคม ประเทศชาติ และศาสนาและพี่จะรู้ว่า สุขที่แท้จริง ก็
    คือ สุขในธรรมะของพระพุทธองค์...ฯลฯ"

    ข้าพเจ้านั่งขัดสมาธิ เทศนาธรรมะว่าด้วยเรื่องพระรัตน
    ตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด ลุ่มลึกจากต้นไปลำดับจนค่อนคืน
    จึงถอนออกจากสมาธิ

    พบว่าพี่แดงนั่งไหว้ข้าพเจ้าประหลกๆ !!!

    "พี่เชื่อคุณแล้ว ๆ ธรรมะมีจริง เวลาที่คุณเทศน์ธรรมะ
    แสงสว่างไปทั่วตัวคุณ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น"

    "และพี่ต้องทำให้ได้นะ ธรรมะใด ๆ ก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ"

    แต่นั้นมาพี่แดงได้ให้อภัยแก่สามี สามีจึงกลับมาอยู่บ้าน
    และช่วยดูแลรักษา พี่แดงเป็นมะเร็งจริง ๆ มะเร็งเข้ากระดูกถึง
    สามข้อ รับทุกข์ - เวทนาจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นที่สุด แต่
    เธอก็เบิกบานใจ มีสุขในธรรมะ ที่ข้าพเจ้าพยายามสอนให้
    เธอเข้าใจและปฏิบัติ ทั้งทาน ศีล และภาวนา

    จนกระทั่งวาระสุดท้ายที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
    ข้าพเจ้าได้ นิมนต์พระ มาจากวัดปากน้ำ(ภาษีเจริญ) มารับ
    สังฆทาน สวดมนต์และนำสมาธิจิต ทีละกาย ๆ จนเธอสิ้นใจ
    ด้วยดวงหน้าที่ผ่องใสอย่างสงบ มีสุขคติเป็นที่ตั้ง

    พระเจ้า ช่วยใคร ไม่ได้หรอก
    ได้แต่บอก แนวทาง วางไว้ให้
    เราต้องหมั่น ปฏิบัติ ขัดเข้าไป
    จึงจะได้ พ้นทุกข์ สุขสมปอง
     
  12. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    พระสร้อยสรรเพชรโพธิญาณ


    เสียงที่ดังก้องกังวานอยู่เสมอ
     
  13. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
     
  14. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
  15. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
  16. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    OO
     
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ต้นฉบับบันทึก จากเวปนวกาพรหม
     
  18. emperron

    emperron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +432
    "อัตนา โจทยัตตานัง" จงกล่าวโทษเตือนตนไว้เสมอ
    "สัพพะปาปัสะอกรณัง ละเว้นความชั่ว
    กุสลัสสูปสัมปทา ทำแต่ความดี
    สจิตตะปริโยทปนัง ทำจิตใจให้ผ่องใส
    เอตังพุทธานะสาสะนัง" พระพุทธเจ้าทรงสอนเช่นนี้เหมือนกันหมด
    "อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
    โกหินาโถปโรสิยา ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
    อัตตาหิสุทันเตนะ เมื่อฝึกตนดีแล้ว
    นาถังลภะติทุลภัง" จะได้ที่พึ่งอันบุคคลอื่นหาได้ยาก
     
  19. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    กรรมทั้งดีและชั่ว จะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ....ทำดีกันเถิด
     
  20. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ขอเวียนว่าย ตราบสิ้น อนันตกาล.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...