ทิ้งผ้ากาสาวพัตร แพ้ธิดาพญามาร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย น้องจุ๊บ, 30 มิถุนายน 2013.

  1. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ท่านได้ครองผ้ากาสาวพัตร
    ขององค์พระพุทธะชินสีห์
    พรหมจรรย์สิกขาเลี้ยงชีพดี
    ประพฤติดีประพฤติชอบน่าศรัทธา
    เป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนศิษย์
    ให้รู้ผิดรู้ชั่วกิเลสหนา
    สอนให้พ้นกิเลสอุปทาน
    ตัวตันหาตัวบ่อนทำลายใจ
    สอนบอกใจเมื่อทุกข์ให้ปล่อยสิ้น
    ให้ดับดิ้นที่ใจให้จงได้
    เหล่าสาวกเชื่อถือและศัรทธา
    ในคำสอนของครูบาอาจารย์
    แล้วอยู่ๆท่านก็ลาสิกขาเพศ
    เกิดเเพราะเหตุคู่บารมีแต่หนหลัง
    เหตุเพราะกามราคะเข้าครอบงำ
    ไม้ใกล้ฝั่งต้องยอมสยบมาร

    เหล่าสาวกหน้าหงายและว้าเหว่ ตามหาอรหันต์ พระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทั้งหลาย อัญเชิญขอให้มาที่พึ่งทางใจ เมื่อเกิดเพศภัย ขอให้สิ่งร้ายกลายเป็นดี
    ตั้งแต่ ณ....บัดนี้ สิ่งที่มองหา ไม่ต้องไปมองหาไกลที่ไหน พระอรหันต์ พระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทั้งหลาย อยู่ที่ใจ อุราเรานี้เอง......
     
  2. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85
    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มากับเจ้า

    จะมัวเมากามา ไปถึงไหน

    เมื่อเจ้ามา มือเปล่า จะเอาอะไร

    เจ้าก็ไปมือเปล่า เหมือเจ้ามา
     
  3. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863

    ครับ ครับ...ตามนั้นครับ
     
  4. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    แพ้ลูกสาวพญามาร จนได้ เสียดายเวลามี่ที่บำเพ็ญมานาน
     
  5. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    เป็นคนธรรมดา ก็สามารถดีกว่าพระได้
     
  6. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    ในทางโลกนั้น ความจริงมีหลายด้าน ในทางธรรม กรรมคือสิ่งที่ซับซ้อนยากเกินกว่ามนุษย์อย่างเราจะเข้าใจ เราอย่ามีบาปคาดเดาในสิ่งที่เราเองก็ไม่รู้แน่เลยค่ะ วางจิตในอุเบกขาธรรมจะเกิดผลดีทั้งกับตัวเราและท่านอาจารย์เอง อย่างไรเสีย ท่านก็สร้างบารมีมามากกว่าเราซะอีก ถ้าท่านต้องการบรรลุในบั้นปลาย ก็คงอีกไมนานถ้าเชี่อมกับบุญเก่าของท่าน สาธุค่ะ
     
  7. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ประวัติ เธอก็มี มีครอบครัวแล้ว สองครั้ง อายุ 51 ปี
    มนัส โกมลฑา
     
  8. sunny2004

    sunny2004 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +30
    อย่ายึดติดที่ตัวบุคคล ให้ยึดที่คำสอน
    ถึงแม้ท่านจะละจากการเป็นพระ
    แต่คำสอนยังอยู่ สามารถปฎิบัติตาม
    ให้ได้ดีได้ ดีกว่าเป็นพระแล้วมั่วแบบบางรูป
    ที่เป็นข่าว มีทั้งอวดอุตริ มีทั้งมัวเมา
    แถเรื่องพบพระอินทร์ว่าเป็นเพื่อนพระชื่อ อินทร์
    อันนี้น่าสลดใจมากกว่า ถ้าคิดว่าอยู่แล้วทำให้ศาสนามัวหมอง
    ลาสิกขาบทออกไปน่ะถูกแล้ว ชาวโลกไม่ติเตียน
    ไม่อาบัติ ต้องอนุโมทนาสาธุในการทำครั้งนี้
     
  9. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174
    หลวงปู่หลุย พบเนื้อคู่ในอดีต ถึงกับซวดเซลงแทบจะล้มลงทั้งยืน



    ขอนำเอาชีวประวัดิ พระเดชพระคุณ หลวงปู่หลุย จันทสาโร จากหนังสือ จันทสาโรบูชา

    โดยคุณหญิงสุรีย์พันธุ์ มณีวัต ตอนหลวงปู่พบเนื้อคู่ในอดีต ถึงกับซวดเซลงแทบจะล้มลง

    ทั้งยืน มาให้ผู้สนใจในธรรมได้อ่าน ถือว่าเพื่อประดับสติปัญญา เพื่อนำมาประกอบกับเรื่อง

    ที่กำลังพิจารณาในกระทู้นี้กันนะ


    อดีตที่ฝังรอยมาจากบุพชาติ

    หลังจากที่เสร็จงานพิธีบรรจุอัฐิธาตุท่านพระอาจารย์บุญในเจดีย์ที่ก่อขึ้นมา ณ บริเวณวัดพระบาทบัวบกแล้ว หลวงปู่ก็ออกธุดงค์วิเวกมาทาง จ.เลย และเพชรบูรณ์ ทางสายนั้น ขณะนั้นยังเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด มีภูเขาใหญ่น้อยเรียงรายกันเป็นดุจทะเลภูเขา เวลาเย็นเห็นแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านไปให้สีสันต่าง ๆ กัน เหมือนคลื่นภูเขาเหล่านั้นกำลังตีฟองคะนองอยู่ในอากาศ อากาศวิเวก ชวนให้ภาวนา ท่านเล่าว่า การเดินแบบนั้นได้ประสบรสแห่งความวิเวกอย่างดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้แทบจะหาความสงบสงัดวิเวกทำนองนั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะได้มีรถยนต์เป็นยานพาหนะจะไปไหนมาไหนก็รวดเร็ว การสงบจิตติดตามไปมิได้วังเวงวิเวกเช่นการเดินด้วยเท้าดังครั้งก่อน

    ท่านแวะมาที่หล่มสัก ด้วยโยมมารดาของท่านมีพื้นเพภูมิลำเนาอยู่ที่นั้นจึงยังมีบ้านญาติบ้านพี่บ้านน้อง คนคุ้นเคยอยู่มาก ท่านมาถึงได้ทราบว่า บ้านญาติคนหนึ่งมีงานศพ นิมนต์พระไปสวดมนต์ ท่านก็ได้รับนิมนต์ไปในงานสวดมนต์นั้นด้วย

    หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ท่านไม่เคยคิดเลยว่า การแวะไปเยี่ยมญาติและสวดมนต์ในครั้งนั้น จะทำให้ท่านถึงกับซวดเซลงแทบจะล้มลงทั้งยืน

    ล้ม...ล้มอย่างไม่มีสติสตังเลยทีเดียว

    ท่านเล่าให้เฉพาะผู้ใกล้ชิดฟังว่า วันนั้นท่านกำลังสวดมนต์เพลินอยู่ ระหว่างหยุดพักการสวด เจ้าบ้านก็นำน้ำปานะมาถวายพระแก้คอแห้ง บังเอิญตาท่านชำเลืองมองไปในหมู่แขกที่กำลังนั่งฟังสวดมนต์อยู่เพียงตาสบตา ท่านก็รู้สึกแปล๊บเข้าไปในหัวใจ

    เหมือนสายฟ้าฟาด แทบจะไม่เป็นสติสมประดี

    ท่านกล่าวว่า เพียงตาพบแว้บเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ท่านก็เซแทบจะล้ม เผอิญขณะนั้นท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ได้รับนิมนต์ไปด้วย ท่านคงสังเกตถึงอาการหรือว่าท่านอาจจะกำหนดจิตทราบเหตุการณ์ก็ได้ ท่านจึงเข้ามาประคองไว้ เพราะมิฉะนั้นหลวงปู่คงจะล้มลงจริง ๆ

    ฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่ทางด้านโน้นก็เป็นลมไปเช่นกัน คงจะเป็นอำนาจความเกี่ยวข้องแต่บุพชาติมา ที่มาบังคับให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น


    พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม

    ท่านบอกว่าในหัวอกเหมือนจะมีอะไร แต่ภายหลังได้พิจารณากลับมา และเมื่อท่านพระอาจารย์สิงห์ได้อธิบายให้ท่านทราบในภายหลังว่า การครั้งนี้เป็นนิมิต เนื่องจากบุพเพสันนิวาสท่านและสุภาพสตรีผู้นั้นเคยเป็นเนื้อคู่เกี่ยวข้องกันต่อมาช้านาน เคยบำเพ็ญบารมีคู่กันมาโดยเฉพาะเมื่อภายหลัง หลวงปู่ได้สารภาพถึงความในใจที่ตั้งปรารถนาพุทธภูมิ ท่านพระอาจารย์สิงห์ก็อธิบายว่า เธอผู้นั้นก็คงได้ปรารถนา บำเพ็ญบารมีคู่กันมาเช่นกัน

    ท่านก็เลยเล่าว่า ครั้งหนึ่ง หลวงปู่อีกองค์หนึ่งก็เช่นกัน ระหว่างที่มากรุงเทพฯเดินบิณฑบาตอยู่แถววัดสระปทุม ได้พบสตรีคนหนึ่ง นั่งรถสามล้อผ่านไป (สมัยนั้นในกรุงเทพฯมีรถสามล้อเป็นยานพาหนะด้วย-----ผู้เขียน) ท่านบอก เพียงตาสบตาเท่านั้น ความรู้สึกมันปล๊าบไปทั้งตัว แทบจะวิ่งตามเขาไป คราวนั้นพระเถระผู้ใหญ่ต้องให้สติและขังท่านไว้ในโบสถ์ พิจารณาดับความรู้สึกกันอยู่นาน ด้วยการเจริญอสุภะจึงสำเร็จ คราวนั้นหลวงปู่องค์นั้นท่านก็เล่าว่า ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ เขาจะไปที่ไหน อย่างไร ก็ไม่ทราบ แต่ใจมันวิ่งเตลิดตามเขาไป พิจารณาแล้วก็ได้ความเช่นกัน ว่าเป็นคู่ที่เคยมีบุพเพสันนิวาสกันมาแต่ชาติก่อน อำนาจกรรมนั้นจึงมาประจักษ์ แต่หากว่าบุญบารมียังมีในเพศพรหมจรรย์ ท่านจึงปลอดภัยไปจากกรรมนี้ได้

    สำหรับกรณีของหลวงปู่ก็เช่นกัน แต่ของท่านนั้น เนื่องจากเป็นการปรารถนาพุทธภูมิเคียงคู่กันมา จึงมีอำนาจรุนแรงมาก และเนื่องจากว่า ฝ่ายหญิงมิได้พบกันแล้วก็ห่างกันไปแบบในกรณีของหลวงปู่องค์นั้น ต้องพบประจันหน้ากันอีกหลายครั้ง เนื่องด้วยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้คุ้นเคยกันประหนึ่งญาติ และมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาหลายชั้น ตั้งแต่ครั้งบิดามารดา ต้องพบเห็นกัน ไม่ใช่ว่าเป็นการพบกันแล้วก็ผ่านจากไป เช่นนั้นอาจจะเป็นกรณีที่ง่ายหน่อย แต่การนี้หลังจากพบครั้งแรกแล้วนั้น ก็ยังต้องเห็นกันอีก กรณีจึงแตกต่างจากพระเถระครูบาอาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานองค์อื่น ในชาตินี้ นอกจากที่ว่า ชั้นบิดามารดารู้จักคุ้นเคยกันประหนึ่งญาติพี่น้อง อาจจะเคยเห็นกันในสมัยวัยเด็ก แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงได้ถูกส่งตัวเข้ามารับการศึกษาในพระนครเสียตั้งแต่ยังเด็ก ได้รับการศึกษาชั้นสูง จึงแทบมิได้พบหน้ากันอีก เมื่อมาพบฝ่ายหญิงนั้น ท่านอยู่ในเพศบรรพชิตแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งเป็นกุลสตรีแสนสวย เป็นรอยแห่งอดีตที่มาพบพานกัน

    ความจริงท่านไม่เคยเล่าถึงรูปลักษณ์ของ “รอยอดีต” ของท่าน แต่บังเอิญผู้เขียนเกิดทราบขึ้นมาเอง

    วันนั้นเป็นเวลาที่มีการสนทนาธรรมกัน และหลวงปู่กำลังเทศนาอธิบายถึงแรงกรรม โดยเฉพาะกรรมเกี่ยวกับบุพเพสันนิวาส ที่พระเณรจะต้องประสบและจะต้องมีกำลังใจอย่างมากที่จะเอาชนะให้ได้ในที่สุด สุดท้ายวันนั้นท่านได้ยกกรณีของท่านขึ้นมาว่า องค์ท่านเองยังแทบเป็นลม ฝ่ายท่านนั้นพระเถระต้องเข้าประคองฝ่ายหญิงเป็นลม ญาติผู้ใหญ่และมารดาต้องเข้าประคอง ขณะฟังไม่ทราบว่าเพราะอะไร ผู้เขียนรู้สึกสว่างวาบขึ้นในใจ เข้าใจนึกถึงชื่อเธอขึ้นมา กราบเรียนท่านโดยเอ่ยชื่อเธอ...ว่าใช่ไหมสุภาพสตรีท่านนั้น

    หลวงปู่ค่อนข้างจะตกใจที่ทำไมศิษย์เกิดรู้จักขึ้นมาได้ แต่ท่านก็อึ้งและยอมรับว่าเข้าใจถูกแล้ว ฉะนั้นการพรรณนารูปร่างลักษณะของเธอ ซึ่งผู้เขียนเผอิญรู้จัก และมีความเคารพนับถือ...นับถือในอัจฉริยะของเธอ จึงเป็นการบรรยายจากผู้เขียนฝ่ายเดียว หลวงปู่ท่านมิได้เล่ารายละเอียดเหล่านั้น ผู้เขียนเพียงแต่ช่วยวาดภาพให้ท่านผู้อ่านได้นึกถึงเรื่องและเข้าใจตามไปด้วยเท่านั้น ว่าเป็นการยากลำบากและต้องการพลังใจอันเด็ดเดี่ยวเพียงใด ที่หลวงปู่ท่านจะสามารถตัดกระแสความผูกพันจากรอยอดีต โดยเฉพาะผู้ที่เป็นคู่บารมีมาสำหรับการปรารถนาพุทธภูมิ

    “รอยอดีต” ของท่านเป็นกุลสตรีที่ได้รับการศึกษามาอย่างดี จบการศึกษาชั้นมัธยมบริบูรณ์จากโรงเรียนสตรีที่มีชื่อทางภาษาต่างประเทศ นาน ๆ เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้าน ก็กลับไปแบบหญิงสาวสมัยใหม่ รูปสวย นัยน์ตาโตงาม มีคนหลายคนที่เล่าว่า เวลาที่เห็นเธอกลับไปเยี่ยมบ้านนั้น เสมือนหนึ่งเห็นเทพธิดาล่องลอยอยู่ในฟ้า ขี่ม้าเก่ง แต่งตัวสวย แบบสาวชาวกรุงแท้ ผมสวย หน้าสวย

    ความจริงแล้ว เจ้าแม่นางกวยมารดาของท่านนั้น ก็เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่มากในเรื่องแต่งตัวงาม ผมของท่านจะจับหย่ง ใช้ขี้ผึ้งจับจอนให้งดงาม เป็นที่เลื่องลือกันทั้งหมู่บ้าน และมีชาวบ้าน มีเพื่อนบ้านใกล้เคียง ผู้ที่เป็นหญิงสาวมักจะมาขอเรียนการทำผมที่ทำไมจึงจะสวยได้อย่างเจ้าแม่นางกวย กลายเป็นที่พูดกันว่า ท่านเป็นประหนึ่งผู้ทำผมให้กับหญิงสาวทั้งหมู่บ้าน แต่นั้นก็เป็นแบบผมในสมัยของท่าน

    กุลสตรีท่านนี้ เป็นแบบสาวสมัยใหม่ ผมงามแบบผมท่าน ขี่ม้าเก่ง และไม่ได้แต่งตัวแบบหญิงสาวชนบท สวมกางเกงขี่ม้าใส่รองเท้าท็อปบู๊ต ต่อมาภายหลัง หลังจากที่ต้องจากกันแล้ว เมื่อเธอกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานคร เธอก็ได้มามีชื่อเสียงอย่างมาก และเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับผู้ที่รักหนังสือทั้งหลาย เข้าใจว่า ผู้ที่มีอายุประมาณ ๕๐ ปีขึ้นไปนั้นจะต้องเคยได้ยินชื่อของเธอมามาก

    หลวงปู่จึงเล่าภายหลังว่า ท่านรู้สึกเหมือนกับว่า หัวอกแทบจะระเบิด อกกลัดเป็นหนอง แต่ใจหนึ่งก็คิดมุ่งมั่นว่า จะต้องบำเพ็ญเพศพรหมจรรย์ต่อไป

    ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เข้าใจในความรู้สึกของหลวงปู่ผู้เป็นศิษย์ใหม่ได้ดี ท่านจึงจัดการพาตัวหลวงปู่รีบจากหล่มสักมาโดยเร็วที่สุดหลวงปู่กล่าวว่า ไม่ใช่เป็น การพาตัว มาอย่างธรรมดา แต่เป็น การควบคุมนักโทษ ผู้นี้ให้หนีออกมาจากมารที่รบกวนหัวใจแต่โดยเร็ว หลวงปู่กล่าวว่า เป็นการเคราะห์ดีอย่างยิ่งที่บังเอิญเจ้าภาพที่หล่มสักนั้นได้นิมนต์ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ไปร่วมในงานศพในครั้งนั้นด้วย หากไม่มีพระเถระช่วยให้สติปรับปรุงแถมยังคอยควบคุมตัว ท่านว่า ไม่ทราบว่าจะรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้หรือไม่ ท่านได้เห็นจริงในตอนนั้นว่า มาตุคามเป็นภัยแก่ตนอย่างยิ่ง เมื่อพระอานนท์กราบทูลถามสมเด็จพระพุทธองค์ว่า ควรปฏิบัติต่อมาตุคามเช่นใด พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า “ไม่ควรมอง ถ้าจำเป็นจะต้องมอง ก็ไม่ควรพูดด้วย ถ้าจำเป็นจะต้องพูดด้วย ก็ให้ตั้งสติ” ท่านตรัสบอกขั้นตอนปฏิบัติต่อมาตุคามเป็นลำดับ ๆ ไป แต่นี่หลวงปู่เพียงโดนขั้นแรก มอง ก็ถูกเปรี้ยงเสียแล้ว ถ้าเป็นนักมวยก็ขึ้นเวทียังไม่ทันจะเริ่มต่อย ก็ถูกน็อค

    ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม นี้เป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของท่านพระอาจารย์มั่นต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็น ที่ พระญาณวิศิษฏ์ ท่านได้เห็นพระรุ่นน้องแสดงกิริยาดูน่ากลัวว่าจะพ่ายแพ้อำนาจของกิเลส ถ้าเป็นนักสู้ ก็เป็นนักสู้ที่ยินยอมจะให้เขายกกรีธาพาเข้าสู่ที่ประหารชีวิตแต่โดยดี ไม่พยายามฝืนต่อสู้แต่อย่างใด

    ท่านจึงควบคุมนักโทษ "ซึ่งเป็นนักโทษหัวใจ" ผู้นั้น รีบหนีออกจากหล่มสักโดยเร็ว ออกมาจากสถานที่เกิดเหตุคือเมืองหล่มสักโดยเร็วที่สุด เที่ยววิเวกลงมาตามป่าตามเขา และเร่งทำตบะความเพียรอย่างหนัก

    ท่านพระอาจารย์สิงห์สนับสนุนให้หลวงปู่อดนอน อดอาหาร เพื่อผ่อนคลายความนึกคิดถึงมาตุคาม ให้เร่งภาวนาพุทโธ...พุทโธถี่ยิบ และนั่งข่มขันธ์ แต่ความกลับกลายเป็นโทษ เคราะห์ดีท่านไม่ตามนิมิต ซึ่งแทนที่จะยอมสิโรราบตามเคราะห์กรรมที่มีอยู่เช่นนั้น เพราะเคยมีกรรมต่อกันมาเช่นนั้น ทำให้พอเห็นก็มืออ่อนเท้าอ่อน ยอมตายง่าย ๆ ท่านกลับเข้าหาครู เชื่อครู เล่านิมิตถวาย ท่านพระอาจารย์สิงห์ท่านได้โอกาส จึงได้อบรมกระหน่ำเฆี่ยนตีทันควัน

    ท่านกล่าวว่า ตัวท่านผ่านเหตุการณ์อันน่าสยดสยองมาได้แล้ว


    สรุปคือว่าประวัติครูบาอาจารย์ที่ท่านสามารถผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้นั้นมีอยู่ สุดท้ายท่านก็

    ข้ามพ้น กิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรมไปได้ บรรลุธรรมที่ไม่ต้องเวียนมาเสพกามอีก

    ต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่สามารถผ่านไปได้ ...ก็ถือว่าเป็นกำลังใจของแต่ละบุคคล...ก็น่าจะเป็นข้อยุติเรื่องนี้

    ส่วนตัวข้าพเจ้าแล้วไม่อยากให้นำเรื่องนี้ มากล่าวเป็นเหตุให้เกิดทุกข์เกิดโทษแก่ผู้หนึ่งผู้ใดอีกเลย

    ผู้สนใจอ่านฉบับเต็ม...http://www.dharma-gateway.com/monk/m...hist-04-01.htm
     
  10. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ท่านตัดกิเลสม่ได้หากอยู่ต่อคิดว่าจะทำให้พระศาสนามัวหมอง จึงขออยู่ในแดนโลกมนุษย์ แต่หากท่านยังศีลห้าให้บริสุทธ์ ท่านก็สาสมารถบรรลุตามชั้นตั้งแต่โสดาปันไปได้ตามลำดับ
    โมทนาสาธุ
    ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  11. Ultimate9000

    Ultimate9000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +32
    แล้วคุณทิ้งกางเกงขาสั้นแล้วไปบวชซัก 30 ปีได้ไหม...
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    อย่าไปมองดูถูกใครเพียงเพราะเขาเคยมีครอบครัวมาก่อน บางคนเลือกดีแล้วแต่ชีวิตมันคือความไม่แน่นอน เคยดูละครเรื่องมาลัยสามชายไหม? ทั้งๆที่นางเอกเป็นผู้หญิงดี กุลสตรีทุกอย่าง มีเชื้อเจ้า แต่โชคชะตาทำให้ เขาต้องเลิกกับสามี หรือสูญเสียสามีไปกับความตาย แล้วผู้หญิงพวกนี้ไม่มีสิทธิ์หาแฟนใหม่หรอ? แล้วผู้หญิงพวกนี้บางคนยังเป็นสาวพรมจารรย์อยู่ด้วยซ้ำไป แต่ชะตากรรมของมนุษย์ในวัฏสงสารมันเอาแน่นอนได้ซะทีไหน แล้วจะไม่ให้โอกาสคนพวกนี้เชียวหรือ ถ้าเป็นที่ต่างประเทศเมืองฝรั่งนะ ผู้ชายหล่อกว่าชายไทยหลายเท่า น้องชายแฟนของดิฉันเอง หล่อโครตๆ หน้าตาประมาณ พระเอกหนังเรื่องHannibal rising เมืองฝรั่งยังไปแต่งงานกับแม่ม้ายลูกติดแล้วอ้วนมากๆอีกต่างหาก เขายังไม่รู้สึกอะไรเลย คนเขารักกัน เรื่องในอดีตมันไปเกี่ยวอะไรด้วย ยังกับพวกผู้ชายมันไม่เคยมีเมีย มาก่อนหลายๆคนทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานงั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  13. กินข้าวยัง

    กินข้าวยัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    มองมุมไหนก็ได้ผลลัพท์ที่มุมนั้น
     
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เราว่า ประเด็นมันไม่ได้อยู่ว่า อายุเท่าไหร่ มีครอบครัว รวย จน คนจีน คนญี่ปุ่น คนไทย ฯลฯ
    แต่เข้าไปใกล้ชิดพระได้อย่างไร ต่างหาก
    และคนรอบข้างไม่รู้ได้อย่างไร
     
  15. naiman3000

    naiman3000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +106
    ใช่ๆๆนี่สิที่เป็นข้อสงสัย ศาสนาพุทธสอนให้ตั้งคำถาม กันนะ คิดกันน่อย ส่วนคนที่บอกว่า นิ่งเสีย ปล่อยว่า ตามดูจิต ตั้งอยู่ในธรรม...บราบรา (บอสระอาไม้โท) ผมมองว่าหัวไม่ก้าวไปไหนเลย ติดแง๊กคิดไม่ออก มันต้องถามที่มาที่ไป แห่งเหตุแห่งผล แห่งกาล แห่งความจริง มายังไงไปยังไง ใช่ไม่ใช่ แยกแยะ เรื่องหนึ่งหนึ่ง วิเคราะห์เรื่องหนึ่ง อธิบายเรื่องหนึ่ง สรุปเรื่องหนึ่ง สรุปคือ คิดถาม ถามคิด อย่างนี้สิผมเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดี
     
  16. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณดูประโยคที่นักรบธรรมเขาเขียนซิ เขียนแค่นี้มันไม่ชัดพอหรือ ว่าเขาเอาเรื่อง อายุ เรื่องที่คุณแอนเขา แต่งงานมาก่อนมาอ้าง ทำไมไม่พิมพ์ อย่างอื่นละว่าเขาเสียหายตรงไหน ที่เขาทำไม่ดีนะ อย่างเออ เห็นว่าเขาไปทอะไรกับทิดมิสซูโอะ ตอนเป็นพระอย่างนี้ ไปว่าจะไม่ว่าเลย

    ประวัติ เธอก็มี มีครอบครัวแล้ว สองครั้ง อายุ 51 ปี


    ดันไปอ้าง อายุ อ้างเขาเคยแต่งงานมาแล้ว เชื่อดิว่าแม้แต่นักรบธรรมเองก็เคยมีเมียมาแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่ผู้ชายทำอะไรไม่เคยผิดในสังคมไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2013
  17. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    ใครทำอะไร ย่อมรู้แก่ใจตนเองดี
     
  18. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ท่านเป็นพุทธเจ้าได้
    ทุกคนเป็นพุทธเจ้าได้
    หากช่วยตัวเองได้คงไม่ต้องไปยืมตังคนอื่นหรือไม่

    ขี้ผงเข้าตายังต้องเรียกหมอมาจากดาวอังคารเลย
    เพราะหมออื่นรักษาไม่หาย
    ยาไม่ถูกกับโรค

    โรคเบื่อหน่ายโลกต้องห่มสีกาสา
    โรคอยากอยู่กับโลกต้องห่มสีกา
    เหมียนส์กันเลย

    อนิจจังชั่งไม่เที่ยง
     
  19. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    อุปทานไปหรือเปล่า
    หรือรับประทานไปมากกว่าเหตุ
     
  20. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    โอ้.ที่สุดไม่มี
    ที่ว่าแน่ยังไม่นอน
    ที่ว่านอนยังดิ้นได้
    ตายไปแล้วเป็นวิญญานอีกหรือไม่
    แล้วเราท่านไปถึงไหน
    ถึงจิตถึงจัยหรือยังขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...