อยากถามกับผู้ที่รู้จัก พูด และ เขียนภาษาเทพได้

จะรู้ไปทำไมครับ ที่นี้ โลกของคน รู้ภาษาเทพแล้วจะคุยกับใคร

 

ปุ่มอนุโมทนา มันทำงานจั้งซี่อีกแล้วเจ้าค่ะ

..........................................


sabayjai, คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมหน้านี้ ซึ่งอาจจะเกิดได้จากเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งดังต่อไปนี้ :

1. คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ให้เข้าชมหน้านี้. หรือ คุณอาจจะกำลังพยายามแก้ไขข้อความของสมาชิกคนอื่น
2. คุณอาจจะกำลังเข้ามาในเขตหวงห้ามของเว็ป เราไม่อนุญาตให้เข้ามาอ่าน หน้านี้

 

ยอมรับได้ค่ะ
ตกลงว่าไม่ยอมรับแค่ยูสนี้ หรือช่วงเวลานี้กันแน่อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เพราะเมื่อเช้ายังทำได้อยู่
น่าจะเป็นเพราะความไม่แน่นอนของระบบน่ะค่ะ เพราะบางครั้งทำได้ บางครั้งทำไม่ได้ วันก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นมาแล้ว แต่พอผ่านไปไม่กี่นาทีก็ทำได้ค่ะ
เมื่อตะกี้ก็เช่นกัน กดไม่ได้อยู่ในช่วงไม่กี่นาที(ขึ้นข้อความโชว์มาอย่างที่ ก๊อปปี้มาค่ะ) และก็กดได้เช่นเดิมค่ะ มาดูผลการกดอนุโมทนาก็ขึ้นโชว์ให้ค่ะ

 

sabayjai, คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมหน้านี้ ซึ่งอาจจะเกิดได้จากเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งดังต่อไปนี้ :

1. คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ให้เข้าชมหน้านี้. หรือ คุณอาจจะกำลังพยายามแก้ไขข้อความของสมาชิกคนอื่น
2. คุณอาจจะกำลังเข้ามาในเขตหวงห้ามของเว็ป เราไม่อนุญาตให้เข้ามาอ่าน หน้านี้

.......................................

มันมักจะเป็น จะอี้ จะอี้ แล

 

หลายมิติจริงๆ ค่ะ อิอิ..

มันเป็นของมันเอง หรือท่านทำให้เป็นแบบนี้หรือคะ มาทีเดียวหลายความเห็นเลยเชียว

 

ดิฉันว่ามันเป็นการปรุกจิตใจให้คิดไปเองมากกว่าคะ ออกแนวจิตวิทยามากกว่าไสยศาสตร์เตุใดดิฉันถึงเชื่อเช่นนี้

ตัวอักษรภาษาเทพที่ทั้งจขคแะเพื่อนสมาชิกอีกท่านนำมาโชว์ในกระทู้นี้ เห็นได้ชัว่าเป็นการเขียนขึ้นโดยใช้ภาษาแขกที่เขาเคยเห็นมามาดัดแปลงผสมกับตัวอักษรภาษาจีน ซึ่งมันไม่มีตัวอักษเรช่นนี้อยู่ในตระกูลภาษาใดๆทั้งสิ้น เกิดจากเขียน แต่งขึ้นมาจินตนาการขึ้นเองจากการที่เขาเคยผ่านหูผ่านตากับภาษาจีนและแขกซึ่งสองกลุ่มนี้มัจะมีคนชอบนำไปอ้างอิงเชื่อมโยงกับ ไสยศาสตร์อยู่เสมอๆ.....จากตรรกะของดิฉันเอง ถ้ามันเป็นภาษาเทพจริง มันต้องเป็นตัวอักษรหรือสัญญลักษณ์ที่ไม่เกี่ยวโยงใดๆกับภาษาอื่นที่ปรากฏในโลกนี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็มีนักโบราณคดีที่เขาไปศึกษาตัวอักขระรูน ซึ่งเป็นภาษาที่พวกพ่อมดแม่มดสมัยหลายๆพันปีในเยอรมันใช้ซึ่งเป็นต้นแบบของภาษาอังกฤษในปัจจุบัน ขนาดนั้นมันยังไม่มีความเหมือนภาษาอังกฤษเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะมันโบราณ 5000ปี และการเขียนก็มีวิธีต่างกัน คืออักขระรูนจะเป็นการเขียนวงกลมๆซ้อนๆกันหลายๆชั้น เช่นเสียงเปลี่ยนวงก็ลากโย้ไปด้านนั้นบ้างนี้บ้าง.......แล้วมาดูภาษาเทพที่เพื่อนๆโชว์บ้าง ก็อปปี้รูุปแบบภาษาแขกกะจีนมาจินตนาการผสมกัน มันง่ายเกินไปคะ ไม่มีความสับซ้อนพอที่จะบอกได้ว่า เป็นภาษาอีกตระกูลนึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่ภาษาที่ออกมาจากโลกมนุษย์ ดังนั้นรูปแบบมันควรจะยิ่งมีวิธีเขียนที่ต่างจากภาษามนุษย์มากกว่านี้

 

ผมได้ตั้งกระทู้ถามไว้นานมากแล้ว และไม่ได้เข้ามาที่เวปพลังจิตนานมาก หลังจากได้ดูรายการข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้เรื่องภาษาเทพ จึงเกิดความสนใจอีกครั้ง ผมเคยค้นหาคำตอบสำหรับเรื่องภาษาเหล่านี้ ก็ได้รับคำตอบสำหรับตัวผมเองแล้วครับว่า เรื่องการพูดการเขียนและการแปลภาษาเหล่านี้ไม่ใช่หนทางของการพ้นจากความเป็นทุกข์


สำหรับคนที่ไม่เคยสำผัสกับเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องแปลก ในศาสนาคริสต์ก็มีการเอ่ยถึงภาษานี้เช่นกันมีกล่าวชัดเจนในพระคำภรีไบเบิ้ล เรียกว่า ภาษาแปลกๆ

ขออ้างอิงเวป
http://www.pantown.com/board.php?id=29716&area=3&name=board1&topic=22&action=view

ภาษาแปลกๆ เป็นภาษาอธิษฐาน เป็นการกล่าวความล้ำลึกฝ่ายพระวิญญาณ - ๑ คร. ๑๔:๒ เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่พูดภาษาแปลกๆได้ ไม่ได้พูดกับมนุษย์ แต่ทูลต่อพระเจ้า เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจได้ แต่เขาพูดเป็นความล้ำลึกฝ่ายพระวิญญาณ


การอธิษฐานภาษาแปลกๆ ไม่ใช่การอธิษฐานด้วยสมอง แต่เป็นการอธิษฐานด้วยวิญญาณ - ๑๔ เพราะถ้าข้าพเจ้าอธิษฐานเป็นภาษาแปลกๆ ใจของข้าพเจ้าอธิษฐานก็จริงแต่ความคิดก็ไม่เป็นประโยชน์ (คคำกรีกของคำว่า "ใจ" ในข้อนี้หมายถึง "วิญญาณ")

ภาษาแปลกๆ ทำให้ผู้พูดเจริญขึ้น - ๔ ฝ่ายคนที่พูดภาษาแปลกๆนั้นก็ทำให้ตนเองเจริญฝ่ายเดียว

การอธิษฐานภาษาแปลกๆ เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าด้วยวิญญาณ - มิฉะนั้นเมื่อท่านขอบพระคุณพระเจ้าด้วยใจแล้วคนที่อยู่ในพวกที่รู้ไม่ถึงจะว่าอาเมนเมื่อท่านโมทนาพระคุณอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด..

เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าอย่างไพเราะ - 1 โครินธ์ 14:17 แม้ท่านโมทนาพระคุณอย่างไพเราะก็ตามแต่คนอื่นนั้นจะไม่จำเริญขึ้น..

ภาษาแปลกๆ เป็นได้ทั้งภาษามนุษย์หรือภาษาทูตสวรรค์ - ๑ คร. ๑๓:๑ แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาแปลกๆได้เป็นภาษามนุษย์ก็ดีเป็นภาษาทูตสวรรค์ก็ดีแต่ไม่มีความรักข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง

เป็นหลักฐานของการรับพระราชทานฤทธิ์เดชจากเบื้องบน รับบัพติศมาในพระวิญญาณ ประกอบด้วยพระวิญญาณ – กจ. ๒:๔ เขาเหล่านั้นก็ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงตั้งต้นพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงโปรดให้พูด

เป็นน้ำพระทัยสำหรับผู้เชื่อทุกคน - ๑ คร. ๑๔:๕ ข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านทั้งหลายพูดภาษาแปลกๆได้แต่ยิ่งกว่านั้นอีกข้าพเจ้าปรารถนาจะให้ท่านทั้งหลายเผยพระวจนะได้เพราะว่าผู้เผยพระวจนะได้นั้นก็ใหญ่กว่าคนที่พูดภาษาแปลกๆได้เว้นแต่เขาสามารถแปลภาษานั้นๆออกเพื่อคริสตจักรจะได้รับความเจริญขึ้น

มก. ๑๖:๑๗ มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ

เปาโลพูดภาษาแปลกๆ อยู่เสมอและท่านใช้เวลาพูดเป็นส่วนตัวมากกว่าผู้เชื่อทุกคน - 1 โครินธ์ 14:18-19 ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าข้าพเจ้าพูดภาษาแปลกๆมากกว่าท่านทั้งหลายอีก แต่ว่าในคริสตจักรข้าพเจ้าพอใจที่จะพูดสักห้าคำด้วยความคิดเพื่อเป็นคติแก่คนอื่นดีกว่าที่จะพูดหมื่นคำเป็นภาษาแปลกๆ

เปาโลสั่งว่าอย่าห้ามการพูดภาษาแปลกๆ - ๓๙ เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายจงตั้งใจปรารถนาการเผยพระวจนะที่เขาพูดภาษาแปลกๆ ก็อย่าห้ามเลย

 

จากเวปยูทูป
ความสำคัญของการพูดภาษาแปลกๆ ของทางคริสต์
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=h-26YVt2Cq4

 

จากยูทูป มีคนสังเกตุเรื่องนี้ลงคลิปไว้เช่นกันครับ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=DcMBmRIPPyo]ภาษาแปลกๆ พระกับศาสนาจารย์เหมือนกันเด๊ะเลย - YouTube[/ame]

 

มันไม่ใช่ภาษาอะไรหรอกครับ ถ้าเป็นภาษาจริงมีวิธีสังเกตก็คือจะมีอักษรบางตัวใช้บ่อยกว่าบางตัว เช่น พวกสระ
และก็จะมีคำบางคำที่ใช้บ่อยกว่าคำบางคำ ลองสังเกตภาษาทุกแบบในโลกนี้ก็จะรู้ว่ามันเป็นแบบนี้

แต่ถ้าคุณมั่วมันจะไม่เป็นแบบนี้ .............นี้เป็นวิธีง่ายๆๆที่คนที่เรียนมาทางภาษาเขาใช้นะ เพราะพวกนี้บางทีไปเจอบันทึกโบราณ ที่เขียนด้วยภาษาที่ไม่รู้จัก เขาก็ต้องตรวจดูเพื่อที่จะอ่านมัน สิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือดูสิ่งนี้แหละ ถ้าไม่เข้าเค้าก็แสดงว่าไม่ใช่ภาษา หรือเป็นสิ่งที่เขียนล้อเล่นให้ดูลึกลับไว้หลอกคนเขียนให้เหมือนภาษา

ดูและๆๆ มันมั่วแน่นอนแต่มันก็ดีมันช่วยให้คุณระบายบางอย่างออกมาได้ คล้ายคุณแหกปากสุดเสียงกลางสามแยกนั้นแหละ ..แน่นอนว่าในชีวิตจริงคุรทำไม่ได้เพราะไมมีที่ที่มีแต่คุณคนมันเยอะไปหมดและถ้าคุณทำเขาก็จะว่าคุณบ้า แต่มันก็มีประโยชน์นะ จิตแพทย์บางท่านก็แนะนำคนไข้แบบนี้
คนสอนศาสนาบางทีก็เหมือนจิตแพทย์นั้นแหละ ...กรณีนี้ก็ไม่ต่างกันถ้าไม่เป็นอุบายที่ฉลาด ช่วยชาวบ้านที่ทุกข์ใจได้ปล่อยออกมา
ก็เป็นการหลอกแดกชาวบ้านของคนสอนศาสนาหรือคนศาสนาบ้าไปจริงๆๆนั้นแหละ

ส่วนภาษาแปลกๆๆที่มีคนเอาคัมภีร์ไบเบิ้ลมาอ้างนี่ ผมว่า เขาหมายถึงภาษาธรรมนะ ไม่ใช่ "สมากึ๋ย สมาเห้ โปโล โลตัส เมโทร อนุเสาวโร โรบินสัน รัชดา เตาปูน บุคโล บางโพ บางปิ้ง บางพลี ทีวี พัดลม ตู้เย็น โอ้วมาชิกาเดะส์
เซมากูเตะ ..ฯลฯ "

อะไรเทือกนี้

เพราะ พระเยซูเวลาสอนจะไม่สอนตรงๆๆแต่ตรัสเป็นคำอุปมาคุณก็ต้องไปตีความเอา ถ้าคุณไม่เข้าใจธรรมคุณก้ฟังไม่รู้เรื่องว่าท่านพูดอะไร? ผมว่าเขาหมายถึงแบบนี้นะเพราะอ่านไบเบิ้ลมันเป็นแบบนี้

อย่าง"คนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ"

อันนี้จะว่าไง คุณจะว่าตามตัวอักษร ก็ตามใจ แต่ผมไม่ว่าตามตัวอักษรเพราะคัมภีร์มันว่าพระเยซุท่านไม่พูดตรงๆๆแต่ต้องตีความ คือท่านพูดภาษา
ผีในที่นี้คืออะไร คือกิเลส คืออวิชชา ความเห็นแก่ตัว คนที่เชื่อคือใครคือคนที่เชื่อพระเยซู คือคนที่เชื่อในสิ่งที่พระเยซูสอนชี้ไว้แล้วดำเนินตาม เห็นไหมเขาก็ขับผีได้คือ กิเลส คืออวิชชา ความเห็นแก่ตัว ในตัวเขาเองและก็ตัวคนอื่นได้ เขาก็ไม่เป็นทาสของเนื้อหนังอีกแต่เป็นคนที่เกิดใหม่ในทางวิญญาณ

อย่าง"แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาแปลกๆได้เป็นภาษามนุษย์ก็ดีเป็นภาษาทูตสวรรค์ก็ดีแต่ไม่มีความรักข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง"
ประเด็นอันนี้ไม่ได้อยู่ที่เปาโล พูดภาษาอะไรได้หรือภาษาของเพมีจริงเพราะเทพำมีจริงไม่ได้พูดภาษาที่รู้จักกันว่าเป็นภาษามนุษย์ แต่อยู่ที่ความรัก คือเปาโลจะเทศน์ได้ดีแค่ไหนก็แล้วแต่แต่ถ้าไม่ได้ชี้ไปที่ความรักคือไม่ได้สอนให้คนรักกันละทิ้งความเห็นแก่ตัว คำพูดเหล่านั้นก็ไม่มีคุณค่า

อย่าง"เขาเหล่านั้นก็ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงตั้งต้นพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงโปรดให้พูด"
อันนี้หมายความว่าคนที่กลับใจใหม่หันมาฟังพระคริสต์มาเชื่อพระคริสต์แล้วบังเกดใหม่คือตายพร้องพระคริสต์ (ตายจากการยึดถือตัวกูของกู) แล้วเขาบังเกิดใหม่ทางฝ่ายวิญญาณดั้งนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นคนของเนื้อหนัง ของกิเลสอีก เขาก็พูดต่างออกไปคือพูดสิ่งที่เป็นจริงเป็นสัทธรรม

 

พูดสองครั้งให้เหมือนกันหละก็ เทพแน่ๆ

(||)(||)(||)(||)(||)(||)

 

อะเซเดเฮ สะยึ๋ม กึ๋ย ยูโน้

 

รู้ได้ไงว่า ที่เขียนที่พูดภาษาแปลกๆนั้นเป็นภาษาเทพครับ ใครเป็นคนบอก ร่างทรงเหรอ หรือว่าเป็นองค์เทพลงมาบอกเอง ถ้าเทพจะติดต่อกับมนุษย์ท่านคงไม่ใช้ภาษาแปลกประหลาดหรอกครับ คนที่ท่านจะติดต่อด้วยเข้าใจภาษาอะไรท่านก็ใช้ภาษานั้นแหละ จริงๆน่าจะเป็นการสื่อสารทางจิตมากกว่า อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่ผู้รู้ภาษาเทพ

 

คาถากัน ภูตผี ปิศาจทุกศาสนา ใช่ไหมครับ..
ผมก็จดไว้เป็นคาถาประจำตัวเหมือนกัน เผื่อเจอวิญญาณต่างศาสนา..55

 

ไดโจบูไดป๊อกๆ ไคซะมะโกมะฮึ ๕๕๕

 

เยเดเมเนดายาเดยาเดเนยาฮาราฮารา
ก็ประมาณนี้แหละเผลอๆก็พูดออกมา
แต่ไม่เหมือนอย่างนี้ตลอดหรอกนะบางทีร้องเป็นเพลง
มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆเคยอัดเสียงลงในไอพอดไว้ฟังเอง
ลบทิ้งไปเยอะแล้วเพราะไม่รู้ว่าตัวเราพูดทำไม
และพูดกับใครแล้วเป็นภาษาอะไร
ก็เลยคิดเอาเองว่าตัวเราเคยเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน
น่าจะเป็นภาษาในอดีตชาติ
ตอนนี้เลยไม่สนใจเห็นตอนนี้มีคนมาตั้งกระทู้หลายกระทู้
ถึงพูดได้จะเอาไปพูดกับใครอย่างว่า
อีกอย่างไม่ใช่ว่าจำได้หมด
บางทีฟังไปจดไปยังไม่ทันเลยบางทีเร็วปรื้อ
แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันไปตลอดพูดไปแล้วกลับมาพูดไหม่
ก็ไม่แน่ใจว่าจะเหมือน
แถมบางทีก็พูดขึ้นมาเองใช่ว่านึกจะพูดจะจำแล้วพูดออกมา
มันเหมือนถูกดลใจให้พูดออกมา

 

ยังหาไอพอดไม่เจอเพราะว่าไม่ได้มาสักปีแล้วมั้ง
พอดีตอนนี้เห็นคนสงสัยกันเลยจะหามาฟังดูใหม่เผื่อจแกะออกมาได้บ้าง

 

ตอนนี้หาเจอแล้วแต่ว่ามันไม่มีเสียงเหลืออยู่เลย
สงสัยตัวเองลบทิ้งไปหมด
แต่ไอพอดนี้เป็นรุ่นเฉลิมพระเกียรติมีพระราชกรณียกิจของในหลวง
แต่ว่ามันหายไปแล้วอันนี้เสียใจยิ่งกว่า ภาษาเทพหาย
ตราไว้ในดวงจิตละกัน

 

แค่จะเล่าให้ฟังว่า คนบางคนไม่สนใจเรื่องการเป็นร่างทรง แต่วันหนึ่งก็สามารถพูดภาษาแปลกได้ ภาษาเหล่านี้ไม่ได้ใช้พูดกับมนุษย์ แต่เป็นการพูดกับจิตวิญญานด้วยกัน โดยอาจพูดเวลาอยู่คนเดียว เช่นเวลาขับรถ หรือพูดกับคนที่พูดภาษาแปลกได้ด้วยกันเอง เวลาพูดคนพูดจะไม่เข้าใจความหมายทุกคำเป็นคำๆ ว่าคำนี้หมายถึงอะไรๆ แต่บางครั้งจะเข้าใจความหมายโดยรวมของสิ่งที่พูด ซึ่งมีบางครั้งไม่เข้าใจเลย เวลาพูดภาษามนุษย์เราจะนึกกันก่อนว่าจะพูดว่าอย่างไรบ้าง แต่ตอนพูดภาษาแปลกนั้น คนพูดจะพูดไปโดยไม่ต้องนึกก่อน คล่อง เร็วบรื๋อ เวลาขบขัน ก็จะหัวเราะจนเลือดสูบฉีดไปเต็มหน้าไปหมด ร่างกายเบิกบานมาก บางครั้งคนที่พูดภาษาแปลกนั้น ก็พูดกับคนอื่นด้วยภาษามนุษย์สำเนียงแปลก อาจชัดน้อยกว่าธรรมดาที่เคยพูด หรือเรียกชื่อสิ่งของ ชื่อคน และสัตว์ ไม่ได้ตรงนัก แต่คนบางคนที่เป็นแบบนั้น ก็ยังคงยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ว่าการพูดภาษาแปลก หรือการช่วยคนด้วยการอธิบายหลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้คนทุกข์ที่มาเจอกันด้วยอะไรก็แล้วแต่ให้คลายทุกข์นั้น มิใช่หนทางดับทุกข์ของตนเอง แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันมาเอง ไม่ต้องใฝ่หาเข้ามาใส่ัตัว จึงเพียรปฏิบัติตนด้วยสมถภาวนา รักษาศีล และพยายามทำตนให้ดี โดยไม่ต้องคิดว่าดีกว่าใครๆ แต่ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะดีได้....

 

ภาษามีตั้งมากมายในโลก ภาษาที่ตนไม่รู้จัก ภาษาที่สาบสูญไป ก็ไปเรียกว่าภาษาเทพ
อนาคตชาวไทยตายหมด เป็นผี อีกพันปีไปเข้าแฝงคนเขียนภาษาไทยพูดภาษาไทยออกมา. เขาก็ว่าภาษาเทพ
ไม่น่าสนใจเบย