ทุกข์เพราะโดนด่า โดนแย่งของที่รัก

เลิกกันมานานแล้ว และทำใจผ่านทุกข์ความเจ็บปวดได้เพราะฝึก กรรมฐานของหลวงพ่อ ได้รู้ความทุกข์ก่อนจะตาย จะเจ็บกว่า พอเริ่มเข็มแข็งขึ้น ผู้ชายก็บอกว่าจะแต่งงานเพราะได้ทำ ผู้หญิงท้อง และขออโหสิ กับเรา....เรื่องมันน่าจะจบด้วยดี แต่อาทิตย์ถัดมานี้ฝ่ายชายก็คร่ำครวญว่า ไม่อยากแต่งและห่างหญิงคนนั้นได้จะเดือนละ เราก็ไม่สนใจแล้วเค้าก็ก่อเรื่องให้ฉันต้องติดต่อไป เพราะจ่ายค่าโทรศัพท์รายเดือนให้ตลอด ในขณะที่ตัวฉันก็ตั้งหักผ่านบัญชีเลยมียอดชำระเกิน.....แต่แล้วฉันก็โดนผู้หญิงที่เคยแย่งแฟนฉันไป เคยด่าราวีนฉันมาก่อนหน้านี้ มากระหน่ำ หยาบคายใส่อีกครั้งโดยใช้มือถือของฝ่ายชายส่งข้อความมา เสียใจและทุกข์ใจจริง ๆ ...ฉันเฝ้าคิดแต่ว่าทำไมผู้ชายเป็นคนแบบนี้ เค้าให้ผู้หญิงคนนั้นชนะฉันด้วยการบอกรักเค้า ต่อหน้าฉัน และยังจะให้ผู้หญิงว่าฉัน โดยการที่เค้าไม่เคยทำอะไร ถึง 2ครั้ง การนิ่งเฉยใคร ไว้ก็ว่าดี แต่มันไม่สามารถลบรอย บางทีก็แค้น และเสียใจ ทำไงดีทำสมาธิก็ไม่ได้ มันฟุ้งซ่านจิง ๆ ขอกัณยานิมิตรช่วยชี้ทางสว่างทีค่ะ

 

หากมีความทุกข์จากรักขึ้นมา ถ้าถามว่าทำไมเราต้องมาทุกข์ใจกับคนคนนี้ ก็ต้องตอบว่าเพราะมันเป็นผลมาจากกรรมที่คนทั้งสองได้ทำร่วมกัน และที่เราทำมา กรรมเก่าพาเราลงมาติดกับ กรรมมันเริ่มส่งผลตั้งแต่วันแรกที่ใจคุณเข้าไปผูกกับเขา กรรมส่งผลที่ใจให้มารัก ให้มาหลง บังตาไว้ไม่ให้เห็นความสมเหตุสมผลทั้งหลาย หรือรู้ทั้งรู้ก็ยังรัก ถูกดูดเข้าไปใช้กรรม เป็นกงกรรมกงเกวียน หรือกฎแห่งกรรมก็คือกรรมเก่าของเรา กรรมใหม่ของเขา มันเป็นวงจรเพราะกรรมที่เราเคยทำไว้ส่งผลให้เรามาเจอกับคนที่มีนิสัยแบบนี้เพื่อส่งผลทางใจให้เขาทำกรรมกับเรา ตามที่เราเคยทำกับคนอื่นให้ทุกข์แบบนั้น ซึ่งคนที่ก่อกรรมกับเราก็จะต้องไปรับผลที่ทำกรรมโดยไปเจอกับคนที่ก่อกรรม และทอดสืบต่อกรรมกันไปเป็นไม่มีวันจบ

ถ้านึกขึ้นได้ว่าเคยทำกับใครไว้ในชาตินี้ ให้รีบไปขออโหสิกรรมจากคนเหล่านั้นโดยเร็วที่สุด ตั้งสัจจะกับตนเอง อาจจะต่อหน้าคนที่เราเคยไปกระทำเขาไว้ หรือต่อหน้าพระพุทธรูปว่า เราจะไม่ทำกรรมอย่างนี้กับใครอีกไม่ว่าจะมีเหตุการณ์มาบีบบังคับ ลำบากเพียงใด แต่ถ้านึกเท่าไรก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเคยไปทำอะไรแบบนี้ไว้กับใครตอนไหนในชาติปัจจุบัน ก็เป็นไปได้ว่าเป็นเพราะผลของกรรมที่เราทำมาในอดีตชาติ ก็ขอให้ระลึกขออโหสิกรรม และตั้งใจอย่างเดียวกันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

การตั้งใจอันมีเจตนาและสัจจะอธิษฐานที่จะละเว้นการกระทำนี้เองคือศีล ซึ่งเป็นมโนกรรมที่ส่งผลในการปกป้องทุกข์ทางใจเป็นอันดับแรก เพราะว่าความตั้งใจทางมโนกรรมนั้นเป็นการกระทำด้วยเจตนาอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องมีผลตามมาซึ่งผลของกรรมนี้ก็คือ ปราการป้องกันใจเราจากทุกข์ เพราะเราตั้งใจไม่ให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ ยิ่งตั้งใจหนักแน่นมากขึ้นเท่าไรความหนักแน่นในการปกป้องทุกข์ก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นตาม การแก้วิบากกรรมคือ
เข้าใจกฏแห่งกรรม ชำระหนี้เก่า ยอมรับสิ่งที่ได้เจอ สำนึกผิดให้ได้ก่อนในระดับ ที่จะไม่ทำอีกเลยและไปขออโหสิกรรมจากคนที่เราไปทำเขาไว้ รวมทั้งอโหสิให้กับคนที่ทำกับเรา สร้างเหตุใหม่ที่ดี ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ใครทุกข์แบบเดียวกับที่เราทุกข์อีกแล้ว หรือไปแนะนำช่วยคนอื่นไม่ให้ทำผิดตามเรา

ขอให้ท่าน จขกท หมั่นเจริญศีลภาวนาปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นจากกรรมด้วยการทำจิตให้เป็นสมาธินะคะ ขอให้พึงระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการเพียรจนบรรลุธรรมตามอริยสัจสี่ กำหนดดูลมหายใจเข้าออกให้เป็นสมาธิ อย่าให้จิตสัดส่าย ฟุ้งซ่าน เมื่อจิตสงบ ปลอดโปร่ง ผ่องใส กุศลจิตก็จะเกิดขึ้น เมื่อนั้นก็ควรอุทิศบุญ ขออโหสิกรรม และแผ่เมตตาไปในวิบากกรรมที่เราเคยสร้างไว้ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติที่เราทั้งระลึกได้และระลึกไม่ได้ เพื่อจะได้หลุดพ้นจากทุกข์ที่เราเคยสร้างไว้ เพียรทำเถิดนะคะ การสร้างบุญต้องใช้เวลาในการสะสม ขอเอาใจช่วยท่าน จขกท ให้หลุดพ้นจากทุกข์และอุปสรรคทั้งปวงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยการเร่งสร้างกุศลตั้งแต่บัดนี้นะคะ

 

ก่อนอื่น ยกเลิก จ่ายตังค์ให้เค้าก่อน

แล้วบล๊อกเบอร์ โทรแฟนเก่าคุณเสีย
แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที น้อ

 

เราเฝ้าคิดว่า เขาเลว เราดี

เราเฝ้าโทษโน่น นี่ นั่น ฯลฯ

มีแต่ ทิฐิ มานะ ล้วนทำใหเป็นทุกข์

ลองถอยออกมาพิจารณาตามความเป็นจริงว่า

ทุกข์จากอะไร ส่วกมากเกิดจากกิเลสในตัวเราเอง และคนอื่นนำมาให้

เราเห็นมันเต้นอยู่ตัวนึงแระคือ แค้น โกรธ พยาบาท

เป็นกิเลสตัวสำคัญที่ทำให้เข้าถึงธรรมได้ยาก ซึ่งไม่แปลกที่ทำสมาธิไม่ได้

พยายามวาง แค้น พยาบาท โกรธ หาทางดับด้วย ปัญญา

ค่อยๆ แก้ปัญหาทีละอย่างด้วยความมีสติ ไม่ทำตามอารมณ์

รู้ว่าพูดง่าย ทำมันยาก แต่ก็ต้องฝืนนะ

ส่ง EMS กำลังใจ ไปกับอากาศค่ะ สูดลมหายใจเข้าให้รู้ว่ามีคนให้กำลังใจ

ปล่อยลมหายใจออกให้รู้ว่าไม่ได้มีแต่เราที่ทุกข์ สู้ๆ นะ ^_^

 

ไปออกกำลังกายเยอะ ๆ
่ต่อยกระสอบทรายก็ได้
พอเหนื่อยจนไปนอนหอบก็สังเกตลมหายใจไป
เดี๋ยวเกิดสมาธิแล้วคิดได้เอง

เอาให้เหนื่อยจนตาลายคิดอะไรไม่ออกเลยนะ

 

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ

 

ถ้าใจฟุ้งซ่าน ความคิดก็จะเพ้อเจ้อ ทำใจให้สงบก่อน ยกความสงบเป็นพื้นฐานของความคิด แล้วความคิดจะคมชัดขึ้น ไม่วกวน วุ่นวาย แส่ส่ายไร้ทิศทาง จนทุกข์...เพราะคิดผิด

ต้องใช้สติพิชิตศัตรูภายในใจตนเองให้ได้..หากไม่ยึดติดในความรักมากเกินไป หัวใจก็จะถูกทำร้ายน้อยลง เจ็บปวดน้อยลง..และไม่มีประโยชน์อันใดกับการปล่อยให้บาดแผลเดิมๆ มาซ้ำเติมชีวิตของเราให้ย่อยยับลงไปอีก บาดแผลที่เคยทำให้เราเจ็บ ความพ่ายแพ้ พลาดพลั้งที่เคยเกิด ซึ่งความจริงเรื่องราวเหล่านั้นได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว จบลงไปเนิ่นนานมาแล้ว หากแต่เรายังคงนำพามันติดตัวติดหัวใจเรามาโดยตลอด..ปลดวางมันออกไปจากชีวิตของเราเสียทีดีไหม..แล้วพรุ่งนี้..เราจะได้เริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสเสียทีนะคะ..

ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไป..หรือบางมุมในชีวิตจะเปลี่ยนแปลง..เมื่อล้มก็ต้องลุก..ทุกข์ก็ต้องวาง..อยู่บนเส้นทางชีวิต..ต้องดิ้นรนต่อไปไม่ยอมแพ้..เพราะในทุกที่ทุกเวลาของชีวิต..ย่อมยังมีด้านดีให้เราค้นพบเสมอ..เอาใจช่วยค่ะ^^