เรื่องเด่น รวมหลวงพ่อตอบปัญหา/จากคำบอกเล่า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    สนทนาที่ชิคาโก 22 เมษายน 2527

    ในบทสนทนานี้จะยาวไปบ้างแต่มีเกร็ดความรู้มากมายหลากหลายเรื่องมากครับ เคยทราบมาว่าหลวงปู่ปานท่านจะลงมาตรัสในกัปนี้แต่ไม่ทราบว่าเป็นองค์ที่เท่าใดก็ได้ทราบจากที่หลวงพ่อเล่าในบทนี้เอง ลองอ่านกันดูครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]




    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากหนังสือ " รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 10 หน้า 491 - 513)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  5. จิรญาโณ

    จิรญาโณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +2,800
    มีต่อหน้า 514 ด้วยมั้ยครับพี่วรรณ ..
    เหมือนหลวงพ่อจะสอนเรื่องพระโสดาบันต่อครับ
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    ไม่มีครับคุณบุ๊ค หน้า 513 เป็นหน้าสุดท้ายเลยของหนังสือเล่มนี้ ผมเข้าใจว่าเทปที่แกะเสียงมาหมดเพียงตรงนี้เองครับ
     
  7. จิรญาโณ

    จิรญาโณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +2,800
    ขอบคุณครับพี่วรรณ .. เห็นหลวงพ่อพูดว่า

    "ถ้าเราทรงอารมณ์พระโสดาบันได้ จะเป็นมรรคหรือเป็นผลก็ตาม"

    เลยนึกว่ามีต่อครับ .. โมทนาบุญในธรรมทานด้วยครับพี่
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    หายากครับที่จะมีพระองค์ไหนที่สามารถรู้และมาเล่าให้ฟังได้ชัดเจนว่าพระเจ้าตากสินท่านลาพุทธภูมิเมื่อวันที่เท่าไหร่และได้จบกิจเป็นพระอรหันต์แล้วเหมือนหลวงพ่อของเรา



    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    (จากธัมมวิโมกข์ มีนาคม 2533 หน้า 78 - 83)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    เรื่องที่หลวงพ่อขี่นกเสกบิน เป็นเรื่องอัศจรรย์มากเรื่องนึง ลองอ่านกันดูครับ


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากสนทนาที่ตึกรับแขกใหม่ ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2533 หน้า 21 - 25)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    " ครูจำเป็น " เป็นนามปากกาของอาจารย์ปริญญา นุตาลัย อ.ปริญญาก็มีวิธีของท่านแนะนำผู้ฝึกให้ฝึกมโนมยิทธิให้ได้เร็วและเห็นได้ชัดเจน ลองอ่านดูครับเผื่อว่าจะลองนำไปทดลองปฏิบัติกันดู



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 6 ฉบับที่ 53 หน้า 108 - 113)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2013
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    " จากคำบอกเล่า " ในธัมมวิโมกข์ฉบันที่นำมาลงนี้มีเรื่องหลากหลายเป็นเกร็ดความรู้ดีครับ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2015
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จาก " จากคำบอกเล่า " ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2538 หน้า 89 - 95)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2015
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    จากคำบอกเล่า ในธัมมวิโมกข์ฉบับนี้ไม่ได้ถ่ายมาลงหมดเพราะบางส่วน (การห่มจีวรของพระวัดท่าซุง)เคยนำมาลงไว้ตอนต้นกระทู้แล้วครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    เรื่อง การห่มจีวรของพระวัดท่าซุง

    " การห่มจีวรนี่ ที่วัดท่าซุงทำไมไม่ห่มกลัก ทำไมต้องห่มเหลือง กลักไม่มีเลย ทำไมเรื่องราวมันเป็นยังไงมายังไง มีอะไรเล่าให้ลูกหลานฟังไหมครับ "

    เรื่องห่มจีวรเหมือนกัน สมัยก่อนนี่ก็มีสีกลักมั่ง สีแก่นขนุน สีกลักดำ กลักแดง กลักแก่นขนุน สีเหลือง อะไรอย่างนี้ ใครพอใจอย่างไหนก็ไปห่มกันเอา มีจีวรอะไรก็ไปห่มกัน ก็มีอยู่วันหนึ่ง เราก็ไปช่วยหลวงพ่อห่มจีวร ก็ห่มจีวร จับจีวรให้ท่าน สำหรับผ้ารัดอกอะไร จะไปรับแขก เวลามีงานน่ะ ท่านก็บอกกับเรา ท่านก็ติงมา ท่านบอก เราเป็นพระอยู่ในบ้านในเมือง ไม่ต้องไปห่มสีกลักกับเขานะ ไม่ต้องไปแสดงตัวว่าเป็นพระกรรมฐาน อยู่ในเมืองให้ใช้สีนี้ มันกลืนกับนักเรียนไป มันกลืนกับพระในเมืองไป แต่จริงๆคนเขามองก็มองกันแค่ภายนอก ตัวนี้มันเป็นมายาอีกตัวหนึ่ง เหมือนทำให้เขารู้ว่าเราเป็นพระกรรมฐาน มองละเอียดจะรู้ว่านี่มันเป็นมายาอีกตัวหนึ่ง

    อย่างเราแต่งสีสารพัดสีนี่ แต่จริงๆเรารักษาศีล 8 ก็ได้ รักษาศีล 5 ศีล 8 นี่ก็ได้ หลวงพ่อท่านเอาผลของจิตจริงๆ ผลของตัวจิตของเราจริงๆ ไม่ใช่ว่าสีลาย สีเขียว สีแดง แล้วจะไม่มีศีล 8 ศีล 8 ไม่ใช่อยู่ที่ตัวนี้ อยู่ที่การงดเว้น เราทำได้หรือเปล่า เขาจะยกย่องว่าเราดี ไม่ดี แต่เรานี่จะดีหรือไม่ดี อยู่ที่จิตของตัวของเราเองนี่แหละ ท่านหวังผลตัวนี้ ท่านไม่ได้หวังเปลือกอะไร มันก็ลึกซึ้งละเอียดไปอีกนะ

    ทีนี้คุยให้พระฟัง พระก็ยอมรับว่า เออ ไม่ต้องสร้างมายาให้คน ไม่ต้องสร้างเรื่องลวงโลกเปลือกนอกให้คนเขาเห็น ไม่ต้องไปใส่มายาให้คนอื่นเขามองเรา ให้เขาเกิดศรัทธาแค่เปลือกนอกหรืออะไรก็ช่าง ที่วัดเลยปฏิวัติหมดเลย พระก็ยอมรับว่าเออ จริง ทุกองค์ก็เลยห่มสีเดียวกันหมดเลย

    เรามาสังเกตุ พระไปธุดงค์กัน พระไม่ได้ไปธุดงค์ก็ห่มสีเหลืองๆ อย่างนี้ไป อีกองค์ก็ห่มสีกลักไป สีกลักเอาไปกินหมด (หัวเราะ) สีเหลืองอดอยาก

    " หมายความว่าคนใส่บาตรทำบุญ "

    คนใส่บาตรอะไรต่ออะไรอย่างนี้ มันก็ เออ มีส่วนเหมือนกัน สู้สีกลักไม่ได้ เรารู้ มีประการณ์นี่

    มายาตัวนี้มันเป็นอุปกิเลส ถ้าเราเจตนาจะทำตัวนี้ มันเป็นอุปกิเลสเสียแล้ว ความดีจะไม่เข้าถึง อย่างนั่งกรรมฐานโชว์อีกอย่าง หลวงพ่อท่านสอนมาเยอะเลยละ เห็นคนเขามานี่ เดินจงกรมเสียหน่อย เขาจะได้รู้ว่าเคร่ง พวกนี้ก็ไม่ได้ ถ้ารู้ปุ๊บต้องหลบเลย ก็หลวงพ่อเองท่านเป็นถึงขนาดนั้นแล้ว ฉันอยู่ห้องเทปตรงกัน เราก็เปิดไฟทำงาน พอเปิดไฟปั๊บ หลวงพ่อรูดม่านเลย ม่านตรงที่ท่านเดินจงกรมอยู่น่ะ ท่านรูดท่านปิด ท่านเป็นพระขนาดนั้น ท่านยังปิดเราเลย เราอยากจะเปิด (หัวเราะ) มันเป็นอย่างนั้นน่ะสิ กิเลสมันมี มันจะเป็นอย่างนั้น ท่านสอนในเรื่องอุปกิเลสเยอะ ท่านสอนแล้วท่านก็ต้องระวัง

    ทีนี้ถ้าเราเอาไปใช้ก็ได้ประโยชน์กับเรา ใคร่ครวญติตัวเองอยู่เสมอ ไปถึงไหนแล้ว ขึ้เกียจ ขยัน กิเลสตัวไหนมันงอก เราจะเคาะมันตรงไหนนี่ ไม่มีใครมาเคาะให้เราหรอก เราต้องเคาะเอง จิตเรานี่ ถ้าเราไม่เคาะเอง เสร็จ มันเหมือนโกหกตัวเอง อยากจะเป็นพระอรหันต์โดยไม่ต้องออกแรง ส่วนมากคนเรามันจะอย่างนี้ อยากจะเป็นผู้หมดกิเลสโดยไม่ต้องออกแรง นึกว่าวันหนึ่งมันจะพั๊วะ อย่างสมัยพุทธกาล (หัวเราะ)

    ที่จริงแล้วต้องทำ ต้องเคาะ ตรวจดูจิตเราเสมอ ต้องเคาะกิเลสเราอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่ากิเลสมันพอกมาแล้ว อีก 7 วันถึงนึกได้มาเคาะมัน มันเกาะลงกระดูกแล้ว ถ้าเคาะได้ไว มันก็ละได้ไว

    แต่จริงๆ ของหลวงพ่อนี่ท่านสอนทุกอย่าง ทั้งกรรมฐาน 40 มหาสติปัฏฐานสูตร นี่ละเอียดหมด ละเอียดจริงๆ
    สอนแบบแนวปฏิบัติเลยนะ ของหลวงพ่อ จากแนวปฏิบัติโดยตรงเลย

    " อย่างนี้ก็แสดงว่าเจ้าอาวาสก็ได้เปรียบสิ รู้หมดเลยนะ "

    ในหนังสือพ่อเก็บไว้หมดเลย เจ้าอาวาสเก็บหมด เก็บใส่ตู้ไว้เยอะ (หัวเราะ) ไม่ค่อยได้เอามาใช้ เขาบอกว่าใกล้เกลือกินด่างนี่จริง เพราะหนังสือนี่ตั้งกี่เล่ม ไม่อ่านจบสักเล่มเลยนี่

    สมัยก่อนท่านจะเปิดเสียงตามสาย ท่านบอกว่าไม่ใช่สอนทั้งหมด แต่ว่าให้มันผ่านหู จะได้ไม่ทะเลาะกับคนอื่นเขา ให้รู้ไว้บ้าง


    (จากคอลัมภ์ จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ เมษายน 2538)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2013
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    หลวงพ่อไล่ผีเมืองนอก

    ลักษมี วิไลวรรณ

    หลวงพ่อท่านเป็นผู้ที่มีเมตตากรุณา ไม่เลือกที่รักเลือกที่ชังหาที่เปรียบได้ยาก ท่านเป็นผู้ที่มีพระคุณเหลือเกิน ดิฉันเป็นคนจังหวัดชัยภูมิ แต่ได้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศบาห์เรน เป็นเวลาสิบกว่าปี แต่ประมาณปี 2522 คงได้ ดิฉันเคยไปนั่งสมาธิ 20 นาที ที่สายลมครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้รู้จักท่าน รู้แต่ว่ามีพระเก่งมาสอนสมาธิ ที่บ้านนายทหารที่สายลม โดยเพื่อนพาไปด้วยวิบากกรรมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย จนกระทั่งปี 2532 ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ดิฉันมากราบหลวงพ่อ กล่าวคือดิฉันได้เจอเพื่อนชื่อคุณจันทร์ศรี เห็นเขามีล็อกเก็ตรูปหลวงพ่อ ก็สนใจจึงขอเขา เขาก็บอกให้ถวายสังฆทาน ดิฉันก็ให้เขาส่งเงินมาถวายหลวงพ่อให้ และเขาก็ให้หนังสือ " ประวัติหลวงพ่อปาน " อ่าน ดิฉันก็มีความรู้สึกอยากจะมากราบหลวงพ่อให้ได้ และต่อมาเพื่อนเขาก็เอาหนังสือ " มโนมยิทธิและประวัติของฉัน " ให้อ่านอีก ดิฉันมีความปิติมากขึ้น และเกิดความสงสารหลวงพ่อจับใจทุกครั้ง เมื่ออ่านถึงตอนหลวงพ่อไม่สบายก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้

    อยู่มาวันหนึ่งดิฉันฝันว่ามาที่วัดจะเข้าไปหาหลวงพ่อ แต่ยังเข้าไปไม่ได้เพราะเห็นมีคนนั่งอยู่ก่อน หลวงพ่อท่านก็กวักมือเรียกให้เข้าไปหา และท่านก็ชี้ให้คนที่นั่งอยู่ก่อนดูว่า นี่คนที่ฆ่าฉันมาแล้ว ดิฉันจึงเข้าไปกราบ ท่านก็เอามือมาจับที่มือของดิฉันและบอกว่าอโหสิกรรมให้ และบอกว่ามาที่วัดเสียนะเดี๊ยวไม่ทันได้ใช้ของดี ดิฉันตื่นขึ้นรู้สึกเสียใจ ไม่รู้ว่าตัวเราไปฆ่าท่านแต่ชาติไหน จึงรีบส่งเงินมาทำบุญกันท่าน อยากจะมากราบท่านก็มีสิ่งจำเป็นยังกลับเมืองไทยไม่ได้

    มาปี 2534 ดิฉันก็ฝันเห็นท่านอีก หลวงพ่อได้ไปไล่ของออกจากตัวให้ เหมือนกับว่าตัวท่านไปจริงๆ ขณะที่ท่านนั่งทำพิธีไล่ท่านบอกว่ามันแข็งมาก ท่านบอกว่ามีคนรักษาเราอยู่แต่สู้ไม่ได้ ดิฉันได้ถามท่านว่าจะหายหรือเปล่าท่านบอกว่าหาย ขณะที่ท่านทำพิธีดิฉันปวดไปทั้งตัว นอนกลิ้งไปมาด้วยความทรมานและพูดว่าคงตายแน่ๆ หลวงพ่อก็บอกว่าตายดีกว่า รู้สึกตัววตื่นขึ้นมาเป็นเวลาตี 5 เหมือนไม่ใช่ฝัน จึงรีบลุกขึ้นสักพักหนึ่งแล้วไปเข้าห้องน้ำจะอาบน้ำไหว้พระ ช่างอัศจรรย์จริงดิฉันได้ห็นตะกรุดแผ่นทองแดงปลอกพลาสติกอยู่ในอ่างอาบน้ำ ห้องนอนมีห้องน้ำในต้ว และดิฉนนอนคนเดียว ไม่มีใครเข้าไปยุ่งด้วย ตอนเช้าเอาไปให้เพื่อนๆดู ใครๆก็ไปทำงานกัน ก็เลยทิ้งไว้ พอพักเที่ยงพาเพื่อนไปดู แผ่นทองแดงได้หายไปเหลือแต่ปลอกพลาสติก ให้ดูหลายคนเขาก็พูดว่าเป็นตะกรุดแน่ ยิ่งทำให้ดิฉันมีความเชื่อมั่น มีความเคารพท่านยิ่งขึ้น ท่านต้องเป็นพระที่มีญาณพิเศษแน่ และต่อมาเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2535 ดิฉันจะเดินทางกลับไทย พักร้อนและก็ได้ตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อ แต่ก่อนเดินทางหนึ่งวัน หลวงพ่อได้ไปบอกอีกว่าท่านจะไม่ค่อยได้อยู่วัดจะออกเยี่ยมลูกศิษย์ต่างจังหวัด ดิฉันก็ถามท่านว่าดิฉันจะไปหัดนั่งสมาธิจะเจอหลวงพ่อหรือ หลวงพ่อท่านบอกว่ารีบไปและเอาแหวนทองไปด้วย 9 วง ด้วยความโง่ดิฉันคิดว่าท่านบอกหวยเสียอีก เล่าให้เพื่อนฟังเขาก็บอกว่าไม่ใช่หวย ท่านคงให้เอาทองไปหล่อสมเด็จองค์ปฐม เพื่อนที่บาห์เรนเลยช่วยมาคนละวง 3 คน มีคุณผาสุข ชมภูนุช คุณอุษา ชมภูนุช และคุณเสริม ชมภูนุช พอกลับไทยดิฉันก็รีบมากราบท่านครั้งแรกในงานเป่ายันต์เพราะเพชร ครั้งสองในงานบรรจุพระธาตุเจดีย์ ครั้งสามในงานเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐม ครั้งสี่ในงานสะเดาะเคราะห์



    ขณะที่ไปๆมาๆที่วัดช่วงนี้ ดิฉันก็มีโอกาสได้เล่าถึงความฝันให้ท่านทราบถึงเรื่องให้เอาแหวนมา ท่านก็บอกว่าดีๆ จะมาหล่อองค์ปฐม และได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ท่านได้ไปไล่ของออกจากตัวให้ ท่านก็บอกท่านไปจริง แต่ถามว่าของนี้ดิฉันถูกเขาทำหรือว่ามาเอง ท่านไม่บอก ท่านบอกว่าอย่าไปสนใจ มันออกไปแล้วก็แล้วไป และท่านยีงได้บอกกับคุณหมอสมศักดิ์ว่า หมอ วันนี้มีข่าวดีไปไล่ผีถึงเมืองนอก ท่านบอกดี ไม่เหนื่อยถอดกายไปและสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดกับดิฉันอีกในงานเททองหล่อองค์สมเด็จองค์ปฐม

    ในตอนเช้าวันที่ 15 มีนาคม หลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงที่หน้าวิหาร 100 เมตร และสุมทองเสร็จพิธี หลวงพ่อก็ไปรับสังฆทานและฉันเพลที่ศาลา 2 ไร่ ทุกคนก็รีบตามหลวงพ่อไป ส่วนดิฉันและญาติ 3 คน และคนอื่นอีกประมาณไม่เกิน 20 คน ได้ยืนดูเขาสุมทองดูเปลวไฟขึ้นพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองและเขียวดูสวยงามมาก ขณะที่ยืนดูอยู่ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งและพระแบกทองมาสองมือข้างละแท่ง ทั้งพระทั้งคนผู้ชายคนนั้นบอกขอทางพระหน่อย ดิฉันจึงบอกให้มาทางหน้าดิฉัน แต่พระท่านบอกไปข้างหลังดีกว่า ท่านก็เดินเข้าไปในปะรำพิธีที่สุมทอง เอาทองใส่ไปสี่มุมในเบ้าหลอมที่สุมทองอยู่ แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่เห็น ได้เห็นแต่พระท่านเดินออกไป ท่านเดินเร็วจนผ้าจีวรปลิว ดิฉันได้มองตามหลังท่าน เห็นท่านไปแล้วก้กลับมามองดูเปลวทองต่ออีกสักครู่ กลัวไม่มีรถกลับเพราะคนไปกันจะหมดแล้ว จะเดินมาขึ้นรถราง รถก็ออกพอดี จึงยืนรอรถคันต่อไป

    ขณะที่ยืนรออยู่ก็เห็นพระท่านยืนอยู่ตรงที่รถเคยจอดในท่าทางรีบมองหาใคร ดิฉันคิดว่าท่านคงมองหาผู้ชายที่มาด้วยกัน ดิฉันจึงรีบเดินเข้าไปหาท่าน ท่านถามว่าทำไมละโยม ดิฉันจึงบอกว่า ดิฉันเห็นหลวงพ่อเอาทองไปเทจึงมาขอโมทนาด้วย แล้วดิฉันก็เอาเงินใส่ย่ามท่าน 200 บาท ท่านก็พูดว่า เอายันต์พระพรหมไปมีอยู่แผ่นหนึ่ง พอท่านหยิบออกมา ดิฉันก็แบมือรับ แต่ท่านบอกให้จับเอา ดิฉันจึงจับแล้วก็รีบเดินออกจากท่าน เกรงว่าท่านจะว่าไปรบกวนท่าน ได้ยันต์แล้วก็ใส่กระเป๋าไม่ดู สักครู่รถรางมาขึ้นรถรางไปศาลา 2 ไร่ แต่ทำไมเห็นพระท่านมาเดินอยู่ข้างหน้ารถ จนเข้าศาลา 2 ไร่ มีความรู้สึกว่ารถวิ่งช้ามากกว่าปกติ ท่านหันมามองตลอดเวลา พอท่านเข้าประตูศาลา 2 ไร่ ท่านก็ยังยืนหันมามองดิฉัน คิดว่าพระท่านคงจะไม่รู้ว่าหลวงพ่อท่านนั่งอยู่ตรงไหน จะรีบไปให้ทันท่านก็ไม่ได้ เพราะติดอยู่กับญาติที่เขาไม่ค่อยรู้อะไร จะไปบอกท่านว่า หลวงพ่อนั่งอยู่ทางนี้ เพราะคิดว่าท่านคงมาจากป่าจากถ้ำ ท่านก็ต้องเก่งเอาทองมาขนาดนี้ต้องจากถ้ำแน่ ทองมีความยาวขนาดไม้บรรทัดฟุตหนาประมาณ 3-4 นิ้วได้ และทองยังมีคราบคล้ายดินติดอยู่บ้าง ขณะนั้นดิฉันก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่าท่านเป็นใครมาจากไหน ทำไมเอาทองไปสุมเอง ทำไมไม่เอาไปให้หลวงพ่อ ใครๆ เขาก็เอาไปให้หลวงพ่อกันทั้งนั้น และการห่มผ้าเหลืองก็แปลก ห่มได้สวยมาก แต่ไม่มีผ้าคาดที่เอว ทำอย่างไรเราถึงจะรู้ว่าท่านเป็นใคร ดิฉันคิดว่าต้องคอยถามลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อ มองหาคุณป้าน้อยก็ไม่เจอ เพราะเคยฝึกนั่งกับท่าน

    พอดีตอนบ่าย หลวงพ่อเททองจึงได้เจอกับคุณป้ายุภาและคุณลุงแสวง จึงถามท่านและเล่าให้ท่านฟัง คุณป้าบอกหนูโชคดีนะ หลวงพ่อไปพูดที่สายลมว่าจะมีพระอริยะเจ้ามาในกายเนื้อ เมื่อรู้ว่าท่านเป็นพระอริยเจ้าก็ดีใจปิติมาก ก็ได้ยินเสียงบอกว่าอย่าติด ก็รู้ว่าท่านไม่ให้ติดให้วางเฉย แต่ก็ทำใจไม่ได้ คุณป้ายุภาบอกใหจข้าพเจ้าไปกราบหลวงพ่อในวันที่ 16 ตอนบ่ายหลวงพ่อจะลงรับแขก แต่อยู่ไม่ได้เพราะมีนัดจะโอนที่ดินที่ซื้อไว้ที่โคราชในวันที่ 18 แต่วันที่ 17 จะต้องไปทำบัตรประชาชนใหม่ ก็เลยไม่ได้บอกให้หลวงพ่อท่านทราบ คิดว่าไว้งานสะเดาะเคราะห์จะเอาให้หลวงพ่อดู พอถึงเวลาเดินทางมาวัดก็ลืมผ้ายันต์อีก จะบอกก็คิดว่าไม่มียันต์ให้ดู ก็คิดว่าจะบอกหรือไม่บอกดีนะ หลวงพ่อก็พูดตอนลงรับแขกวันที่ 13 เมษายน 2535 ท่านพูดว่าจะบอกอะไรก็บอกจะหมดเวลาแล้วเหลือ 5 นาที ดิฉันก็ลังเลอยู่จนหมดเวลา ด้วยความโง่นี้เอง รู้สึกเสียใจหลวงพ่อมาจากไปเสียก่อน เพราะคิดว่าในงานหล่อพระศรีอริยเมตตไตรยจะมากราบท่านอีก ก่อนหลวงพ่อจะจากไปประมาณ 18 วันได้ในเดือนตุลาคม ดิฉันก็ฝันเห็นท่านอีก ท่านมาบอกท่านจะไปอยู่ที่ชั้นสูงสุดให้ตามไป และให้สมุดหนึ่งเล่ม บอกให้เอาไปให้ ดร.ปริญญา นุตาลัย จดที่อยู่และชื่อของเราไว้ ฝันเช่นนี้หลวงพ่อคงให้ทำบุญบวชพระแน่ เพราะ ดร.ปริญญา นุตาลัย ท่านเป็นคนจัดการในเรื่องบวชอุทิศส่วนกุศลให้หลวงพ่อในวันที่ 20 ธันวาคม 2535 จึงรีบส่งเงินมาขอเป็นเจาภาพบวช หลวงพ่อเซ็นรับใบโมทนาให้วันที่ 28 ตุลาคม 2535 แล้ววันที่ 30 ตุลาคม 2535 ท่านก็จากไป ทิ้งความเศร้าโศกและเสียใจให้กับลูกศิษย์ทุกคน แม้รู้ว่าท่านไม่สบายแต่ก็ยังอยากให้ท่านกลับมาอีก เหมือนกับเป็นคนเห็นแก่ตั้ว หลวงพ่อเป็นร่มโพธิ์ให้ความร่มเย็นสบายใจทุกครั้งที่ได้มากราบ ยังอยู่ในความทรงจำตลอดไปชั่วนิรันดร์


    ประสบการณ์มีดหมอชาตรี


    สำหรับมีดหมอชาตรี ดิฉันได้เอาไปบาห์เรนด้วย วันหนึ่งเพื่อนคนไทยที่อยู่บาห์เรน เขาขับรถไปเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ คนขับข้อเท้าเดาะ และอีกคนกระดูกบ่าไหล่ร้าว หมอใส่เฝือกและให้พวกเขาพักผ่อน 3 อาทิตย์ เมื่อเขาออกจากโรงพยายาล เขาบอกว่าเขาปวดมากไม่สามารถจะเดินได้ ดิฉันไม่รู้จะช่วยอย่างไรจึงได้เอามีดหมอไปสับๆให้ทั้งๆที่เขาใส่เผือกขาและอีกคนที่บ่าไหล่ 2 ครั้งติดกัน 2 วัน พอวันที่ 3 เขาโทรมาบอกว่าเขาเดินได้แล้ว และเขาได้โทรศัพท์ไปหาหมอให้มาถอดเฝือกที่ใส่ไว้ออก แต่หมอไม่ยอมเพราะเพิ่งไส่เฝือกได้แค่ 4 วันเอง และหมอให้พักเป็นเดือน เป็นไปได้อย่งไรที่เขาจะหายเดินได้ หมอไม่เชื่อ นี่คืออภินิหารของมีดหมอชาตรีที่องค์หลวงพ่อได้มอบให้ไว้ ซึ่งสมควรแก่การรักษาเอาไว้สืบทอดต่อไป โดยหาค่าประมาณมิได้เลย หลวงพ่อผู้มีพระคุณอันเหลือล้นซึ่งเหลือไว้แต่ความอาลัยหาวันลืมไม่


    (จากลูกศิษย์บันทึกเล่ม 4 หน้า 284 - 287)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2014
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    อ่านเรื่อง " พระโพธิสัตว์ " ใน " สนทนาธรรม " ฉบับนี้คงปลื้มใจและัมั่นใจกันนะครับว่าเราก็ต้่องทำได้ขาดแต่อารมณ์ตัดสินใจอย่างที่หลวงพ่อบอกไว้


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากธัมมวิโมกข์ฺ กุมภาพันธ์ 2537 หน้า 13 - 20)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2014
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    ในเรื่อง " สุคติภูมิ " หลวงพ่อถามท่านแม่ศรีว่าอารมณ์ของพระนิพพานเป็นอย่างไร ลองอ่านที่ท่านแม่ตอบดูครับ ส่วนเรื่อง " มโนมยิทธิ " อ่านกันดูนะครับ เป็นการทบทวนตัวเองด้วยส่วนนึง


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2014
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    109
    ค่าพลัง:
    +225,697
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จาก ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2538 หน้า 17 - 25)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...