เรื่องเด่น รวมหลวงพ่อตอบปัญหา/จากคำบอกเล่า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02082.jpg


    DSC02083.jpg


    DSC02087.jpg

    DSC02093.jpg

    DSC02098.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จาก ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2534 หน้า 8 - 21)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    บันทึกความจำพิเศษตอนนี้หลวงพ่อเล่าต่อจากตอนที่แล้ว ท่านได้เล่าถึงเมื่อครั้งถูกคุณไสยเมื่อปี 2528 เป็นต้นมาและชานหมากได้กลายเป็นพระธาตุไว้ในเรื่องนี้ด้วยครับ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2015
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2015
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2534 หน้า 19 - 33)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2015
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อสอนวิธีการใช้คาถา " สุนักขัตตัง " ไว้อย่างละเอียดในเรื่องหลวงพ่อสอนลูก ตอนที่ 3 นี้ ใครชอบเรื่องคาถาอาคมน่าจะชอบใจคาถาบทนี้




    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2016
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2534 หน้า 34 - 40)

    หมายเหตุ : คำว่า สุนักขัตตัง แปลว่า เลือกดี นั้นผิด คำถูกคือ ฤกษ์ดี และคำว่า สุนักขัตตะ คำถูกเป็น สุนักขัตตัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2016
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ในเรื่องหลวงพ่อสอนลูกตอนที่ 1 นี้ หลวงพ่อได้เล่าเกร็ดประวัติศาสตร์เรื่องต่างๆเอาไว้หลายเรื่อง ลองอ่านกันดูครับ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    (จากธัมมวิโมกข์ กันยายน 2534 หน้า 83 - 89)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2014
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    581208_160976310746496_1207229792_n.jpg
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    เรื่องท่านปู่พระอิททร์

    DSC02317.jpg


    DSC02321.jpg


    DSC02324.jpg


    DSC02327.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2016
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02328.jpg


    DSC02332.jpg


    DSC02333.jpg


    (จากธัมมวิโมกข์ กรกฏาคม 2535 หน้า 50 -56)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2016
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02339.jpg


    DSC02340.jpg


    DSC02343.jpg


    DSC02347.jpg


    DSC02351.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2015
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02352.jpg

    DSC02358.jpg


    DSC02362.jpg


    DSC02364.jpg


    DSC02366.jpg

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2534 หน้า 73 - 82)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2015
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02367.jpg


    DSC02369.jpg

    DSC02372.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC02375.jpg


    DSC02379.jpg


    DSC02381.jpg


    (จากสนทนาที่สายลม ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2534 หน้า 24 - 29)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    1-16.jpg

    1-13.jpg

    2-8.jpg

    3-5.jpg

    4-9.jpg

    5-4.jpg


    6-5.jpg


    7-6.jpg


    8-3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2016
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อขนมจีนท่านมาแนะนำคำอธิษฐานต่อเหรียญพระชัยหลังช้างว่า "ร. 1 ไม่เคยแพ้ใครฉันใด ขอเราจงเป็นผู้ชนะแบบ ร.1"

    DSC05996.jpg

    1_7.jpg

    2_8.jpg


    3_5.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ มกราคม 2530 หน้า 26-27)

    DSC05999.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2016
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    เหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร.





    10010022_0_20120124-184448.jpg

    พิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร. จัดขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)เมื่อวันพุธที่ 5 สิงหาคม 2530

    ป้าอัญเชิญ มณีจักร(ป้าเชิญ)เขียนเล่าในหนังสือ"บันทึกของชาโดว์เล่ม 2" เรื่อง "พุทธาภิเษกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" เอาไว้ว่า หลวงพ่อได้มาสอนวิปัสสนากรรมฐานที่บ้านซอยสายลมเมื่อวันเสาร์ที่ 1 อาทิตย์ที่ 2 และวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคมเสร็จแล้ว ปรกติถ้าไม่มีกิจนิมนต์ที่อื่นหลวงพ่อจะกลับวัดในวันอังคารที่ 4 แต่เนื่องจากติดกิจนิมนต์ทำพิธีพุทธาภิเษกวันพุธที่ 5 สิงหาคม ท่านจึงอยู่ต่ออีก 2 วัน

    ในวันพุธที่ 5 สิงหาคม 2530 หลวงพ่อเดินทางออกจากบ้านซอยสายลมตอนบ่าย 4 โมง ไปถึงวัดพระแก้วแล้วนั่งคอยทำพิธีหน้าโบสถ์อยู่อีกเกือบชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์หลวงพ่อและพระผู้ใหญ่ท่านอื่นๆเข้าไปในโบสถ์ ป้าเชิญเล่าว่ามีหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และหลวงพ่ออุตตมะ เข้าไปพร้อมๆกับหลวงพ่อด้วย ในวันนั้นมีพระติดตามหลวงพ่อไปวัดพระแก้วด้วย เช่น หลวงพี่อาจินต์ หลวงพี่วิรัช หลวงพี่สุรจิต

    พิธีในวันนั้นเลิก 2 ทุ่ม 19 นาที หลังจากลั่นฆ้องกลองบอกกล่าวพรหมเทวดาแล้ว หลวงพ่อจึงได้ออกจากโบสถ์ ท่านพักที่บ้านซอยสายลมอีก 1 คืน วันรุ่งขึ้นวันที่ 6 สิงหาคม ท่านถึงได้เดินทางกลับวัดท่าซุง



    ก่อนพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเหรียญพิชัยหลังช้าง ภปร.ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกตามวัดใหญ่ต่างๆในกรุงเทพมา 5 พิธีแล้วเช่นที่วัดบวรนิเวศวิหาร วัดพระเชตุพน เป็นต้น พิธีพุทธภาภิเษกที่วัดพระแก้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2530 เป็นครั้งที่ 6 เป็นพิธีที่หลวงพ่อได้เข้าร่วมในพิธีด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงจุดเทียนชัยในพิธีครั้งนี้



    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/2_zpslv06ert4.png.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/2_zpslv06ert4.png" border="0" alt="หน้า 128 กันยายน 30 photo 2_zpslv06ert4.png"/></a>
    (จากธัมมวิโมกข์ เดือนกันยายน 2530 หน้า 128)

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/93_zpsm3vxx0pi.png.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/93_zpsm3vxx0pi.png" border="0" alt="หน้า 93 กันยายน 30 photo 93_zpsm3vxx0pi.png"/></a>
    (จากธัมมวิโมกข์ เดือนกันยายน 2530 หน้า 93)

    ขอนำประวัติโดยย่อเกี่ยวกับเหรียญพระชัยหลังช้างจากเวบวัดสามพระยามาลงกันให้อ่านตามด้านล่างนี้ครับ


    ประวัติความเป็นมาของพระชัยย้อนไปยังสมัยอยุธยา พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) แห่งวัดอัมพวัน เล่าถึงที่มาของพระพุทธชัยมงคลคาถา พาหุงฯ ๘ บท และพระชัยปริตร มหาการุณิโกฯ ควบคู่กับพระราชประเพณีอัญเชิญพระชัยหลังช้างไปในราชการสงครามว่ามีมาแต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยทรงอัญเชิญพระชัยไปในราชการสงครามออกศึกกู้ชาติป้องเมือง หากเสด็จทางสถลมารคก็จะอัญเชิญพระชัยขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง จึงได้ชื่อว่าพระชัยหลังช้าง อันเป็นที่มาของเหรียญพระชัยหลังช้าง

    มาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ด้วยพระราชจริยาวัตรในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงบูชาพระชัยเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์มาตั้งแต่ครั้นสามัญชน เมื่อทรงเป็นแม่ทัพออกศึกสงครามพระองค์ก็จะอาราธนาพระชัยขึ้นบนหลังช้างด้วยทุกครั้ง สืบมาจึงเป็นพระราชประเพณีสร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลของพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ ซึ่งปัจจุบันพระชัย(หรือพระชัยวัฒน์)ประจำรัชกาลทุกพระองค์ประดิษฐานอยู่ ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง


    จากประวัติความเป็นมาดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์ถึงความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของพระชัย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) แห่งวัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร จึงดำริสร้าง เหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร. ขึ้นในนามคณะสงฆ์เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2530 และในพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จมาเป็นประธานจุดเทียนชัยด้วยพระองค์เอง พระสุปฏิปันโนทั่วราชอาณาจักรไทยได้ร่วมกันอธิษฐานจิต

    เหรียญพระชัยหลังช้างด้านหน้าเป็นรูปพระชัย หรือพระชัยวัฒน์พระหัตถ์ซ้ายถือตาลปัตร หรือ"พระชัยหลังช้าง" เหตุที่พระชัยเป็นพระพุทธรูปทรงถือตาลปัตรก็ด้วยนัยว่าในการศึกสงครามได้อัญเชิญพระชัยขึ้นบนหลังช้างออกศึกสงครามเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องให้ได้มีชัยเหนืออริราชศัตรูโดยมีตาลปัตรคอยกำบัง

    ด้านหลังเป็นรูปพระปรมาภิไธย "ภปร." มีข้อความบนเหรียญว่า "5 ธันวาคม 2530" และ "คณะสงฆ์สร้างในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ"


    1479201050110_zpswjumzvzn.jpg


    DSC_0171.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2016
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
    [​IMG]

    "เหรียญพระชัยหลังช้าง" จัดสร้างเพื่อนำรายได้จากการบริจาคบูชา ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าพิธีพุทธาภิเษกถึง 6 พิธี โดยพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 6 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2530 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระสังฆราช 2 พระองค์ ร่วมพิธี คือ สมเด็จพระสังฆราช (วาส) วัดราชบพิธฯ และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2532

    และสมเด็จพระราชาคณะเข้าร่วมในพิธีนี้มีหลายองค์ คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา, สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร, สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพรหมคุณาภรณ์

    มีพระสุปฏิปันโนมากมายร่วมในพิธีเช่น หลวงพ่อพระราชพรหยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง, พระราชสังวรอุดม(หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดประชาคมวนาราม(วัดป่ากุง), พระเทพสิงหบูราจารย์(หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง, พระราชอุดมมงคล(หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม, พระญาณสิทธาจารย์(หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) วัดถ้ำผาปล่อง, พระมงคลสิทธิการ(หลวงพ่อพูล) วัดไผ่ล้อม, พระอุดมประชานาถ(หลวงพ่อเปิ่น) วัดบางพระ,
    พระครูเกษมธรรมนันท์ (หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม, หลวงปู่ม่น ธัมมวิจิณโณ วัดเนินตามาก, หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน พระสุปฎิปันโนองค์อื่นๆที่ไม่สะดวกเดินทางเข้ากรุงเทพฯร่วมในพิธีได้ท่านก็ได้อธิฐานจิตจากวัดท่านในวันเวลาตรงกับเวลาในพิธีที่จัดขึ้น


    พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นี้ มีความเป็นมาสืบเนื่องจากราชประเพณีหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เริ่มเมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชดำริว่า พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำพระองค์ที่เชิญไปในราชการศึกสงคราม ซึ่งเรียกกันว่า "พระชัยหลังช้าง" นั้น ได้เชิญไปประดิษฐานหน้าพุทธบัลลังก์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพราะเป็นพระพุทธรูปคู่บารมีมาด้วยกัน จึงขาดพระพุทธปฏิมาสำหรับถวายสักการะ ณ พระราชมณเฑียร จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ขึ้นแทน ถวายพระนามว่า พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

    ในรัชกาลต่อมา เมื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้วก็ถือเป็นราชประเพณีที่จะต้องหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์สืบมาทุกรัชกาล

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ในการพระราชพิธีครั้งนั้นได้เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ของรัชกาลที่ 5 มาเป็นพระพุทธรูปพระประธานในพระราชพิธี
    ครั้น พ.ศ.2495 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาประทับยังพระนคร ล่วงมาถึงพ.ศ.2506 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลตามราชประเพณี และโปรดเกล้าฯ ให้ นายพิมาน มูลประมุข เป็นช่างปั้นหุ่นพระพุทธรูป

    "เหรียญพระชัยหลังช้าง" จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ร่วมกันทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุติ ในปีมหามงคลเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ณ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 โดย มีเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนาค, เนื้อกะไหล่ทอง

    และเหตุที่ว่าอัญเชิญรูปพระชัยหลังช้างมาจัดสร้างเป็นเหรียญเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเห็นว่าพระชัยเป็นพระคู่บุญญาบารมีของพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์มาทุกพระองค์ ควรที่ประชาชนจะมีไว้สักการบูชาเพื่อความมีชัยในการดำรงชีวิตต่ออุปสรรคและสิ่งอันไม่พึงประสงค์ทั้งปวง

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรุงเทพฯ ได้ลิขิตเอาไว้ว่า "เหรียญพระชัยหลังช้าง หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว" และเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดดังกล่าว ท่านจึงได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง "ปรากฏการณ์อันน่าพิศวง" ของเหรียญพระชัย (หลังช้าง)" ขึ้น โดยรวบรวมเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆของผู้ที่นำเหรียญนี้ไปบูชามาพิมพ์ขึ้นเป็นหนังสือ

    "พระชัยวัฒน์" เดิมมีพระนามว่า "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่า "พระไชยวัฒน์" และได้เปลี่ยนพระนามมาเป็น "พระชัยวัฒน์" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 9 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร มีฉัตรปรุ 5 ชั้นปักกั้น หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว สูงจากทับเกษตรถึงยอดพระรัศมี 9 นิ้ว มีพัดแฉกหล่อด้วยเงินปักข้างหน้า ที่ฐานมีคำจารึก ซึ่งเป็นต้นแบบในการนำมาสร้าง เหรียญพระชัยหลังช้าง


    [​IMG]

    พระชัยวัฒน์หรือพระชัยหลังช้างประจำรัชกาลที่ 9


    [​IMG]



    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

    พระชัยวัฒน์ เดิมมีพระนามว่า "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่า"พระไชยวัฒน์" และได้เปลี่ยนพระนามมาเป็น "พระชัยวัฒน์' ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

    พระชัยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษคือ พระหัตถ์ซ้ายจะทำพระหัตถ์อยู่ในลักษณะถือด้ามพัด และเป็นแบบนั่งขัดสมาธิเพชร จากหลักฐานที่พบน่าจะเกิดมีขึ้นตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา พระราชพิธีต่าง ๆ ที่อัญเชิญพระชัยวัฒน์ไปด้วยคือ

    พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จะอัญเชิญพระชัยมาตั้งที่หน้าพระพุทธสิหิงค์ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็เช่นเดียวกัน

    พระราชพิธีโสกันต์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจะอัญเชิญพระชัยมาตั้งที่ซ้ายและขวาของพระพุทธสิหิงค์

    พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จะอัญเชิญพระชัยมาประจำรัชกาลต่าง ๆ มาร่วมพิธี

    พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 มักอัญเชิญพระชัยมาด้วย

    พิธีพระประทีปมีเรืออนันตนาคราชแต่งเครื่องประทีปทรงพระชัย

    ในการเสด็จพระราชสงครามจะอัญเชิญพระชัยไปในกองทัพด้วย ถ้าไปทางเรือก็จะอัญเชิญประดิษฐานในเรือเป็นพิเศษ

    ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ ได้เสด็จจากกรุงศรีอยุธยาทางเรือได้ตั้งพระชัยในเรือสุพรรณหงส์ ถ้าเสด็จไปทางสถลมารคก็จะอัญเชิญพระชัยขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง จึงได้ชื่อว่า "พระชัยหลังช้าง" พระราชพิธีราชาภิเษกจะอัญเชิญพระชัยมาประดิษฐานในมณฑลพิธี ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทยซึ่งไม่มีชาติใดมี เป็นพระราชประเพณีของพระมหากษัตริย์ไทยที่ได้ทรงปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน แสดงให้เห็นว่าได้ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภกอย่างชัดแจ้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5ได้ทรงมีพระบรมราโชวาทก่อนพระราชทานพระชัยวัฒน์มงคลวราภรณ์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ให้ผู้รับยึดมั่นอยู่ในเรื่อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นพระราโชบายเพื่อความดำรงคงอยู่ของชาติไทย

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลทุกพระองค์ ประดิษฐานอยู่ ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง



    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

    [​IMG]


    เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ภายใต้ฉัตร ๕ ชั้น หน้าตักกว้าง ๗ นิ้ว ความสูงยอดพระรัศมี ๙ นิ้ว ทรงพัดแฉก หล่อด้วยเงิน สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระราชพิธี โดยย่อดังนี้


    วันอังคารที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์แล้ว ทรงจุดธูปเทียนมนัสการทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะรวม ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์


    วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ ทรงจุดเทียนทอง และถวายเทียนทองแด่สมเด็จพระสังฆราช ได้เวลาพระฤกษ์โหรลั่นฆ้องชัย สมเด็จพระสัฆราชจุดเทียนชัย ชาวประโคม ประโคมสังข์แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ พระราชาคณะอีก ๒๙ รูปเจริญคาถาจุดเทียนชัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชาธรรมที่เตียง พระสงฆ์สวดภาณวาร


    วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนิน เข้าสู่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงศีล แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ ได้เวลาพระฤกษ์ ๗ นาฬิกา ๑๒ นาที ถึง ๗ นาฬิกา ๒๒ นาที โหรลั่นฆ้องชัย ทรงเททองและเงิน หล่อพระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล พระสงห์ ๓๐ รูป ในพระอุโบสถ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเจริญชัยมงคลคาถา ชาวประโคม ประโคมสังข์ แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ ทหารปืนใหญ่ (จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษา พระองค์ จำนวน ๑ กองร้อย โดยมี ร้อยโท ชูชาติ หิรัญรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย) ยิงปืนพระฤกษ์ มหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค ๑๙ นัด พระครูวามเทพมุนี ถวายน้ำสังข์ที่พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์ ๓๐ รูป รับพระราชทานฉัน สมเด็จพระราชาคณะดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย


    เจ้าพนักงานอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หล่อใหม่ ไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช เป็นเสร็จการพระราชพิธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...