ชาติที่แล้วใครเป็นนักรบมาบ้าง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ป้าเม้า, 17 เมษายน 2013.

  1. RaDii

    RaDii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +142
    ชอบเร็บนี้ค่ะ

    แต่เราคงไม่เคยเกิดเป็นนักรบแน่ๆๆ เพราะเรา กลัวมีด กลัวเจ็บ ==''

    เราก็คงเกิดมาหลายชาติ แต่คงเป็นแค่คนธรรมดาในกลุ่มคน
    แบบชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวสวน ที่เกิดมาทำบุญ กิน ขี้ ปี๋ นอนทั่วไป
    แล้วก็ตายตามวาระ...

    อ่านข้อความอื่นแล้วสนุกดีค่ะ ได้รู้ว่าเราไม่เหมือนใครใน เว็บนี้เลย เหมือนมาอยู่ท่ามกลางผู้รู้แล้วตัวเองเป็น คนตัวเล็กๆที่คอยอ่านประสบการณ์ของคนอื่น
    เป็นความรู้ และสาระดีค่ะ

    catt14 catt14 catt14 catt14 catt14
     
  2. Zigor

    Zigor Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +73
    ลองฝึกมโนดูครับ ตอนผมฝึกครั้งแรกหลังจากไปกราบพระข้างบนเสร็จ ครูก็ให้ไปดูตัวเองในบางระจันเลย จากนั้นดูอีกชาติสองชาติก็เกิดเป็นทหารซะหมด
     
  3. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    รู้สึกผูกพันธ์กับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมากครับ ทั้งบูชาและศรัทธา แถมยังเกิดที่จังหวัดจันทบุรีด้วย ภูมิใจครับที่เป็นลูกหลานพ่อปู่ตากสิน กลับบ้านครั้งใดต้องไปสักการะดวงพระวิญญาณของพระองค์แทบทุกครั้ง ทั้งที่ศาลพระเจ้าตากสินหน้าค่ายตากสิน และอู่ต่อเรือของท่านที่เสม็ดงาม ไปกราบหรือพบเห็นพระรูปท่านครั้งใดลำคอมักตีบตั้น เต็มตื้นน้ำตาคลอๆ แทบทุกครั้ง พ่อปู่ตากสินท่านเสียสละมาก ท่านทำเพื่อคนอื่นมาตลอด ท่านมิเคยทำสิ่งใดเพื่อตนเองเลย ประวัติศาตร์ที่เราอ่าน จำ ท่อง เขียน กันนั้นบางครั้งก็ไม่ตรงกับความจริง โดยนัยต้องเขียนเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี

    ท่านเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานด้วยความยากลำบาก แล้วพวกเรารุ่นหลังมีความรักสามัคคีกันหรือไม่ แบ่งพวก แบ่งสีกันเพื่ออะไร พ่อปู่ตากสินท่านรวมไทยให้เป็นหนึ่งเดียว แล้วเราลูกหลานสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านกันบ้างมั้ย ลองคิดดู
     
  4. แก้วกัลลยา

    แก้วกัลลยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +570
    ไม่รู้ว่าเคยเกิดเป็นนักรบหรือเปล่า แต่กว่า 200 ปีก่อนเคยเกิดร่วมสมัยเหนือหัวสมเด็จพ่อพระเจ้าตาก ทำไมจึงว่าเช่นนั้น
    ก็เพราะ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีเหตุให้ไปกราบขอพรท่านที่ศาลบ้านค่ายจ.ระยอง
    ไปถึงก็พลบค่ำแล้ว แต่ก็ต้องเข้าไปรอไม่ได้ ท่านก็มาผ่านดิฉัน พูดภาษาโบราณ
    สามีและลูก เล่าให้ฟังดิฉันก็ไม่เชื่อ....ก็มีความคิดจะไปหาคนทรง หรือหมอดูว่าสิ่งที่เกิดคืออะไรกันแน่

    ตกบ่ายวันนั้นจิตใจก็จดจ่อจะไปแตที่ศาลท่าน ...ก็หลีกเลี่ยงไม่รับรู้อารมณ์นั้น จนตกเย็นก็ต่อสู้ไม่ได้ให้สามีส่งไป ถ้าไม่ไปเหมือนจะต้องมีเหตุแน่ๆ
    ไปถึงศาลท่านยังไม่ทันก้าวขึ้นบันได ก็เหมือนมือใครมากดศรีษะให้ก้มลงกราบตรงบันไดขั้นแรกนั่นเอง
    ก้าวเข้าไปนั่งยังทันกราบก็ตัวสั่นเหมือนมีพลังงานไฟฟ้าสสถิตมาครอบตามตัว
    " กูให้คนไปตามตั้งแต่ตะวันคล้อยเหตุใดมึงมาเอาป่านนี้ กูเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ควรรึมันหาคนให้มาดูกู"
    ให้มันนำบายศรีมาขอขมาแก่กูในวันพรุ่ง...หาไม่กูจักลงโทษให้รู้ความ ให้มึงนำความไปแจ้งแก่ใจมัน ...มันเคยถวายงานแก่กู"

    นับเป็นบุญสูงสุดกับครอบครัวของเราที่ได้รับความเมตตา ทุกวันนี้ครอบครัวดิฉันมีพ่อตากเป็นที่พึ่งสูงสุด

    ต้องกราบขอขมาต่อดวงวิญญาณเหนือหัวสมเด็จพ่อพระเจ้าตาก
    และขออภัยลูกๆของเสด็จพ่อทุกท่าน
    หากการนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากล่าวอ้างเผยแแผ่ออกไป เป็นเหตุให้ท่านไม่สบายใจ แต่ก็ด้วยความเคารพอย่างหาที่สุดมิได้
     
  5. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    เป็นมาแล้วค่ะ และไม่เคยเสียใจ และเห็นด้วย ว่าเกิดกันมาทุกอย่างแล้ว ดังนั้น แค่รู้ไว้ก็พอ แล้ววางมันเสีย
     
  6. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ไม่มีนักรบก็ไม่มีแผ่นดิน ต่างกันที่หน้าที่..
    สำคัญคือ..จิต ที่คิดอะไร..
    เป้นมาแล้วค่ะ เห้นทั้ง มิตรที่รักเรา ในชาติก่อนและชาตินี้
    เห้นทั้งคนที่เราทำเขา และเขาทำเรา ในชาติก่อนและชาตินี้...
    ไม่ว่าที่เห้นนั้น จะจริงหรือไม่จริง แต่มีโอกาสได้ขอขมาต่อกัน
    มีโอกาสได้ใช้หนี้ที่ติดค้างกัน และมีโอกาสที่เป้นมิตรต่อกัน
    เมื่อมีโอกาสแล้ว ก็ใช้สร้าง ให้เกิดประโยชน์ :cool:
     
  7. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ยินดีกับคุณแก้วกัลลยานะคะ..
    เมื่อพบท่าน ก็ต้องตามรอยท่าน ปณิธานแห่งพระองค์ท่าน
    ถวายบังคมรอยบาทพระศาสดา ....นั้นแหละค่ะ ที่พ่อชื่นชม
     
  8. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ผมรักชาติมาก รักในหลวงมาก รักทหารมาก เครียดมากเมื่อมีใครมาทำลายชาติมาฆ่าทหารและทำลายศาสนาเรา ส่วนตัวไม่ค่อยรู้ผูกพันธุ์กับกษัตริย์พระองค์ท่านใด แต่รู้สึกสงสารท่านต่างๆที่เสียสละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อให้เราได้อยู่ดีในทุกวันนี้ สงสารในหลวงมากด้วย ไม่รู้นะว่าเคยเป็นอะไรมารึเปล่าแต่ผมก็มีใจเหี้ยมมาก ผมรู้ตัวเองและพยายามควบคุมอยู่ ไม่กลัวตายโหงไม่กลัวตกนรกถ้าสามารถฆ่าศัตรูของเราให้ตายได้
     
  9. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    ขอบคุณครับคุณ หก ขออนุญาติแนะนำอย่าลืมเรื่องทางสายกลางด้วยนะครับ สติด้วยครับ เข้าใจความรู้สึกครับ เพราะบางอย่างผมก็คล้ายคุณ อ้อ เหี้ยมโหดเปลี่ยนเป็นเด็ดขาดดีกว่ามั้ยครับ ฟังดู soft ลงนิดนึง
     
  10. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    รู้สึกผูกพันกับพระนครศรีอยุธยาที่สุด
    แต่ไม่คิดว่าตนเองจะมีจิตใจห้าวหาญเป็นนักรบได้
    แค่ฆ่ามดตัวเล็กๆสักตัว ก็ยังไม่กล้า
    นับประสาที่จะจับดาบออกรบ
    แต่ก็เชื่อเรื่องพวกนี้นะคะ
    บางสถานที่ที่เราไปครั้งแรก
    กลับรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก
    เหมือนมีมนต์เรียกหา
    กับบางคน แม้ไม่เคยเห็นหน้า
    ก็รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกันมาเป็นชาติ


     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,024
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ....อาจไม่ได้ตอบตรงคำถาม....


    แต่ผมมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง ให้อ่านใคร่ครวญด้วยใจ.........



    =========================================


    [​IMG]







    จวงจืื๊อ เป็นชาวนครซ้อง มีชื่อในประวัติศาสตร์จีนระหว่าง พ.ศ.7 ถึง 283 ในฐานะปราชญ์แห่งลัทธิเต๋า กล่าวกันว่า ในจำนวน 7 จื๊อ ผู้มีชื่อเสียง จวงจื๊อโดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร เรื่องของเขามีความยาวกว่าแสนคำ

    สามกระบี่ของจวงจื๊อ คือหนึ่งเรื่อง ในจำนวนกว่าแสนคำนั้น
    (มรดกจากเต๋า เพื่อเยาวชนไทย จวงจื๊อจอมปราชญ์ สำนักพิมพ์ ก.ไก่ บุญศักดิ์ แสงระวี เรียบเรียง)
    จ้าวเหวินอ๋อง ชอบเพลงกระบี่ มียอดมือกระบี่อยู่แล้วกว่า 3 พัน ตลอดสามปี จ้าวเหวินอ๋อง ประลองฝีมือกระบี่ทั้งกลางวันกลางคืน มีคนบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย

    อ๋องเทน้ำหนักรักมือกระบี่ มากกว่าขุนนางที่ใช้ปัญญา ช่วงเวลานั้น ก็มีข่าวขุนนางวางแผนชิงบัลลังก์

    โอรสจ้าวเหวินอ๋อง รู้ตัวว่า ทัดทานท้วงติงพระบิดาไม่ได้ ส่งคนไปเชิญจวงจื๊อมาช่วย

    “ปัญหาตอนนี้ ในใจท่านอ๋องมีแต่มือกระบี่” พระโอรสบอก “นอกจากมือกระบี่ ท่านอ๋องไม่ยอมพบใครอีก”

    “ไม่มีปัญหา” จวงจื๊อหัวเราะ “เพลงกระบี่ของข้าพเจ้า ก็หาใช่ธรรมดาสามัญไม่”

    พระโอรสตรัสว่า...“มือกระบี่ที่ท่านอ๋องพอใจ ผมเผ้ารุงรัง พูดจาแข็งกระด้าง เมื่อจะประลองฝีมือ สวมหมวกปิดถึงคิ้ว สองตาจ้องเขม็ง เหมือนปลาตาย คนสุภาพแบบท่าน โอกาสที่ท่านอ๋องจะชอบ คงยาก”

    จวงจื๊อสวมเสื้อผ้ามือกระบี่ เดินเข้าหาจ้าวอ๋องช้าๆ จนกระทั่งถึงตรงหน้าท่านอ๋อง ก็ไม่คำนับ

    “เพลงกระบี่ของข้าพเจ้า ภายในพันลี้ ไม่มีใครสามารถยับยั้งได้” จวงจื๊อเสียงดัง “หากมีใครกล้าเข้ามายับยั้ง ข้าพเจ้าสามารถฆ่าตายได้ภายใน 10 ก้าว”

    ผู้สันทัดกระบี่ ต้องจงใจเผยจุดอ่อนล่อให้แทง “ใจข้าพเจ้าอยู่ที่กระบี่ รวมกายกับกระบี่เป็นหนึ่งเดียวพุ่งกระบี่ออกไปเป็นพายุ ข้าพเจ้ากล้ากล่าว เพลงกระบี่ข้าพเจ้า ขอแต่ได้ขยับมือ ศัตรูไม่มีที่จะไม่ล้ม”

    จ้าวอ๋องฟังแล้วชมฝีมือกระบี่จวงจื๊อ ไม่มีใครเทียบได้ในแผ่นดิน ใช้เวลา 7 วัน คัดยอดฝีมือกระบี่ดีที่สุด 6 คน แล้วก็นัดจวงจื๊อประลอง ยอดมือกระบี่อยู่ตรงหน้า แต่จวงจื๊อก็ยังไม่มีกระบี่ในมือ

    ถึงเวลา จวงจื๊อก็ทูลว่า กระบี่ที่จะเลือกใช้ ไม่กำหนดสั้นยาว แต่มีให้ท่านอ๋องเลือกสามชนิด

    กระบี่ที่หนึ่ง กระบี่โอรสสวรรค์ ใช้เมืองเอี้ยนชี กับเมืองสื้อเฉิง เป็นปลายกระบี่ ใช้เขาไท่ซานแคว้นฉีเป็นสันกระบี่ ใช้แคว้นจิ้นกับแคว้นเว่ยเป็นคมกระบี่ ใช้แคว้นโจวกับแคว้นซ่งเป็นโกร่งกระบี่ ใช้แคว้นหานกับแคว้นเว่ย เป็นด้ามกระบี่ ใช้เผ่าฮวนทั้ง 4 เป็นฝักกระบี่

    กระบี่ด้ามนี้ เมื่อชักจากฝัก เบื้องบนผ่าก้อนเมฆ เบื้องล่างฟันรากพื้นพิภพให้ขาด

    กระบี่ที่สอง กระบี่ของอ๋อง ใช้คนฉลาดกล้าหาญเป็นปลายกระบี่ ใช้คนมือสะอาดเป็นสันกระบี่ ใช้คนปราดเปรื่องดีงาม เป็นคมกระบี่ ใช้คนซื่อสัตย์มีสติปัญญาเป็นโกร่งกระบี่ ใช้วีรบุรุษยอดฝีมือเป็นด้ามกระบี่

    เมื่อใช้กระบี่นี้ เขตแคว้นทั้งหลายจักสยบ

    กระบีี่ที่สาม กระบี่สามัญชน คือผมเผ้ารุงรัง พูดจาแข็งกระด้าง เมื่อประลองฝีมือ จะสวมหมวกจมต่ำ ตาเขม็งเหมือนปลาตาย กระบี่นี้เมื่อลงมือ จะฟันคอศัตรู แทงหัวใจศัตรู มิผิดกับการตีไก่ เมื่อชีวิตสูญสิ้นไปแล้วก็รับใช้ประเทศชาติไม่ได้อีก

    จ้าวอ๋องฟังสรรพคุณสามกระบี่แล้ว นั่งนิ่งพักใหญ่ แล้วก็ตั้งสติสำนึกได้ สั่งเลิกการประลองกระบี่ เลิกสนใจมือกระบี่

    เรื่องเล่าเรื่องนี้จบลง ตรงมือกระบี่เสียใจ ชักกระบี่เชือดคอตาย เมื่อไม่มีกระบี่สามัญชน จ้าวอ๋องก็หันไปใช้กระบี่ของอ๋อง ใส่ใจเกื้อหนุนพวกขุนนางที่มีสติปัญญา แบ่งหน้าที่ให้ดูแลทุกข์สุขราษฎร







    =====================================




    ยอดนักรบ ที่สามารถรบ โดยไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อ

    ไม่ว่าผลออกมา จะไม่มีใครชนะ หรือ ศัตรูยอมสยบ หรือ ศัตรูยอมแพ้ หรือ ศัตรูมาเป็นมิตร ฯลฯ .....................สมควรเป็นยอดนักรบ ที่เดินผ่านได้ทั้งสองดินแดน
    คือ แดนโลก และแดนธรรม ควบคู่กัน โดยไม่ขัดขวางกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 เมษายน 2013
  12. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    เป็นนักรบ ในมุมนึงก็ดีนะคับปกป้องชาติบ้านเมือง แต่มองอีกมุมนึงต้องเบียดเบียนและฆ่าผู้คนไปมาก คิดแล้วทั้งน่าภูมิใจและสลดใจ
    ตัวผมในตอนที่เป็นนักเรียนได้ไปเที่ยวที่เมืองเก่ากรุงศรีอยุธยา คุณครูพานำเที่ยวแล้ว คุณครูได้ชี้ไปที่แท่นประทับนั่ง แล้วบอกว่านั่นเป็นที่พระมหากษัตริย์ทรงประทับนั่ง พอเรามองดู เหมือนเข้าไปอยู่ในสมัยนั้น จำได้ว่าเคยนั่นเป็นประจำ แต่มันเกิดขึ้นเพียงวูบเดียว ก็งงเหมือนกัน ต่อมาเมื่ออายุประมาณ 18 ปี ซึ่งตอนนั้นเคยบวชเป็นสามเณรได้ 4 ปี แล้วตอนนั้นไปภาวนาอยู่ในถ้ำคนเดียว ถ้ำนั้นมีพระเคยโดนหลอกต่างๆนาๆ แต่ผมก็ไม่สนใจตายเป็นตาย อย่างน้อยก็ตายอยู่ในธรรม เอาขนมไปปิ๊ปนึง ภาวนาอยู่ในนั้น ไม่ได้ออกมาบิณฑบาท ประมาณ อาทิตย์กว่า และตอนทำสมาธิในนั้น มีอยู่ช่วงนึงทำสมาธิไป จิตรวมลงไป แล้วไปเห็นตัวเองในสมัย อยุธยา เป็นกษัตริย์องค์หนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร เพราะเห็นแล้วก็ไม่ได้ไปสนใจ เพราะตอนนั้น มุ่งพระนิพพานอย่างเดียว และหลายๆครั้งก็เกิดอะไรแปลกๆ เจอหน้าคนบางคน เราจะจำเขาได้ ถ้าเข้าเกี่ยวข้องกับเราในอดีต เขาจะมาดูแล แต่บางครั้งก็จำได้ว่าบางคนเคยเป็น ศัตรู แล้วในที่สุดเราอยู่ดีๆ เขาก็มาหาเรื่องเราเอง มาเป็นศัตรูเรา โดยที่เราไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย

    แต่เราทุกๆคน เกิดตายมานับ อสงไขย ไม่ได้ ก็คงเคยเป็นทุกๆอย่างมาแล้ว สูงบ้าง ต่ำบ้าง ตามแรงของกรรมที่ทำไว้ เว้น เพียง สามอย่าง ที่ยังไม่เคยเป็น คือ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์

    พอเกิดในสภาพที่สูง เมื่อหลงมัวเมา แล้วประมาท ไม้ได้สร้างบุญกุศล พอตายไป ก็ไปสู้สภาพที่ต่ำ เมื่ออยู่ในสภาพที่ต่ำได้สติ หมั่นสร้างบุญกุศล พอตายไป ก็ไปเกิดในสภาพที่สูง เมื่อไปเกิดในสภาพที่สูง ก็กลับหลงมัวเมา ประมาทอีก ไม่ได้สร้างบุญกุศล พอตายไป ก็กลับไปเกิดในสภาพที่ต่ำอีก
    ทำยังงัย ชีวิตใน วัฏฏสงสาร มันถึงจะมีความแน่นอนมั่ง ... ?
     
  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,024
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ผมเคยพูดกับคนที่นุ่งขาว แต่พูดจาดูถูกคนที่มีหน้าที่รักษาสันติราษฏร์ หรือทหารที่ต้อง
    จำเป็นทำปาณาติบาต ผู้ที่รุกรานอธิปไตย เบียดเบียนฆ่าฟันคนดี


    ผมบอกแก่คนห่มขาวนั้นว่า ".นักรบ ตำรวจ ทหาร เหล่านั้น เป็นผู้เสียสละอย่างมาก

    ยอมตกนรก เพื่อให้พวกท่านมีเวลา มาถือศีล บำเพ็ญภาวนา พวกท่านกลับหลงลืมตัว

    มีมานะสูงแล้วกลับไม่เห็นตนเอง เห็นนักรบเหล่านั้นท่านทำผิด แล้วยกย่องตนว่านุ่งขาว ถือศีล แทนที่จะใช้เวลาภาวนา ลดละกิเลสตน แล้วแผ่อานิสงส์ให้กับผู้ทำหน้าที่รักษาความสงบทั้งหลาย ที่ยอมสละชีวิตและโอกาส ให้พวกท่านสุขสบาย "


    ---------------------------------------------------



    วันหนึ่งข้างหน้า


    หากเป็นไปได้ ขอให้โลกในยุคที่มีคนดี ผู้มีบุญบารมี มาเกิดมากๆ มีอาวุธที่สามารถทำให้คนสลบไป
    โดยไม่ต้องถึงชีวิต แล้วฟื้นขึ้นมา ก็ลืมนิสัยเดิมๆ ที่เป็นคนโหดร้าย ทำร้ายเบียดเบียนกัน


    คงจะเป็นยุคของพระจักรพรรดิที่ทรงศีล ปกครองคนด้วยศีลธรรม มีศีลห้าเป็นปกติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 เมษายน 2013
  14. แก้วกัลลยา

    แก้วกัลลยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +570
    รู้สึกหัวใจพองโต น้ำตาปริ่มๆ เมื่ออ่านพบข้อความของท่านดาบหัก
    เคยพบบุคคลเช่นนี้เหมือนกัน เคยน้อยใจเสียใจเคยตำหนิต่อว่าพวกเขาอยู่ในใจ
    "นี่หรือผู้ที่เรียกตัวเองว่า เป็นผู้เจริญในธรรม"
     
  15. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    การที่ ทหารและ ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ที่สมัครเข้ามารับราชการรับใช้สนองพระเดชพระคุณรัฐบาลขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ละท่านล้วนเคยเกิดมาทำงานรับราชการตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว และมาในปัจจุบันก็กลับชาติมาเกิดมารับใช้บ้านเมืองเหมือนดังอดีตชาติที่ผ่านมา

    โดยเฉพาะทหารและตำรวจนั้น ต้องเสียสละอย่างสูง ในอดีตชาติสมัยโบราณต้องเดินทางไปรบใช้เวลาเดินทางไปกลับเป็นปี ๆ ต้องทิ้งลูกเมียไว้เบื้องหลังบางคนก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาหาลูกเมีย บางคนก็พิการ

    ในรัชสมัยปัจจุบัน มีทหารตำรวจ ที่เสียสละเสียชีวิตในหน้าที่ ในสนามรบ ในอดีต โดยเฉพาะในยุทธการต่าง ๆ ที่ต้องต่อสู้ตามฐาน ป่าเขาลำเนาไพร ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นที่ภูพานหรือเขาค้อ โจรก่อก่ารร้ายสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทหารตำรวจที่เสียชีวิตเหล่านี้ส่วนมากแล้วมียศในชั้นประทวนและก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะไม่ค่อยดีนัก ต่างก็ได้รับพระราชทานเพลิงศพ ได้ัรับพระราชทานยศ เลื่อนชั้นจากชั้นประทวนขึ้นเป็นชั้นสัญญาบัตร หลายขั้นยศ

    มาบัดนี้ ทหารตำรวจที่เสียชีวิตในอดีต ต่างก็กลับชาติมาเกิดใหม่ และอานิสงค์ของการรักชาติรักแผ่นดินที่เสียสละชีวิตเพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่่างก็กลับชาติมาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดีกว่าเก่า และกลับชาติมาเกิดเป็นทหารตำรวจ และเรื่มต้นยศที่ ร้อยตรี ร้อยตำรวจตรี ร้อยเอก หรือ พันตรี

    มิใช่ว่าใคร ๆ จะเป็นทหารหรือตำรวจก็ได้ มีแต่พวกนักรบเท่านั้น ที่สามารถกลับมาเป็นทหารและตำรวจได้






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2013
  16. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    อนุโมทนาค่ะ เป็นความรู้ที่ดีๆอีกอย่าง แต่ตัวเราเองระลึกไม่ได้ว่าเคยเป็นอะไรมาก่อน รู้แต่ว่าคงทำบาปทำกรรมไม่ดีมาเยอะ ชาตินี้เลยต้องชดใช้กรรมเยอะแยะเลย แต่ว่าเป็นคนใจคอกล้าหาญ ชอบความยุติธรรม อดทน ตอนประถมเคยต่อยกับเด็กผู้ชายในโรงเรียนด้วย จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แล้วก็สมัยก่อนเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ถ้าใครทำตัวไม่ดี หรือผู้ใหญ่ทำตัวไม่สม แต่มาเกี่ยวข้องกับเรา จากที่เราไม่ค่อยพูดก็จะกลายเป็นคนปากร้ายทันที คือไปต่อว่าเขาเลย แต่ไม่ได้ด่านะ
     
  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,024
    ค่าพลัง:
    +70,068
  18. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  19. dechay

    dechay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +132
    เคยมีคนทักว่าเป็นนักรบสมัยกรุศรีอยุธยามาก่อนหลายคนเหมือนกันค่ะ

    เพราะว่าแม่เราตอนแรกมีลูกยากมากก็เลยไปขอเสด็จพ่อขุนด่านที่ค่ายจ.ป.ร. นครนายก ท่านเป็นนายทหารหัวเมือง สมัยพระนเรศวร แล้วพอกลับมาก็เลยท้องเลย

    เราเคยฝันว่าเห็นทหาร สูงใหญ่มากเดินมาหาแล้วก็บอกว่าเราฆ่าสัตวืตัดชีวิตไว้ ต้องมั่นทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรให้มากๆๆนะ
    เคยมีครั้งนึง นั่งสมาธิอยู่ก็เห็นเหมือนคนกำลังรบกันอยู่เลยค่ะ

    แต่ชาตินี้เจ้ากรรมนายเวรตามมาเพียบจริงๆ เป็นโรคหอบตั้งแต่ 3 ขวบทุกวันนี้ยังไม่หายเลยค่ะ แล้วป่วยบ่อยมากๆๆเลย ต้องเป็นนู่นเป็นนี่อยู่เรื่อยเลย ชินแล้วค่ะ
    คิดว่าถ้าเราตั้งใจทำบุญไว้ ซักวันกุศลกรรมที่เราทำก็ต้องมาหาเรา เราเป็นคนที่ทำไว้เองก็ต้องยอบผลแห่งกรรมที่เราทำค่ะ

     
  20. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,448
    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ ติดตามอ่านแล้วก็เป็นความรู้กันไป
    ส่วนตัวระลึกไม่ได้ว่าเคยเป็นมั้ย..รู้แต่ว่าชาตินี้
    จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เป็นที่สุดค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...