สนทนากับคนตาย : คุยกับฟาโรห์รามเสสและการสร้างปิรามิด

ST: Erik, you there?

Erik: Yo.

ST: The Pharaohs were so long ago I guess Ramses has been back to an Earth body a couple of times but to our purpose, is he available?

Erik: Yes, yes and I anticipated your question and he’s over here in this telephone booth.

ST: (Oh no, bad joke time again, I can smell it coming….) There were no telephone booths in Egypt.

Erik: No, they weren’t necessary, they communicated better without ‘em, for a while.

ST: (Relieved no bad joke sprang up) Communicated better than telephones would do?

Erik: Two telephones go into a booth and one says to the other, “Did you call me?”

ST: (Forehead face palm) Seriously, did the Egyptians have better than wire voice communication?

Erik: Yeah, for a while until it was forgotten.

ST: Wow….


ทีมงาน "อีริคเธออยู่นี่มั๊ย"

อีริค "โย่"

ทีมงาน "ฟาโรห์นั้นอยู่ในยุคอดีตอันแสนนาน เราเดาว่าเขาเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในยุคคู่ขนาน แต่ที่เราอยากรู้คือ เขามาคุยกับเราได้ไหม"

อีริค "ใช่ๆ ผมรู้แล้วว่าพวกคุณต้องการอะไร และเขาอยู่ที่นี่พร้อมจะคุยกับเราแล้ว ที่ตู้โทรศัพท์(มุข)"

ทีมงาน "(เป็นตลกร้ายที่เราก็รู้สึกถึงว่าเขากำลังมา) ที่อียิปต์สมัยนั้นไม่มีตู้โทรศัพท์หรอกนะ"

อีริค "ไม่ สมัยนั้นไม่จำเป็นหรอก พวกเขามีวิธีการสื่อสารที่ดีกว่าตู้โทรศัพท์เสียอีก ในช่วงหนึ่งของยุค"

ทีมงาน "(มันไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกสับสนเลย) วิธีที่สื่อสารได้ดีกว่าโทรศัพท์งั้นเหรอ"

อีริค "โทรศัพท์สองตัว(สมัยนั้น)อยู่ในตู้ จากนั้นผู้สื่อสารก็ถามกันว่า "คุณโทรหาผมรึป่าว""

ทีมงาน "(จับหน้าผาก)จริงเหรอ ชาวอียิปต์สมัยนั้นมีวิธีสื่อสารที่ดีกว่าโทรศัพท์ทางสายเหรอ"

อีริค "ใช่ ช่วงหนึ่งของยุคก่อนที่วิทยาการนี้จะถูกลืมหายไป"

 

Walk Like an Egyptian - Channeling Erik

 

ตายนานขนาดนั้น เค้าไม่ไปเกิดหรอ

 

ST: Wow….

Erik: Let’s get My Committee and Mr. Pharaoh going here…..

ST: “My” Committee, like your Committee?

Erik: Honorary Chair, dude…..On Oh Rare Eee Chair….

ST: Mr. Pharaoh, do you mind that form of address?

PR: It is a nice remembrance, please proceed with it.

ST: You see The Committee and Erik and they’ve explained the whole deal?

PR: Yes, he is well known in these places for this connection that is established; many we look upon this with great enjoyment, the contact we see now beginning to be recognized.

ST: What can you say about the civilization of your reign compared to what exists in Egypt today and around the world?

PR: A book might be written to this answer for proper treatment to be given – well done, your transliteration of what I tried to say with your words of English – but brief for your venue I shall be.

ST: Allow me a digression; “your words of English”? I’m not sure what you meant.

PR: I never used it in the lives lived; you are filtering into your code.

ST: How then if you were not familiar with English on Earth can you compare good language use or otherwise?

PR: Your thoughts and mine and all of them. As you will instantly recognize upon your return, all languages of code blocks, as you use them, all become secondary to the normal flow of communication and all are understood, by the thoughts of their foundation.

ST: You sound like a professor.


ทีมงาน "ว้าว"

ทีมงาน "คุณฟาโรห์ คุณสะดวกที่จะร่วมคุยกับพวกเราไหม"

ฟาโรห์ "ได้เลย เรายินดี"

ทีมงาน "คุณช่วยอธิบายอารยธรรมของคุณที่เคยปกครองอยู่ เมื่อเทียบกับอียิปต์ในปัจจุบัน และอารยธรรมในปัจจุบันได้มั๊ย"

ฟาโรห์ "อาจมีตำราที่ได้เขียนคำตอบไว้บ้างแล้ว ซึ่งเขียนได้ค่อนข้างถูกต้อง ซึ่งเราอาจจะต้องให้คุณช่วยแปลในแบบภาษาของคุณอีกทีนึง แต่จะบรรยายที่พอให้คุณเข้าใจได้"

ทีมงาน "ช่วยบอกให้เราเข้าใจหน่อย ที่ว่าภาษาของพวกเรา"

ฟาโรห์ "เราไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ ฉะนั้นคุณอาจต้องทำความเข้าใจให้เป็นภาษาของคุณ"

ทีมงาน "เอาล่ะ ถ้าคุณไม่คุ้นกับการใช้ภาษาอังกฤษ คุณลองพูดถึงภาษาที่คุณคิดว่าคุณจะใช้ได้ดีหน่อย"

ฟาโรห์ "ภาษาที่ผ่านทางความคิดของเรา ของคุณและคนอื่นๆ ซึ่งคุณสามารถระลึกได้เมื่อคุณรับรู้มัน ภาษาส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นรหัสแบบที่คุณใช้อยู่ ซึ่งต้องใช้การถอดรหัสผ่านสมอง การระลึกจึงจะเข้าใจได้ ตามคนที่เขาคิดค้นภาษาขึ้นมา"

ทีมงาน "ฟังคุณพูดเหมือนเป็นระดับกูรูเลยทีเดียว"

 

Erik: Can I smoke in class?

ST: So please tell us about civilization then compared to now.

PR: What evolved into the civilization I was born to lead started there from peoples that escaped the disappearance of Atlantis; by the interjunction of my appearance, much of what was remembered had been set aside; forgotten would be the word.

ST: Why?

PR: The memory of technology and its development, and some capability to construct, came with the people fleeing the crumbling home of their many generations. There was not time to gather the proper people and records and also escape. The vast majority of what was the civilization was lost. So the development of what was established in the land that became Egypt lacked resources and circumstances. As generations proceeded, the use and need for many technologies faded; we suggest the use of a language by a family that leaves one nation to resettle in another. The language and culture of the new supplant the previous, within just three or four generations the culture is that of the current environment. This is similar to what occurred, over a longer period of time by comparison to your calendar.


อีริค "ผมสูบบุหรี่ในห้องได้มั๊ย"

ทีมงาน "เอาล่ะ ท่านช่วยอธิบายอารยธรรมของท่านเทียบกับปัจจุบันหน่อย"

ฟาโรห์ "เรื่องเกี่ยวกับอารยธรรมของเราก็คือ เราลงมาเกิดเพื่อเริ่มสร้างอารยธรรมใหม่ ร่วมกับประชาชนที่รอดจากการสาบสูญของมหานครแอตแลนติส
และเราปรากฏตัวเพื่อรื้อฟื้นอารยธรรมใหม่ ที่เคยถูกลืม"

ทีมงาน "ทำไมล่ะ"

ฟาโรห์ "เพราะความทรงจำเกี่ยวกับวิทยาการ การสรรค์สร้าง รวมถึงความสามารถในการก่อสร้าง แทบหายไปพร้อมกับการล่มสลายของเมืองเก่า ที่เคยสั่งสมมาหลายชั่วอายุคน ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะรวบรวมนักปราชญ์ ตำรา หรือแม้แต่วิธีการเอาตัวรอด หายนะใหญ่ครั้งนั้นก็ทำให้อารยธรรมสูญหายไปด้วย ดังนั้นวิวัฒนาการต่างๆจึงมาเริ่มกันใหม่บนดินแดนที่เรียกว่าอียิปต์ ขาดซึ่งทรัพยากรและวิธีการ ในขณะที่คนรุ่นต่อไปต้องดำเนินชีวิตต่อ ในลักษณะที่จำเทคโนโลยีเดิมได้เล็กน้อย เราแนะนำให้ประชาชนใช้ภาษาของครอบครัวที่อพยพมาจากชนชาติหนึ่ง เพื่อการจัดระเบียบให้เป็นภาษาและวัฒนธรรมเดียวกันแทนที่ของเก่า และอาศัยอยู่อย่างนั้นในช่วงสามถึงสี่ชั่วอายุคน ก่อนที่จะเป็นสภาพแวดล้อมปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น "

 

ST: When were the pyramids built and by whom?

Erik: They were brought from Mars by green men in orange barges imported from Jupiter and were red until the sun bleached them tan.

PR: (Huge smile and looks at Erik) They were constructed by the first arrivals to this region.

ST: What was the purpose?

PR: Preservation of foodstuffs; the arid region would cause rapid deterioration. These became the cold stores.

ST: Atlantis had electricity and the ability to refrigerate, yes?

PR: Certainly however the ability to manufacture refrigeration enclosures was a longer term solution, as much effort would be necessary to mine, refine and manufacture. The pyramids could be done much more quickly and have the same effect.

ST: How long did the construction take?

PR: By your calendar, several months.

ST: A few months to build a pyramid like that?

PR: All of them, the construction was simultaneous.

ST: How were they done?

PR: Levitation.

ST: How were the stones cut?

PR: Intense light produced by crystals, from technology on Atlantis.

ทีมงาน "ปิรามิดถูกสร้างเมื่อใดและใครสร้าง"

อีริค "มันถูกนำมาจากดาวอังคารโดยคนตัวเขียวที่บินมาพร้อมยานสีส้มที่สร้างจากบนดาวพฤหัส กลายเป็นสีแดงและอ่อนลงเป็นสีแทนเมื่อโดนแสงแดด"

ฟาโรห์ "(ยิ้มและมองไปที่อีริค) มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้มาเยือนกลุ่มแรกที่มาภูมิภาคนี้"

ทีมงาน "มีจุดประสงค์อะไร"

ฟาโรห์ "การเก็บรักษาอาหาร พื้นที่แห้งแล้งนี้จะทำให้อาหารเสียเร็ว ซึ่งปิรามิดจะรักษาอุณหภูมิให้เย็นอยู่เสมอ"

ทีมงาน "แอตแลนติสมีไฟฟ้าใช้ และมีความสามารถทำเครื่องแช่เย็น ได้ใช่ไหม"

ฟาโรห์ "แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม เดิมทีการผลิตโรงแช่อาหารนี้เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว แต่ในขณะนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพยายามทำอย่างมาก ดังนั้นการสร้างปิรามิดจึงต้องสร้างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และให้ผลเช่นเดิม"

ทีมงาน "ใช้เวลาแค่ไหนในการสร้าง"

ฟาโรห์ "ตามปฏิทินของพวกคุณ 7 เดือน"

ทีมงาน "ไม่กี่เดือนสำหรับการสร้างปิรามิดใหญ่ขนาดนี้น่ะเหรอ"

ฟาโรห์ "ทุกปิรามิดนั่นล่ะ สร้างขึ้นพร้อมๆกัน"

ทีมงาน "สร้างยังไง"

ฟาโรห์ "ทำให้ลอยขึ้น"

ทีมงาน "ตัดหินอย่างไร"

ฟาโรห์ "แสงอันร้อนแรง ที่เกิดจากการผลิตผ่านคริสตัล เทคโนโลยีจาก
แอตแลนติส"

 

ST: If they had such ability to cut and move stone by levitation, why not build refrigeration?

C: You are imposing your ideas of technology by your experience; the assumption that refrigeration is the best method is limited to your experience. Soon these ideas will expand.

PR: Yes, certainly because the area was not populated and there needed not be large scale preservation of foods.

ST: So why such massive pyramids?

PR: The size of a pyramid has direct relation to the abilities of preservation it might imbue upon the contents precisely located within; the size was chosen to achieve the desired effect for the amount of food desired to be stored. Aesthetic beauty was also a consideration and the creation of shadowed areas was of great benefit in a place so arid and cloudless.

ST: The orientation of the pyramids has been rumored to be guideposts or markers for visitors from outer space.

PR: The technology that enables such travel does not require such marker on your Earth. These objects have been often observed by visitors but not used for this purpose.

ST: Why did the pyramids come to be used as tombs?

PR: This was much time later, as the population grew far beyond the ability of the inner chamber to store anything that might serve the needs of even a small portion of the people. The idea that a body might be preserved arose as a good use; the immense beauty and symbolism of these structures provided their greatest value and this has not diminished, even now.

ทีมงาน "ถ้าพวกท่านมีความสามารถถึงขนาดตัดและย้ายหินได้โดยให้มันลอยขึ้น ทำไมท่านไม่สร้างตู้เย็นกันล่ะ"

อีริค "คุณกำลังเปรียบเทียบความคิดด้วยเทคโนโลยีของคุณ การที่คุณคิดว่าตู้เย็นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด นั่นเพราะคุณจำกัดความคิดไว้ด้วยประสบการณ์ของตัวเองเท่านั้น ซึ่งปิรามิดเป็นสิ่งที่สร้างก่อน ที่แนวความคิดในการสร้างตู้เย็นจะเป็นที่แพร่หลาย"

ฟาโรห์ "ใช่ ถูกต้อง เพราะปัจจุบันมนุษย์ไม่ได้ใช้สังคมร่วมกันเป็นหมู่ใหญ่ และต้องการการเก็บอาหารเฉพาะกลุ่มคนเล็กๆเท่านั้น"

ทีมงาน "แล้วทำไมต้องเป็นปิรามิดขนาดมหึมาล่ะ"

ฟาโรห์ "ขนาดของปิรามิดมีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพในการเก็บรักษาอาหาร รวมถึงสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้มากมายจากการวาดภาพภายใน ขนาดยังขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ต้องการเก็บไว้ ความสวยงามก็อีกประเด็น รวมถึงมีขนาดใหญ่เพื่อสร้างพื้นที่ร่มเงา ในดินแดนที่แห้งแล้งและไร้เมฆบดบังเช่นนั้น"

ทีมงาน "พิกัดของปิรามิดยังถูกร่ำลือว่า เป็นจุดสังเกตุ หรือจุดมาร์คสำหรับผู้มาเยือนจากนอกโลก"

ฟาโรห์ "เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์ในการเดินทางมากนัก อย่างที่ว่าเป็นจุดมาร์คบนโลกของคุณ แต่สิ่งก่อสร้างนี้ก็ถูกใช้เป็นจุดสังเกตุสำหรับผู้มาเยือนเช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์"

ทีมงาน "ทำไมปิรามิดจึงถูกนำมาใช้เป็นหลุมฝังศพ"

ฟาโรห์ "มันเป็นการใช้งานในช่วงหลังจากนั้น ซึ่งประชากรเพิ่มจำนวนมากเกินกว่าที่ห้องภายในปิรามิดจะบรรจุสิ่งของที่พวกเขาต้องการได้ทั้งหมด แม้สำหรับคนกลุ่มเล็กๆก็ตาม จึงเกิดไอเดียขึ้นว่า ร่างกายของคนตายเป็นสิ่งสำคัญที่จะเก็บรักษา หากเขาฟื้นขึ้นมาจะได้กลับมาใช้งานได้ดี ความสวยงามของปิรามิดดูมีคุณค่า และเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของพวกเขา และไม่ได้ลดลงเลย แม้ในปัจจุบัน"

 

การสร้างพีรามิดไม่ได้้ใช้่เทคโนโลยีขั้นสูงอะไร
มันก็แค่การใช้แรงงานทาส อย่างหนัก เท่านั้นเอง


เมื่อก่อนเป็นป่า ไม่ใช่ทะเลทราย แต่เพราะตัดไม้
เยอะ เอาไปใช้ในการขนหินมากมาย สุดท้าย ก็
ไม่เหลือ กลายเป็นทะเลทรายไป


เม้าท์เฉยๆ นะ อย่าซีเรียส ...

 

ปิรามิด ที่เอ็งเห็นใหญ่โต นั้นยังสร้างไม่เสร็ญ เพราะ บริษัทกับรัฐบาลอียิป ฮั่วกัน เกิดการคอรัปชั่น ก็เลยสร้างได้เท่านั้นแล 555+

 

ฮาาาา... อยากจะต่อมุขแต่คิดไปคิดมาไม่อาวดีกว่า อิอิ

 

อยากอ่านอีกคับ