รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

แบบนี้เลยครับที่เรียกว่าเป็นการทำนาย ไม่ต้องมีญาณอะไร ใช้เหตุผลและข้อมูลทางวิทย์ มาว่ากัน แบบนี้ผมมองว่าเป็นการทำนายที่ดูจับต้องได้ ไม่ดูเลื่อนลอยโดยใช้นิมิตรอะไร คำทายรูปแบบนี้ถ้าไม่เกิดขึ้น เราก็ยังได้ความรู้ใส่สมองบ้าง ไม่ใช่นั่งญาณหรือนิมิตร อะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้มีประโยนช์อะไรกับหัวสมองเลย

 

แวะไปโพสให้สติคนที่เข้ามาอ่านในกระทู้นึง ดูมันโพสซิเห็นแก่ตัวอย่างสุดๆ
ทำตัวเป็นมาเฟียห้ามไม่ให้คนอื่นมาแสดงความคิดเห็น กร่างเหลือเกิน!!!

นักต่อสู้เพื่อความถูกต้องก็โดนแบนจนเข้ามาโพสไม่ได้หลายคน
ไม่รุ้คนพวกนี้สะกดคำว่า "ความจริง" ไม่เป็นหรือยังไง
หลงเชื่อคำทำนายลวงโลกได้ตลอดเวลาขาดสติ

ถ้าภัยพิบัติมันมาจริงพวกที่ตายพวกแรกก็คือพวกที่ชอบเตือนภัยส่งเดช
กับพวกหลงเชื่อเนี่ยล่ะบ้าจนขาดสติ ต่อไปคงมีคำพูดติดปากใหม่ๆว่า
" ร่างทรงผู้วิเศษพาคนไปตาย"

 

ที่ผมอ้างถึงประสบการณ์ที่ผมเจอมาเกี่ยวกับการล่วงรู้อนาคต เพียงแค่อยากบอกว่าเรื่องการรู้อนาคตมันมีอยู่จริง ที่ผมเจอมากับตัวเองนั้นไม่ใช่แค่ว่าเจอแค่ครั้งเดียวแล้วเอามาอ้างเป็นตุเป็นตะ ผมประสบกับตัวเองมานับเป็นสิบครั้งแล้ว และเรื่องแบบนี้จะบอกเล่าให้ใครฟังมันยากอยู่ครับบางเรื่องก็ไม่ควรมาบอกเล่ากันในที่สาธารณะครับ

เรื่องราวต่างๆที่ผมได้ยินได้ฟังไม่ว่าจากใครก็ตาม ผมก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อ เพราะภูมิปัญญาของเรายังไม่ถึงขั้นที่จะรู้ว่าสิ่งนั้นจริงหรือว่าไม่รู้ว่าจริงโดยปราศจากการเข้าไปศึกษาค้นคว้าเสียก่อน แต่ที่ได้ยินบ่อยๆเรื่องที่คนชอบพูดว่าถ้าไม่เชื่อในสิ่งที่คนๆนั้นหรือครูบาอาจารย์องค์นั้นเล่ามาจะเป็นบาปอันนี้ผมขอค้านเต็มที่ เพราะเรายังไม่รู้อะไรสักอย่างอยู่ๆดีมาบอกให้เราเชื่อในสิ่งที่ใครก็ไม่รู้มาพูดให้ฟังแค่เนี้ยะ มันไม่ดูแปลกๆไปหน่อยหรือ แต่ยังไม่ถึงกลับกล่าวหากันโดยใช้คำพูดแรงๆแต่เท่าที่ผมเห็นมักจะมีการด่าว่าเหน็บแนมกันไปมาจนบางครั้งถึงกับด่าทอกันเลยก็มีอยู่ไม่น้อยนับว่ารุนแรงพอสมควร ก็ไม่รู้ว่าด่าทอกันไปเพื่ออะไร ด่าทอกันไปมาแล้วจะได้อะไร ผมอ่านคำที่ใช้ด่าว่ากันแล้ว คิดว่าน่าจะเข้าข่ายในทางกฎหมายข้อหาหมิ่นประมาทเสียด้วยซ้ำในบางกรณี

 

มันจะไม่เกิดปัญหาอะไรเลยถ้ารู้จักนำเสนอให้เป็น แค่มาบอกมาอธิบายให้ฟัง
ว่าจะเกิดอะไร มีความเป็นไปได้แค่ไหน ผมเข้าใจนะว่าอยากให้คนอื่นเชื่อ
เลยต้องเติมแต่งสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการสร้างเรื่องราวให้มันดูรุนแรงน่ากลัว
ใหญ่โต บางคนกำหนดวันเวลา สถานที่ไว้ด้วย พอเหตุมันไม่เกิดตามที่พูดไว้ก็
มีความพยายามยกข้ออ้างสารพัดขึ้นมาอธิบาย ซึ่งเหตุผลแต่ละอย่างฟังไม่ขึ้น
เลยซักนิดเดียว แถมเป็นเหตุผลที่บิดเบือนความจริงเรื่องกฎแห่งกรรมซะด้วย

ส่วนเรื่องการเหน็บแนมกระแทกแดกดันนั้น มันมีเหตุจากพวกนักทำนายเป้น
ฝ่ายเริ่มก่อนทุกครั้ง พอมีคนมาค้านมาโต้แย้งก็จะข่มขู่ ปรามาสบ้างอะไรบ้าง
อีกฝ่ายก็เลยไม่ยอมเพราะมันไม่มีเหตุผล ผมโพสทุกครั้งจะอธิบายด้วยเหตุผล
แต่อีกฝ่ายไม่เคยจะโต้ตอบด้วยเหตุผลเลย มีแต่แถไปเรื่อยๆ อ้างโน้นนี่ที่มัน
จับต้องไม่ได้ ไม่มีความจริง พอนานวันผ่านไปก็ยังไม่มีคำตอบให้ฝ่ายต่อต้าน
ก็เลยโดนแขวะเป็นเรื่องธรรมดา มันก็เหมือนนิทานเรื่อง "เด็กเลี้ยงแกะ"
พูดโกหกหลายครั้งจนสุดท้ายไม่มีคนเชื่อ อ้างกันว่าไม่ได้พูดโกหกแต่พูดในสิ่ง
ที่ตัวเองเห็น ซึ่งสิ่งที่เห็นดันเป็นอุปทานไม่ใช่ความจริง หากไม่แน่ใจก็ไม่ควร
พูดแต่แรก พูดไปแล้วคำพูดมันผูกมัดตัวเรา ก็เลยโดนฝ่ายต่อต้านจัดหนักอยู่
ตลอด ก็ไปมองว่าพวกเค้าป่วน แต่จริงๆแล้วไม่ได้ป่วนหรอก เค้าแค่มาทวงถาม
ความจริงว่ามันอยู่ตรงไหน นั่นเพราะร่างทรงนักทำนายยังสร้างเรื่องโกหกไม่
เลิก ญาณผิดพลาดครั้งที่ 1 ควรพิจารณา ครั้งที่ 2 ควรทบทวน ครั้งที่ 3 ควร
หยุดได้แล้ว แต่นี่ยังแก้ตัวไปได้เรื่อยๆ จงสังเกตให้ดีๆ คนพวกนี้จะพูดกลับ
กลอกไปมา จับต้นชนปลายไม่ได้ เมื่อวานบอกอย่าง วันนี้บอกอีกอย่าง
พรุ่งก็ก็กลายเป็นอีกอย่าง พูดอะไรไว้จำคำพูดตัวเองไม่ได้ เพราะพูดโกหก
ทำจนเป็นนิสัยติดตัว สุดท้ายเลยกลายเป็นพูดโกหกตลอดเวลา

พอมีปัญหาเกิดขึ้น คนที่เค้าเชื่อเดือดร้อนมาเรียกถามความจริงความรับผิดชอบ
ก็ตอบส่งเดชไปว่า "ไม่ได้บอกให้เชื่อ แค่พูด แค่บอก ก็มันเลื่อนจะให้ทำไง
มีอำนาจลึกลับมาบิดเบือนกฎแห่งกรรมจะให้ทำยังไงดีล่ะ เค้าเก่งมากนะ
เก่งกว่าพระพุทธเจ้าซะด้วย ถ้าเชื่อและยอมทำตามที่บอก ก็จะอยู่เหนือกฎ
แห่งกรรม รอดพ้นภัยพิบัติ ไม่ตาย จิตใจสูงส่ง เพราะยอมเชื่อฟัง"

แต่ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ร่างทรงนักทำนายทั้งหลายที่ออกคำทำนายมา
และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะต้องได้รับผลกรรมแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ทำให้
ผู้อื่นเดือดร้อน ผลนั้นก็ย่อมส่งผลให้ตัวเองเดือดร้อน และจะได้รับของแถม
เพราะเอาคำทำนายของพระอริยะเจ้าหลายองค์มาเสริมเติมแต่งบิดเบือน
ตีความไปด้วยความคิดส่วนตน

เรื่องปลาบู่ก็เป็นตัวอย่างของการลวงโลกไปแล้วรอบนึง โดนฟ้องร้องเพราะ
ปล่อยข่าวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ทุกวันนี้พวกร่างทรงนักทำนายก็ทำผิด
กฎหมาย พรบ. คอมพิวเตอร์ อยู่ เวลาเค้าติดสินเรื่องพวกนี้ข้ออ้างเจตนา
แจ้งเตือนภัยมันฟังไม่ขึ้นนะ เพราะเค้าใช้ความจริงตัดสิน ไม่ได้ใช้มโนภาพ
อุปทานของผู้วิเศษตัดสิน

 

ยังจำกันได้ไหมครับ?

.

 

เราอาจจะหลอกกันเองได้
เราอาจจะหลอกตัวเองได้
เราอาจจะหลอกผู้อื่นได้

แต่อดีตและกาลเวลา ไม่เคยหลอกใครครับ
ขอให้ทุกท่านพิจารณาอย่างมีสติ

.

 

อยู่กลุ่มเดียวกับปิยะชีพ นี่ครับ คนนี้ ตอนนี้She กลับมาแล้ว มาถึงก็เปลี่ยนเรื่อง ไปด่ารัฐบาลฉอดๆ ตาม FB เห็นแล้วเหนื่อยใจ

 

บัดนี้ She ลบโพสช่วงปลายปีทิ้งไปหมดแล้ว
สงสัยจะกลัวโดนล้อ



.

 

สติมา ปัญญาเกิด แต่ถ้าปัญญายังไม่เกิด อย่างน้อยก็ได้ฉุกคิดบ้าง (f)

.

 

ขออภัยอึกครั้งครับ ช่วงนี้เดินทางตลอดอาจไม่ได้เข้ามาอ่านหรือโพสต์ :z8

8-11 เมย. ที่ผ่านมากลับไปเยี่ยมพ่อ-แม่ที่ร้อยเอ็ด ก่อนที่การจราจรจะติดช่วงเทศกาล
ส่วน 12-17 เมย. จะไปดูนก ชมธรรมชาติทางใต้ แถวพังงา กระบี่ ครับ

ปีใหม่ไทย 2556 ปีนี้ ขออวยพรให้ทุกท่าน มีแต่ความสุข ปลอดภัยและโชคดี ตลอดการเดินทาง นะครับ

.

 

สุขสดชื่นมีความสุขในวันปีใหม่ไทยทุกๆท่านครับ





ท่าน hiflyer ไปใต้ขอให้สนุกนะครับ อย่าลืมพกร่มไปด้วยนะครับ 12-16 ฝนทางใต้ตกเยอะคร๊าบ

 

ขอบคุณมากครับท่าน engineer03


thaxx


.

 

อย่าลืมเก็บภาพนกสวยๆ ทะเลใสๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วยนะคะ จะรอดูชม จร้า ...

 

ชี้น้ำแข็งแอนตาร์กติกละลายเร็ว 10 เท่า

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2556 เวลา 19:17 น.


สำนักข่าวเอเอฟพีรายจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า ผลการศึกษาร่วมระหว่างนักวิจัยชาวออสเตรเลียและชาวอังกฤษ ได้ถูกนำมาเปิดเผยระบุ ช่วงฤดูร้อนน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกละลายเร็วถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วง 600 ปีก่อน โดยภาวะน้ำแข็งละลายเร็วที่สุดเกิดขึ้นในระยะ 50 ปีที่ผ่านมา


ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและบริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ ได้ขุดเจาะแกนน้ำแข็งที่ยาว 364 เมตร บนเกาะเจมส์ รอสส์ ทางเหนือของทวีปแอนตาร์กติก เพื่อวัดอุณหภูมิในอดีต ซึ่งพื้นผิวที่มองเห็นชัดในแกนน้ำแข็งบ่งบอกระยะเวลา เมื่อหิมะในฤดูร้อนที่ปกคลุมบนน้ำแข็งได้ละลาย จากนั้นได้แข็งตัวอีกครั้ง นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพบว่า ในช่วง 600 ปีอุณหภูมิสูงขึ้น 1.6 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอัตราที่ทำให้น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา


นายโรเบิร์ต มัลเวนีย์ จากบริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเจาะสำรวจแกนน้ำแข็งและร่วมเขียนผลการวิจัยเรื่องดังกล่าวบอกว่า การละลายของน้ำแข็งก่อนหน้านี้ในคาบสมุทรแอนตาร์กติกถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะธารน้ำแข็งหดตัวลง และแผ่นน้ำแข็งได้ละลายหายไปอย่างที่เรากำลังเห็นกันในปัจจุบัน นายมัลเวนีย์กล่าวต่อไปว่า การละลายของน้ำแข็งในฤดูร้อนเป็นกระบวนการสำคัญ ที่ทำให้เชื่อว่า ชั้นน้ำแข็งบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกอ่อนตัวลง อันนำไปสู่การสลายตัว เช่นเดียวกับธารน้ำแข็งทั่วภูมิภาคละลายเร็วขึ้นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา


ส่วนเนริลี อับราม นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหมายความว่า คาบสมุทรแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิสูงขึ้นในระดับที่เล็กน้อย แต่เพิ่มสูงขึ้นในฤดูร้อน ทำให้น้ำแข็งละลายเร็วกว่าเดิม สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ ได้ถูกเผยแพร่ลงในวารสารเนเจอร์ จีโอไซเอนซ์ และเป็นการวิจัยการละลายของแผ่นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกครั้งที่ 2

ที่มา http://www.dailynews.co.th/world/197587

 

ความฝันของคนบางกลุ่มเริ่มเป็นจริงเข้ามาทีละน้อยแล้ว พยายามต่อไปสู้ๆ
ระวังพวกนักทำนายเอาไปเป็นข้อมูลเชื่อมโยงนะครับ พวกนี้มันเก่งเรื่องการ
เชื่อมโยง หมาขี้หน้าบ้านยังเอามาเป็นเหตุเกิดภัยพิบัติได้เลย

เห็นแล้วก็สงสารคนพวกนี้หาว่าพวกเราเป็นนักค้านไปซะงั้น แหมก็มันไม่มีเหตุมีผลนี่หว่าพอเราถาม
ก็ไม่ตอบไม่ตรงคำถาม แถมด่าสาปแช่งพวกเราอีก หาว่าปรามาสลบหลู่ สารพัดจะยัดเยียดข้อหา

 

อิหร่านแผ่นดินไหว 7.5 นับศพได้แล้ว 40 ราย
วันอังคารที่ 16 เมษายน 2556 เวลา 18:24 น.


สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่า ศูนย์แผ่นดินไหวของอิหร่าน รายงานผ่านทางเว็บไซต์ว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.5 ริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศวันนี้ โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 18 กิโลเมตร ห่างจากตอนเหนือของเมืองซาราวัน ในจังหวัดซีสถาน บาลูชีสถาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 81 กิโลเมตร ขณะที่ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส รายงานว่า แผ่นดินไหวในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ครั้งนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองคาช ใกล้พรมแดนปากีสถาน 86 กิโลเมตร



แผ่นดินไหวครั้งนี้ รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอ่าวเปอร์เซียและตะวันออกกลาง รวมทั้งตึกสูงระฟ้าหลายแห่งทั้งตึกเบิร์จ คาลิฟา ซึ่งมีความสูง 828 เมตรในดูไบ และบาห์เรน เจ้าหน้าที่ต้องสั่งให้อพยพประชาชนออกจากอาคารสูงชั่วคราวเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า อาคารสูงหลายแห่งในกรุงนิวเดลี ของอินเดีย สั่นไหวด้วย



สถานีโทรทัศน์อิหร่าน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 ราย



ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ก็เกิดแผ่นดินไหวใกล้เมืองบูเชอร์ ชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน ขนาด 6.3 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน และบาดเจ็บ 850 คน


ที่มา http://www.dailynews.co.th/world/197827

 

http://palungjit.org/posts/7757589

นี่คือตัวอย่างของการจับแพะชนแกะครับ นิมิตเพ้อเจ้อที่ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร
กันเลยยังจะโยงประเด็นมาให้เกี่ยวข้องกันได้อีก เห็นแล้วอดเวทนาไม่ได้คน
พวกนี้มันหลอกตัวเองได้ทุกวันเลยจริงๆ ไหนว่าก่ออาวุธเชื้อโรคเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย 555+

 

นี่ท่านๆ ผมเอาข่าวจากสภากาแล็กซี่มาฝาก เค้าบอกว่าจะเกิดเหตุอ่ะ ภายในสามเดือนนี้
ผมคำนวณวันเวลาให้เรียบร้อย จะได้ช่วงเวลา

11 กรกฎาคม 2013 - 22 สิงหาคม 2013

อ้างอิง http://palungjit.org/threads/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%81.248273/page-83#post7760504

ครั้งนี้คิดคำนวณให้เรียบร้อย เพิ่มค่าความคลาดเคลื่อนให้ด้วย +-20% เรามาลองดูซิ
ว่าจะเป็นตามนั้นไหม แต่ด้วยส่วนตัววืดอีกตามเคย

 

กระทู้นั้น คุณ Falkman เขาตั้งมาของเขาดี ๆ แต่มีผู้ที่เพ้อเจ้อไม่เลิก บางคน มาทำให้มัวหมอง ... น่าเห็นใจ จขกท. พวกเพ้อเจ้อทั้งหลาย ทำไมไม่ไปตั้งกระทู้ของตัวเองล่ะโว้ย เลิกเอาอะไรบวม ๆ บ๊องส์ ๆ มายัดสมองคนอ่านที่อาจจะหัวอ่อนหลงเข้าไปอ่านเสียที มันน่าเบื่อน่ะ...

 

ทุกท่าน ที่ไป คัดค้านหรือเห็นแย้ง คุณมณีส่องแสง ให้ระวังตัวด้วยน่ะครับ ตอนนี้ เธอได้ส่งหน่อยพิฆาตเรนเจอร์ เกาะติดทุกท่านแล้วเชื่อว่าภายใน 3วัน7วันนี้ ภารกิจจะสำเร็จ ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน เอิ๊กๆ