**ณ ราตรีหนึ่ง**

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 9 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    แอบคิดถึงใครน้อ ดีใจด้วยหนอ
     
  2. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    บอกไม่ได้จร้า อิอิ
     
  3. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    เป็นไปได้ทั้ง she and him จร้าาา
     
  4. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    5555ขอบคุณจร้าเมื่อคืนนี้เป็นวันโกณค่ะยุ้ยเลยบ้า ถึงยุ้ยจะเศร้าแค่ไหนยุ้ยก็จะต๊องแบบนี้แหละจร้า เพราะมีคนเคยบอกกับยุ้ยมาว่า..วันนี้ยุ้ยยิ้มหรือยัง ยุ้ยก็เลยต้องยิ้มค่ะเศร้าแค่ไหนก็ต้องยิ้มหนอ ขอบคุณจร้า ที่นำข้อมูลที่ดีๆมาให้อ่านจร้า
     
  5. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    มองโลกในแง่ดีหน่อยเด้อชีวิตจะได้มีความสุข เน็ตมันหลุดตั้งหลายรอบ กว่าจะได้คุยไก้ทัก กก็จนมีคนเข้าใจผิดคิดว่าไม่อยากคุยด้วยหนอ
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    Your music make me so crazy.
    คิดถึงคนที่ไม่มีตัวตนหนออออออ คิดมานานแระ คริคริ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xmQpSo-yPw8]หาไม่เจอหรือเธอไม่มี - YouTube[/ame]
     
  7. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    โหหหห ยุ้ยก็ฝันเห็นผู้ชายเหมือนกันค่ะ คนเดิมๆที่เคยมาหา แต่ว่าฝันของขอณนุ๊กเศร้าไปหนอ
     
  8. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    555 เป็นโรคเดียวกันกับยุ้ยเลยหนอ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ค่ะ แบบว่า...เธอรัก แต่ไม่ห่วง ไม่ดูแล ไม่แคร์ฉันเลย ทำนองนี้ :'(
    อยากรู้หนอ เล่าให้อ่านบ้างจิ คริคริ :cool:
     
  10. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    08.29 เช้าๆแบบนี้ได้เวลาไปสวดมนต์แล้วจร้า ยุ้ยขอตัวไปสวดมนต์ก่อนน๊า ส่วนเรื่องฝันขอติดเอาใว้ก่อนจร้า ถ้าหายป่วยเมื่อไหร่ หรือถ้าอยากจะเข้ามาอีกเมื่อไหร่ แล้วยุ้ยจะเข้ามาเล่าให้ฟังนะคะ ปล.ถ้าไม่ลืม :cool::cool:
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไม่เป็นไรค่ะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าแล้วกันเนาะ ไม่รีบคร้าาาา
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคร้าาา สาธุ :cool:
     
  12. รออยู่นะ

    รออยู่นะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +149
    ขอบคุณจร้าา...
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    รอฟังหนอเรื่องนี้ด้วยนะคร้าาาาาา คุณยุ้ย (kiss)
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไปอ่านเจอมาแล้วชอบก็เลยเอามาแบ่งปันค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ

    ความฝันของผมเอง

    ความฝัน ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นมาในค่ำคืนหนึ่งเมื่อ 40 ปีเศษมาแล้ว แม้จะนานแสนนานอย่างไรผมก็ไม่เคยลืมเลย เพราะเป็นความฝันในครั้งแรกที่เกิดเป็นความจริงขึ้นมาอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ ในเวลานั้น ผมก็ได้มีแต่ความสงสัย แล้วก็ครุ่นคิดไปต่างๆ นานา แต่ก็หาเหตุผลอะไรไม่ได้แม้แต่สักเล็กน้อย เมื่อเห็นสมควรว่าจะซักถามใคร ก็ซักถามไปรวมแล้วก็หลายท่าน ก็ได้รับคำตอบยังไม่เป็นที่พอใจ เมื่อผมมาศึกษาพระอภิธรรมแล้วจึงได้บังเกิดความเข้าใจจนหายสงสัย

    ในเวลานั้น ผมอยู่ในกรุงเก่า ใกล้วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แทบทุกค่ำคืนผมจะข้ามคลองไปบ้านชายชราผู้หนึ่งมีชื่อที่ใครๆ ทั่วไปเรียกว่า “ลุงเสน” เพื่อหัดดนตรี คือ ซอด้วง และไวโอลิน” ดังนั้น ผมจึงเป็นผู้ที่ชอบพอ คุ้นเคย เคารพนับถือลุงเสนและผู้ที่อยู่ในครอบครัวนี้ทุกคนเป็นพิเศษ แล้วผมก็ได้สังเกตเห็นว่า ลุงเสนก็ชอบในอัธยาศัยใจคอของผมเป็นพิเศษด้วยเหมือนกัน

    ผมหัดดนตรี โดยอาศัยลุงเสนเป็นครูผู้ฝึกอยู่ประมาณ 1 ปี จึงได้ย้ายไปอยู่อีกตำบลหนึ่ง เพื่อให้ใกล้กับที่ทำงาน คือโรงเรียนประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพักอยู่กับน้องชายภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง

    ในคืนวันนั้น หลังจากที่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ปีเศษ ผมก็ฝันเห็นลุงเสนมาหา เป็นความฝันที่ชัดเจนแจ่มใสติดอยู่ในใจลืมไม่ได้ง่ายๆ ลุงเสนเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางที่แข็งแรงกระฉับกระเฉง ทั้งแต่งตัวก็เรียบร้อย มีสง่าราศี ผมจึงได้ร้องทักว่า “ได้ข่าวว่าลุงไม่สบาย เวลานี้หายดีแล้วหรือ ผมตั้งใจว่าจะไปเยี่ยม ก็ยังไม่ได้ไป” ลุงเสนตอบว่า “เวลานี้สบายดีแล้ว”

    แม้ว่าจะฝันสั้นๆ เพียงเท่านี้เองก็จริง แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ และประทับใจไม่น้อย เพราะดูลุงเสนค่อนข้างหนุ่มกระชุ่มกระชวยผิดไปจากข่าวที่ได้รับมาว่ากำลังป่วยเจ็บอยู่ ผมตื่นขึ้นมาจากความฝันในเวลาประมาณตี 1 ของวันใหม่ ผมก็รู้สึกว่าความฝันดังนี้ ทำให้ใจไม่ค่อยจะดี เพราะเคยได้ฟังผู้ใหญ่เล่าว่า ถ้าฝันว่าคนป่วยมาหาแล้ว คนป่วยนั้นจะไม่รอดไปจากความตาย ผมครุ่นคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็นอนไม่หลับไปจนสว่าง ในเช้าวันนั้นก็เล่าให้น้องชายและผู้ใหญ่หลายคนได้ทราบ ต่างก็มีความเห็นว่า “ฝันว่าคนป่วยมาหาเช่นนี้ คนป่วยคงจะได้เสียชีวิตไปแล้ว” ในตอนสายๆ ของวันนั้นเอง ญาติคนหนึ่งของลุงเสนก็มาที่บ้านผมแล้วก็บอกว่า

    “ลุงเสนได้ตายเสียแล้ว”

    ผมก็รีบถามว่า “ตายเมื่อเวลาเท่าใด”

    เขาได้ตอบว่า “ตายเมื่อเวลาราวตี 1 เมื่อคืนนี้”

    ความฝันหาได้ยังความน่าอัศจรรย์ใจให้เพียงเท่านั้นไม่ เพราะเมื่อผมไปที่บ้านลุงเสนในเวลานั้นประมาณ 10 โมงเช้า ก็ได้พบกับบุตรสาวของลุงเสนที่นั่นแล้วจึงได้ถามว่า

    “บ้านของคุณอยู่ถึงกรุงเทพ ฯ ทราบได้อย่างไรว่าคุณพ่อเสีย”

    บุตรสาวของลุงเสนตอบว่า “เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณตี 1 เศษๆ คุณพ่อไปบอกว่า พ่อได้ตายแล้ว ดังนั้น จึงได้จับรถไฟ 7 โมงเช้าจากหัวลำโพงเดินทางมาบ้านทันที”

    ใครๆ ในที่นั้นหลายคนต่างพากันหัวเราะชอบใจ ทั้งรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เหลือเกิน ด้วยไม่น่าจะเป็นไปได้เลย แล้วต่างก็ผลัดกันพูดว่า

    “ลุงเสนนี่ไวดี ดีเสียยิ่งกว่าโทรเลขอีก เพราะว่าคนไปส่งโทรเลขบอกไปยังบ้านของลูกสาวอยู่ที่กรุงเทพฯ ยังไม่ทันกลับมาจากการส่งโทรเลขที่จังหวัดเลย วิญญาณของพ่อก็ไปบอกลูกสาวให้มาถึงบ้านเสียก่อนแล้ว"

    ในเวลานั้นที่ทำการไปรษณีย์จะเปิดทำการเมื่อเวลา 3 โมงเช้า กว่าจะได้ส่งโทรเลขไป ลูกสาวก็จับรถไฟจากหัวลำโพงเวลา 7 โมงเช้า รถไฟเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง จึงมาถึงบ้านลุงเสนที่อยุธยาในเวลา 3 โมงเช้าเศษนิดหน่อยเท่านั้นเอง ลูกสาวได้พูดว่า ถ้ามีรถยนต์ดีๆ แล้วมีถนน (ในเวลานั้นยังไม่มีถนน) ก็คงมาถึงเสียตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

    ลุงเสนตระเวนไปบอกบรรดาญาติมิตรว่าตนตายอย่างรวดเร็วได้อย่างไร หนทางก็ไม่ใช่ใกล้ ปัญหานี้มืดมนอยู่ในใจของผมมานานปี ถ้าไม่ได้เรียนพระอภิธรรมให้มีความเข้าใจ คงตอบคำถามนี้ไม่ได้เป็นแน่.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2013
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    Old song for someone.
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=7ge1yWot4cE]Knife - Rockwell - YouTube[/ame]
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หากสายลมคือเธอ...ขอเพ้อหน่อย
    ฉันยังคอยลมพัด.........สบัดหวล
    แม้เพียงแผ่วผ่านไป.....ใจรัญจวน
    รอวันหวลคืนมา...........ถ้ารักกัน


    ฝันของฉันคืนนี้.........มีเธอไหม
    ไม่อยากให้เธอไกล.....จากใจฉัน
    ตื่นขึ้นมาคราใด.........ได้พบกัน
    เหมือนในฝันคงดี.......กว่านี้เอย
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เอาบทความดีๆ มาแบ่งปันค่ะ ลองอ่านดูก่อนนะคะ

    "ชีวิต ความฝัน เป็นของเรา เราเลือกได้"

    สมัยที่ฉันยังเป็นเด็ก ...ความฝันของฉันคือ...วันหนึ่งฉันจะเติบโตเป็นลูกที่ดี ดูแล พ่อ และแม่ และนักเขียน นักเดินทางท่องเที่ยวไปในโลกอันกว้างใหญ่ ซึ่งมันเป็นความฝันใครบางคนก็อาจจะคิดก็ฝันเช่นเดียวกับกับฉันแต่...ทว่าในโลกของความจริง...การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น มันยากเย็นแสนเข็ญกว่าที่ความคิดความฝันของเราในสมัยเด็ก อาจเป็นเพราะว่าเมื่อเราเป็นเด็ก เรามี พ่อ แม่ และญาติพี่น้อง อีกทั้งเพื่อนๆ อยู่รอบตัวเรา ทำให้เวลาที่เราเจ็บ เราเหนื่อย จนเราหลงลืมความเจ็บปวด และอ่อนล้า

    มีหลาายครั้งที่ฉันเหนื่อยเหลือ...เกินกับการวิ่งไล่ล่า หาความสำเร็จ ซึ่งในแต่ล่ะครั้งก็จะมีคำตอบไม่เหมือนกัน และมีหลายทีที่ "ผิดหวัง" "ทดท้อ" แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่ได้พบ กับคำว่า "ความสมหวัง " และเผชิญหน้ากับ คำว่า "ความสำเร็จ" ซึ่งกว่าจะได้มานั่นบ้างครั้งต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา บ่อยครั้งที่เฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอว่า "ความฝันในวัยเด็กฉันหายไปไหน" ใครกันนะที่ขโมยความฝันของฉันไป

    ทว่า...!!!! คำตอบที่ได้ก็คือ ตัวฉันเองต่างหาที่ละทิ้งความฝันของตัวเองไป "ฉันต่างหากที่ไขว่คว้าที่จะอยู่บนโลกใบนี้เหมือนปุถุชนคนธรรมดา" ยินยอมและยินดี...ที่จะเสพวัตถุ ยอมที่จะปล่อยชีวิตไปตามกระแสสังคม ตัวของฉันเองที่วิ่งเข้าไปหากับดักและวังวนของชีวิต แล้ววันหนึ่งฉันพบกับสัจธรรมเพราะฉันได้ดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่นำชีวิตของคุณยายท่านหนึ่งมาออกรายการ และบอกว่าคุณยายสามารถอยู่ได้ด้วยเงินเพียง 1000 บาทต่อดือน ฉันฟังแล้วรู้สึกสะท้อนชีวิตตัวเองเป็นอย่างมาก "เงิน 1000 บาท ฉันใช้ซื้อของที่ไม่จำเป็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็หมด" แต่กลับตรงกันข้าม 1000 บาท กลับมีคุณค่าอย่างมากกับคนอีกหลายหลายชีวิต

    จากวันนั้นมา "ฉันเฝ้าถามตัวเองเสมอว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร" เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่ได้กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดเลย จำได้ว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว.....ฉันบอกพ่อและแม่เสมอว่างานยุ่งมากกลับบ้านเหนื่อยจัง....จำได้ว่า 1 ปี ฉันกลับบ้าน 2 ครั้ง ซึ่งน้อยมาก จนวันหนึ่งฉันสูญเสีย....แม่.....ซึ่งเป็นที่รักของฉันไป ตั้งแต่นั้นจนวันนี้ฉันเฝ้าโทษตัวเองเสมอว่าฉันไม่ได้เป็นลูกที่ดีที่สุด หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ฉันจะหาเวลากลับบ้านทุกครั้งที่สามารถทำได้ ทว่าด้วยหน้าที่การงานมันไม่สามารถทำได้ดั่งใจหวัง ฉันต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า "ฉันยอมที่จะสูญเสียคนที่ฉันรักอีกหรือเปล่า" เพียงเพราะต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน ต้องการมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่กลับต้องสูญเสียคนที่รักเราที่สุดไป ซึ่งฉันเองก็มีบทเรียน แน่นอนที่สุด...ฉันไม่มีวันให้ประวัติศาสตร์เกิดขึ้นอีกครั้งในชีวิตนี้อย่างแน่นอน

    เพียงแต่คิดได้เท่านี้..... ฉันก็สามารถก้าวเดินออกมาจากพันธนาการต่างๆ ฉันสารมารถปดมันออกไปจากชีวิตของฉันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิต การทำงานฉันไม่ต้องเป็นมนุษย์อ๊อฟฟิต ฉันสามารถทำงานได้ และฉันก็มี "เวลา" ที่จะอยู่กับคนที่ฉันรัก เพราะฉันรู้ว่าเหลือเวลาที่เราพ่อ ลูก จะอยู่ด้วยกันอีกไม่นาน....เพราะพ่อก็อายุมากขึ้นทุกที ฉันจะไม่ปล่อยเวลาให้เดินจากฉันไปอีกแน่นอน ดังนั้น ฉันจึงเลือกทางของฉันเอง เพราะชีวิตเป็นของฉัน จากนี้ไปฉันบอกกับตัวเองเสมอว่า ฉันจะตามหาความฝันของฉัน" ฉันจะอยู่เพื่อคนที่ฉันรัก และรักฉัน

    จากนี้ไปฉันจะมีเศรษฐกิจพอเพียงในแบบฉบับของฉัน ฉันจะเดินตามรอยเท้าของพ่อ "พ่อของคนไทยทั้งประเทศ" หลายคนกำลังรู้สึกกลัวกับการตัดสินในเรื่องบางเรื่องขอให้คุณรู้เถอะว่า "ชีวิต ความฝัน เป็นของเรา เราเลือกได้" ฉันพร้อมจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอที่จะก้าวออกมาจากสิ่งที่คุณกลัว....มองไปข้างหน้าสิ แสงสว่างรอคุณอยู่...:cool:
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [​IMG]

    คำโบราณบอกว่า "ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน" คงพอปลอบใจเรา
    แต่เวลาดวงตก " ชั่วเจ็ดที " อะไรๆ ก็ดูแย่ไปหมด
    สรรพสิ่งอันเลวร้ายต่างประเดประดังเข้ามาจนบางครั้งหลายคนก็รับไม่ไหว
    ยอมพ่ายแพ้ต่อความจริงในที่สุด แต่คุณคงเคยได้ยิน
    คนที่สามารถชนะเหตุการณ์ร้ายๆได้ด้วย " ความฝัน " ซึ่งเป็นกำลังให้ต่อสู้กับโชคชะตา

    อย่าเผลอคิดว่า ..." ความฝัน "
    เป็นคำเดียวกับคำว่า... " ความเพ้อฝัน "

    " ความฝัน ต่างจาก ความเพ้อฝัน "
    เพราะว่าความฝันเป็นสิ่งที่สวยงาม...ไม่เคยทำร้ายผู้เป็นเจ้าของจึงเป็นเสมือนไฟส่องทางเล็ก ๆ
    ที่พร้อมอยู่ตรงหน้าเสมอ...คอยนำทางในท่วมกลางความมืดมิด...
    แม้เพียงหลับตาแล้วคิดถึงความฝันที่แท้จริงของตัวเองก็มีความสุขใจ
    เมื่อความฝันจบลงก็พร้อมที่จะเผชิญกับความจริงอย่างกล้าหาญ...

    ส่วน ..." ความเพ้อฝัน "
    เป็นสิ่งลวงตาที่อาจทำร้ายผู้เป็นเจ้าของ หากปล่อยให้มันครอบงำความคิด...
    กลายเป็นแสงสว่างเจิดจ้าจนสายตาพร่ามัว...ไม่พบเห็นทางเดินที่แท้จริง
    เมื่อความเพ้อฝันจบลง ก็ไม่อาจทำใจให้ยอมรับความจริงที่เจ็บปวดนั้นได้

    คนที่รู้ว่าอะไรคือ " ความฝัน " และอะไรคือ "ความเพ้อฝัน " ก็มีเพียงตัวคุณเองเท่านั้น
    จงทิ้งความเพ้อฝัน แล้วเก็บความฝันให้เป็นพลังของคุณในยามนี้ดีกว่า
    แล้วสิ่งดีๆ จะมีให้คุณเสมอ

    ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน... เพราะความฝันเป็นสิ่งที่สวยงาม.
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ณ ราตรีหนึ่ง นานมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่าๆ ค่ะ

    ฝันร้ายค่ะ...เป็นฝันที่น่ากลัว เพราะว่าฝันว่ามีเหล่าภูติผีตามไล่ล่า แล้วเราก็หนีด้วยทุกๆ วิถีทาง คือ ทั้งวิ่ง ทั้งเหาะ แต่ผีก็ติดตามไปได้ในทุกที่ จนเราเกือบจะจนมุมผีอยู่แล้ว

    ขณะที่กำลังจะจนมุมผี ก็ปรากฏตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่ลอยลงมาจากเบื้องบน พร้อมทั้งมีเสียงบอกว่าให้อ่านคำๆ นั้น อ่านดังๆ 3 ครั้ง คำที่ลอยลงมานั้นคือ "ธนายิ"

    เมื่อเราตะโกนคำนี้ออกไป 3 ครั้งแล้ว ปรากฏว่าผีมันกลัว พากันหายไปหมดเลย

    หลังจากตื่นนอน เราก็มานั่งคิดทบทวนว่า คำๆ นี้มันต้องมีความหมายและมันหมายความว่าอะไร ทำไมผีจึงกลัว เป็นพระคาถาอะไรหรือเปล่า ไม่เคยเห็นและได้ยินมาก่อนเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2013
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เอ๊ะ... หรือว่าจะเป็นบาลี ไม่รอช้าค่ะ โทร.หาหลวงพี่ เล่าความฝันให้ท่านฟังพร้อมทั้งถามท่านว่า คำว่า "ธยานิ" แปลว่าอะไร ทำไมผีจึงกลัว ท่านบอกว่าไม่เคยได้ยินค่ะ แต่น่าจะแปลว่า...ชนะแล้ว...

    ความสงสัยหมดสิ้นไป ณ ตอนนั้น เพราะว่าเราเป็นคนหัวอ่อนในเรื่องธรรมะ 555 ไม่ค่อยสงสัยในคำสอน แต่เหมือนว่ามันยังไม่ค่อยตรงสักเท่าไหร่ เพราะจนวันนี้เราก็ยังคลางแคลงใจอยู่ ยังไม่หยุดที่จะค้นหาความหมายค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...