แฉภาพภิกษุสันดานกา เคยจัดแสดงที่สิงคโปร์?

เวลามันไปโผล่ในโลกันต์มันจะรู้มั้ยน้อ ว่าไปเพราะอะไร

 

โปรดมองสังคมในแง่ความเป็นจริง และนำมาพัฒนาปรับปรุงแก้ไขตัวเองดีกว่า ไปให้ผู้อื่นแก้ไข พูดมาก ร้องเรียกมาก ก็อายเขาเปล่า ๆ ในเมื่อจิตของเราไม่พัฒนาแล้วจะให้คนอื่นมาแก้ไขเพื่อเราทำไม...ขณะที่ใจของเรายังไม่พัฒนา

 

เรื่องนี้ ผมเห็นว่า ไม่สมควรไป วิจารณ์ ภาพ
แสดงว่า คนวิจารณ์ มองสังคมมุมเดียว
การปกป้องพระศาสนา ควรทำที่ตน ไม่ใช่ไปยุ่งเรื่องของศิลปิน
พระที่ออกไปประท้วง ทำตัวเองให้ดีกันก่อน
เรื่องของโลกก็คือ เรื่องของโลก

ขอยก เหตุการณ์ ตามพระไตรปิฎก
ที่พระพุทธองค์ โดนตามด่า ตามว่า พระพุทธองค์ ไม่หนี และไม่ไปห้ามบุคคลเหล่านั้น
เพราะท่านทรงเห็นว่า เป็นธรรมดาที่จะเกิดเหตุการณ์ เช่นนี้ ทางที่ถุกคือ พระต้องทำดี คนดีเขาก็ชื่นชม ส่วนรูปภาพเขาประชดคนไม่ดี อันนี้ก็ควรต้องยอมรับกัน
การไม่ยอมรับนี่แหละ สร้างความวุ่นวายใหม่ขึ้น ดดยไม่ได้ดูตนเอง

 

เวรกำ.... คิดกันอย่างนี้... งั้นก็ปล่อยให้มันย่ำยีต่อไป (แล้วยึดแนวทางพิจารณาที่ตัวเองก่อนโดยไม่ไปสนใจกับสิ่งรอบข้าง)

 

ผมถามว่าใครจะย่ำยีใครกันแน่ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงในสังคม การที่คุณไปวัดบางแห่งแล้วเห็นภาพเหล่านี้จริงๆ เห็นคนห่มเหลืองผิดศีลจริงๆ ล่วงละเมิดศีลจริงๆ กับการเห็นภาพวาดที่สื่อออกมาจากความเป็นจริง คุณว่าสิ่งไหนที่เห็นแล้วเสื่อมศรัทธามากกว่ากัน ระหว่างภาพจริงๆที่ปรากฎต่อหน้าต่อตาคุณ กับ ภาพวาดที่สะท้อนสิ่งที่มีอยู่จริงในสังคม

แต่พวกคุณกลับไปด่าทอคนเขียนภาพวาด แต่ยังเมินเฉยต่อคนห่มเหลืองที่ทำตัว เป็นเหลือบ ริ้น ไร กา ไก่ คอยหากินกับผ้าเหลือง คุณคิดว่าทำถูกแล้วเหรอครับ

คนที่เห็นพวกขโมยกำลังขโมยของในหมู่บ้าน แล้วร้องบอกให้คนทั้งหลายมาช่วยกันจับขโมยแม้ว่าอาจจะตะโกนด้วยคำรุ่นแรง แต่เจตนาก็เพื่อให้ฉุกคิด และรีบตรวจสอบคนในหมู่บ้านว่าใครคือขโมย และขับไล่ขโมยออกไปจากหมู่บ้าน แต่กลับโดนด่า โดนว่า ว่าจะทำให้หมู่บ้านเดือดร้อน หมู่บ้านจะเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยรีบชุมนุนออกมาด่าว่าขับไล่คนที่ร้องบอกว่ามีขโมยอยู่ในหมู่บ้าน แต่พวกขโมยตัวจริงกลับลอยนวล อาศัยลักขโมยหากินในหมู่บ้านอย่างสบายใจเฉิบ เมื่อไล่คนที่ออกมาร้องมาบอกแล้วคนในบ้านกลับภาคภูมิใจว่าหมู่บ้านเราสงบเพราะไม่มีคนมาเสนอหน้าร้องบอกว่ามีพวกขโมยอยู่ในหมู่บ้าน ผมว่าอีกไม่นานหรอกครับ ขโมยคงเต็มหมู่บ้าน ถ้ายังมีวิธีการแบบนี้

อีกหน่อยพวกเหลือบ ริ้น ไร กา ไก่ ที่คอยหากินกับผ้าเหลืองคงเต็มเมืองเพราะมาอยู่ในผ้าเหลืองแล้วปลอดภัย ใครว่า ใครตำหนิ ก็อ้างว่าบาปนะ ตกนรกนะ ตำหนิคนห่มเหลือง แต่ลืมไปว่า ธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติให้พระภิกษุไว้ ๒๒๗ข้อ มาจากโลกวัชชะคือ ชาวบ้านติเตียนว่าไม่เหมาะสมกับสมณะสารูป มิใช่พระพุทธเจ้าตั้งกฏบัญญัติขึ้นมาแต่อย่างใด

<!--BEGIN WEB STAT CODE--><SCRIPT language=javascript1.1> page="Pics";</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/b0001109.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_donate_1.6.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://tracker.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.2>sv=1.2;ss=screen.width+'*'+screen.height;sc=(bn=='MSIE')?screen.colorDepth:screen.pixelDepth;if(sc==udf){sc='na';}</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.3>sv=1.3; </SCRIPT>

 

ชาติชั่ว สุด สุด บรรยาย

 

คนวาดเค้าวาดดีแล้ว เค้าไม่ได้ว่าศาสนา เค้าไม่ได้ว่าพระสงฆ์

เค้าว่าไอ้พวกอาศัยผ้าเหลืองหากิน ไอ้คนด่า ก็ด่าเค้าเข้าไป

ดูก็รู้ไอ้คนด่านั้นแหละ อาจจะเป็นเหมือนในรูปก็ได้


ย่ำยีศาสนา ..........มันย่ำยีตรงไหน คนที่บอกว่าย่ำยีนั้นแหละ ตนกำลังทำอยู่ ปฎิบัติให้ถึงพร้อมก็ไม่ทำ ถ้าถึงพร้อมมันไม่มายุ่งเรื่องพวกนี้หรอก

นับถือศาสนานี้แต่ไม่ปฎิบัติ พอเห็นเป็นข่าวหน่อย ร้อนตัว เหมือนหนอนในไชเนื้อ ที่กำลังโดนต้มด้วยน้ำเดือด

ไม่ได้โมโห ไม่ได้โกรธนะ เขียนตรงๆ ให้รับรู้ตรงๆ ไม่อยากอ้อมค้อม

 

ขอให้ทุกท่านยอมรับ และเห็นในสภาพของความเป็นจริงของภิกษุนอกรีตบางรูป ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาเถอะครับ ว่างๆ หากมีเวลาขอให้ไปอ่านหนังสือเรื่อง"มันอยู่ในกุฎิ" เถอะครับ ผมเป็นพุทธมามกะครับไม่อยากให้ภิกษุนอกรีตปรากฎในพระพุทธศาสนา. สงสารพระพุทธองค์ที่ท่านอุตส่าห์บำเพ็ญบารมีจนได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาน แล้วสาวกทำกับท่านเช่นนี้หรือ?

 

ที่สิงคโปร์ไม่ใช่ ภิกษุสันดานกา [9 ต.ค. 50 - 04:47]

หลังจากที่องค์กรทางพระพุทธศาสนา 53 องค์กร กดดันให้มหาวิทยาลัยศิลปากรถอดถอนรางวัลและระงับการแสดงภาพภิกษุสันดานกา ของนายอนุพงษ์ จันทร อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ชนะเลิศจากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 53 นั้น
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ต.ค. มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้จัดพิมพ์หนังสือรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพภิกษุสันดานกา โดยได้สอบถามความคิดเห็นจากบุคคลที่มีความรู้ทางด้านศาสนาพุทธเป็นอย่างดี อาทิ พระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยในหนังสือดังกล่าว พระเทพวิสุทธิกวีกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า เห็นภาพดังกล่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ อีกทั้งในพระไตรปิฎกก็ไม่มีการกล่าวถึงภาพในลักษณะดังกล่าว ปัญหาที่เกิดในขณะนี้เพราะคณะกรรมการที่ตัดสินภาพมีอัตตาสูง แสดงให้เห็นว่าความคิดของคณะกรรมการมองพระเชิงลบ ดังนั้นปัญหานี้จะแก้ไขได้หรือไม่อยู่ที่คณะกรรมการ
ขณะที่พระพยอมให้ความเห็นว่า ผู้ที่เคยอ่านหนังสือขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หรือหนังสือของท่านพุทธทาส จะเข้าใจภาพภิกษุสันดานกา แต่ถ้าเป็นพระที่ไม่เคยอ่าน ก็จะเกิดความเดือดดาล ส่วนตัวแล้วเข้าใจความหมายของภาพที่ต้องการจะสื่อออกมาว่าปัจจุบันยังคงมีพระแบบนี้อยู่ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ถูกติเตียนก็ควรที่จะยอมรับความจริงกันบ้าง เพราะพระพุทธเจ้าสอนว่า ให้ยอมรับคำตำหนิติเตียนจากผู้อื่น ส่วนพระราชวิจิตรปฏิภาณ พระนักเทศน์ชื่อดัง กล่าวว่า ภาพภิกษุสันดานกาทำให้พระผู้ใหญ่หนักใจ เพราะว่าอาจจะไปเกี่ยวข้องกับใคร และยังเป็นภาพที่บอกอะไรหลายอย่างให้กับสภาวะการปกครองของคณะสงฆ์ไทย ภาพนี้เป็นการสะท้อนจิตวิญญาณของคนห่วงพระพุทธศาสนา เพื่อให้สังคมวิจารณ์ และประจักษ์ ความจริงแล้วควรที่จะนำภาพดังกล่าวไปติดไว้ตามวัดด้วยซ้ำ
ด้านนายญาณวิทย์ กุญแจทอง รักษาราชการแทนรองอธิการบดี ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ได้นำหนังสือสำรวจความเห็นเกี่ยวกับเรื่องภาพภิกษุสันดานกา ส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร จะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการคัดเลือกและตัดสินภาพดังกล่าว โดยจะนำความคิดเห็นที่มหาวิทยาลัยศิลปากรไปสอบถามมาทั้งหมด เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อพิจารณาหาข้อยุติเกี่ยวกับการจัดแสดงภาพภิกษุสันดานกา ส่วนที่องค์กรทางพระพุทธศาสนาฯ ระบุว่า ภาพภิกษุสันดานกาเคยจัดแสดงที่ประเทศสิงคโปร์ นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการที่ศิลปินจะส่งผลงานเข้าประกวดในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติได้นั้น จะต้องไม่เคยนำผลงานไปแสดง หรือเข้าประกวดที่ใดมาก่อน

 

สัจธรรม

ถ้าหากมีเวลาออกมาประท้วงคัดค้าน ก็น่าจะมีเวลาตรวจสอบบุคคลากรผู้ห่มเหลืองบ้าง ว่ายังมีบุคคลประเภทเหล่านี้มากน้อยอีกแค่ไหนที่อาศัยผ้าเหลืองบริโภค

 

ที่พูดว่า" เวลามันไปโผล่ในโลกันต์มันจะรู้มั้ยน้อ ว่าไปเพราะอะไร" นี่ต้องพูดถึงคนที่หากินกับผ้าเหลืองนะ ไม่ใช่คนวาดเพราะสิ่งที่วาดมันมีอยู่จริงๆในวัด แบบนี้ไง

 

การวิจารณ์สมณะผู้มีศีลมากกว่าฆราวาส ถ้าท่านทำผิดจริงเราเสมอตัว แต่ ถ้าท่านไม่ผิดตามที่วิจารณ์ เราจะขาดทุน เพราะบาปอย่างแรงจะเข้าตัว การวิจารณ์พระ เรามีโอกาสขาดทุนสูง ต้องระวังให้ดีๆ

 

ผมว่า ภาพเหล่านี้ไม่ช่วยให้มารศาสนาน้อยลงหรอกนะครับ เพราะพวกเหล่านี้เค้าไม่มีความละอายกันแล้ว ขนาดวินัยและคำสอนของพระพุทธเจ้าเอง พวกเค้ายังไม่ปฏิบัติตาม ยังละเมิดคำสอนได้ แล้วภาพ "ภิกษุสันดานกา" นี้จะช่วยอะไรได้ล่ะครับ ภาพที่ออกมามันสะท้อนภาพความเป็นจริงทางสังคมก็จริง แต่ก็อย่างที่บอก มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยในทางบวก แต่มันจะเป็นไปในทางลบมากกว่า คือคนหมดศรัทธาในพระสงฆ์ บางคนจะทำบุญก็ต้องคิดก่อนว่า เอ๊...จะทำบุญวัดนี้ดีไหมน้อ มีพวกมารศาสนารึป่าวก็ไม่รู้ ทำให้จิตเป็นอกุศล แทนที่จะได้บุญ กลับได้บาปไปโดยไม่รู้ตัว

 

ภิกษุก็คือนักบวช ไม่ใช่พระอริยเจ้า พระอริยสงฆ์ พุทธบริษัทสี่ที่คอยสืบทอดพระศาสนา หมายถึง ภิกษุ หรือนักบวชชายด้วย เรื่องการปกครองสงฆ์ก็ควรจะเข้มงวดมากขึ้น ภิกษุควรช่วยกันสอดส่องภิกษุด้วยกันเองตามพระวินัย ความดีควรยกย่อง ความผิดพลาดควรแก้ไขปรับปรุง ความผิดร้ายแรงควรป้อมปรามควบคุม.

 

เราไม่ได้ปล่อยให้คนนุ่งเหลืองห่มเหลืองแล้วหลอกใช้ผ้าเหลืองหากินลอยนวลนะคะ ถ้าจับได้ก็จับ ไม่มีใครปล่อยหรอกคะ คนดีนะไม่ได้บ้า แล้วภาพนี้เราก็ไม่ปล่อยเหมือนกัน พระตัวเป็นๆที่ทำผิดเราก็ไม่ปล่อย คนวาดรูปพระให้เสื่อมเสียเราก็ไม่ปล่อยค่ะ

 

เราเห็นด้วยกับคุณ websnow อย่างมากค่ะ
ทำไมถึงไม่เสนอสิ่งดีๆ พระไม่ดีมีเป็นส่วนน้อย แต่ข่าวบ้านเรา ออกแต่ข่าวของพระไม่ดี แล้วทำให้วัยรุ่นไม่ค่อยเข้าถึงพุทธศาสนาอยู่แล้ว กลับยิ่งเสื่อมศรัทธา ซึ่ง 1 ในวัยรุ่นแบบนั้น ก็คงเป็นผู้วาดรูปด้วย
ถ้าคิดว่าจะเสนอความเป็นจริงละก็ ความเป็นจริงนั่นก็คือ พระดีมีเป็นส่วนใหญ่ พระเลวมีเป็นส่วนน้อยนิด นี่คือความเป็นจริงที่ควรเสนอ ความเป็นจริงอีกอย่างคือ อริยสัจ 4 ผู้วาดเสนอได้ไหมล่ะ อริยสัจ 4 อ่ะ ถ้าทำได้ ให้ล้านนึง

 

ผู้วาดควรเสนอด้านดีๆมากกว่า ทักษิณทำให้ประชาชนแตกเป็นสองฝ่าย พลเอกสนธิเลยต้องมายึดอำนาจเผื่อสมานฉันท์ ภาพนี้ทำให้ไทยพุทธมีความเห็นขัดแย้งกัน เพราะเป็นภาพในเชิงลบ ที่ได้รางวัลก็ได้ไปไม่ว่าอะไร แต่ควรจะเลิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเอาไปโชว์ตามนิทรรศการณ์ซะ นี่แสดงว่า ผู้วาดเห็นแก่ตัว เพราะอยากได้เงินใช่ไหมล่ะ หากมีจุดประสงค์ดีจริง ควรยกเลิกการแสดงภาพนี้เสีย

 

ลองเขียนภาพลบหลู่ศาสนาอื่นดูบ้างสิ.... รับรองคุณหาที่อยู่ยากแน่ๆ

ถ้าองค์กรชาวพุทธเข้มแข็งเหมือนศาสนาอื่นๆ รับรองไม่มีใครกล้ามาย่ำยีบ่อยๆ เช่น การเอาพระพุทธรูปไปประดับห้องน้ำ การนำภาพพระพุทธไปพิมพ์ใส่กางเกง หรือภาพลักษณะสันดานกาแบบนี้ ฯลฯ