ใครควบคุมความฝันของตัวเองได้บ้าง...

มันเป็นเพราะ หลับๆ ตื่นๆ อ่ะแหละ เลยทำให้รู้ตัวในฝัน และจำฝันได้.. แต่ถ้าหลับยาว.. ช่วงเวลาที่หลับลึก ก็จะจำความฝันไม่ได้(ช่วงหลับลึก อาจจะควบคุมฝันได้หรือไม่ได้.. แต่จะจำไม่ได้) แต่ตอนใกล้ๆจะตื่น จะจำฝันได้ เพราะสติเริ่มกลับมา

 

ควบคุมความฝันได้

คือตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนเข้าไปอยู่ในความฝัน ทุกครั้งที่ตื่นมาเหนื่อยมาก ซึ่งในฝันจะบังคับได้ทุกอย่าง อยากวิ่งไปทางไหนก็วิ่งได้ มีครั้งนึงอยากพิสูจน์ว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในฝันรึป่าว โดยการ เมื่อฝันจะ ทำให้ตัวเองเจ็บ และลองบังคับทิศทาง ปรากฎว่าทำได้ทุกอย่าง อยากตื่นตอนไหนก็ตื่น มีการถามคนในฝันด้วยว่าเลขงวดนี้ออกอะไร ทำได้หมดยกเว้นเปลี่ยนฉากที่ฝัน ถ้าฝันร้ายจะตบหน้าตัวเอง รู้สึกเจ็บจริงนะคะ เพราะทุกครั้งที่ฝัน จะรู้ว่าฝัน ทุกวันนี้เหนื่อยกับความฝันของตัวเองมาก เคยปรึกษาหลายคน ส่วนมากเค้ามักจะบอกว่าเพ้อเจ้อ
แต่ก็โอเค เหมือนเรามีอะไรๆพิเศษอยู่ วันหลังจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ(y)(y):love:

 

ผมเคยนะควบคุมความฝันได้ ครั้งเดียว รู้ว่าฝันสนุกเลย ลองทำในความคือ ผมลองวิ่งแข่งกับรถนะวิ่งไม่ต่ำกว่า80ก.ม ต่อชั่วโมงไม่มีเหนื่อย แชง สะงั้น ยกรถกะบะเล่นบ้าง ไม่รู้ยกได้ยังไง ก็สนุกดี บินบ้างลอยบ้างในฝัน บินไปบินมาตกจากที่สูง สดุ้งตื่นจากฝันสะงั้น
ฝันครั้งอื่นๆไม่สามรถคุมได้ละไหลไปตามน้ำเพราะเพลินไปกับความฝัน

ถ้าอยากคุมความฝันได้ ต้องมีสตินะต้องรู้จักตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆคือ กูมาทำไรที่นี้วะ
แล้วคุณจะคุมได้

 

ปูก็ควบคุมความฝันได้อย่างเก่งเลย... อยากฝันอะไรก็ได้ฝัน.. การควบคุมสมองตัวเองง่ายๆ ถ้าเราจิตใจเข้มแข็งพอ

แต่ยกเว้น ฝันล่วงหน้านะ ... บังคับไม่ได้จ้า

 

ไม่ค่อยจะฝันเลยค่ะ นาน ๆ ฝันที

 

เราฝันแล้วสามารถฝันต่อจากตอนที่แล้วได้หากปวดท้องฉี่กลางครัน ฝันเรื่องเดิมต่อไปจนจบเหมือนดูหนัง

 

การควบคุมความฝันสามารถทำได้จริงๆแล้วครับ!!!
มีหนังสือออกใหม่ชื่อ Virtual world เทคนิคการควบคุมความฝัน มาแนะนำครับ หนังสือเล่มนี้จะสอนเทคนิคต่างๆ ที่เมื่อเรานำไปฝึกจะทำให้เราสามารถที่จะควบคุมความฝันของตัวเราเองจนถึงระดับที่ว่า เราสามารถที่จะเปลี่ยนความฝันธรรมดาของเราให้กลายเป็นโลกเสมือนจริงที่สมบูรณ์แบบได้ ผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราฝึกสำเร็จก็คือ เมื่อเราฝันเราจะรู้ตัวได้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกของความฝัน จากนั้นก็แล้วแต่เราจะจินตนาการได้เลยว่า เราอยากที่จะให้ความฝันของเราเป็นแบบไหน ตามสโลแกนของหนังสื่อที่ว่า ไม่ว่าคุณต้องการที่จะทำอะไร, ที่ไหน, เมื่อไหร่ หรือแม้แต่ กับใคร คุณก็จะสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจปารถนา ให้ความรู้สึกที่สมจริงทั้งรูป, รส, กลิ่น, เสียง หรือแม้กระทั้ง สัมผัส จนในบางครั้งขนาดตัวคุณเองที่กำลังท่องอยู่ในโลกของความฝัน ก็อาจจะถึงกับเกิดความไม่แน่ใจขึ้นมาได้ว่า ความจริงแล้วตอนนี้คุณกำลังอยู่ในโลกความฝัน หรือกำลังอยู่ในโลกของความเป็นจริงกันแน่... ไม่ต้องห่วงเรื่องความน่าเบื่อนะครับ เพราะความจริงแล้วโลกในความฝันนั้น แม้ว่าจะเป็นความฝันที่เราควบคุมมันได้ แต่มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนไปตามจิตไต้สำนึกของเราได้ด้วย(โดยเฉพาะตอนที่คุณกำลังจะทำอะไรที่มันผิดต่อหลักศีลธรรมมากๆ ความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว ดี ก็มักจะเข้ามาขัดขวางอยู่เสมอ ทำตัวเหมือน กระทรวงวัฒนธรรม หรือ ไอชีที ประมาณนั้น) ดังนั้นการเข้าควบคุมความฝันจึงเปรียบได้กับ การที่เราเข้าไปผจญภัยในจิตใต้สำนึกของตัวเราเอง ซึ่งมันทั้งตื่นเต้นและท้าทายมากๆครับ คิดดูนะครับว่าในขณะที่คุณกำลังบินล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ฝ่าปุยเมฆ มองทิวทัศเบื้องล้างที่คุณเป็นคนจินตนาการมันขึ้นมาเอง แต่อยู่ๆคุณเกิดรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะคุณอยู่ตัวคนเดียว ในโลกความจริงคุณจะรู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรก็ได้ครับ เพราะมันจะไม่เกิดขึ้นจริงๆ ผิดกับโลกในความฝัน ที่คุณอาจจะเจอกับ มังกรที่ดุร้าย หุ่นยนต์พวกดิเซ็ปติคอล หรือ จานบินมนุษย์ต่างดาว โผล่ขึ้นมาแล้วเห็นคุณเป็นอาหารหรือหนูทดลองของพวกมัน ซึ้งถ้าคุณฝึกเทคนิคต่างๆในหนังสือเล่มนี้จนเกิดผล คุณก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร เพราะโลกในความฝันนั้นเกิดมาจากความทรงจำ จินตนาการ และจิตใต้สำนึกของตัวคุณเอง คุณจึงสามารถที่จะมีพลังอำนาจได้เทียบกับพระเจ้า(พูดง่ายแต่ทำยากมากครับ ขนาดผู้เขียนเองท่องอยู่ในโลกความฝันมาแล้วนานกว่า 20 ปี ทุกวันนี้ก็ยังต้องหนีตายอยู่บ่อยๆ คงเพราะไม่มีอะไรจะควบคุมยากไปกว่าจิตใต้สำนึกของเราอีกแล้วก็เป็นได้ หรือไม่ก็คงเพราะผู้เขียนมีนิสัยขี้ขาดตาขาวไปเอง) โดยวิธีการที่ใช้ในการควบคุมความฝันของหนังสือเล่มนี้นั้น อาสัยธรรมชาติของความฝันให้เป็นประโยชน์ กล่าวคือเรามักจะฝันในเรื่องที่เราผึ่งจะรับรู้มาในเวลาก่อนหน้าไม่นาน เราจะฝันในเรื่องที่เรากำลังให้ความสนใจ หรือกำลังวิตกกังวล และลักษณะนิสัยหรือปฏิกิริยาที่เราจะตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในความฝันก็เป็นปฏิกิริยาเดียวกันกับที่เราจะทำในโลกของความเป็นจริงนั้นเอง เมื่อเป็นดังนี้เราจึงสามารถที่จะฝึกสร้างความทรงจำแบบเฉพาะเจาะจง และสร้างลักษณะนิสัยแบบเฉพาะเจาะจงขึ้นมาได้ โดยถ้าเมื่อไหร่ที่เราฝันแล้วในความฝันครั้งนั้นมีความทรงจำที่เราจงใจสร้างเอาไว้อยู่ด้วย เมื่อรวมกับนิสัยที่เป็นลักษณะเฉพาะที่เราก็สร้างเอาไว้เช่นกัน จะส่งผลทำให้ความฝันครั้งนั้นเราจะสามารถควบคุมมันได้ ซึ้งในปัจจุบันด้วยวิธีการนี้สามารถทำให้ผู้ฝึกเข้าควบคุมความฝันได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาเลยที่เดียว ถึงจุดนี้แล้วถ้าผู้อ่านทานใดสนใจที่จะหาหนังสือเล่มนี้มาศึกษา หรือว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซท์ ตามที่อยู่ต่อไปนี้ได้เลยครับ ถึงเวลาที่ทุกความฝันจะกลายเป็นจริง

 

ได้เป็นบางครั้งนะ

 

เคยครับตอนได้บางครั้ง