พระพิฆเนศวร์ คือ ความจริงหรือจินตนาการครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย SUPERWATT, 6 ตุลาคม 2010.

  1. Tumada

    Tumada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +19
    ระวังกันนะครับ โทษมิจฉาทิฐฐิ ลบหลู่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในไฟนรกเจ็ดกองทั้งนั้น พระพิฆเนศ จะจริงไม่จริง ผมก็ไหว้เพราะ บูชาความดีเทวดา
    พระพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า "ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดอันบัณฑิตทั้งหลายในโลกกล่าวว่ามีอยู่ แม้ตถาคตเราก็กล่าวว่าสิ่งนั้นมีอยู่ สิ่งใดอันบัณฑิตทั้งหลายในโลกกล่าวว่าไม่มี แม้ตถาคตก็กล่าวสิ่งนั้นว่าไม่มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่วิวาทโต้เถียงกับโลก แต่โลกย่อมวิวาทโต้เถียงกับเรา "
    ลองคิดดูพระพิฆเนศ ท่านไม่ได้เป็นเหตุให้เราโต้เถียงกันนะครับ "กิเลส"ต่างหาก 1 ใน 3 โมหะงัยครับ
    ส่วนตัวผมนับถือ พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดครับ
     
  2. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ผมให้คุณ 10ดาวครับ ยอดเยี่ยมทีเดียว สั้นๆ ชัดเจน โอ.เค. เลยแบบนี้
     
  3. ฤาษีน้อย

    ฤาษีน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    826
    ค่าพลัง:
    +1,262
    ไม่เข้าใจ

    จากที่อ่านมาทั้งหมดทุกโพส ก็ไม่เห็นจะมีใครเขาว่า ศาสนาไหนไม่ดีเลยนะครับ มีปมอะไรในใจอยู่หรือป่าว แล้วถามจริงๆตัวคุณนับถือศาสนาไหนครับ หรือว่าเป็น ผู้เรียนมาก รู้มาก จนรู้ไม่รู้จะยึดเอาไรเป็นสรณะแล้วหรือป่าว เพราะบรรลุแล้ว ฝากข้อคิดเอาไว้สักนิดนะครับ ต้นไม้ ต้องมีทั้ง เปลือก กระพี้ แก่น นะครับ ไม่งั้นมันทรงตัวอยู่ไม่ได้ เข้าใจไหมครับ
    ในฐานะที่ผมเป็นพุทธศาสนิกชนเต็มตัว คุณมาจาบจ้วงพระพุทธศาสนา ผม ยอมไม่ได้นะครับ แต่เข้าใจ และจะให้อภัยคุณ
     
  4. มโหสถผู้เจริญ

    มโหสถผู้เจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +851
  5. bhuddhany

    bhuddhany Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    สำหรับผมเทพเทวดาทุกอย่างมีจริงหมดครับ เพราะขนาดไดโนเสาร์ที่พวกเราในโลกนี้ไม่เคยเห็นเรายังเชื่อวว่ามีจริงเลยครับ
     
  6. mekpotter

    mekpotter Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +82
    มีอะไร อีกมากมาย ที่มนุษย์ยังไม่รู้
    สิ่งที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ก็อย่าได้คิดว่าไม่มี
    ศรัทธาตั้งมั่น แล้วท่านจะรู้ได้ด้วยตนเอง
     
  7. tanatep

    tanatep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +118
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คตินิยม
    ทำไมชอบกันจัง ชอบตั้งปริศนาประมาณนี้
    "พระพิฆเนศวร์ คือ ความจริงหรือจินตนาการครับ"

    ยิ่งไอ้พวกคตินิยมแบบพุทธ มันคอยจ้องที่จะเทียบเคียงว่าคติของตนดีกว่า
    แล้วก็แถอ้างพระอ้างเจ้ากล่าวกันวุ่นวายไปหมด
    จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่รู้

    เขาก็อุตสาห์บอกแล้วว่า เชื่อกับศรัทธา เชื่อให้คิดด้วยปัญญา ศรัทธาให้เคารพ
    เทพปกรณัม มันก็แค่เรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยคติ ความเชื่อ ความศรัทธา ประเพณี วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมอันควร

    แล้วมันต่างกันตรงไหน หากจะบอกว่า พุทธปกรณัม มันก็คือเรื่องเล่าเช่นกัน
    เที่ยวหาเรื่องว่าคติอื่นเป็นเรื่องเล่า ส่วนของตนนั้นเรื่องจริง ประเสริฐนักแล

    ดูหนังเรื่อง Little of Buddha เขาอุตสาหร์เล่าความให้ฟังว่า พระองค์ประสูตร มีตำหนิที่ฝ่าพระบาทเป็นรูปธรรมจักร

    ส่วนของพี่ไทย เขียนเสียเหลือเชื่อ เกิดปับเดินได้ปุ๊บ ย่างเจ็ดก้าว แต่ละก้าวมีดอกบัวมารองรับอีก เห็นแล้วไร้สาระจริงๆ ตูฟังแล้วจะเชื่อใครดีวะนี้

    ติเตียนศาสนาอื่น เก่งนัก ศาสนาตนเอง ตั้งเสียเลิศลอย แต่จิตใจยังระยำ และล้าหลังก็อยู่เลย วันหลังจะตั้งกระทู้ประมาณนี้ บ้าง

    "พระพุทธเจ้า คือ ความจริงหรือจินตนาการครับพี่น้อง"




    นี่ไม่ถูกนะครับ มาศึกษาศาสนาของพระศาสดา แลเวมาจาบจ้วงแบบนี้ เนรคุณนะครับ ใช้ไม่ได้นะครับ

    พระพุทธเจ้าเกิดมาท่านมีมากกว่าดอกบัว 7 ก้าวอีกคับ มีเทพเป็นหมื่นๆแสนๆ มารอรับ นี่โง่อยู่นี่ครับ ไม่เห็นตามจริง แล้วมาว่าตนฉลาด อย่าไปว่าคนอื่นครับ มิจฉาทิฐิของคุณน่ะ สูงลิ่ว เลยละครับ เวลาตกลงมาก็ระวังจะขึ้นจากนรกไม่ได้นะครับ


    ที่โพสนี่ไม่ได้โกรธนะครับ แต่คุณทำไม่ถูกครับ


    วางพรหมวิหารเถอะครับ พี่น้อง
     
  8. anubist

    anubist Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +73
    แหมตอบได้ตรงใจจริงๆ อธิบายได้มากเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2013
  9. เมตต

    เมตต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +240
    ไปบ้านของคนที่เขานับถือบูชา "พระพิฆเนศวร์" แล้วเขาก็ให้มาบูชาก็เลยฝันเห็นท่านอยู่ 2 ครั้ง ก็น่าจะมีจริงเพราะตัวเราเองมักจะมีวาสนากับเหล่าเทพดามักจะฝันเห็นอยู่บ่อยๆ แม้แต่แม่พระธรณีก็ยังเคยจับมือคุยกันท่านก็บอกเราว่า เจอกันแล้วอย่าลืมทักกันนะ
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มี

    เป็นตำแหน่ง มีผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ ในนาม เทพชื่อ .......

    การจะรู้ได้ว่ามี ผู้ดำรงอยู่ หรือไม่ก่ ต้องพยายามสัมผัสรู้จากพลังงานที่มา

    หมายเหตุ ผู้ที่สัมผัสต้องดำรงตนอยู่ในศีล (ทำตนเองให้สะอาดก่อน)

    ไม่อยู่ในศีล มันก่เหม็นเน่า เพราะใจเน่า ใจเหม็น ใจไม่สะอาด

    เพราะ รูปกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต อสูรกาย อยู่

    ผู้ดำรงอยู่ คือ ผู้เป็นใหญ่ใน 3 ภพ (โดยหน้าที่เพื่อดูแล)

    โดยมีสถานะคือองค์โพธิสัตว์

    -------------------------------------------
    ให้สัมผัสจากพลังงาน เพราะว่า เมื่อคนเราตายไป

    ก่ จะไม่มีที่ยึดเกาะ สภาวะ ที่เป็นคือ พลังงานที่หลุดลอยไป

    การสัมผัสพลังงานจะเห็นเด่นชัดเมื่อตาย ไปจากร่างกาย

    การปฏิบัติ ให้รู้ ให้เจริญ ก่ ต้องสัมผัสถึงพลังงาน ความคิด

    ที่บังเกิดก่ คือ พลังงานที่เปลี่ยนแปลง การสัมผัสรู้ จึงเป็นแนวทาง

    หนึ่ง ที่ทำให้มีความเจริญทางธาตุรู้ มากขึ้น ไม่หมั่นเรียน ไม่หมั่นรู้

    หรือปฏิเสธ ก่ จะไม่เห็น

    อยากรู้ของในตู้เย็นมีอะไรบ้าง ก่ แค่เดิน

    ไปให้ถึงตู้เย็น และ เอื้อมมือเปิด ก่ แค่ นั้นเอง จะมีอะไรมากมาย

    แต่หาก ไม่เดินไปหาตู้เย็น ไม่เอื้อมมือเปิดตู้เย็น

    สวรรค์ที่ไหน มันจะให้(มึง)รู้ว่า ของ

    ในตู้เย็น มันจะมีอะไร.... เพราะแค่เริ่มต้น (มึง) ยังไม่ช่วยตัวเอง

    โครตพ่อ โครตแม่ ที่ไหน จะช่วย(มึง) ได้.....
     
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การสร้างสติ มีอยู่ 5 แนวทาง

    หนึ่ง อันดับแรก คือ ใจ รู้ใจ
    สอง คือ พลัง รู้พลัง
    สาม คือ จิต รู้จิต
    สี่ คือ กาย รู้กาย
    ห้า คือ มาร รู้มาร

    ก่ เลือกปฏิบัติ กันเอาเอง

    รู้ในมิติไหน ก่ จะอยู่แต่มิตินั้น

    เช่น รู้กาย รู้ย่าง รู้เดิน รู้กิน รู้นั่ง รู้นอน

    มันเป็นมิติของกาย

    แล้วมันจะรู้มิติ อื่น ๆ หรือเปล่า...

    รู้แต่มิติของกาย แล้วก่ กล่าวว่า มิติอื่นไม่มี

    แบบนี่เขาเรียกว่า ตาบอดคลำช้าง

    บางคน รู้มิติกาย (ท่องอ่านตำรามา)

    ก่ อยากจะมาพูดกับ คนที่รู้มิติของจิต

    อยากจะมาพูดกับ คนที่รู้มิติของใจ

    แบบนี่เขาเรียกว่า อะไร....
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เปิดตู้เย็น ยังไม่รู้อีก หมายถึงอะไร?

    ...เปิดตนเองไปเรียนรู้ มิติ อื่น ๆ บ้าง .....

    หากกล่าวแบบนี้ไม่รู้อีก ก่ ต้อง เปลี่ยนรูปกายตนเอง

    เพราะ อยู่ในระดับต่ำกว่า มนุษย์แล้ว

    การจะเปลี่ยน รูปกาย ตนเอง ก่ ไปเริ่มต้น ที่ หัดสวดมนต์ ก่อน

    ไม่รู้จัก มนตราอีก ก่ เอาหัวชนฝา สัก 109 หน ...

    ก่ ได้เหมือนกัน ....
     
  13. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    ตามหลักทางจิต เมื่อคนเราเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้นก็สามารถเป็นแบบนั้นได้
    องค์เทพก็ถูกกำหนดให้เป็นอย่างนั้น

    ถามว่าจริงๆมีหรือเปล่าต้องเปรียบเทียบให้เห็นอีกด้านแบบรูปธรรม เหมือนคนมีความฝันว่าอยากมีบ้านสักหลังมากๆ ก็จะมุ่งมั่นเก็บเงินเก็บทองในที่สุด ..ก็มีบ้านของตัวเอง

    อุปมาเปรียบองค์เทพ นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คิดว่าต้องเป็นรูปลักษณ์ทางรูปธรรม แต่เป็นนามธรรมย่อมก็ไม่เห็น ไม่มีรูปกายชัดเจนที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เพราะถูกกำหนดให้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว

    ก็ลองคิดดูสิว่า คนๆหนึ่งยังสร้างสิ่งที่ตนเองฝันจากสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เป็นรูปลักษณ์ขึ้นมาได้แล้วคนจำนวนมหาศาลกำหนดองค์เทพขึ้นมา จะไม่มีจิต มีตนขึ้นมาจริงๆหรือ ฉันใดก็ฉันนั้น เปรียบพระเกจิปลุกเสกกุมารทอง จากญาณ จากจิต การตั้งธาตุ และแรงครู

    ทำไมมีจิต มีตน แต่มองไม่เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง เพราะสิ่งที่ต้องการให้เป็นก็ไม่ได้ให้เห็น ด้วยตาเปล่าง่ายๆอยู่แล้วใช่มั้ยครับ

    ด้วยเหตุผลที่ได้บอกกล่าวมาก็เลยทำให้ มีองค์เทพขึ้นมาแนวนามธรรมจิตวิญญาณให้ผู้คนเคารพสักการะ และมีดวงจิตที่สามารถสสื่อสารกันได้ สัมผัสกันได้แต่ ท่านก็ไม่ใช่มนุษย์ที่มีกายหยาบ แต่ละคนย่อมสัมผัสกันได้บ้างไม่ได้บ้าง ตามบุญกุศลที่สร้างกันมาครับ
     
  14. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    มีคำถาม และคนตอบ เคารพสิทธิ และให้เกียรติในความคิดเห็น
    เชื่อ ไม่เชื่อ เป็นเรื่องส่วนบุคคล
     
  15. ผู้ผ่านทาง

    ผู้ผ่านทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +51
    อยากทราบว่ามีจริงหรือไม่ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเปิดใจรับรู้

    ท่านเจ้าของกระทู้ ถามนั้นถูกแล้ว ถามนั้นดีแล้ว

    จงอย่าเชื่อ เพราะเค้าเล่าว่า จงอย่าเชื่อเพราะเค้าบอกมา จงอย่าเชื่อจนกว่าจะพบเอง เห็นเอง และเชื่อเอง

    อยากทราบ ต้องพิสูจน์ คะ

    พิสูจน์อย่างไร เปิดใจรับรู้ก่อนอื่นเลย หากใจเราปิด หรือปฏิเสธ แล้ว เมื่อนั้น อคติ ย่อมมา เสมอ แลเมื่อ จิตมีอคติ ย่อมมองไม่เห็นทุกสิ่ง แลมองเห็นในสิ่งที่เราโน้มเอียง คะ

    เปิดใจ เป็นกลาง คือ รับและไม่รับ จากนั้น การที่เราจะทราบสิ่งใดมีหรือไม่ คือ เดินเข้าไปหา เมื่อพบ จึงค่อยเชื่อ
     
  16. มหาวัด

    มหาวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,892
    คุณครับ ทำไมพิฆเนศ จึ่งเป็นเทพแห่งศิลปะความงามความรู้ศาสตร์ต่างๆๆ คุณต้องเข้าใจความหมายเชิงปกรณัมนะครับ ว่าหมายถึงอะไร พระพิฆเนศนี่ท่านเป็นบุตรพระศิวะ และ พระนางปราวตี พระศิวแทนพลังและปัญญา พระนางปราวตีแทนความรักความกรุณาดุจมารดา ที่นี้ปัญญาเมื่อพบกับความกรุณา ก็ให้กำเนิดอะไรขึ้นมาครับ ก็ความงาม ศิลปะ วิทยาการ ไงครับ ดังนั้นพระพิฆเนศ จึ่งเป็นเทพของความงาม ศิลปะ วิทยาการ

    ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ความงามก็เกิดขึ้นไม่ได้นะครับ อันนี้เป็นหลักศาสนธรรม คือคุณเข้าถึงความจริงสูงสุดความดีสูงสุดผ่านการหลอมรวมปัญญาและกรุณาโดยตรงนี้จะมีเรื่องสุนทรียะ เข้ามาด้วย เพราะความดีสูงสุดจะมาพร้อมความงาม นี่เป็นหลักศาสนธรรมตะวันออก เหมือนที่เราติดปากว่ามันช่างดีงามจริงๆๆไงครับคือดีแล้วต้องงามด้วย
    และพระนางปราวตีนี่พิเศษหน่อย ปกติฮินดูจะทำโดยให้พระศิวะโอบกอดพระนางไว้บนตัก(อาจจะมีลักษณะแบบตันตระมีการสอดใส่ด้วย) คือหลอมรวมสัจจะปัญญาเข้ากับความกรุณา มันต้องไปด้วยกัน
    แต่ในอีกด้านของความรักก็คือความเกลียดชัด เมื่อใดก็ตามที่ความเกลียดชังแสดงออกมาอยู่เหนือสัจจะเหนือปัญญา โลกก็จะถึงกลียุค เขาก็เลยจะเปลี่ยนจากพระนางปราวตีที่นั่งบนตักพระศิวะ ไปเป็นเหยียบพระศิวะแทน เรียกปรางค์ กาลี อันหมายความว่าโลกที่ไม่ได้ใช้สัจจะใช้ปัญญานำหน้า ก็ย่อมก่อเกิดแต่ความเกลียดชังความรุนแรงเบียดเบียนกับ ไม่ใช่ความร่มเย็น ความรัก ความงาม อะไรทำนองนี้

    มันเป็นสัญลักษณ์ทางปกรณัม

    ก็ขึ้นกับว่าคุณจะมองนะครับถ้าการบูชาพระองค์ท่านมีประโยชน์กับคุณเกื้อกูลคุณคุณก็ทำไปเถอะครับ แต่คุณก็ควรที่จะรู้ความหมายอันซ่อนอยู่ในความคิดโบราณเอาไว้ด้วย คุณจะได้ประโยชน์ทั้งสองทางคือไม่โต้งไปทางงมงายแบบโอ้เทพเจ้าไร้สาระหรือ โอ้ องค์ท่านช่างศักดิ์สิทธิ์ท่านจะบันดาลให้ฉันได้ทุกสิ่งฉันเชื่อท่าน ทำนองนี้ ก็เหมือนพระพุทธศาสนาเราเวลาเราเรียนพุทธประวัติพระพุทธเจ้าเดินได้เจ็ดก้าว พวกวัตถุจัดก็จะพูดโอ๊ยใครเชื่อแม้งควายแล้ว
    นี่มันไม่รู้อะไร ว่ากวีท่านหมายถึงโพชฌงค์ 7 มันเป็นปริศนาธรรมตลอดพุทธประวัติทั้งเรื่องนะมีปริศนาธรรมตลอดทั้ง เรื่องนั้นแหละ ไม่ใช่ตำนานโง่ๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2013
  17. โพธิภูมิ

    โพธิภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +112
    พุทธพจน์ที่ท่านนำมาลงไว้ข้าพเจ้าอ่านดูก็เข้าใจทันที ไม่รู้ว่ามีใครแจ่มแจ้งเช่นเรารึไม่ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...