อีกไม่นานคนทั้งโลกจะรู้จัก มหาโยคี Laulantak Peeth

มหาโยคี ผู้ผ่านการบำเพ็ญอันเอกอุ ยากที่ผู้ใดจะเทียบได้ ดูเพิี่มเติมที่ youtube
Kaulantak Peeth
*** อย่าไปปรามาส วิจารย์สุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าไม่รู้ก็เฉยๆไว้ เพราะยังมีบางคน
ที่เขาจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ แม้ว่าคุณเองจะไม่เข้าใจก็ตาม***

 

Kaulantak Peeth มหาโยคีแห่งเทือกเขาหิมาลัย
*** อย่าวิจารณ์ ปรามาสในสิ่งที่คุณเองไม่รู้จริงอย่างลึกซึ้ง ว่าคืออะไร โปรดรับรู้ไว้ว่า ยังมีคนบางคนเขาเข้าใจเรื่องนี้ได้ ***

 

ทำไมเขาไม่เรียนทำสมาธิของพระพุทเจ้า ทรมาณน้อยกว่านี้เยอะเลย ผลดีกว่าด้วย

 

เหตุผลส่วนตัว ..องค์นี้ครบเครื่องมาก -perfect ท่านสอนสัจจธรรมระดับสูงแล้ว เทียบกับโยคีด้วยกัน /ส่วนลามะท่านที่เป็นข่าวไม่ขอออกความเห็น/ ส่วนหลวงพ่อเกษมสำหรับผมคือ พระอรหันต์

 

ก็เมื่อคุณคิดว่าคนของคุณดีจริง จึงเอามาแสดงที่นี่ ทำไม่คุณกลัวการพิสูจน์ละคะ ทองแท้ไม่กลัวไฟคะ กลัวแต่มันจะไม่แท้เท่านั้นแหละ ดิฉันเชื่อว่าคนที่เข้ามาดูเว็บพลังจิตเกือบทั้งหมดนับถือพระพุทธศาสนา เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ กำลังใจแม้จะมีมากน้อยต่างกัน แต่คงไม่หลงไปกับพวกเดียรถีย์นอกศาสนาหรอกคะ เจอพระดีที่สุดองค์หนึ่งในสามโลกอย่างหลวงพ่อแล้ว จะมามัวงมหอยหากรวดอยู่ทำไม

 

ธรรมชั้นสูงได้แก่มรรค ผล นิพพาน มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้นคะ ธรรมอย่างอื่นเป็นสาธารณะมีในทุกศาสนา เช่นทาน ศีล เป็นต้นคะ

 

อันนั้นเป็นความเข้าใจของคุณ แต่ก็ถูกครับ คำว่า มรรคผล นิพพาน มีแต่ในคัมภีร์พุทธเพราะพระพุทธเจ้าบัญญัติมาใช้ แต่ สัจจธรรมสูงสุด ไม่เกิดไม่ตาย ไม่ได้จำกัดศาสนา แม้ไม่มีศาสนาใดๆในโลกนี้ สัจจธรรมที่ไม่เกิดไม่ตาย ก็มีอยู่ ตลอดกาล อ่ะๆๆๆๆ ให้ไปอ่านคำสอนของเล่าจื้อ หรือกฤษณะมูรติ แล้วค่อยมาออกความเห็นว่าศาสนาอื่นมีแค่ทานกับศีล ถ้าเรื่องฌานพวกโยคีก็ทำได้ดีกว่าอีกต่างหาก

 

นิพพานที่เป็นวิมานน่ะเหรอ ผมไม่เอาหรอก นับถือพุทธแต่ปฏิบัติเดียรถีรย์ แต่คนที่เขาว่าปฏิบัติเดียรถีย์กลับเข้าถึงพุทธธรรม /แต่ผมนับถือพระเกษมวัดสามแยกน่ะนะ+อ.แดง ด้วย/บางคนมาโพส กุมารทอง เครื่องรางของขลัง แต่คุณก็ไม่ได้ว่าิอะไร พอผมมาโพสอะไรที่คุณเองก็ไม่เข้าใจ ก็รับไม่ได้ ปรามาสซะแล้ว นี่เเหละนิสสัยคนเวบนี้

 

ฮิ ฮิ แวะเข้ามาดู หน้าด้านนะคะ คุณรู้รึเปล่าคะว่าเว็บนี้มีประวัติอย่างไร สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ไม่ได้มีไว้ให้ศิษย์อาจารย์เดียวกับคุณมาสุมหัวที่นี่นะคะ มีไว้ให้ศิษย์หลวงพ่อแลกเปลี่ยนสนทนากันคะ คนอย่างคุณนี้เรียกว่ากินบนเรื่อนขี้บนหลังคาคะ คำพังเพยไทยโบราณ ไม่ได้เป็นคำด่าหรือหยาบคายนะคะ ว่าแล้วเชิญเจ้าของกระทู้ไสหัวออกไป อุ้ยลืมไป ดิฉันไม่ใช่เจ้าของเว็บ ไม่มีสิทธิ์ไล่ ขอถอนคำพูดนะคะ เชิญขี้รดบนหลังคาต่อไปคะ

คนที่นับถือของอย่างนั้น ดิฉันคิดบวกมองโลกในแง่ดี เห็นว่ายึดวัตถุมงคลอย่างน้อยก็มีใจระลึกถึงพระถึงเจ้า ถือเป็นอนุสติอย่างหนึ่ง เป็นพุทธานุสติ สังฆานุสติ เห็นคุณเอาเดียรถีย์ที่ไหนไม่รู้มาโพส กลัวว่าจะเป็นอันตรายกับคนอื่นคะ ถึงได้มากระตุ้น แค่นี้ก็น้อยใจ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ระวังความดันขึ้นนะคะ ด้วยความปราถนาดีคะ

 

รับไม่ได้ล่ะสิที่ผมนับถือพระเกษมวัดสามแยก เพราะเราปฏิเสธนิพพานที่เป็นวิมาน ที่เป็นตัวตน อ่ะๆๆๆๆๆ
นี่แหละนิสสัยคนเวบนี้ ปราถนาดีแต่ปาก555++ ทิฐิแรง ไม่ยอมรับคนที่เห็นต่าง อย่าไปกลัวเเทนใครเพราะเขาคิดเองได้/ผมไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณอะไรกับเวบนี้ ไม่เคยได้ตังสักบาท เดี๋ยวนี้คนก็เข้าเวบนี้น้อยลงมาก เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เพราะเขารำคาญ ไม่ชอบมาโต้เถียงกับคุณ

 

ใครจะโพสอะไรก็โพสไปนะ อีกสัก2-3วัน ถึงจะเข้ามาอีก

สัจจธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว แม้ไม่มีศาสนาใดๆในโลกนี้
ไม่เคยเกิด ไม่เคยตาย ไม่มา
ไม่ไป ไม่เข้า ไม่ออก ไม่ใช่ข้างนอก ไม่ใช่ข้างใน

 

น
ครับสัจจธรรมนั้นมีอยู่แล้ว แต่สัจจธรรมที่ทำให้ไม่เกิดไม่ตายหรือนิพพานนั้น มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แนวทางที่ถูกต้องและปฏิบัติเข้าถึง จึงนำมาสอนมาบอก คือการปฏิบัติอันถูกต้อง ได้แก่ มรรค8 คือ หนทางถึงความดับทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของอริยสัจ (เรียกว่า มัคคสัจจ์ หรือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ)หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ และนับเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา ประกอบด้วยกรอบการปฏิบัติ 8 ประการด้วยกัน เรียกว่า "มรรคมีองค์แปด" หรือ "มรรคแปด" (อัฏฐังคิกมรรค) ซึ่งในศาสนาอื่นไม่มี ถึงอยากจะหลุดพ้นยังไงก็ไม่หลุดพ้นเพราะ ไม่ได้ปฏิบัติตามมรรคคือแนวทางอันถูกต้อง เมื่อมรรคไม่ถูกผลที่ได้ก็ไม่ถูกและถึง พระอรหันต์ จึงมีแต่ในพระพุทธศาสนาครับ ( แต่ศาสนาอื่นเขาก้อมี มรรคคือแนวทางปฏิบัติของเขาผู้นับแต่ละศาสนาก้อย่อมว่าของเขานั้นถูกต้องแต่จะถูกต้องตามสัจจธรรมอันเปนจริงนั้นหรือไม่ ก็แล้วสติปัญญาและอธิกะวาสนาของแต่ละบุคคลเถิด)

 

ใครมาเถียงอะไรกันผมไม่สนใจ ผมสนใจแค่แนวคิดของเค้าเท่านั้น ใครมีรบกวนโพสลงด้วยละกันนะครับ

 

ผู้ละทิ้งโลก ละทิ้งสมบัติ เหลือเพียงผ้าเก่าพันกาย
เลือกทนทุกข์ทรมานร้อนหนาวหิวโหยเจียนตาย
เพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต ค้นหาทางตัดเยื่อใยจากโลก
เหมือนพระพุทธเจ้า ยามเริ่มเรียนรู้ ค้นหาหนทางตรัสรู้
ในสายตาชาวโลกยุคบริโภคนิยม สะสมนิยม
กลับถูกประนามจากผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบว่าเป็นพวกเดรถีย์ หลงผิด
สารรูปก็สกปรก น่าขยักแขยง มาทนตากแดด ตากลมอยู่ได้.

สู้พระที่อ้วนพี ล้ำสัน กินอิ่มนอนอุ่น นั่งแหกปากวิพากษ์วิจารณ์ บนเบาะนุ่มๆ
เปิดพัดลม เปล่าไข่ สบายอุราไม่ได้
เพราะท่านรู้ทางไปสวรรค์ ไปนิพพาน ชี้ทางรอดให้สาวก เพียงเชื่อท่านเท่านั้น

ยังมีพระที่น่านับถืออีกหลายองค์ บางองค์ก็รับจองห้องเช่าบนสวรรค์
คิดไปตามชั้นตามราคา ดาว์ดึงก็แพงหน่อย ศิวาลึงค์ก็ถูกหน่อย
คนร่ำรวยพากันสั่งซื้อ สั่งจองกันมากมาย
พระพวกนี้ คนปัจจุบันชื่มชมกันมาก พากันไปที่ชอบ..

 

คนเว็บนี้ส่วนใหญ่ใจกว้างพอที่จะนำคำสอนของผู้ที่ตนนับถือเผยแพร่

แต่ไม่เคยที่จะใจกว้างพอรับคำโต้แย้ง

 

ขอโทษนะคะ คุณสับสนนะคะ ประเด็นคือการกระทำของพวกนี้ไม่สามารถทำให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้คะ ต่อให้นอนบนตะปู หรืออดจนตายก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่มรรคมีองค์ 8 ซึ่งพระพุทธเจ้าได้รู้แจ้งแทงตลอดและนำมาแสดงให้ดู

ไม่มีใครว่าคนพวกนี้คะ ดิฉันยอมรับเลยว่าไม่สามารถสละโลกทำอย่างคนพวกนี้ได้ แต่คนพวกนี้ไม่สามารถละกิเลสได้แม้แต่น้อย เพราะไม่ใช่ทางที่ถูก แล้วจะมาสรรเสริญกันทำไม ในเมื่อพระพุทธเจ้าบอกทางที่ถูกไว้แล้ว เหมือนกับเข้าฟังเลคเชอร์ในมหาวิทยาลัยเพื่อเอาปริญญา อยู่ดีๆ คุณมาบอกว่าอาจารย์ข้างบ้านสอน ก.ไก่ ข.ไข่ดีมาก คุณอยากจะกลับไปเรียนก็เชิญสิคะ แต่ดิฉันไม่เอาด้วย

แล้วพระประเภทที่คุณกล่าวตำหนิติเตียนนั้นนะเอาคำพระพุทธเจ้ามาสอนนะคะ ไม่ได้เอาความรู้ตัวเองมาสอน ถ้าเป็นอย่างหลังดิฉันก็ไม่ฟังเหมือนกัน หวังว่าคงจับประเด็นถูกนะคะ

 

ท่อนแรก ตอบได้โดนใจจริงจิ๊ง ฟังแล้วจี๊ด คิดแล้วก็เห็นด้วยแฮะ บางคนคงไม่ทันคิด ในตอนแรก
แต่พออ่านของท่านแล้ว น่าจะคิดได้ซักนิดล่ะนะ คงไม่ประนามแล้วล่ะ ผมว่า

ท่อนสอง พิมพ์ผิดรึเปล่าครับ เป่าไข่ล่ะมั้ง นะ 555
อ่านแล้วอยากด่าพระอีกแล้ว หึหึหึ

ท่อนสาม ท่านกล้าเอ่ยชื่อบ้างไม๊ครับ (อ้าว..อยู่ดีๆ ทำไมชวนคนอื่นแกว่งเท้าหาเสี้ยนซะล่ะ เฮ้อ)
ใช่ธรรมกายรึเปล่าครับ ทำไมไม่เห็นมีใครด่าวัดจานบินนะจ๊ะบ้างเลยน้า สงสัยจัง

ค้างคาวแห่งแสง
.

 

การด่าทอ โจมตี วิพากษ์ วิจารณ์ เป็นการขัดเกลากิเลสตนเอง
หรือไม่เพียงไร ขณะโจมตี วิพากษ์ วิจารณ์(เเม้จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเเล้ว)เราควรจะวางอารมณ์อย่างไร
จึงจะทำให้จิตเราบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นๆ.....

 

ขอน้อมรับคำว่าสับสน ต้องยอมรับว่าโลกของพุทธะวันนี้สับสนจริงๆ
สับสน ขนาดคิดว่าการไปถึงมรรคมีองค์8 หรือการละจากสังโยชน์10
มันง่ายแค่เพียงนั่งห้องแอร์ศึกษาพระธรรมคัมภีร์ พระไตรปิฏก งั้นหรือครับ..

ทุกวันนี้มีแต่พระแก่ตำรา นักคัมภีร์ จอมวาทะศิลป เหมือนกระรอกอาศัยต้นโพธิ
ชอบยกข้อพระธรรมมาอ้าง เพื่อแสดงจำอวดให้คนเห็นเป็นผู้ชอบธรรม
และหวังเพียงปัจจัยเงินทองที่จะใหลมาเทมาเมื่อมีสาวกศิโรราบมากมาย

โลกพุทธะวันนี้จึงมีแต่การแสดงประกวดประชัน ประโลมโลกไปวันๆ
หาทางออกไม่เจอ หาความจริงไม่ได้ ธรรมมะมีไว้อ่านไว้เรียน
ไม่ต้องปฎิบัติให้ถึงที่สุด ก็หลุดพ้นได้แล้ว เข้าสวรรค์ได้แล้ว
ท่านเข้าใจถึงจิตวิญญาณของท่านแค่ไหน จึงกล้าประมาณเช่นนี้

เราจะบอกท่านว่า อันมหาโยคีทั้งหลายนี้ ท่านกำลังนำจิตเข้าไป
สู่การเรียนรู้เรื่องความทุกข์ของสังขารในทุกเวลานาที
เพื่อย้ำเตือนต่อจิตให้สยบยอม พร้อมจะละเยื่อตัดใยจากโลกนี้
ไม่ยึดไม่ถืออะไรอีกแล้ว ไม่หลงกลมายาของโลกอีกแล้ว

ฝึกตัดการอยากได้ใคร่มีไม่สิ้นสุด อวดดี ตระกะตระกามไม่สิ้นสุด
มาอยู่ตามป่าเขาธรรมชาติห่างไกลผู้คน ท่ามกลางความไม่มีที่เป็นสุข
อดอยากหิวโหย ให้หน้าท้องแห้งถึงลิ้นปี่บ้างซิ ดีต่อสุขภาพนะ

พวกท่าน กำลังฝึกเข้าถึงในการยุติความสัมพันธ์กับโลก
หันหลังให้ความสุขในการเสพติดโลก ที่มนุษย์ทุกคนกำลังเสพติดมันอยู่
เมาโลกอยู่ หลงใหลเพ้อคลั่งคิดไปว่า ทรัพยากรโลกเป็นสมบัติของตนเอง
จึงต้องแย่งชิงทุกอย่างเพื่อตนเอง วางเลห์เพทุบายหลอกล่อ
ฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิง พากันวิ่งไปหาเงินทองมาสะสมไว้
ใครช้าก็อดก็หิวตายไป จนโลกเอียงไปข้างหนึ่งแล้ว ยังไม่รู้หรือไร

อย่าประมาทไปเลย จะเป็นบาป เป็นอนันตกรรม อุปสรรค์ใหญ่หลวง
ในการเจริญธรรมขึ้นสู่ระดับสูง เป็นความมืดปิดบังชีวิต ขอให้ยกสภาวะจิตขึ้นอีกนิด
จะมองเห็นอะไรดีๆอีกมากมาย จะได้ลดมิจฉาฐิธิ ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท
โลกใบนี้ใหญ่โต กว้างขวางกว่าบึงน้อยๆ อย่างที่กบหลายตัวเข้าใจ

จิตยิ่งสูงจะยิ่งเห็นและเข้าใจอะไรๆได้ง่ายขึ้น
เหมือนเราเดินขึ้นเขายิ่งสูง ก็จะมองเห็นได้กว้างไกลกว่าที่ต่ำๆ
เฉกเช่น จิตใจต่ำย่อมทัศนะวิสัยคับแคบ มองอะไรไม่เห็น
ใจเย็นๆ อย่าเอาแต่พูด ปฏิบัติมากๆจะดีเอง..

 

คุณครับอย่างที่บอกโลกเราผลิกกลับเหมือนกลับตลาปัตถ์
เห็นผิดเป็นชอบ บูชาบุคคลจนบ้าบอหลงทางไปไกล กุ่ไม่กลับ
ทั้งที่พระพุทธเจ้าทรงทราบปัญหานี้ต้องเกิด เป็นทางเสื่อมของพระศาสนา
ก่อนทรงเข้าปรินิพพานจึงทรง ให้ปัจฉิมโอวาท ให้ผู้คนเคารพยกย่องพระธรรม
เพราะเห็นการข้างหน้า หลังกึ่งพุทธกาล จะมีผู้แอบอ้างพระธรรม
นำไปเป็นเครื่องมือหากิน หลอกลวงให้ผู้คนสับสนบ้าบอ เป็นทาสรับใช้
จงอย่าเคารพยกย่องบุคคลใดบุคลลหนึ่ง นอกจากพระธรรม..

ส่วนการจองที่นั่งบนสวรรค์ เป็นเรื่องของคนมีทรัพย์มากปัญญาน้อย
คนรวยไม่ใช่คนที่ฉลาดทุกเรื่อง...