พิสูจน์ภพภูมิเทวดา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 29 มกราคม 2013.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    ความเชื่อในเรื่อง "ภพภูมิเทวดา" สวรรค์ที่ตาเนื้อของมนุษย์ปกติไม่อาจมองเห็นได้เพราะ "ภูมิเทวดา" มีความละเอียด หรือมีความเป็น "ทิพย์" หากจะสัมผัสได้ก็ต่อเมื่อผู้นั้นมีการบำเพ็ญทานบารมี หมั่นปฏิบัติธรรม รวมถึงต้องมีการฝึกจิตให้ได้ในระดับหนึ่ง จึงจะสามารถสัมผัสได้ในนิมิตนั้น

    ตำนานความเชื่อในเรื่องของ "เทพเทวดา" ถูกเล่าขานมาแทบจะทุกประเทศทั่วโลกทั้งจีน อินเดีย กรีก โรมันหรือแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งในความจริงแล้วจะเป็นเรื่องที่มีจริงหรือไม่ก็ยังไม่มีการยอมรับมากนัก เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าเรื่องนี้มนุษย์ทุกคนไม่สามารถสัมผัสได้ ด้วยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับ "จิตวิญญาณ" สัมผัสได้เฉพาะบุคคลเท่านั้น
    ตามคติทางศาสนาพุทธ "ภูมิ" หรือ "สวรรค์" นั้นมีหลายชั้นอาทิ จาติมหาราธิกาภูมิ (สวรรค์ ชั้นที่ 1) ดาวดึงสามภูมิ ยามาภูมิ ดุสิตาภูมิ นิมมานนรดีภูมิ ปรนิมมิตวสวัตดีภูมิ (สวรรค์ชั้นที่ 6 ที่ถือว่าเป็นชั้นสูงสุดของแดนสุขาวดี) และนอกจากเทวดาจะอยู่บนภูมิสวรรค์แล้ว บนโลกมนุษย์ก็มีเทวดาที่สิงสถิตอยู่ตามต้นไม้ที่เราเรียกว่า "รุกขเทวดา" (เป็นชั้นจาตุมหาราชิกา) หรือถ้าเป็นเทวดาผู้หญิงที่อยู่ตามต้นไม้ก็จะเรียกว่า "นางไม้"
    สวรรค์ในแต่ละชั้นใครจะได้อยู่ชั้นไหนขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่เคยสร้างไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ ว่ากันว่าผู้ที่จะได้ไปจุติใน "ภูมิแห่งเทวดา" คือผู้ที่ปะกอบแต่กรรมดีหรือสร้างสมกุศลกรรมอยู่เสมอ
    นอ.ชาญ ศรีไทย ข้าราชการทหารบำนาญแห่งกองทัพอากาศที่ปัจจุบันแม้จะเกษียณแล้วก็ยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและบุคคลอื่นด้วยการปฏิบัติธรรมและรับเป็นวิทยากรบรรยายตามหน่วยงานราชการและเอกชนต่าง ๆ ในหัวข้อเกี่ยวกับ "ธรรมมะ"
    คุณชาญมีความเชื่อว่า "ภพภูมิของเทวดา" มีจริง และท่านก็ได้พิสูจน์จนรู้แจ้งด้วยตัวท่านเองมาแล้ว จึงนำเรื่องราวที่ได้สัมผัสมาเล่าให้เราฟังเพื่อเป็นวิทยาทาน
    "ถ้าจะพูดถึงเรื่องการพิสูจน์เทวดานี่นะครับผมต้องถามก่อนเสมอว่า ผู้ฟังมีความเชื่อถือในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงใด คือสิ่งเหล่านี้เรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็นเพราะฉะนั้นต้องเชื่อในคำสอน เพราะสิ่งนี้มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก ไม่ใช่การยกเมฆเอาอะไรต่ออะไรมาพูด"
    คุณชาญกล่าวต่ออีกว่า

    "ในโลกมนุษย์นี้ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเช่น วังหลวงหรือวัดพระแก้ว จะมีเทวดามาอยู่เยอะเพื่อรักษาสถานที่นั้น แม่แต่องค์พระพุทธรูปที่สำคัญก็จะมีเทวดารักษามากกว่า 1 องค์ หรือคนใน "เมืองลับแล" ที่เราเคยได้ยินเขาก็คือเทวดาเหมือนกัน เป็นเทวดาอีกภพหนึ่งที่ไม่ค่อยปรากฏตัว เคยมีพระสงฆ์ที่ทรงธรรมชั้นสูงหลายองค์พอเวลาวิกาลท่านจะออกมาเทศน์โดยที่เราไม่เห็นว่าจะมีใครมาฟัง จริง ๆ แล้วท่านเทศน์ให้ "พวกบังบด" หรือ "พวกลับแล" ฟัง ซึ่งเขาจะมากันเยอะ มาขอฟังธรรมแต่เราคนธรรมดาจะไม่เห็นเขา และพวกนี้ก็จะมีความเป็นอยู่ใกล้เคียงกับมนุษย์"
    คุณชาญบอกว่าการที่จะพิสูจน์เทวดาทำได้โดยการปฏิบัติธรรม และทุกคนสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้
    "ผมใช้คำว่าทุกคน เราสามารถพบเห็นได้ เพราะเทวดามีแน่นอนและมีหลายระดับทั้งบนพื้นดิน อากาศ ต้นไม้ หรือเทวดาชั้นสูงขึ้นไปซึ่งมีอยู่หลายชั้น วิมานเทวดาในแต่ละชั้นไม่เหมือนกันก่อนจะเห็นมันต้องเริ่มด้วยการปฏิบัติ ถ้าจิตเรารวมเขาเรียกเป็น "ปฐมฌาน" ปฏิบัติให้ได้ฌานระดับ 4 ก็จะได้พบเห็นอะไรต่ออะไร เวลาไปที่นั่นจะมีคนพาไป ผมเห็นได้หลายชั้น แต่เห็นอะไรบ้างนี่มันก็พูดยากนะครับ คล้าย ๆ ว่าเป็น "ปัจจัตตัง" เพราะคนเราเวลาปฏิบัติมักเห็นไม่เหมือนกันนะฮะ"
    "ที่ ๆ ผมไปที่นั่นมีธรรมชาติ ภูมิประเทศสวยงามมาก สะอาดเป็นระเบียบ มีความเป็นธรรมชาติเหมือนกับโลกของเราเพียงแต่สวยงามกว่า การแต่งกายเขาก็ใส่เสื้อผ้าเหมือนเรา การแต่งเครื่องทรงอย่างในภาพเขียนมีใช้ในบางโอกาส แต่ส่วนใหญ่ก็เหมือนอย่างเราเพียงแต่ว่าชุดแต่งกายจะสุภาพเรียบร้อย ร่างกายโปร่งใส"
    คุณชาญใช้วิถีทางแห่ง " สมาธิ" เป็นเครื่องพิสูจน์เพื่อจะได้สัมผัสกับ "เทวดา" คุณชาญบอกว่าการทำสมาธิไม่ใช่สิ่งยาก ทุกคนทำได้เพียงแต่ว่าเราได้สร้างสมมาแต่อดีตชาติมากน้อยเพียงใด ถ้าสะสมมากก็ได้เร็ว ถ้าน้อยก็ได้ช้าหน่อย แต่ขอเพียงว่าให้มี "ความเพียร" เท่านั้น
    ประสบการณ์ทางสมาธิของคุณชาญจากที่เริ่มปฏิบัติครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อนนั้นน่ากลัวชวนให้ตื่นเต้นไม่น้อย คุณชาญเล่าให้ฟังว่า
    "ผมนั่งครั้งแรกตอนอยู่บ้านหลวง พูดตรง ๆ นะครับ ผมเป็นคนกลัวผี พอไหว้พระสวดมนต์เสร็จ ก่อนทำสมาธิเนี่ยมักจะต้องขอก่อน ขออย่ามีอะไรมา ไม่ได้ขอให้มาในรูปสวย ๆ งาม ๆ นะ อย่ามานะรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว เพราะว่าผมกลัว ปฏิบัติอยู๋หลายคืนก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติสิ่งผิดปกติที่ว่าในครั้งแรก เกิดขณะที่ผมอยู่ในห้องพระคนเดียว พระเวลาทำสมาธิจะไม่ให้ใครรบกวน ครั้งนั้นก็จะเห็นเป็นเงาผ่านพรึบ ๆ ใจก็...เอาแล้ว...เอาแล้ว ก็แผ่เมตตา สัพเพสัตตาให้ 2 - 3 รอบก็หายไป...
    คราวนี้เปลี่ยนใหม่ เป็นเสียงคนเดินผ่านหลัง เดินแบบลากเท้าดังแซ่ก ๆ ๆ เออ...เปลี่ยนอีกแล้ว (หัวเราะ) แต่ความกลัวยังมีอยู่ก็แผ่เมตตาไป คราวนี้สิครับโอ้โห...สมมติผมนั่งสมาธิอยู่ตรงนี้ โต๊ะบูชาอยู่ตรงนี้ ตรงนี้เป็นหน้าต่างบ้านชั้นบน ระยะห่างก็ประมาณ 2 เมตร จากหน้าต่าง ผมก็เห็น (ในสมาธิ) ผู้ชายรูปร่างใหญ่โต แหม...แขนข้างนึงใหญ่กว่าโคนขา ยืนจังก้า นอกหน้าต่าง น้ำเหลือง น้ำหนองน่ะเฟอะเลย น่ากลัว ก็แผ่เมตตา แผ่นานครับกว่าจะไป แล้วมาทุกคืน มาให้เห็นในรูปอย่างนั้นมาอยู่ 4-5 คืน...
    ครั้งสุดท้ายยิ่งแผ่เมตตายิ่งเดินเข้ามาหา เดินยังกับหุ่นยนต์มาข้างหลังเอื้อมมือจะมาบีบคอ พอใกล้ถึงคอผมก็ร้องเลยครับ กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว รีบออกจากสมาธิเลยวันรุ่งขึ้นก็รีบไปหาหลวงพ่อที่สอนสมาธิผม เล่าให้ท่านผัง บอกปฏิบัติมาแล้วทุกวัน ครั้งสุดท้ายเป็นอย่างนี้ หลวงพ่อท่านตบพื้น "ปัง"...บอกว่าทำไมไปกลัว นั่นล่ะด่านสุดท้ายแล้ว ก็เลยต้องเริ่มต้นกันใหม่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบอีก แต่ผมก็ยังจำภาพนั้นติดตามาจนทุกวันนี้"
    เมื่อได้ปฏิบัติและพบเห็นเรื่องราวแปลก ๆ อยู่เสมอ ๆ เลยทำให้คุณชาญเชื่อว่าวิญญาณ เทวดา ซึ่งเป็นเรื่องลี้ลับนั้นมีแน่เพราะได้ไปเยือนและได้สัมผัสเห็นอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้จากที่เคยกลัวการพบเห็นนิมิตรประหลาดในสมาธิก็กลับเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
    ทุกวันนี้คุณชาญก็ยังปฏิบัติธรรมเป็นปกติ และเชื่อว่าการที่ครอบครัวมีความสุข ส่วนหนึ่งเป็นผลที่ได้จากการปฏิบัติธรรมนั่นเอง

    ที่มา ประสบการณ์ลี้ลับ: พิสูจน์ภพภูมิเทวดา
     
  2. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  3. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ตอนผมเห็นเทวดา ในตอนเด็ก ด้วยตาเนื้อ เพราะตกต้นไม้แล้วเห็นเงาดำรูปเทวดาถือพระขรรค์ ตั้งแต่นั้นมาผมก็เชื่อโดยสนิทใจ เพราะก่อนหน้าก็เคยเห็นผี มือผีสัมผัสเท้าด้วยตาเนื้อเหมือนกัน ในขณะตื่นไม่ได้หลับ..
    ..เรื่องพวกนี้ ถ้าผมพูดกับใครแล้วไม่เชื่อ ผมก็จะไม่อธิบาย เพราะเหนื่อย....ฮา
     
  4. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [​IMG]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=SCppKKfcREI]พุทธวจน-ปฏิจจสมุปบาท - YouTube[/ame]

    [​IMG]

    นาทีที่ 08 : 26 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง รังสิต คลองสิบ ท่านกล่าวถึง การบรรลุธรรมในภพภูมิเทวดา เพราะสมัยเป็นคน เป็นผู้รอบรู้ และเข้าใจในปฏิจจสมุปบาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2013
  5. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ดังที่พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้น่ะครับพ่อใหญ่
    สาธุ ๆ ๆ ครับ
     
  6. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    เอ่อ....คือว่า ผมสงสัยมานานแล้วน่ะครับ ว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ นี่ท่านเป็นเทวดาประเภทไหนน่ะครับ ท่านรู้จักกับพระอินทร์ของเราด้วยหรือเปล่าน่ะครับ หรือว่าท่านจะเป็นพระอินทร์แต่ไปเปลี่ยนเครื่องทรงตามเจ็กกันนะ...ขอท่านผู้รู้อย่าพึ่งด่านะครับ..คือว่าผมสงสัยของผมเองน่ะครับ เผื่อท่านอื่นๆจะสงสัยเหมือนผมบ้าง...
    อีกอันนึงก็คือ ไต่เซี้ยฮุดโจ้ว ซุนหงอคง นี่ก็เป็นนิยายที่กวีชาวจีนแต่งขึ้นมาในยุคที่ผู้ปกครองไม่ต้องการให้เผยแพร่ธรรมะ พระถังซำจังนั้นมีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ แต่ที่เหลือนี่เป็นบุคคลาทิศฐานนะครับ แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ถึงมีศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย(ตลิ่งชัน)แล้วยังสามารถอัญเชิญมาได้อีก แถมบนบานศาลกล่าวก็ได้ซะด้วย ... ขอท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้หายโง่ทีเถอะครับ...
     
  7. อีกแล้ว

    อีกแล้ว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +23
    ตัด "วัดนาป่าพง" ปทุมธานี พ้นสายปู่ชา หลังสวดพระปาฏิโมกข์แค่ 150 ข้อ



    เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม รายงานข่าวจากวัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แจ้งว่า วัดหนองป่าพงได้ออกแถลงการณ์รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ความว่า กรณีวัดนาป่าพง ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมีพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตถิผโล เป็นเจ้าอาวาส ได้กระทำสังฆกรรมทางพระวินัย โดยสวดพระปาฏิโมกข์เพียง 150 ข้อ เป็นที่ทราบกันแล้วนั้น จนถึงปัจจุบัน พระอธิการคึกฤทธิ์ ได้กระทำสังฆกรรมทางพระวินัย โดยสวดพระปาฏิโมกข์เพียง 150 ข้อ เหมือนเดิม ไม่สามารถที่จะกระทำตามมติของคณะสงฆ์วัดหนองป่าพงได้ ที่ประชุมจึงมีมติรับทราบให้ตัดวัดนาป่าพง โดยมีพระอธิการคึกฤทธิ์ เป็นเจ้าอาวาส ออกจากสาขาวัดหนองป่าพง ถือว่าการกระทำใดๆ ของพระอธิการคึกฤทธิ์ อันจะก่อให้เกิดความเสียหาย ทางคณะสงฆ์วัดหนองป่าพง จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น


    อนึ่ง วัดหนองป่าพง เป็นวัดป่าสายปฏิบัติ ที่ก่อตั้งโดยหลวงพ่อชา สุภัทโท







    ข่าว : มติชน
    3 กรกฎาคม 2553






    อ่านต่อได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thepathofpurity&month=11-09-2011&group=7&gblog=3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2013
  8. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    คุณอีกแล้ว สงสัยอะไร อยากหาเรื่องอะไร อยากเปิดประเด็นอะไร ไปกาลามสูตรด้วยตัวเองเอาเลยที่วัด รึจะส่งคำถามผ่านบอร์ดของวัดก็ได้
     
  9. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    กิเลสมี 2 อย่าง คือกิเลสอย่างละเอียด และกิเลสอย่างหยาบ
    ิกิเลสอย่างหยาบนั้นโดยทั่วไปจะสามารถรับรู้ได้เพราะเป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่เป็นรูปธรรม เช่น ความอยาก โน่นนี่ ความพอใจ ไม่พอใจ ความเห็นผิด เหล่านี้เราเห็นได้ชัด
    กิเลสอย่างละเอียดคือ เมื่อเราปฏิบัติธรรมได้สักระยะหนึ่งจะเกิด (น่าจะเรียกว่าอุปทาน)อุปทานหรือวิปัสนูกิเลส ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอันเดียวกันไหม (ยังไปไม่ถึง) แต่เจ้าตัวนี่แหละที่คอยหลอก คอยลวงเราะเสมอ ว่า นี่แหละเป็นหนทางพ้นทุกข์ ท่านปฏิบัติอย่างนี้และพ้นทุกข์แน่นอน ทั้งที่เป็นการปฏิับัติอย่างผิด ๆ แท้ บางครั้งเส้นผมก็บังภูเขานะ ผมไม่สนับสนุน หรือสนับสนุน เพียงแต่หนทางใดเป็นหนทางพ้นทุกข์หนทางนั้นผมบูชาและน้อมนำปฏิบัติ ต้องพิสูจน์ครับว่าจริงแท้แค่ไหน สรุป ไม่ต้องไปดูคนอื่น ดูที่เราดีกว่าลงตั้งแต่ปลายผมจนถึงปลายเล็บ และขึ้นมาจากปลายเล็บจนถึงปลายผม แล้วท่านจะเห็นหนทางพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน คำถาม ตอนนี้ท่านหายใจเข้าแล้วลมหายใจไปหยุดที่ใด และท่านหายใจออกลมหายใจไปหยดที่ใด "คำหลวงปู่ดู่" คนดีไม่ตีใคร "คำผมเอง"ยอรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาบ้างเพื่อจะได้เทียบกับหนทางเก่า ๆ เพือพ้นทุกข็
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มกราคม 2013
  10. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    คุณระมิง555
    ตัวนี้น่าตอบ...แต่จะถูกหรือผิด ไปพิจารณาเอง.....
    ...คือ กฏแห่งกรรมนี่ มันเป็น ปรมัทธ์ คือ ความจริงแท้ อนาคตอาจสามารถอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ได้แน่นอน ถ้ามีทฤษฏีเข้าถึงได้
    ดังนั้น ภพภูมิ31 ภพนี้ก็เช่นกัน เช่น สวรรค์มี6ชั้น นี่เป็น กฏแห่งกรรมของชาวเอเชีย
    แต่กฏแห่งกรรมของยุโรป อาจแตกต่างกันไป เช่น มีชั้นเดียวหรือสองชั้น คือ มีเทพซีอุสใหญ่สุด เทพแม่น้ำลำคอง ใหญ่เป็นที่สอง...ทั้งนี้ น่าจะเป็นที่จิต...ทางยุโรปจิตจะหยาบกว่าเอเชีย จึงสร้างบุญได้เพียงสองชั้น แต่ในเอเชีย จิตละเอียดกว่า จึงสร้างบุญได้มากมายหลายชั้น...
    ..ในเอเชีย...เช่น เง็กเซียนฮ่องเต้ ก็เป็นเทวดาของเขา ของจีน แต่ก็มีเซียน ซึ่งว่าสำเร็จแล้ว
    แต่ความจริง ผมวิเคราะห์ว่า ท่านเป็นเพียงเทวดาเท่านั้น(ถ้าเทียบกับเรา)
    มีคำถามว่า สวรรค์ของเอเชียและฝรั่ง อยู่ใกล้ไกลกันอย่างไรนั้น ก็ตอบแบบหยาบๆว่า อยู่ในมิติสวรรค์เดียวกันนั่นแหละ แต่ต่างสถานที่กัน เหมือนมิติโลก เอเชียก็อยู่แทบศูนย์สูตร ฝรั่งอยู่แทบอิเควเตอร์เป็นต้น...แต่ถ้ามิติสวรรค์ของเอเชียมี6ชั้น ของฝรั่งมีสอง ของจีน มีสอง ดังนั้น สองต่อสองนี่ อยู่ต่างมิติกัน คือ ซีอุส เง็กเซียนนี่ น่าจะอยู่แค่สวรรค์ชั้น1ของไทย อินเดีย เท่านั้น ส่วนเทพเจ้าน้ำฯ ต่างๆ ก็น่าจะแค่รุกขเทวดาของเรานั่นเอง....
    เหตุที่เป็นดั่งนี้ เพราะกฏแห่งกรรมนั้น มันมีหลักคือ เหตุเป็นตัวตั้ง แล้วเหตุปัจจัยรองๆรอบๆเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งกรณีนี้คือ การภาวนานั่นเอง...หากไม่มีการภาวนาทำจิตสงบขึ้นไปเป็นขั้นๆตามแนวทางพระพุทธเจ้าแล้ว จิตจะไม่ละเอียดพอ.....ที่จะแตกเป็นภพภูมิใดๆได้มากมายนัก...ทางจีนมหายานจะไปเน้นทางฤทธิ์ ทางฝรั่งก็เช่นกัน....ศาสดาเหล่านี้ไม่สามารถค้นพบวิธีทำจิตละเอียดยิบเหมือนพระพุทธเจ้าได้เลย...จึงสูงได้เพียงเป็นเทวดาเท่านั้น แต่ไม่สามารถข้ามวัฏฏะสงสารได้....
    ..ส่วนความเชื่อที่แตกลูกแตกหลานมา เช่น เทพฯต่างๆที่เป็นนักรบนั้น เป็นประเพณีความเชื่อของเขาที่พัฒนากันมานานแล้ว เราก็ปล่อยวางเสีย เพราะมันก็เป็นสิ่งดี...แต่.เพราะเทพฯเหล่านี้ ในประวัติ ได้ฆ่าคนมามากมาย แน่นอนสุดท้ายก็ที่นรกนั่นเอง...แต่ด้วยบุญคุณอย่างหนึ่งอย่างใด หรือ การศรัทธาอย่างใดก็ตาม ที่สร้างท่านขึ้นมาเป็นเทพฯก็ว่ากันไปด้วยความเชื่อถือของแต่ละคนหรือ กลุ่มคนนั้นๆตามเหตุปัจจัยแวดล้อมดังกล่าว...
    นี่ผมสรุปความตามทางอาจารย์มหาบัว ที่ว่ามีเทวดาฝรั่งเยอรมันเหาะมาส่งพระอาจารย์มั่นฯตอนออกจากเชียงใหม่ และภพภูมิเทวดาที่อยู่กันมากมายมหาศาลในนิวเคลียส์ที่เล็กนิดเดียว...งงไหม...ฮา
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    การได้พบได้เห็น..ไม่ว่าจะเป็นจากผลของสมาธิหรือแม้ว่าจะเห็นด้วยตาเนี้อ..
    ในทุกๆระดับ..ที่เห็นได้ด้วยกำลังฌานที่สูงกว่าของบุคคลนั้น.หรือการที่ทำ
    ให้เห็นในทุกๆระดับ.

    ไม่ใช่ประเด็นหลักหรือสำคัญอะไรมากเท่ากับ..ว่าจะทราบ
    วัตถุประสงค์ของการเห็นได้หรือไม่..เช่น ที่เห็นท่านนี้เพราะ..ท่านนี้มาปรากฏให้เห็นเพราะอะไร


    หรือ ไปเห็นสถานที่นั่นๆ ไปที่โน่นได้เพราะอะไร..แม้ว่า.คุณชาญ ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ ยังไม่เข้าใจได้จริงๆ.
    .และระดับการสัมผัสและการ
    เห็นยังถือว่าอยู่ในระดับปกติ..ไม่ได้พิศดารอะไร.แต่ก็เชื่อว่าปัจจุบันนี้
    คงมีสัมผัสครบทั้ง อายตนะทั้ง ๖ แล้ว.แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชมเชย.แม้ว่าเริ่มต้นจะมีความรุ้สึกกลัว


    แต่พอได้สัมผัส คือ การรู้จักแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล และน้อมนำให้ปฏิบัติ
    ธรรมเป็นปกติมาถึง ณ ปัจจุบันนี้ ที่เป็นต้นทุนเดิมของความคิด.. จุดนี้ต่างหากครับ
    เป็นจุดที่น่าชมเชย.
    นอกจากการได้สัมผัสหรือรับรู้ในส่วนของภพภูมิ.
    ที่ควรต้องสอดแทรก..ในขณะที่ไม่ได้ทิ้งในเรื่องส่วนของภพภูมิที่ได้สัมผัส..

     
  12. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    ถ้าเห็นได้ขนาดนั้น แสดงว่าเรามีผีติดตัวตั้งแต่เด็ก
    ..ผีย่อมมองเห็นผีด้วยกัน หรือถ้ามองเห็นมากกว่านั้น แสดงว่าเค้าต้องการให้เห็น..
     
  13. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    จิตนาการสำคัญกว่าความรู้
     
  14. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    ตอนเด้กๆ ผมเห้นผีประจำ...เห้นนางไม้ก็เคย ตอนนั้นอยุ่ที่ลานวัด ดูอาเล่นเปตองอยุ๋ แล้วลูกเปตองเขาโยนเลยสนามกลิ้งออกไป อาาสาไปเก้บให้ ซึ่งลานวัดติดกับป้าช้า...สมัยก่อนเป้นป่าจิงๆ พอเราก้มเก้บลูกเปตองแค่นั้น เงยหน้าขึ้นมา..เจอเลย ชุดสีขาวๆ เดินเข้าไปในต้นไม้ หน้าตาสวยมาก...ยังเดินมาบอกอาเลยว่า เจอผู้หญิงสวยๆๆ ข้างต้นไม้ เขาวิ่งไปดูกัน คราวนี้เงียบสนิท...แต่ตาเราไม่ฝาดแน่...ทุกวันนี้ยังไม่ลืม++
     
  15. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษี ท่านเคยเมตตากล่าวไว้ว่า พวกตำแน่งสำคัญๆ เทพผู้ใหญ่บนสวรรค์นั้น ไม่ตายตัวว่าต้องเป้นของเทพองค์ใดองคืหนึ่งคับ แต่เป้นชื่อของตำแหน่งที่ใครสั่งสมบุญกุศลมาพอที่จะรับตำแหน่งนั้น ก็สามารถเป้นได้ครับ...เช่นพระนารายณ์ ของพราหณ์ ถ้าจะเอาตัวตนพระนารายณ์ จริงๆๆ ไม่มีหรอกครับ แต่คุณธรรมท่านเทียบได้กับตำแน่งปัญจสิกขาเทพบุตร ซึ่งมีหน้าที่รักษาพระจุฬามณี บนดาวดึงส์..ซึ่งใครมีบุญกุศลพอที่จะถึงตำแหน่งนี้ก้จะได้รับการแต่งตั้งจากเทพองค์อื่นให้มีหน้าที่นั้นๆตามตำแหน่งไป ดังนั้นใครอยากพบพระนารายณ์ ก็ลองขึ้นไปคุยกับปัญจสิกขาเทพบุตร ...ท่านคือองค์เดียวกันครับ!!....
    ตำแน่งอื่นๆ เช่นพระพยายมราช พระอินทร์ พระแม่ธรณี...ก็เช่นกันครับ ใครมีบุญกุศลตามคุณสมบัติแห่งเทพนั้นๆ ก็จะได้รับหน้าที่นั้นครับ....อย่างแม่พระธรณีองค์สมัยพุทธกาลที่ผจญพญามาร กับองค์ปัจจุบันก็คนละองคืครับ....องค์สมัยพุทธกาลทราบมาว่าเข้านิพพานแล้ว...องค์ปัจจุบันเป้นวีรสตรีไทยท่านนึงครับ^^
     
  16. ampmobile

    ampmobile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +113
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  17. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุญาตแก้ไขซักนิดนะครับ

    พระนารายณ์ --> ท้าวมเหสักขา แปลว่าผู้มีฤิทธิ์มาก

    พระพิฆเนศ --> ปิยสิกขะ แปลว่าผู้เป็นที่รัก

    ส่วน ท่านปัญจสิกขาเทพบุตร เป็นเทวดาคนสนิทของท้าวสักกะ (พระอินทร์) ท่านเป็นเอกด้านการบรรเลงดนตรีและขับกล่อม และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ช่วยจัดแจงเหตุปัจจัยให้ท้าวสักกะ บรรลุ โสดาบัน ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...